แพ็คเกจ 11 วันฤดูร้อน | รอบถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์พร้อมไกด์ท้องถิ่นที่มีประสบการณ์
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
เริ่มออกผจญภัยครั้งหนึ่งในชีวิตและใช้เวลา 11 วันที่จะได้เที่ยวชมในวงกลมทองคำ (Golden Circle), ชายหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara), ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón), ทะเลสาบมิวาท์น (Mývatn) และคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) แพ็คเกจฤดูร้อนนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่จะดื่มด่ำกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ ชมบรรยากาศของพระอาทิตย์เที่ยงคืนและเรียนรู้วัฒนธรรมไปพร้อมกับคำแนะนำของคนในท้องถิ่นที่ชำนาญ.
กว่า 11 วัน ที่คุณจะได้มีเวลามากมายที่จะได้ชมความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งและภูเขา, น้ำพุร้อนและน้ำตก คุณจะได้ชมสัตว์ป่าของประเทศไอซ์แลนด์, ชมม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์ในทุ่งหญ้าและอาจจะได้ชมนกพัฟฟินที่ทำรังอยู่ตรงหน้าผาชายฝั่งทะเล เพิ่มเติมด้วยที่คุณจะได้เที่ยวชมในวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์ด้วย คุณจะได้จบการเดินทางด้วยการสำรวจเมืองหลวงเรคยาวิกของประเทศไอซ์แลนด์ (Reykjavík).
หากคุณต้องการที่จะทำให้การเดินทางนี้อยู่ในความทรงจำและตื่นเต้นมากขึ้น คุณสามารถเพิ่มทัวร์ให้กับพักร้อนของคุณได้ คุณสามารถไปปีนธารน้ำแข็งในชายฝั่งทางใต้, ล่องเรือระหว่างภูเขาในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน, เที่ยวชมบลูลากูน และก้าวเข้าไปภายในถ้ำลาวาบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส และนี่เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อย.
แพ็คเกจนี้ได้รวมการเดินทางรับ-ส่งจากสนามบิน, ที่พักรอบๆประเทศ และรถมินิบัสนำเที่ยวรอบๆถนนวงแหวนรวมไปถึงคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส และคุณจะยังได้พักในเมืองเรคยาวิกสามคืนด้วย.
จองแพ็คเกจที่ดื่มด่ำ 11 วันนี้ เพื่อคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และสร้างความทรงจำไปจนตลอดชีวิตของคุณ ตรวจสอบโปรแกรมด้วยการเลือกวันเดินทางของคุณ.
รวมในแพ็คเกจ
จุดหมายปลายทาง
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
รายละเอียดการเดินทาง
บริการรับส่งสนามบินไป-กลับ
บริการรับส่งสนามบินไป-กลับ
ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ
วันที่ 1 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
- More
ยินดีต้อนรับสู่ประเทศแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน ภารกิจแรกของคุณที่เดินทางมาถึงคือการกระโดดขึ้นรถบัสที่จะนำคุณเดินทางออกจากสนามบินเคฟราวิก (Keflavík) ผ่านทุ่งลาวาที่ลึกลับในคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) และเดินทางไปถึงเมืองเรคยาวิก. ขณะเดินทางไปเมืองเรคยาวิกคุณสามารถที่จะแวะผ่อนคลายที่บลูลากูน(Blue Lagoon) ก่อนก็ได้. สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกนี้มีสีสัน และ ทรีทเม้นทีหรูหราพร้อมกับพื้นที่ที่ครอบคลุมไปด้วยลาวาทำให้ที่นี่เหมือนอยู่บนโลกอีกใบ. บลูลากูนจะถูกจัดใหตามเวลาไฟลท์บินของคุณ หากว่าไม่มีเวลาเหลือที่จะแวะบลูลากูนวันนี้ ทราเวลเอเจ้นท์ของคุณจะจัดให้เป็นวันอื่นแทน. มีอะไรหลายอย่างให้ทำในเมืองเรคยาวิก. คุณจะมีเวลาอิสระเมื่อมาถึงยังเมืองเรคยาวิกแล้ว เพื่อจะเข้าไปยังที่พักของคุณและชมเมือง เมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลกมีร้านอาหาร, พิพิธภัณฑ์, แกลลอรี่, คาเฟ่, ถนนที่แปลกตาและอาหารที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่จะทำให้คุณมีโอกาสชมเมืองจนดึก.
เดินสำรวจใจกลางเมืองและใช้เวลาที่สว่างไสวของช่วงเย็นในฤดูร้อน คุณสามารถเดินลงไปยังท่าเรือ, โถงฮาร์ปาคอนเสิร์ตในอดีตและเดินไปแนวชายทะเลและถ่ายภาพยอดนิยมของสถาปัตยกรรมพระอาทิตย์นักเดินทาง (Sun Voyager).
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 2 - ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- More
- อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
- พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
- น้ำตกกุลล์ฟอสส์
- More
ตอนนี้เป็นเวลาที่คุณจะได้เริ่มการผจญภัยอย่างจริงจัง ในช่วงเช้ารถจะไปรับคุณจากเมืองเรคยาวิก และไกด์นำเที่ยวของคุณจะเริ่มด้วยการนำคุณไปยังเส้นทางวงกลมทองคำที่คลาสสิกและเป็นเส้นทางชมทัศนียภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์.
คุณจะได้เริ่มที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) สถานที่ตั้งดั้งเดิมของอัลธิงกิ (Alþingi) ที่เป็นรัฐสภาไอซ์แลนด์แห่งแรกที่ถูกค้นพบโดยชาวไวกิ้งในปี 930 ในพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์นี้ การก่อตัวของหญ้ามอสบนทุ่งลาวาของที่นี่เคยถูกใช้เป็นฉากในซีรีย์ทางช่อง HBO เรื่อง มหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) ที่ธิงเวลลีย์ คุณสามารถเดินเล่นระหว่างแผ่นเปลือกโลกที่อุทยานแห่งชาตินี้ทั้งระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและอเมริกาเหนือในระหว่างหุบเขาที่ยกตัวขึ้นตรงกลาง. สำหรับกิจกรรมเพิ่มเติมในวันนี้คุณสามารถเพิ่มที่จะดำน้ำสนอร์เกิ้ลท่ามกลางแผนดินสองทวีปในซิลฟราฟิซเซอร์ได้เช่นกัน. ซิลฟราเป็นน้ำลึกที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสองทวีป และน้ำในนั้นจะเป็นน้ำที่ไหลมาจากเกลเซียร์. โดยการไปสนอร์เกิ้ลที่นี่คุณจะได้เห็นผนัง และหินมากมายไปไกลถึง 100 เมตร ทำให้การสนอร์เกิ้ลในซิลฟราเป็นหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด.
จากนั้นคุณจะได้นั่งรถต่อไปไม่ไกลยังบริเวณทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ ที่คุณจะได้พบกับไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีการปะทุขึ้นทุกๆ 5-10 นาที อย่าลืมที่จะเตรียมกล้องถ่ายรูปของคุณให้พร้อมเพื่อที่จะได้ถ่ายภาพขณะที่น้ำพุร้อนปะทุขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้นไปในอากาศถึง 25 เมตร.
สุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุดในเส้นทางวงกลมทองคำคือ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) น้ำจากธารน้ำแข็งจำนวนมากตกลงมาจากความสูง 32 เมตร ลงบนก้อนหินด้านล่างในหุบเขากุลล์ฟอสส์กยูเฟอร์ (Gullfossgljúfur) เป็นภาพที่งดงาม เป็นภาพที่โปรดปราณของนักถ่ายภาพ "น้ำตกทองคำ" นี้สามารถถ่ายภาพได้จากหลายมุม. คุณจะได้แวะที่ฟาร์มEfstidalur. ที่นีคุณจะได้ชมฟาร์มที่บริหารโดยครอบครัว ที่นี่คุณสามารถรับประทานไอซ์ครีมของพวกเขาที่ทำมาจากนมโดยวัวของพวกเขาเอง. วันที่สองของคุณในประเทศไอซ์แลนด์จะจบในที่พักที่สะดวกสบายในบริเวณนี้ ที่นั่นคุณจะได้พักและเตรียมตัวสำหรับการสำรวจในวันต่อไป.
ประสบการณ์
วันที่ 3 - ชายฝั่งทางใต้
- ชายฝั่งทางใต้
- More
- น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์
- น้ำตกสโกกาฟอสส์
- ดิร์โฮลาเอย์
- หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
- โขดทะเลเรนิสดรังการ์
- More
ในวันนี้คุณจะได้เดินทางต่อไปยังชายฝั่งทางใต้ที่งดงาม เส้นทางนี้จะมีความผสมผสานของทัศนียภาพที่หลากหลาย ทั้งภูเขาและธารน้ำแข็ง, มหาสมุทรแอตแลนติกและทุ่งหญ้า ที่สามารถมองเห็นฝูงวัวและแกะกำลังเล็มหญ้า.
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความตื่นเต้นของคุณได้ถูกปลุกโดยน้ำตกกุลล์ฟอสส์ในวันก่อนหน้าและจะต้องดับลงไปในวันที่สามนี้ เพราะคุณจะได้ชมสองน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่มีความสูงถึง 60 เมตร หนึ่งในนั้นชื่อว่า น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งมีทางเดินที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปด้านหลังของม่านน้ำตก น้ำตกอีกแห่งที่มีเสียงดังกึกก้องชื่อว่า น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógarfoss) ซึ่งมีละอองหมอกกระจายไปรอบๆบริเวณ. คุณสามารถเลือกที่จะเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งด้วยได้. ถ้ำน้ำแข็งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เหลือเชื่อที่จะพาคุณไปยังสถานที่ที่เหมือนกับวังน้ำแข็งที่มีกำแพงน้ำแข็งล้อมรอบเหมือน หินอ่อนสีขาวและสีฟ้า. นอกจากนี้คุณยังจะได้เยี่ยมชมดิร์โฮลาเอย์ (Dyraholaey) ซึ่งเป็นทางเดินหินที่ทอดยาวจากแผ่นดินใหญ่ของชายฝั่งทางใต้ไปสู่ทะเล จากที่นี่คุณจะได้รับภูมิทัศน์รอบๆ. เดินทางต่อไปตามแนวชายฝั่งคุณจะได้พบกับชายหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา ชายหาดดำมืดและมีการก่อตัวของลาวาที่ถูกเรียกว่า เรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่อาจจุดชนวนกวีกอธิคของคุณ หรืออย่างน้อยที่สุดก็จะเป็นภาพถ่ายในอินสตาแกรมให้คุณได้.
เพิ่มให้การผจญภัยของคุณน่าตื่นเต้นมากขึ้น คุณสามารถเลือกการปีนถ้ำน้ำแข็ง คุณจะได้รับอุปกรณ์กันลื่นรองเท้า และขวานน้ำแข็งรวมถึงหมวกนิรภัยก่อนที่คุณจะได้ขึ้นไปยังธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) และนี่เป็นกิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาด ไม่มีอะไรที่จะสามารถเปรียบเทียบได้กับการได้ออกไปสำรวจพื้นที่ที่หนาวเย็นนี้ ซึ่งคุณจะได้มีเรื่องเล่าเมื่อคุณได้เดินทางกลับไปถึงบ้าน.
หลังจากการสำรวจชายฝั่งทางใต้ในวันนี้ คุณจะได้พักผ่อนในหมู่บ้านที่ชื่อว่า วิก.
วันที่ 4 - ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- More
- เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์
- ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
- ไดมอนด์ บีช
- More
สถานที่ท่องเที่ยวในวันที่สี่คือ "อัญมณียอดมงกุฏแห่งประเทศไอซ์แลนด์" คือ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน แต่ที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่เดียวที่คุณจะได้เดินทางไปในวันนี้ คุณจะได้ไปในและรอบๆอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล คุณจะได้ชมพื้นที่ที่งดงามมากมายที่เกิดจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล เช่น ทรายสีดำ, แม่น้ำจากธารน้ำแข็งและยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศ.
ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่คุณจะได้เห็น ภูเขาน้ำแข็งที่แตกออกจากธารน้ำแข็งที่อยู่ใกล้ๆ ล่องลอยไปยังทะเลสาบ ทำให้เกิดรูปร่างสีฟ้าและขาว จากความยิ่งใหญ่ของสถานที่ ดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตเห็นแมวน้ำที่ออกไปเที่ยวเล่นบนฝั่งของทะเลสาบ.
หากคุณเลือกเดินทางระหว่างช่วงเดือนพฤษภาคมและตุลาคม คุณสามารถเลือกที่จะล่องเรือในทะเลสาบเพื่อชมทัศนียภาพที่แสนพิเศษของภูเขาน้ำแข็งและล่องเรือไประหว่างสถาปัตยกรรมน้ำแข็งตามธรรมชาติขนาดใหญ่ บนพื้นผิวของโจกุลซาลอนที่ใสราวกับกระจก.
เดินทางต่อไปอีกไม่ไกลไดมอนด์บีชกำลังรอคุณอยู่ ที่นั่นภูเขาน้ำแข็งที่งดงามถูกซัดขึ้นไปบนชายฝั่งทำให้เกิดภาพของเพชรขนาดมหึมาวางอยู่บนหาดดำสนิท ทำให้เกิดภาพที่ยอดเยี่ยมและเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ. วันนี้คุณจะได้ใช้เวลาในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาแฟลล์ (Skaftafell) ซึ่งเป็นส่วนที่สวยงามของประเทศที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลลฺ (Vatnajökull). จากที่นี่คุณจะได้ขึ้นไปบนธารน้ำแข็ง คุณจะได้รับอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดและนำขึ้นไปบนทางลาดน้ำแข็งเพื่อชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งจากบนยอดธารน้ำแข็ง.
ในช่วงเย็นคืนนี้คุณจะได้เข้าพักในบริเวณโจกุลซาลอน.
วันที่ 5 - ฟยอร์ดตะวันออก
- ฟยอร์ดตะวันออก
- More
- ทะเลสาบลาการ์ฟโยท
- ป่าฮาลลอร์มสตาดาสโกกูร์
- More
ในวันนี้คุณจะได้มีเวลาเหลือเฟือในการสัมผัสความเงียบสงบของธรรมชาติ ฟยอร์ดทางตะวันออก (Eastfjords) เป็นสถานที่ที่ผู้คนไปเที่ยวชมน้อยกว่าที่อื่นของประเทศ ทำให้ที่นี่เงียบสงบกว่า คุณจะได้นั่งรถไปตามสถานที่ต่างๆของถนนสายวงแหวนซึ่งจะเดินทางเข้าและออกฟยอร์ดที่สวยงามของฝั่งตะวันออก ไกด์จะแสดงให้คุณได้เห็นความงดงามของสถานที่ต่างๆตลอดเส้นทาง.
ฟยอร์ดทางตะวันออกเต็มไปด้วยลักษณะของภูเขาปรากฏขึ้นเหนือแนวชายฝั่งที่ขรุขระ พื้นที่นี้เป็นส่วนเดียวของไอซ์แลนด์ที่ซึ่งกวางเรนเดียร์เดินเล่นอย่างอิสระบางทีคุณอาจจะโชคดีพอที่จะมองเห็น.
การเดินทางของคุณในทางตะวันออกจะนำคุณไปยังทะเลสาบแห่งความลับลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljót) ที่ตามตำนานกล่าวว่าน้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่ของสัตว์ประหลาดที่ชื่อว่า ลาการ์ฟโลย์ทซอร์มูริน (Lagarfljótsormurin) ที่มีรูปร่างคล้ายหนอน หรือบางคนกล่าวว่าเป็นล็อคเนสสก็อต (Scottish Loch Ness) การพบเห็นหนอนนั้นย้อนกลับไปถึงปี 1345 และจนถึงทศวรรษนี้ ดังนั้นเตรียมกล้องถ่ายภาพของคุณให้พร้อม คุณอาจจะได้พิสูจน์ว่าตำนานนี้เป็นความจริง.
ขณะที่อยู่ในทางตะวันออกคุณจะยังได้เห็นฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstaðaskógur) ที่เป็นป่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ประเทศไอซ์แลนด์ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่เป็นที่รู้จักกันในเรื่องพื้นที่ป่า และจะพบได้ไม่มาก ซึ่งทำให้ฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ มีความพิเศษ เป็นสถานที่ที่น่าดึงดูดใจสำหรับการปีนเขาการส่องนกและการปิกนิก ฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ไม่ไกลจากเอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir) ที่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นตะวันออกของประเทศไอซ์แลนด์. ระหว่างทางในวันนี้คุณจะหยุดแวะที่พิพิธภัณฑ์ของคุณเอยดุน (Auðuns Rock Collection) คอลเลคชั่นที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีของหินที่เจียระไนและอัญมณีในบริเวณนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร คุณจะมีตัวเลือกในการไปเยี่ยมชมโรงเบียร์ท้องถิ่นในเอกิลสตาร์ดิร์(Egilsstaðirฉ ที่นี่คุณจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีที่ผู้ผลิตเบียร์ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อสร้างไพน์ไอซ์แลนด์ที่สมบูรณ์แบบ. ที่พักของคุณในคืนนี้จะอยู่ในเมืองที่น่ารักในฟยอร์ดทางตะวันออก.
วันที่ 6 - อาคูเรย์ริ
- อาคูเรย์ริ
- More
- น้ำตกเดตติฟอสส์
- หุบเขาอาสบิร์กิ
- พื้นที่แถบทะเลสาบมิวาทน์
- น้ำตกโกดาฟอสส์
- More
สำรวจไกลออกไปต่อไปทางไอซ์แลนด์ตะวันออก เพราะคุณจะได้ตรงต่อไปทางเหนือที่กำลังรอคุณอยู่ในวันที่ 6 นี้ คุณจะได้ชมน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss), หุบเขาเอาส์บิร์กิ (Ásbyrgi), เมืองฮูสาวิก (Húsavík) และทะเลสาบมิวาท์น (Mývatn) สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นสถานที่ที่อยู่บนวงแหวนเพชร (Diamond Circle) เรียงลำดับของเทียบเท่ากับวงกลมทองคำของทางใต้ของทางตะวันออกเฉียงเหนือ.
สถานที่แห่งแรกคือน้ำตกเดตติฟอสส์ ที่มีพลังงานของม่านน้ำตกที่น่ามหัศจรรย์ ที่ถือไว้ว่าเป็นน้ำตกที่มีพลังงานมากที่สุดในยุโรป น้ำตกที่มีความสูง 44 เมตรนี้ได้ปรากฏอยู่ในภาพยนต์หลายเรื่อง เช่น ภาพยนต์ของริดลีย์ สก็อตต์ (Ridley Scott) เรื่อง โพรมีธีอุส (Prometheus) คุณจะได้เห็นแรงดึงดูดที่แท้จริงด้วยตาของคุณเอง.
สถานที่ที่สองที่คุณจะได้ไปเที่ยวชมในวันนี้คือ เอาส์บิร์กิ ที่เป็นหุบเขารูปร่างเหมือนรูปเกือกม้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เชื่อว่าเกือกม้านี้ถูกทิ้งไปโดยม้าแปดขาของโอดิน (Odin) ที่ชื่อว่าสเลปนีร์ (Sleipnir) จากตำนานของชาวนอร์ส (Norse) หุบเขานี้มีความกว้าง 11 กิโลเมตร ยาว 3.5 กิโลเมตร และมีหน้าผาสูง 100 เมตรสูงตระหง่านอยู่ด้านบน.
จากที่เอาส์บิร์กิคุณจะได้เดินทางไปยังฮูสาวิก เมืองชาวประมงที่แปลกตา ที่มีผู้คนอยู่อาศัย 2,000 คนที่นี่ตลอดปี ฮูสาวิกจึงถือว่าเป็นเมืองมากกว่าที่จะเป็นหมู่บ้าน และที่นี่ยังเป็นหมู่บ้านเล็กๆน่ารัก ในฮูสาวิกมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมายที่น่าไปเที่ยวชม รวมถึงฮูสาวิกคูร์คิร์คยา (Húsavíkurkirkja) โบสถ์ไม้ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1907 เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์วาฬฮูสาวิกและพิพิธภัณฑ์แห่งการสำรวจ.
สถานที่ต่อไปของวันนี้คือ มิวาท์น ที่ได้ชื่อตามทะเลสาบที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่ล้อมรอบบริเวณนี้ คุณจะได้ไปเที่ยวชมในเนามาส์การ์ด (Námaskarð), บริเวณพลังงานใต้พิภพใกล้ภูเขาเนามาฟย์าท (Námafjall) ที่มีมวลสีขาวของไอน้ำลอยขึ้นไปในอากาศและทำให้ทั่วทั้งภูมิภาคมีลักษณะเหมือนดาวอังคาร หากคุณคิดว่าคุณต้องการที่จะผ่อนคลายในวันนี้ด้วยการแช่น้ำที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาท์น ที่คุณจะได้ชื่นชมกับพื้นที่ภูเขาไฟรอบๆ คุณสามารถเพิ่มได้ระหว่างทำการจอง คุณสมบัติการบำบัดของน้ำอาจเป็นเพียงสิ่งที่คุณต้องการ ระหว่างการเดินทางได้ครึ่งทาง. คุณจะได้เดินทางไปยังเมืองหลวงของภาคเหนือหรือเมืองอาคุย์เรย์รี่. ขณะเดินทางคุณจะได้แวะที่น้ำตกโกดาฟอสส์ (Goðafoss) ที่ยิ่งใหญ่. ที่พักของคุณคืนนี้จะอยู่ในเมืองอาคุย์เรย์รี่.
วันที่ 7 - ไอซ์แลนด์ตะวันตก
- ไอซ์แลนด์ตะวันตก
- More
- ฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูร์
- กองหินฮวิทแซร์กูร์
- More
คุณจะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการออกจากเมืองอาคุเรย์รั้ (Akureyri) ทางตอนเหนือที่มีเสน่ห์และมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้. ระหว่างทางคุณจะหยุดพักที่ Kaffi Ku ที่สะดวกสบายซึ่งคุณสามารถหาอะไรกินหรือดื่มในขณะที่คุณอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่งดงาม. จุดแรกของคุณในวันนั้นคือเมืองเฮยกาเนส (Hauganes). เมืองเฮยกาเนสตั้งอยู่ในพื้นที่เอยาฟยอร์ดุร์ (Eyjafjörður)ที่งดงาม, เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เห็นวิถีชีวิตชนบทของไอซ์แลนด์ที่เป็นแก่นสาร. เมืองนี้ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่งดงามและมีประชากรประมาณ 140 คน.ระหว่างหยุดพักที่นี่คุณสามารถเลือกยืดขาของคุณและเดินเล่นรอบ ๆ หมู่บ้านที่งดงาม คุณอาจจะแวะดื่มกาแฟหรือคุณสามารถเลือกที่จะเพิ่มความตื่นเต้นหรือผ่อนคลายมากขึ้นในวันของคุณ. มีกิจกรรมเพิ่มเติมอีกสองกิจกรรมที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้จากเมืองเฮยกาเนส. น่านน้ำในส่วนนี้ของไอซ์แลนด์เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมปลาวาฬและจาก เมืองเฮยกาเนสคุณสามารถเลือกทัวร์ชมปลาวาฬได้. หากคุณรู้สึกอยากทำใจให้สบายมากขึ้นคุณสามารถเยี่ยมชมสปาเบียร์ Bjorbodin ที่มีชื่อเสียง. แนวคิดที่ไม่เหมือนใครนี้คือการผ่อนคลายและการผลิตเบียร์ขนาดเล็กและรวมเข้าด้วยกัน. ที่ Bjorbodin คุณสามารถโหลดและนั่งในเบียร์อุ่น ๆ ในขณะที่คุณจิบเบียร์เย็น ๆ จากก๊อกเบียร์ส่วนตัวของคุณเองอย่างเงียบ ๆ. จุดต่อไปของคุณจะเป็นแนวหินที่โด่งดัง ฮวิทเซคุร์ (Hvitserkur) สถานที่น่าสนใจนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นโทรลล์ที่ถูกสาบและกลายเป็นหินจากดวงอาทิตย์. จากนั้นคุณจะหยุดที่ที่พักของคุณในพื้นที่บอร์กาเนส์ (Borganes).
วันที่ 8 - ไอซ์แลนด์ตะวันตก
- ไอซ์แลนด์ตะวันตก
- More
- หน้าผาแกร์ดูแบร์ก
- หาดอีทรี ทุงกา
- สไนล์เฟลล์โจกุลล์
- ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
- More
ก่อนที่เดินทางออกจากเมืองอาคูเรย์ริ คุณสามารถเลือกที่ออกไปกับทัวร์ชมวาฬได้ น่านน้ำนอกชายฝั่งที่เต็มไปด้วยยักษ์ที่ใจดีเหล่านี้ ตั้งแต่วาฬมิงค์ ไปจนถึงวาฬหลังค่อม และโลมาอ่าว.
หลังจากที่คุณได้ใช้เวลาในเมืองอาคูเรย์ริแล้ว คุณจะได้เดินทางกลับโดยรถมินิบัสตรงไปทางตะวันตก ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย คุณยังสามารถที่จะชื่นชมความงดงามของทิวทัศน์โดยรอบ คุณจะได้นั่งรถผ่านพื้นที่การเกษตร, ภูเขาและชายฝั่งทะเล หรือแม้แต่ม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์ที่แปลกตา.
จุดแวะแรกของการเดินทางวันนี้ในทางตะวันตกจะอยู่ในอ่าวฮูนาโฟลอิ (Húnaflói) ที่ฮวิทแซร์คูร์ (Hvítserkur) เป็นชั้นหินบะซอลต์ที่มีความสูง 15 เมตรตรงนอกมหาสมุทร ด้านนอกชายฝั่ง ตามตำนานกล่าวว่าการก่อตัวของหินเหล่านี้เป็นโทรลที่ต้องคำสาป วันนี้โทรลแห่งฮวิทแซร์คูร์ไม่ได้ทำร้ายใครอีกต่อไป ในทางตรงข้ามที่นี้ยังเป็นบ้านของฝูงนกด้วย. จุดแวะต่อไปคือ เดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) ที่เป็นทุ่งน้ำพุร้อนที่ไม่มีที่ใดในยุโรปเหมือน ล้อมรอบด้วยบริเวณที่เหมือนอยู่นอกโลก ไอน้ำขึ้นมาจากพื้นดิน ดินโคลนและฟองน้ำเดือด. วันนี้คุณจะไปเยี่ยมชมสปาเครยมา (Krauma Spa) ซึ่งเป็นอ่างน้ำร้อนใต้พิภพทางทิศตะวันตก. สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำและผ่อนคลายในขณะที่คุณชมวิวรอบๆ. คุณจะได้เยี่ยมชมฟาร์มแพะ ซึงนี่อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดหวังในไอซ์แลนด์ แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำฟาร์มแพะนั้นค่อนข้างเฟื่องฟูเลยทีเดียว. จุดหมายปลายทางต่อไปจะเป็นที่น้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) และน้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) น้ำตกบาร์นาฟอสส์ เกิดจากการไหลของแม่น้ำฮวิทเอา (Hvítá) และน่าทึ่งมากเมื่อมันวิ่งผ่านช่องเขาแคบ ๆ น้ำตกเฮินฟอซซาร์ที่แปลได้ว่า "น้ำตกลาวา" เนื่องจากมีน้ำไหลลงไปในทุ่งลาวาหินเป็นลำธารเล็กๆหลายสาย.
ถัดจากนั้นคุณจะได้เดินทางไปยังหมู่บ้านเรค์คอร์ค (Reykholt) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นนักเขียน, นักการเมืองและนักวิชาการที่ชื่อว่า สนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) ผู้เขียนเรื่อง สนอร์ร่า-เอ็ดด้า (Snorra-Edda) บทความที่ชัดเจนเกี่ยวกับตำนานนอร์สและเอกสารทางประวัติศาสตร์อื่นๆ. หากคุณต้องการผจญภัยเพิ่มขึ้นในวันของคุณ. คุณสามารถเลือกที่จะไปทัวร์ขี่ม้า ม้าไอซ์แลนด์เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของอารมณ์ที่น่ารักและความทนทานทำให้เหมาะสำหรับทุกวัย คุณจะได้ขี่ม้าไปในชนบทของประเทศไอซ์แลนด์ กับประสบการณ์ที่แปลกใหม่. คุณจะได้เข้าพักในคืนนี้บริเวณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์.
วันที่ 9 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
- น้ำพุร้อนเดลตาร์ตุงกูแวร์
- แหล่งประวัติศาสตร์เรคโฮลท์
- น้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์และน้ำตกบาร์นาฟอสส์
- More
ในวันนี้อัญมณีจำนวนมากแห่งสไนล์แฟลซเนสกำลังรอคุณอยู่ ภูมิภาคที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจเนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างและน่าทึ่งมากมาย ตั้งแต่ภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ไปจนถึงชายหาดดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) และธารน้ำแข็งสไนล์เฟลส์โจกุลเอง คาบสมุทรที่มีทั้งเมืองที่มีเสน่ห์และหมู่บ้านตั้งอยู่มากมาย.
ด้านนอกของเมืองกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่น่าจดจำที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ภูเขาที่เหมาะกับการถ่ายรูปที่แสนงดงามที่ชื่อว่า ภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) แฟนตังยงซีรี่ส์เรื่อง มหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) ทางช่อง HBO อาจจะจำได้ถึงฉากของภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนหัวธนู ซึ่งฮาวด์ได้เห็นจากในนิมิต เคิร์คจูแฟส มักจะถูกถ่ายภาพจากหลายๆมุมซึ่งยังจะได้ถ่ายภาพของน้ำตกเคิร์คจูแฟสฟอสส์ด้วย.
เคิร์คจูแฟสไม่ได้เป็นเพียงแลนด์มาร์คของสไนล์แฟลซเนส ที่ได้รับการแนะนำในวัฒนธรรมสมัยนิยม ทั้งคาบสมุทร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งธารน้ำแข็งสไนล์เฟลส์โจกุลมีบทบาทสำคัญในนวนิยายวิทยาศาสตร์ของฌูล แวร์น (Jules Verne) เรื่อง "ดิ่งทะลุสะดือโลก" (Journey to the Centre of the Earth) ในเรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าคุณสามารถไปถึงศูนย์กลางของโลกผ่านอุโมงค์ภูเขาไฟในสไนล์แฟลซเนส น่าเศร้าที่วิทยาศาสตร์เบื้องหลังมันฟังดูไม่น่าเชื่อ.
อย่างไรก็ตามคุณมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มการผจญภัยใต้ดินของคุณเองในวันนั้นได้ การสำรวจอุโมงค์ลาวาวาท์ทเฮลลิร์ (Vatnshellir) คุณจะเดินลงบันไดเวียนไปจนถึง 35 เมตรใต้ดิน ถ้ำที่นี่อายุ 8,000 ปีรอให้คุณชื่นชมอุโมงค์ยาว 200 เมตรที่เต็มไปด้วยสีสันอันน่าหลงใหลและการก่อตัวของหินที่น่าประทับใจ.
มัคคุเทศก์ในท้องถิ่นของคุณจะเลือกสถานที่โปรดบนคาบสมุทรเพื่อหยุดซึ่งทั้งหมดมีความสุขกับการเดินเล่นและถ่ายรูป ในตอนท้ายของวันที่ 9 คุณจะถูกส่งกลับไปยังเรคยาวิกที่ซึ่งคุณจะใช้เวลาตลอดทั้งคืน.
ที่พัก
วันที่ 10 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
เต็มวันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์จะถูกใช้ในเมืองหลวงที่มีเสน่ห์ที่ชื่อว่าเรคยาวิก คุณจะมีเวลาว่างในวันนี้ที่จะทำความรู้จักกับเมืองหลวง ในยามว่างหรือคุณสามารถจองหนึ่งในหลาย ๆ ทัวร์ที่เดินทางออกจากจากเมือง ไม่ว่าคุณจะใช้เวลาทำอะไรอยู่ก็ตามคุณมั่นใจได้เลยว่าจะได้เพลิดเพลินไปกับเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้.
หากคุณไม่ได้เยี่ยมชมในวันที่เดินทางมาถึงคุณสามารถเลือกที่จะเยี่ยมชมบลูลากูนที่มีชื่อเสียงระดับโลก และนี่เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายหลังจากแปดวันบนท้องถนน น้ำใต้พิภพที่อุดมไปด้วยซิลิกาซึ่งกล่าวกันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับผิวหนัง.
สำหรับผู้ที่ชอบผจญภัยประสบการณ์ทางน้ำ คุณสามารถเลือกทัวร์ไปยังอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์และไปดำน้ำในช่องแคบซิลฟรา ที่เป็นรอยแยกที่เกิดขึ้นระหว่างแผ่นเปลือกโลกยุโรปและอเมริกาเหนือ ที่ถูกเติมเต็มไปด้วยน้ำใสราวกับคริสตัลจากธารน้ำแข็ง รถจะไปรับคุณจากตัวเมืองเรคยาวิก และนำไปยังสถานที่ที่พิเศษนี้ หากคุณพร้อมที่จะดำน้ำตื้นและดำน้ำในที่นั่นไม่มีที่ไหนเหมือนในโลกนี้.
คุณสามารถใช้ทั้งวันและออกไปกับทัวร์ทรีฮนูคาร์กีกูร์ ภูเขาไฟที่หลับไหลที่ตั้งอยู่นอกเมืองเรคยาวิก คุณจะมีโอกาสลงไป 120 เมตรภายในสมรภูมิของภูเขาไฟ การสำรวจก้นปล่องภูเขาไฟเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตอย่างแท้จริง.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 11 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
- More
คุณสามารถใช้เวลาว่างที่มีในการดื่มด่ำบรรยากาศในเมืองเรคยาวิกได้. สำหรับคนที่มีไฟลท์บินในช่วงเย็นคุณสามารถเลือกที่จะไปบลูลากูนได้วันนี้. คุณจะได้ผ่อนคลายก่อนที่จะไปสนามบิน ที่นี่เป็นสถานที่ดีที่จะผ่อนคลายก่อนจะขึ้นเครื่อง ด้วยแร่ธาติจากแผ่นดินของน้ำและไฟ. และหากว่าไฟลท์บินของคุณอยู่ในช่วงบ่ายคุณสามารถชมเมืองหลวงเรคยาวิกก็ได้ หากว่าไฟลท์ของคุณออกแต่เช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางโดยสวัสดิภาพ.
ประสบการณ์
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ลูกค้าที่เดินทางมาท่านเดียวจะได้ห้องเดี่ยว การจองห้องพักสำหรับ 2 ท่านจะได้รับห้องเตียงคู่ สำหรับการจองตั้งแต่ 3 ท่านขึ้นไป ระบบจะจัดสรรห้องสำหรับ 3 คนให้โดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น กลุ่มที่มี 8 ท่านจะได้รับห้องพักสำหรับสามท่านสองห้องและเตียงคู่หนึ่งห้อง หากการจัดการเหล่านี้ไม่ตรงตามความต้องการของคุณ โปรดติดต่อผู้ให้บริการ
ในกรณีที่สภาพอากาศเลวร้าย กิจกรรมอาจถูกยกเลิกได้ หากกิจกรรมที่คุณเลือกถูกยกเลิก เราจะช่วยเหลือคุณในการจัดเรียงใหม่หรือจองกิจกรรมอื่น ๆ เมื่อเป็นไปได้ และเราจะคืนเงินส่วนต่างราคาที่อาจเกิดขึ้นให้กับคุณ และอาหารเช้านั้นอาจไม่รวมอยู่ในโฮสเทลและเกสต์เฮาส์บางแห่งที่เลือก
วิดีโอ
รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว
แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด