ทัวร์ขับรถเที่ยวเองในไอซ์แลนด์ 5 วัน เรคยาวิก บลูลากูน และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน

เมื่อเดินทางมาถึง คุณสามารถรับรถของคุณได้จากพนักงานที่เป็นมิตรที่สนามบินนานาชาติเคฟราวิก (Keflavik) และเริ่มต้นวันหยุดที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นในประเทศไอซ์แลนด์ได้เลย.

ในการเดินทางไปยังเมืองเรคยาวิก คุณจะได้ขับรถผ่านทุ่งลาวาที่มืดดำบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) และไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมที่นี่มักถูกใช้เพื่อฝึกนักบินอวกาศชาวอเมริกันก่อนจะลงจอดที่ดวงจันทร์ ประเทศไอซ์แลนด์ไม่เพียงมีชื่อเสียงสำหรับการท่องเที่ยว แต่ยังมีชื่อเสียงสำหรับอย่างอื่นด้วย.

ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง.

เนื่องจากคุณมาท่องเที่ยวยังประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูร้อน นั่นทำให้คุณสามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าจากพระอาทิตย์เที่ยงคืน และสามารถเดินเล่นไปตามถนนในกรุงเรคยาวิกได้จนดึก.

เพื่อให้ได้เวลาได้อย่างคุ้มค่า วันนี้คุณจะได้เริ่มต้นการเดินทางแต่เช้าตรู่ เพื่อเดินทางออกนอกเมืองสำหรับการเที่ยวชมสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ.

เริ่มต้นจากเส้นทางวงกลมทองคำอันโด่งดัง และสถานที่แรกของคุณคือ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ UNESCO เนื่องจากเป็นที่ตั้งของรัฐสภาไอซ์แลนด์ ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 930 อีกทั้งพื้นที่แห่งนี้ยังตั้งอยู่บนรอยแยกของแผ่นเปลือกโลกทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาด้วย.

แผ่นเปลือกโลกทั้งสองมีการผลักและดึงซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดภูมิทัศน์เป็นรอยแยกที่ถูกล้อมรอบด้วยทุ่งลาวา รอยแยกนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดธิงวัลลาวาท์น (Þingvallavatn) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ จากที่นั่นคุณจะสามารถเยี่ยมชมรอยแยกซิลฟรา (Silfra) และเข้าร่วมทัวร์ดำน้ำตื้นที่คุณสามารถเลือกได้ หรือหากคุณต้องการแค่เพียงเดินไปตามหุบเขาอัลมานายอง (Almannagjá) แล้วลองยืนในตำแหน่งเดียวกับผู้ร่างกฎหมายในสมัยก่อน.

สถานที่ต่อไปของคุณคือ หุบเขาเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ที่เป็นที่ตั้งของบ้านในตระกูลฮอร์คเดลลิร์ (Haukdælir) ในยุคประวัติศาสตร์ และปัจจุบันหุบเขานี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ ไกเซอร์ (Geysir) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดได้ถูกตั้งชื่อตามคำว่าไกเซอร์ ที่แปลว่าน้ำพุร้อนในภาษาอังกฤษ อีกทั้งไกเซอร์อันทรงพลังที่อยู่ใกล้เคียงที่ชื่อว่าสโทรคูร์ (Strokkur) ได้มีการระเบิดน้ำพุร้อนออกมาทุกๆ สองถึงสามนาที และสามารถมีการระเบิดได้สูงถึง 60 เมตร (197 ฟุต) รวมถึงไกเซอร์รอบๆ ที่มีหลายขนาดได้มีการพ่นน้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุลงไปในดิน ทำให้เกิดเฉดสีน้ำตาลและสีแดงแตกต่างกันได้อย่างงดงาม.

สถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายบนเส้นทางวงกลมทองคำนี้คือ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ อันงดงาม น้ำตกที่งดงามนี้ตั้งอยู่ในแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา (Hvítá) และมีม่านน้ำที่ตกลงมาจากความสูงกว่า 30 เมตร (98 ฟุต) น้ำตกกุลล์ฟอสส์ หรือในอีกชื่อคือ "น้ำตกทองคำ" เป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่น และได้เป็นน้ำตกที่น่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ นอกจากนี้คุณสามารถเลือกเข้าร่วมทัวร์สโนว์โมบิลได้จากที่นี่ด้วย.

หากคุณไม่ชอบการขับสโนว์โมบิล หรือการดำน้ำ คุณอาจเลือกทัวร์ขี่ม้าเพื่อพบกับม้าไอซ์แลนด์ที่มีเสน่ห์ได้จากที่นี่เช่นกัน.

ที่พักของคุณสำหรับคืนนี้จะอยู่ใกล้กับเซลฟอสส์ (Selfoss)

เดินทางต่อไปในทางตะวันออก คุณจะได้ขับรถผ่านหาดทรายสีดำของธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) ซึ่งที่นั่นคุณจะมีตัวเลือกที่จะไปซิ่งสโนว์โมบิลหรือปีนธารน้ำแข็ง ก่อนที่จะต้องขับรถต่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงที่ชื่อว่า วิก (Vík) ที่นั่นคุณสามารถเลือกกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นในการปีนธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) จากที่นั่นคุณสามารถไปเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งที่สวยงาม และเป็นเพียงแห่งเดียวที่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงฤดูร้อน.

และใกล้กับหมู่บ้านวิก ก็จะเป็นหาดทรายสีดำที่งดงามมีชื่อว่า เรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่นั่นมีกองหินสูงตั้งตระหง่านอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ชายหาดแห่งนี้ยังมีแนวหน้าผาที่เกิดจากเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมที่โดดเด่น คลื่นที่นี่ค่อนข้างรุนแรง และสามารถลากคุณออกไปสู่ทะเลได้หากคุณเข้ามาใกล้มากเกินไป ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณรักษาระยะห่างจากทะเลอย่างน้อย 20 เมตร.

ไฮไลท์ถัดไปของวันนี้คือ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ที่ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า วัทนาโจกุล และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโกุลด้วย ที่นั่นมีเส้นทางเดินป่าที่หลากหลาย และมีความยากหลายระดับด้วย ในบรรดาเส้นทางเหล่านี้ เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้เส้นทาง 5 กิโลเมตรเพื่อไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่ซ่อนอยู่ในหุบเขาเหนือศูนย์บริการนักท่องเที่ยว.

จากนั้นคุณจะต้องขับรถออกไปจากธารน้ำแข็งที่น่าประทับใจนี้ เพื่อจะไปยังอัญมณียอดมงกุฎ และยังเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่าทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนด้วย ซึ่งทะเลสาบธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการที่มีภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่แตกออกจากปลายธารน้ำแข็งเบรียดาฟยอดูร์ (Breiðamerkurjökull) ด้านบน และล่องลอยอยู่ในธารน้ำแข็งนั้น รวมถึงที่นี่ยังเป็นบ้านของฝูงแมวน้ำและบรรดาปลาทะเลสาบที่มีชีวิตชีวาอีกด้วย.

หาดทรายสีดำที่อยู่บนฝั่งตรงข้ามสะพานที่ได้รับฉายาว่า ไดมอนด์บีช เนื่องมาจากมีก้อนน้ำแข็งหักกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณหาดทรายสีดำ ดูราวกับอัญมณีล้ำค่าที่ส่องประกายบนผ้าซาตินสีดำ.

คุณจะใช้เวลาตลอดทั้งคืนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลอันน่าทึ่ง.

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการสำรวจโจกุลซาลอนเพิ่มเติม ทั้งทะเลสาบและไดมอนด์บีชที่อยู่ใกล้เคียงจะมองดูงดงามไปอีกแบบตามธรรมชาติต่างจากเมื่อวานนี้ ที่นี่ในทุกๆ วันจะมองดูแตกต่างกัน และมีจะมีทิวทัศน์ใหม่ๆ ให้คุณได้ชม รวมถึงโอกาสใหม่ๆ สำหรับการถ่ายภาพที่ไร้ที่ติอยู่เสมอ.

ตัวเลือกที่เราต้องการจะแนะนำเป็นอย่างสูงในทัวร์ฤดูร้อนคือ การล่องเรือไปบนทะเลสาบก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองหลวง คุณสามารถเลือกระหว่างเรือยางขนาดเล็ก หรือเรือสะเทินน้ำสะเทินบกขนาดใหญ่ หรือคุณสามารถเลือกการปีนธารน้ำแข็งในสกัฟตาเฟลล์ก็ได้เช่นกัน.

และระหว่างเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิก คุณสามารถเลือกแวะในสถานที่ใดก็ได้ที่คุณยังไม่ได้ไปเมื่อวันก่อนหน้า

แต่จุดแวะพักที่เราอยากแนะนำคือ หุบเขาฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) ที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านเคลยสตูร์ (Klaustur) ซึ่งจากที่นั่นมีเส้นทางเดินป่าระยะสั้น เพื่อไปยังโอเอซิสสีเขียวที่ราวกับฉากในเทพนิยาย ใกล้กับหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา เพื่อมุ่งหน้าไปยัง "ประตูหิน" ดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) ที่คุณอาจจะได้เห็นนกพัฟฟินที่น่ารักที่นั่นได้.

ประภาคารเล็กๆ ที่อยู่ด้านบนของดิร์โอลาเอย์นั้นดูงดงามมาก และสถานที่หยุดแวะที่คุ้มค่าอีกแห่งคือ สระว่ายน้ำเซลลาย์วัลลาเลยก์ (Seljavallalaug) ซึ่งซ่อนอยู่ในซอกเขา และที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสระว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศด้วย.

เมื่อคุณกลับมาถึงตัวเมือง คุณจะได้มีโอกาสที่จะใช้ชีวิตยามเย็นในการดื่มด่ำวัฒนธรรมนอร์ดิก คุณอาจต้องการเยี่ยมชมโถงคอนเสิร์ตฮาปาร์ (Harpa) และเพลิดเพลินกับการชมแผนที่ขนาดใหญ่ของประเทศไอซ์แลนด์แบบ 3 มิติภายในศาลากลาง ชมพิพิธภัณฑ์ที่เปิดในช่วงค่ำ ผ่อนคลายกับดนตรีแนวแจ๊ส หรือเลือกแช่อ่างน้ำร้อนของท้องถิ่นได้.

วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายในการท่องเที่ยวของคุณในประเทศไอซ์แลนด์แล้ว! แต่ไม่ต้องกังวลเพราะคุณสามารถกลับมาเยือนที่นี่ได้ตลอดเวลา และหากคุณรู้สึกอยากอยู่นานขึ้นและยืดเวลาการเดินทางในนานขึ้น คุณเพียงแจ้งให้เราทราบ เราจะจัดการทุกอย่างให้คุณเอง

สำหรับผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข