คู่มือเที่ยวธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์

คู่มือเที่ยวธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์

Euihwan Choi
โดย Euihwan Choi
ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง
ไปที่เรื่อง

 

เพลิดเพลินกับความมหัศจรรย์ของธารน้ำแข็งยุคโบราณซึ่งเป็นทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่และงดงามของไอซ์แลนด์ สัมผัสประสบการณ์การไฮกิ้งขึ้นไปชมสิ่งมหัศจรรย์ที่หาชมได้ยาก เดินสำรวจตามรอยแยกบนผืนน้ำแข็ง และปีนป่ายขึ้นไปบนกำแพงน้ำแข็ง ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากสถานที่อื่นในโลกใบนี้อีกแล้ว แต่สำหรับที่ไอซ์แลนด์ทุกอย่างนี้อยู่รายล้อมตัวคุณ รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตนเองอยู่ อ่านบทความนี้เพื่อศึกษาทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้ในการมาเที่ยวธารน้ำแข็งที่ไอซ์แลนด์ 



ผืนธารน้ำแข็ง หรือกลาเซียร์ที่ไอซ์แลนด์นั้นงดงามจับใจราวกับอยู่ในโลกแห่งความฝัน และยังมอบความสนุกตื่นเต้นให้คุณด้วย ทั้งกำแพงที่เกิดจากปุยหิมะสีขาวละเอียด ลายเส้นต่างๆ ของขี้เถ้าสีดำ ลวดลายบนแผ่นน้ำแข็งที่เป็นสีน้ำเงินเข้ม และรอยแยกคดเคี้ยวราวกับงูเลื้อยที่ตัดผ่านบนผืนน้ำแข็ง อีกทั้งเสียงของน้ำแข็งที่คำรามอยู่ใต้ฝ่าเท้าของคุณ ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ธารน้ำแข็งเหล่านี้เหมือนกับเป็นสถานที่ที่เกิดขึ้นมาจากอภินิหารยังไงยังงั้น

บางส่วนของธารน้ำแข็งสามารถเข้าได้เฉพาะรถมอนสเตอร์ทรักแบบนี้

จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ทัวร์กลาเซียร์จะเป็นประสบการณ์น่าตื่นตาตื่นใจและได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไอซ์แลนด์ เนื่องจากทัวร์เหล่านี้มีความสนุกสนาน และบนพืดน้ำแข็งยังมีความแอดเวนเจอร์ให้ได้ตื่นเต้นเร้าใจกันตลอดเวลาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการไฮกิ้งบนกลาเซียร์ ปีนน้ำแข็ง ขี่สโนว์โมบิล สำรวจถ้ำน้ำแข็ง หรือแม้กระทั่งอุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นเลียนแบบ

สำหรับผู้ที่ไม่เคยมาไอซ์แลนด์ และไม่เคยได้สัมผัสธารน้ำแข็งมาก่อน ทุกอย่างอาจฟังดูเป็นเรื่องท้าทาย และคุณอาจเกิดคำถามมากมาย เช่น ทัวร์กลาเซียร์มีความปลอดภัยหรือเปล่า การไฮกิ้งบนกลาเซียร์นั้นจำเป็นต้องมีประสบการณ์หรือต้องมีอุปกรณ์อะไรมาด้วยไหม ควรเลือกไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งหรือขี่สโนว์โมบิลในไอซ์แลนด์ดี หรือแม้กระทั่งกลาเซียร์คืออะไร คำถามเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ และในคู่มือฉบับนี้เราก็มีคำตอบให้กับทุกคำถามแล้ว

กลาเซียร์คืออะไร              

ธารน้ำแข็งสวยงามอย่างแปลกประหลาดด้วยการก่อตัวของน้ำแข็งและสีสันอันสดใสเครดิตภาพ: ทัวร์ไฮกิ้งบนกลาเซียร์ & ปีนน้ำแข็งออกเดินทางจากเรคยาวิก 

กลาเซียร์ เป็นมวลน้ำแข็งที่มีให้เห็นตลอดทั้งปีและพวกมันมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดภายใต้น้ำหนักอันมหาศาล ในพื้นที่ที่มีปริมาณหิมะที่ตกลงมามากกว่าปริมาณหิมะที่ละลาย หิมะจะค่อยๆ สะสมตัวอย่างช้าๆ จนกลายเป็นผืนเดียวกัน ซึ่งมักจะใช้เวลานานหลายร้อยปีและมักจะเกิดขึ้นที่บริเวณเทือกเขาและในแถบขั้วโลก



มีหลายสาเหตุที่ทำให้กลาเซียร์เคลื่อนตัว ไม่ว่าจะเป็นแรงโน้มถ่วงที่ดึงพวกมันลงด้านล่าง หรือเพราะน้ำหนักมหาศาลของมวลน้ำแข็งที่ทำให้พวกมันเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างอยู่ข้างใน หรือเพราะผืนดินข้างใต้นั้นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำจนทำให้พวกมันลื่นและเคลื่อนที่ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ธารน้ำแข็งมีความแตกต่างไปจากทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็งหรือทะเลที่กลายเป็นน้ำแข็ง

คำว่า “ครอบน้ำแข็งหรือพืดน้ำแข็ง” (Ice Cap) หมายถึงกลาเซียร์ หรือกลาเซียร์ที่อยู่ติดๆ กันบนพื้นที่น้อยกว่า 50,000 ตารางกิโลเมตร กลาเซียร์ทุกแห่งในไอซ์แลนด์จัดอยู่ในประเภทนี้ ส่วน “แผ่นธารน้ำแข็ง” (Ice Sheet) เป็นกลาเซียร์ที่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้างกว่า และสามารถพบได้เฉพาะที่ในแอนตาร์กติกและกรีนแลนด์ 

การเคลื่อนที่ของธารน้ำแข็งทำให้เกิดแรงดึงบนพื้นผิวด้านบนจนทำให้เกิดการแตกและเกิดเป็นรอยแยกขึ้นเครดิตภาพ: เฮลิคอปเตอร์ทัวร์-ปีนกลาเซียร์แบบวันเดียว ออกเดินทางจากเรคยาวิก

กลาเซียร์บางแห่งมีการหดตัวและคาดว่าจะหายไปภายในอีกไม่กี่ปี ในขณะที่อีกหลายแหล่งยังคงขยายตัวอยู่ บางแห่งนั้นมีส่วนประกอบของน้ำจืดทั้งหมด แต่บางแห่งก็เป็นร็อกกลาเซียร์ ซึ่งมีตะกอนและเศษหินทับถมกลายเป็นน้ำแข็งอยู่ด้วย

ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่เหมาะมากสำหรับการมาเที่ยวธารน้ำแข็ง เพราะไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่อยู่ระหว่างซีกโลกร้อนกับขั้วโลก โดย 11% ของดินแดนแห่งนี้นั้นมีธารน้ำแข็งปกคลุมอยู่

ธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์                  

แม้ว่าอยู่ใต้วงกลมอาร์กติก พื้นที่มากกว่า 10% ของไอซ์แลนด์ก็ถูกน้ำแข็งปกคลุมและมองเห็นได้ชัดเจนจากนอกโลกเครดิตภาพ: Wikimedia, Creative Commons

สภาพอากาศที่หนาวเย็นและเปียกชื้นของไอซ์แลนด์ และภูเขาที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการก่อตัวของธารน้ำแข็ง ทั่วทั้งไอซ์แลนด์นั้นจึงมีธารน้ำแข็งให้เห็นมากมาย และหลายแห่งก็อยู่ใกล้กับเรคยาวิก (Reykjavík) มาก ซึ่งรวมถึงวัทนาโจกุล (Vatnajökull) และลางโจกุล (Langjökull) ธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรป

กลาเซียร์ของไอซ์แลนด์มีความพิเศษอยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือสีสัน กลาเซียร์ที่แท้จริง (หมายถึงแบบที่ไม่ใช่กลาเซียร์ที่มีหินปนอยู่) จะมีสีขาวสะอาดตาเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากเป็นส่วนประกอบของหิมะที่อัดแน่นล้วนๆ 

เมื่อน้ำแข็งเปลี่ยนรูปภายใต้ความกดดันที่รุนแรง พวกมันจะอัดตัวแน่นและผลักดันเอาอนุภาคของอากาศออกมาจนหมดสิ้น ทำให้บางส่วนของธารน้ำแข็งมีสีน้ำเงินเข้มจนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนและดูไม่เหมือนกับเป็นของที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเนื่องจากที่ไอซ์แลนด์มีภูเขาไฟอยู่เยอะมากน้ำแข็งบางส่วนจึงมีขี้เถ้าสีดำเป็นริ้วๆ ปะปนให้เห็นด้วย ซึ่งบางจุดนั้นปรากฏขึ้นมาตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนแล้ว



ชั้นของหินในก้อนน้ำแข็งสามารถบอกให้นักวิทยาศาสตร์รู้ถึงสภาพของโลกในยุคต่างๆเครดิตภาพ: Wikimedia, Creative Commons, ภาพโดย David Elliott

เส้นสายที่เกิดจากเถ้าภูเขาไฟเหล่านี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ธารน้ำแข็งเป็นที่สนใจของเหล่านักวิทยาศาสตร์ เพราะพวกมันแช่แข็งประวัติศาสตร์เอาไว้ในน้ำแข็งเหล่านั้น และภายใต้ชั้นของน้ำแข็ง ผู้เชี่ยวชาญสามารถสืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศ เหตุการณ์ทางธรณีวิทยา และแม้แต่สิ่งมีชีวิตโบราณจากยุคก่อนหน้าได้ 

ถ้าจะพูดตามหลักก็คือกลาเซียร์พวกนี้มีอายุนับล้านๆ ปี ดังนั้นพวกมันมีความสำคัญมากในฐานะขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ของโลก ธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว และทุกวันนี้พวกมันยังคงเก็บรักษาความรู้ที่มีความสำคัญต่อมนุษยชาติเอาไว้เป็นอย่างดี 

เมื่อคุณไฮกิ้งขึ้นไปบนธารน้ำแข็งขอให้รู้ไว้ด้วยว่าน้ำแข็งใต้เท้าคุณนั้นโอบอุ้มประวัติศาสตร์เก่าแก่อายุหลายร้อยปีเอาไว้เครดิตภาพ: ทัวร์ปีนกลาเซียร์ที่สไนล์เฟลโจกุล

การลงไปสำรวจชั้นในรอยแยกบนน้ำแข็งแห่งประวัติศาสตร์เหล่านี้สามารถทำได้โดยที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับธารน้ำแข็ง เพราะรอยแยกเหล่านี้อยู่ลึกลงไปในแนวตั้งและขยายตัวเปิดกว้างอยู่แล้วอันเป็นผลมาจากการเคลื่อนตัวของธารน้ำแข็ง แต่ว่านักปีนกลาเซียร์มือสมัครเล่นจะไม่ได้ลงไปในรอยแยกเหล่านี้ หรือแม้แต่เฉียดเข้าไปใกล้พวกมันหรอก เพราะรอยแยกเหล่านี้สงวนไว้ให้เฉพาะนักวิทยาศาสตร์ที่มาทำวิจัยเท่านั้น 

แม้ว่าคุณจะไม่ได้ไปปีนหรือลงไปเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการเกิดขึ้นของโลกใบนี้ แต่รอยแยกพวกนี้ก็ถือว่ามีความน่าสนใจมาก พวกมันมองดูน่าตื่นเต้น น่าเกรงขาม และมีความสวยงามมากๆ สำหรับคนที่มีโอกาสได้ไปเดินดูรอบๆ รอยแยกเหล่านั้น พวกเขาบอกว่าเมื่ออยู่ใกล้จะได้ยินเสียงของโลกที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงสะท้อนขึ้นมาจากใต้ธารน้ำแข็งด้วย

น้ำที่เข้าไปในรอยแยกบนผืนน้ำแข็งมักจะหาทางกัดเซาะออกมาจากกลาเซียร์ได้เอง และนั่นทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างที่เรียกว่าถ้ำน้ำแข็ง การก่อกำเนิดอันพิสดารพันลึกของถ้ำน้ำแข็งส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ตั้งใจเดินทางมาที่ไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาวเพียงเพื่อต้องการมาเห็นความงดงามเหนือธรรมชาติของถ้ำน้ำแข็งเหล่านี้



ความงามของถ้ำน้ำแข็งที่ไอซ์แลนด์ต้องไปเห็นกับตาจึงจะเข้าใจ

สำหรับหลายๆ คนแล้วถ้ำน้ำแข็งเป็นที่สุดแห่งความงดงามที่พวกเขาต้องการมาสัมผัสให้เห็นกับตาที่ไอซ์แลนด์ แต่อย่างไรก็ตามถ้ำน้ำแข็งมีสภาวะที่ไม่แน่นอนและพวกมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นได้ทุกปีเสมอไป และก็ไม่ได้คงอยู่ให้เห็นตลอดไปด้วย

แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้หลงใหลได้ปลื้มกับถ้ำน้ำแข็งเท่าไหร่นักและไม่ได้ยกให้พวกมันเป็นสถานที่ที่สวยงามมากที่สุดในไอซ์แลนด์ คนกลุ่มนี้มักจะพร้อมใจกันมอบสายสะพายให้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökuksárlón glacier lagoon) แทน

ทะเลสาบธารน้ำแข็ง หรือทะเลสาบกลาเซียร์ เกิดขึ้นจากการที่ธารน้ำแข็งเกิดการเสื่อมสภาพและละลายเป็นน้ำ ทะเลสาบธารน้ำแข็งมักจะมีขนาดไม่ใหญ่และสกปรกเนื่องจากมีเศษตะกอนเศษหินที่แข็งตัวฝังอยู่ในน้ำแข็งปนอยู่ แต่ที่โจกุลซาลอนนั้นแตกต่างออกไป ทะเลสาบที่นี่มีขนาดใหญ่มาก มีน้ำเป็นสีฟ้างดงามและเต็มไปด้วยก้อนภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แตกตัวออกมาจากส่วนปลายของกลาเซียร์ลอยอยู่ในทะเลสาบ



ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น หนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์

ธารน้ำแข็งมีความสวยงามและสามารถเข้าถึงได้หลายรูปแบบจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกเกิดขึ้นมากมายเพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสความงดงามของธารน้ำแข็งในแบบที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา ตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่ ทัวร์ถ้ำน้ำแข็ง ทริปเที่ยวทะเลสาบธารน้ำแข็ง และทัวร์ขี่สโนว์โมบิล แต่ถ้าอยากชื่นชมความงามและเรียนรู้เกี่ยวกับธารน้ำแข็งอย่างเต็มรูปแบบ นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการไปไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งอีกแล้ว

ทัวร์กลาเซียร์ในไอซ์แลนด์ 

ไอซ์แลนด์มีพืดน้ำแข็งเยอะมากและมีวิธีเที่ยวชมกลาเซียร์ให้เลือกหลายวิธีเครดิตภาพ: เดินบนกลาเซียร์ที่วัทนาโจกุลแบบคนไม่พลุกพล่าน 

เมื่อหลับตาแล้วนึกภาพการเดินข้ามทุ่งน้ำแข็งกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา หลายคนอาจจะคิดว่าน่ากลัวไปนิด เพราะภาพที่ได้เห็นจากภาพยนตร์และทีวีมักจะแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมเหล่านี้ค่อนข้างอันตราย มีคนตกลงไปในร่องน้ำแข็งบ้างล่ะ ต้องให้คนอื่นเอาเชือกและตะขอมาช่วยฉุดดึงบ้างล่ะ หรือบ้างก็ลื่นไถลตกเหวไป ส่วนเพื่อนที่โชคดีหน่อยก็อาจจะห้อยต่องแต่งอยู่ริมหน้าผาด้วยขวานน้ำแข็งเพียงด้ามเดียว 

มุกดราม่าเหล่านี้ไม่เคยหมดไปจากบนผืนน้ำแข็งเลย

หากมีเครื่องไม้เครื่องมือที่เหมาะสม มีความรู้ความเข้าใจ และมีไกด์พาเข้าไป ทัวร์กลาเซียร์ที่ไอซ์แลนด์นั้นมีความปลอดภัยสมบูรณ์แบบและสนุกตื่นเต้นด้วยแม้สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การเที่ยวธารน้ำแข็งมาก่อนก็ตาม แต่จงจำให้ขึ้นใจว่าปัจจัยทั้งสามสิ่งนี้มีความสำคัญมากและถ้าคุณขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไป คุณห้ามปีนธารน้ำแข็ง ไฮกิ้ง หรือเล่นสโนว์โมบิลบนผืนน้ำแข็งเป็นอันขาด

ลูกค้าเดินตามไกด์ขึ้นโซลเฮมาโจกุลเครดิตภาพ ทัวร์ 2 วันในโจกุลซาลอน |ปีนธารน้ำแข็ง ล่องเรือ ชายหาดสีดำ และ น้ำตกในชายฝั่งทางใต้

ข้อจำกัดในการเข้าร่วมทัวร์กลาเซียร์มีน้อยมาก คุณต้องมีอายุอย่างน้อย 8-10 ปีจึงจะสามารถร่วมไฮกิ้งแบบพื้นฐานได้ สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมปีนน้ำแข็งได้ต้องมีอายุประมาณ 12-14 ปี ซึ่งข้อจำกัดเรื่องอายุนั้นแตกต่างกันไปสำหรับผู้ประกอบการแต่ละเจ้า ส่วนทัวร์ถ้ำน้ำแข็งนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป และทัวร์สโนว์โมบิลนั้นหากคุณไม่มีใบอนุญาตขับขี่สากลติดมาด้วย คุณจะสามารถนั่งเป็นผู้โดยสารได้เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถขับเองได้

นอกจากนี้คุณต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงในระดับหนึ่งด้วยเพราะการเดินพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ นั้นค่อนข้างเหนื่อย

ทัวร์เหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งของไกด์ได้โดยไม่ต้องมีข้อสงสัยหรือตะขิดตะขวงใจเท่านั้น เพราะแม้ว่าโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจะมีน้อยมาก แต่ธารน้ำแข็งก็เต็มไปด้วยอันตราย และอุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ



ถ้ำที่ไม่มั่นคง รอยแยกที่ซ่อนอยู่ และเนินสูงชัน ล้วนมีอันตราย แต่ไกด์ของคุณได้รับการฝึกมาอย่างหนักสำหรับเรื่องพวกนี้โดยเฉพาะเครดิตภาพ: เที่ยวธารน้ำแข็งสกัฟตาเฟลล์

ทัวร์กลาเซียร์จำเป็นต้องมีอุปกรณ์พิเศษ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเตรียมอุปกรณ์เอาไว้ให้คุณแล้ว คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ทุกอย่างที่เรากล่าวถึงในที่นี้ แต่เราก็อยากแนะนำให้คุณรู้จักไว้คร่าวๆ ก่อน 

  • ยางรัดรองเท้าพร้อมฟันเหล็ก: หรือรองเท้าตะปู เป็นอุปกรณ์ปลายแหลมที่เอาไว้ใส่แนบกับพื้นรองเท้าบู๊ท เพื่อช่วยให้คุณเดินได้อย่างมั่นคงบนน้ำแข็งและหิมะ และช่วยให้คุณสามารถปีนกำแพงน้ำแข็งได้ด้วย
  • ขวานน้ำแข็ง: เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่สำคัญ ช่วยให้สามารถปีนขึ้นไปตามทางลาดชัน กำแพงน้ำแข็ง และช่วยยึดเกาะไม่ให้ลื่นหล่นลงมาด้านล่างเมื่อคุณเสียหลัก นอกจากนี้ยังเป็นพร็อพถ่ายรูปที่เท่มากด้วย 
  • หมวกนิรภัย: หมวกกันน็อกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการไฮกิ้งบนกลาเซียร์ หมวกนิรภัยสำหรับเที่ยวถ้ำน้ำแข็งและปีนน้ำแข็งนั้นไม่ได้หรูหราและคุณสามารถสวมหมวกรองไว้ด้านในอีกชั้นหนึ่งได้ การสวมหมวกนิรภัยก็เพื่อช่วยป้องกันอันตรายจากการล้มและร่วงหล่นจากที่สูง ส่วนการขี่สโนว์โมบิลนั้นจะมีหมวกนิรภัยเฉพาะให้อีกแบบหนึ่ง 
  • สายรัดสะโพกพร้อมห่วงเซฟตี้และเชือกชนิดต่างๆ: สิ่งเหล่านี้เอาไว้ใช้กับการปีนน้ำแข็งบนกลาเซียร์ระยะสั้นสำหรับผู้เริ่มต้น เพื่อช่วยยึดคุณไว้ไม่ให้ลื่นล้มและได้รับบาดเจ็บ โดยไกด์จะเป็นผู้สอนวิธีใช้อุปกรณ์เหล่านี้รวมทั้งเชือกชนิดต่างๆ ด้วย สำหรับการทัวร์กลาเซียร์ระดับแอดวานซ์เองก็ต้องใช้อุปกรณ์พวกนี้เช่นเดียวกันเพื่อให้ลูกทัวร์สามารถเกาะรวมกันเป็นกลุ่มเพื่อความปลอดภัยเมื่อเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายและเมื่อเกิดความสงสัยว่าอาจมีรอยแยกกลบซ่อนอยู่ใต้ผืนน้ำแข็งที่มีหิมะตกใหม่ปกคลุม  

รองเท้าตะปูรัดติดกับบู๊ททำให้ไฮกิ้งบนกลาเซียร์ได้ง่ายและสนุกมากขึ้นเครดิตภาพ: Pixabay, ภาพโดย Csharker

สิ่งที่คุณต้องเตรียมไปเองมีเพียงเสื้อผ้าที่อบอุ่นสามารถเก็บกักความร้อนได้ดี (ผ้าขนสัตว์แท้และผ้าฟลีซสังเคราะห์ แต่ไม่เอาผ้าคอตตอนเป็นอันขาด) เสื้อผ้าชั้นในต้องเก็บความร้อนได้ดีและเสื้อผ้าชั้นนอกต้องกันน้ำได้ด้วย ถุงมือบางๆ จะช่วยให้คุณสามารถหยิบจับของได้ถนัดมือและหมวกก็มีประโยชน์เสมอ ส่วนแว่นกันแดดและครีมกันแดดก็มีความสำคัญไม่น้อยเพราะแสดงอาทิตย์ที่สะท้อนบนน้ำแข็งนั้นแรงและสว่างจ้าจนแสบตาทีเดียว

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการไปไฮกิ้งบนกลาเซียร์ก็คือคุณต้องเอารองเท้าบู๊ทสำหรับปีนเขาไปด้วย ถ้าคุณไม่มีก็ต้องไปหาเช่าเอา เนื่องจากยางรัดรองเท้าแบบมีตะปูนั้นไม่เหมาะที่จะนำไปสวมกับรองเท้าบางๆ หรือรองเท้าผ้าใบ เพราะพวกมันมักจะลื่นหลุดง่ายทำให้คุณได้รับอันตราย และคงไม่ต้องบอกว่ารองเท้าส้นสูงส้นตึก และพวกที่มีส้นสูงๆ นั้นไม่เหมาะที่จะนำมาสวมที่นี่เป็นอย่างยิ่ง



รองเท้าตะปูใช้ปีนน้ำแข็งได้ผลดีกว่าเมื่อสวมใส่กับบู๊ทที่พอดีเท้า การมีรองเท้าตะปูที่พอดีช่วยให้คุณและคนอื่นปลอดภัยเครดิตภาพ: ทัวร์ไฮกิ้งบนกลาเซียร์ & ปีนน้ำแข็ง ออกเดินทางจากเรคยาวิก

อุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นแต่ก็อาจจะมีประโยชน์สำหรับคุณ ได้แก่ ไม้เท้าค้ำยันเวลาเดิน สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมั่นใจในกำลังขาของตัวเอง และกล้องถ่ายรูป เพราะแน่นอนว่าไม่ว่าใครก็ต้องอยากเก็บภาพวิวสวยๆ จากบนธารน้ำแข็งเอาไว้ดูไปตลอดชีวิตกันทั้งนั้น

ประเภทของทัวร์กลาเซียร์             

มีทัวร์กลาเซียร์ให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ไฮกิ้งจนถึงขี่สโนว์โมบิลภาพจาก ทัวร์ปีนน้ำแข็งและไฮกิ้งบนกลาเซียร์ที่สกัฟตาเฟลล์

มีทัวร์ที่เกี่ยวข้องกับกลาเซียร์อยู่มากมายในไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวส่วนมากที่มาพักผ่อนที่นี่มักเลือกแวะเวียนมาเที่ยวชมธารน้ำแข็งเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ในหลากหลายช่วงเวลาเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป

ทัวร์ขี่สโนว์โมบิลกับทริปเที่ยวธารน้ำแข็งไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ในแง่ของประสบการณ์ที่จะได้รับ และหลายท่านเลือกที่จะมาสัมผัสธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์แค่เส้นทางเดียวนั่นหมายความว่าพวกเขาต้องการทราบแน่ชัดว่าบนเส้นทางนั้นมีทัวร์กลาเซียร์อะไรให้เที่ยวบ้างและแต่ละอันเป็นอย่างไร

ไฮกิ้งบนกลาเซียร์ & ปีนน้ำแข็ง            

ไฮกิ้งบนกลาเซียร์เป็นกิจกรรมทัวร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งในไอซ์แลนด์ ซึ่งการไฮกิ้งนั้นรวมเอาไฮไลต์ที่โดดเด่นของประเทศนี้ไว้ให้สัมผัสหลายอย่าง เช่น ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ตระการตา กิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ตื่นเต้นเร้าใจ วิวพาโนรามาสวยงาม และความสนุกสนานอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับผู้ที่ตั้งใจมาเห็นดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟนี้แบบครบสูตร ต้องไม่พลาดการมาสัมผัสประสบการณ์บนซีกที่เป็นน้ำแข็งนี้ด้วย และไฮกิ้งบนกลาเซียร์ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่พิเศษมากๆ ทำไมน่ะหรือ ก็เป็นเพราะว่าเมื่อลงไปบนพืดน้ำแข็งแล้ว แต่ละย่างก้าวที่คุณย่ำเหยียบไปบนนั้นเท่ากับคุณก็ยิ่งเข้าใกล้กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่มากขึ้น

ยิ่งเข้าไปใกล้ยิ่งเห็นความตระการตาและความยิ่งใหญ่ของพืดน้ำแข็งได้ชัดกว่าที่เห็นได้จากด้านล่าง ทำให้คุณได้อิ่มเอมกับความงดงามทางศิลปะอันสลับซับซ้อนของสีน้ำเงินหลากหลายเฉดที่อยู่บนประติมากรรมบนผืนน้ำแข็งและรอยแยกต่างๆ กันแบบเต็มๆ 

ไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งทำให้ได้เห็นภูมิประเทศสวยงามภาพจาก ประสบการณ์บนน้ำแข็งสีน้ำเงินที่สกัฟตาเฟลล์ | ระดับง่าย

กิจกรรมนี้พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนหน้าใหม่ทุกท่าน ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการปีนธารน้ำแข็งมาก่อนเลย เพราะก่อนที่จะออกไปทัวร์คุณจะต้องฟังบรีฟข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นบนกลาเซียร์กันก่อน

ไกด์จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพืดน้ำแข็งให้คุณฟังด้วย ตั้งแต่เมื่อตอนที่เริ่มก่อตัวขึ้นเป็นธารน้ำแข็งจนถึงสภาพการณ์ในปัจจุบันของพวกมัน ทริปนี้พวกเขาเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้เอาไว้ให้คุณแล้ว (คุณแค่นำรองเท้าปีนเขาที่มั่นคงแข็งแรงและเสื้อผ้าที่อบอุ่นไปก็พอ)

นอกจากการไฮกิ้งบนกลาเซียร์แล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มักจะไปปีนน้ำแข็งด้วย กลาเซียร์ที่ไอซ์แลนด์ไม่ได้ราบเรียบนัก ที่จริงแล้วออกจะค่อนข้างชันและเต็มไปด้วยยอดเขาและหุบเขาน้ำแข็งเสียด้วยซ้ำไป ซึ่งนั่นแปลว่าคุณมีโอกาสได้เอาสายรัดสะโพกออกมาสวมและได้ใช้ขวานน้ำแข็งในการปีนป่ายกันแน่ๆ และตลอดเส้นทางตัวคุณจะถูกผูกโยงไว้กับกำแพงน้ำแข็งข้างหนึ่งและไกด์อีกข้างหนึ่ง และหากคุณบังเอิญหล่นลงไปคุณก็จะห้อยต่องแต่งเล็กน้อยก่อนที่จะกลับเข้าที่ได้อย่างปลอดภัย



เที่ยวถ้ำน้ำแข็งกลาเซียร์            

ถ้ำน้ำแข็งมีรูปทรงและขนาดที่หลากหลาย

การเที่ยวถ้ำน้ำแข็งนั้นอาจจะเป็นทัวร์กลาเซียร์ประเภทเดียวที่ทำให้คุณได้เข้าไปใกล้ชิดกับพืดน้ำแข็งแบบเป็นส่วนตัวมากๆ โดยคุณจะได้เข้าไปอยู่ภายในบริเวณที่ห้อมล้อมด้วยกำแพงน้ำแข็งเป็นประกายวิบวับและได้สัมผัสว่าการถูกธรรมชาติโอบอุ้มไว้แบบใกล้ชิดนั้นมีความรู้สึกอย่างไร

ถ้ำน้ำแข็งที่ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในช่วงฤดูหนาว ส่วนถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติเพียงแห่งเดียวที่สามารถเข้าไปชมได้ในช่วงหน้าร้อนนั้นอยู่ใกล้กับภูเขาไฟคัทลา (Katla) ในธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) แต่ที่นี่จะมีสีน้ำเงินให้เห็นได้ไม่ชัดเจนเท่ากับอันที่เข้าชมในหน้าหนาว เนื่องจากมีเถ้าภูเขาไฟถูกดักไว้ในน้ำแข็ง ทำให้มีพวกมันมีหลายเฉดสี

ถ้ำน้ำแข็งที่ไอซ์แลนด์หลายแห่งมีขนาดเล็กและอยู่อย่างโดดเดี่ยว ซึ่งภายในนั้นประกอบด้วยอุโมงค์ที่คดเคี้ยวและส่วนเอาท์เล็ท บางถ้ำดูหน้าตาคล้ายกับโบสถ์ธรรมชาติที่มีเพดานสูงและลาดเอียงซึ่งทำให้แสงอาทิตย์สามารถลอดเข้ามาภายในถ้ำได้เล็กน้อยด้วย

คงไม่ต้องบรรยายว่าภายในถ้ำจะมีบรรยากาศสวยเหลือเชื่อขนาดไหน เมื่อเข้าไปข้างในคุณจะรู้สึกเหมือนก้าวเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบหนึ่งที่งดงามราวกับที่บรรยายไว้ในหนังสือแนวแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยเวทย์มนตร์เลย แต่การที่คุณจะได้เห็นส่วนไหนของถ้ำบ้างนั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของไกด์แต่เพียงผู้เดียว เพราะว่าไกด์จะต้องเป็นคนคอยระมัดระวังสอดส่องทั้งจุดที่เปราะบางของน้ำแข็งและหาจุดที่ตื่นตาตื่นใจน่าเข้าไปชม

ขี่สโนว์โมบิลบนกลาเซียร์               

ขี่สโนว์โมบิลเป็นหนึ่งในกิจกรรมแอดแวนเจอร์ที่ไอซ์แลนด์จาก เที่ยววงกลมทองคำ นั่งรถมอนสเตอร์ทรัก & ขี่สโนว์โมบิล 

การขี่สโนว์โมบิลที่ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เหมาะกับภูมิประเทศแบบแอดเวนเจอร์ของที่นี่เป็นที่สุด ด้วยเหตุผลที่ไม่น่าแปลกใจเพราะการได้โฉบเฉี่ยวไปมาบนทุ่งน้ำแข็งที่มีมาตั้งแต่ยุคโบราณนั้นทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของกลาเซียร์อย่างเต็มรูปแบบจริงๆ

เมื่อมือของคุณอยู่บนคันบังคับคุณจะรู้สึกเหมือนว่าคุณสามารถบิดทะยานไปถึงเส้นขอบฟ้าโดยไม่ต้องหยุดให้กับอะไรทั้งนั้นเพราะความกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาของผืนน้ำแข็ง และสโนว์โมบิลถือว่าเป็นกิจกรรมที่มีความสมดุลมากเพราะคุณจะได้ทำอะไรตื่นเต้นให้อะดรีนาลีนสูบฉีดและได้เห็นทิวทัศน์สวยๆ ไปพร้อมกัน

ทัวร์ขี่สโนว์โมบิลมักจัดแพ็คเกจพร้อมการเดินทางด้วยรถซุปเปอร์จี๊ปมาให้เสร็จสรรพ แต่คุณและคณะอาจจะต้องเดินต่ออีกเล็กน้อยเพื่อไปยังเบสแคมป์หรือจุดที่เริ่มขี่สโนว์โมบิล ระหว่างทางคนขับหรือไกด์จะพาคุณแล่นผ่านพื้นผิวที่ขรุขระ บางครั้งอาจจะต้องขับผ่านแม่น้ำแบบไม่มีสะพานข้ามด้วย ดังนั้นนั่งดีๆ และเตรียมตัวเพลิดเพลินกับวิวสวยๆ บนเส้นทางที่คุณอาจจะต้องกระเด้งกระดอนไปบนผืนน้ำแข็งไปด้วยกัน

ทัวร์ล่องเรือทะเลสาบธารน้ำแข็ง               

เรือสะเทินน้ำสะเทินบกเป็นตัวเลือกอย่างหนึ่งในการเที่ยวทะเลสาบธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์ภาพจาก ทัวร์เรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่โจกุลซาลอน

อีกหนึ่งวิธีที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ของกลาเซียร์ที่ไอซ์แลนด์แบบไม่เหมือนใครคือการล่องเรือ ตอนนี้พวกคุณอาจจะนึกว่าเอ๊ะ… มีเรือแล่นบนผืนน้ำแข็งด้วยเหรอ ที่จริงแล้วถ้าพูดถึงขนาดอันมหึมาของผืนน้ำแข็งของไอซ์แลนด์แล้วล่ะก็ แน่นอนว่าต้องมีปริมาณน้ำที่ละลายออกมาสะสมกันจนกลายเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่งดงามจำนวนไม่น้อยเลย ซึ่งทะเลสาบเหล่านี้มักจะอยู่ที่บริเวณฐานของพืดน้ำแข็งนั่นเอง

ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดคือโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ซึ่งบางครั้งถูกเรียกว่าเป็นที่สุดแห่งความงดงามของประเทศไอซ์แลนด์ เนื่องจากที่นี่มีความสวยงามมากจนคุณแทบจะลืมหายใจไปเลย และนอกจากที่นี่แล้ว ไอซ์แลนด์ยังมีทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงที่เบรดาลอน (Breiðárlón) ฟยาร์ทซาร์ลอน (Fjallsárlón) และกรายนาลอน (Grænalón) ด้วย 

โจกุลซาลอน ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์

ทัวร์ล่องเรือทำให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้าไปใกล้กับภูเขาน้ำแข็งมากยิ่งขึ้นจนเกือบจะเอื้อมมือออกไปสัมผัสได้เลย และยังทำให้ได้ใกล้ชิดกับสัตว์โลกที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบธารน้ำแข็งมากขึ้นด้วย อย่างเช่นเจ้าแมวน้ำจอมอยากรู้อยากเห็นและนกทะเลที่มักบินโฉบไปมา ที่โจกุลซาลอน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกนั่งยานพาหนะสะเทินน้ำสะเทินบกที่สามารถวิ่งบนบกได้ด้วยหรือจะเลือกนั่งเป็นเรือท้องแบบโซดิแอกก็ได้ ซึ่งอันหลังจะให้ความรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อวิ่งอยู่บนผิวน้ำ



ผจญภัยบนซุปเปอร์จี๊ป              

ซุปเปอร์จี๊ปมีหลายแบบ เช่น ซุปเปอร์ทรักคันนี้ที่จุคนได้เยอะกว่าภาพจาก ไอซ์แลนด์ในแบบของคุณเอง | ทริปนั่งซุปเปอร์จี๊ปทัวร์แบบมีไกด์ 9 ชั่วโมง 

รถซุปเปอร์จี๊ปเป็นเหมือนไอคอนสำหรับการท่องเที่ยวสมัยใหม่เลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่ที่ไอซ์แลนด์เท่านั้นแต่ยังรวมถึงที่อื่นๆ ทั่วโลกด้วย ยานพาหนะขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่นี้เหมาะกับสภาพภูมิประเทศของไอซ์แลนด์มากและต้องขอบคุณความสามารถของมันในการเดินทางไปบนดินแดนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์ที่ซุปเปอร์จี๊ปนี้เป็นยานพาหนะที่มีความสำคัญมากเหลือเกิน

ปกติแล้วรถซุปเปอร์จี๊ปรองรับผู้โดยสารได้หกท่าน ทำให้ทัวร์นี้เป็นทัวร์ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวและเข้าถึงพื้นที่เข้าถึงยากได้ แต่ซุปเปอร์จี๊ปก็มีราคาต่อหัวแพงกว่าเมื่อเทียบกับรถบัส ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าคุณเดินทางมาคนเดียว ผู้ประกอบการอาจจะต้องรอให้มีผู้โดยสารอื่นขึ้นจนเกือบเต็มก่อนจึงจะอนุญาตให้คุณเข้าไปร่วมทริปได้

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักคาดหวังว่าการไปทัวร์รถซุปเปอร์จี๊ปพวกเขาจะได้เดินทางแบบออฟโรดบุกป่าฝ่าดง แต่การขับรถออกนอกเส้นทางนั้นเป็นเรื่องต้องห้ามเอามากๆ ในไอซ์แลนด์ไม่เว้นแม้กระทั่งรถซุปเปอร์จี๊ปและถ้าทำผิดกฎจะมีค่าปรับที่สูงมากด้วย เหตุผลก็เพราะว่าระบบนิเวศของไอซ์แลนด์นั้นมีความเปราะบางมาก เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมแล้วอาจต้องใช้เวลาหลายปีไม่ก็หลายสิบปีเลยกว่าจะฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมได้

อย่างไรก็ตามที่ไอซ์แลนด์มีเส้นทางตามภูเขาอยู่มากมายที่เหมาะกับการใช้รถซุปเปอร์จี๊ป ซึ่งบนเส้นทางเหล่านี้คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศการนั่งออฟโรดแบบเต็มๆ โดยไม่ต้องทำลายธรรมชาติด้วย



เวลาไหนที่เหมาะสมในการเที่ยวธารน้ำแข็งที่ไอซ์แลนด์          

แถวของคนที่มาไฮกิ้งบนกลาเซียร์ช่วงหน้าหนาวภาพจาก  ทัวร์โจกุลซาลอน 2 วัน 

การไฮกิ้งบนกลาเซียร์ส่วนใหญ่ทำได้ตลอดทั้งปี แต่การทำกิจกรรมนี้ในแต่ละฤดูก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน หน้าร้อนของไอซ์แลนด์อยู่ในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน และหน้าหนาวตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน ซึ่งในช่วงสองฤดูนี้ธารน้ำแข็งก็มีความแตกต่างกันมาก

ทัวร์กลาเซียร์ในหน้าร้อน            

มิร์ดาลส์โจกุลในทางใต้ของไอซ์แลนด์ในวันอากาศแจ่มใส

การไปทัวร์กลาเซียร์ในช่วงหน้าร้อนมีข้อดีที่เห็นได้ชัดอยู่หลายอย่าง อย่างแรกเลยคือสภาพอากาศดีกว่าเยอะ แม้ว่าที่ไอซ์แลนด์จะมีลมแรง มีฝนตก และมีเมฆมากตลอดทั้งปี แต่สภาพอากาศทั้งหลายเหล่านี้ในช่วงเดือนที่อบอุ่นนั้นมีความรุนแรงน้อยกว่ามาก

นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับแสงอาทิตย์ในขณะที่ไฮกิ้งในฤดูนี้ได้ด้วย



สภาพอากาศที่ดีหมายความว่าคุณจะได้ไฮกิ้งในเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายกว่า (แต่ถึงยังไงคุณก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและเสื้อผ้าที่กันน้ำได้มาด้วยเพื่อความปลอดภัย) และเพื่อให้คุณไม่ต้องย่นระยะเวลาเที่ยวให้สั้นลงเพราะมีใครบางคนไม่สามารถรับมือกับอากาศหนาวเย็นได้

นอกจากนี้ยังหมายถึงว่าทัวร์ไฮกิ้งบนกลาเซียร์ ทัวร์สำรวจถ้ำ หรือทริปขี่สโนว์โมบิลที่คุณจองไว้ก็มีโอกาสถูกยกเลิกเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยน้อยกว่าด้วย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จัดตารางเที่ยวในวันหยุดครั้งนี้ไว้แบบแน่นขนัด

นักท่องเที่ยวมาไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งสวีนาเฟลโจกุลภาพจาก  ทัวร์ไฮกิ้งบนกลาเซียร์ที่สวีนาเฟลล์โจกุล 

อากาศที่แจ่มใสยังหมายถึงทิวทัศน์รอบธารน้ำแข็งจะมีความงดงามมากกว่าด้วย ไม่ว่าคุณจะมองออกไปยังทางใต้อันอุดมสมบูรณ์ เขตอนุรักษ์สกัฟตาเลล์ (Skaftafell Reserve) อันสวยงาม หรือคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes Peninsula) ก็ตาม เดี๋ยวเราค่อยมากล่าวถึงตำแหน่งที่ตั้งอันสวยงามของธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์กันต่อไปที่ด้านล่าง

การเดินทางไปและกลับบนผืนน้ำแข็งก็ได้เพลิดเพลินกับวิวมากกว่าด้วย เนื่องจากมีชั่วโมงที่มีแสงสว่างมากขึ้นก็สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้มากขึ้น ในฤดูหนาวนั้นมีระยะเวลาที่มีแสงสว่างอยู่แค่ประมาณสี่ชั่วโมงเท่านั้น ทริปเดินทางของคุณในช่วงนี้จึงต้องตกอยู่ท่ามกลางความมืดมิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าคุณต้องการเที่ยวธารน้ำแข็งให้คุ้ม

เหตุผลสุดท้ายที่ทำให้ฤดูร้อนได้เปรียบกว่าฤดูหนาวก็คือคุณมีตัวเลือกในการไปไฮกิ้งบนกลาเซียร์มากกว่า แม้ว่าที่โซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) และสวีนาเฟลล์โจกุล (Svínafellsjökul) จะเปิดให้เข้าได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าร้อนก็จะมีทัวร์ให้บริการมากกว่าและสไนล์เฟลล์โจกุล (Snæfellsjökull) ก็เปิดให้เข้าได้เฉพาะในฤดูนี้เท่านั้น

ทัวร์กลาเซียร์ในฤดูหนาว                      

น้ำแข็งกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มในหน้าหนาวภาพจาก ทัวร์ไฮกิ้งบนกลาเซียร์ ออกเดินทางจากเรคยาวิก 

เมื่อพิจารณาจากข้อดีของการมาทัวร์กลาเซียร์ในช่วงหน้าร้อนแล้ว คุณอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าฤดูร้อนเป็นฤดูที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมกลาเซียร์ ถ้าเป็นเช่นนั้นแปลว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ

แม้ว่าในฤดูหนาวทัวร์กลาเซียร์อาจถูกยกเลิกได้เนื่องจากสภาพอากาศที่อาจเป็นอันตราย และยังมีอากาศหนาวเย็นและท้าทายกว่า แถมความมืดและเมฆก็ยังมาบดบังทัศนียภาพทำให้มองเห็นไม่ชัดเจนอีก แต่ตัวธารน้ำแข็งนั้นออกจะมีความสวยงามมากกว่าหน้าร้อนนิดหน่อยด้วยซ้ำไป



ในฤดูร้อนพระอาทิตย์จะทำให้น้ำแข็งบนพื้นผิวของกลาเซียร์ละลายเผยให้เห็นชั้นของขี้เถ้าที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายร้อยปีก่อน จึงมองเห็นเป็นริ้วรอยเส้นสายสีเทาและดำตัดอยู่บนหิมะสีขาวชัดเจน

แม้ว่าจะน่าตื่นเต้นที่ได้เห็นเถ้าพวกนี้ แต่ธารน้ำแข็งก็ไม่ได้สวยสดเหมือนกับเมื่อตอนที่เคลือบด้วยน้ำแข็งที่เพิ่งแข็งตัวใหม่ๆ เหมือนในช่วงหน้าหนาว ซึ่งน้ำแข็งในตอนนั้นจะเป็นสีน้ำเงินสดใสจนดูไม่เหมือนน้ำแข็งของจริง

ตัวอย่างว่าน้ำแข็งสีน้ำเงินเป็นอย่างไร

น้ำแข็งที่งดงามจนไม่เหมือนของจริงไม่ใช่ข้อดีเพียงอย่างเดียวของการทัวร์กลาเซียร์ในหน้าหนาว เพราะถ้าอากาศปลอดโปร่ง กิจกรรมนี้จะทำให้คุณได้เห็นภูมิประเทศอันสวยงามที่ปกคลุมไปด้วยหิมะที่วาววับอย่างชัดเจนเลย

วิวสวยๆ ของแถบอาร์กติกจะทำให้คุณหายแคลงใจเลยว่าทำไมซีรีส์เกมออฟโธรนของ HBO จึงเลือกไอซ์แลนด์เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากกำแพงทางเหนือ

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการไปทัวร์กลาเซียร์ที่ไอซ์แลนด์ในหน้าหนาวนั้นมีความสนุกสนานแอดเวนเจอร์รอให้คุณไปสัมผัสอยู่เยอะมาก แม้ว่าผืนน้ำแข็งนั้นจะสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าในหน้าร้อน แต่คนที่ไปในช่วงหน้าหนาวก็จะได้รับรางวัลสำหรับความกล้าหาญที่ฝ่าฟันสภาพอากาศอันหนาวเหน็บเข้าไปอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไปปีนน้ำแข็ง

ทัวร์กลาเซียร์ในไอซ์แลนด์ที่ไหนดีที่สุด           

นักเดินเขาเหล่านี้กำลังมีความสุขที่สกัฟตาเฟลล์ภาพจาก  ประสบการณ์บนผืนน้ำแข็งสีน้ำเงินที่สกัฟตาเฟลล์ 

ที่ไอซ์แลนด์มีธารน้ำแข็งให้ไปเที่ยวชมมากมาย ธารน้ำแข็งแต่ละแห่งก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป และแม้บางแห่งสภาพจะไม่เอื้อต่อการไฮกิ้งแบบสะดวกสบายก็มีวิธีเข้าไปสำรวจด้วยวิธีอื่น ไม่ว่าจะเป็นทัวร์ปีนน้ำแข็ง บินขึ้นไปชมวิวจากบนฟ้า หรือขับสโนว์โมบิลโลดแล่นไปบนทุ่งหิมะ 



ทัวร์กลาเซียร์บนโซลเฮมาโจกุล                

โซลเฮมาโจกุลเป็นกลาเซียร์ที่มีคนไปเที่ยวมากที่สุด ที่นี่เปิดทั้งปีและอยู่ใกล้กับเรคยาวิกภาพจาก: คณะสำรวจธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล

ถ้าคุณพักอยู่ในเรคยาวิกจะมีทัวร์แบบวันเดียวที่พาไปธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล (Sólheimajökull) บนชายฝั่งทางใต้ให้เลือกหลายเจ้า และทัวร์พวกนี้เปิดให้บริการกันตลอดทั้งปี

สาเหตุที่ทัวร์พวกนี้ได้รับความนิยมมากก็เป็นเพราะว่าใครๆ ก็เข้าร่วมได้ไม่เว้นแม้แต่มือใหม่และมีระยะทางไม่ไกลจากเรคยาวิก ขับรถเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว และระหว่างเดินทางก็ได้ผ่านทิวทัศน์สวยๆ มากมาย เช่น น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) 

ทริปเที่ยวโซลเฮมาโจกุลนั้นสมบูรณ์แบบมากสำหรับผู้ที่ต้องการไปไฮกิ้งบนกลาเซียร์ เรียนรู้เกี่ยวกับธารน้ำแข็ง และชมวิวสวยๆ โดยไม่ต้องมีอะไรยุ่งยาก ทัวร์เหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีตัวเลือกบริการไปรับจากในเรคยาวิกให้ด้วย แต่ถ้าคุณเที่ยวแบบเช่ารถขับ คุณสามารถนัดไปเจอกับไกด์และคณะที่จุดนัดหมายได้เลย

โซลเฮมาโจกุลขึ้นชื่อเรื่องสีสัน หิมะละเอียด ขี้เถ้าสีดำ และน้ำแข็งสีฟ้าเครดิตรูปภาพ: คณะสำรวจธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล

ข้อดีของโซลเฮมาโจกุลที่เหนือกว่าธารน้ำแข็งที่อื่นมีอยู่ 3 ข้อด้วยกัน ข้อแรกคือที่นี่อยู่ใกล้เมืองหลวง ข้อสองที่นี่อยู่ในบริเวณที่มีความสวยงาม และข้อสามคือลักษณะของการก่อตัวของธารน้ำแข็งแห่งนี้ที่มีความกว้างไม่มากนักทำให้ปีนง่ายกว่าและสนุกกว่ามาก

การเพิ่มกิจกรรมปีนน้ำแข็งเข้าไปในทริปไฮกิ้งบนกลาเซียร์นั้นสามารถทำได้ถ้าคุณมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงและไม่กลัวความสูง



ทัวร์กลาเซียร์จากสกัฟตาเฟลล์              

สกัฟตาเฟลล์โจกุลในทางตะวันออกเฉียงใต้อยู่ไกลกว่าโซลเฮมาโจกุล แต่ผู้จัดทัวร์หลายเจ้าก็ยังพาไปเครดิตภาพ: ทีมสำรวจธารน้ำแข็งสกัฟตาเฟลล์

ถัดจากโซเฮมาโจกุลก็จะเป็นสวีนาเฟลล์โจกุล (Svínafellsjökull) ธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงในเรื่องไฮกิ้งอีกแห่งหนึ่งในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) ซึ่งมีทั้งป่าไม้ น้ำตก ยอดเขา และกลาเซียร์ทังก์ที่งดงาม และพืดน้ำแข็งตรงนี้ยังอยู่ใกล้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน สิ่งมหัศจรรย์ที่เราได้กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้แล้วด้วย

การไฮกิ้งบนน้ำแข็งเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่สามารถทำได้ที่นี่

ในวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะมองเห็นวิวจากด้านบนของกลาเซียร์ซึ่งสวยจนคุณแทบไม่อยากกระพริบตาเลย สวีนาเฟลล์โจกุลมีสันน้ำแข็งที่มีส่วนทำให้การเดินบนน้ำแข็งนั้นมีความสวยงามน่าประทับไม่เหมือนที่ไหนด้วย



ทัวร์กลาเซียร์บนสไนล์เฟลล์โจกุล                 

ไฮกิ้งขึ้นไปบนสไนล์เฟลล์โจกุลคุณจะได้เห็นยอดเขาฝาแฝด หนึ่งในนั้นจะพาคุณไปที่ถ้ำซึ่งเป็นเส้นทางไปยังจุดศูนย์กลางของโลกเครดิตภาพ: ทัวร์ไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์โจกุล 

ในช่วงหน้าร้อนถ้าอยากไปไฮกิ้งบนกลาเซียร์แบบที่ท้าทายหน่อยให้ไปที่สไนล์เฟลล์โจกุล (Snæfellsjökull) บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส และคุณจะได้ขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อไปดูยอดเขาฝาแฝดอันโด่งดัง

ยอดเขาสองลูกนี้ถูกกล่าวถึงในนิยายของจูลส์ เวิร์น (Jules Verne) เรื่อง A Journey to the Centre of the Earth ด้วย โดยในเรื่องบอกว่าเงาของยอดหนึ่งนั้นจะชี้บอกทางไปถ้ำซึ่งเป็นทางเข้าสู่โลกใต้พิภพ ผู้ที่ชื่นชอบวรรณกรรมเรื่องนี้คงจะได้เพลิดเพลินกับสถานที่ที่เป็นจุดกำเนินของเนื้อเรื่องทั้งหมดอย่างแน่นอน



สไนล์เฟลล์โจกุลเมื่อมองจากปูดิร์

แต่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนนิยายเรื่องนี้ก็สามารถประทับใจกับการไฮกิ้งที่นี่ได้ ในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะได้เห็นวิวยอดเขาซึ่งงดงามหาที่เปรียบได้ยาก และบางครั้งสามารถมองเห็นวิวชัดเจนไปถึงภูเขาในฟยอร์ดตะวันตก  (Westfjords) และคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) ที่อยู่อีกฟากฝั่งของมหาสมุทรเลยทีเดียว

ทริปนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเท่านั้น เพราะว่าเป็นการไฮกิ้งบนกลาเซียร์ที่มีความท้าทายมากที่สุดสำหรับเดย์ทัวร์ที่ไอซ์แลนด์

คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสนั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นไอซ์แลนด์ฉบับมินิ เพราะว่าที่นี่มีทัศนียภาพและแลนด์มาร์กที่หลากหลายครบรสตลอดแนวชายฝั่งยาว 90 กิโลเมตร และมีสไนล์เฟลล์โจกุลเป็นสุดยอดแห่งความงดงามบนคาบสมุทร



ทัวร์กลาเซียร์บนวัทนาโจกุล                 

นักเดินเขาบนวัทนาโจกุลภาพจาก เดินย่ำกลาเซียร์บนวัทนาโจกุล

สวีนาเฟลล์โจกุลที่เราพูดถึงก่อนหน้านี้นั้นตั้งอยู่ติดกับพืดน้ำแข็งวัทนาโจกุลที่มีขนาดใหญ่กว่า และเนื่องจากว่าวัทนาโจกุลนั้นมีความกว้างใหญ่เหลือคณนานับทำให้ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่คุณสามารถไปไฮกิ้งได้อีก ทัวร์เหล่านี้เป็นที่รู้จักน้อยกว่าและมีคนไปเที่ยวน้อยกว่ากลาเซียร์ที่อื่นด้วย

แต่สถานที่เหล่านี้ก็มีทิวทัศน์น้ำแข็งสวยๆ ที่ทัวร์อื่นไม่มีเช่นกัน วัทนาโจกุลกินพื้นที่ 8% ของดินแดนไอซ์แลนด์ ซึ่งพื้นที่นี้รวมถึงภูเขาไฟอีกจำนวนนับสิบลูกด้วย เช่น ภูเขาไฟเบาดาร์บุงกา (Bárðarbunga) ที่ฮึ่มๆ อยู่ตลอดเวลาซึ่งก็ทำให้การไฮกิ้งที่นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

วิธีสำรวจวัทนาโจกุลอีกแบบที่ไม่แพงและค่อนข้างแน่นอนมากกว่าคือการจองทัวร์ขี่สโนว์โมบิล และในช่วงหน้าหนาวถ้ำน้ำแข็งแถวนี้ก็เปิดให้เข้าไปชมด้วยถ้าสภาพอากาศเอื้ออำนวย

สำรวจกลาเซียร์อื่นๆ ในไอซ์แลนด์           

ถ้ำน้ำแข็งที่วัทนาโจกุลเปิดให้เที่ยวชมในหน้าหนาว แต่ถ้าอากาศไม่ดีก็มีโอกาสปิด

ธารน้ำแข็งลางโจกุลได้รับความนิยมน้อยกว่าในหมู่ผู้ประกอบการทัวร์ไฮกิ้ง แม้ว่าจะอยู่ใกล้กับเรคยาวิกมาก็ตาม แต่ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องอุโมงค์น้ำแข็งและทริปขี่สโนว์โมบิลเอามากๆ

ที่นี่ไม่เหมือนกับถ้ำน้ำแข็งที่วัทนาโจกุลเพราะอุโมงค์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการค่อยๆ เจียรไนส่วนที่แข็งที่สุดของธารน้ำแข็งให้เป็นอุโมงค์ และอุโมงค์น้ำแข็งเป็นเพียงสถานที่เดียวในโลกที่คุณจะสามารถเดินอยู่ในกลาเซียร์ได้อย่างสบายใจในเรื่องความปลอดภัยได้ตลอดทั้งปี

กลาเซียร์แห่งนี้อยู่ใกล้กับวงกลมทองคำ และในวันที่อากาศปลอดโปร่งนั้นสามารถมองเห็นได้จากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss waterfall) เลยด้วย ทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่นี่จึงมักจะถูกนำไปรวมกับทัวร์วงกลมทองคำ



ทริปขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุลได้รับความนิยมมากเครดิตภาพ: ทัวร์ขี่สโนว์โมบิลกรุ๊ปเล็ก ออกเดินทางจากเรคยาวิก

โซลเฮมาโจกุล สกัฟตาเฟลล์โจกุล และลางโจกุลเป็นธารน้ำแข็งที่มีคนไปเที่ยวมากที่สุด แต่ก็ยังมีธารน้ำแข็งที่อื่นให้ไปเที่ยวชมได้อีก มิร์ดาลส์โจกุล (Mýrdalsjökul) เป็นธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของไอซ์แลนด์ซึ่งสามารถเที่ยวได้ด้วยการขี่สโนว์โมบิล คุณสามารถไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งบนธารน้ำแข็งแห่งนี้โดยออกเดินทางได้จากทั้งเรคยาวิก และหมู่บ้านวิก Vík

หรือคุณจะไปกับทัวร์ซุปเปอร์จี๊ปเพื่อขึ้นไปยังยอดสูงสุดของภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) ที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วโลกก็ได้ ธารน้ำแข็งที่นี่ครอบอยู่บนภูเขาไฟที่เพิ่งระเบิดไปเมื่อปี 2010 และทำให้การจราจรทางอากาศหยุดชะงักไปเป็นบริเวณกว้าง

ข้อจำกัดในการเที่ยวธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์                 

ถ้าบริเวณไหนในไอซ์แลนด์มีประกาศเตือนการปะทุของภูเขาไฟคุณต้องหลีกเลี่ยงแถวนั้น

ในขณะที่มีทัวร์เที่ยวธารน้ำแข็งให้เลือกมากมาย แต่กลาเซียร์ทั้งหมดนี้ไม่ได้เปิดให้เข้ากันได้ตลอดเวลา อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าบางแห่งก็เข้าได้เฉพาะช่วงหน้าร้อนเท่านั้น แต่ถ้าสภาพอากาศเลวร้ายและมีพายุ ทัวร์กลาเซียร์ทั้งหมดก็เป็นอันต้องถูกยกเลิกด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

การไปเที่ยวบนธารน้ำแข็งก็ต้องถูกสั่งงดด้วยเช่นกันถ้าภูเขาไฟที่อยู่ใต้ธารน้ำแข็งเริ่มเกิดการปะทุขึ้นมา ทัวร์ที่พาขึ้นไปบนภูเขาเฮคลา (Mount Hekla) ซึ่งมีกลาเซียร์เล็กๆ อยู่บนนั้นมักจะถูกยกเลิกเมื่อมีการตรวจวัดการสั่นสะเทือนได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีระยะเวลาแค่เพียง 30 นาทีเท่านั้นที่ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถบอกได้ว่าจะมีการปะทุหรือระเบิดเกิดขึ้นหรือไม่ เช่นเดียวกับกับทัวร์ถ้ำน้ำแข็งที่ธารน้ำแข็งมิร์ดาลส์โจกุลซึ่งมีภูเขาไฟคัทลาอยู่ข้างใต้

หากคุณได้รับการเตือนการปะทุของภูเขาไฟ ได้โปรดเชื่อฟังอย่างเคร่งครัดด้วย แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีลูกไหนที่จวนเจียนใกล้ระเบิด แต่ก็มีอยู่หลายลูกที่ดูเหมือนว่าอาจจะระเบิดในอีกไม่ช้า การพาตัวเองไปเสี่ยงกับลาวาหลอมเหลว ขี้เถ้าที่มีพิษ และน้ำจากกลาเซียร์ไหลทะลักเข้าท่วมอาจจะฟังดูไม่เหมือนวันหยุดในฝันสักเท่าไหร่



รีบเที่ยวธารน้ำแข็งก่อนที่จะไม่มีให้เที่ยว                

นักเดินเขาบนโซลเฮมาโจกุลในทางตอนใต้ภาพจาก  น้ำตกบนชายฝั่งทางใต้และไฮกิ้งที่ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล 

ทัวร์กลาเซียร์เป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อแต่น่าเสียดายที่อีกหน่อยที่ไอซ์แลนด์ก็จะไม่มีทัวร์แบบนี้แล้ว เพราะธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์เองก็เป็นเช่นเดียวกันกับพืดน้ำแข็งที่มีอยู่ทั่วโลกที่กำลังเสื่อมสภาพลงไปอย่างรวดเร็วอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากระบุว่าลางโจกุลอาจจะไม่เหลืออยู่แล้วในอีก 150 ปีข้างหน้า และธารน้ำแข็งที่อื่นๆ ก็จะหายไปหมดภายในอีก 200 ปีข้างหน้า

ธารน้ำแข็งมีการขยายตัวและหดตัวได้เองตามธรรมชาติ เช่นที่โซลเฮมาโจกุลนั้นตอนนี้มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อตอนที่เริ่มมีประเทศไอซ์แลนด์ใหม่ๆ มาก เพราะเมื่อตอนนั้นไอซ์แลนด์เคยมีอากาศที่อบอุ่นกว่านี้ แต่ปัจจุบันนี้ธารน้ำแข็งแห่งนี้หดตัวลงไปขนาดเท่ากับสระว่ายน้ำโอลิมปิกทุกปี และทุกที่ก็มีความเห็นตรงกันว่าอัตรานี้ไม่ใช่อัตราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยรวมแล้วไอซ์แลนด์สูญเสียธารน้ำแข็งไปประมาณถึง 11,000 ล้านตันต่อปีเลยทีเดียว

นักเดินเขาแต่งกายเต็มยศเพลิดเพลินกับน้ำแข็งที่ยังหลงเหลืออยู่เครดิตภาพ: ทัวร์ 2 วันในโจกุลซาลอนปีนธารน้ำแข็ง ล่องเรือ ชายหาดสีดำ และ น้ำตกในชายฝั่งทางใต้ 

ดังนั้นหากมีโอกาสก็ควรไปเที่ยวธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์ให้ได้สักครั้งในขณะที่พวกมันยังคงดำรงอยู่ในรุ่นเรา เพราะคนรุ่นหลังอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนพวกเราแล้ว

ทัวร์กลาเซียร์เป็นวิธีที่จะได้เพลิดเพลินกับผืนน้ำแข็งเวิ้งว้างน่ามหัศจรรย์จากยุคโบราณของไอซ์แลนด์ได้อย่างดีที่สุด คุณเองก็อย่าปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปเป็นอันขาด รีบรัดรองเท้าตะปูให้แน่น คว้าขวานน้ำแข็ง และเริ่มออกไปผจญภัยบนธารน้ำแข็งด้วยกันกับเราดีกว่า


คุณอ่านคู่มือเที่ยวธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์ฉบับนี้จบแล้วรู้สึกสนุกหรือเปล่า คุณเคยไปเที่ยวทัวร์กลาเซียร์ที่ไหนในไอซ์แลนด์มาแล้วบ้าง และคุณมีคำแนะนำอะไรอยากส่งต่อให้กับคนที่กำลังจะไปไหม คุณสามารถฝากความคิดเห็นและคำถามผ่านคอมเม้นต์ของเฟซบุ๊คที่ด้านล่างได้เลย

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความอื่นที่น่าสนใจ

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด