ทัวร์ขับรถเที่ยวฤดูร้อน 10 วันบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ เที่ยวน้ำตกและหาดทรายดำ
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
ใช้เวลาในทริปขับรถเที่ยว 10 วัน 9 คืนนี้ ออกสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวหลักทั้งหมดบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ พร้อมมีอิสระอย่างเต็มที่ในการเลือกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนหรือทำกิจกรรมอะไรได้ตลอดทั้งเส้นทาง ทัวร์นี้เหมาะสำหรับนักผจญภัยและผู้ที่ต้องการอิสรภาพในการเที่ยว ที่ต้องการมาสัมผัสประเทศไอซ์แลนด์ในแบบฉบับของตนเอง เพราะคุณจะได้เห็นสิ่งที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์ด้วยแผนการเดินทางที่ปรับแต่งขึ้นมาสำหรับคุณโดยเฉพาะ
รถเช่าและที่พักของคุณถูกจัดเตรียมไว้ให้คุณเรียบร้อยหมดแล้ว คุณเพียงตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างเท่านั้น โดยคุณจะได้รับแผนการเดินทางที่ออกแบบมาพิเศษเฉพาะคุณหลังจากที่มีการยืนยันการจองแล้ว ในทริปนี้คุณจะขับรถเดินทางท่องเที่ยวไอซ์แลนด์โดยวนตามเข็มนาฬิกา เริ่มต้นจากคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes) ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" ผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติจะต้องประทับใจไปกับภูมิประเทศที่สวยงามของคาบสมุทรแห่งนี้ โดยคุณอาจจะไปแช่ตัวในสระน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพของไอซ์แลนด์สักแห่งหรือสองแห่งก็ได้ แล้วค่อยเพลิดเพลินกับการขับรถเที่ยวจนดึกภายใต้ความสว่างไสวของพระอาทิตย์เที่ยงคืน
ตัวอย่างของสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณสามารถแวะชมในทริปนี้ ได้แก่ ทุ่งลาวาบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) พื้นที่ห่างไกลในทางตะวันออกและทางเหนือ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Thingvellir) บนเส้นทางวงกลมทองคำที่โด่งดัง น้ำตกและหาดทรายดำบนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์
คุณยังสามารถเลือกเพิ่มความสนุกสนานตื่นเต้นให้กับทริปครั้งนี้ได้ด้วยการกดเพิ่มกิจกรรมเสริมและเดย์ทัวร์ในระหว่างที่คุณจองทัวร์ขับรถนี้ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ทัวร์ล่องเรือดูวาฬ ปีนธารน้ำแข็ง ขี่ม้าไอซ์แลนด์ และอีกมากมาย
สำรวจดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟตามความชอบและความพอใจของคุณเองด้วยทัวร์ขับรถเที่ยวรอบถนนวงแหวนด้วยตัวเองระยะเวลา 10 วันแพ็คเกจนี้ ห้ามพลาดมาสัมผัสประสบการณ์ทั้งหมดที่ไอซ์แลนด์พร้อมจะมอบให้ในช่วงซัมเมอร์นี้ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
รวมในแพ็คเกจ
จุดหมายปลายทาง
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
รายละเอียดการเดินทาง
รถ
รถ
รถขนาดเล็ก
รถขนาดกลาง
รถพรีเมี่ยม
large car
SUV
ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ
วันที่ 1 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
- More
รับรถเช่าของคุณที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกและเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น มุ่งหน้าสู่เรคยาวิก (Reykjavik) คุณจะขับรถผ่านภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟของคาบสมุทรเรคยาเนส ระหว่างทางที่จะไปเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ คุณสามารถเลือกแวะที่บลูลากูน (Blue Lagoon) ก่อนได้ สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา สปาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ทำให้มีบรรยากาศแปลกตา หากคุณเลือกเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริป กิจกรรมนี้จะถูกจัดเข้าในโปรแกรมการเดินทางให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากคุณยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปในวันนี้ ก็ยังสามารถไปในวันอื่นได้ โดยที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนสมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่
คุณจะพักค้างคืนในใจกลางเมืองเรคยาวิก หลังจากที่เก็บกระเป๋าและเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือในวันนี้ให้คุ้มค่ามากที่สุดด้วยการออกไปเที่ยวในเมืองเรคยาวิก ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ อาร์ตแกลเลอรี่ บาร์ ร้านอาหาร และถนนช้อปปิ้งให้คุณได้เพลิดเพลินมากมาย และด้วยแสงสว่างของปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน คุณจะมีเวลาอย่างเหลือเฟือสำหรับการสำรวจเมืองที่น่าสนใจแห่งนี้
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 2 - สไนแฟลซเนส
- สไนแฟลซเนส
- More
- หาดอีทรี ทุงกา
- หมู่บ้านบูดิร์
- สไนล์เฟลล์โจกุลล์
- หน้าผาหินบะซอลต์ลอนดรังการ์
- หาดกรวดดำที่ดยูปาลอนส์ซานดูร์
- ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
- More
ได้เวลาเดินทางออกจากเมืองแล้ว! มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกและไปเที่ยวคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส หรือที่เรียกกันว่า "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" กันเลย คุณจะได้ภูมิประเทศหลากหลายรูปแบบของไอซ์แลนด์บนคาบสมุทรเล็กๆ แห่งนี้เพียงที่เดียว
ทางภาคตะวันตกมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากมาย นักท่องเที่ยวที่ขับรถตามเข็มนาฬิกาบนถนนวงแหวนมักจะเริ่มต้นเที่ยวจากฝั่งทิศใต้ของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสและขับเลียบชายฝั่งขึ้นไปในทิศทางเดียวกับเข็มนาฬิกา
ซึ่งหมายความว่าคุณอาจจะแวะเที่ยวที่อาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) เป็นแห่งแรก หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ นี้เหมาะสำหรับแวะดื่มกาแฟหรือหาอะไรรับประทานก่อนที่จะเข้าเขตอุทยานแห่งชาติสไนล์เฟลล์โจกุล (Snæfellsjökull)
ถัดมาคุณอาจจะไปชมหน้าผาหินบะซอลต์โลนตรังการ์ (Lóndrangar) หรือที่เรียกกันว่า "ปราสาทหิน" โครงสร้างธรรมชาติเหล่านี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และตลอดแนวชายฝั่งทางตะวันตกเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวล้ำค่าซ่อนอยู่มากมาย นี่เป็นเพียงแห่งแรกเท่านั้น
จากตรงนี้คุณสามารถเลือกไปร่วมกับทัวร์ถ้ำลาวาที่วาทน์เฮลลิร์ (Vatnshellir) ได้ ถ้ำลาวาอายุ 8,000 ปีแห่งนี้เป็นตัวอย่างอันน่าทึ่งของการก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างของลาวาที่เกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อ
อุทยานแห่งชาติสไนล์เฟลล์โจกุลและธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์โจกุลตั้งอยู่บริเวณปลายสุดของคาบสมุทร ธารน้ำแข็งนี้ตั้งอยู่บนยอดของภูเขาไฟที่สงบแล้วและเป็นทิวทัศน์ที่สะกดสายตาของผู้มาเยือนทุกคนได้เป็นอย่างดี
มุ่งหน้าขึ้นไปต่อในทิศทางตามเข็มนาฬิกาคุณจะพบกับโอลาปสวิค (Olafsvik) หมู่บ้านประมงขนาดเล็กอีกหนึ่งแห่งที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 1,000 คน และในบริเวณหมู่บ้านมีหาดที่มีทรายเป็นสีทองเพียงแห่งเดียวของประเทศไอซ์แลนด์
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งบนคาบสมุทรคือภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) และน้ำตกเคิร์คจูแฟสฟอสส์ (Kirkjufellsfoss) ภูเขาลูกนี้โด่งดังมากในซีรีส์เกมออฟโธรนส์
สติกกิโฮลมูร์ (Stykkisholmur) เมืองประมงที่อยู่ใกล้กันกับภูเขาลูกนี้ก็เคยถูกใช้เป็นฉากกรีนแลนด์ในภาพยนตร์เรื่องชีวิตพิศวงของวอลเตอร์มิตตี้ (The Secret Life of Walter Mitty) ที่นำแสดงโดยเบน สติลเลอร์ (Ben Stiller) และหมู่บ้านนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นออกเดินทางสำหรับผู้ที่จะไปร่วมกับทัวร์ล่องเรือเที่ยวอ่าวเบรียดาฟยอดูร์ (Breidafjordur) เพื่อกินซูชิแบบชาวไวกิ้งด้วย
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ดังนั้น คุณจึงมีเวลาอย่างเหลือเฟือในการเที่ยวที่นี่ให้ครบทุกซอกทุกมุม
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 3 - ไอซ์แลนด์เหนือ
- ไอซ์แลนด์เหนือ
- More
- ชั้นหินบะซอลต์และซากปรักหักพังที่บอร์การ์วิร์กิ
- กองหินฮวิทแซร์กูร์
- คยาร์นาสโกกูร์
- More
มุ่งหน้าขึ้นเหนือสู่อาคูเรย์ริ (Akureyri) ในวันนี้!
ระหว่างทางแวะชมฮวิทแซร์กูร์ (Hvítserkur) กองหินบะซอลต์ที่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของคาบสมุทรวาทน์เนส (Vatnsnes) ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของไอซ์แลนด์ หินที่แปลกประหลาดนี้มีรูสองรูที่ฐานทำให้ดูเหมือนมังกรกำลังก้มดื่มน้ำ
หลังจากนั้นคุณจะขับต่อไปทางตะวันออกมุ่งหน้าสู่เมืองอาคูเรย์ริ ซึ่งคุณจะพักค้างคืนในคืนนี้
จากอาคูเรย์ริ คุณสามารถไปเที่ยวโทรลลาสกากี (Trollaskagi) หรือคาบสมุทรโทรล ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของเมือง เส้นทางนี้มีลักษณะเหมือนโลกแห่งเทพนิยายและเต็มไปด้วยเสน่ห์เป็นที่ชื่นชอบของนักเดินป่า นักเล่นสกี นักขี่ม้า และนักปีนเขาที่ต้องการเพลิดเพลินกับธรรมชาติมหัศจรรย์ในดินแดนอันห่างไกล
คุณจะผ่านหมู่บ้านประมงขนาดเล็ก เช่น ดาลวิก (Dalvik) โอลาฟสฟยอร์ดูร์ (Olafsfjordur) และสิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjordur) ที่ดาลวิกคุณสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ไปเกาะฮริเซย์ (Hrisey) ซึ่งเรือจะพาเดินทางข้ามไปเที่ยวที่เกาะอันราบเรียบเขียวขจี และไร้ผู้อยู่อาศัย โดยมีเรือให้บริการวันละหลายเที่ยว ชายฝั่งที่งดงามของคาบสมุทรโทรลนี้ยังมีเคทลิงฟยอลล์ (Kerlingfjöll) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีความสูงถึง 5,046 ฟุต (1538 ม.)
เมื่อไปถึงอาคูเรย์ริ นักเดินทางที่กระหายการผจญภัยสามารถไปกับทัวร์ล่องเรือดูวาฬ ซึ่งออกเดินทางจากท่าเรือออดเดย์ราร์บอต (Oddeyrarbót) ในเมือง นอกจากนี้ คุณอาจจะอยากไปผ่อนคลายที่สปาเบียร์แห่งแรกๆ ของไอซ์แลนด์ เพื่อชิมเบียร์ท้องถิ่นและพักผ่อนด้วยการแช่น้ำเบียร์ยีสต์ ที่เชื่อกันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวและความมีชีวิตชีวา
เมื่อเหนื่อยมามากพอแล้ว คืนนี้กลับเข้าที่พักของคุณในอาคูเรย์ ส่วนวันพรุ่งนี้ยังมีร้านอาหารอร่อยที่กระจายอยู่ทั่วเมืองให้คุณได้ลิ้มลอง
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 4 - Northeast Iceland
- Northeast Iceland
- More
- คยาร์นาสโกกูร์
- น้ำตกโกดาฟอสส์
- พื้นที่แถบทะเลสาบมิวาทน์
- Namaskard Pass
- ถ้ำกริโยทากยา
- Dimmuborgir Lava Formations
- More
เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในทางเหนือของไอซ์แลนด์ คุณจะมีตัวเลือกสำหรับกิจกรรมมากมายในวันนี้ มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกสู่น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss) อันทรงพลัง ที่สูงถึง 39 ฟุต (12 ม.) และมีความกว้างมากถึง 98 ฟุต (30 ม.)
จากที่นี่ขับรถต่อไปทางเหนือเพื่อไปยังฮูสาวิค (Husavik) เมืองที่มีประชากรอยู่เพียงราวสองพันคน เมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรปด้วย จากบริเวณนี้ เราแนะนำให้คุณไปร่วมกับทัวร์ดูวาฬ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์สำหรับการชมสัตว์ที่น่าทึ่งนี้ ซึ่งคุณยังสามารถเลือกได้ว่าจะออกไปดูวาฬด้วยเรือแบบดั้งเดิมหรือเรือยางท้องแบน
จากฮูสาวิค คุณอาจจะไปเที่ยวที่จีโอซี (Geosea Geothermal Baths) ซึ่งเป็นอ่างน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ เพื่อตื่นตาตื่นใจกับความงดงามของอ่าวสเกาล์ฟานติ (Skjálfandi) ในขณะที่กำลังแช่ตัวอยู่ในน้ำที่อุ่นสบายจากพลังงานความร้อนใต้ดิน นอกจากนี้ ที่จีโอซียังมีร้านอาหารและระเบียงด้านนอกสำหรับชมวิวที่เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในช่วงหน้าร้อนด้วย จึงเหมาะสำหรับการแวะเข้าไปพักผ่อนมาก
มุ่งหน้ากลับไปทางทิศใต้อีกครั้งเพื่อไปเที่ยวแถบมิวาทน์ (Myvatn) ทะเลสาบมิวาทน์โดดเด่นด้วยสีสันอันสดใสของเฉดสีฟ้าและเขียว ทางทิศใต้จะมีหลุมปากปล่องภูเขาไฟเทียมที่เรียกว่าสกูตูสตาดากีการ์ (Skutustaðagigar) กระจายเรียงรายอยู่มากมาย เป็นสถานที่ที่มองดูแปลกประหลาดและสวยงามมาก หลุมเหล่านี้เกิดจากการระเบิดของแก๊สและปัจจุบันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ได้รับการคุ้มครองด้วย ทะเลสาบมิวาทน์เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางท่องเที่ยวบนวงกลมเพชร (Diamond Circle) เช่นเดียวกับน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) เมืองฮูสาวิค และหุบเขาเอาส์บิร์กิ (Asbyrgi) ที่เราจะแนะนำให้ไปเที่ยวในวันที่ 6
รอบๆ มิวาทน์มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายรอให้คุณไปชม เช่น ปล่องภูเขาไฟวิติ (Víti) ในรอยแยกคราฟลา (Krafla) ที่เกิดขึ้นระหว่างที่ภูเขาไฟระเบิด [คนละแห่งกับปล่องภูเขาไฟวิติที่แถวอาสยา (Askja)] ป้อมปราการลาวาดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) และถ้ำน้ำพุร้อนเกรียวตาเกาจ์ (Grjotagja) ที่ใช้เป็นฉากถ่ายทำซีรีส์เกมออฟโธรนส์ ก็เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจในทางเหนือและควรค่าแก่การแวะทั้งสองแห่ง
ช่องเขาเนามาส์การ์ด (Námaskarð) ที่อยู่ใกล้กันเป็นดินแดนแห้งแล้งที่โดดเด่นสะดุดตา เพราะมีแถบริ้วสีสันสดใสปรากฏอยู่บนหน้าดินและมีไอน้ำพวยพุ่งปกคลุม เนามาส์การ์ดนี้อยู่ติดถนนวงแหวนเลย ทำให้ผู้ที่เดินทางผ่านขึ้นไปทางเหนือต้องแวะกันทั้งนั้น
อ่างน้ำธรรมชาติมิวานท์คือสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินหลังจากที่วุ่นวายมาทั้งวัน และแน่นอนว่าอ่างน้ำแห่งนี้ก็ได้รับความร้อนมาจากพลังงานใต้พิภพเช่นเดียวกัน ที่นี่มีบาร์กลางน้ำ และมีสระน้ำหลายแห่งซึ่งมีอุณหภูมิแตกต่างกันไปให้คุณเลือกตามความชอบ
หลังจากเที่ยวทางเหนือจนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน คุณจะจบทริปวันนี้ที่มิวาทน์และพักค้างคืนแถวนี้
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 5 - ฟยอร์ดตะวันออก
- ฟยอร์ดตะวันออก
- More
- น้ำตกเดตติฟอสส์
- หุบเขาอาสบิร์กิ
- More
วันนี้คุณจะขับรถไปทางทิศตะวันออกของเกาะ หากเมื่อวานคุณยังเที่ยวแถวมิวาทน์ไม่พอ วันนี้คุณยังพอมีเวลาให้เที่ยวชมสถานที่รอบๆ ตัวได้อีกหน่อย หรือจะออกเดินทางเลยก็ได้เพราะระหว่างทางยังมีอะไรให้ดูอีกเยอะมาก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความตื่นเต้นท้าทาย หุบเขาเอาส์บิร์กิที่มีรูปทรงเหมือนถูกเหยียบด้วยเกือกม้าขนาดใหญ่มีความน่าสนใจไม่น้อย หุบเขานี้ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ที่กว้างใหญ่ซึ่งห่มคลุมด้วยพืชพันธุ์หลากสีสันในช่วงหน้าร้อน
ใกล้ๆ กันมีน้ำตกเดตติฟอสส์ตั้งตระหง่านงดงามเป็นสง่าอยู่และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไอซ์แลนด์ไม่ควรพลาดแวะชมน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปแห่งนี้ พลังและความยิ่งใหญ่ของน้ำตกเดตติฟอสส์นั้นเหลือเชื่อมาก และในช่วงฤดูร้อนคุณสามารถใช้เส้นทางเดินป่าอันร่มรื่นเพื่อไปยังน้ำตกได้ด้วย
ถ้าน้ำตกเพียงแห่งเดียวยังไม่พอ คุณสามารถไปเที่ยวน้ำตกเซลฟอสส์ (Selfoss) ที่อยู่ใกล้ๆ กันได้อีก สายน้ำตกสีขาวตัดกับเสาหินบะซอลต์สีดำที่เป็นฉากหลังเป็นภาพที่สวยงามและทำให้น้ำตกแห่งนี้มีความโดดเด่นท่ามกลางน้ำตกที่มีอยู่มากมายในไอซ์แลนด์
ผู้ที่อยากผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ อาจจะอยากแวะไปที่หุบเขาสตูดลากิล (Stuðlagil) ที่นั่นมีเส้นทางเดินป่าโหดๆ ระยะประมาณ 4 กม. ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่ขี้กลัว แต่รับรองว่าสิ่งที่ได้เห็นนั้นคุ้มค่ากับความพยายามแน่นอนเนื่องจากหุบเขานี้มีเสาหินบะซอลต์จำนวนมากที่สุดในไอซ์แลนด์ และเสาหินบะซอลต์เหล่านี้บ้างก็มีสีส้มสนิมแลดูสวยงาม
เมื่อคุณมุ่งหน้าลึกเข้าไปทางตะวันออก คุณจะพบกับเมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir) แถวนั้นมีอ่างน้ำเวิก (Vok) ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำทรงเรขาคณิตที่มีน้ำร้อนธรรมชาติและได้ชื่อว่าเป็นสปาเพียงแห่งเดียวในทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ โดยอ่างน้ำแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนพื้นที่นี้เป็นจำนวนมาก
อีกทางเลือกหนึ่งของวันนี้คือการไปร่วมกับเดย์ทัวร์ที่ออกเดินทางจากมิวาทน์ไปยังอาสยา ทริปนี้เป็นการเดินทางที่ยาวหน่อยและใช้เวลาเต็มวัน แต่นักท่องเที่ยวหลายคนถือว่าเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนไอซ์แลนด์ ทัวร์นี้จะพาคุณไปยังพื้นที่ไฮแลนด์ทางเหนือ และพาไปชมสถานที่ที่นีล อาร์มสตรองและบัซ อัลดริน มาเตรียมพร้อมสำหรับการลงจอดบนดวงจันทร์ในปี 1960 และคุณจะได้ไปดูภูเขาไฟอาสยา เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแฮร์ดูแบรดาร์ลินดิร์ (Herðubreiðarlindir) และปล่องภูเขาไฟวิติด้วย
หลังจากผจญภัยมาทั้งวัน คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่เอกิลสตาดีร์ในไอซ์แลนด์ตะวันออก
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 6 - ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- More
- ทะเลสาบลาการ์ฟโยลท์
- ป่าฮาลลอร์มสตาดาสโกกูร์
- เวสตราฮอร์น
- More
วันนี้คุณจะไปสำรวจฟยอร์ดทางตะวันออกของไอซ์แลนด์
เริ่มต้นที่เอกิลสตาดีร์ เส้นทางลงใต้ของคุณในวันนี้จะผ่านฟยอร์ดและเมืองเล็กๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแถบนี้
ขับรถออกนอกเส้นทางถนนวงแหวนไปเล็กน้อยเพื่อไปเที่ยวเมืองเซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seydisfjordur) ที่มีโบสถ์สีฟ้าสวยงามเป็นที่รู้จักกันดีและมีถนนสายรุ้งอยู่ที่ใจกลางเมือง เมืองที่สวยแปลกตาแห่งนี้จะต้องทำให้คุณหลงรักอย่างแน่นอน และยังเหมาะสำหรับแวะรับประทานอาหารกลางวันและเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ อีกด้วย
หลังจากนั้น ระหว่างที่เดินทางต่อไปคุณจะผ่านเมืองทำประมงมากมาย เมืองเล็กๆ ที่โดดเด่นน่าสนใจอีกแห่งคือเมืองเฟาส์กรูดสฟยอร์ดูร์ (Fáskrúðsfjörður) ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1880 เพื่อใช้เป็นที่พักในช่วงหน้าร้อนของชาวประมงเชื้อสายฝรั่งเศส ทุกวันนี้แม้ว่าโรงพยาบาลเก่าของชาวฝรั่งเศสจะถูกปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์แต่ก็ยังมีกลิ่นอายทางวัฒนธรรมที่หลงเหลือให้สัมผัสได้อยู่
หมู่บ้านเบรดาลสวิค (Breiðalsvík) และจูปิโวกูร์ (Djúpivogur) ที่ตั้งอยู่ริมถนนวงแหวนในฟยอร์ดทางตะวันออกก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวเช่นกัน และมักมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักบ่อยๆ
ในขณะที่คุณขับรถไปทางใต้จะมีแหล่งท่องเที่ยวนอกเส้นทางให้คุณแวะชมความงดงามของภูมิทัศน์อยู่มากมาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักด้วย เช่น น้ำตกเฮนกิฟอสส์ (Hengifoss) และน้ำตกลิตลาเนสฟอสส์ (Litlanesfoss) และในทางตะวันออกเฉียงใต้มีภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ซึ่งได้รับความนิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายภาพ
หลังจากเที่ยวจนเหนื่อย ที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ในแถบโจกุลซาลอนและเฮิฟน์ (Jokulsarlon/Höfn) เฮิฟน์นั้นมีชื่อเสียงเรื่องกุ้งล็อบสเตอร์และอาหารทะเลที่อร่อย ดังนั้นจึงเป็นปลายทางที่เหมาะสำหรับอาหารเย็นด้วย
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 7 - ชายฝั่งทางใต้
- ชายฝั่งทางใต้
- More
- ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
- ไดมอนด์ บีช
- เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์
- สวาร์ติฟอสส์
- More
ตื่นแต่เช้าและออกเดินทางเร็วหน่อยในวันนี้เพราะมีอะไรรอให้คุณไปชมมากมาย! คุณจะมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulárlón) ที่โด่งดัง ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล และที่นี่คือไฮไลต์สำคัญสำหรับทริปในวันนี้ โดยคุณต้องระมัดระวังเรื่องการใช้เวลาด้วยเพราะคนที่มาที่นี่มักจะเพลิดเพลินกับวิวที่งดงามจนลืมเวลาไปเลย
คุณสามารถเลือกลงไปล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่ลอยเอื่อยเฉื่อยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ได้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งเรือแบบสะเทินน้ำสะเทินบกและเรือท้องแบนโซดิแอก และถ้าสังเกตให้ดีมักจะได้เห็นแมวน้ำออกมาเล่นและอาบแดดบนก้อนน้ำแข็ง และคุณยังจะได้เห็นธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลแบบใกล้ๆ ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องอยู่ในความทรงจำของคุณไปอีกนาน
ถัดจากโจกุลซาลอนเป็นหาดไดมอนด์ ซึ่งได้ชื่อนี้มาเพราะลักษณะของหาดที่มีก้อนน้ำแข็งถูกพัดขึ้นมาจากทะเลสาบมากมายและกระจัดกระจายอยู่บนผืนทรายสีดำมองดูคล้ายกับเป็นเม็ดเพชรวาววับ
ในตอนบ่ายคุณจะไปเที่ยวที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ซึ่งมีเส้นทางเดินป่าไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) น้ำตกนี้ในภาษาไอซ์แลนด์แปลว่า "น้ำตกดำ" และที่ได้ชื่อเช่นนี้เพราะว่ามีเสาหินบะซอลต์สีดำมากมายอยู่รอบน้ำตก
บริเวณนี้ยังมีกิจกรรมเสริมให้เลือกทำได้ด้วย คุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งที่ธารน้ำแข็งสกัฟตาเฟลล์เข้าไปในทริปวันนี้ได้ ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับความตื่นเต้นจนอะดรีนาลีนพุ่งพล่านเมื่อได้ขึ้นไปที่ด้านบนธารน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์แห่งนี้
เมื่อกลับลงมาจากธารน้ำแข็งคุณจะเข้าพักในที่พักที่อยู่ในหมู่บ้านวิก (Vik)
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 8 - ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- More
- หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
- โขดทะเลเรนิสดรังการ์
- ดิร์โฮลาเอย์
- Solheimajokull Glacier
- น้ำตกสโกกาฟอสส์
- น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์
- More
วันนี้คุณจะได้สัมผัสกับทุกสิ่งที่น่าสนใจทั้งหมดบนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ จากที่พักของคุณ ให้มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเพื่อเริ่มทริปสนุกตื่นเต้นในวันนี้ คุณสามารถแวะเที่ยวที่ฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) ซึ่งมีเส้นทางเดินป่ามากมาย แต่เนื่องจากบนชายฝั่งทางใต้มีอะไรให้ดูเยอะมาก คุณอาจจะใช้เวลาที่นี่ได้ไม่นานนัก
มุ่งหน้าสู่เมืองวิกที่มีชื่อเสียง ที่มีโบสถ์สีแดงตั้งอยู่บนยอดเขาและหันหน้าออกทะเลไปทางโขดทะเลดิร์โอลาเอย์ (Dyrholaey) และหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) เมืองนี้เหมาะกับการหยุดแวะพักเป็นที่แรก เนื่องจากในเมืองมีอาหารขายมากมาย และการไปชมหาดเรย์นิสฟยาราและหินดิร์โอลาเอย์ คุณจะได้เห็นเสาหินบะซอลต์สีดำอันน่าทึ่ง โขดทะเล และหาดทรายสีดำ
สำหรับผู้ที่เคยฝันอยากไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็ง วันนี้คุณมีโอกาสแล้ว ในขณะที่อยู่ในวิก ให้คุณไปร่วมกับทัวร์ที่ออกเดินทางจากในเมืองและพาคุณไปค้นพบความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ภายในถ้ำที่เกิดขึ้นจากการก่อตัวของน้ำแข็ง ถ้ำน้ำแข็งคัทลา (Katla) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมือง แต่ทัวร์นี้จะเริ่มออกเดินทางจากเมืองวิก คุณจึงจำเป็นต้องไปพบกับไกด์ที่จุดนัดหมายก่อน
ต่อไปคุณจะขับรถมุ่งหน้าเพื่อไปเที่ยวที่ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุลล์ (Solheimajökull) ระหว่างทางคุณสามารถเลือกแวะชมซากเครื่องบินดีซีก่อนได้ ซึ่งซากเครื่องบินลำนี้ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ยุค 70 หลังจากที่เครื่องบินตก หลังจากที่ชมซากเครื่องบินที่ดูวังเวงเสร็จแล้ว คุณจะขับรถต่อเพื่อไปยังธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุลล์ โดยคุณอาจจะเลือกเพิ่มกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งเข้าไปในทริปวันนี้ ซึ่งคุณจะได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากไกด์เกี่ยวกับการก่อกำเนิดธารน้ำแข็งพร้อมกับได้ชมวิวไปด้วย
จากนั้นออกเดินทางกันต่อเพื่อไปยังน้ำตกชื่อดังของทางใต้ เริ่มจากน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) หนึ่งในน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ แล้วจากนั้นค่อยไปที่น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และสุดท้ายคุณจะไปแวะสระว่ายน้ำเซลลาย์วัลลาเลยก์ (Seljavallalaug) โดยคุณจะต้องเดินเท้าเข้าไปตามเส้นทางซึ่งไม่ไกลมาก ในตอนค่ำคุณจะไปพักผ่อนในที่พักซึ่งอยู่ในแถบเซลฟอสส์ (Selfoss)
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 9 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
- ปากปล่องภูเขาไฟเคริด
- น้ำตกกุลล์ฟอสส์
- พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
- อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
- More
ใช้เวลาในวันนี้เที่ยววงกลมทองคำ สำหรับผู้ที่มีเที่ยวบินออกจากเรคยาวิกในคืนนี้ คุณอาจจะต้องออกเที่ยวให้เช้าขึ้นหน่อยเพื่อที่จะได้ใช้เวลาเที่ยวอย่างคุ้มค่ามากที่สุดก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้าน สถานที่เที่ยวหลักบนวงกลมทองคำ ได้แก่ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หนึ่งในน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geyser) ที่มีน้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) พ่นน้ำในทุกๆ เก้านาที อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) สถานที่มรดกโลกของยูเนสโกซึ่งเป็นที่ตั้งของสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ด้วย
คุณอาจจะอยากเพิ่มกิจกรรมเสริมเข้าไปในวันนี้ ที่ธิงเวลลีร์ คุณสามารถไปดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลอยู่ในรอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นที่ซิลฟรา (Silfra) หรือถ้าหากคุณชอบความเร้าใจโลดโผนหน่อย คุณอาจจะไปขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ โดยคุณสามารถไปร่วมกับทัวร์นี้ได้จากที่น้ำตกกุลล์ฟอสส์บนเส้นทางวงกลมทองคำ
หากคุณอยากทำกิจกรรมที่เบากว่านั้น การขี่ม้าน่าจะเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับคุณ ซึ่งคุณจะได้ทำความรู้จักกับม้าไอซ์แลนด์ให้มากขึ้นด้วย และถ้าหากยังพอมีเวลาเหลือ ในวันนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก 3 แห่งที่คุณอาจจะสนใจ ปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid) มักจะถูกรวมเข้าไปในทริปวงกลมทองคำด้วย ในช่วงหน้าร้อนคุณสามารถเดินเล่นรอบทะเลสาบที่บริเวณปากปล่องภูเขาไฟได้ และพวกมันมักจะมีสีสันสวยงามจนคุณแทบจะไม่เชื่อสายตา แต่ในหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟจะเป็นน้ำแข็งและคุณสามารถขึ้นไปเดินย่ำได้
ทะเลสาบซีเคร็ทลากูน (Secret Lagoon) ก็มักจะเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต้องการไปเห็น ที่นี่เหมือนเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นของบลูลากูนที่มีความเรียลเป็นธรรมชาติมากกว่า สถานที่สุดท้ายคือเรคยาดาลูร์ (Reykjadalur) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแคว์ราแกดิร์ (Hveragerdi) ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับนักเดินป่า คุณสามารถไปเดินป่าเพื่อไปแช่น้ำร้อนธรรมชาติที่อ่างน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพได้
เมื่อคุณเที่ยวจนพอใจแล้ว คุณจะเดินทางกลับเข้าสู่เรคยาวิกเพื่อพักเอาแรงก่อนออกเดินทางกลับบ้าน
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 10 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
- More
- เคลฟาร์วาทน์
- ครีซูวิก
- กุนนูฮแวร์
- More
ในวันสุดท้ายของคุณที่ไอซ์แลนด์ คุณยังสามารถใช้เวลาให้คุ้มค่าก่อนที่จะออกเดินทางได้อีก คุณสามารถปิดทริปครั้งนี้ด้วยการไปแช่น้ำที่บลูลากูนซึ่งอยู่ระหว่างทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข
ประสบการณ์
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้สามารถเริ่มต้นออกเดินทางได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิก หรือสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนท้องถนนอย่างน้อยหนึ่งปี ทั้งนี้แผนการท่องเที่ยวที่จัดไว้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย แพ็คเกจไม่รวมความคุ้มครองรถยนต์จากกรวดหากคุณเลือกใช้รถ Toyota Aygo หรือที่คล้ายกัน และอาหารเช้านั้นอาจไม่รวมอยู่ในโฮสเทลและเกสต์เฮาส์บางแห่งที่เลือก โปรดทราบว่าสำหรับกิจกรรมบางอย่างที่คุณเลือก คุณอาจจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ หรือคุณอาจจะต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนการเดินทางของคุณ และคุณอาจจะต้องแสดงเอกสารรับรองทางการแพทย์ในการดำน้ำตื้น ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตองไม่กลัวการลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้ และถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้น โปรดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมมาด้วย
วิดีโอ
รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว
แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด