ทัวร์ขับรถเที่ยวเองฤดูร้อน 10 วันบนถนนวงแหวนพร้อมสัมผัสพื้นที่ไฮแลนด์ในตอนกลางของประเทศ
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
ท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยแพ็คเกจขับรถเที่ยวเองหน้าร้อน 10 วัน เพื่อสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ เช่น วงกลมทองคำ ชายฝั่งทางใต้ ฟยอร์ดทางตะวันออก และพื้นที่แถบมิวาทน์ คุณจะเต็มอิ่มกับประสบการณ์การเดินทางผ่านเนินเขาอันงดงาม ภูเขา และผืนน้ำแข็งในพื้นที่ไฮแลนด์ในตอนกลางของประเทศ
ทัวร์นี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการอิสระในการเดินทางแต่ไม่อยากปวดหัวกับการวางแผนท่องเที่ยวตามลำพัง เมื่อเลือกใช้บริการทัวร์ขับรถเที่ยวเองแพ็คเกจนี้ คุณจะมีตัวแทนท่องเที่ยวส่วนบุคคลที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และตัวแทนของคุณจะออกแบบเส้นทางให้กับคุณ ซึ่งรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อและสถานที่ท่องเที่ยวลับที่คุณอยากจะไปชมด้วย ทำให้ทริปนี้เป็นทริปที่เหมาะกับคุณอย่างแท้จริง
คุณจะเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความงดงามมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ได้เห็นน้ำตกที่ลดหลั่นสวยงาม สัมผัสกับทะเลสาบธารน้ำแข็งที่เป็นประกายระยิบระยับ ชมหุบเขาขรุขระของชายฝั่งทางใต้ หมู่บ้านริมทะเลที่มีเสน่ห์น่าประทับใจ ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มและภูเขาสูงตระหง่านของฟยอร์ดทางตะวันออก ทุ่งลาวาแห้งแล้ง และพื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่ยังคุกรุ่นในเขตมิวาทน์
แผนการเดินทางท่องเที่ยวนี้ยังรวมการเที่ยวอยู่ในเมืองเรคยาวิก เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานตื่นตาตื่นใจ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและการค้าของประเทศ คุณจะมีตัวเลือกในการเที่ยวมากมาย คุณสามารถชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ หรือจะเดินเล่นในย่านดาวน์ทาวน์และช้อปปิ้งก็ได้
คุณจะใช้เวลาหนึ่งวันอย่างสงบเพื่อดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติของพื้นที่ไฮแลนด์ในตอนกลางของประเทศ ซึ่งคุณอาจจะเลือกไปเที่ยวที่หุบเขาธอร์สมอร์ค (Thorsmork) ซึ่งซ่อนตัวอยู่ระหว่างธารน้ำแข็งสามแห่ง หรือไปเที่ยวที่แถบลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar) ที่เต็มไปด้วยภูเขาสีสันสดใสท่ามกลางสายลมที่พัดโหมกระหน่ำ ในพื้นที่ตะวันออกอันห่างไกล คุณจะได้ไปชมพื้นที่ส่วนปลายของฟยอร์ดทางตะวันออกกับไกด์ท้องถิ่น ส่วนเมื่อเดินทางขึ้นไปทางเหนือ คุณสามารถไปชมภูมิประเทศที่แปลกประหลาดเกินกว่าจะจินตการของเขตภูเขาไฟอาสยา (Askja) และเหยียบบนผืนดินที่นีล อาร์มสตรองเคยมาใช้ฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจลงจอดบนดวงจันทร์
เมื่อคุณทำการจองทัวร์ขับรถแพ็คเกจนี้ คุณสามารถกดเพิ่มกิจกรรมเสริมที่ต้องการเข้าไปได้ เพื่อทำให้ทริปครั้งนี้ของคุณมีความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยวบนวงกลมทองคำ คุณสามารถไปดำน้ำตื้นสน็อกเกิลในพื้นที่ระหว่างสองทวีป หรือไปขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็ง คุณสามารถปีนกลาเซียร์หรือไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติบนชายฝั่งทางใต้ และคุณยังสามารถลงไปชมโถงแมกมาว่างเปล่าของภูเขาไฟและล่องเรืออยู่ท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนได้ด้วย
ที่ฮูสาวิค (Husavik) ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป คุณสามารถลงเรือไปดูวาฬ ซึ่งคุณมีโอกาสได้เห็นยักษ์ใหญ่แห่งมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือถึง 99% ระหว่างทางในทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้ยังมีน้ำพุร้อนและอ่างน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพอีกเป็นจำนวนมากที่รอให้คุณไปสัมผัสกับประสบการณ์แห่งความผ่อนคลาย
แผนการเดินทางเหล่านี้จะถูกจัดเตรียมไว้ให้คุณแล้วก่อนที่คุณจะออกเดินทาง รวมถึงที่พักและรถเช่าด้วย สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงเตรียมความพร้อมสำหรับการขับรถเท่านั้น และการที่คุณเป็นผู้กำหนดการใช้เวลาในทริปนี้เอง ทริปนี้จึงเป็นทริปเที่ยวไอซ์แลนด์ในแบบที่คุณต้องการอย่างแท้จริง
ดังนั้นอย่าลังเลอีกต่อไป! รีบจองเลยแล้วคุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติและวัฒนธรรมที่เป็นไฮไลต์ของประเทศไอซ์แลนด์ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - วันเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์
ยินดีต้อนรับสู่ไอซ์แลนด์! วันนี้คุณจะลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกซึ่งอยู่บนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) ที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟ หลังจากเครื่องลงจอด คุณจะไปยังจุดบริการของบริษัทรถเช่าเพื่อรับรถที่จะใช้เป็นพาหนะสำหรับการเดินทางในอีก 10 วันข้างหน้า
เมื่อขึ้นรถแล้วให้คุณขับมุ่งหน้าสู่เรคยาวิก เมืองหลวงและศูนย์กลางวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ระหว่างทางคุณจะผ่านทุ่งแมกมาที่มีบรรยากาศมัวหมองและแห้งแล้งของเรคยาเนส เมื่อมองออกไปที่ด้านหนึ่งของถนนจะเห็นเกลียวคลื่นสีครามของมหาสมุทรแอตแลนติกกำลังม้วนตัวเข้าหาฝั่งในขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นทิวทัศน์ของภูเขาอยู่ไกลลิบสุดลูกหูลูกตา
เมื่อคุณมาถึงที่พักของคุณซึ่งอยู่ในตัวเมือง คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือของวันนี้ได้อย่างที่ต้องการ ในเมืองมีแกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ นิทรรศการทางวัฒนธรรม และสวนสาธารณะให้คุณได้เพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและเส้นทางเดินป่าที่สวยงามอยู่รอบๆ เขตเมืองด้วย
หากเที่ยวบินของคุณมาถึงในช่วงบ่ายแก่ๆ หรือช่วงค่ำ คุณอาจจะไปลองชิมอาหารมื้อหรูหราสไตล์กูร์เมต์และออกไปสัมผัสความตื่นเต้นสนุกสนานของชีวิตกลางคืนที่ไอซ์แลนด์กันดูก็ได้
ในคืนแรกที่ไอซ์แลนด์คุณจะพักค้างคืนอยู่ในเมืองหลวง

วัน 2 - วงกลมทองคำและหุบเขาคัลดิดาลูร์
คุณจะใช้เวลาวันที่สองในประเทศไอซ์แลนด์ในสถานที่ท่องเที่ยวหลัก 3 แห่งบนเส้นทางท่องเที่ยววงกลมทองคำอันเลื่องชื่อ สถานที่แรกคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) ซึ่งขับรถไปไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก สถานที่งดงามแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโกด้วย
ภายในพื้นที่อนุรักษ์นี้ นักท่องเที่ยวจะได้ชมแผ่นเปลือกโลกของทวีปอเมริกาเหนือและยูเรเชียนที่โผล่พ้นจากแผ่นดินมาให้เห็น และจะได้เห็นแหล่งน้ำธรรมชาติจากธารน้ำแข็งที่ใสราวคริสตัลในรอยแยกซิลฟรา (Silfra Fissure) นอกจากนี้ ยังมีทัวร์เสริมที่คุณสามารถเลือกเพิ่มเข้าไปในทริปวันนี้ได้ด้วย โดยคุณจะได้สวมชุดดรายสูทและหน้ากากสน็อกเกิลลงไปชมหุบเขาใต้ผืนน้ำสีฟ้า
จุดแวะแห่งที่สองของการเที่ยววงกลมทองคำคือหุบเขาพลังงานความร้อนใต้พิภพหรือทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ในพื้นที่แถบนี้จะมีพุก๊าซปล่อยไอพวยพุ่งปกคลุมไปทั่ว รวมถึงมีบ่อโคลนที่เดือดปุดๆ และน้ำพุร้อนชื่อดัง 2 แห่ง ได้แก่ ไกเซอร์ (Geysir) และสโทรคูร์ (Strokkur) โดยอันแรกนั้นสงบนิ่งไปแล้ว แต่อันหลังยังคงพ่นน้ำทุกๆ ประมาณห้านาที จึงเป็นที่นิยมในการถ่ายภาพมาก
จุดแวะแห่งที่สามของวันนี้คือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งน้ำตกของไอซ์แลนด์ ด้วยมวลน้ำที่ตกจากความสูง 105 ฟุต (32 ม.) ผ่านหินลดหลั่นลงสองชั้นก่อนจะไหลลงสู่หุบเขาลึกที่ด้านล่าง ทำให้บางมุมมองดูราวกับมวลน้ำไหลหล่นหลุดหายออกไปจากโลกใบนี้
นักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทายอาจจะต้องการเวลาเพิ่มในวันนี้เพื่อสำรวจหุบเขาคัลดิดาลูร์ (Kaldidalur) ถนนคัลดิดาลสเวกูร์ (Kaldidalsvegur) ที่ตัดผ่านหุบเขาแห่งนี้ เป็นหนึ่งในเส้นทางที่สั้นที่สุดที่ผ่าเข้าไปในพื้นที่ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์ ทำให้เหมาะสำหรับการอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมก่อนที่คุณจะเดินทางลึกเข้าไปในไฮแลนด์ในวันรุ่งขึ้น
ถึงแม้ระยะทางจะสั้น แต่ถนนเส้นนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่าถนนเส้นอื่นๆ ที่ตัดผ่านไฮแลนด์ ทำให้สามารถมองเห็นความงดงามของพื้นที่ไฮแลนด์ได้อย่างชัดเจน
จากบริเวณลานจอดรถของน้ำตกกุลล์ฟอสส์ คุณยังสามารถไปขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ได้ด้วย การขี่สโนว์โมบิลโลดแล่นอยู่บนผืนน้ำแข็งสีขาวโพลนกว้างใหญ่ไพศาลจะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพโดยรอบและสัมผัสกับประสบการณ์ที่สนุกตื่นเต้นจนอะดรีนาลีนสูบฉีดแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อเสร็จสิ้นจากกิจกรรมต่างๆ ในวันนี้ คุณจะขับรถไปที่เซลฟอสส์ (Selfoss) และพักค้างคืนอยู่ที่นี่

วัน 3 - พื้นที่ไฮแลนด์ในตอนกลางของประเทศ
ในวันที่สามคุณมีตัวเลือกสามแบบในการเที่ยวในไฮแลนด์ ซึ่งพื้นที่ไฮแลนด์ในตอนกลางของไอซ์แลนด์นั้นสามารถเข้าไปได้เฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น ทริปนี้จึงมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น
ตัวเลือกแรกคือการขับรถไปที่ลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar) ด้วยตัวเอง แต่การจะเข้าพื้นที่นี้ได้คุณต้องใช้รถเช่าที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้นและผู้ขับขี่ต้องมีประสบการณ์มาก่อนด้วย เพราะเส้นทางนี้ต้องมีการขับข้ามแม่น้ำด้วย ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับมือใหม่
ตัวเลือกที่สอง คุณสามารถเดินทางไปลานมันนาเลยการ์ (ที่หมายถึงสระน้ำของประชาชน) ด้วยการเข้าร่วมกับทัวร์ซูเปอร์จี๊ปและไปไฮกิ้งระยะสั้นๆ ซึ่งทริปเดินป่านี้คุณจะได้เห็นเนินเขาหินไรโอไลต์สีสันสดใสของลานมันนาเลยการ์ ที่มีทั้งเฉดสีน้ำเงิน ม่วง และเขียวเป็นเงาวิบวับจากเนินลาดชัน นอกจากนี้เส้นทางเดินป่าของที่นี่ยังมีความคดเคี้ยวและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม และคุณสามารถชื่นชมความงามของพื้นที่ไฮแลนด์ได้ด้วยสองเท้าของตัวเองแบบไม่ต้องพะวงเรื่องการขับรถบนเส้นทางที่ยากด้วย
ตัวเลือกที่สามคือการเข้าร่วมกับทัวร์ซูเปอร์จี๊ปเพื่อไปเดินป่าที่ธอร์สมอร์ค (Thorsmork) ซึ่งเส้นทางไฮกิ้งที่นี่เป็นสวรรค์ของนักเดินป่าเลยก็ว่าได้ และเป็นหุบเขาที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ด้วยโดยโอบล้อมด้วยธารน้ำแข็ง 3 แห่ง คุณจะเดินทางผ่านแม่น้ำและน้ำตกที่สวยงาม ผ่านหุบเขาและพื้นที่เขียวขจีในขณะที่ยังสามารถมองเห็นธารน้ำแข็งได้ตลอดเวลา สำหรับทัวร์นี้คุณต้องไปพบกับไกด์ทัวร์แถวเฮลลา (Hella) และควอลส์เวิลลูร์ (Hvolsvollur)
หลังจากผจญภัยในไฮแลนด์มาทั้งวันแล้ว คุณจะเดินทางกลับไปยังที่พักของคุณซึ่งอยู่แถวเซลฟอสส์

วัน 4 - ชายฝั่งทางใต้
วันที่สี่ของทริปนี้คุณจะไปชมสถานที่ท่องเที่ยวบนชายฝั่งทางใต้ที่งดงามของไอซ์แลนด์ ชายฝั่งทางใต้เป็นพื้นที่ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยประกอบไปด้วยแนวชายฝั่งเว้าแหว่ง น้ำตกที่ทอประกายยามต้องแสง และพื้นที่ฟาร์มเพาะปลูกอันเขียวขจี
สถานที่แรกที่คุณจะแวะในวันนี้คือน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) น้ำตกทั้งสองแห่งสูง 197 ฟุต (60 ม.) แต่มีความกว้างต่างกัน น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสสนั้นแคบกว่ามาก และนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปชมหลังม่านน้ำตกได้ซึ่งจะทำให้ได้ภาพถ่ายสวยๆ ในมุมมองใหม่
ถัดมาเป็นหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่ขึ้นชื่อเรื่องคลื่นที่ถาโถมฟาดเข้ากับชายฝั่งอย่างแรง เสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยม กรวดภูเขาไฟ และโขดทะเลที่โดดเด่นสะดุดตา คุณยังจะได้ไปเที่ยวเมืองวิก อี มิร์ดาล์ (Vik i Myrdal) ที่อยู่ติดกันด้วย เมืองนี้เหมาะสำหรับแวะรับประทานอาหารและช้อปปิ้งของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ
ใกล้กับหมู่บ้านวิกคือคาบสมุทรดิร์โอลาเอย์ (Dyrholaey) ที่ทำให้ภูมิทัศน์ของชายฝั่งทางใต้มีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก ซุ้มหินที่ยื่นออกไปในทะเลนี้มีรูกลวงโค้งมนและว่ากันว่ามีนักบินใจกล้าเคยพยายามขับเครื่องบินลอดมาแล้วด้วย
ในวันที่สี่นี้คุณสามารถเพิ่มสีสันให้กับทริปได้มากมาย เริ่มแรกคุณอาจจะเลือกไปปีนผืนน้ำแข็งที่เป็นประกายระยิบระยับที่โซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะทำให้ได้เห็นวิวของชายฝั่งทางใต้แบบเต็มๆ พร้อมกับได้ชมประติมากรรมอันสลับซับซ้อน รอยแยกลึก และเนินชันบนผืนน้ำแข็งแบบใกล้ชิด นอกจากนี้คุณยังสามารถสนุกเพลิดเพลินกับการขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งได้ด้วย
หรือไม่อย่างนั้นคุณอาจจะอยากจองทัวร์ไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่ภูเขาไฟคัทลา (Katla) ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้อยู่ภายใต้ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่และเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าทำไมไอซ์แลนด์จึงถูกเรียกว่าเป็นดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ ในช่วงเย็นคุณจะเข้าพักในที่พักซึ่งอยู่แถววิก

วัน 5 - ชายฝั่งทางใต้ (ต่อ)
วันที่ห้าคุณจะไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull) อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป วันนี้คุณจะเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เมื่อคุณข้ามทะเลทรายโซลเฮมาซานดูร์ (Solheimasandur) เนินชันของผืนน้ำแข็งที่เป็นส่วนหนึ่งของวัทนาโจกุลและเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) จะโผล่มาทักทายให้เห็นอยู่ตรงหน้า
หากคุณคิดว่าจะไม่ปีนธารน้ำแข็งในวันที่สี่ คุณสามารถมาเพิ่มกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งที่สกัฟตาเฟลล์ในวันนี้แทนได้ สกัฟตาเฟลล์เป็นพื้นที่ป่าที่สวยงามอยู่ภายในอุทยานซึ่งมีทั้งหุบเขาลึก น้ำตกที่ส่งเสียงกึกก้อง และธารน้ำแข็งขนาดใหญ่สองแห่งคือธารน้ำแข็งสกัฟตาเฟลล์โจกุล (Skaftafellsjokull) และธารน้ำแข็งสวินาเฟลล์โจกุล (Svinafellsjokull)
อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ไฮไลต์ของวันนี้คือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon) หรือที่มักเรียกกันว่าเป็นสุดยอดแห่งอัญมณีของไอซ์แลนด์ด้วยมีความงามที่ลึกล้ำ ในทะเลสาบแห่งนี้ภูเขาน้ำแข็งสีฟ้าและขาวต่างลอยนิ่งอยู่เหนือผิวน้ำ จะมีส่งเสียงอยู่บ้างก็ในคราวที่เกิดการกระทบกระทั่งเบียดเสียดกัน และวิวแบบนี้ถือว่าหาดูได้ยากยิ่ง เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณอย่างแท้จริงที่จะได้เห็นฉากหลังของภูเขา ธารน้ำแข็ง และเกลียวคลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกไปพร้อมกัน
สำหรับผู้ที่อยากเข้าไปดูใกล้ๆ ในระยะประชิดติดภูเขาน้ำแข็งเลย คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ล่องเรือในทะเลสาบเข้าไปในทริปวันนี้ได้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งเรือเร็วท้องแบนโซดิแอกและเรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่มีความคล่องตัวน้อยกว่า
เดินเท้าจากทะเลสาบโจกุลซาลอนไปอีกไม่ไกล คุณจะเจอกับหาดไดมอนด์ ซึ่งได้ชื่อนี้มาเพราะว่าบนแนวชายฝั่งเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งที่ถูกพัดขึ้นมาจากทะเลสาบในระหว่างที่พวกมันกำลังเดินทางออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก และภูเขาน้ำแข็งที่กระจัดกระจายอยู่บนผืนทรายสีดำสนิทมองดูวาววับระยิบระยับราวกับเพชร เป็นที่ชื่นชอบของคนรักธรรมชาติอย่างมาก
เย็นนี้คุณจะพักค้างคืนอยู่ใกล้กับเมืองเฮิฟน์

วัน 6 - ฟยอร์ดทางตะวันออก
วันนี้คุณจะเดินทางไปยังฟยอร์ดทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีคนเข้าไปเที่ยวน้อยมาก และจะใช้เวลาวันที่หกนี้สำรวจครึ่งล่างของแถบนี้และพักค้างคืนในเมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstadir) ตามแนวชายฝั่งของฟยอร์ดตะวันออกจะมีหมู่บ้านประมงขนาดเล็กที่น่าแวะชมหลายแห่ง ซึ่งคุณไม่ควรพลาด คุณจะได้เห็นวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นและบางทีอาจจะได้ชิมปลาที่ชาวบ้านเพิ่งจับมาใหม่ๆ ด้วย
พื้นที่ทางตะวันออกมีนักท่องเที่ยวน้อยเนื่องจากระยะทางที่ห่างไกลจากเมืองหลวง แต่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นั้นมีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ ในประเทศ และนี่เป็นพื้นที่เดียวของไอซ์แลนด์ที่มีฝูงเรนเดียร์มากมาย และโดยรวมแล้วแถบนี้มีภูมิประเทศที่อึมครึม มีเส้นทางเดินป่าที่หลากหลาย และหมู่บ้านริมชายฝั่งที่มีเสน่ห์น่าสนใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ค่อยมีแขกมาเยี่ยมชมและมีประชากรไอซ์แลนด์อาศัยอยู่เพียง 3.2% เท่านั้น
จากเฮิฟน์ คุณจะขับรถไปทางตะวันออกลงไปตามชายฝั่งเว้าแหว่งที่มีบรรยากาศขมุกขมัวเพื่อไปยังภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ที่ชาวไอซ์แลนด์เรียกว่า "ภูเขาค้างคาว" หรือ "ภูเขาที่มีเขาแหลมที่สุดของไอซ์แลนด์" ด้วยความที่มียอดแหลมและสูงชันมาก
คุณจะใช้เวลาส่วนหนึ่งของวันนี้ไปกับการชื่นชมทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljot) ที่เชื่อกันว่าลึกลงไปที่ใต้น้ำมีสัตว์เลื้อยคลานที่เรียกว่า "หนอนแห่งลาการ์ฟโลยท์" อาศัยอยู่ คุณสามารถใช้เวลาที่นี่ได้อย่างเพลิดเพลินไม่ว่าจะคอยมองหาสัตว์ลึกลับในตำนานหรือดื่มด่ำกับวิวรอบตัวที่งดงามอย่างเหลือเชื่อ นอกจากนี้ในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของป่าสงวนแห่งชาติฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstadaskogur) ซึ่งเป็นผืนป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ด้วย
ขับรถไปอีกไม่ไกลก็จะเจอกับน้ำตกเฮนกิฟอสส์ (Hengifoss) และลิตลาเนสฟอสส์ (Litlanesfoss)
น้ำตกเฮนกิฟอสส์นั้นมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามและมีหินสีแดงเข้ม ส่วนน้ำตกลิตลาเนสฟอสส์ (ที่อยู่ห่างออกไปนิดหน่อย) มีเสาหกเหลี่ยมล้อมรอบตัวน้ำตก
ใกล้กับที่เอกิลสตาดีร์ คุณจะได้เจอกับอ่างน้ำเวิก (Vok) อ่างน้ำพุร้อนธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งที่คุณสามารถเพิ่มบัตรผ่านเข้าใช้บริการได้ในระหว่างที่คุณทำการจองทัวร์ขับรถเที่ยวแพ็คเกจนี้ การลงไปแช่ในสระน้ำอุ่นที่ยื่นออกไปในทะเลสาบอุร์ริดาวาทน์ (Urridavatn) อันงดงามนี้จะเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก

วัน 7 - เจาะลึกฟยอร์ดทางตะวันออก/มิวาทน์
วันที่สองในฟยอร์ดทางตะวันออกคุณจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เริ่มจากที่เอกิลสตาดีร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของภาคตะวันออก จากเอกิลสตาดีร์ขับรถไปไม่นานก็จะถึงอารามสกริดูกเลาสเทอร์ (Skriduklaustur) ซึ่งครั้งหนึ่งกุนนาร์ กุนนาร์สสัน (Gunnar Gunnarsson) นักเขียนชาวไอซ์แลนด์ผู้โด่งดังเคยอาศัยอยู่ในโรงเรือนเก่าแก่ที่นี่ ปัจจุบันสกริดูกเลาสเทอร์กลายเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับนักเขียนท่านนี้และเป็นศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล
วันที่เจ็ดของการเดินทางครั้งนี้คุณจะได้เข้าถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจของไอซ์แลนด์แบบเข้มข้น เช่น คุณจะไปที่แซเนาทาเซล (Saenautasel) ซึ่งเป็นบ้านสไตล์เทิร์ฟที่อยู่ในชนบทใกล้เคียงด้วย โดยผู้ดูแลบ้านจะเล่าถึงชีวิตประจำวันของผู้ที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยอาศัยอยู่ในบ้านเก่าแก่หลังนี้ให้คุณฟัง
สถานที่ท่องเที่ยวรอบทะเลสาบมิวาทน์มีอยู่มากมายทำให้วันนี้เป็นวันที่เพลิดเพลินมาก คุณจะไปดูป้อมปราการดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) อันมืดมิด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีหินภูเขาไฟเป็นปุ่มปมมากมายมองดูคล้ายกับปราสาทผีสิงในโลกแห่งจินตนาการ
นอกจากนี้ยังมีช่องเขาเนามาส์การ์ด (Namaskard) กับภูมิประเทศที่เป็นสีแดงเต็มไปด้วยบ่อโคลนเดือน พุก๊าซพ่นไอน้ำ และกิจกรรมที่เกิดจากพลังงานความร้อนใต้พิภพรูปแบบอื่นๆ ราวกับกำลังอยู่บนดาวอังคาร
ในวันนี้คุณสามารถเลือกไปชม "หินยักษ์" สโตรูด์ (Storurd) ในหุบเขาอูรดาร์ดาลูร์ (Urdardalur) ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมในทางตะวันออกและเป็นที่ชื่นชอบของนักเดินป่า หากคุณเลือกไปไฮกิ้งที่บริเวณนี้คุณจะใช้เวลาเดินประมาณ 9 ชั่วโมงท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ที่นี่มีโขดหินขนาดมหึมาที่ครึ่งล่างจมอยู่ใต้น้ำที่เป็นประกายระยิบระยับของทะเลสาบ ซึ่งเป็นภาพที่งดงามมากแต่มักถูกเทือกเขาดิร์ฟโยลล์ (Dyrfjoll) ที่สูงตระหง่านดึงความสนใจไปหมด
คุณยังสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมพักผ่อนแช่น้ำที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์เข้าไปในทริปวันนี้ได้อีกหนึ่งอย่าง ก่อนที่จะเดินทางเข้าที่พักในคืนนี้ ซึ่งอยู่ในเขตมิวาทน์

วัน 8 - วงกลมเพชร/พื้นที่ไฮแลนด์
วันนี้คุณจะได้ไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่าวงกลมเพชร (Diamond Circle) โดยที่นี่ประกอบไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ 4 แห่งด้วยกัน ซึ่งแต่ละแห่งนั้นมีความคุ้มค่าน่าเข้าไปชมเท่าๆ กัน และวงกลมเพชรนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจในฝั่งเหนือของไอซ์แลนด์
ทะเลสาบมิวาทน์ (Myvatn) อยู่ไม่ไกลจากจุดเริ่มต้นของคุณในวันนี้และถือเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวทางเหนือ น้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) เป็นน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป หุบเขาเอาส์บิร์กิ (Asbyrgi) ที่เว้าแหว่งเป็นรูปทรงเกือกม้าทำให้แถวนี้มีทัศนียภาพที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ส่วนเมืองฮูสาวิค (Husavik) เป็นจุดแวะพักที่น่าสนใจและเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการดูวาฬ
วันนี้มีกิจกรรมพิเศษที่น่าตื่นเต้นด้วย สำหรับผู้ที่ชอบเดินป่า ทัวร์ที่ออกเดินทางจากพื้นที่ไฮแลนด์ไปอาสยา (Askya) เป็นตัวเลือกที่เหมาะมาก ถึงแม้ว่าจะกินเวลาเกือบทั้งวันก็ตาม สำหรับผู้ที่ชอบทะเลและสัตว์ การล่องเรือดูวาฬที่ฮูสาวิกน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า โดยคุณสามารถเลือกได้ว่าจะไปกับทัวร์แบบดั้งเดิม หรือทัวร์ที่ตื่นเต้นกว่านั้นหน่อย หรือคุณจะเลือกไปแช่น้ำอุ่นที่จีโอซี (Geosea) ก็ได้ คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในเมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri)

วัน 9 - อาคูเรย์ริสู่เรคยาวิก
วันนี้คุณจะขับรถจากอาคูเรย์ริซึ่งเป็นเมืองหลวงทางเหนือเพื่อเดินทางไปยังเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ แม้ว่าจะใช้เวลาอยู่ในรถเยอะมาก แต่วันนี้ก็มีอะไรให้ดูมากมายทีเดียว เช่น คุณอาจจะเริ่มต้นวันด้วยการไปแวะที่วาร์มาห์ลิด (Varmahlid) เมืองเล็กๆ ใกล้กับอาคูเรย์ริ เพื่อไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำในเมืองในช่วงเช้า
เราขอแนะนำให้ไปแวะดูโขดทะเลฮวิทแซร์กูร์ (Hvitserkur) ด้วย หินบะซอลต์รูปร่างสวยงามสูง 49 ฟุต (15 ม.) นี้มองดูเหมือนมังกรกำลังก้มดื่มน้ำจากทะเล นอกจากหินฮวิทแซร์กูร์แล้วชายหาดที่นี่ก็ถือว่าเป็นหาดที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์
เมื่อเดินทางกลับไปถึงเรคยาวิกแล้ว คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือของวันนี้ออกเที่ยวในแบบที่ต้องการ คุณอาจจะไปพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ พักผ่อนในสวนสาธารณะในตัวเมือง และไปดูสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมต่างๆ บางทีคุณอาจจะอยากไปนั่งในร้านกาแฟ แวะชมฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa Concert Hall) หรือเดินเที่ยวตลาดนัดที่คึกคักในเมืองก็ได้
เพื่อให้เป็นวันที่พิเศษยิ่งขึ้น คุณอาจจะเพิ่มกิจกรรมสนุกสนานเข้าไปในทริปวันนี้ได้อีก เช่น เข้าไปชมด้านในภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Thrihnukagigur) ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากในการเข้าไปในภูเขาไฟที่สงบแล้ว หรือคุณอาจจะเลือกเข้าไปดูสิ่งที่หลงเหลือจากการระเบิดของภูเขาไฟที่ถ้ำลาวาวิดเกลมิร์ (Vidgelmir) ก็ได้ แต่ถ้าถ้ำลาวายังไม่ตื่นเต้นมากพอ คุณยังมีตัวเลือกที่สามในการไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามในธารน้ำแข็งลางโจกุล
เย็นนี้คุณจะกลับเข้าที่พักในเมืองเรคยาวิก

วัน 10 - วันเดินทางกลับบ้าน
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่คุณจะอยู่ในไอซ์แลนด์ และเป็นวันที่คุณจะบอกลาเมืองเรคยาวิกและไอซ์แลนด์ด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาขึ้นเครื่องบินของคุณ คุณอาจจะยังพอมีเวลาไปเที่ยวชมโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) หรือชมบ้านเรือนสีสันสดใสในย่านเมืองเก่าได้อีก
แต่เมื่อหมดเวลาเที่ยวแล้ว ให้คุณเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกเพื่อส่งคืนรถเช่า ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ และกลับมาเที่ยวที่ไอซ์แลนด์อีกครั้งเร็วๆ นี้
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้สามารถเริ่มต้นออกเดินทางได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิก หรือสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนท้องถนนอย่างน้อยหนึ่งปี ทั้งนี้แผนการท่องเที่ยวที่จัดไว้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย
โปรดทราบว่าสำหรับกิจกรรมบางอย่างที่คุณเลือก คุณอาจจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ หรือคุณอาจจะต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนการเดินทางของคุณ และคุณอาจจะต้องแสดงเอกสารรับรองทางการแพทย์ในการดำน้ำตื้น
และถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้น โปรดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมมาด้วย
ที่พัก
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล
สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม
ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
เตียงแบบหอพัก พร้อมห้องน้ำรวมในเกสต์เฮาส์หรือโฮสเทล ที่พักตั้งอยู่ในบริเวณที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำรวมในฟาร์มเฮ้าส์ เกสต์เฮ้าส์ หรือโฮสเทล อยู่ในทำเลดีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า
รถยนต์
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)
ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป