ทัวร์ขับรถเที่ยวเองในฤดูร้อน 10 วัน ที่เที่ยวห่างไกลผู้คนบนเส้นทางฟยอร์ดทางตะวันตก สไนล์แฟลซเนส & เกาะแฟลทเทย์

ไม่คิดค่ายกเลิก
บริการ 24 ชั่วโมง
แผนการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
สามารถจัดตามความต้องการได้เต็มที่

คำอธิบาย

สรุป

ทัวร์เริ่มจาก
Keflavík Airport
สถานที่สิ้นสุด
Keflavík Airport
ระยะเวลา
10 วัน & 9 คืน
ความยากลำบาก
ง่าย
มีบริการ
พ.ค. - ส.ค.
ที่พัก
9 nights included
Car rental
10 days included

คำอธิบาย

เดินทางสู่อ้อมอกของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ชมฟยอร์ดที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว บ้านเทิร์ฟเฮาส์ น้ำพุร้อน เกาะอันห่างไกล และเมืองที่ถูกทิ้งร้างไปกับทัวร์ขับรถเที่ยว 10 วัน บนเส้นทางคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) และฟยอร์ดทางตะวันตก (Westfjords) ทริปนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาวันหยุดพักผ่อนที่สงบ ต้องการอิสรภาพในการเดินทาง และอยากเห็นวิถีชีวิตเรียบง่ายก่อนที่ความเจริญจะเข้าถึง

ในทัวร์นี้คุณจะได้ไปเยือนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสที่กินบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลและเดินทางผ่านภูมิประเทศงดงามมากมายก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังฟยอร์ดทางตะวันตกและเกาะแฟลทเทย์ (Flatey) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่สุดของไอซ์แลนด์จนเหมือนว่าเวลาหยุดนิ่งมาเนิ่นนาน

ระหว่างการเดินทาง ในช่วงเย็นของแต่ละวันคุณจะเข้าพักในโรงแรมตามชนบทที่สวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านประมงและเมืองชายฝั่งของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสและฟยอร์ดทางตะวันตก และจะได้นอนค้างบนเกาะแฟลทเทย์ที่เงียบสงบเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ เป็นเวลาหนึ่งคืนด้วย

คุณจะเพลิดเพลินกับอิสรภาพในการท่องเที่ยวได้เต็มที่อย่างที่ต้องการ เนื่องจากทัวร์ขับรถเที่ยวด้วยตัวเองนี้ไม่มีไกด์ทัวร์หรือข้อจำกัดด้านเวลา เมื่อคุณทำการจองทัวร์นี้คุณจะได้รับรายละเอียดแผนการเดินทางส่วนตัว จากแผนการเดินทางนี้คุณจะเที่ยวอย่างไรก็ได้ตามใจ และคุณจะเลือกเพิ่มกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่สนุกสนานตื่นเต้นเข้าไปในทริปแต่ละวันอย่างไรก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างกิจกรรมที่น่าสนใจแถมด้วยส่วนลดราคาพิเศษเมื่อจองกิจกรรมพร้อมกับทัวร์ขับรถแพ็คเกจ ได้แก่ ดูวาฬ สำรวจถ้ำ เที่ยวอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็ง และเข้าไปชมด้านในของภูเขาไฟที่สงบแล้ว

ใช้เวลากลางวันอันยาวนานในช่วงหน้าร้อนที่ไอซ์แลนด์ให้คุ้มค่าด้วยการลงไปแช่น้ำในอ่างน้ำร้อนที่ฟยอร์ดทางตะวันตก เดินชมธรรมชาติบนหาดทรายสีขาวและหาดทรายสีดำบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส และเพลิดเพลินไปกับนกพัฟฟินตัวน้อยบนเกาะแฟลทเทย์ด้วยทัวร์ขับรถเที่ยวหน้าร้อนระยะเวลา 10 วันแพ็คเกจนี้ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง

อ่านเพิ่ม

ร่วมด้วย

ที่พัก 9 คืน (มีให้เลือกหลายระดับ; รวมอาหารเช้าสำหรับแบบคอมฟอร์ท; ดูรายละเอียดเพิ่มที่เติมด้านล่าง)
รถเช่าสำหรับ 10 วัน (Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง สามารถอัปเกรดได้) รถทุกคันเป็นรถใหม่
ประกันภัยรถเช่าแบบ CDW สำหรับรถระดับซูเปอร์บัดเจท; รถระดับอื่นจะรวมประกันกรวดด้วย
มี Wi-Fi ฟรีในรถยนต์
ตั๋วเรือเฟอร์รี่บัลเดอร์ รวมนำรถขึ้น 1 คัน
รายละเอียดการเดินทาง
ตัวแทนท่องเที่ยวส่วนบุคคล
ภาษี
Detailed itinerary & travel plan
Personal travel agent
24/7 helpline
VAT & all taxes

จุดหมายปลายทางใน

Reykjavik is the northernmost capital city in the world.เรคยาวิก / 2 คืน
Beautiful coastal geology helps to define the Snaefellsnes Peninsula. สไนล์แฟลซเนส / 2 คืน
ไอซ์แลนด์ตะวันตกมีสถานที่มหัศจรรย์มากมาย เช่น น้ำตกเฮิร์นฟอซซ่าร์คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตก / 1 คืน
A river runs through the Westfjords.ฟยอร์ดทางตะวันตก / 4 คืน
คู่มือท่องเที่ยว เรคฮอลท์คู่มือท่องเที่ยว เรคฮอลท์

แผนที่

สถานที่ท่องเที่ยว

โบสถ์บูดาคิร์กยาอาบแสงเหนือคู่มือท่องเที่ยว บูดิร์
Lóndrangar under the midnight sun.โลนตรังการ์
Snæfellsjökull glacier above the black church at Búðir village.สไนแฟลส์โจกุล
ภูเขา Kirkjufell บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดในไอซ์แลนด์คู่มือท่องเที่ยว คิร์กจูเฟลล์
"The Old Village" in Flatey.ฟลาทเอย์
เรยดาซานดูร์เป็นหาดที่ยาวที่สุดในฟยอร์ดตะวันตกคู่มือท่องเที่ยว เรยดิซานดูร์
Dynjandi (meaning "Thunderous") is a series of waterfalls in the Westfjords and the largest of its kind in the region.ตินยานติ
ครอสเนสเลยก์ เป็นสระน้ำร้อนใต้พิภพที่พบในฟยอร์ดทางตะวันตกของไอซ์แลนด์คู่มือท่องเที่ยว ครอสเนสเลยก์
Hraunfossar is one of the most beautiful waterfalls in West Iceland.เฮรินฟอสสาร์
ปอร์ก เอา มิรุม ปอร์ก เอา มิรุม
Kleifarvatn is the third largest lake in Iceland.เคลย์ฟาร์วาท์น
คู่มือท่องเที่ยว ครีซูวิกคู่มือท่องเที่ยว ครีซูวิก
Gunnuhver is one of the geothermal areas on the Reykjanes Peninsula.กุนนุแควร์

กิจกรรม

เที่ยวถ้ำ
ชมวาฬ
เที่ยวชมสถานที่
ล่องเรือ
แช่น้ำร้อน
กิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรม
ดูนก
ขับรถเที่ยวเอง

รายละเอียดการเดินทาง

Travel dates

นักท่องเที่ยว

รถ

รถ

Small car

Small car

หมวดหมู่
รถขนาดเล็ก
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่
Medium car

Medium car

หมวดหมู่
รถขนาดกลาง
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่
Premium car

Premium car

หมวดหมู่
รถพรีเมี่ยม
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่
Large car

Large car

หมวดหมู่
Large
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่
SUV

SUV

หมวดหมู่
JEEPSUV
เกียร์
คน
กระเป๋าขนาดใหญ่

ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ

วันที่ 1 - เรคยาวิก

วัน 1

วันที่ 1 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
  • More

ยินดีต้อนรับสู่ไอซ์แลนด์!

เมื่อเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ เครื่องบินของคุณจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลทรายลาวาที่แห้งแล้งบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) หลังจากที่รับกระเป๋าและรับรถเช่าที่คุณจะใช้เป็นพาหนะในการเดินทางตลอด 10 วันนี้เรียบร้อยแล้ว คุณจะมุ่งหน้าสู่เรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์

ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่บลูลากูน (Blue Lagoon) ก่อนได้ สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา สปาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ทำให้มีบรรยากาศแปลกตา หากคุณเลือกเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริป กิจกรรมนี้จะถูกจัดเข้าในโปรแกรมการเดินทางให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากคุณยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปในวันนี้ ก็ยังสามารถไปในวันอื่นได้ โดยที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนสมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่

คุณอาจจะเริ่มต้นการผจญภัยด้วยการสำรวจคาบสมุทรเรคยาเนสก่อนก็ได้ เนื่องจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกเป็นประตูหลักที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่มาเยือนไอซ์แลนด์ทั้งหมด ดังนั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องขับผ่านคาบสมุทรแห่งนี้เป็นระยะทาง 31 ไมล์ (50 กม.) อยู่แล้ว บางคนจึงเลือกที่จะแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวลับๆ ที่อยู่บนคาบสมุทรเรคในวันนี้

เช่นเดียวกับอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) บนเส้นทางวงกลมทองคำ คาบสมุทรเรคยาเนสตั้งอยู่บนขอบตามแนวสันกลางมหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณนี้จึงมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจมากมาย

เมื่อคุณเดินทางไปถึงในเมืองหลวงแล้ว คุณจะเข้าไปพักผ่อนเก็บข้าวของในโรงแรมกันก่อน จากนั้นคุณก็สามารถไปเดินเล่นสำรวจเมืองเรคยาวิกเพื่อชมสถาปัตยกรรมแปลกๆ ที่อยู่ในเมืองนี้ เช่น ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa Concert hall) และโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 2 - สไนล์แฟลซเนส

วัน 2

วันที่ 2 - สไนล์แฟลซเนส

  • สไนล์แฟลซเนส
  • More
  • หมู่บ้านบูดิร์
  • หน้าผาหินบะซอลต์ลอนดรังการ์
  • สไนล์เฟลล์โจกุลล์
  • More

เนื่องจากทัวร์นี้เป็นทัวร์ที่คุณขับรถเที่ยวเอง ดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณก่อนที่จะสตาร์ทรถและออกเดินทาง

เมื่อคุณพร้อมแล้วก็บอกลาชีวิตในเมืองและมุ่งหน้าสู่ธรรมชาติของไอซ์แลนด์กันได้เลย หนทางในอีกหลายวันข้างหน้านี้จะเต็มไปด้วยหุบเขาเขียวขจี เทือกเขาตระหง่านงดงาม หมู่บ้านที่ห่างไกลผู้คน และสถานที่ท่องเที่ยวในดินแดนไกลปืนเที่ยง

คุณจะขับรถไปยังเขตบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ (Borgarfjörður) ในทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ ฟยอร์ดบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ตั้งอยู่ท่ามกลางเกลียวคลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกในทางทิศตะวันตกและท่ามกลางธารน้ำแข็งมหึมาในทางทิศตะวันออก และบริเวณฟยอร์ดแห่งนี้เปรียบเสมือนโอเอซิสแห่งวัฒนธรรมไวกิ้ง ซึ่งเคยรุ่งเรืองมากในอดีตเมื่อกว่าหนึ่งพันปีที่แล้ว

เดินทางต่อไปยังเมืองบอร์การ์เนส (Borgarnes) ที่นี่คุณสามารถศึกษาเกี่ยวกับชีวิตคนในสมัยก่อนได้จากพิพิธภัณฑ์ถึงสองแห่ง โดยที่เดอะเซ็ทเทิลเมนต์ เซ็นเตอร์ (Settlement Centre) นั้นนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับยุคที่มนุษย์เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์และตำนานซากาเกี่ยวกับตระกูลเอกิลล์ (Egill) กวีและนักรบจากยุคไวกิ้ง ส่วนพิพิธภัณฑ์บอร์การ์เนสมีนิทรรศการภาพถ่ายที่แสดงถึงพัฒนาการในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาผ่านภาพถ่ายของเด็กๆ ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้

แต่ก่อนที่จะเดินทางไปถึงบอร์การ์เนส คุณอาจจะอยากขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อไปเที่ยวน้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) แห่งแรกนั้นเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลเอื่อยรวยรินออกมาจากหน้าผาลาวาสีดำ ส่วนแห่งที่สองที่อยู่ใกล้ๆ กันมีสายน้ำสาดซัดผ่านซอกหินแคบๆ อย่างแรง

ขับรถต่อไปคุณจะผ่านพื้นที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์และหุบเขาที่อยู่ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์จนกระทั่งคุณไปถึงคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำตก แนวชายฝั่งที่สวยงาม หาดที่เต็มไปด้วยกรวดสีดำ ภูเขาสูงตระหง่าน ทุ่งลาวา และธารน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่

แวะชมที่เที่ยวลับๆ ที่ซ่อนอยู่แถวหน้าผาแกร์ดูเบิร์ก (Gerðuberg) หน้าผาสงบเงียบสวยงามที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยเสาหกเหลี่ยมที่ก่อตัวขึ้นในดินแดนภูเขาไฟแห่งนี้มานานหลายพันปี จากนั้นคุณจะไปต่อที่อิทรี ทุงกา (Ytri-Tunga) หนึ่งในหาดทรายเพียงไม่กี่แห่งของไอซ์แลนด์ที่มีทรายเป็นสีขาว บริเวณนี้คุณอาจจะได้เห็นแมวน้ำออกมาโชว์ตัวตามริมชายฝั่ง

อีกสถานที่หนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดคือหมู่บ้านบูดิร์ (Búðir) หมู่บ้านขนาดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาบูดาเฮริน (Búðahraun) บรรยากาศอึมครึมของโบสถ์ประจำหมู่บ้านซึ่งมีสีดำสนิทและรายล้อมไปด้วยหลุมฝังศพนั้นน่าสนใจและเหมาะกับการถ่ายภาพมากๆ นอกจากนี้ ก่อนที่จะกลับเข้าที่พักในคืนนี้ คุณยังสามารถแวะไปเที่ยวที่หมู่บ้านอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) ที่มีวิวสวยงามของหน้าผาและภูเขาล้อมรอบได้อีกหนึ่งแห่ง คืนนี้พักค้างคืนในหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อเฮลล์นาร์ (Hellnar)

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 3 - สไนล์แฟลซเนส

วัน 3

วันที่ 3 - สไนล์แฟลซเนส

  • สไนล์แฟลซเนส
  • More
  • ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
  • More

ดื่มด่ำกับทัศนียภาพชายฝั่งที่สวยงามของหมู่บ้านเฮลล์นาร์ให้จุใจก่อนที่จะออกเดินทางต่อไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสและอุทยานแห่งชาติชื่อเดียวกัน ตลอดทริปในวันนี้ คุณจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกประหลาดราวกับหลุดมาจากนิยายแฟนตาซี และเมื่อมองไปรอบตัวคุณก็จะสังเกตเห็นธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์โจกุลอันยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของตำนานและนิทานพื้นบ้านมากมายตั้งตระหง่านอยู่เคียงข้างตลอดเวลา

ขับรถต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะเจอกับหินบะซอลต์โลนตรังการ์ (Lóndrangar) ซึ่งเป็นแท่งหินยอดแฝดที่มองดูเหมือนมีปราสาทสีดำโผล่ออกมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก หินพวกนี้คือร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ของปากปล่องภูเขาไฟซึ่งถูกน้ำทะเลกัดเซาะตามกาลเวลา ผู้ที่ชอบการเดินป่าน่าจะชอบบริเวณนี้ด้วยเนื่องจากมีเส้นทางเดินให้เลือกมากมาย แต่ละแห่งก็จะมองเห็นโลนตรังการ์ในมุมที่แตกต่างกัน

วันนี้คุณมีตัวเลือกกิจกรรมเสริมที่จะพาคุณไปชมถ้ำใต้ดินแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ โดยขับรถไปจากโลนตรังการ์ไม่ไกล ที่อุโมงค์ลาวาวาทน์เฮลลิร์ (Vatnshellir) คุณสามารถเดินไปตามเส้นทางเดินที่เคยเป็นทางไหลของแมกมาเมื่อหลายพันปีก่อน

จากนั้นคุณจะไปเที่ยวต่อที่หาดกรวดสีดำตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) แต่ก่อนที่จะไปถึงชายฝั่งคุณต้องผ่านเส้นทางเขาวงกตอันสวยงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นจากหินลาวาผิวขรุขระ ซึ่งคุณจะรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าไปอยู่ในเทพนิยายอย่างไม่ต้องสงสัย และชายหาดบริเวณนี้ก็งดงามเช่นกันถึงแม้จะมีบรรยากาศอึมครึมและมีประวัติความเป็นมาออกแนวดาร์กอยู่สักหน่อย เนื่องจากบนหาดยังมีซากเรือลากอวนที่อับปางที่นี่หลงเหลือให้คุณเห็น โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1948 และมีลูกเรือเสียชีวิต 5 คน

คุณจะเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติสไนล์แฟลซเนส เพื่อไปยังทิศเหนือของคาบสมุทรซึ่งหันหน้าออกไปทางอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์ที่กว้างใหญ่ (Breiðafjörður) อ่าวนี้เป็นที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยกระจัดจายไปทั่วและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำและนกมากมาย และถ้าหากคุณต้องการไปดูสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ตัวใหญ่มหึมาแต่มีนิสัยอ่อนโยน ให้คุณแวะที่หมู่บ้านโอลาปสวิค (Ólafsvík) เพื่อเข้าร่วมทัวร์ดูวาฬที่นั่น

มุ่งหน้าไปยังเมืองชื่อกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) ที่โอบล้อมด้วยภูเขาสวยงามมากมาย หนึ่งในนั้นคือภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ที่มีรูปทรงเหมือนหัวลูกศร โดยในช่วงหลังๆ มานี้ภูเขาลูกนี้เป็นแลนด์มาร์คที่ได้รับความสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งบนคาบสมุทร เนื่องจากถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์แฟนตาซีเรื่อง Game of Thrones

ต่อมาคุณจะเดินทางไปที่เมืองสติกกิโฮลมูร์ (Stykkishólmur) ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทะเลที่มีเสน่ห์อีกแห่งหนึ่งเนื่องจากบ้านเรือนที่นี่มีสีสันสดใสและขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในเมืองนี้

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 4 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตก

วัน 4

วันที่ 4 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตก

  • คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตก
  • More
  • เกาะแฟลทเทย์
  • More

วันนี้คุณจะมุ่งหน้าออกทะเล ล่องเรือข้ามอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์อันงดงามซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและเต็มไปด้วยเกาะแก่งมากมายนับไม่ถ้วนที่มีคนอาศัยอยู่แค่ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น จุดหมายปลายทางของคุณคือหนึ่งในเกาะเหล่านี้ และนั่นก็คือเกาะแฟลทเทย์อันสงบเงียบ

คุณสามารถเลือกได้ว่าจะตรงไปที่เกาะแฟลทเทย์ในช่วงเช้าเลย หรือจะออกเดินทางในช่วงบ่ายและใช้เวลาช่วงเช้าเที่ยวชมพืชพรรณธรรมชาติและสัตว์ที่อาศัยอยู่บนเกาะต่างๆ ในอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์ด้วยการไปร่วมกับทัวร์กินซูชิแบบชาวไวกิ้งที่มีทั้งหอยเชลล์และไข่ปลาสดๆ ให้ชิม

สำหรับการเดินทางจากสติกกิโฮลมูร์เพื่อไปยังเกาะแฟลทเทย์นั้น คุณจะขึ้นเรือเฟอร์รี่บัลเดอร์และมอบกุญแจรถให้กับพนักงานในเรือเพื่อให้พวกเขานำรถไปที่ปรอย์นสไลคูร์ (Brjánslækur) ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของอ่าว เนื่องจากคุณไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถและบนเกาะเล็กๆ ที่ห่างไกลแห่งนี้ก็ไม่มีที่ให้รถวิ่งด้วย

หลังจากล่องเรือไปซักระยะหนึ่งและธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์โจกุลที่มีขนามมหึมาค่อยๆ ลับตา เรือจะจอดเทียบท่าที่แฟลทเทย์ ถนนลูกรังจากท่าเรือจะนำคุณไปสู่หมู่บ้านบนเกาะ ซึ่งดูเหมือนจะหยุดเวลาเอาไว้นานแล้วเพราะบ้านสีสันสดใสที่เรียงรายอยู่ริมถนนเหล่านี้ส่วนใหญ่สร้างขึ้นมากว่าร้อยปีแล้ว

คุณจะได้รับการต้อนรับทักทายจากประชากรที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ประจำตลอดทั้งปี ได้แก่ ฝูงแกะ ไก่ และสุนัขอีกหนึ่งตัวในขณะที่คุณเดินไปยังที่พักสำหรับคืนนี้ ซึ่งเป็นโรงแรมเพียงแห่งเดียวบนเกาะที่ตั้งอยู่บนอ่าวขนาดเล็กชื่อกรีลูโวกูร์ (Grýluvogur) และเมื่อถึงเวลาน้ำลงคุณจะเห็นเด็กๆ ออกมาหาเก็บเปลือกหอย ปู และแมงกะพรุนที่บริเวณชายหาด

ช่วงเย็นคุณสามารถไปใช้บริการร้านอาหารของเกาะ ซึ่งตั้งอยู่ในโกดังเก่าที่ปรับปรุงขึ้นใหม่บนจัตุรัสเก่าแก่ในตลาด หลังจากมื้อเย็น คุณสามารถไปที่บาร์ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเกลือร้างที่บริเวณโกดัง และใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์เที่ยงคืนให้คุ้มค่าด้วยการเดินเล่นรอบเกาะ ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 5 - ฟยอร์ดทางตะวันตก

วัน 5

วันที่ 5 - ฟยอร์ดทางตะวันตก

  • ฟยอร์ดทางตะวันตก
  • More
  • หาดทรายแดงเรยดิซานดูร์
  • More

ใช้เวลาช่วงเช้าสำรวจเกาะอันงดงามแห่งนี้ เกาะแฟลทเทย์เต็มไปด้วยนก ซึ่งคุณอาจจะได้พบเห็นนกนางนวลอาร์กติกด้วยก็ได้ แต่ถ้าคุณมองไปที่หน้าผาทางทิศเหนือของเกาะก็อาจจะเจอกับนกพัฟฟินตัวน้อยๆ แทน

เช้าวันนี้คุณอาจจะออกไปเดินเล่นชมธรรมชาติที่ยังไม่ถูกมนุษย์ทำลาย ไปชมภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเป็นเอกลักษณ์ในโบสถ์ของเกาะ และไปเยี่ยมชมห้องสมุดที่มีขนาดเล็กที่สุดในไอซ์แลนด์ก่อนที่คุณจะขึ้นเรือเฟอร์รี่เพื่อเดินทางไปยังฟยอร์ดทางตะวันตก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยมีผู้คนไปเยือนเช่นกัน

หลังจากที่เรือเทียบท่าที่ท่าเรือปรอย์นสไลคูร์ คุณจะไปรับรถและเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวลับๆ อีกแห่ง นั่นก็คือสระว่ายน้ำและบ่อน้ำร้อนบีกิเมลูร์ (Birkimelur) ซึ่งเป็นสถานที่งดงามที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำโมรา (Móra) ที่มีแต่ภูเขาที่อยู่ห่างไกลล้อมรอบแบบไม่มีอย่างอื่นมาบดบัง จากนั้นคุณจะไปสำรวจเรยดาซานตูร์ (Rauðasandur) หาดทรายสีแดงสวยที่ทอดตัวจากภูเขาที่ขรุขระยาวไปทางทิศตะวันออกสู่ลาทราบียอร์ก (Látrabjarg) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกสุดของยุโรป

ลาทราบียอร์กยังเป็นหน้าผาที่มีนกอาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรปด้วย ที่นี่เป็นบ้านของนกพัฟฟิน นกแกนเนต นกกีลล์ม็อต และนกเรเซอร์บิลหลายล้านตัว และเนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ห่างไกลความเจริญ นกพวกนี้จึงไม่ค่อยกลัวอะไร เพราะพวกมันไม่เคยรู้จักศัตรูอื่นนอกเหนือจากสุนัขจิ้งจอกอาร์กติก ทำให้คุณมีโอกาสเข้าไปชมและถ่ายภาพนกพัฟฟินและนกเรเซอร์บิลอย่างใกล้ชิด

เมื่อสิ้นสุดวันที่เต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ มากมาย คุณจะมุ่งหน้าไปยังเมืองชายฝั่งเล็กๆ ชื่อพาเทรคสฟยอร์ดูร์ (Patreksfjörður) และพักค้างคืนที่เมืองนี้

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 6 - ฟยอร์ดทางตะวันตก

วัน 6

วันที่ 6 - ฟยอร์ดทางตะวันตก

  • ฟยอร์ดทางตะวันตก
  • More
  • ดินยานดิ
  • More

วันที่หกนี้คุณจะตื่นมาในดินแดนแห่งฟยอร์ดในทางตะวันตกอันห่างไกลที่ปกคลุมไปด้วยความเงียบสงบและความงดงามของภูมิประเทศโดยรอบ เนื่องจากฟยอร์ดเหล่านี้ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว การเดินทางในวันนี้ของคุณจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเห็นผู้คนมากนัก ทำให้คุณได้สัมผัสการผจญแบบสันโดษอย่างแท้จริง

วันนี้คุณจะเดินทางลึกเข้าไปในดินแดนแถบนี้ เพื่อไปดูน้ำตกดินยานดิ (Dynjandi) ซึ่งอยู่ที่ด้านล่างของฟยอร์ดอาร์นาร์ฟยอร์ดูร์ (Arnarfjörður) ถนนไปน้ำตกเป็นทางบนเขาที่ขรุขระแต่ก็ทำให้คุณมองลงมาเห็นวิวสวยงามของฟยอร์ดและหุบเขาด้านล่าง

ระหว่างทางคุณสามารถแวะพักและเพลิดเพลินกับน้ำอุ่นและสูดอากาศบริสุทธิ์ของภูเขาที่สระน้ำและอ่างน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพซึ่งมีให้เลือกหลายแห่ง ที่แรกคือสระน้ำพอลลูรินน์ (Pollurinn) ที่อยู่นอกหมู่บ้านทอล์คนาฟยอร์ดูร์ (Tálknafjörður) ที่นี่มองเห็นวิวอันงดงามของภูเขาและฟยอร์ดทอล์คนาฟยอร์ดูร์ได้อย่างชัดเจน ส่วนแห่งที่สองคือสระเรคยาฟยาร์ดาร์เลย (Reykjafjarðarlaug) ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไปทางทิศตะวันออก และบนเนินหญ้าใกล้สระน้ำจะมีเพิงเล็กๆ ที่หลังคาปกคลุมด้วยหญ้าตามสไตล์เทิร์ฟเฮาส์ของประเทศไอซ์แลนด์ให้คุณได้ดูด้วย

เมื่อคุณเข้าใกล้น้ำตกดินยานดิ ซึ่งเป็นน้ำตกรูปทรงสามเหลี่ยมฐานกว้างเหมือนปิรามิด คุณจะได้ยินเสียงน้ำตกที่ไหลลงจากความสูง 100 ม. (100 ม.) ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณตั้งแต่ที่คุณยังอยู่บนถนนเลยทีเดียว

ใกล้กับน้ำตกเป็นเมืองฮราฟน์เซย์ริ (Hrafnseyri) ซึ่งคุณจะได้เห็นบ้านสไตล์เทิร์ฟเฮาส์ของยอน ซิกูร์ดสัน (Jón Sigurðsson) ผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพของไอซ์แลนด์เมื่อศตวรรษที่ 19 ที่ผ่านการบูรณะซ่อมแซมให้มีสภาพดี คุณยังสามารถขับรถขึ้นเหนือไปอีกนิดเพื่อไปชมพิพิธภัณฑ์นอนเซนส์ (Nonsense Museum) ที่อยู่ในหมู่บ้านแฟลทเทย์ริ (Flateyri) หรือหาดฮอล์ทฟยารา (Holtsfjara) ซึ่งเป็นหาดทรายสีขาวที่เหมาะสำหรับการสร้างปราสาททราย

ที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ในหมู่บ้านแฟลทเทย์ริ หรือเมืองอีสาฟยอร์ดูร์ (Ísafjörður) ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 7 - ฟยอร์ดทางตะวันตก

วัน 7

วันที่ 7 - ฟยอร์ดทางตะวันตก

  • ฟยอร์ดทางตะวันตก
  • More

วันนี้คุณจะปักหลักอยู่ในอีสาฟยอร์ดูร์ (Ísafjörður) เมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่สุดของฟยอร์ดทางตะวันตก ซึ่งไม่เพียงแต่ร่ำรวยด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติเท่านั้น แต่อีสาฟยอร์ดูร์ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจด้วย เพราะอยู่ใกล้กับหมู่บ้านชาวประมงที่ยังรักษาขนบธรรมเนียมแบบดั้งเดิมเอาไว้เป็นอย่างดี

สถานที่โดดเด่นในบริเวณนี้ ได้แก่ โปลุงกาวีค (Bolungarvík) ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์การเดินเรือให้ชม ซูดีเรย์ริ (Suðureyri) ที่มีสระว่ายน้ำ และแฟลทเทย์ริ (Flateyri) ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีเรื่องราวอดีตที่น่าสนใจ นอกจากนี้เส้นทางขับรถไปยังสถานที่เหล่านี้จะต้องผ่านอุโมงค์ลอดภูเขาหรือไม่ก็ต้องขับอ้อมฟยอร์ดอันงดงาม

ผู้ที่ต้องการทำกิจกรรมเสริมในวันนี้สามารถไปพายเรือคายัคชมวิวได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ก็สามารถเข้าร่วมได้ นอกจากจะสนุกตื่นเต้นและได้เห็นทิวทัศน์อันสวยงามแล้ว คุณยังมีโอกาสได้เห็นนกทะเล แมวน้ำ หรือแม้กระทั่งวาฬด้วย

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนอีสาฟยอร์ดูร์บางคนยังใช้โอกาสนี้ไปเที่ยวเขตอนุรักษ์ธรรมชาติฮอร์นสตรานดิร์ (Hornstrandir) กันด้วย เพราะสามารถเข้าถึงได้จากเมืองอีสาฟยอร์ดูร์เพียงทางเดียวเท่านั้น

คืนนี้พักค้างคืนแถวอีสาฟยอร์ดูร์

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 8 - ฟยอร์ดทางตะวันตก

วัน 8

วันที่ 8 - ฟยอร์ดทางตะวันตก

  • ฟยอร์ดทางตะวันตก
  • More
  • ครอสส์เนสเลยก์
  • More

วันนี้คุณจะขับรถไปตามถนนที่คดเคี้ยวผ่านหมู่บ้านเล็กๆ หลายแห่งของฟยอร์ดอีสาฟยอร์ดูร์ แต่ก่อนจะออกเดินทาง อย่าลืมเที่ยวในเมืองอีสาฟยอร์ดูร์ด้วย เพราะมีบ้านเรือนเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 18 ให้ชมและยังว่ากันว่ามีอาหารทะเลที่อร่อยที่สุดในไอซ์แลนด์ด้วย

คุณสามารถสัมผัสกลิ่นอายแห่งอดีตของไอซ์แลนด์ได้ที่เกาะวิกูร์ (Vigur) ซึ่งนั่งเรือไปจากอีสาฟยอร์ดูร์ไม่นาน คุณจะได้เห็นว่าผู้คนที่นั่นใช้ประโยชน์จากทั้งผืนดินและผืนน้ำในการเอาชีวิตรอดท่ามกลางสภาพอากาศที่โหดร้ายรุนแรงของประเทศไอซ์แลนด์มาได้อย่างไรโดยที่ไม่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นตัวช่วย เกาะนี้เต็มไปด้วยนกมากมายและคุณอาจจะได้เห็นแมวน้ำที่ริมฝั่งด้วย

ก่อนที่จะเดินทางลงใต้ คุณสามารถขับออกนอกเส้นทางเพื่อไปชมหมู่บ้านโปลุงกาวีค ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการเดินเรือในสมัยศตวรรษที่ 19 ที่นี่มีเครื่องไม้เครื่องมือในการประมง กระท่อมเทิร์ฟที่มีหญ้าปกคลุมหลังคา และภัณฑรักษ์ของพิพิธภัณฑ์ยังแต่งกายในชุดชาวประมงพื้นเมืองแบบดั้งเดิมมาต้อนรับคุณด้วย

ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าจะต้องหลงรักภูเขาโบลาฟยอาลล์ (Bolafjall) ที่อยู่แถวหมู่บ้านนี้อย่างแน่นอน เพราะจากบนยอดเขาสามารถมองเห็นวิวที่งดงามมาก โดยในวันที่อากาศแจ่มใส คุณอาจมองเห็นไกลไปถึงกรีนแลนด์เลยทีเดียว

เมื่อพร้อมออกเดินทางบนถนนแล้ว ให้คุณขับไปเรื่อยตามเส้นทางของฟยอร์ดที่คดเคี้ยวจนไปถึงหมู่บ้านโฮลมาวีค (Hólmavík) ซึ่งคืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่นั่น

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 9 - เรคยาวิก

วัน 9

วันที่ 9 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก
  • More
  • แหล่งประวัติศาสตร์เรคโฮลท์
  • น้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์และน้ำตกบาร์นาฟอสส์
  • โบสถ์และฟาร์มที่บอร์กา มิรุม
  • More

ถึงเวลาอำลาฟยอร์ดทางตะวันตกซึ่งเป็นสถานที่ในตำนานของไอซ์แลนด์กันแล้ว วันนี้คุณจะขับรถกลับเรคยาวิก ซึ่งหนทางค่อนข้างยาวไกลแต่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาเขียวขจีของชายฝั่งตะวันตกให้ชื่นชม

ก่อนที่จะกลับเข้าไปอยู่ท่ามกลางความเจริญของเมือง คุณสามารถแวะชมวิถีชีวิตยุคโบราณของคนสมัยหลายพันปีก่อนได้ที่อีริคส์สตาดีร์ (Eiríksstaðir) ที่นั่นมีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งและบ้านสไตล์เทิร์ฟเฮาส์แห่งยุคซากาที่มีการบูรณะซ่อมแซมใหม่ ตลอดจนซากปรักหักพังของฟาร์มสมัยโบราณของชนเผ่าไวกิ้งที่เชื่อกันว่าเป็นบ้านของเอริคเดอะเรด (Eric the Red) และเป็นสถานที่ที่เลฟเดอะลัคกี้ (Leif the Lucky) ลูกชายของเขาลืมตามาดูโลกครั้งแรก

ห่างออกไปทางทิศใต้เป็นธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ ซึ่งมีอุโมงค์น้ำแข็งมากมายอยู่ภายใต้ผืนน้ำแข็งยุคโบราณแห่งนี้ด้วย และวันนี้คุณสามารถเลือกลงไปชมอุโมงค์เหล่านี้กับทัวร์เสริมได้ โดยคุณจะได้เข้าไปสำรวจโลกสีฟ้าขาวที่ด้านในของธารน้ำแข็ง

แต่ถ้าหากคุณต้องการสำรวจโลกใต้ดินในแบบอื่น ให้คุณเลือกไปเข้าร่วมกับทัวร์ที่ออกเดินทางจากเมืองเรคยาวิกแทน โดยทัวร์นี้จะพาคุณลงไปชมโถงแมกมาอันว่างเปล่าใต้ภูเขาไฟที่สงบแล้ว คุณจะได้เห็นหินรูปร่างแปลกตาและสีสันที่สดใสของผนังถ้ำ และขนาดที่มหึมาจนน่าตกใจของโถงแมกมา

คืนสุดท้ายที่ไอซ์แลนด์ คุณจะพักในเมืองเรคยาวิก และหากคุณยังไม่เหนื่อยเกินไป คุณสามารถออกไปแฮงก์เอาท์กินดื่มในร้านอาหารและบาร์ที่มีอยู่มากมายในเมือง

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

ที่พัก

วันที่ 10 - เรคยาวิก

วัน 10

วันที่ 10 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
  • More
  • เคลฟาร์วาทน์
  • ครีซูวิก
  • กุนนูฮแวร์
  • More

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปเที่ยวไอซ์แลนด์ของคุณ ถ้าเที่ยวบินของคุณออกสายหน่อย คุณก็ยังสามารถเที่ยวเมืองเรคยาวิกที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ได้อีกหน่อย เพียงแต่อย่าลืมเผื่อเวลาไปถึงสนามบินเพื่อคืนรถเช่าและเช็คอินขึ้นเครื่องให้ทันก็พอ

ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข

หากคุณยังไม่เคยไปชมโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) ขอแนะนำให้ไปที่นั่นในช่วงเช้า สถาปัตยกรรมของโบสถ์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสาหินบะซอลต์ที่มีอยู่มากมายทั่วไอซ์แลนด์ เหมือนกับที่คุณไปเห็นมาที่แกร์ดูเบิร์ก (Gerðuberg) บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

ฝั่งตรงกันข้ามกับโบสถ์เป็นสวนประติมากรรมผลงานของอีนาร์ โจนาสสัน (Einar Jónasson) ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรี โดยคุณจะได้ใช้เวลาชั่วโมงสุดท้ายในไอซ์แลนด์ดื่มด่ำกับประติมากรรมอันงดงามที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากตำนานและนิทานพื้นบ้าน

เมื่อถึงเวลาต้องออกเดินทาง คุณจะขับรถผ่านทะเลทรายลาวาสีดำบนคาบสมุทรเรคยาเนสเพื่อเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และพบกันใหม่ที่ไอซ์แลนด์ในเร็วๆ นี้

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

สิ่งที่ควรนำไป

เสื้อผ้าที่อบอุ่นและกันน้ำ
รองเท้าสภาพดี
ชุดว่ายน้ำและผ้าเช็ดตัว
ใบขับขี่
กล้องถ่ายรูป

สิ่งที่ควรรู้

ที่พักบนเกาะแฟลทเทย์มีจำนวนจำกัดและไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีห้องว่างหรือไม่ ในกรณีที่โรงแรมบนเกาะแฟลทเทย์ถูกจองเต็มหมดในช่วงที่คุณเดินทาง คุณจะขึ้นเรือเฟอร์รี่บัลเดอร์ (Baldur) ไปยังเกาะแฟลทเทย์ในช่วงเช้าเพื่อเที่ยวบนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ก่อน จากนั้นค่อยขึ้นเรือเฟอร์รี่ในช่วงบ่ายอีกครั้งเพื่อเดินทางไปยังฟยอร์ดทางตะวันตก ซึ่งคุณจะพักค้างคืนที่โรงแรมในบริเวณนี้แทน

แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองนี้สามารถเริ่มออกเดินทางได้ทั้งจากในตัวเมืองเรคยาวิกและจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ทั้งนี้คนขับจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนถนนอย่างน้อย 1 ปี อย่างไรก็ตามรายละเอียดการเดินทางที่คุณได้รับอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย

แม้ว่าคุณจะมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน แต่อากาศในไอซ์แลนด์นั้นก็ยากที่จะคาดเดาได้ถูก ดังนั้นกรุณาเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมติดตัวมาด้วย

สำหรับการไปเที่ยวภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Þríhnjúkagígur) ห้ามสวมใส่ผ้าคอตตอนหรือผ้ายีนส์ทับที่ชั้นนอก กรุณาสวมเสื้อผ้าที่กันน้ำได้และสวมรองเท้าสำหรับปีนเขาที่มีความคงทนแข็งแรง อุณหภูมิภายในปล่องภูเขาไฟมักจะอยู่ที่ 5–6°C (42–43°F) และคุณจะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (2 ไมล์) ต่อเที่ยว ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 45–50 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนในคณะทัวร์) ระหว่างที่เดินนี้จะมีไกด์ดูแลตลอดเวลา

อ่านเพิ่ม

วิดีโอ

รีวิวที่รับรองแล้ว

แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด