แพ็คเกจ 6 วัน ฤดูหนาวพร้อมไกด์พาเที่ยว| รอบไอซ์แลนด์กับทัวร์กลุ่มเล็ก

คุณจะได้เริ่มวันที่สองของคุณโดยการไปชมน้ำตกเซลยาแลนด์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ไหลลงมาจากหน้าผาที่มีความสูงถึง 65 เมตร. น้ำตกเซลยาแลยด์ฟอสส์นั้นเป็นจุดที่ถ่ายรูปออกมาได้สวยมาก จึงเป็นที่ที่ช่างภาพชอบกัน. สถานที่ต่อไปคือน้ำตกสโคกาฟอสส์ (Skógafoss) ซึ้งเป็นน้ำตกที่ใหญ่เหมือนกัน. นิทานพื้นบ้านเล่ากันมาว่า ชาวไวกิ้งที่มาตั้งถิ่นฐานที่นี่ได้ฝังสมบัติไว้ใต้น้ำตกแห่งนี้ และ หากว่าคุณต้องการที่จะเพิ่มความตื่นเต้นคุณก็สามารถเพิ่มทัวร์ปีนเกลเซียร์ที่โซลเฮมาโจกุลล์ (Sólheimajökull) ไปด้วยได้เช่นกัน. คุณจะได้เดินตามไกด์ทีเชี่ยวชาญจามเข้าไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง. กิจกรรมนี้สามารถเพิ่มเข้าไปได้ขณะทำการจอง. สถานที่สุดท้ายของคุณในวันนี้คือเรย์นิสฟยาร่า (Reynisfjara) หาดทรายดำที่ถูกล้อมรอบไปด้วยหินบะซอล ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์. หลังจากนั้นคุณก็สามารถมองไปที่เรย์นิสตรังการ์ (Reynisdrangar) ซึ่งเป็นหินที่มีรูปร่างประหลาดโผล่ออกมาจากทะเลได้เช่นกัน. จากที่เรย์นิสฟยาร่า คุณก็จะเห็น ดิร์โฮลาเอย์ (Dyrhólaey) ที่เป็นก้อนหินโผล่ออกมาจากทะเลอัทลานติกด้วยเช่นกัน. หลังจากนั้นคุณก็จะได้พักผ่อนในที่พักใกล้เมืองวิก (Vík).

วันนี้คุณจะได้ไปชมถ้ำน้ำแข็งในการเดินทางของคุณ. หากว่าคุณมาท่องเที่ยวในเช่วงเมษายน ถึง ตุลาคม คุณจะเริ่มวันโดยการไปชมถ้ำน้ำแข็งที่มิร์ดาลส์โจกุลล์ (Mýrdalsjökull). หากว่าคุณมาในเวลาอื่นคุณจะได้ไปชมที่วัทนาโจกุลล์ (Vatnajökull) ในช่วงบ่ายแทน. ถ้้ำน้ำแข็งเป็นสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติ เมื่อน้ำแข็งจากเกลเซียร์ได้ละลายและเกิดการแข็งตัวขึ้น. คุณจะได้เดินตามไกด์เข้าไปในถ้ำ หลังจากนั้นคุณจะได้เดินทางไปที่โจกุลซาโลน (Jökulsárlón). ที่นี่คุณจะได้เห็นก้อนน้ำแข็งที่มีสีสัน และ รูปร่างหลากหลายไหลลงไปในทะเล. คุณสามารถเดินตามพวกเขาได้โดยการเดินต่อไปยังหาดทรายเพชร หรือ Diamond Beach ที่ที่น้ำแข็งถูกพลัดกลับมาที่ทรายหาด. คุณจะในค้างคืนในพื้นที่ที่สวยงาม.

ในวันที่สี่คุณจะได้เดินทางไปที่ฟยอร์ดทางตะวันออก ซึ่งเป็นบ้านของธรรมชาติมากมาย และเป็นที่เดียวในไอซ์แลนด์ที่คุณจะสามารถเห็นกวางได้. ท่องเที่ยวท่ามกลางภูเขาที่ยิ่งใหญ่ คุณจะเห็นธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลล์ (Vatnajökull). คุณจะได้เห็นหมู่บ้านตกปลาที่มีประวันติศาสตร์ และ วัฒนธรรมมากมาย ก่อนที่คุณจะได้ออกเดินทางไปยังป่าที่ใหญ่ที่สุด ป่าฮาลอร์มตาดิร์ (Hallormsstaðaskógur) ที่ด้านหลังนั้นจะมีน้ำตก และ ทุ่งกว้างใหญ่. คุณจะได้เดินทางไปตามแม่น้ำลาการ์โฟลท (Lagarfljót) ที่ว่ากันว่ามีสัตว์ประหลาดซ่อนอยู่.

คุณจะได้พักที่เมืองน่ารักทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ในวันนี้.

วันที่ 5 คุณจะไดไปชมน้ำแร่ร้อน และ พื้นที่รอบๆทะเลสาบมิวาท์น. พื้นที่นี่ได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไอซ์แลนด์เพราะว่าที่แห่งนี้มีทั้งบ่อโคลน, การเกิดตัวของลาวา และ ภูมิประเทศที่สวยงาม. คุณจะไดไปชมทางเดินเนามัสการ์ด (Námaskarð) ซึ่งเป็นสถานที่ที่เดือด และ ควันใกล้ๆ คุณจะได้เห็นสีส้มแดง. แล้วคุณก็จะได้เดินทางไปที่ดิมมุบอร์กิร์ (Dimmuborgir) สถานที่ที่มีรูปร่างแปลกประหลาด เชื่อกันว่าโทรลล์ และ ซานตาคลอสส์ของไอซ์แลนด์อาศัยอยุ่ที่นี่กัน. คุณจะได้ไปชมอ่างน้ำแร่ร้อนมิวาท์น น้ำแร่ร้อนที่เหมาะแก่การผ่อนคลายเป็นอย่างมาก. ขณะเดินทางไปที่อาคุย์เรย์รี่ (Akureyri) คุณจะได้เห็นน้ำตกโกดาฟอสส์ (Goðafoss) จากรถมินิบัส และ หากว่าเมฆไม่หนาคุณอาจจะได้เห็นแสงเหนือในคืนนี้ก็ได้.

ในวันสุดท้ายในการเดินทางของคุณในประเทศไอซ์แลนด์คุณจะได้เดินทางจากเมืองหลวงแห่งทางเหนือ เมืองอาคุเรย์รี่ไปยังเมืองหลวงของทางใต้ เมืองเรคยาวิก (Reykjavik) แต่ไม่ต้องกังวลไป เราจะจะจอดระหว่างทางแน่นอน! คุณจะได้ท่องเที่ยวไปยังหมู่บ้านเฮยกาเนสส์ (Hauganes) ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองอาคุเรย์รี่ ที่คุณสามารถกระโดดขึ้นเรือ เพื่อไปชมวาฬหลังค่อม และชมทะเลอัทแลนติกได้. หรือคุณจะเลือกที่จะแช่ในอ่างเบียร์ที่ดีสำหรับผิว และ ผมของคุณก็ได้. หรือหากกว่าคุณไม่ชอบทั้งสองตัวเลือก คุณสามารถเดินชมหมุ่บ้านก็ได้ ที่นี่มีหาดทรายดำที่สวยงาม และ ภูเขาที่ใหญ่. จากที่เฮยกาเนสส์ คุณจะออกเดินทางต่อไปยัง ฮวิทเซร์คุร์ (Hvítserkur) ซึ่งเป็นก้อนหินขนาดมหึมาตั้งอยู่กลางทะเล บางคนบอกว่าก้อนหินนี้เหมือนมังกร แต่บางคนก็บอกว่าเหมือนช้างกำลังกินน้ำ แต่ความจริงแล้วสิ่งนี้เกิดจากโทรลล์ที่ถูกสาบโดยแสงพระอาทิตย์...หลังจากนั้นคุณก็จะได้กลับมาที่เมืองเรคยาวิก (Reykjavík) ที่นี่คุณสามารถชมแกลลอรี่ หรือพิพิธภัณฑ์ก็ได้ หรือว่าจะช็อปปิ้ง หรือ เข้าชมร้านคาแฟ่มากมายก็ได้. เพื่อความสะดวกของคุณเราไม่แนะนำให้จองตั๋วกลับบ้านในคืนนี เพราะว่าสภาพอากาศ และ การจราจรอาจจะทำให้เกิดการล่าช้าได้.