คู่มือท่องเที่ยว ภูเขาเฮลกาเฟลล์

เฮลกาเฟลล์ (Helgafell) เป็นภูเขาสูง 73 เมตร ติดกับฟาร์มและโบสถ์ที่มีชื่อเดียวกัน เขาลูกนี้มีตำนานเล่าขานว่าหากผู้ใดปีนขึ้นไปอย่างถูกต้องก็จะได้รับพรให้สมปรารถนา

ภาพจาก Regína Hrönn

ภูเขาเฮลกาเฟลล์ ตั้งอยู่บนธอร์สเนสทางใต้ของสติกกิชโฮลมูร์บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส วิธีที่ยอดเยี่ยมในการเยี่ยมชมบริเวณนี้คือการขับรถเที่ยวเอง เช่น แพ็คเกจทัวร์ขับรถเที่ยวเองแบบประหยัด 7 วันบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสและชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์

ภูเขานี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนกลับไปถึงการตั้งถิ่นฐานในประเทศไอซ์แลนด์ และคนในพื้นที่จำนวนมากถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ประเพณีอย่างหนึ่งของเฮลกาเฟลล์คือการปีนขึ้นไปบนเนินเขาโดยไม่หันกลับมามอง จากนั้นให้ขอพรที่ด้านบน แล้วปีนลงโดยไม่หันกลับมามอง หลังจากทำเช่นนั้น ว่ากันว่าความปรารถนาของคุณจะเป็นจริง

ไม่ว่าความเชื่อโชคลางจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม นักท่องเที่ยวที่ปีนขึ้นไปบนเนินเขาจะได้รับรางวัลเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามของพื้นที่โดยรอบ รวมถึงอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์ที่สวยงามด้วย

ศาสนาและประวัติศาสตร์ของเฮลกาเฟลล์

ใน Landnamabok ซึ่งเป็นงานเขียนยุคกลางที่บรรยายถึงการตั้งถิ่นฐานของไอซ์แลนด์ในศตวรรษที่ 9 และ 10 ชายคนหนึ่งชื่อ Thorolfr Mostrarskegg ได้ตั้งรกรากอยู่ใกล้เฮลกาเฟลล์ Thorolfr เป็นคนนอกรีตและตั้งชื่อคาบสมุทรตามธอร์ เทพเจ้าแห่งฟ้าร้องของชาวนอร์ส Thorolfr ถือว่าภูเขาเฮลกาเฟลล์ศักดิ์สิทธิ์ และออกคำสั่งว่าไม่ควรให้มนุษย์มองไปที่ภูเขาโดยที่ยังไม่ได้อาบน้ำ และไม่ควรฆ่าสิ่งใดบนภูเขา ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์

หลังจากที่ไอซ์แลนด์รับเอาศาสนาคริสต์เข้ามาในปี 1000 จึงมีการสร้างโบสถ์ขึ้นในเมืองเฮลกาเฟลล์ ซึ่งโบสถ์ปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1903 ในช่วงยุคกลาง มีพระอารามออกัสติเนียนตั้งอยู่ที่นั่นด้วย ซึ่งเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับทางตะวันตกของไอซ์แลนด์

• ดูเพิ่มเติม: ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฮลกาเฟลล์บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสและพร 3 ประการ

ภาพจาก Regína Hrönn

กิจกรรมน่าสนใจในเฮลกาเฟลล์

การไปเยือนยอดเขาเฮลกาเฟลล์เป็นการเดินป่าที่ค่อนข้างง่าย แต่นักท่องเที่ยวควรสวมรองเท้าเดินป่าที่เหมาะสม และเคารพความสำคัญทางวัฒนธรรมของสถานที่นี้ บนยอดเฮลกาเฟลล์ นักเดินป่าจะได้รับรางวัลเป็นทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์และคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส บนยอดเขามีป้ายวงกลมให้ข้อมูลที่แสดงชื่อและความสูงของภูเขาทั้งหมดในพื้นที่โดยรอบด้วย นอกจากนี้ยังพบกองหินเล็กๆ อยู่ที่นั่นด้วย ซึ่งเชื่อกันว่ามาจากโบสถ์ของพระอารามออกัสติเนียน

เมื่ออยู่ในพื้นที่นี้ การไปเยี่ยมชมโบสถ์เล็กๆ แต่มีเสน่ห์ก็คุ้มค่าเช่นกัน บางคนเชื่อว่า Gudrun Osvifursdottir หนึ่งในวีรสตรีจากเทพนิยายไอซ์แลนด์ถูกฝังอยู่ที่นั่น

แนะนำให้เยี่ยมชมเมืองสติกกิชโฮลมูร์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ไมล์ด้วย เมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้มีบ้านหลากสีสันและท่าเรือที่งดงาม การเดินเล่นรอบๆ สติกกิชโฮลมูร์ถือเป็นวิธีใช้เวลายามบ่ายที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังมีทัวร์ดีๆ หลายโปรแกรที่ออกเดินทางจากเมืองนี้ เช่น ทัวร์ชมนกพัฟฟินบนอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์

นอกจากนี้ ภูเขาคิร์กจูเฟลล์และพื้นที่ชายฝั่งต่างๆ ในภูมิภาคยังมีอะไรให้เที่ยวชมเพิ่มเติมอีกมาก