ขับรถล่าแสงเหนือฤดูหนาว 10 วัน ชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ & คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
สัมผัสความยิ่งใหญ่ของสถานที่ต่างๆ ในประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาวด้วยแพ็กเกจขับรถเที่ยวระยะเวลา 10 วัน ทริปนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตนเองแบบไม่ต้องเร่งรีบเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ซึ่งแพ็กเกจนี้ได้ผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นมาออกแบบวางแผนให้โดยมีการคำนึงถึงสภาพอากาศในหน้าหนาวและระยะเวลาที่มีแสงสว่างไว้ให้พร้อมสรรพ ทำให้คุณสามารถเดินทางตามแผนนี้ได้โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องใดๆ
ในทริป 10 วันนี้ คุณจะได้เดินทางไปยังบลูลากูน คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสอันสวยงาม (Snæfellsnes Peninsula) ชมไฮไลต์ 3 แห่งบนเส้นทางวงกลมทองคำ ตามด้วยธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) โดยโปรแกรมในแต่ละวันนั้นเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปทำให้คุณมีเวลาชื่นชมกับงามของสถานที่ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมีโอกาสที่ดีในการล่าแสงเหนือด้วย
โปรแกรมขับรถเที่ยวด้วยตัวเองโปรแกรมนี้จะพาคุณท่องไปบนเส้นทางที่สวยงามมากที่สุดเส้นทางหนึ่งในไอซ์แลนด์แบบไม่ต้องรีบร้อน และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทริปหน้าหนาวของคุณ ทำให้คุณมีเวลาดื่มด่ำกับความสวยงามของสถานที่เที่ยวต่างๆ ได้อย่างเหลือเฟือ รายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวที่คุณจะได้รับเมื่อทำการจองแพ็กเกจนี้จะช่วยให้คุณได้ไปเที่ยวสถานที่สวยๆ ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก และได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดแบบไม่ต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวจำนวนมากด้วย
แพ็กเกจนี้ยังออกแบบมาให้คุณมีวันหยุดพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร โดยมีโปรแกรมที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปในแต่ละวันได้ด้วยตนเองด้วย ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชอบเที่ยวสไตล์ไหนก็รับรองว่าคุณจะต้องเจอกิจกรรมที่ใช่สำหรับคุณแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำ เข้าถ้ำ ปีนธารน้ำแข็ง ขี่สโนว์โมบิล หรือถ้าคุณมาที่ไอซ์แลนด์ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมคุณก็จะได้ไปชมถ้ำน้ำแข็งด้วย
รีบจองแพ็กเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองในหน้าหนาวตอนนี้เลยและเตรียมตัวเดินทางมาสัมผัสกับอิสรภาพแห่งการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์กับทริปนี้ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยเลือกวันที่ที่ต้องการ
รวมอยู่ด้วย
จุดหมายปลายทาง
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
รายละเอียดการเดินทาง
รถ
รถ
Small car
Medium car
Premium car
large car
SUV
ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ
วันที่ 1 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
- More
วันแรกนี้จะเป็นวันที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ หลังจากที่คุณรับรถที่สนามบินเคฟลาวิกเรียบร้อยแล้ว คุณจะมีอิสระในการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยคุณสามารถเลือกที่จะแวะเที่ยวสถานที่ต่างๆ บนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) ในระหว่างที่ขับรถเข้าไปยังเรคยาวิกก็ได้ เช่น ไปชมทุ่งลาวาสีดำและอุทยานธรณีเรคยาเนส (Reykjanes Geopark) อันเวิ้งว้างกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา. ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง.
หลังจากแช่ตัวเสร็จแล้วคุณจะเดินทางมุ่งหน้าเข้าไปยังเมืองหลวงและออกเที่ยวชมบรรยากาศแบบนอร์ดิกและสัมผัสกับวัฒนธรรมที่น่าสนใจภายในเมืองตามอัธยาศัย
คืนแรกนี้คุณจะพักค้างคืนในเรคยาวิก
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 2 - สไนล์แฟลซเนส
- สไนล์แฟลซเนส
- More
- น้ำพุร้อนเดลตาร์ตุงกูแวร์
- น้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์และน้ำตกบาร์นาฟอสส์
- แหล่งประวัติศาสตร์เรคโฮลท์
- More
ในวันที่สองระหว่างที่มุ่งหน้าไปยังสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes) คุณจะได้แวะเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ ซึ่งมีอะไรให้ดูเยอะมาก เริ่มจากฮวาลฟยอร์ดูร์ (Hvalfjörður) หรือที่เรียกกันว่า “ฟยอร์ดปลาวาฬ” ซึ่งอยู่ทางเหนือของเรคยาวิก ที่นี่สวยงามมาก มีภูเขา มีน้ำตกมากมาย และมีวิวทะเลอันงดงามด้วย
เมื่ออยู่แถวอ่าวคุณสามารถเดินทางไปเที่ยวที่บอร์การ์เนส (Borgarnes) เพื่อไปดูนิทรรศการเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์ในยุคแรกๆ ได้ที่เซตเทิลเมนต์ เซ็นเตอร์ (Settlement Centre) และแถวๆ นั้นก็มีน้ำตกฟอสซาตุน (Fossatún) ที่เต็มไปด้วยยักษ์โทรลล์จากนิทานพื้นบ้านให้เที่ยวชม
ที่บริเวณใกล้ๆ กันก็มีน้ำพุร้อนเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) ที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป และถัดไปอีกหน่อยคุณก็จะเจอกับหมู่บ้านหมู่บ้านเรย์คอลท์ (Reykholt) ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นบ้านเกิดของนักเขียนชื่อดังแห่งยุคกลางชื่อสนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) และคุณก็สามารถไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สนอร์ราสโทฟา (Snorrastofa Museum) ที่จัดแสดงผลงานและอัตชีวประวัติของเขาได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอื่นอีก ซึ่งแม้น้ำตกเฮินฟอซซ่าและน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Hraunfossar & Barnafoss) จะอยู่ไกลจากบริเวณนั้นออกไปหน่อยแต่ก็คุ้มค่ากับการขับรถไปชม โดยน้ำตกแห่งแรกนั้นไหลแรงและตกดิ่งลงไปในหุบเหวแคบๆ ในขณะที่แห่งที่สองจะเป็นน้ำตกที่มีสายน้ำแผ่วเบาแผ่เป็นแนวกว้างไปตามลาวารูปทรงบิดเบี้ยว
วันนี้คุณสามารถเดินทางไปเที่ยวที่ถ้ำลาวาวิดเกลมิร์ (Víðgelmir) อันยิ่งใหญ่ได้ด้วย โดยถ้ำแห่งนี้เป็นหนึ่งในอุโมงค์ลาวาที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ภายในถ้ำมีทางเดินที่ถูกสร้างเอาไว้เพื่อให้คนเข้าไปชมหินลาวาที่มีรูปทรงและสีสันบนพื้นผิวสวยแปลกตา หรือคุณจะเลือกเดินทางไปที่อุโมงค์น้ำแข็งที่ธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) แทนก็ได้ โดยที่นั่นเป็นอุโมงค์ที่สร้างขึ้นจากการขุดแกะน้ำแข็งโบราณให้กลายเป็นโถงทางเดินขนาดย่อมๆ
จากนั้นคุณจะเดินทางมุ่งหน้าไปยังสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) โดยจะแวะที่ไหนก็ได้ตามใจคุณ และเมื่อไปถึงแล้วคุณจะออกเที่ยวต่อเลยหรือจะเข้าพักในที่พักก่อนแล้วค่อยออกสำรวจคาบสมุทรแห่งนี้ในวันรุ่งขึ้นก็ได้เช่นเดียวกัน
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 3 - สไนล์แฟลซเนส
- สไนล์แฟลซเนส
- More
- หาดอีทรี ทุงกา
- หมู่บ้านบูดิร์
- หน้าผาหินบะซอลต์ลอนดรังการ์
- หาดกรวดดำที่ดยูปาลอนส์ซานดูร์
- สไนล์เฟลล์โจกุลล์
- ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
- More
วันที่สามจะเป็นวันที่คุณได้ตื่นตาตื่นใจกับคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) แผ่นดินที่มีความยาว 90 กิโลเมตรที่นี่บางทีก็ถูกเรียกว่า “ไอซ์แลนด์ฉบับย่อส่วน” เนื่องจากมีทิวทัศน์หลากหลายให้ได้เห็น
สไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökull) ซึ่งเป็นภูเขาไฟขนาดมหึมาที่มียอดปกคลุมด้วยน้ำแข็งนั้นกินพื้นที่ส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ แม้เวลาที่คุณไปเที่ยวที่หาดกรวดดำดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) และหมู่บ้านประมงเก่าแก่ที่อาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) และเฮลล์นาร์ (Hellnar) คุณก็ยังจะอยู่ภายใต้เงาทะมึนของภูเขาไฟลูกนี้อยู่เหมือนกัน
แต่บนคาบสมุทรนี้ไม่ได้มีแค่ภูเขาลูกนี้เท่านั้นที่เป็นไฮไลต์ เพราะที่นี่ยังมียอดเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ซึ่งมักอยู่บนภาพถ่ายที่พบเห็นได้ทั่วไปของไอซ์แลนด์ โดยยอดเขาโดดๆ บนชายฝั่งทางเหนือลูกนี้มีความสวยงามและเป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งไอซ์แลนด์ และอีกที่หนึ่งที่สวยงามน่าประทับใจไม่กันก็คือแนวเทือกเขาที่รายล้อมฟยอร์ดเฮินฟยอร์ดูร์ (Hraunsfjörður) และโกลกราฟาฟยอร์ดูร์ (Kolgrafafjörður)
วันนี้ทั้งวันคุณจะเดินทางจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งอยู่ตลอดเวลาซึ่งแต่ละแห่งก็ให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่างกันไป อย่างเช่นไปชมอาณาจักรแมวน้ำบนชายฝั่งของเยตริ ทุงกา (Ytri Tunga) และแบร์แซร์คจาเฮิน (Berserkjahraun) ซึ่งเป็นทุ่งลาวาอ้างว้างไร้สิ่งมีชีวิต จากนั้นคุณจะเดินทางไปยังที่พักสำหรับในคืนนี้
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 4 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- More
- อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
- พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
- น้ำตกกุลล์ฟอสส์
- ปากปล่องภูเขาไฟเคริด
- More
ในวันที่สี่คุณจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดัง 3 แห่งบนเส้นทางวงกลมทองคำ ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่คนนิยมมาเที่ยวมากที่สุด ที่แรกที่จะไปนั้นคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir National Park) ซึ่งเคยเป็นสถานที่ตั้งแห่งแรกของสภาที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลก และธิงเวลลีย์ยังตั้งอยู่บนรอยแยกแอตแลนติกเหนือพอดีจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดในโลกในการชมขอบของทั้งทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป
สำหรับจุดที่สองบนเส้นทางวงกลมทองคำคือแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir) ที่อยู่ในหุบเขาเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) บริเวณนี้เต็มไปด้วยบ่อโคลนเดือด น้ำพุร้อน พุแก๊สที่ส่งเสียงอยู่ตลอดเวลา และไกเซอร์ ซึ่งอันหลังนี้เป็นตัวดึงดูดให้คนมาเยือนมากมาย โดยไกเซอร์ที่ยังคุกรุ่นอยู่มากที่สุดในบริเวณนี้คือสโทรคูร์ (Strokkur) ที่พ่นน้ำออกมาทุกๆ 10 นาที
จุดสุดท้ายบนเส้นทางวงกลมทองคำคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) อันโด่งดัง น้ำตกแห่งนี้ได้น้ำมาจากแม่น้ำฮวิทเอา (Hvítá) ที่มีชื่อเสียงเรื่องการล่องแก่งมากที่สุดในไอซ์แลนด์จึงทำให้เกิดเป็นสายน้ำตกสองชั้นที่ทรงพลังมากโดยน้ำจะตกลงไปยังหุบเขาลึกที่ด้านล่าง และในบริเวณน้ำตกก็มีจุดชมวิวสวยๆ อยู่หลายแห่งด้วย
ในวันนี้คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ดำน้ำตื้นแบบสน็อกเกิ้ลที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir National Park) เข้าไปในโปรแกรมของคุณได้ โดยกิจกรรมนี้จะเป็นการดำน้ำจืดในร่องเขาที่รอยแยกซิลฟรา ซึ่งมีน้ำที่ใสมากจนสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเกินกว่า 100 เมตร ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นจุดดำน้ำที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วย
หลังจากเพลิดเพลินกับที่เที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำและสนุกกับกิจกรรมที่คุณอาจเพิ่มเข้าไปในโปรแกรมเสร็จแล้ว คุณสามารถเลือกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจอื่นๆ ในบริเวณนี้ได้อีกตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยว อย่างเช่น ซีเครทลากูนและทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerið)
ก่อนจะปิดท้ายวันด้วยการเข้าพักในที่พักที่อยู่บนเส้นทางวงแหวนทองคำในตอนเย็น
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 5 - คาบสมุทรทางใต้
- คาบสมุทรทางใต้
- More
- น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์
- Skogafoss waterfall
- หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
- โขดทะเลเรนิสดรังการ์
- More
ในวันที่ห้าคุณจะเริ่มต้นด้วยการออกเดินทางสำรวจสถานที่ต่างๆ บนชายฝั่งทางตอนใต้ที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านวิก (Vík) ซึ่งเส้นทางนี้ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตก ภูเขาไฟ ธารน้ำแข็ง และชายฝั่งที่สวยงามมาก
โดยจะมีน้ำตกที่สวยงามและเข้าถึงได้ง่ายอยู่หลายแห่งตั้งแต่คุณเริ่มออกเดินทางเลย ที่แรกคือน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงและแคบและมีสายน้ำที่ไหลลงมาจากชะโงกผาที่โค้งเว้า
เดินต่อไปอีกไม่ไกลคุณจะได้พบกับกลูยฟราบูอิ (Gljúfrabúi) ซึ่งเป็นน้ำตกที่มักถูกมองข้ามไปเนื่องจากน้ำตกนี้หลบซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกบนไหล่เขา โดยน้ำตกแห่งนี้มีความสวยแปลกตาเพราะน้ำที่ตกลงไปในถ้ำด้านล่างทำให้เกิดละอองฟุ้งไปทั่ว ส่วนน้ำตกแห่งที่สามคือน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ที่มีขนาดและพละกำลังมหาศาล
ในขณะที่คุณเดินทางระหว่างน้ำตกสองแห่งแรกและน้ำตกแห่งที่สามนั้นคุณจะขับรถผ่านธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) ซึ่งภูเขาไฟที่อยู่ใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้เพิ่งระเบิดไปเมื่อปี 2010 และก่อให้เกิดปัญหาการจราจรทางอากาศไปทั่วยุโรป ถ้าในวันที่อากาศดีคุณอาจจะได้เห็นหมู่เกาะเวสต์แมนหรือเวสมาร์นายาส (Vestmannaeyjar) ที่อยู่ในทะเลฝั่งตรงข้ามด้วย
เมื่อคุณเดินทางไปตามชายฝั่งทางใต้เรื่อยๆ คุณจะได้เจอธารน้ำแข็งกลาเซียร์หลายแห่ง ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สี่ในไอซ์แลนด์ และเมื่อมาถึงบริเวณนี้คุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมผจญภัยหนึ่งในสองอย่างนี้เข้าไปในโปรแกรมของคุณได้ อย่างแรกคือการขี่สโนว์โมบิลไปตามชั้นน้ำแข็งและอย่างที่สองคือการปีนธารน้ำแข็งขนาดมหึมาที่ยื่นไปในทะเลซึ่งก็มีให้เลือกหลายที่ เช่นที่โซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull)
จุดหมายปลายทางต่อไปคือหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่โด่งดังเพราะมีลักษณะทางธรณีวิทยาไม่เหมือนที่ใดและถัดไปใกล้ๆ กันก็มีหมู่บ้านวิก (Vík) ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์มนต์ขลัง และที่นี่ก็จะเป็นที่พักของคุณในคืนนี้
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 6 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- More
- ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
- ไดมอนด์ บีช
- More
ในวันที่หกนี้คุณจะขับรถไปตามเส้นทางที่เหลือบนชายฝั่งทางตอนใต้ โดยรถจะแล่นผ่านทิวทัศน์ชายฝั่งอันงดงาม พื้นที่เกษตรกรรม และทะเลทรายสีดำ
เมื่อเริ่มสังเกตเห็นส่วนปลายของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) อันยิ่งใหญ่อยู่ทางด้านซ้ายมือนั่นแปลว่าคุณใกล้เดินทางไปถึงเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกาฟตาเฟล (Skaftafell Nature Reserve) แล้ว แถวนี้เป็นบริเวณที่น่าเที่ยวมากเพราะว่าเป็นป่าที่มีน้ำแข็งปกคลุมและมียอดเขาแหลมหลายแห่ง อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินขึ้นเขาไปชมสถานที่สวยๆ อยู่มากมาย หรือถ้าคุณอยากจะจองทัวร์ปีนธารน้ำแข็งที่นี่ก็สามารถทำได้
ห่างออกไปทางทิศตะวันตกคุณจะเจอกับโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) หนึ่งในสถานที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ที่นี่เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่ไพศาลที่มีความงดงามมากเพราะเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ซึ่งแตกตัวออกมาจากส่วนปลายของธารน้ำแข็ง หาดไดมอนด์บีชที่อยู่ใกล้ๆ กันก็สวยไม่แพ้กันเลย โดยที่หาดทรายแห่งนี้จะมีก้อนน้ำแข็งที่ถูกพัดขึ้นมาเกยตื้นบนชายฝั่งและส่องประกายยามต้องแสงแดดระยิบระยับอยู่เต็มไปหมด
แค่ใช้เวลาชื่นชมความงดงามของบริเวณนี้อย่างเดียวก็กินเวลาเกือบทั้งวันแล้ว หลังจากนี้คุณก็จะเดินทางเข้าที่พัก ซึ่งอาจจะตั้งอยู่ในบริเวณทะเลสาบเลยหรือไม่ก็อยู่ในเมืองเฮิฟน์ (Höfn) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 7 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- More
- เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์
- สวาร์ติฟอสส์
- เวสตราฮอร์น
- More
ในวันที่เจ็ดนี้คุณจะเที่ยวอยู่ในบริเวณที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และถ้าหากคุณมาที่ไอซ์แลนด์ในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม คุณก็จะสามารถเพิ่มทัวร์ถ้ำคริสตัลเข้าไปในโปรแกรมได้ด้วย ซึ่งการสำรวจถ้ำคริสตัลนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์หายากครั้งหนึ่งในชีวิตทีเดียวเพราะว่าถ้ำน้ำแข็งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงกลางฤดูหนาวเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นกันบ่อยๆ
และถ้าคุณไม่อยากเดินทางต่อก็สามารถใช้เวลาเที่ยวในบริเวณนี้ได้นานๆ เพราะว่าแถวเฮิฟน์ (Höfn) นั้นมีอะไรสวยๆ ให้ดูมากมาย เช่นภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) และอีสทราฮอร์น (Eystrahorn) หรือถ้าคุณอยากขับไปต่ออีกสักหน่อยก็มีฟยอร์ดทางตะวันตกให้ชม หรือคุณจะกลับไปซ้ำที่โจกุลซาลอน (Jökulsárlón) และสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) อีกครั้งก็ได้เพราะว่าในวันที่มีแสงและสภาพอากาศแตกต่างกันสถานที่ทั้งสองแห่งก็จะมีความงามที่แตกต่างออกไปด้วย
คืนนี้คุณจะกลับไปพักที่เดิมที่เดียวกับคืนก่อนหน้า และถ้าหากท้องฟ้าในคืนนี้ไร้เมฆมาบดบังคุณก็อย่าลืมมองหาแสงเหนือที่จะออกมาเริงระบำในยามค่ำคืนด้วย
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 8 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- More
- ฟยาดราร์กลูย์ฟูร์
- สระว่ายน้ำเซลยาวัลลาเลยก์
- More
ในวันที่แปดคุณจะขับรถกลับขึ้นไปตามชายฝั่งทางใต้ย้อนกลับไปที่ควอลส์เวิลลูร์ (Hvolsvöllur) คุณสามารถใช้โอกาสนี้เก็บตกสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณยังไม่ได้แวะเข้าไปชมก็ได้
คุณสามารถไปเที่ยวที่เมืองเคิร์กยูแบร์ยาร์กเลาสเทอร์ (Kirkjubæjarklaustur) ซึ่งเป็นเมืองเก่าที่น่าสนใจและแวะที่น้ำตกซิสตราฟอสส์ (Systrafoss) ซึ่งแม้ว่าในฤดูหนาวแบบนี้จะกลายเป็นน้ำแข็งแต่ก็ยังมีความสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์
ขับรถไปอีกไม่ไกลก็จะเจอกับหุบเขาฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) ซึ่งเป็นสถานที่สวยงามมีวิวหน้าผาแหลมและแม่น้ำตื้นๆ ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพมากๆ คุณยังสามารถเดินทางไปชมภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) หรือไปแช่น้ำร้อนที่สระว่ายน้ำเซลยาวาทล่าเลยก์ (Seljavallalaug) ที่ซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกของภูเขาได้ด้วย ซึ่งสระว่ายน้ำแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสระว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์
คุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ค่อยๆ ดื่มด่ำกับความงามของไอซ์แลนด์ให้เต็มที่ก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับไปยังที่พักในคืนนี้ซึ่งจะอยู่แถวเซลฟอสส์ (Selfoss)
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 9 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
- เคลฟาร์วาทน์
- ครีซูวิก
- More
ในวันก่อนสุดท้ายนี้คุณจะขับรถจากควอลส์เวิลลูร์ (Hvolsvöllur) เพื่อเดินทางกลับไปยังเรคยาวิก (Reykjavík) และเหมือนเช่นเคยคุณสามารถแวะเที่ยวชมสถานที่ซึ่งคุณยังไม่ได้แวะเมื่อตอนขามาไปได้ตลอดเส้นทาง
วันนี้ถือเป็นโอกาสเหมาะที่คุณจะเพิ่มกิจกรรมทัวร์ต่างๆ บนเส้นทางวงกลมทองคำเข้าไปในโปรแกรมของคุณ เช่นกิจกรรมที่สร้างความสนุกตื่นเต้นก่อนปิดทริปนี้ได้เป็นอย่างดีอย่างการขี่สโนว์โมบิลที่แลงโจกุล (Langjökull) หรือถ้าอยากทำอะไรที่สนุกแบบซอฟต์ๆ หน่อยคุณก็สามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมดำน้ำตื้นระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองทวีปที่รอยแยกซิลฟราเข้าไปในโปรแกรมก็ได้
เมื่อเดินทางกลับถึงเมืองหลวงคุณสามารถออกไปเที่ยวชมแกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ บาร์ หรือไปรับประทานอาหารในร้านอาหารอร่อยๆ ก็ได้ ถึงแม้ว่าเรคยาวิกจะเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่โตนักแต่ก็ร่ำรวยในวัฒนธรรมและมีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะมากมาย ในคืนนี้คุณจะนอนพักที่ในเรคยาวิก
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 10 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
- More
- เคลฟาร์วาทน์
- ครีซูวิก
- กุนนูฮแวร์
- More
ในวันสุดท้ายนี้คุณจะขับรถไปที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกเพื่อส่งคืนรถและขึ้นเครื่องบินกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข
ประสบการณ์
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แพ็กเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองเริ่มต้นออกเดินทางได้ทั้งจากตัวเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) และสนามบินเคฟลาวิก ผู้ขับขี่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่และมีประสบการณ์ในการขับรถอย่างน้อย 1 ปี และรายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวอาจมีการแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับวันและเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์
สำหรับกิจกรรมเสริมบางอย่างนั้นคุณอาจจำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตขับขี่หรืออาจต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนโปรแกรมของคุณ นอกจากนี้คุณอาจต้องใช้เอกสารทางการแพทย์ด้วยในกรณีที่คุณเลือกทำกิจกรรมอย่างการดำน้ำหรือการดำน้ำตื้น
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณจะได้เห็น แต่โปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการเห็นแสงเหนือให้กับคุณในกรณีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย
ในกรณีที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายจนไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ตามแผนได้ เราจะจัดหาหรือจองกิจกรรมอื่นที่สามารถทำได้ให้แก่คุณแทนถ้าหากเป็นไปได้ และคุณจะได้รับเงินส่วนต่างของราคาคืนด้วย สำหรับถ้ำน้ำแข็งนั้นจะเปิดให้เข้าชมได้เฉพาะในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมของทุกปีเท่านั้น
โปรแกรมขับรถเที่ยวด้วยตนเองนี้ถูกออกแบบมาสำหรับฤดูหนาว ซึ่งในช่วงฤดูนี้สภาพอากาศในไอซ์แลนด์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แต่โดยรวมแล้วจะเต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง และมีแสงสว่างในช่วงกลางวันน้อยมาก ดังนั้นหากคุณต้องการจองแพ็กเกจนี้ คุณจำเป็นต้องมีทักษะในการขับรถท่ามกลางสภาพอากาศของหน้าหนาวด้วย หรือถ้าคุณไม่มั่นใจในการขับรถท่ามกลางสภาพอากาศแบบนี้เราก็สามารถแนะนำแพ็กเกจอื่นให้กับคุณแทนได้
และเนื่องจากถนนหนทางและทางเดินในไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาวนั้นลื่น กรุณาเตรียมรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นหรือแผ่นสำหรับเกาะน้ำแข็งที่ใช้ติดบนรองเท้าติดตัวมาด้วย โดยแผ่นเกาะน้ำแข็งสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตและปั๊มน้ำมันทั่วไปในไอซ์แลนด์
วิดีโอ
รีวิวที่รับรองแล้ว
แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด