แพ็คเกจขับรถเที่ยวเองหน้าร้อน 1 สัปดาห์ที่ดีที่สุด เส้นทางถนนวงแหวน & วงกลมทองคำ

ไม่คิดค่ายกเลิก
บริการ 24 ชั่วโมง
แผนการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
สามารถจัดตามความต้องการได้เต็มที่

คำอธิบาย

สรุป

ทัวร์เริ่มจาก
Keflavík Airport
สถานที่สิ้นสุด
Keflavík Airport
ระยะเวลา
8 วัน & 7 คืน
ความยากลำบาก
ง่าย
มีบริการ
พ.ค. - ส.ค.
ที่พัก
7 nights included
Car rental
8 days included

คำอธิบาย

จองทริป 8 วันในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟของคุณตอนนี้เลย แพ็กเกจนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกท่องเที่ยวอย่างอิสระด้วยตนเองแบบไม่ต้องมีไกด์มาคอยจัดการรอบถนนวงแหวน

การเดินทางบนเส้นทางวงแหวนทองคำนี้คุณจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไอซ์แลนด์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในระยะเวลา 8 วัน ซึ่งรวมทั้งเมืองหลวงอย่างเรคยาวิก (Reykjavík) สถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงบนเส้นทางวงกลมทองคำ และอาคูเรยรี่ (Akureyri) ที่ได้รับฉายาว่าเป็นเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ตอนเหนือ คุณยังจะได้ไปที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ทะเลสาบมิวาทน์ (Mývatn) ได้เที่ยวน้ำตก ภูเขาไฟ เมืองในชนบท และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกจำนวนนับไม่ถ้วน

ในตอนที่คุณทำการจองแพ็กเกจนี้ คุณยังสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมสนุกตื่นเต้นเข้าไปในทริปของคุณได้ด้วยและคุณจะได้รับส่วนลดสำหรับกิจกรรมต่างๆ อีก สำหรับคนที่ชอบความท้าทายสามารถเพิ่มกิจกรรมการขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ปีนธารน้ำแข็ง หรือเลือกไปดำน้ำตื้นระหว่างสองทวีปที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir National Park) ด้วยก็ได้

ส่วนคนที่ชอบแนวธรรมชาติสามารถเพิ่มทัวร์นั่งเรือชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ทัวร์ดูวาฬที่เมืองฮูสาวิค (Húsavík) ทัวร์ขี่ม้าไอซ์แลนดิกเที่ยวชมชนบท ทัวร์สำรวจถ้ำ หรือทัวร์พาเข้าไปชมโถงน้ำแข็งที่ส่องประกายวับวาวอยู่ภายในกลาเซียร์ก็ได้

นอกจากนี้คุณยังมีโอกาสได้ลงไปชมโถงแมกมาสีสันสดใสที่อยู่ภายในภูเขาไฟที่กำลังหลับใหลด้วย และหากคุณอยากผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำอุ่นสีฟ้าให้สบายกายสบายใจ คุณก็สามารถจองเข้าใช้บริการบลูลากูนซึ่งโด่งดังในระดับโลกได้ในระหว่างที่คุณเดินทางท่องเที่ยวในทริปนี้  

และเพื่อให้คุณไม่ต้องคอยกังวลเรื่องทริป คุณจะได้รับรายละเอียดของโปรแกรมการเดินทางเมื่อคุณทำการจอง คุณจะได้รับรายการสถานที่ต่างๆ ที่คุณสามารถเดินทางไปสัมผัสได้ด้วยตนเอง บางแห่งนั้นอาจจะไม่คุ้นหูนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ และในรายละเอียดการเดินทางที่ได้จะรวมข้อมูลสำหรับที่พักแบบฟูลคอมฟอร์ตซึ่งมีห้องน้ำส่วนตัว และรวมบริการอาหารเช้าให้เสร็จสรรพ

ดังนั้นคุณไม่ต้องลังเลอีกต่อไปแล้ว รีบคว้าโอกาสนี้ไว้แล้วเตรียมตัวไปขับรถเที่ยวชมสถานที่เที่ยวยอดนิยมบนเส้นทางวงแหวนทองคำและออกสำรวจสถานที่เที่ยวลับๆ ที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จักในวันหยุดพักผ่อนในไอซ์แลนด์ครั้งนี้กันดีกว่า คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง

อ่านเพิ่ม

ร่วมด้วย

ที่พักจำนวน 7 คืน (มีให้เลือกหลายระดับ พร้อมรวมอาหารเช้า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง)
รถเช่าจำนวน 8 วัน ((Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง สามารถอัปเกรดได้)
ประกันแบบ CDW สำหรับรถระดับซูเปอร์บัดเจท; รถระดับอื่นมีประกันกรวดให้ด้วย
มี Wi-Fi ฟรีในรถยนต์
รายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวพร้อมข้อมูลสนุกๆ ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ (ภาษาอังกฤษ)
รายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวที่ผ่านตรวจสอบจากตัวแทนท่องเที่ยว
ภาษี

จุดหมายปลายทางใน

Reykjavik is the northernmost capital city in the world.เรคยาวิก / 2 คืน
Dyrhólaey peninsula from east to westคาบสมุทรทางใต้ / 1 คืน
The Vatnajokull glacier in Southeast Iceland.คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ / 1 คืน
East Iceland is a spectacular region.ฟยอร์ดตะวันออก / 1 คืน
Vopnafjordur is a town nestled in a fjord of the same name.คู่มือท่องเที่ยว วอปนาฟยอร์ดูร์
ไอซ์แลนด์เหนือเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งมากมาย เช่น แนวหินฮวิตแซร์คูร์คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์เหนือ / 1 คืน
Hvitserkur rock stands tall just off the coast of Northwest Iceland.Northwest Iceland / 1 คืน
Steam coming from Deildartunguhver hot spring in West Iceland.เดลตาร์ทุงกาแควร์
คู่มือท่องเที่ยว เรคฮอลท์คู่มือท่องเที่ยว เรคฮอลท์

แผนที่

สถานที่ท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์เป็นสถานที่มรดกโลกเพียงแห่งเดียวของไอซ์แลนด์และเป็นหนึ่งในจุดแวะพักหลักตามเส้นทางวงกลมทองคำที่มีชื่อเสียงระดับโลกคู่มือท่องเที่ยว ธิงเวลลิร์
Geysir is a dormant hot spring in the geothermal area, Haukadalur Valley, found in South Iceland.ไกเซอร์
กุลล์ฟอสส์กุลล์ฟอสส์
น้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์บนชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์อาบแสงพระอาทิตย์เที่ยงคืนคู่มือท่องเที่ยว เซลยาแลนส์ฟอสส์
The mighty Skógafoss waterfallสโคกาฟอสส์
ชายหาด Reynisfjara และหน้าผา Reynisdrangar ในฤดูหนาวคู่มือท่องเที่ยว ทรายหาดดำ เรย์นิสฟยารา
หมู่บ้านวิกอันงดงามภายใต้ดวงอาทิตย์ฤดูร้อนคู่มือท่องเที่ยว วิก
โจกุลซาร์ลอนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดของไอซ์แลนด์คู่มือท่องเที่ยว ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
Skaftafell Nature Preserve can be found in Öræfasveit, the western region of Austur-Skaftafellssýsla in Iceland.สกาฟตาแฟล
สวาร์ติฟอสส์ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ในฤดูร้อนคู่มือท่องเที่ยว สวาร์ติฟอสส์
ก้อนน้ำแข็งเหมือนเพชรที่หาดไดมอนด์ข้อมูลท่องเที่ยว ไดมอนด์บีช
เวสตราฮอร์นเป็นภูเขาที่งดงาม โดยเฉพาะภายใต้แสงเหนือคู่มือท่องเที่ยว เวสตราฮอร์น
Hengifoss เป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับสามของประเทศไอซ์แลนด์คู่มือท่องเที่ยว เฮงกิฟอสส์
Hallormstadaskogar surrounds lake Lagarfjlot.ฮาลลอร์มสตาดาร์สโคกูร์
บ่อน้ำพุร้อนที่คราฟลาใกล้เมืองมิวาทน์คู่มือท่องเที่ยว มิวาทน์
Borgarfjordur Eystri is a beautiful and remote corner of the East Fjords.บอร์การ์ฟยอร์ดูร์ เอสตริ
Dettifoss waterfall in Icelandน้ำตกเดตติฟอส
โกดาฟอสส์เป็นน้ำตกที่สวยงามและมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ทางศาสนาของไอซ์แลนด์คู่มือท่องเที่ยว น้ำตกโกดาฟอสส์
โทรลลาสกากิขึ้นชื่อว่ามีม้าไอซ์แลนด์มากมายคู่มือท่องเที่ยว โทรลลาสกากิ
โฮลาร์ ที่ ฮยาลทาตาลูร์ โฮลาร์ ที่ ฮยาลทาตาลูร์
Hraunfossar is one of the most beautiful waterfalls in West Iceland.เฮรินฟอสสาร์
Borgarvirki (Citadel) is both natural and man-made.บอร์กาวิร์คิ
Hvítserkur, aka; “The Troll of North-West Iceland”, is a 15-metre (49ft) high basalt rock stack protruding from Húnaflói Bay.ฮวิทแซร์คูร์
ปอร์ก เอา มิรุม ปอร์ก เอา มิรุม
Kleifarvatn is the third largest lake in Iceland.เคลย์ฟาร์วาท์น
คู่มือท่องเที่ยว ครีซูวิกคู่มือท่องเที่ยว ครีซูวิก
Gunnuhver is one of the geothermal areas on the Reykjanes Peninsula.กุนนุแควร์

กิจกรรม

ปีนธารน้ำแข็ง
ดำน้ำตื้น
เที่ยวถ้ำ
ขี่สโนว์โมบิล
ขี่ม้า
ชมวาฬ
เที่ยวชมสถานที่
ล่องเรือ
แช่น้ำร้อน
กิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรม
ดูนก
เที่ยวถ้ำ
ขับรถเที่ยวเอง

รายละเอียดการเดินทาง

Travel dates

นักท่องเที่ยว

รถ

รถ

Small car

Small car

หมวดหมู่
รถขนาดเล็ก
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่
Medium car

Medium car

หมวดหมู่
รถขนาดกลาง
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่
Premium car

Premium car

หมวดหมู่
รถพรีเมี่ยม
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่
Large car

Large car

หมวดหมู่
Large
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่
SUV

SUV

หมวดหมู่
JEEPSUV
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่

ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ

วันที่ 1 - เรคยาวิก

Day 1

วันที่ 1 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก - Arrival Day
  • More

รับรถจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกและเดินทางเข้าสู่ที่พักในตัวเมืองเรคยาวิก คุณจะได้ขับไปบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) ซึ่งมีทิวทัศน์แปลกตาราวกับอยู่บนผิวดวงจันทร์ ระหว่างทางคุณสามารถเลือกแวะที่บลูลากูนก่อนเข้าเมืองก็ได้ เนื่องจากบลูลากูนนั้นตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างสนามบินและเรคยาวิกอยู่แล้ว

ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง.

หลังจากเข้าที่พักในเมืองเรคยาวิกเรียบร้อยแล้วคุณสามารถออกมาเที่ยวในใจกลางเมืองและเพลิดเพลินกับสีสันของเรคยาวิกให้เต็มที่ โดยที่เรคยาวิกมีทั้งพิพิธภัณฑ์ อาร์ตแกลเลอรี่ ร้านอาหาร และบาร์มากมาย คืนแรกคุณจะพักค้างคืนอยู่ในตัวเมืองที่ทั้งสวยและแปลกแห่งนี้

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 2 - คาบสมุทรทางใต้

Day 2

วันที่ 2 - คาบสมุทรทางใต้

  • คาบสมุทรทางใต้
  • More
  • อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
  • พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
  • น้ำตกกุลล์ฟอสส์
  • Seljalandsfoss Waterfall
  • Skogafoss waterfall
  • Reynisfjara black sand beach
  • Vik Village
  • More

วันที่สองคุณจะได้สัมผัสกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของไอซ์แลนด์ผ่านทางสถานที่ท่องเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำอันโด่งดัง

จุดแรกที่คุณจะแวะคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir National Park) ที่นี่คุณสามารถเดินไปตามหุบเขารอยเลื่อนของเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติกและเที่ยวชมในบริเวณที่เคยมีการสร้างสภาขึ้นในปี 930 ซึ่งนับว่าเป็นมรดกที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของไอซ์แลนด์ นอกจากนี้พื้นที่แถวนี้ยังมีความสำคัญเพราะเคยเป็นสถานที่ที่มีบทบาทในช่วงที่ไอซ์แลนด์เปลี่ยนมานับถือคริสต์ศาสนาและประกาศเอกราชจากเดนมาร์ก

ในอุทยานฯ อันสวยงามแห่งนี้คุณสามารถเลือกซื้อทัวร์ดำน้ำตื้นเพื่อชมรอยแยกซิลฟราซึ่งเป็นหุบเขาลึกที่อยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกของทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือ โดยน้ำที่นี่มีความใสมากๆ

จุดหมายปลายทางต่อไปคือทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ที่นี่นอกจากน้ำพุร้อนเดือดปุดๆ ที่มีอยู่มากมายทั่วบริเวณแล้ว คุณยังจะได้เห็นไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) และไกเซอร์ที่มีชื่อว่าไกเซอร์ (Geysir) โดยสโทรคูร์จะพ่นน้ำสูงขึ้นไปมากกว่า 20 เมตร (66 ฟุต) ในทุกๆ 10 นาทีโดยประมาณ ห่างออกไปอีกไม่กี่กิโลเมตรก็จะเป็นน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) อันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์ คุณสามารถเห็นน้ำตกได้อย่างใกล้ชิดและสัมผัสได้ถึงพลังความแรงของสายน้ำจากบนเส้นทางเดินชมน้ำตกแห่งนี้ จากบริเวณน้ำตกกุลล์ฟอสส์นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมตื่นเต้นสามารถเลือกซื้อทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่ธารน้ำแข็งลางโจกุลล์ (Langjökull) เพิ่มเติมได้

ถ้าหากทั้งดำน้ำตื้นสน็อกเกิ้ลและขี่สโนว์โมบิลยังไม่ใช่กิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับคุณ คุณอาจจะอยากเลือกไปขี่ม้าชมธรรมชาติสวยๆ ของไอซ์แลนด์ทางตอนใต้แทนก็เป็นได้

สถานที่ยอดนิยมของบริเวณนี้คือปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerið) ซึ่งสวยงามคุ้มค่าแก่การแวะเข้าไปชมก่อนที่จะเดินทางต่อไปทางใต้ หินปากปล่องภูเขาไฟแห่งนี้จะมีสีแดงสนิมและสีส้มสดราวกับเปลวเพลิงส่วนน้ำที่ขังอยู่อย่างถาวรในแอ่งนั้นมีสีฟ้าเข้มงดงามมาก และสีสันจะยิ่งตัดกันสวยงามน่าค้นหามากขึ้นไปอีกเมื่อมีหญ้ามอสสีเขียวเติบโตงอกงามอยู่แถวนั้น

เมื่อคุณเดินทางไปตามถนนวงแหวนในทางทิศใต้ คุณจะได้เห็นน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งคุณสามารถเดินถ่ายภาพรอบม่านน้ำตกได้ เมื่อไปต่อบนถนนอีกหน่อยก็จะเป็นน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ที่มีความยิ่งใหญ่งดงามตระการตาเป็นอย่างมาก โดยน้ำตกที่ส่งเสียงดังกึกก้องกัมปนาทแห่งนี้มีน้ำที่ตกลงมาจากความสูง 60 เมตร (197 ฟุต) และตัวน้ำตกมีความกว้างเกือบครึ่งหนึ่งของความสูงเลยทีเดียว

บนชายฝั่งใกล้กับหมู่บ้านวิก (Vík) หากออกนอกเส้นทางไปเล็กน้อยก็จะเจอกับหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่เกิดจากหินภูเขาไฟ คุณจะได้เห็นหินโค้งดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) และแท่งหินรูปทรงประหลาดลึกลับเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่อยู่ในทะเล แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าชายฝั่งบริเวณนี้มักจะมีคลื่นที่รุนแรงและมีความอันตรายมากและไม่สามารถคาดเดาได้ด้วย ซึ่งก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเที่ยวไอซ์แลนด์ ดังนั้นขอให้ทุกท่านโปรดเที่ยวอย่างระมัดระวังด้วย

เมื่อเที่ยวจนหมดวันแล้วคุณจะเข้าพักที่ในหมู่บ้านวิก (Vík)

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 3 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้

Day 3

วันที่ 3 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้

  • คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
  • More
  • Jokulsarlon Glacier Lagoon
  • Skaftafell Nature Reserve
  • สวาร์ติฟอสส์
  • ไดมอนด์ บีช
  • More

วันที่สามคุณจะเดินทางไปยังเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกาฟตาเฟล (Skaftafell Nature Reserve) อันสวยงามที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) คุณสามารถเลือกเริ่มต้นวันด้วยการไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่อยู่ในธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ซึ่งเป็นถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติเพียงแห่งเดียวที่สามารถเข้าไปชมได้เมื่อไม่ใช่ฤดูหนาว ดังนั้นห้ามพลาดเป็นอันขาด

ที่สกาฟตาเฟลคุณสามารถใช้เวลาชื่นชมกับความงดงามของสถานที่และเพลิดเพลินกับกิจกรรมสนุกตื่นเต้น หากคุณชอบการเดินขึ้นเขา คุณจะเจอเส้นทางเดินขึ้นเขาสวยๆ มากมายนับไม่ถ้วนที่เหมาะสำหรับนักเดินเขาทุกระดับทั้งผู้ที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ รวมถึงทางขึ้นไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) นอกจากนี้คุณยังสามารถสวมรองเท้าตะปูแล้วไปปีนธารน้ำแข็งแถวนี้ได้ด้วย

เมื่อขับรถต่อไปบนถนนคุณจะได้เจอกับหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ นั่นก็คือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ที่นี่คุณสามารถเลือกซื้อทัวร์ล่องเรือในทะเลสาบเพื่อชมความงามของภูเขาน้ำแข็งหลากหลายรูปร่างและขนาดที่ลอยอยู่ในนั้นแบบใกล้ชิดมากๆ โดยมีให้เลือกทั้งเรือสะเทินน้ำสะเทินบกและเรือท้องแบนโซดิแอก

แม้จะชมจากบนชายฝั่งทะเลสาบแห่งนี้ก็งดงามไร้ที่ติ และไม่แน่คุณอาจโชคดีได้เห็นแมวน้ำน่ารักๆ ออกมาเล่นบนน้ำแข็งก็ได้ หลังจากเพลิดเพลินกับทะเลสาบจนพอใจแล้ว ให้เดินต่อไปอีกหน่อยเพื่อไปยังหาดไดมอนด์บีชที่อยู่ใกล้ๆ กัน ที่บนหาดนี้มีก้อนน้ำแข็งถูกพัดมาเกยตื้นมากมายและเมื่อมีแสงแดดส่องมากระทบพวกมันก็จะสะท้อนแสงเป็นประกายวิบวับราวกับเป็นจิวเวลรี่ล้ำค่า

จากนั้นคุณจะขับรถต่อไปเพื่อมุ่งหน้าเข้าไปพักในเมืองน่ารักๆ ที่ชื่อว่าเฮิฟน์ (Höfn)

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 4 - ฟยอร์ดตะวันออก

Day 4

วันที่ 4 - ฟยอร์ดตะวันออก

  • ฟยอร์ดตะวันออก
  • More
  • Vestrahorn
  • เฮงกิฟอสส์
  • Hallormsstadaskogur Forest
  • วอปนาฟยอร์ดูร์
  • More

ในวันที่สี่นี้คุณจะต้องขับรถไปบนเส้นทางขึ้นลงเขาและจะผ่านฟยอร์ดจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ ฟยอร์ดแต่ละแห่งดูเหมือนว่าจะมีจิตวิญญาณของตัวเองและมีความงดงามที่แทบจะทำให้คุณลืมหายใจกันเลยทีเดียว

ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajokull) อันยิ่งใหญ่นั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกโดยสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเมื่อคุณข้ามเทือกเขาสูงในตอนที่มุ่งหน้าไปทางเหนือ ระหว่างทางจะมีหมู่บ้านชาวประมงอันเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ตามแบบชนบทอยู่มากมายหลายแห่ง ซึ่งเหมาะสำหรับแวะพักระยะสั้นๆ เพื่อทักทายทำความรู้จักคุ้นเคยกับชาวบ้านในท้องถิ่นและเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวไอซ์แลนด์เพิ่มเติม

เมื่อมาถึงฟยอร์ดทางตะวันออก คุณจะเห็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความงามตามธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งที่มักถูกมองข้ามโดยผู้มาเยือน ที่นี่เป็นแนวชายฝั่งทอดยาว 75 ไมล์ (120 กิโลเมตร) จากเบรูฟยอร์ดูร์ (Berufjordur) ทางตอนใต้ยาวไปถึงหมู่บ้านชาวประมงบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ เอสตรี (Borgarfjordur Eystri) ทางตอนเหนือ

ขณะที่คุณเที่ยวชมฟยอร์ดตะวันออก คุณจะได้เห็นป่าทึบ ทะเลสาบระยิบระยับ ฟาร์มแบบดั้งเดิม หมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ห่างไกล และทิวทัศน์ที่สวยงาม

จุดแวะพักที่สำคัญแห่งหนึ่งในพื้นที่นี้คือเมืองเอกิลสตาดิร์ (Egilsstadir) ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ตะวันออก เป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งในภูมิภาคที่คุณจะได้พบกับบริการต่างๆ

คุณจะพบพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร และปั๊มน้ำมันได้ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีสนามบิน ซึ่งการนั่งเครื่องจะทำให้ผู้ที่ไม่มีใบขับขี่ก็สามารถไปสำรวจฟยอร์ดทางตะวันออกได้

เมืองนี้มีกิจกรรมมากมาย เช่น การเดินป่าและเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม หลังจากเดินป่า แนะนำให้ไปแวะ Vok baths สปาความร้อนใต้พิภพที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ตะวันออก ที่นี่มีสระว่ายน้ำ 2 สระที่มองเห็นวิวสระน้ำร้อน และห้องซาวน่า

ต่อไป คุณจะขับรถไปที่ฮาลลอร์มสตาดาร์สโกกูร์ (Hallormstadarskogur) ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ที่นี่คุณจะพบกับสัตว์ป่า เส้นทางเดินป่า และพันธุ์ไม้นานาชนิด ต้นไม้เหล่านี้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 286 ตารางไมล์ (740 ตารางกิโลเมตร)

หากคุณจะเดินทางไปในเดือนมิถุนายน แนะนำให้ไปงาน “วันป่าไม้” (Forest Day) ซึ่งมีการเฉลิมฉลองและกิจกรรมต่างๆ ดนตรีหีบเพลง และการประกวดต้นเบิร์ช

ฟยอร์ดทางตะวันออกนั้นเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ เป็นสถานที่ดูนกที่มีนกหลากหลายสายพันธุ์ให้เห็นและยังมีอาณาจักรแมวน้ำด้วย และคุณสามารถไปดูนกพัฟฟินในบริเวณท่าจอดเรือของบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ เอสทรี ซึ่งเป็นสวรรค์สำหรับนกพัฟฟิน

ยิ่งไปกว่านั้น ทางตะวันออกยังเป็นที่เดียวในประเทศที่คุณสามารถพบเจอกับฝูงกวางเรนเดียร์ป่าได้ คุณสามารถไปเที่ยวเซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seydisfjordur) ซึ่งเป็นเมืองที่ดีที่สุดในการชมกวางเรนเดียร์ป่า แต่โปรดทราบว่าสัตว์เหล่านี้มักจะเดินทางเป็นฝูงและตื่นตระหนกได้ง่าย

หลังจากขับรถจนเหนื่อย คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่เอกิลสตาดิร์หรือหมู่บ้านใกล้เคียง

 

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 5 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์เหนือ

Day 5

วันที่ 5 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์เหนือ

  • คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์เหนือ
  • More
  • Lake Myvatn Area
  • Borgarfjordur eystri fjord and valley
  • น้ำตกเดตติฟอสส์
  • น้ำตกโกดาฟอสส์
  • More

ในวันที่ห้าคุณจะมุ่งหน้าขึ้นเหนือเพื่อไปยังทะเลสาบมิวาทน์ (Myvatn) อันโด่งดัง ซึ่งขอแนะนำว่าให้คุณขับรถผ่านเข้าไปในโจกุลซาร์กลูฟูร์ (Jokulsargljufur) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลและระหว่างทางให้แวะชมน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในทวีปยุโรปด้วย

ทะเลสาบมิวาทน์มีความสวยงามมาก โดยเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งพลังงานใต้พิภพอยู่ รวมถึงมีช่องเขาเนามัสการ์ด (Namaskard) ปล่องภูเขาไฟเทียมสกูตูสตาดากีการ์ (Skutustadagigar) แท่งลาวาดิมมูบอร์กิร์ (Dimmuborgir) และภูเขาไฟคราฟลา (Krafla) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์

ช่องเขาเนามัสการ์ดเป็นพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพที่อยู่ห่างจากทะเลสาบมิวาทน์ประมาณ 14 กิโลเมตร ที่นี่มีเนินที่ไม่มีพืชพรรณขึ้นเลยเนื่องจากความร้อนและความเป็นกรดของดิน แต่บนผืนดินและรอบๆ น้ำพุร้อนจะมีแถบริ้วหลากสีสันสวยงามให้ชม

สีสันที่สดใส เช่น เหลือง เขียว แดง และส้ม ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีชีวิตชีวาและมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ คุณยังจะได้กลิ่นกำมะถันอบอวลคลุ้งในอากาศด้วย ซึ่งไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพใดๆ เนื่องจากคุณจะอยู่เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

ส่วนสกูตูสตาดากีการ์เป็นปล่องภูเขาไฟเทียมที่อยู่ห่างจากทะเลสาบมิวาทน์ประมาณ 17 กิโลเมตร ซึ่งธรรมชาติของเขตภูเขาไฟและการเกิดทะเลสาบขึ้นในบริเวณนี้ได้ส่งผลให้เกิดเป็นปล่องภูเขาไฟเทียมเหล่านี้ขึ้น 

เมื่อภูเขาไฟลูเดนตาบอร์กิร์ (Ludentaborgir) และเธรงสลาบอร์กิร์ (Threngslaborgir) ปะทุขึ้นเมื่อประมาณ 2,300 ปีที่แล้ว ลาวาได้ไหลผ่านสกูตูสตาดากีการ์และเนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ความร้อนของลาวาทำให้เกิดการปะทุของไอน้ำซึ่งนำไปสู่การก่อตัวของหลุมปากปล่องเทียม

สิ่งที่น่าชมที่สุดในบริเวณนี้ก็คือภูเขาคราฟลา (Mount Krafla) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่โดดเด่นที่สุดของประเทศ ที่นี่เป็นแอ่งภูเขาไฟที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูเขาไฟคราฟลา และตั้งอยู่ห่างจากทะเลสาบมิวาทน์ประมาณ 24 กิโลเมตร

แอ่งภูเขาไฟมีขนาดกว้างประมาณ 10 กิโลเมตร ในขณะที่บริเวณรอยแยกขยายออกไปประมาณ 56 ไมล์ (90 กิโลเมตร) ที่น่าสนใจคือบริเวณรอยแยกเป็นที่ที่คุณจะได้พบกับปล่องภูเขาไฟวิติ (Viti) และทะเลสาบสีเขียวอันเลื่องชื่อ

สำหรับกิจกรรมอื่นๆ ที่ควรไปทำ อาทิ เข้าร่วมทัวร์ชมวาฬที่ฮูสาวิก (Husavik) ที่อยู่ใกล้เคียง พื้นที่นี้ถือเป็นเมืองหลวงแห่งการชมวาฬของยุโรป โดยส่วนใหญ่จะมีอัตราการพบเห็นวาฬ 100% ตลอดช่วงฤดูร้อน

ฮูสาวิกมีอ่าวสกาลฟานดิ (Skjalfandi) ซึ่งในบริเวณที่น้ำตื้นนั้นเป็นสถานที่หากินของวาฬหลังค่อม และคุณยังสามารถเลือกอัปเกรดความสนุกได้ด้วยการเลือกไปกับทัวร์ล่องเรือยางท้องแบนเพื่อให้เหมาะกับการดูนกพัฟฟินด้วย

จากนั้นคุณค่อยไปแช่ตัวในน้ำร้อนที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Myvatn Nature Baths) ซึ่งเป็นวิธีการผ่อนคลายแสนวิเศษหลังจากที่เที่ยวกันมาทั้งวัน อ่างน้ำร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่รอบๆ ทะเลสาบลากูนขนาดใหญ่ และมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันตั้งแต่ 36° to 40° องศาเซลเซียส

ต่อจากนั้นคุณจะเดินทางไปยังอาคูเรย์ริ (Akureyri) เมืองหลวงอันทรงเสน่ห์ของทางเหนือ และคุณจะพักค้างคืนที่เมืองนี้

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 6 - Northwest Iceland

Day 6

วันที่ 6 - Northwest Iceland

  • Northwest Iceland
  • More
  • คาบสมุทรโทรลล์
  • ฮอลา รี ฮยาลตาดาล
  • More

วันที่หกคุณจะใช้เวลาช่วงเช้าที่ในอาคูเรย์ริ (Akureyri) เมืองทรงเสน่ห์ที่มีร้านค้าเก๋ๆ และพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ให้เที่ยวชมหลายแห่ง นอกจากนี้ในอาคูเรยยี่ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ที่น่าไปเดินเที่ยวมากๆ เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของโลก

อาคูเรย์ริถือเป็น "เมืองหลวงของภาคเหนือ" มีประชากรมากเป็นอันดับสองในไอซ์แลนด์ เมืองนี้อยู่ห่างจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลประมาณ 62 ไมล์ (100 กิโลเมตร) และเป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและมีการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์

นอกจากนี้ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ที่อยู่เหนือสุดของโลกด้วย ซึ่งคุ้มค่าแก่การเดินชม สวนพฤกษศาสตร์อาคูเรย์ริครอบคลุมพื้นที่ 3,000 เฮกตาร์และมีพืชกว่า 7,000 สายพันธุ์ ตั้งแต่สวนเปิดในปี 1957 สวนแห่งนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองอาคูเรย์ริในช่วงฤดูร้อน

เช่นเดียวกับเมืองฮูสาวิก (Husavik) เมืองอาคูเรย์ริก็เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมวาฬ คุณอาจเข้าร่วมทัวร์ชมวาฬในใจกลางเมืองอาคูเรย์ริและออกไปดูวาฬหลังค่อมแหวกว่ายในทะเล ให้อาหารและดูพวกมันกระโดดและแพนหางโชว์อย่างร่าเริง

หรือคุณอาจจะขับรถไปสปาเบียร์ที่บียอร์บอดิน (Bjorbodin Beer Spa) ในอาร์สโกซานดูร์ (Arskogssandur) ซึ่งอยู่ห่างจากอาคูเรย์ริออกไปประมาณ 35 กิโลเมตร เพราะแทนที่จะแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนแบบดั้งเดิม ที่นี่คุณจะได้แช่เบียร์อุ่นๆ (Young beer) ที่ประกอบไปด้วยยีสต์ที่ยังมีชีวิตที่ในขณะที่เพลิดเพลินกับการจิบเบียร์ไปพลางๆ ระหว่างแช่น้ำด้วย

เมื่อคุณท่องเที่ยวในเมืองอย่างคุ้มค่าที่สุดแล้ว ให้คุณออกไปสำรวจคาบสมุทรโทรลลาสกากิ (Trollaskagi) ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์นอกพื้นที่ไฮแลนด์ในตอนกลางของประเทศ ท่ามกลางภูเขามากมายบนคาบสมุทรโทรลลาสกากิ ภูเขาเคอร์ลิง (Mount Kerling) เป็นภูเขาที่สูงที่สุด

เขาลูกนี้มีความสูง 5,064 ฟุต (1,538 เมตร) และเป็นเขาหินบะซอลต์ อย่างไรก็ตาม ส่วนบนสุดของภูเขาเคอร์ลิงประกอบด้วยแร่ไรโอไลต์ ซึ่งแผ่ขยายไปถึงภูเขาซูลูร์ (Mount Sulur) และภูเขาวินด์เฮมาโจกุลล์ (Vindheimajokull) ที่อยู่ใกล้เคียงด้วย

นอกจากภูมิประเทศอันงดงามแล้ว คาบสมุทรโทรลลาสกากิยังมีชื่อเสียงเรื่องม้าไอซ์แลนด์อีกด้วย แถบนี้เป็นที่ตั้งของฟาร์มม้าหลายแห่งซึ่งให้บริการทริปขี่ม้าแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งม้าไอซ์แลนด์นั้นจะแตกต่างจากม้าทั่วไปเล็กน้อย

โดยม้าไอซ์แลนด์จะมีขนาดเล็กกว่าม้าทั่วไป และมีท่าเดินและท่ายืนที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ยังกล่าวกันว่าพวกมันมีความแข็งแกร่ง อยากรู้อยากเห็น และฉลาดแสนรู้มากกว่า จนทำให้ผู้ที่ได้ขี่ม้าเหล่านี้ตกหลุมรักพวกมันได้ไม่ยาก

จากนั้นเดินทางกันต่อเพื่อไปยังสกากาฟยอร์ดูร์ (Skagafjordur) หุบเขาที่ได้ชื่อว่ามีม้าไอซ์แลนด์มากมาย (ซึ่งคุณสามารถขี่ม้าได้อีก) คุณจะผ่านพื้นที่ภูเขาที่สวยงามของโทรลลาสกากิ ผ่านหมู่บ้านซิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjordur) ซึ่งเป็นหมู่บ้านประมงปลาแฮร์ริ่งเก่าแก่ และผ่านฮอฟซอส (Hofsos) ซึ่งคุณจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามขณะผ่อนคลายในสระน้ำร้อนแบบอินฟินิตี้พูล ซึ่งใช้ประโยชน์จากพลังงานความร้อนใต้พิภพ

ซิกลูฟยอร์ดูร์เป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือสุดบนแผ่นดินใหญ่ของไอซ์แลนด์และเคยเป็นศูนย์กลางการตกปลาแฮร์ริ่งของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ส่วนฮอฟซอสนั้นเป็นแหล่งค้าขายเก่าแก่ที่มีอายุย้อนไปถึงช่วงปี 1500 และปัจจุบันมีสระว่ายน้ำที่สร้างชื่อเสียงกับเมือง

เมื่อสิ้นสุดวันที่แสนเหน็ดเหนื่อยแต่น่าตื่นเต้น คุณจะไปพักค้างคืนในบริเวณใกล้ๆ กับเซยดาร์โกรกูร์ (Saudarkrokur)

 

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 7 - เรคยาวิก

Day 7

วันที่ 7 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก
  • More
  • น้ำพุร้อนเดลตาร์ตุงกูแวร์
  • น้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์และน้ำตกบาร์นาฟอสส์
  • แหล่งประวัติศาสตร์เรคโฮลท์
  • ชั้นหินบะซอลต์และซากปรักหักพังที่บอร์การ์วิร์กิ
  • กองหินฮวิทแซร์กูร์
  • Borg a Myrum church and farm
  • More

ในวันที่เจ็ดคุณจะสำรวจทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายมาก รวมถึงไอซ์แลนดิกเซตเทิลเมนต์เซ็นเตอร์ในบอร์การ์เนส (Borgarnes) ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์ และเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) น้ำพุร้อนซึ่งมีปริมาณน้ำไหลมากที่สุดในยุโรป และคุณห้ามพลาดไปที่น้ำตกเฮินฟอซซ่าและน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Hraunfossar & Barnafoss) ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกหน่อยด้วย

Icelandic Settlement Center ที่อยู่ในบอร์การ์เนสเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการสำคัญ 2 งาน ได้แก่ Age of Settlement และ Egil Skallagrímsson กวีไวกิ้งซึ่งเป็นตัวเอกในซากาของไอซ์แลนด์เรื่อง Egil

นอกจากนี้ อย่าลืมแวะชมน้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) อันสวยงามด้วย น้ำตกเฮินฟอซซาร์เป็นน้ำตกหลายๆ อันที่ไหลมาจากทุ่งลาวาฮัลล์มุนดาร์เฮิร์น (Hallmundarhraun) และโขดหินในลาวาก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำฮวิทา (Hvita)

หลังจากตรวจสอบเฮินฟอสซาร์แล้ว ให้เดินไปที่น้ำตกบาร์นาฟอสส์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 15 เมตร บาร์นาฟอสส์เป็นน้ำตกที่ไหลเชี่ยวและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงเรื่องเล่าพื้นบ้านที่น่าสนใจ

ผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์อาจจะออกนอกเส้นทางไปเล็กน้อยเพื่อไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สนอร์ราสโทฟา (Snorrastofa Museum) ซึ่งเป็นสถาบันค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับยุคกลางที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเรย์คอลท์ (Reykholt) เดิมเคยเป็นที่อยู่ของสนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) ชาวไวกิงผู้เป็นทั้งกวี นักการเมือง และนักประวัติศาสตร์ เขาเป็นผู้ที่แต่งนิยายซากาเรื่องฮีมสกรินก์กา (Heimskringla) ขึ้นในศตวรรษที่ 13 และยังเป็นผู้ประพันธ์บทร้อยแก้วเอดดา (Edda) ที่เปรียบเสมือนไบเบิลแห่งเทพปกรณัมนอร์สโบราณด้วย

ถ้าหากคุณมีเวลาเหลือคุณสามารถเลือกไปผจญภัยในถ้ำที่อุโมงค์ลาวาวิดเกลมิร์ (Vidgelmir) หรือไปผจญภัยในอุโมงค์น้ำแข็งที่ลางโจกุล (Langjokull) ซึ่งเป็นอุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยก็ได้ อุโมงค์เหล่านี้ตั้งอยู่ในส่วนที่มั่นคงที่สุดของลางโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์

การเข้าไปในอุโมงค์นั้นเหมือนกับการเข้าไปในสถานที่ที่มีมนต์ขลัง พื้นผิวที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดของธารน้ำแข็งจะทำให้คุณต้องตกตะลึง เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนสุดของพื้นที่แล้ว คุณจะได้เห็นภูเขาสูงตระหง่านตระการตา

คุณยังสามารถเพิ่มกิจกรรม “อินทูเดอะโวลเคโน” เข้าไปในวันนี้ได้เหมือนกันซึ่งทัวร์นี้จะพาคุณลงไปดูโถงลาวาสีสวยที่ทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Thrihnukagigur) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้วและภายในมีโถงแมกม่าขนาดใหญ่ที่มีความลึก 699 ฟุต (213 เมตร) ที่น่าสนใจคือมันเป็นโถงแมกม่าแห่งเดียวในโลกที่คนสามารถเข้าไปได้

ระหว่างทางกลับเรคยาวิก แวะพักสั้นๆ ที่ฟอสซาตุน (Fossatun) ก่อนที่จะพักผ่อนเป็นคืนสุดท้ายในเมืองหลวง ฟอสซาตุนเป็นน้ำตกที่ว่ากันว่ามีโทรลล์หญิงชื่อดรีฟา (Drifa) ปกปักรักษาอยู่

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 8 - เรคยาวิก

Day 8

วันที่ 8 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก - Departure Day
  • More
  • เคลฟาร์วาทน์
  • ครีซูวิก
  • กุนนูฮแวร์
  • More

วันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์ คุณจะนำรถไปส่งคืนที่สนามบินเคฟลาวิกให้ทันเวลาออกเดินทาง
หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงท้ายๆ วันและคุณเลือกที่จะไปบลูลากูนในวันนี้ คุณจะได้ผ่อนคลายร่างกายให้สบายก่อนที่จะไปสนามบิน บลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำอุ่นที่อุดมด้วยแร่ธาตุ และนึกย้อนกลับไปถึงการผจญภัยอันเหลือเชื่อที่คุณเพิ่งไปพบมาในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง

นอกจากนี้ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่คุณสามารถทำได้ในเรคยาวิก

คุณสามารถไปช้อปปิ้งในนาทีสุดท้าย หรือไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม เช่น ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮออล์ (Harpa Concert Hall and Conference Center) พิพิธภัณฑ์และจุดชมวิวที่เพอร์ลาน (Perlan) และโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja)

หากเที่ยวบินของคุณออกเดินทางแต่เช้า เราหวังว่าคุณจะสนุกกับทริปไอซ์แลนด์และขอให้คุณมีความสุขในการเดินทาง

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

สิ่งที่ควรนำไป

ใบขับขี่
เสื้อผ้าที่อบอุ่น
ชุดว่ายน้ำ
กล้องถ่ายรูป

สิ่งที่ควรรู้

ทัวร์ขับรถเที่ยวด้วยตัวเองสามารถเริ่มออกเดินทางได้ทั้งจากในตัวเมืองเรคยาวิกและจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ทั้งนี้คนขับจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนถนนอย่างน้อย 1 ปี อย่างไรก็ตามรายละเอียดการเดินทางที่คุณได้รับอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย

แม้ว่าคุณจะมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน แต่อากาศในไอซ์แลนด์นั้นก็ยากที่จะคาดเดาได้ถูก ดังนั้นกรุณาเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมติดตัวมาเผื่อด้วย

กิจกรรมเสริมต่างๆ จะไม่ได้รวมอยู่ในราคาเออร์ลีเบิร์ด แต่คุณก็จะได้รับส่วนลดพิเศษสำหรับกิจกรรมเสริมที่คุณเลือกเพิ่มเข้าไปในทริปเมื่อคุณจองแพ็กเกจขับรถกับเรา ดังนั้นคุณไม่ควรพลาดที่จะเพิ่มกิจกรรมสนุกๆ ในราคาพิเศษเข้าไปในทริปครั้งนี้ด้วย.

อ่านเพิ่ม

วิดีโอ

รีวิวที่รับรองแล้ว

แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด