ทัวร์ขับรถเที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูร้อน 3 วัน บลูลากูน วงกลมทองคำ และชายฝั่งทางใต้

ยินดีต้อนรับสู่ไอซ์แลนด์ เกาะแห่งภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยความสวยงามน่าอัศจรรย์และความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด อันดับแรกคุณต้องไปรับรถเช่าจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกเสียก่อน และจากนั้นค่อยเดินทางมุ่งหน้าเข้าเมืองเรคยาวิก (Reykjavik) ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่บลูลากูน (Blue Lagoon) ก่อนได้ สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา สปาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ทำให้มีบรรยากาศแปลกตา หากคุณเลือกเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริป กิจกรรมนี้จะถูกจัดเข้าในโปรแกรมการเดินทางให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากคุณยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปในวันนี้ ก็ยังสามารถไปในวันอื่นได้ โดยที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ แต่หากคุณไม่ได้ไปบลูลากูนในวันนี้ ในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนสมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่

เมื่อคุณเดินทางถึงเรคยาวิกแล้วคุณจะไปเช็คอินเข้าที่พักให้เรียบร้อยก่อนจากนั้นค่อยออกไปสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วยการไปชมสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงของเมือง อย่างโบสถ์ลูเทอแรนฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa Concert Hall) หรือจุดชมวิวเพอร์ลาน (Perlan Observation Deck)

นอกจากสถานที่ดังกล่าว คุณยังสามารถไปลองสัมผัสกับชีวิตกลางคืนในเมือง ไปชิมอาหารในร้านท้องถิ่น หรือไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์ที่มีอยู่มากมายในเมืองก็ได้ แต่ถ้าคุณมาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ คุณก็สามารถไปเที่ยววงกลมทองคำในวันนี้ได้เพื่อใช้ประโยชน์จากแสงแดดและช่วงเวลากลางวันที่ยาวนานของหน้าร้อนให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแผนการเดินทางวันที่ 2

สำหรับคืนแรกนี้คุณจะพักอยู่ในเมืองเรคยาวิก

วันที่สองนี้คุณจะได้ไปเยือนเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไอซ์แลนด์ นั่นก็คือวงกลมทองคำ (Golden Circle) ซึ่งประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลักสามแห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) หุบเขาพลังงานความร้อนใต้พิภพเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)

คุณจะเริ่มต้นเที่ยวจากที่ธิงเวลลีร์ ซึ่งมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของประเทศในฐานะที่เป็นสถานที่ก่อตั้งรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรก และยังเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกด้วย โดยเป็นสถานที่เพียงไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถมองเห็นแผ่นเปลือกโลกที่โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดิน ทั้งแผ่นเปลือกโลกของทวีปอเมริกาเหนือและยูเรเชีย

แห่งที่สองคือหุบเขาพลังงานความร้อนใต้พิภพเฮยคาดาลูร์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของน้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) และน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) แม้ว่าน้ำพุร้อนไกเซอร์จะดับไปแล้ว แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของคำว่าไกเซอร์ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก ส่วนสโทรคูร์นั้นยังคงปะทุทุกๆ ห้าถึงสิบนาที พ่นน้ำเดือดเป็นสายสูงขึ้นไปในอากาศถึง 20 ม. และนอกจากซูเปอร์สตาร์ทั้งสอง ในบริเวณนี้ก็ยังมีสระโคลนเดือดและบ่อน้ำร้อนขนาดเล็กให้ชมอีกมากมาย

จุดสุดท้ายที่คุณจะไปเยือนในวันนี้ (หากคุณต้องการ) คือน้ำตกกุลล์ฟอสส์อันยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย น้ำตกแห่งนี้สูง 32 ม. ไหลลดหลั่นผ่านชั้นหินขรุขระสองชั้น ทำให้เกิดละอองไอน้ำหนาทึบฟุ้งกระจายเมื่อน้ำจากธารน้ำแข็งของน้ำตกไหลลงสู่หุบเขาเบื้องล่าง

แต่ถ้าคุณเลือกเที่ยววงกลมทองคำตั้งแต่วันแรกไปแล้ว คุณก็สามารถใช้เวลาในวันนี้เที่ยวชมสถานที่ตามแนวชายฝั่งทางใต้ที่งดงามได้ คุณจะผ่านน้ำตก เช่น น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) และหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างทางที่จะไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon) ที่ได้ชื่อว่าเป็น "สุดยอดแห่งสถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์" ทะเลสาบที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด

จากนั้นคุณจะเดินทางกลับเข้าเมืองเรคยาวิก ซึ่งคืนนี้คุณจะพักค้างคืนในเมือง

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ แต่คุณก็ยังอาจจะมีเวลาไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ เพิ่มเติมได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเวลาของเที่ยวบินของคุณ ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข