ทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 11 วัน เที่ยวรอบถนนวงแหวนและฟยอร์ดทางตะวันออกของไอซ์แลนด์
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์ไปกับทริป 11 วันแพ็คเกจนี้! คุณจะขับรถไปตามเส้นทางสุดคลาสสิกของถนนวงแหวน โดยจะไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั้งหมด รวมถึงดื่มด่ำกับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากมายที่ไอซ์แลนด์ และคุณจะใช้เวลาสองสามวันในทริปนี้ชื่นชมความงดงามของฟยอร์ดที่อยู่ห่างไกลในไอซ์แลนด์ตะวันออกอย่างจุใจ
ข้อดีของทริปนี้คือคุณมีอิสระในการควบคุมทุกอย่างอย่างเต็มที่ คุณเลือกได้ว่าจะไปที่ไหนและจะใช้เวลาในแต่ละสถานที่นานเท่าไหร่ก็ได้ คุณไม่ต้องกลัวว่าจะตื่นไม่ทันเวลาออกเดินทาง และไม่ต้องมานั่งเกรงอกเกรงใจนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อนด้วย คุณจะเดินชมนกชมไม้บนเส้นทางที่ไกลขึ้นอีกสักหน่อย จะเอ้อระเหยถ่ายรูปเล่นอีกสักสองสามภาพ หรือแวะนั่งจิบกาแฟแก้วโปรดได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
เพื่อให้การเดินทางของคุณในครั้งนี้น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น ที่พักจึงเป็นแบบมีห้องน้ำส่วนตัวและรวมอาหารเช้า นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มทัวร์เข้าชมสถานที่ต่างๆ และเพิ่มกิจกรรมเสริมที่มีให้เลือกตลอดเส้นทางผ่านระบบการจองของเราได้ด้วย เพื่อให้คุณได้ใช้เวลาทำสิ่งที่ชอบอย่างแท้จริงโดยไม่ต้องมาวุ่นวายกับสิ่งเหล่านี้
มีกิจกรรมสนุกตื่นเต้นมากมายที่คุณสามารถเลือกเพิ่มเข้าไปในทริปนี้ได้ ตัวอย่างเช่น ดำน้ำตื้นท่ามกลางน้ำที่ใสสะอาดของหุบเขาซิลฟรา (Silfra) ขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ลงไปชมโถงแมกมาใต้ภูเขาไฟ สำรวจถ้ำน้ำแข็งในธารน้ำแข็ง ล่องเรือลัดเลาะชมภูเขาน้ำแข็งในทะเลสาบโจกุลซาลอน (Jökulsárlon) ปีนป่ายบนธารน้ำแข็งเหนือสกัฟตาเฟลล์สโจกุล (Skaftafellsjökull) ขี่ม้าชมธรรมชาติของภาคเหนือ และดูวาฬจากฮูสาวิก (Húsavík) เมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป
ความสนุกสนานของทริปนี้มีมากมายไม่รู้จบ เลือกเพิ่มกิจกรรมตื่นเต้นเข้าไปในทริปของคุณตอนนี้เลยเพื่อความคุ้มค่าและเพื่อให้คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์แอดเวนเจอร์ของไอซ์แลนด์อย่างแท้จริง
แม้ว่าคุณจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงผู้คนที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่นอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์ได้ แต่คุณก็จะได้สัมผัสกับความงดงามในความสงบเงียบซึ่งประเทศนี้มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน โดยในแผนการเดินทางที่คุณจะได้รับหลังจากที่คุณทำการจองนั้น จะให้ข้อมูลทั้งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก ทำให้การเที่ยวพักผ่อนที่ไอซ์แลนด์ครั้งนี้มีความหลากหลาย และคุณจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมายที่สรรหามาเพื่อความต้องการทุกรูปแบบ
ดังนั้น รีบจองทัวร์ขับรถ 11 วันหรรษาที่ไอซ์แลนด์ตอนนี้เลย! คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - เดินทางมาถึงไอซ์แลนด์
ความสนุกสนานตื่นเต้นของคุณเริ่มต้นจากสนามบินในเคฟลาวิก ซึ่งคุณจะไปรับรถก่อนที่จะขับไปยังที่พักในใจกลางเมืองเรคยาวิก
ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่บลูลากูน (Blue Lagoon) ก่อนได้ สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา สปาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ทำให้มีบรรยากาศแปลกตา หากคุณเลือกเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริป กิจกรรมนี้จะถูกจัดเข้าในโปรแกรมการเดินทางให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากคุณยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปในวันนี้ ก็ยังสามารถไปในวันอื่นได้ โดยที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนสมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่
หลังจากเก็บสัมภาระในโรงแรมของคุณในเมืองเรคยาวิกแล้ว คุณสามารถออกมาใช้เวลาที่เหลือในใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เพื่อสำรวจพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ ร้านอาหาร และบาร์ที่มีอยู่มากมาย
คืนนี้พักค้างคืนในเรคยาวิก

วัน 2 - วงกลมทองคำกับไอซ์แลนด์ใต้
ใช้เวลาวันนี้ในการสำรวจวงกลมทองคำที่มีชื่อเสียงเพื่อชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่รู้จักกันดีในประเทศไอซ์แลนด์ จุดแรกคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) ที่ธิงเวลลีย์ คุณสามารถเดินบนพื้นที่รอยแยกของแผ่นเปลือกโลกในหุบเขาที่เป็นสันกลางมหาสมุทรแอตแลนติก และสำรวจพื้นที่ที่มีบทบาทสำคัญทางวัฒนธรรมของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกเพียงแห่งเดียวของประเทศ เนื่องจากเป็นสถานที่ตั้งสภาผู้แทนของกลุ่มคนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในรุ่นแรก โดยที่นี่เป็นสภาที่ดำรงอยู่มาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก และมีกิจกรรมดำน้ำตื้นในหุบเขาซิลฟราที่มีมีน้ำใสราวคริสตัลที่คุณสามารถเลือกเพิ่มเข้าไปในโปรแกรมได้
จุดถัดมาคือหุบเขาพลังงานความร้อนใต้พิภพเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำพุร้อน บ่อโคลน และไอน้ำที่พวยพุ่ง ซึ่งคุณจะได้เห็นน้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) และไกเซอร์ (Geysir) ด้วย ซึ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์นั้นไม่ค่อยพ่นน้ำแล้ว แต่สโทรคูร์ยังแอคทีฟอยู่โดยพ่นน้ำ สูงกว่า 66 ฟุต (20 ม.) ในทุกๆ 10 นาที
ต่อมาคุณจะไปที่น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) อันยิ่งใหญ่ ซึ่งมีทางเดินให้คุณได้เข้าไปชิดขอบน้ำตกเพื่อสัมผัสพลังธรรมชาติมหาศาลของน้ำ คุณสามารถเลือกไปขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ได้ แต่หากคุณไม่ต้องการดำน้ำตื้นหรือขี่สโนว์โมบิล ก็ยังมีทัวร์ขี่ม้าระยะเวลาสองชั่วโมงให้คุณเลือกอีกอย่างหนึ่ง
ต่อมาคุณจะมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งทางใต้ และระหว่างนั้นก็อย่าลืมแวะชมน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) อันยิ่งใหญ่ด้วย ซึ่งทั้งสองแห่งนั้นมองเห็นได้จากถนนสายหลัก เช่นเดียวกับธารน้ำแข็งอีกหลายแห่งที่มีให้เห็นตลอดเส้นทาง ใกล้ๆ กับวิก (Vík) ให้คุณขับลัดเลาะออกนอกเส้นทางหลักไปเล็กน้อย เพื่อไปชื่นชมชายหาดภูเขาไฟสีดำและการก่อตัวของหินดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) และเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่ก่อตัวอย่างน่ามหัศจรรย์
คืนนี้พักค้างคืนที่วิก

วัน 3 - เดินป่าในสกัฟตาเฟลล์ - ชมภูเขาน้ำแข็งและไดมอนด์บีช
หลังจากตื่นนอนในวิก คุณสามารถเลือกไปร่วมกับทัวร์ถ้ำน้ำแข็งบนธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้ แต่หากคุณต้องการเดินทางต่อเลย ให้ขับรถตรงไปยังชายฝั่งทางใต้เพื่อไปชมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่อยู่ภายในสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) อันสวยงาม ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull)
ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมายสำหรับผู้ชื่นชอบการเดินป่าและมีเส้นทางทุกระดับ รวมถึงเส้นทางเดินไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่สวยงาม โดยเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมที่ล้อมรอบน้ำตกเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับสถาปัตยกรรมของโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) ในเมืองเรคยาวิก คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งได้ในบริเวณนี้
ออกเดินทางบนถนนกันต่อ และจุดหมายถัดมาคือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์และเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม ที่นี่มีภูเขาน้ำแข็งที่สวยงามมากมายแตกตัวออกจากธารน้ำแข็งและค่อยๆ ลอยออกสู่มหาสมุทร บริเวณนี้คุณมีกิจกรรมให้เลือกสองแบบคือล่องเรือสะเทินน้ำสะเทินบก และล่องเรือท้องแบนโซดิแอก และถ้าคุณเดินต่อจากทะเลสาบไปอีกไม่ไกลก็จะถึงหาดไดมอนด์ ซึ่งภูเขาน้ำแข็งมากมายถูกน้ำพัดขึ้นไปอยู่บนผืนทรายสีดำ ทำให้มองดูเหมือนเป็ญอัญมณีที่ส่องประกายระยิบระยับ
คืนนี้พักค้างคืนที่เฮิฟน์ (Höfn)

วัน 4 - ฟยอร์ดแห่งไอซ์แลนด์ตะวันออก - เอกิลสตาดีร์
วันนี้คุณจะขับต่อไปทางตะวันออก และเริ่มเข้าสู่เส้นทางที่คดเคี้ยวและน่าทึ่งลัดเลาะไปตามฟยอร์ดตะวันออก ผ่านหมู่บ้านชาวประมงอันเงียบสงบและมองเห็นภูมิทัศน์ชายฝั่งที่กว้างใหญ่ตลอดทาง
ในพื้นที่ชนบทอันเก่าแก่ของไอซ์แลนด์ ซึ่งสภาพแวดล้อมโดยรอบยังไม่ถูกทำลาย คุณจะเห็นทั้งภูเขาที่ขรุขระและอ่าวที่สวยงาม แนะนำว่าให้แวะชมหมู่บ้านสวยๆ ด้วย เช่น หมู่บ้านเฟาส์กรูดสฟยอร์ดูร์ (Fáskrúðsfjörður) ซึ่งคนที่นี่มีเชื้อสายฝรั่งเศส และหมู่บ้านเรย์ดาร์ฟยอร์ดูร์ (Reyðarfjörður) เมื่ออยู่แถวนี้ให้สังเกตรอบตัวให้ดี เพราะคุณอาจได้เห็นนกพัฟฟินและแมวน้ำที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่ง และกวางเรนเดียร์ที่อาศัยอยู่บนบก
ที่พักในคืนนี้อยู่ที่เอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir)

วัน 5 - เดินทางลึกเข้าไปในฟยอร์ดตะวันออก
วันนี้ คุณจะเที่ยวพื้นที่รอบๆ เอกิลสตาดีร์ ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองหลวงของภาคตะวันออก เราแนะนำให้ขับรถไปตามทะเลสาบลาการ์ฟโลยต์ (Lagarfljót) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของลาการ์ฟโลยต์ เวิร์ม (Lagarfljót Wyrm) ญาติผู้พี่ของสัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส และแวะปิกนิกในอ่าวอัทลาวิก (Atlavík) ที่อยู่ติดกับแม่น้ำ โดยอ่าวแห่งนี้มีความสวยงามและร่มรื่นมาก
ในบริเวณใกล้กันนั้น คุณสามารถเดินป่าขึ้นไปยังน้ำตกลิตลาเนสฟอสส์ (Litlanesfoss) และเฮนกิฟอสส์ (Hengifoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับสามของประเทศไอซ์แลนด์ และมีลักษณะเด่นที่น่าสนใจคือระหว่างชั้นของหินซึ่งมีสีดำจะมีแถบดินเหนียวสีแดงพาดอยู่ ส่วนน้ำตกลิตลาเนสฟอสส์จะมีเสาหินบะซอลต์ที่สวยงามล้อมรอบ เส้นทางนี้ใช้เวลาเดินเท้าไปกลับ 2 ชั่วโมงจากที่จอดรถ (ไม่รวมแวะถ่ายรูป) ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากับความพยายามมาก
หากคุณอัปเกรดรถเช่าเป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ คุณจะสามารถขับตะลุยลึกเข้าไปในเส้นทางภูเขาสไนเฟลล์ (Snæfell) หรือเขื่อนเคารายูการ์ (Kárahnjúkar) ได้อีก ซึ่งใกล้ๆ กับเขื่อนจะมีหุบเขาที่สวยงามสองแห่งคือดิมมูกลูฟูร์ (Dimmugljúfur) และเฮาราวามากลูฟูร์ (Hafrahvammagljúfur) (ยาว 6.2 ไมล์/10 กม.) ซึ่งเป็นสถานที่เดินป่าที่ยอดเยี่ยม
จากนั้นคุณจะขับรถกลับไปที่เอกิลสตาดีร์ และมุ่งหน้าไปยังเมืองเซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seyðisfjörður) ที่มีเสน่ห์ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ชื่นชม

วัน 6 - บอร์การ์ฟอย์ดูร์ เอสทรี
เดินทางไปยังบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ เอสทรี (Borgarfjörður Eystri) หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาที่สวยงามสองลูก ใช้เวลาทั้งวันในวันนี้ดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมรอบตัว
มีเส้นทางเดินป่าที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายให้คุณเลือก เส้นทางที่น่าจะประทับใจที่สุดคือเส้นทางไปสตอร์รุด (Storurð) หรือที่บางครั้งเรียกว่าฮราฟนายาการ์ด (Hrafnabjargaurð) ซึ่งมีมอสส์สีเขียวอ่อนและก้อนหินขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากน้ำทะเลสีฟ้าครามอันเงียบสงบ คุณยังสามารถไปเดินเล่นบนชายหาดใกล้กับฮูซีย์ (Húsey) ได้ด้วย ซึ่งคุณจะเห็นแมวน้ำมากมาย และบางทีอาจจะได้เจอกับกวางเรนเดียร์ด้วย
บางทีคุณอาจจะไม่อยากเดินป่าแบบจริงจัง แค่อยากเดินเล่นชิลๆ มากกว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นให้เดินไปที่จุดดูนกของหมู่บ้านก็ได้ ซึ่งอยู่ไม่ไกล นกพัฟฟินที่นี่ไม่กลัวคน และพวกมันอาจเข้ามาใกล้ๆ ให้คุณได้ถ่ายภาพด้วย อย่างไรก็ตาม บริเวณนี้สามารถเข้าได้เฉพาะช่วงเวลาระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมเท่านั้น และพอถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคมนกพัฟฟินเหล่านี้ก็จะเดินทางไปที่อื่น
คืนนี้คุณยังพักค้างคืนอยู่ในเอกิลสตาดีร์หรือบริเวณใกล้เคียงอีกหนึ่งคืน

วัน 7 - ทะเลสาบมิวาทน์ - ภูเขาไฟ
ในวันที่เจ็ด คุณจะขับรถขึ้นไปทางเหนือสู่ทะเลสาบมิวาทน์ (Mývatn) บริเวณนี้ขึ้นชื่อเรื่องภูมิประเทศที่แวดล้อมไปด้วยแหล่งความร้อนใต้พิภพอันน่าพิศวง ซึ่งรวมถึงช่องเขาเนามาส์การ์ด (Námaskarð) การก่อตัวของลาวาดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) และภูเขาไฟคราฟลา (Krafla) หนึ่งในภูเขาไฟที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดของไอซ์แลนด์ นอกจากนี้ คุณยังห้ามพลาดถ้ำบ่อลาวาน้ำพุร้อนเกรียวตาเกาจ์ (Grjótagjá) ด้วย เพราะที่นี่คุณจะได้แช่น้ำร้อนท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากที่อื่น
หลังจากนั้น ไปแช่น้ำต่อกันที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ น้ำสีฟ้าที่อุดมไปด้วยซิลิกาและแร่ธาตุอื่นๆ ของที่นี่ มาจากแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพ จึงเป็นน้ำที่มีพลังในการบำบัดรักษา และเป็นวิธีผ่อนคลายที่สมบูรณ์แบบหลังจากท่องเที่ยวมาทั้งวัน แช่ตัวในน้ำอุ่นๆ พร้อมกับชมทิวทัศน์อันกว้างไกลของภูเขา หน้าผาลาวา และทะเลสาบที่อยู่ข้างสระน้ำ จากนั้นเข้าที่พักในคืนนี้ซึ่งอยู่ในแถบมิวาทน์

วัน 8 - หนึ่งวันในภาคเหนือ
วันนี้คุณมีตัวเลือกให้ต้องตัดสินใจว่าจะเที่ยวแถวมิวาทน์ต่อเพื่อดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์มากขึ้นอีกเล็กน้อย โดยคุณจะขับรถผ่านไปยังโจกุลส์เอาร์กยูฟูร์ (Jökulsárgljúfur) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) เพื่อไปชมหุบเขาเอาส์บิร์กิ (Ásbyrgi) และน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป หรือคุณจะเลือกใช้เวลาในช่วงเช้าอย่างเงียบสงบที่เมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) ที่สวยงาม
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าร่วมทัวร์ดูวาฬที่หมู่บ้านฮูสาวิก (Húsavík) ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะเมืองหลวงของการดูวาฬของยุโรป และคุณยังสามารถเพิ่มโปรแกรมดูนกพัฟฟินเข้าไปในทัวร์ดูวาฬได้ด้วยเช่นกัน อีกทางเลือกหนึ่งที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันคือการไปเยี่ยมชมเกาะฮรีเซย์ (Hrísey) อันงดงามในเอยาฟยอร์ดูร์ (Eyjafjörður)
คืนนี้พักค้างคืนในเมืองหลวงของภาคเหนือ

วัน 9 - ไอซ์แลนด์เหนือ
คุณสามารถเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการขี่ม้าชมความงามและดื่มด่ำกับความเงียบสงบของภูมิภาคนี้ได้ถ้าหากคุณต้องการ จากนั้นค่อยเดินทางต่อเพื่อไปยังสกากาฟยอร์ดูร์ (Skagafjörður) หุบเขาที่ขึ้นชื่อว่ามีม้าจำนวนมากและมีหนุ่มๆ ที่ร้องเพลงเสียงดังก้องกังวาน ระหว่างทางคุณจะผ่านพื้นที่ภูเขาโทรลลาสกากี (Tröllaskagi) ที่สวยงาม
หากคุณพลาดชมวาฬเมื่อวานนี้ คุณสามารถเลือกไปเข้าร่วมกับทัวร์ในวันนี้ก็ได้ นอกจากนี้ขอแนะนำให้คุณไปที่พิพิธภัณฑ์แฮร์ริ่งอีรา (Herring Era) ที่ได้รับรางวัลด้วย พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjörður) อันเก่าแก่ซึ่งชาวบ้านมีอาชีพทำประมงปลาแฮร์ริ่ง ที่นี่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของอุตสาหกรรมการประมงที่มีต่อประเทศนี้ในอดีตที่ผ่านมา หลังจากนี้คุณจะเดินทางไปยังโฮฟซอส (Hofsós) ซึ่งคุณสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามไจด้ากสระน้ำร้อนของเมือง
คืนนี้พักค้างคืนที่เซยดาร์โครคูร์ (Sauðárkrókur)

วัน 10 - ซากาแห่งไอซ์แลนด์
วันที่สิบเป็นวันที่คุณจะเที่ยวไอซ์แลนด์ตะวันตก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย รวมทั้งนิทรรศการเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์ที่เดอะเซ็ทเทิลเมนต์เอ็กซิบิชั่น (The Settlement Exhibition) ในบอร์การ์เนส (Borgarnes) นอกจากนี้ อย่าลืมแวะชมน้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) ที่สวยงามด้วย ส่วนผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ควรไปที่สนอร์ราสโทฟา (Snorrastofa) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเกี่ยวกับยุคกลางตั้งอยู่ในเรค์คอร์ค (Reykholt) เพราะที่นี่สนอร์รี สเตอลูซัน (Snorri Sturluson) นักเขียนผู้แต่งบันทึกตำนานเทพเข้านอร์สโบราณ (Poetic Edda) เคยใช้เป็นที่เขียนนิยายซากาเรื่องเฮมสกริงลา (Heimskringla) ในศตวรรษที่ 13
ระหว่างเดินทางกลับเรคยาวิก แนะนำให้แวะพักเที่ยวน้ำตกฟอซาตุน (Fossatún) ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีนางยักษ์โทรลชื่อดรีฟาคอยคุ้มกันอยู่ และหากคุณต้องการเดินป่าในวันนี้ ในระหว่างทางคุณไม่ต้องขับรถลงอุโมงค์ (ซึ่งจะพาลอดใต้ฟยอร์ดและลดเวลาในการขับรถของคุณได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง) และเปลี่ยนไปใช้เส้นทางที่สวยงามรอบควาลฟยอร์ดูร์ (Hvalfjörður) แทน ซึ่งที่นี่คุณสามารถใช้เวลาสองสามชั่วโมงในการเดินป่าเพื่อไปชมน้ำตกกลีมูร์ (Glymur) น้ำตกที่สูงที่สุดของไอซ์แลนด์
มีกิจกรรมเสริมและทัวร์ที่น่าทึ่งมากมายที่คุณสามารถเลือกทำเป็นการปิดท้ายวันของคุณได้ที่นี่ อย่างแรกเป็นทัวร์ถ้ำลาวาแบบดั้งเดิมที่จะพาคุณไปชมถ้ำวิดเกลเมียร์ อย่างที่สองคือทัวร์ที่พาเข้าไปสำรวจด้านในของธารน้ำแข็งลางโจกุล โดยจะเข้าไปในอุโมงค์ที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งเพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ไม่นาน และอย่างที่สามนั้นถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียวที่คุณจะได้เข้าไปในโถงแมกมาอันงดงามของภูเขาไฟที่สงบนิ่ง
คืนสุดท้ายนี้คุณจะพักในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

วัน 11 - สปาบลูลากูน - สนามบิน
คืนรถเช่าที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก และเผื่อเวลาให้พอเหมาะสำหรับเที่ยวบินของคุณ สำหรับผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองนี้สามารถเริ่มออกเดินทางได้ทั้งจากในตัวเมืองเรคยาวิกและจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ทั้งนี้คนขับจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนถนนอย่างน้อย 1 ปี อย่างไรก็ตามรายละเอียดการเดินทางที่คุณได้รับอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย
แม้ว่าคุณจะมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน แต่อากาศในไอซ์แลนด์นั้นก็ยากที่จะคาดเดาได้ถูก ดังนั้นกรุณาเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมติดตัวมาด้วย
ที่พัก
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล
สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม
ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า
รถ
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)
ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป