ทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 7 วัน ไอซ์แลนด์ตะวันตก ไอซ์แลนด์ใต้ และวงกลมทองคำ

รถของคุณจอดรอคุณอยู่ที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกแล้วพร้อมระบบนำทาง GPS ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่บลูลากูน (Blue Lagoon) ก่อนได้ สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา สปาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ทำให้มีบรรยากาศแปลกตา หากคุณเลือกเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริป กิจกรรมนี้จะถูกจัดเข้าในโปรแกรมการเดินทางให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากคุณยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปในวันนี้ ก็ยังสามารถไปในวันอื่นได้ โดยที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนสมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่

ทันทีที่คุณเดินทางไปถึงเรคยาวิก คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ คุณสามารถเดินเล่นชมสถานที่ต่างๆ ที่อยู่บริเวณใจกลางเมือง เช่น ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอล์ (Harpa Concert Hall) และโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) ตลอดจนไปเยี่ยมชนร้านรวงและแกลเลอรี่ในย่านท่าเรือเก่าและเลือกซื้อของบนถนนช้อปปิ้งเลยการแวกูร์ (Laugavegur) จากนั้นก็แวะไปชิมอาหารท้องถิ่นในร้านอาหารที่มีอยู่มากมายในเมือง หรือจิบคราฟต์เบียร์ที่บาร์สักแห่ง

วันนี้ คุณจะใช้เวลาทั้งวันสำรวจคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสที่สวยงาม ซึ่งคุณจะได้เห็นภูเขาไฟธารน้ำแข็งสไนล์แฟลซโจกุล (Snæfellsjökull) ที่เคยใช้เป็นฉากในการเดินทางใต้ดินในนวนิยายเรื่อง "Journey to the Center of the Earth" ของจูลส์ เวิร์น (Jules Verne) และสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภูเขาไฟและต้องการสัมผัสกับประสบการณ์การเดินทางใต้ดินด้วยตัวเอง ก็สามารถเริ่มต้นวันนี้ด้วยกิจกรรมที่พาลงไปทัวร์โถงแมกมาที่ทรีฮนูคากิกูร์ (Þríhnúkagígur) ได้ หากคุณเพิ่มกิจกรรมนี้ในทริปคุณจะเดินทางด้วยรถบัสจากเรคยาวิก ซึ่งจะพาคุณไปยังภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วและคุณจะขึ้นลิฟต์เพื่อลงไปในโถงแมกมาที่ว่างเปล่า

เมื่อคุณพร้อมที่กลับขึ้นบนถนนแล้ว คุณจะขับรถไปที่สไนล์แฟลซเนส เพื่อไปชมสถานที่ต่างๆ เช่น หมู่บ้านน่ารักๆ ชื่อเฮลล์นาร์ (Hellnar) และอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) หินรูปร่างแปลกประหลาด และชายหาดตูปาโลนส์ซานดูร์ที่น่าทึ่ง คุณยังจะได้เห็นนกนานาชนิดท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ และบนคาบสมุทรแห่งนี้ยังมีอะไรให้ชื่นชมอีกมาก เช่น แม่น้ำหลายสาย ทุ่งลาวา น้ำตก ภูเขา และชายหาด ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ที่ช่างภาพชื่นชอบมากที่สุดด้วย

คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสเป็นหนึ่งในสถานที่ล้ำค่าของไอซ์แลนด์และที่นี่มีอะไรให้คุณดูและทำมากมาย คืนนี้คุณพักค้างคืนที่นี่

ในวันที่สาม ออกจากที่พักของคุณในสไนล์แฟลซเนสและไปสำรวจวงกลมทองคำ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ ระหว่างทาง คุณจะต้องผ่านแถวบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ (Borgarfjörður) และคุณจะไปชมอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก และเป็นศูนย์กลางของมรดกของประเทศไอซ์แลนด์ ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของรัฐสภาที่ดำเนินมายาวนานที่สุดในโลกและยังตั้งอยู่บนพื้นที่สันกลางของมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้คุณสามารถเดินไปมาระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนและอเมริกาเหนือได้ที่นี่

ผู้ที่ชอบความท้าทายสามารถลงไปดำน้ำในรอยแยกหุบเขาซิลฟรา (Silfra) ที่ใสราวกับคริสตัล มีทัวร์อื่นๆ อีกสองทัวร์ที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ในวันนี้: การผจญภัยในถ้ำในท่อลาวาวิดเกลมิร์ หรือการสำรวจอุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นภายในธารน้ำแข็งลางโจกุล ในวันนี้คุณสามารถเพิ่มกิจกรรมได้สองอย่าง อย่างแรกคือเที่ยวถ้ำกับทัวร์ผจญภัยในอุโมงค์ลาวาวิดเกลมิร์ (Viðgelmir) และอย่างที่สองคือลงไปสำรวจอุโมงค์น้ำแข็งที่อยู่ภายในธารน้ำแข็งลางโจกุล

ต่อจากธิงเวลลีร์ คุณจะมุ่งหน้าไปยังพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir geothermal area) หุบเขาแห่งน้ำพุร้อนและฟูมาโรล (บ่อไอเดือด) แห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งของน้ำพุร้อนไกเซอร์และน้ำพุร้อนสโทรคูร์ ซึ่งอันหลังนี้ยังแอคทีฟพ่นน้ำสูงเกิน 20 เมตรในทุกๆ ห้าถึงสิบนาทีอยู่ ในขณะที่อันแรกนั้นสงบไปแล้ว

สถานที่แวะจุดสุดท้ายบนวงกลมคือน้ำตกสีทองหรือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ตระการตาและสวยงามมาก น้ำตกนี้มีทางเดินที่คุณสามารถขึ้นไปเดินอยู่ริมน้ำตกได้เลยด้วยหากเป็นวันที่อากาศดี ซึ่งจะทำให้คุณได้ชื่นชมพลังมหาศาลของน้ำตกได้อย่างชัดเจน หลังจากดูน้ำตกจนพอใจแล้ว คุณจะเดินทางไปเที่ยวสปาธรรมชาติที่มีอยู่มากมายในบริเวณนี้ ทะเลสาบซีเคร็ทลากูนที่อยู่ใกล้กับเมืองฟลูดิร์ Flúðir มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและมีความเงียบสงบมาก ส่วนสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพที่เลยการ์วาทน์ (Laugarvatn) ก็จะให้ความสดชื่นได้ไม่แพ้กันและยังอยู่ใกล้กับที่พักของคุณด้วย

วันที่สี่ คุณจะขับรถจากทะเลสาบเลยกาวาทน์ไปบนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ ขอแนะนำให้คุณแวะเที่ยวที่ปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerið) เพื่อชมสีสันอันร้อนแรงของหินที่อุดมด้วยแร่ธาตุซึ่งอยู่รายล้อมทะเลสาบสีฟ้าสดใสด้วย

จากนั้นมุ่งหน้าไปยังน้ำตกที่มีชื่อเสียงสองแห่งของไอซ์แลนด์ ได้แก่ น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) แห่งแรกนั้นคุณสามารถเดินชมวิวได้รอบน้ำตก ส่วนแห่งหลังนั้นคุณจะต้องตะลึงกับพละกำลังของน้ำตก

เมื่อเดินทางห่างออกไปอีกหน่อย คุณก็จะเจอกับธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) ซึ่งคุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมให้วันนี้ด้วยการซื้อทัวร์ไปปีนธารน้ำแข็งแห่งนี้ หรือคุณจะเลือกกิจกรรมขี่สโนว์โมบิลแทนก็ได้ ซึ่งจะทำให้คุณได้ขึ้นไปสนุกบนธารน้ำแข็งเหมือนกัน

เลียบชายฝั่งไปทางตะวันออก คุณจะเจอกับหน้าผาดิร์โฮลาเอย์ (Dyrhólaey) ที่มีหินโค้งอันโด่งดัง และยังอยู่ไม่ไกลจากหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีเสาหินบะซอลต์เรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar) โผล่อยู่เหนือผืนน้ำด้วย ที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ที่หมู่บ้านวิก (Vík) อันสวยงามที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน

เดินทางต่อจากวิกไปตามชายฝั่งทางใต้โดยมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ระหว่างทาง คุณจะผ่านทะเลทรายภูเขาไฟที่สวยงามและมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

หากคุณต้องการ คุณสามารถเริ่มต้นวันนี้ด้วยกิจกรรมทัวร์ถ้ำน้ำแข็งที่น่าตื่นเต้นบนมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ปกคลุมภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ระหว่างทางไปทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน คุณสามารถแวะชมหมู่บ้านเคิร์กยูแบร์ยาร์กเลาสเทอร์ (Kirkjubæjarklaustur) ก่อนได้ ที่มีเสน่ห์และมีความเก่าแก่ เหมาะสำหรับมาเดินป่าระยะสั้นๆ หรือแวะหาอะไรกิน

ถัดไป คุณจะมุ่งหน้าไปยังเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatanjökull) เพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อ บริเวณนี้มีเส้นทางเดินป่าหลายแห่ง รวมถึงทางเดินไปน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่สวยงาม ซึ่งไหลลงมาจากหน้าผาเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยม คุณยังสามารถเลือกทำกิจกรรมเสริมในวันนี้ ด้วยการไปปีนธารน้ำแข็ง หรือจะเก็บกิจกรรมนี้ไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ก็ได้

และคุณจะจบทริปการเดินทางในวันนี้ที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlon) ที่สวยงาม ซึ่งคุณน่าจะต้องใช้เวลาชื่นชมภูเขาน้ำแข็งที่กำลังเดินทางด้วยการค่อยๆ ลอยออกมหาสมุทรและบางส่วนก็ถูกพัดขึ้นมาบนหาดไดมอนด์บีช บิริเวณนี้ถือเป็นจุดที่สวยที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และหากคุณต้องการเข้าไปชมภูเขาน้ำแข็งในทะเลสาบแบบใกล้ชิด คุณก็สามารถเลือกเพิ่มทัวร์ล่องเรือเข้าไปในวันนี้ได้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งเรือสะเทินน้ำสะเทินบกและเรือท้องแบนโซดิแอก เย็นนี้คุณจะเข้าพักในโรงแรมในแถบชนบท ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน

หากคุณเก็บกิจกรรมตื่นเต้นเอาไว้ทำในวันสุดท้ายก่อนที่จะคุณจะเดินทางกลับเข้าไปในเมืองเรคยาวิก วันนี้คุณมีตัวเลือกระหว่างปีนธารน้ำแข็งกับล่องเรือในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน

หรือถ้าไม่ได้ทำกิจกรรมในวันนี้ คุณก็จะขับรถกลับเรคยาวิกกันเลย ซึ่งระยะทางค่อนข้างไกล จึงแนะนำว่าให้ออกแต่เช้า ซึ่งระหว่างทางขากลับนี้ คุณอาจจะแวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณชื่นชอบอีกครั้งก็ได้ เพราะว่าสถานที่หลายแห่งในไอซ์แลนด์นั้นมีความงดงามแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงถ้าคุณไปเห็นในอีกช่วงเวลาหนึ่งของวัน หรือเมื่อสภาพอากาศแตกต่างไปจากเดิม

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางลัดอีกหลายเส้นทางที่จะพาคุณไปยังสถานที่แปลกใหม่ที่คุณยังไม่ได้ไปชม เช่น หุบเขาฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) ซึ่งเป็นหุบเขาเขียวชอุ่มที่ความชื้นจากกระแสน้ำในแม่น้ำเชี่ยวส่งผลให้มีมอสส์ขึ้นปกคลุมผาหินไปทั่ว คืนนี้คุณจะใช้เวลาคืนสุดท้ายของทริปนี้อย่างคุ้มค่าที่สุดในเมืองเรคยาวิก เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศฤดูร้อนและวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน

สำหรับผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข