กิจกรรมยอดนิยมในไอซ์แลนด์
จองทริปของคุณกับบริษัทที่ดีที่สุดเท่านั้น
การขับไปตามเส้นทางถนนวงแหวนตามที่ระบุไว้ในคู่มือ คุณจะได้ขับรถทางไกลผ่านธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์นับไม่ถ้วน เช่น น้ำตกบนชายฝั่งทางใต้ หมู่บ้านชาวประมงในทางตะวันออก สถานที่สวยงามแปลกตาในทางเหนือ และธารน้ำแข็งในตำนานในทางตะวันตกของประเทศ
ข้อดีของทริปนี้คือคุณเป็นคนขับรถ ดังนั้นคุณเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะไปเที่ยวที่ไหนเมื่อไหร่ ไม่ต้องคอยเดินตามไกด์ และไม่ต้องเที่ยวแบบรีบเร่งเพื่อขึ้นรถไปยังที่ต่อไปตามคำสั่งไกด์ คุณมีอิสระที่จะใช้เวลากับสถานที่แต่ละแห่งนานเท่าที่คุณต้องการ
ในระหว่างที่ทำการจองแพ็คเกจขับรถเที่ยวแพ็คเกจนี้ คุณสามารถเพิ่มกิจกรรมแอดเวนเจอร์สนุกๆ เข้าไปเพื่อสร้างสีสันให้กับทริปครั้งนี้ได้ด้วย คุณอาจจะเลือกไปดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลที่รอยแยกระหว่างสองทวีปในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Þingvellir) ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) เข้าไปเที่ยวข้างในภูเขาไฟ หรือขี่ม้าไอซ์แลนด์ชมวิวชนบทสวยๆ ก็ได้.
อย่าลังเลอีกต่อไป รีบตัดสินใจมาใช้เวลาช่วงวันหยุดที่ไอซ์แลนด์และออกเดินทางท่องเที่ยวแบบเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์ด้วยแพ็คเกจขับรถเที่ยวเอง 10 วัน เลือกวันเวลาเดินทางที่คุณต้องการแล้วตรวจสอบแพ็คเกจทัวร์ได้เลย
ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง.
หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พักเรียบร้อยแล้วคุณค่อยออกมาเดินเที่ยวในเมือง โดยคุณอาจจะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ ช้อปปิ้ง ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร หรือไปเที่ยวบาร์ซึ่งมีอยู่มากมายในเมืองก็ได้ คืนนี้คุณจะพักค้างคืนกันที่ในเมือง
อุทยานฯ ธิงเวลลีร์เป็นสถานที่แรกที่คุณจะเข้าไปชม ที่นี่เป็นที่ตั้งแห่งแรกของอัลธิงกิ (Alþingi) หรือรัฐสภาของไอซ์แลนด์ที่สร้างขึ้นเมื่อกว่า 1,000 ปีก่อน และยังถือว่าเป็นสภาที่มีการดำเนินงานมายาวนานเก่าแก่มากที่สุดของโลกด้วย
อุทยานฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เป็นรอยแยกหุบเขา ซึ่งเป็นบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกของสองทวีปแยกตัวออกจากกันจึงส่งผลให้แถวนั้นมีรอยแยกรอยแตกจำนวนมากมาย
หนึ่งในนั้นคือรอยแยกซิลฟรา (Silfra) ซึ่งอยู่ในทะเลสาบธิงวาลลาวาท (Þingvallavatn) บางทีคุณอาจจะอยากเพิ่มทัวร์ดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลเพื่อลงไปดูน้ำที่ใสราวกับคริสตัลในหุบเขารอยแยกใต้น้ำแห่งนี้กับตาตัวเอง ซึ่งการได้ลงไปแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำบนพื้นที่ระหว่างสองทวีปนั้นนับว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้
สถานที่ถัดไปคือทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ ในบริเวณนี้มีบ่อโคลนเดือดและไกเซอร์ (Geysir) ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนเก่าแก่อายุ 10,000 ปีให้ชม แม้ว่าไกเซอร์เก่าแก่อันนี้จะหมดพลังจนดับเกือบสนิทแล้ว แต่ใกล้ๆ กันก็ยังมีสโทคูร์ (Strokkur) ที่ยังคุกรุ่นฉีดน้ำขึ้นฟ้าสูง 15-20 เมตรในทุกๆ 5-10 นาที
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายบนเส้นทางวงกลมทองคำคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) อันยิ่งใหญ่ ที่ได้รับน้ำมาจากธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่อันดับสองของไอซ์แลนด์ ผ่านแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา (Hvítá) ที่ไหลลงทางทิศใต้นำพามวลน้ำถาโถมตกลงไปในเหวลึก 32 เมตร ก่อให้เกิดทัศนียภาพสวยๆ ของน้ำตกอันทรงพลังเหนือการควบคุม
คุณอาจจะเลือกเพิ่มกิจกรรมทัวร์ขี่สโนว์โมบิลเข้าไปในทริปเที่ยวน้ำตกกุลล์ฟอสส์ก็ได้ โดยคุณจะได้เร่งความเร็วโลดแล่นบนผืนน้ำแข็งของธารน้ำแข็งลางโจกุลแข่งกันอย่างสนุกสนาน แต่ถ้าคุณอยากทำกิจกรรมที่ใช้ความเร็วน้อยลงกว่าสโนว์โมบิลหน่อยแต่สนุกไม่แพ้กัน ให้คุณเลือกเพิ่มทัวร์ขี่ม้าที่หุบเขาเรคยาดาลูร์ (Reykjadalur) แทน
ระหว่างที่คุณเดินทางไปยังเมืองเซลฟอสส์ (Selfoss) เมืองที่คุณจะเข้าไปพักในคืนนี้ คุณสามารถแวะชมวิวอันงดงามของทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerið) ก่อนได้ รับรองว่าคุณจะต้องตะลึงกับความสวยของทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่มีน้ำเป็นสีน้ำเงินแซฟไฟร์ตัดกับสีแดงสดของหินลาวา
สถานที่แรกสำหรับวันนี้คือน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งมีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน ที่นี่มีทางเดินรอบตัวน้ำตกให้คุณได้เดินชมบริเวณรอบๆ รวมถึงเข้าไปชมที่ด้านหลังม่านน้ำตกด้วย
จากนั้นเป็นน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) น้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ โดยน้ำตกแห่งนี้มีความกว้าง 25 เมตร และมีความสูง 60 เมตร ในวันที่มีแดดออกคุณอาจจะได้เห็นรุ้งกินน้ำสองตัวออกมาโชว์ท่ามกลางละอองน้ำที่เกิดจากน้ำตกแห่งนี้ด้วย
ในขณะที่คุณเดินทางจากน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ไปยังน้ำตกสโกกาฟอสส์ คุณจะขับรถผ่านธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) ที่เคยมีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วโลกจากเหตุภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งระเบิดจนทำให้การจราจรทางอากาศทั่วยุโรปต้องหยุดชะงักเมื่อปี 2010
ถ้าคุณอยากชมถ้ำน้ำแข็งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ คุณไม่ควรพลาดเลือกเพิ่มทัวร์ถ้ำน้ำแข็งที่มิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) เข้าไปในทริปวันนี้ ทัวร์นี้ออกเดินทางจากหมู่บ้านวิก (Vík) ในตอนเช้า และจะพาคุณเข้าไปในธารน้ำแข็งอันงดงามเพื่อไปชมสิ่งมหัศจรรย์ที่อยู่ข้างใต้ คุณสามารถใช้เวลาในช่วงเช้าของวันนี้ไปกับการปีนกลาเซียร์บนส่วนปลายของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล โซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) หรือขี่สโนว์โมบิลเล่นสนุกๆ ก็ได้
หมู่บ้านวิกตั้งอยู่ห่างออกไปจากธารน้ำแข็งในทางทิศใต้ ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับแวะพักเหนื่อยและเติมน้ำมันก่อนที่คุณจะออกเดินทางกันต่อไป ใกล้ๆ กับหมู่บ้านแห่งนี้มีหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) กับหน้าผาเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมสีดำทะมึนและโขดหินภูเขาไฟที่โผล่พ้นจากผิวน้ำในทะเลด้วยความสูง 66 เมตร ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กชื่อดังที่หลายคนคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี
สถานที่ถัดมาคือเขตสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) สวรรค์แห่งพืชพรรณสีเขียวที่งอกงามอยู่ระหว่างผืนทรายสีดำกับธารน้ำแข็งสีขาว ที่นั่นมีเทรลเดินเขาจำนวนมากที่จะนำคุณไปสู่สถานที่ที่คุณต้องตะลึงไปกับความงดงามอย่างเช่นน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่เป็นแรงบันดาลใจด้านสถาปัตยกรรมอันยอดเยี่ยมให้กับการสร้างโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja)ใน เมืองเรคยาวิก
ถ้าคุณไม่ได้เลือกไปปีนกลาเซียร์ในช่วงเช้า คุณสามารถปิดท้ายวันนี้ด้วยกิจกรรมปีนกลาเซียร์ที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ก่อนเดินทางไปยังที่พักซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนแทนก็ได้ (แต่ไม่ต้องห่วงว่าคุณจะไม่ได้เที่ยวทะเลสาบเพราะวันพรุ่งนี้ยังมีเวลาเหลือเฟือ)
ในบริเวณติดๆ กันกับทะเลสาบเป็นหาดไดมอนด์บีชที่ก้อนน้ำแข็งในทะเลสาบถูกพัดขึ้นไปเกยตื้นมากมายทำให้มองดูราวกับบนหาดทรายแห่งนี้มีเพชรเม็ดงามส่องแสงระยิบระยับอยู่บนผืนผ้าซาตินสีดำขลับ
จากหาดไดมอนด์บีชคุณจะไปที่ฟยอร์ดในทางทิศตะวันออกกันต่อ โดยจะขับผ่านภูเขาเคี้ยวคดและหมู่บ้านชาวประมงหลายแห่งก่อนที่จะไปถึงเมืองเอกิลสตาดีร์ (gilsstaðir) เมืองที่คุณจะพักค้างคืนในวันนี้ เมืองนี้อยู่ริมแม่น้ำลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljót) ที่ในตำนานพื้นบ้านบอกเอาไว้ว่ามีสัตว์ประหลาดคล้ายงูยักษ์อาศัยอยู่ในน้ำ
ใกล้ๆ กันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่เรียกว่าดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) ทุ่งหินลาวารูปร่างประหลาดและถ้ำลึกลับซึ่งกินบริเวณกว้าง และมีตำนานเล่าขานว่าเป็นจุดที่ยมทูตลูซิเฟอร์ลงมายังโลกมนุษย์เมื่อครั้งที่เขาถูกขับออกจากสวรรค์
ในวันนี้มีสถานที่ให้คุณไปเที่ยวชมเยอะแยะเต็มไปหมด คุณสามารถปีนขึ้นไปชมเทบพรา (tephra) หรือ ชิ้นส่วนภูเขาไฟของภูเขาไฟทรงกรวยแควริ์ฟยาลล์ (Hverfjall) และไม่ไกลจากตรงนั้นก็ยังมีทุ่งน้ำพุร้อนเนามาฟย์าท (Námafjall) ที่เต็มไปด้วยสระโคลนเดือดและน้ำพุไอน้ำ
หลังจากเที่ยวกันจนเหนื่อยคุณอาจจะไปผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำร้อนที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Mývatn Nature Baths) สักหน่อยก่อนที่จะเดินทางไปยังที่พักซึ่งอยู่ในเขตมิวาทน์
เมื่อคุณพร้อมที่จะออกเดินทางต่อให้ขับมุ่งหน้าไปที่เมืองฮูสาวิค (Húsavík) ที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวสเกาล์ฟานติ (Skjálfandi) เมืองนี้เป็นเมืองแห่งการดูปลาวาฬของไอซ์แลนด์ ในอ่าวแห่งนี้มีปลาวาฬประมาณ 24 สายพันธุ์จึงเป็นจุดที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการมาเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตสัตว์น้ำในไอซ์แลนด์ แต่ถ้าคุณชอบนกคุณยังสามารถเพิ่มทัวร์ดูนกพัฟฟินไปพร้อมกับการดูวาฬด้วยก็ได้
หากคุณอยากเที่ยวแบบสบายๆ หน่อย ให้ไปสปาที่อ่างน้ำ GeoSea ในฮูสาวิคซึ่งแตกต่างจากสปาอื่นๆ ในไอซ์แลนด์ตรงที่น้ำที่นี่เป็นน้ำทะเลอุ่นๆ ให้คุณได้ผ่อนคลายไปพร้อมกับชมวิวธรรมชาติโดยรอบ
หรือคุณอาจจะขับรถเที่ยวรอบเอยาฟยอร์ดู (Eyjafjörður) และไปดูหมู่บ้านเกษตรกรรมและหมู่บ้านประมงที่อยู่แถวนั้น หรือเดินขึ้นไปบนเขาซูลูร์ (Súlur) ก่อนกลับลงมาและเดินทางเข้าที่พักในอาคูเรย์ริในคืนนี้
จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปที่สกาการ์ฟยอร์ดูร์ (Skagafjörður) หุบเขาที่นักขี่ม้าโปรดปรานเพราะที่นี่มีม้าอยู่เต็มไปหมด คุณจะได้ทำความรู้จักกับม้าไอซ์แลนด์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นม้าที่เชื่องและสุภาพมากๆ ให้ดีขึ้นด้วยหากคุณเลือกไปทัวร์ขี่ม้ารอบหุบเขา
จากนั้นคุณจะเดินทางขึ้นทางเหนือโดยขับผ่านเขตโทรลลาสกายี (Tröllaskagi) เพื่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่สิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjörður) เมืองที่มีความสวยงามและมีประวัติศาสตร์น่าสนใจ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ปลาเฮร์ริง (Herring Era Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ด้วย
ในหมู่บ้านโฮฟซอส (Hofsós) คุณจะได้ผ่อนคลายกับการเล่นน้ำในสระน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์และเพลิดเพลินกับวิวฟยอร์ดและเกาะอันงดงามก่อนที่จะเดินทางไปยังที่พักที่เซยดาร์โครคูร์ (Saudarkrokur)
จากตรงนั้นหากคุณขับไกลออกไปอีกหน่อยก็จะเห็นธารน้ำแข็งสไนเฟลล์โจกุล (Snæfellsjökull) อันยิ่งใหญ่ และใต้ผืนน้ำแข็งของธารน้ำแข็งแห่งนี้ก็มีภูเขาไฟซ่อนอยู่เช่นเดียวกันกับธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลล์และมิร์ดาลสโจกุล ภูเขาไฟลูกนี้ถูกใช้เป็นทางเข้าสู่โลกใต้พิภพในตำนานในหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์คลาสสิกของเรื่อง Journey to the Centre of the Earth ของจูลส์ เวิร์น (Jules Verne) ด้วย
ใกล้ๆ กับธารน้ำแข็งเป็นหาดกรวดดำตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) บนหาดแห่งนี้คุณจะเจอกับก้อนหินวัดพลังของคนโบราณ หินเหล่านี้มีน้ำหนักที่แตกต่างกันไปและเคยถูกใช้เป็นเครื่องทดสอบพละกำลังของชายหนุ่มว่ามีความพร้อมที่จะเป็นชาวประมงแล้วหรือยัง จากบริเวณนั้นคุณอาจจะไปเที่ยวที่หมู่บ้านเล็กๆ อีกสองแห่งที่ชื่อหมู่บ้านเฮลล์นาร์ (Hellnar) และหมู่บ้านอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) ต่อเลยก็ได้ จากนั้นค่อยเดินทางไปยังที่พักบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
จากบอร์การ์เนสคุณอาจจะไปต่อที่เดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) น้ำพุร้อนที่มีปริมาณน้ำไหลแรงที่สุดในยุโรป แล้วค่อยแวะไปดูน้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ ( Barnafoss) จากนั้นคุณสามารถเดินทางลึกเข้าไปด้านในของประเทศอีกหน่อยเพื่อไปชมถ้ำลาวาใต้ดินสีสันสดใสที่วิดเกลมิร์ (Víðgelmir) หนึ่งในถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์
หรือคุณจะไปทัวร์อุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ธารน้ำแข็งลางโจกุลก็ได้ โดยคุณจะเดินลงไปตามทางเดินลึกหลายร้อยเมตรใต้ธารน้ำแข็งในขณะที่ฟังผู้เชี่ยวชาญเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการก่อตัวของธารน้ำแข็งและอันตรายที่พวกมันกำลังเผชิญอยู่
หลังจากกลับไปที่ในเรคยาวิกแล้วคุณอาจจะใช้เวลาช่วงที่เหลือในวันนี้เที่ยวอยู่ในเมือง หรือถ้าใครอยากเที่ยวแบบแอนเวนเจอร์ให้คุณไปกับทัวร์ที่พาลงไปใต้ห้องโถงแมกมาใต้ภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Þríhnúkagígur)
คืนนี้พักค้างคืนกันในกรุงเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
เตียงแบบหอพัก พร้อมห้องน้ำรวมในเกสต์เฮาส์หรือโฮสเทล ที่พักตั้งอยู่ในบริเวณที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำรวมในฟาร์มเฮ้าส์ เกสต์เฮ้าส์ หรือโฮสเทล อยู่ในทำเลดีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW) ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป