แพ็คเกจตื่นตาตื่นใจกับการล่าแสงเหนือ 6 วันในไอซ์แลนด์พร้อมเที่ยวถ้ำน้ำแข็ง

วันนี้คุณจะไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเส้นทางชมวงกลมทองคำ ซึ่งรวมถึงอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ พื้นที่ความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ และน้ำตกกุลล์ฟอสส์

หากคุณเลือกที่จะขี่ม้า คุณจะได้เริ่มต้นวันด้วยกิจกรรมขี่ม้าก่อนที่จะเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก เนื่องจากมีความสำคัญต่อวัฒนธรรมโลก

รัฐสภาแห่งแรกก่อตั้งขึ้นในหุบเขาแห่งนี้เมื่อปีคริสตศักราช 930 โดยผู้นำชาวไวกิ้งจะไปรวมตัวกันยังสถานที่ที่สวยงามแห่งนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับกฎหมายทุกปี พวกเขายืนอยู่บนชายฝั่งทะเลสาบธิงวาลลาวาทน์เช่นเดียวกับที่คุณสามารถทำได้

พวกเขาชื่นชมผืนน้ำสีเงินของรอยแยกซิลฟราเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมสำหรับการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก คุณเองก็สามารถเลือกเข้าร่วมทัวร์ดำน้ำตื้นได้ที่นี่ได้ ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้

ช่องเขาซึ่งเป็นเขตแบ่งแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกจะกว้างขึ้นเล็กน้อยในแต่ละปีเนื่องจากความกดดันที่รุนแรงของแผ่นดิน โดยจะเคลื่อนตัวออกห่างจากกัน 0.8 นิ้ว (2 เซนติเมตร) ในแต่ละปี ดังนั้น แม้ว่าเมื่อ 1,000 ปีก่อนช่องเขาจะแคบกว่านี้หน่อย แต่ชาวไวกิ้งผู้โด่งดังในอดีตก็อาจจะเดินไปในที่ที่คุณเดินอยู่ในปัจจุบัน!

จุดแวะที่สองของวงกลมทองคำคือพื้นที่ความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ซึ่งมีชื่อเสียงจากไกเซอร์หรือน้ำพุร้อนที่พ่นน้ำขึ้นไปในอากาศอย่างดุเดือด เนื่องจากความกดดันอันรุนแรงที่ผลักดันพวกมันเดือดพล่านอยู่ลึกลงไปใต้พื้นผิว จึงทำให้การระเบิดเหล่านี้น่าตื่นเต้นเมื่อได้เห็น แม้ว่าไกเซอร์จะสงบนิ่งหลังจากทำกิจกรรมมาเกือบ 10,000 ปี แต่สโทรคูร์จะปะทุทุกๆ 10 นาที และพ่นน้ำได้สูงถึง 131 ฟุต (40 เมตร)

นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อนอื่นๆ กว่า 30 แห่ง รวมถึงบ่อโคลนเดือด และช่องไอน้ำอีกด้วย เดินเล่นไปทั่วทั้งบริเวณเพื่อดูว่าสายน้ำไหลผ่านโขดหินอย่างไรและแร่ธาตุสร้างสีสันที่สวยงามได้อย่างไร!

ที่น้ำตกกุลล์ฟอสส์ คุณสามารถชมพลังของน้ำจากธารน้ำแข็งที่ไหลลงมาตามแม่น้ำและไหลบ่าลงมาเป็นน้ำตกสองชั้นก่อนพุ่งลงกระทบกับหุบเขาเบื้องล่าง พลังของแม่น้ำทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการล่องแก่งลงจากน้ำตก คุณจะสัมผัสได้ถึงความกึกก้องสะท้านสะเทือนผ่านนิ้วเท้าและฝ่าเท้าของคุณขณะที่คุณเดินตามเส้นทางไปชมพลังของน้ำตกแบบใกล้ชิด

หากการขี่สโนว์โมบิลคือสิ่งที่คุณอยากทำในวันนี้ ทัวร์สโนว์โมบิลของคุณจะจัดขึ้นที่ลางโจกุล ธารน้ำแข็งที่คุณจะไปหลังจากเยี่ยมชมน้ำตกกุลล์ฟอสส์

ระหว่างทางกลับเข้าเมืองหลังจากทัวร์วงกลมทองคำ คุณจะได้แวะที่บลูลากูนเพื่อสัมผัสประสบการณ์สัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ ปลดปล่อยความตึงเครียดทั้งหมดของคุณ ปล่อยให้น้ำสีฟ้าผ่อนคลายกล้ามเนื้อและข้อที่เหนื่อยล้า

โปรดทราบว่าหากคุณเลือกทำกิจกรรมเพิ่มเติมระหว่างทัวร์วงกลมทองคำ เช่น ดำน้ำตื้น ขี่ม้า หรือเล่นสโนว์โมบิล การไปใช้บริการบลูลากูนจะถูกจัดเอาไว้ในวันที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์หรือวันที่เดินทางกลับบ้านแทน สปาแห่งนี้มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการบำบัดด้วยน้ำที่อุดมด้วยแร่ธาตุ จึงไม่ใช่สถานที่ที่คุณอยากจะเร่งรีบ

คุณจะกลับมาที่เมืองเรคยาวิกเพื่อพักผ่อนหลังจากวันที่วุ่นวายและเพลิดเพลินไปกับค่ำคืนในเมืองอีกหนึ่งคืนก่อนการผจญภัยครั้งถัดไป

วันนี้จะเริ่มต้นทริปเที่ยวสองวันบนชายฝั่งทางใต้ที่สวยงามและยังเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการเที่ยวชมในประเทศไอซ์แลนด์

อันดับแรกคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับน้ำตกที่มีเสน่ห์สองแห่ง น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ตั้งอยู่บนหน้าผาที่ยื่นออกมาจากไหล่เขา มีเส้นทางเดินเข้าไปที่บริเวณด้านหลังน้ำตกเพื่อที่คุณจะได้ชมทิวทัศน์หลังม่านน้ำตกที่มีทั้งน้ำไหลและน้ำแข็งย้อยที่ส่องประกาย แต่เดินอย่างระมัดระวังอย่าให้ลื่นไถลบนพื้นน้ำแข็ง!

ต่อไปเป็นน้ำตกสโคกาฟอสส์ ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงและกว้างซึ่งลือกันว่ามีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่ในแอ่งน้ำที่มีละอองหนาทึบ อีกทั้งน้ำตกแห่งนี้ยังมีสายรุ้งปรากฏในวันที่มีแสงแดดจ้า ช่วยเพิ่มความสวยงามอันโดดเด่นด้วย

ถัดไปคือชายหาดเรย์นิสฟยาราอันเลื่องชื่อ สถานที่ที่มีน้ำค้างแข็งราวไข่มุกและทรายสีดำ ล้อมรอบด้วยหินบะซอลต์สีดำที่ก่อตัวเป็นหน้าผาและมีเสาสูงตระหง่านที่โดดเด่นอยู่ในทะเลด้วย ในขณะที่คลื่นซัดเข้าหาชายฝั่ง สถานที่นี้สวยงามมากแต่ก็อันตราย นักท่องเที่ยวควรรักษาระยะห่างจากคลื่นยักษ์ประมาณ 20-30 เมตร เพราะคลื่นทีเผลอเหล่านี้มักจะมาแบบไม่สามารถคาดเดาได้

หลังจากนั้น คุณจะได้เยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติสกัฟตาเฟลล์ ซึ่งเป็นพื้นที่เดินป่าและตั้งแคมป์ยอดนิยมข้างธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ยอดเขาที่สูงที่สุดของไอซ์แลนด์คือฮวานนาดาลชนูคูร์นั้นสามารถมองเห็นได้จากเส้นทางเดินป่าที่มีความสูงถึง 2,110 เมตร

ในที่สุด คุณจะได้ไปที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ที่ซึ่งก้อนน้ำแข็งแตกออกจากธารน้ำแข็งเบรดาแมร์คูร์โจกุลที่อยู่ไกลออกไปและถูกน้ำจากน้ำแข็งที่ละลายพัดพามายังทะเลสาบแห่งนี้ก่อนจะลอยออกสู่ทะเลในที่สุด

เนื่องจากน้ำแข็งเหล่านี้ไม่ได้ถูกรังสียูวีแตะต้อง พื้นผิวของน้ำแข็งจึงกลายเป็นสีขาวจ้าจนแสบตา และคงสีฟ้าบริสุทธิ์ไว้ที่ด้านล่าง แมวน้ำที่เล่นบนน้ำแข็ง และนกนางนวลที่บินล้ออยู่เหนือศีรษะ ยิ่งทำให้เกิดภาพที่น่ารักน่าประทับใจ อีกทั้งยังมีก้อนน้ำแข็งบนหาดไดมอนด์บีช ซึ่งถูกพัดไปเกยตื้นบนหาดทรายสีดำที่อยู่ใกล้เคียงส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางแสงแดดให้ชมด้วย

คุณจะได้พักค้างคืนในโรงแรมชนบทอันอบอุ่นสบายในไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่น่าตื่นตาตื่นใจในการล่าแสงเหนือ

วันนี้คุณจะขึ้นรถซูเปอร์จี๊ปที่ได้รับการดัดแปลงเป็นพิเศษ เพื่อเดินทางสู่การผจญภัยครั้งถัดไป ซึ่งก็คือการสำรวจถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าธรรมชาติใต้ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล กิจกรรมนี้ต้องเดินป่าระยะสั้นท่ามกลางอากาศฤดูหนาวที่สดชื่น ดังนั้นคุณควรสวมรองเท้าเดินป่าหุ้มข้อที่มีสภาพดี การรักษาเท้าของคุณให้แห้งและสบายตลอดการสำรวจถ้ำถือเป็นสิ่งสำคัญ

ในทุกฤดูใบไม้ร่วงผู้เชี่ยวชาญถ้ำน้ำแข็งจะออกค้นหาถ้ำในชนบทที่มีความปลอดภัยในการเข้าชมและมีการก่อตัวของหินที่น่าทึ่ง ภายในถ้ำ คุณจะถูกล้อมรอบด้วยกำแพงน้ำแข็งสีฟ้าใสที่ประดับประดาด้วยน้ำค้างแข็งที่เปราะบางและประติมากรรมน้ำแข็งที่สลับซับซ้อน

ถ้ำแต่ละแห่งเป็นผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามสภาพอากาศที่ส่งผลต่อน้ำแข็ง ดังนั้นจึงไม่มีถ้ำสองแห่งที่เหมือนกันเลย แม้ว่าคุณจะเคยเข้าไปชมถ้ำน้ำแข็งมาก่อน แต่การมาครั้งนี้รับรองว่าจะไม่ซ้ำแบบ 

ใช้เวลาของคุณเพื่อซึมซับความงามอันบริสุทธิ์ภายในถ้ำน้ำแข็ง โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการดำดิ่งลงสู่สภาพแวดล้อมอันมหัศจรรย์นี้ อย่าลืมแต่งตัวให้อบอุ่นสำหรับสภาพอากาศที่หนาวเย็นด้วย ไกด์ของคุณจะแจกหมวกกันน็อคให้คุณสวม ดังนั้นคุณควรนำหมวกฤดูหนาวที่สวมใส่สบายมาสวมไว้ข้างในอีกชั้นหนึ่ง

ก่อนเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิกในตอนเย็น คุณจะได้แวะที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนเป็นครั้งที่สอง ร่วมเป็นสักขีพยานว่าทะเลสาบเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรใต้แสงสว่างในตอนกลางวัน ซึ่งเผยให้เห็นสีสันที่หลากหลายยิ่งขึ้นและการก่อตัวของน้ำแข็งอันน่าทึ่ง จับตาดูแมวน้ำที่เกาะอยู่บนภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับทะเลสาบ

เมื่อคุณกลับมาที่เมืองเรคยาวิก ไกด์จะพาคุณมองหาแสงเหนือที่ยากจะเข้าใจ หากแสงอันบริสุทธิ์เหล่านี้ประดับท้องฟ้ายามค่ำคืน เราจะหยุดแวะชมการเต้นรำอันน่าหลงใหลของมัน

ใช้เวลายามค่ำคืนในเมืองเรคยาวิกและนึกถึงประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาและสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ได้เห็นมาตลอดทั้งวัน

ในวันที่ห้าคุณสามารถใช้เวลาเที่ยวชมรอบๆ คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสหรือในเมืองเรคยาวิก

คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสมักถูกเรียกว่า 'ไอซ์แลนด์ขนาดจิ๋ว' เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ที่นี่คุณจะได้เห็นภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์สโจกุลและอุทยานแห่งชาติที่อยู่โดยรอบ และได้ตื่นตาตื่นใจไปกับภูเขาคิร์กจูเฟลล์ ชายหาดอิทรีทุงกา  หาดดยูปาลอนส์ซานดูร์ และสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย

ผู้ที่ต้องการชมความงามของธรรมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระหว่างการเดินทางจะไม่เสียใจกับตัวเลือกนี้

หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมของเรคยาวิก แม้ว่าคุณจะสามารถใช้เวลาทั้งวันเที่ยวชมเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ได้ แต่ในวันนี้ก็มีกิจกรรมเสริมมากมายที่คุณสามารถเลือกได้เพื่อทำให้ประสบการณ์ของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น

กิจกรรมแรก คุณสามารถจองการเข้าชมนิทรรศการเพอร์ลาน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าทึ่งที่มีการจัดแสดงนิทรรศการแบบอินเทอร์แอกทีฟเกี่ยวกับธารน้ำแข็ง หน้าผาชมนกพัฟฟิน ภูเขาไฟ และอื่นๆ อีกมากมาย จุดชมวิวที่เพอร์ลานยังมีวิวพาโนรามาที่ดีที่สุดในเมืองอีกด้วย

หรือคุณสามารถไปเพลิดเพลินกับฟลายโอเวอร์ไอซ์แลนด์ (FlyOver Iceland) ก็ได้ เครื่องเล่นจำลองนี้จะแขวนคุณไว้เหนือหน้าจอขนาดยักษ์ที่แสดงภูมิประเทศของประเทศไอซ์แลนด์ พร้อมด้วยเอฟเฟกต์ลมและกลิ่น เพื่อให้รู้สึกเหมือนว่าคุณกำลังบินอยู่เหนือพื้นที่ที่น่าทึ่งที่สุดของประเทศ

ตัวเลือกที่สามคือการไปใช้บริการสกายลากูน สปาความร้อนใต้พิภพที่น่าทึ่งพร้อมสระว่ายน้ำอินฟินิตี้และห้องซาวน่าที่มองเห็นวิวมหาสมุทร สปาแห่งนี้มีการปรนนิบัติเจ็ดขั้นตอนเพื่อช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่า

ผู้ที่สนใจวัฒนธรรมของเรคยาวิกสามารถเลือกทางเลือกที่สี่ ซึ่งเป็นทัวร์เดินชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองหลวงพร้อมไกด์ท้องถิ่นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ทัวร์นี้รวมอาหารกลางวันแบบไอซ์แลนด์ดั้งเดิมซึ่งดึงดูดใจนักชิมเป็นพิเศษ

หากคุณยังรู้สึกสนุกกับการผจญภัย คุณสามารถไปขี่รถเอทีวีหนึ่งชั่วโมงชมธรรมชาตินอกเมืองเรคยาวิกได้ ทัวร์ที่น่าตื่นเต้นนี้จะทำให้อะดรีนาลีนของคุณพลุ่งพล่านในขณะที่คุณตื่นตาตื่นใจไปกับภูมิประเทศลาวาอันน่าทึ่ง

คุณยังสามารถไปดูปลาวาฬจากท่าเรือได้อีกด้วย แม้ในฤดูหนาว คุณยังสามารถเห็นโลมา พอร์พอยซ์ และวาฬมิงค์ในน่านน้ำที่สวยงามนอกเมือง

ตัวเลือกสุดท้ายของคุณคือบัตรเรคยาวิกซิตี้แบบ 24 ชั่วโมง ซึ่งจะให้สิทธิ์เข้าฟรีและส่วนลดสำหรับพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี และสระว่ายน้ำหลายแห่งทั่วเมืองหลวง การ์ดใบนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่วางแผนจะรวมการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองจำนวนมากไว้ในวันนี้

หากไม่เลือกตัวเลือกเหล่านี้ คุณก็สามารถใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดในเมืองหลวงด้วยการใช้เวลาทั้งวันเที่ยวชมในเมืองเรคยาวิก ซึ่งมีหลายสิ่งให้สำรวจ ตั้งแต่ประติมากรรมเรือไวกิ้งซันโวยาจเจอร์ที่ริมท่าเรือ ไปจนถึงอาคารรัฐสภาเก่าแก่ที่อยู่ไม่ไกลจากถนนช้อปปิ้งหลัก

โบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยาและฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง

ใช้บริการรถรับส่งสนามบินจากโรงแรมของคุณไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกในวันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์

หากเที่ยวบินของคุณออกสายหน่อย ลองไปเยี่ยมชมสปาความร้อนใต้พิภพบลูลากูนอันโด่งดังเพื่อผ่อนคลายก่อนออกเดินทาง ดื่มด่ำไปกับน้ำอุ่นที่อุดมด้วยแร่ธาตุและนึกย้อนถึงการผจญภัยอันเหลือเชื่อที่คุณเพิ่งสัมผัสในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง ปล่อยให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายและคุณสมบัติในการฟื้นฟูของบลูลากูนเป็นบทสรุปที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางในประเทศไอซ์แลนด์ของคุณ

หรือหากเที่ยวบินของคุณออกเดินทางในช่วงท้ายของวัน ให้ใช้โอกาสนี้สำรวจเมืองเรคยาวิกที่มีชีวิตชีวา ค้นพบถนนที่มีเสน่ห์ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ท้องถิ่น หรือดื่มด่ำกับอาหารที่มีชื่อเสียงของเมือง มีกิจกรรมมากมายที่จะทำให้คุณมีส่วนร่วมและสนุกสนาน

สุดท้ายนี้ เมื่อคุณบอกลาไอซ์แลนด์ เราหวังว่าคุณจะเดินทางกลับบ้านอย่างรื่นรมย์ หวนนึกถึงความทรงจำอันน่าจดจำที่คุณสร้างขึ้นและประสบการณ์ของคุณในไอซ์แลนด์ ขอให้มีเที่ยวบินที่ยอดเยี่ยม และอย่าลืมกลับมาเร็วๆ นี้เพื่อสำรวจประเทศที่น่าทึ่งแห่งนี้ต่อ