ทัวร์ขับรถเที่ยวเองในฤดูร้อน 12 วัน | เที่ยวถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์และเจาะลึกสถานที่ท่องเที่ยวบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
เที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูร้อนด้วยทริปขับรถเที่ยวเอง 12 วัน แพ็คเกจขับรถนี้จะพาคุณเดินทางไปทั่วประเทศ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาดื่มด่ำกับทุกภูมิภาคในไอซ์แลนด์อย่างเต็มที่ และต้องการมีอิสระในการเดินทาง
ในทริปนี้คุณจะเดินทางในทิศทางตามเข็มนาฬิกาไปรอบประเทศไอซ์แลนด์ โดยจะเข้าพักค้างคืนในโรงแรมตามชนบทซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางโลเคชั่นที่งดงามมากที่สุดในโลก ระหว่างเดินทางคุณไม่ต้องเร่งรีบเลย คุณสามารถดื่มด่ำกับสถานที่แต่ละแห่งได้อย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ทะเลสาบมิวาทน์ หรือพื้นที่ฟยอร์ดทางตะวันออกที่ไร้ผู้คน เพราะทริปนี้เป็นทริปสบายๆ และคุณยังสามารถสลับไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวลับๆ ที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้จักได้ด้วย
สิ่งที่ทำให้ทริปนี้พิเศษและแตกต่างออกไปคือการที่คุณได้เที่ยวทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์อย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งภูมิภาคนี้มีสถานที่สวยงามขึ้นชื่อของไอซ์แลนด์อยู่หลายแห่ง เช่น ไกเซอร์หรือน้ำพุร้อนบนวงกลมทองคำ ผืนน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ไพศาล และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน เรียกว่าคุณจะเพลิดเพลินกับทุกช่วงเวลาที่เดินทางอยู่บนชายฝั่งทางใต้เลยก็ว่าได้
สิ่งที่พิเศษสำหรับโร้ดทริปหน้าร้อน 12 วันครั้งนี้อีกอย่างคือทัวร์เสริมที่คุณสามารถเลือกเพิ่มเข้าไปในแต่ละวัน ซึ่งมีทั้งกิจกรรมสุดคลาสสิกของประเทศไอซ์แลนด์ อย่างการปีนธารน้ำแข็ง เที่ยวถ้ำลาวา ขี่ม้า และดูวาฬ และสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ที่หาที่อื่นไม่ได้ แนะนำให้จองทัวร์เฮลิคอปเตอร์ ทัวร์ล่องเรือแบบแอดเวนเจอร์ ทริปลงไปชมโถงแมกมาใต้ดิน และสปาเบียร์
ตลอดทริปนี้คุณยังมีโอกาสได้ลงไปแช่ตัวในสปาและสระน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพที่มีอยู่มากมายด้วย
เนื่องจากแพ็คเกจนี้เป็นแพ็คเกจสำหรับขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง ทั้งโรงแรม ทัวร์ และค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้ล่วงหน้าก่อนที่คุณจะเดินทางมาถึงแล้ว ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงเดินทางไปให้ถึงสถานที่เที่ยวและที่พักของแต่ละคืนเท่านั้น ที่เหลือคุณจะไปเที่ยวที่ไหนไปทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของคุณทั้งสิ้น
คุณจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณสามารถไปชมในทริปครั้งนี้ แต่ข้อดีของการขับรถเองคือคุณสามารถปรับแต่งทริปทั้งหมดได้ตามความต้องการของคุณและเพื่อนร่วมคณะ การเที่ยวในแต่ละวันจึงขึ้นอยู่กับพวกคุณเท่านั้น ไม่ต้องเกรงใจไกด์หรือนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ และช่วงหน้าร้อนที่ไอซ์แลนด์จะมีปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนด้วย ดังนั้นช่วงกลางคืนจึงสว่างไสวเหมือนกลางวัน ทำให้คุณสามารถเที่ยวได้นานมากขึ้น
ทริปนี้คุณจะเดินทางไปอย่างช้าๆ รอบไอซ์แลนด์เพื่อสัมผัสกับภูมิประเทศที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อ และใช้เวลาดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์บนชายฝั่งทางใต้ให้มากเป็นพิเศษ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
ร่วมด้วย
จุดหมายปลายทางใน
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
รายละเอียดการเดินทาง
รถ
รถ
Small car
Medium car
Premium car
Large car
SUV
ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ
วันที่ 1 - เรคยาวิก
วันที่ 1 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - Arrival Day
- More
เมื่อเครื่องบินของคุณลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกและคุณผ่านศุลกากรเข้ามาแล้ว ให้คุณไปรับรถเช่าที่จอดรออยู่และเริ่มออกเที่ยวอย่างอิสระได้ตั้งแต่นาทีนี้เลย คุณสามารถเริ่มต้นทริปครั้งนี้ได้ 3 แบบ
หากในตอนที่คุณจองแพ็คเกจขับรถนี้คุณได้เลือกจองบลูลากูน (Blue Lagoon) เอาไว้ คุณสามารถเริ่มต้นทริปไอซ์แลนด์ด้วยการเดินทางไปยังสปาสุดหรูหราที่บลูลากูนได้ทันที ซึ่งคุณจะได้พบกับสระน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพมากมาย น้ำเหล่านี้มีคุณสมบัติในการบำบัดรักษา แถมในบลูลากูนยังมีห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ และมีทรีตเมนต์เช่นการนวดให้เลือกใช้บริการด้วย ที่นี่มีสภาพแวดล้อมที่สวยงามมากเพราะล้อมรอบด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยลาวาขรุขระสีดำของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) ซึ่งตัดกับผืนน้ำสีฟ้าสวยของบลูลากูนอย่างลงตัว
ส่วนผู้ที่ต้องการไปเที่ยวชมธรรมชาติของไอซ์แลนด์ทันทีในวันนี้ คุณสามารถเริ่มต้นทริปด้วยการออกสำรวจคาบสมุทรแห่งนี้ เรคยาเนสมีภูมิประเทศที่เหมือนกับบนดวงจันทร์ มีน้ำพุร้อน และยอดภูเขาไฟ มีแนวชายฝั่งที่สวยงามมีเอกลักษณ์พิเศษในทางธรณีวิทยาให้เห็นมากมายนับไม่ถ้วน โดยคุณจะได้ทำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศที่ไม่ธรรมดาของไอซ์แลนด์ตั้งแต่เดินทางมาถึง
ตัวเลือกสุดท้าย คุณสามารถมุ่งหน้าตรงเข้าไปในเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ทันทีที่เดินทางมาถึง เพราะที่พักของคุณจะอยู่ที่นั่น เรคยาวิกเป็นหนึ่งในเมืองที่มีชีวิตชีวาและมีสีสันมากที่สุดของโลก และเป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากในเชิงวัฒนธรรม คุณอาจจะไปลองชิมอาหาร ฟังดนตรีสด ชมงานศิลปะ สถาปัตยกรรม ศึกษาประวัติศาสตร์ และออกท่องราตรีสัมผัสชีวิตยามค่ำคืนในแบบที่แปลกใหม่
คุณสามารถเพลิดเพลินกับวันแรกในไอซ์แลนด์จนพอใจก่อนจะกลับเข้าที่พักในคืนนี้
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 2 - สไนล์แฟลซเนส
วันที่ 2 - สไนล์แฟลซเนส
- สไนล์แฟลซเนส
- More
- แหล่งประวัติศาสตร์เรคโฮลท์
- น้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์และน้ำตกบาร์นาฟอสส์
- น้ำพุร้อนเดลตาร์ตุงกูแวร์
- More
ในวันที่สองของทริปเที่ยวไอซ์แลนด์แบบเข้มข้นครั้งนี้ คุณจะออกเดินทางอย่างไม่เร่งรีบไปรอบถนนวงแหวน โดยเริ่มต้นจากทางตะวันตก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความเป็นชนบท มีแนวชายฝั่งที่สวยงาม และเป็นที่ตั้งของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส คาบสมุทรที่เต็มไปด้วยความหลากหลายจนได้ชื่อว่าเป็น "มินิไอซ์แลนด์"
เมื่อคุณออกนอกเมืองเรคยาวิกและเข้าสู่ถนนวงแหวน ในไม่ช้าคุณก็จะไปถึงควาลฟยอร์ดูร์ (Hvalfjordur) ฟยอร์ดที่มีสีสันน่าเที่ยวตลอดช่วงฤดูร้อน สำหรับผู้ที่ต้องการไปชมน้ำตกกลีมูร์ (Glymur) น้ำตกที่มีความสูงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ คุณสามารถขับไปตามเส้นทางสวยงามที่พาลัดเลาะไปตามฟยอร์ดและภูเขา ส่วนผู้ที่อยากไปชมสถานที่อื่นๆ ให้ขับลอดอุโมงค์ไปได้เลย
บอร์การ์เนส (Borgarnes) คือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งต่อไป เมืองนี้สวยงามและมีประวัติความเป็นมายาวนาน สถานที่เที่ยวมีชื่อในเมือง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับการเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์ (Settlement Center) แต่ก็ยังมีสถานที่อื่นที่น่าสนใจในแง่ของประวัติศาสตร์อีก เช่น ที่เรค์คอร์ค (Reykholt) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน เรค์คอร์คเป็นบ้านเกิดของสนอร์ริ สเตอร์ลูซัน (Snorri Sturluson) ผู้นำและนักเขียนคนสำคัญแห่งยุคกลาง
ส่วนผู้ที่สนใจในธรรมชาติสามารถไปเที่ยวสถานที่ใกล้เคียงอย่างน้ำตกฝาแฝด น้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) และน้ำตกเฮรินฟอซซ่าร์ (Hraunfossar) ทั้งสองแห่งอยู่ใกล้กันมากและมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บาร์นาฟอสส์มีกระแสน้ำเชี่ยวกรากไหลไปตามหุบเหวแคบๆ ส่วนเฮรินฟอซซ่าร์เป็นน้ำตกที่กว้างและประกอบด้วยน้ำตกเล็กๆ น้อยๆ ที่ไหลรวยรินไปตามชั้นของลาวาและลำธารขนาดเล็กจำนวนมาก
ใกล้กันกับน้ำตกทั้งสองนี้คือเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่มีอัตราการไหลของน้ำมากที่สุดในยุโรป ถัดจากนั้นจะเป็นสปาเครยมา (Krauma) ซึ่งเป็นสปาสมัยใหม่ที่นำเอาพลังงานจากน้ำพุร้อนมาใช้ประโยชน์ ใครที่อยากผ่อนคลายระหว่างเดินทางก็สามารถมาลงแช่น้ำและดื่มด่ำกับธรรมชาติสวยๆ ของที่นี่ได้
หากคุณต้องการทำกิจกรรมสนุกตื่นเต้นในแบบของชาวไอซ์แลนด์ในวันนี้ คุณมีตัวเลือกสองอย่าง อันแรกคือทัวร์เที่ยวถ้ำที่จะพาคุณลงไปชมทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยลาวา คุณจะได้ตื่นตาไปกับโลกใต้ดินที่สวยงามและได้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดตามมาหลังจากการปะทุของภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ อันที่สองคือทัวร์ซูเปอร์จี๊ปที่พาคุณไต่ขึ้นตามเนินน้ำแข็งที่สูงชันของธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ และเมื่อเดินทางขึ้นไปเกือบถึงด้านบนสุดของธารน้ำแข็งคุณจะได้เข้าไปสำรวจอุโมงค์น้ำแข็ง ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่มนุษย์สร้างขึ้นและจะได้พบกับความมหัศจรรย์ภายในทางเดินสีฟ้าสดใสและห้องต่างๆ ที่แกะสลักเอาไว้ในแผ่นน้ำแข็ง ที่นี่เป็นอุโมงค์น้ำแข็งแกะสลักเพียงแห่งเดียวในโลก ดังนั้นจึงถือว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากมากๆ
ในช่วงเย็นคุณจะเดินทางไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes) และเข้าเช็คอินที่โรงแรมของคุณที่นี่ เพื่อที่คุณจะได้ออกไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ บนคาบสมุทรอย่างละเอียดในวันพรุ่งนี้ได้แบบไม่ต้องเร่งรีบ หากคุณยังรู้สึกว่าวันนี้คุณยังเที่ยวไม่พอ คืนนี้คุณก็ยังสามารถออกไปเที่ยวกันต่อได้เพราะว่าที่ไอซ์แลนด์จะสว่างไสวไปด้วยปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 3 - สไนล์แฟลซเนส
วันที่ 3 - สไนล์แฟลซเนส
- สไนล์แฟลซเนส
- More
- หาดอีทรี ทุงกา
- หมู่บ้านบูดิร์
- หน้าผาหินบะซอลต์ลอนดรังการ์
- หาดกรวดดำที่ดยูปาลอนส์ซานดูร์
- สไนล์เฟลล์โจกุลล์
- ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
- More
ในวันที่สามของทริปเที่ยวไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูร้อนครั้งนี้ คุณจะออกเดินทางไปสำรวจดินแดนที่มีความแตกต่างหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ นั่นก็คือคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ซึ่งมีความยาว 90 กิโลเมตร และบริเวณชายฝั่งทั้งทางเหนือและทางใต้ของคาบสมุทรแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในทางใต้มีความน่าสนใจหลายแห่ง ได้แก่ หน้าผาหินบะซอลต์ที่แกร์ดูแบรก์ (Gerduberg) ที่มีชื่อเสียงจากเสาทรงหกเหลี่ยม ส่วนหาดอิทรี ทุงกา (Ytri Tunga) นั้นมีแมวน้ำให้ดู นอกจากนี้คุณยังสามารถไปไฮกิ้งที่ช่องเขาเรยเฟลด์สยา (Raudfeldsgja) เพื่อไปดูน้ำตก และไปหาดตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djupalonssandur) เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งด้วยการลองยกหินทดสอบพลังที่มีมาแต่โบราณ และไปชมโลนตรังการ์ (Londrangar) โขดทะเลหินบะซอลต์ขนาดใหญ่ที่มีนกทะเลมาอาศัยนับพันตัว
ชายฝั่งในทางเหนือของคาบสมุทรนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่โด่งดังมากอย่างภูเขาเคิร์กจูแฟลล์ (Kirkjufell) ที่บ้างก็ว่ามีรูปทรงคล้ายโบสถ์ บ้างก็ว่าคล้ายพิระมิด และในซีรีส์เกมออฟโธรนส์ซีซั่นเจ็ดบอกว่าคล้ายหัวลูกศร และภูเขาลูกนี้ยังมีน้ำตกที่อยู่ข้างเคียงกันด้วย ยิ่งทำให้มีวิวที่สวยเด่นกว่าเดิม
ทางเหนือของสไนล์แฟลซเนสมีหมู่บ้านประมงเก่าแก่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น บยาร์นาร์เฮิฟน์ (Bjarnarhofn) มีพิพิธภัณฑ์ปลาฉลาม และที่สติกกิโฮลมูร์ (Stykkisholmur) มีตำนานพื้นบ้านและวัฒนธรรมในการทำประมงที่รุ่งเรือง ที่บยาร์นาร์เฮิฟน์นั้นมีเมนู "ฉลามหมัก" ที่มีชื่อ ส่วนที่สติกกิโฮลมูร์นั้นคุณสามารถจองทัวร์เพื่อไปล่องเรือกินซูชิสไตล์ไวกิ้ง ซึ่งในทัวร์นี้คุณจะล่องเรือตกปลาสดๆ มาเป็นอาหารมื้อกลางวัน และยังจะได้ชมวิวของคาบสมุทร รวมถึงเกาะแก่งต่างๆ ในทะเล และยังสามารถมองเห็นฟยอร์ดทางตะวันตกได้ด้วย ใครที่ชอบดูนกก็จะแฮปปี้มากเป็นพิเศษเพราะมีนกหลายชนิดให้เห็น
สำหรับไฮไลต์ของทริปนี้นั้นจะอยู่ที่บริเวณปลายแหลม ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง สไนล์เฟลล์สโจกุล (Snaefellsjokull) มีความงดงามโดดเด่นอยู่ที่บริเวณใจกลางของอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเดียวกัน อีกทั้งยังมีทุ่งลาวาและแนวชายฝั่งที่อยู่ล้อมรอบทำให้ยิ่งดูตระการตาเข้าไปใหญ่
หากคุณไม่ได้เลือกไปล่องเรือในวันนี้ คุณสามารถเลือกไปร่วมกับทัวร์เที่ยวถ้ำลาวาแทนได้ ถ้ำลาวาวาทน์เฮลลิร์ (Vatnshellir) อยู่ใต้ธารน้ำแข็งและเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ไปเที่ยวถ้ำเมื่อวันก่อน
หลังจากเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวและสนุกกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์มาตลอดทั้งวัน คุณจะกลับเข้าไปพักผ่อนในโรงแรมที่อยู่บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 4 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์เหนือ
วันที่ 4 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์เหนือ
- คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์เหนือ
- More
- กองหินฮวิทแซร์กูร์
- More
ในวันที่สี่ของทริปเที่ยวรอบไอซ์แลนด์ 12 วันแพ็คเกจนี้ คุณจะเดินทางออกจากไอซ์แลนด์ตะวันตกที่สวยงามและมุ่งหน้าสู่ดินแดนทางตอนเหนือซึ่งมีความตระการตาเช่นกัน การเดินทางจากสไนล์แฟลซเนสสู่อาคูเรย์ริ (Akureyri) ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่ทิวทัศน์ที่คุณขับรถผ่านนั้นช่างเย้ายวนชวนให้จอดรถลงไปสำรวจเสียเหลือเกิน และแพ็คเกจนี้ออกแบบมาสำหรับการเที่ยวแบบขับรถเองอยู่แล้ว คุณจึงสามารถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชมสิ่งที่น่าสนใจระหว่างทางได้ตามที่ต้องการ เช่น คุณอาจจะอยากเดินทางไปชมคาบสมุทรวาทน์เนส (Vatnsnes) ที่มีแมวน้ำอาศัยอยู่มากมายและมีหินฮวิทแซร์กูร์ (Hvitserkur) ที่รูปร่างแปลกประหลาดให้ชม
แต่แน่นอนว่าถ้าหากคุณได้จองทัวร์เสริมอย่างใดอย่างหนึ่งในสามตัวเลือกสำหรับวันนี้เอาไว้ คุณจำเป็นต้องไปถึงสถานที่นัดพบที่อยู่ในทางเหนือของไอซ์แลนด์ให้ทันเวลานัดหมาย ตัวเลือกแรกนั้นเป็นทัวร์ขี่ม้า คุณจะได้ทำความรู้จักกับม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์ซึ่งไม่เหมือนสายพันธุ์อื่นเลย พวกมันตัวเล็กและเป็นมิตร และเมื่อพร้อมแล้วคุณจะขึ้นขี่หลังม้าให้พวกมันพาเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามของเมืองอาคูเรย์ริ ทัวร์ขี่ม้านี้ออกแบบมาสำหรับทั้งคนที่ขี่ม้าเป็นอยู่แล้วและมือใหม่
ตัวเลือกที่สองเป็นทัวร์ดูวาฬและตกปลา ในฤดูหนาวไอซ์แลนด์เหนือมีน่านน้ำที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดในโลก และเกือบจะกล้าพูดได้เลยว่าคุณจะต้องได้เห็นอย่างน้อยก็วาฬหลังค่อมสักตัวอย่างแน่นอนถ้าคุณมองออกไปบนผืนน้ำที่สวยงามแถวฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดู (Eyjafjordur) และสัตว์น้ำที่พบได้บ่อยในแถวนี้ยังรวมถึงโลมาปากขาวและนกพัฟฟินแอตแลนติกด้วย ส่วนวาฬออร์กา วาฬสีน้ำเงิน หรือแม้แต่วาฬเบลูก้าก็อาจจะมาปรากฏตัวให้เห็นได้ในบางครั้งแต่ไม่บ่อยนัก
ทัวร์เสริมที่สามารถเลือกเพิ่มได้อีกอันหนึ่งสำหรับวันนี้มีเป็นทัวร์ที่ให้คุณได้ผ่อนคลายด้วยวิธีแปลกใหม่ โดยคุณจะได้ไปสปาเบียร์ที่หมู่บ้านดาลวิก (Dalvik) ซึ่งมีบ่อน้ำร้อนอยู่มากมาย เชื่อกันว่าการที่ได้ลงไปอาบแช่ตัวในเบียร์หมักใหม่ (Young beer) จะช่วยบำบัดรักษาและเยียวยาร่างกายได้ และสำหรับผู้ใหญ่คุณจะเลือกจิบเบียร์เย็นๆ ระหว่างที่แช่น้ำไปด้วยก็ได้
หลังจากเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ สถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก และได้ทำกิจกรรมสนุกๆ ในวันนี้มาพอสมควรแล้ว คุณจะพักค้างคืนอยู่ในเมืองอาคูเรย์ริ และถ้าคุณยังพอมีเรี่ยวแรง คุณอาจจะเที่ยวในอาคูเรย์ริก่อนค่อยกลับที่พักก็ได้ เมืองนี้ได้ฉายาว่าเป็นเมืองหลวงของทางเหนือและมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าแวะมากมาย
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 5 - Northeast Iceland
วันที่ 5 - Northeast Iceland
- Northeast Iceland
- More
- น้ำตกโกดาฟอสส์
- พื้นที่แถบทะเลสาบมิวาทน์
- More
ในวันที่ห้าของการเดินทาง คุณจะยิ่งดำดิ่งสู่ความงดงามของไอซ์แลนด์เหนือ ผู้ที่สนใจด้านวัฒนธรรมสามารถใช้เวลาช่วงเช้าอยู่ในอาคูเรย์ริและแวะไปชมพิพิธภัณฑ์ ร้านรวงต่างๆ แกลเลอรี่ และสวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของโลก ส่วนผู้ที่ชอบเที่ยวแบบธรรมชาติให้ขับรถออกเดินทางต่อไปได้เลย
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่อยู่ใกล้ๆ กันคือเมืองฮูสาวิค (Husavik) ที่ว่ากันว่าเป็นชุมชนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องการดูวาฬมากยิ่งกว่าที่อาคูเรย์ริเสียอีก และคุณสามารถล่องเรือออกจากอ่าวสเกาล์ฟานติ (Skjalfandi) เพื่อไปตามหาปลาวาฬได้สองแบบด้วยกัน คือไปกับทัวร์ดูวาฬที่ใช้เรือแบบดั้งเดิมที่มีความสะดวกสบายมากกว่า หรือไม่ก็ไปกับเรือยางท้องแบน RIB ที่สนุกสนานตื่นเต้นและสามารถเข้าไปใกล้กับวาฬได้มากขึ้น
นอกจากนี้ในช่วงหลังๆ ฮูสาวิคยังมีชื่อเรื่องอ่างน้ำจีโอซี (Geosea Baths) สปาพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ไม่เหมือนที่ไหนในไอซ์แลนด์ด้วย การไปสปาที่นี่คุณจะได้ลงไปแช่ตัวในน้ำทะเลร้อนซึ่งทำให้ผ่อนคลายอย่างมาก และอ่างน้ำที่นี่หันหน้าเข้าหาทะเลทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับวิวสวยระหว่างที่เพลิดเพลินกับน้ำทะเลอุ่นๆ กันด้วยจึงยากที่จะมีที่ไหนที่น่าผ่อนคลายไปมากกว่านี้
แต่ก็มีคู่แข่งอยู่ที่น่าสนใจอยู่แห่งหนึ่ง นั่นก็คืออ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Myvatn Nature Baths) ซึ่งคุณสามารถเลือกเพิ่มบัตรเข้าอ่างน้ำได้เมื่อคุณจองแพ็คเกจขับรถนี้ อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ตั้งอยู่ข้างทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn) ที่งดงามมาก แต่เนื่องจากที่นี่เป็นสปาธรรมชาติแบบดั้งเดิมจึงอาจจะมีขนาดเล็ก และไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้มากนัก
อย่างไรก็ตามวันนี้คุณต้องเดินทางไปให้ถึงทะเลสาบมิวาทน์ก่อนสิ้นสุดวัน เนื่องจากที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ในบริเวณทะเลสาบ โดยระหว่างทางแนะนำให้คุณแวะเที่ยวที่น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss) ด้วย เพราะน้ำตกแห่งนี้มีบทบาทอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์ หากคุณเดินทางมาถึงแถวทะเลสาบและยังมีเวลาเหลือ คุณสามารถเที่ยวชมวิวและสถานที่โดยรอบ ซึ่งมีป้อมปราการลาวาดิมมูบอร์กิร์ (Dimmuborgir) ช่องเขาเนามาส์การ์ด (Namaskard) ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาไฟที่แห้งแล้ง และปากปล่องภูเขาไฟสกูตูสตาดี (Skutustadir) ที่สวยงามอย่างแปลกประหลาด คุณอาจจะยังพอมีเวลาเหลือให้เที่ยวที่ทะเลสาบด้วยซ้ำไปเพราะเป็นช่วงที่มีพระอาทิตย์เที่ยงคืน คุณจะได้เห็นพืชและสัตว์ ตลอดจนลักษณะทางธรณีวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ของแถวนี้ แต่ถ้าคุณมีเวลาไม่พอ คุณก็ยังสามารถมาเที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้ได้ และคืนนี้คุณจะพักค้างคืนแถวทะเลสาบมิวาทน์
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 6 - ฟยอร์ดตะวันออก
วันที่ 6 - ฟยอร์ดตะวันออก
- ฟยอร์ดตะวันออก
- More
- หุบเขาอาสบิร์กิ
- น้ำตกเดตติฟอสส์
- More
ในวันที่หกของการเดินทาง คุณจะออกจากทางเหนือและเดินทางข้ามภูมิประเทศแห้งแล้งไร้สิ่งมีชีวิตของพื้นที่ไฮแลนด์ในทางเหนือของไอซ์แลนด์เพื่อเข้าไปยังดินแดนตะวันออกอันห่างไกลของประเทศ แต่ก่อนที่จะออกจากแถบมิวาทน์คุณสามารถเลือกไปเข้าร่วมกับทัวร์ซูเปอร์จี๊ปเพื่อเดินทางไปชมปล่องภูเขาไฟอาสยา (Askja) และวิติ (Viti) ที่งดงาม แม้ว่าทริปนี้จะต้องออกแรงเดินป่ากันบ้าง แต่คุณก็จะได้ดื่มด่ำกับภูมิประเทศที่สวยแปลกตาราวกับฉากต่างดาว ซึ่งองค์การนาซ่าเคยใช้เป็นสถานที่จำลองเพื่อฝึกซอมประหนึ่งเป็นพื้นผิวดวงจันทร์มาแล้ว และคุณยังสามารถลงไปแช่น้ำร้อนธรรมชาติสีฟ้าสดใสในทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ และการไปกับทัวร์นี้คุณยังจะได้ชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่ถูกทำลายของไอซ์แลนด์อีกด้วย
เมื่อคุณเดินทางต่อไปบนถนนวงแหวนจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่นอกเส้นทางให้คุณแวะชมได้มากมาย เช่น คุณอาจจะเลือกไปชมหุบเขาเอาส์บิร์กิร์ (Asbyrgi) ที่มีรูปทรงเหมือนเกือกม้าล้อมรอบป่าเขียวสด ใกล้ๆ กันกับหุบเขาแห่งนี้ก็มีน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป โดยน้ำตกแห่งนี้จะไหลลงสู่หุบเขาโบราณมืดทะมึนด้วยพละกำลังมหาศาล
เมื่อไปถึงทางตะวันออก จุดหมายปลายทางหลักของคุณคือเมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstadir) ซึ่งเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ เมืองตั้งอยู่ใกล้กับฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstadaskogur) ป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ที่ป่าแห่งนี้มีเส้นทางเดินป่าหลายแห่งที่เหมาะสำหรับนักเดินป่าและนักดูนก และยังอยู่ใกล้กับทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljot) ที่แสนสงบ ลาการ์ฟโลย์ทมีชื่อเสียงเพราะว่ากันว่ามีสัตว์ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายหนอนอาศัยอยู่ในน้ำ ซึ่งคล้ายๆ กับสัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของอ่างน้ำเวิก (Vok) ซึ่งเป็นสปาน้ำร้อนจากพลังงานใต้พิภพเพียงแห่งเดียวในทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ สระน้ำที่เวิกมีรูปทรงสวยงามและยื่นเข้าไปในทะเลสาบเลย คุณสามารถเพิ่มบัตรเข้าใช้บริการอ่างน้ำที่นี่ได้ในขณะที่คุณทำการจองแพ็คเกจขับรถนี้
หลังจากเหน็ดเหนื่อยบนถนนกันมาทั้งวัน คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่เอกิลสตาดีร์
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 7 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
วันที่ 7 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- More
- ป่าฮาลลอร์มสตาดาสโกกูร์
- เฮงกิฟอสส์
- เวสตราฮอร์น
- More
เพลิดเพลินกับการผจญภัยกันต่อในวันที่เจ็ดของทริปเที่ยวไอซ์แลนด์ในหน้าร้อน ซึ่งคุณจะท่องเที่ยวในฟยอร์ดทางตะวันออกอันสวยงาม เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ที่คุณจะได้ไปสัมผัสทั้งหมดในทริปนี้ ฟยอร์ดทางตะวันออกถือว่าอยู่ไกลจากเรคยาวิกมากที่สุด ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวอื่นๆ เดินทางมามากนัก ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับวิวได้โดยไม่ต้องเบียดกับคนอื่น
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนไอซ์แลนด์จำนวนมากบอกว่าฟยอร์ดทางตะวันออกเป็นภูมิภาคที่พวกเขาคิดว่างดงามมากที่สุดแล้ว มีทั้งภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศ มีวิวของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และบริเวณฟยอร์ดและอ่าวก็สวยงามหมดจด อีกทั้งยังมีสัตว์อาศัยอยู่ตามธรรมชาติมากมาย ที่นี่คุณสามารถมองเห็นแมวน้ำได้ตามชายฝั่ง ในทะเลก็มีวาฬและโลมา ส่วนนกพัฟฟินและนกทะเลชนิดอื่นๆ ก็อาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่บริเวณหน้าผา และยังเป็นที่เดียวที่มีกวางเรนเดียร์ที่หากินตามธรรมชาติให้เห็นด้วย
ในทางตะวันออกนี้มีหมู่บ้านเงียบเหงามากมายตั้งอยู่ในฟยอร์ดและชุมชนเหล่านี้ยังคงเหมือนกับโลกเมื่อในอดีต จึงเหมาะสำหรับการมาชมบรรยากาศและวัฒนธรรมของคนในชนบทของไอซ์แลนด์ โดยเฉพาะที่จูปิโวกูร์ (Djupivogur) ที่ผู้คนใช้ชีวิตกันแบบสบายๆ และมีสระน้ำร้อนริมทะเล และงานศิลปะสาธารณะให้ได้เพลิดเพลิน ระหว่างทางคุณยังสามารถออกนอกเส้นทางเพื่อไปชมสถานที่ท่องเที่ยวลับๆ ในแถบนี้ได้ด้วย แต่ถ้าคุณอยากเห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศที่คนนิยมมาถ่ายภาพกันมากที่สุด หนึ่งในนั้นคือเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ซึ่งคุณจะได้ไปเยือนเป็นที่สุดท้ายของวันนี้ เวสตราฮอร์นเป็นภูเขายอดแฝดสีดำทะมึนตั้งอยู่ริมทะเลในทางใต้สุดของฟยอร์ดทางตะวันออก
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 8 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
วันที่ 8 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- More
- ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
- ไดมอนด์ บีช
- เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์
- สวาร์ติฟอสส์
- More
วันที่แปดคุณจะอยู่ที่ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์และไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามมากสองแห่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ซึ่งคุณสามารถเพิ่มกิจกรรมเสริมเข้าไปในทริปของทั้งสองสถานที่นี้ได้ ที่แรกคือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon) ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นที่สุดของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไอซ์แลนด์ก็ได้ ทะเลสาบขนาดใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทร (มีแม่น้ำแคบๆ เชื่อมต่อกับทะเลสาบ) และผืนน้ำแข็งของธารรน้ำแข็งที่มีการแตกตัว ในทะเลสาบจึงเต็มไปภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาสีฟ้าเป็นประกายราวกับไม่ใช่ของจริงตลอดทุกช่วงเวลาของปี แค่การเดินเล่นอยู่ริมชายฝั่ง คุณก็จะได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของสถานที่สุดพิเศษแห่งนี้แล้ว และแถวนี้ยังเป็นถิ่นของแมวน้ำด้วย คุณอาจจะได้เห็นพวกมันว่ายน้ำเล่นหรือนอนอาบแดดอยู่บนภูเขาน้ำแข็ง
แต่ถ้าคุณอยากได้ประสบการณ์ที่ประทับใจมากยิ่งขึ้น ให้คุณจองทัวร์ล่องเรือในทะเลสาบ จะเป็นเรือสะเทินน้ำสะเทินบกหรือเรือท้องแบนโซดิแอกก็ได้ แล้วคุณจะได้เข้าไปดูแมวน้ำใกล้มากขึ้น และอาจจะใกล้จนคุณสามารถเอื้อมมือไปสัมผัสภูเขาน้ำแข็งได้เลยด้วย
หลังจากดื่มด่ำกับสถานที่มหัศจรรย์แห่งนี้กันแล้ว ให้คุณเดินไปที่ชายฝั่งใกล้ๆ กัน หาดนี้ชื่อว่าหาดไดมอนด์ เพราะว่ามีภูเขาน้ำแข็งมากมายถูกพัดออกจากทะเลสาบขึ้นมาเกยตื้นอยู่บนพื้นทรายสีดำและพวกมันจะสะท้อนแสงเป็นประกายระยิบระยับสวยงามมากในขณะที่ค่อยๆ ละลาย
สถานที่ท่องเที่ยวหลักแห่งที่สองในวันนี้คือเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ซึ่งเมื่อก่อนพื้นที่สกัฟตาเฟลล์เองนั้นเคยเป็นอุทยานแห่งชาติมาก่อน แต่เมื่อมีการก่อตั้งอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ขึ้นมา สกัฟตาเฟลล์ก็ถูกรวมเข้าไปในอุทยานฯ วัทนาโจกุลด้วย ที่สกัฟตาเฟลล์มีเส้นทางเดินที่เป็นทางไปยังธารน้ำแข็ง ทะเลสาบธารน้ำแข็ง ทุ่งลาวา และสถานที่อื่นๆ ที่โดดเด่นอีกหลายแห่ง แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่คนชื่นชอบกันมากคือน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) และผืนน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svinafellsjokull)
น้ำตกสวาร์ติฟอสส์มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนที่ไหน โดยน้ำตกไหลผ่านหน้าผาหินสูงตระหง่านที่ประกอบไปด้วยเสาหินบะซอลต์สีดำทรงหกเหลี่ยมจำนวนมาก ซึ่งเสาหินเหล่านี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของเขตภูเขาไฟและหาดูได้ยากมาก ส่วนสวีนาเฟลล์โจกุลนั้นเป็นหนึ่งในผืนน้ำแข็งที่เหมาะสำหรับกิจกรรมปีนธารนำ้แข็งมากที่สุดในไอซ์แลนด์
คุณสามารถเพิ่มกิจกรรมเสริมเข้าไปในทริปวันนี้ได้เมื่อคุณทำการจองแพ็คเกจขับรถนี้ และในช่วงบ่ายของวันนี้คุณจะได้ไปล่องเรือในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนกัน
หลังจากชื่นชมสถานที่ต่างๆ ในอุทยานฯ วัทนาโจกุลเสร็จแล้ว คุณจะเดินทางไปตามชายฝั่งทางใต้อีกเล็กน้อยเพื่อที่จะไปยังโรงแรมที่อยู่ในหมู่บ้านวิก (Vik) วิกเป็นหมู่บ้านที่งดงามและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และยังอยู่บนทำเลที่ดีมากสำหรับการออกเที่ยวในวันพรุ่งนี้ด้วย
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 9 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
วันที่ 9 - คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- คู่มือท่องเที่ยว ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- More
- หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
- โขดทะเลเรนิสดรังการ์
- น้ำตกสโกกาฟอสส์
- น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์
- More
วันที่เก้าของทริปแอดเวนเจอร์รอบไอซ์แลนด์ครั้งนี้ คุณจะได้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งบนชายฝั่งทางใต้ นักท่องเที่ยวที่มาแถบนี้มักจะเลือกเที่ยวชายฝั่งทางใต้ สกัฟตาเฟลล์ และโจกุลซาลอนภายในวันเดียวกัน แล้วพวกเขาก็พบว่าต้องรีบเร่งและอาจจะพลาดอะไรไปหลายอย่าง แต่แพ็คเกจนี้เน้นเที่ยวบนชายฝั่งทางใต้ คุณก็เลยจะได้ไปเยือนทุกสถานที่อย่างยุติธรรมที่สุด
เมื่อเดินทางมาจากเคิร์กยูแบร์ยาร์กเลาสเทอร์ (Kirkjubaejarklaustur) สถานที่ท่องเที่ยวหลักแห่งแรกที่คุณจะแวะคือหมู่บ้านวิก ซึ่งตั้งอยู่ติดกับหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) อันโด่งดัง หาดแห่งนี้เป็นหาดที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในบรรดาชายหาดที่ไม่ใช่หาดในเขตร้อน และเป็นที่รู้กันทั่วว่ามีทรายสีดำภูเขาไฟ มีคลื่นที่แรงมาก และมีหินรูปร่างแปลกประหลาด โดยเฉพาะหินเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) โขดหินขนาดยักษ์ที่อยู่ในทะเล
ถัดไปอีกไม่ไกลก็มีหินดิร์โฮลาเอย์ (Dyrholaey) หินโค้งริมชายฝั่งขนาดใหญ่ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ หินโค้งนี้ใหญ่ขนาดที่ว่าเรือสามารถลอดผ่านไปได้ และถึงแม้ว่าจะสามารถมาชมหินโค้งนี้ได้ตลอดทั้งปี แต่คนก็นิยมมาในฤดูร้อนมากกว่า เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่สำหรับดูนกที่ขึ้นชื่ออีกหนึ่งแห่ง โดยในหน้าร้อนจะมีนกพัฟฟินมาทำรังเป็นจำนวนมากและพวกมันไม่กลัวคนด้วย คุณจึงสามารถเข้าไปดูพวกมันถึงรังในระยะใกล้ได้
สถานที่ต่อไปเป็นน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) ที่สูงถึง 60 เมตร และมีพละกำลังเหลือเชื่อมาก คุณสามารถเข้าไปชมน้ำตกใกล้ๆ ได้แต่ต้องแลกกับการเปียกน้ำ และถ้าหากปีนบันไดขึ้นไปที่ด้านบนน้ำตกก็จะเป็นวิวในมุมที่ต่างออกไป
ในขณะที่คุณเดินทางไปบนชายฝั่งทางใต้คุณจะมองเห็นเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajokull) และมิร์ดาลสโจกุลล์ (Myrdalsjokull) ธารน้ำแข็งขนาดมหึมาสองแห่ง แห่งแรกนั้นโด่งดังมากหลังจากที่มีการระเบิดของภูเขาไฟไปเมื่อปี 2010 ส่วนแห่งหลังนั้นวันนี้คุณสามารถเพิ่มทัวร์ซึ่งมีให้เลือก 2 แบบเข้าไปในทริปเพื่อขึ้นไปเที่ยวชมความงดงามด้วยตัวเอง
ตัวเลือกแรกเป็นทัวร์ปีนธารน้ำแข็งที่โซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull) หนึ่งในผืนน้ำแข็งของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล ทัวร์นี้มีไกด์ที่มีประสบการณ์คอยดูแล และคุณจะได้ไปสำรวจหุบเหวบนผืนน้ำแข็งและปีนป่ายกำแพงน้ำแข็งเพื่อขึ้นไปชมวิวที่สวยงามที่สุดของชายฝั่งทางใต้
ส่วนอีกตัวเลือกหนึ่งเป็นทัวร์เที่ยวถ้ำน้ำแข็งโดยคุณจะนั่งรถซูเปอร์จี๊ปขึ้นไปที่ด้านบนสุดก่อนที่จะเข้าไปเที่ยวชมหนึ่งในอุโมงค์น้ำแข็งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งประสบการณ์เที่ยวถ้ำน้ำแข็งในหน้าร้อนนี้มีที่มิร์ดาลสโจกุลที่เดียวเท่านั้น
หลังจากสนุกตื่นเต้นกับกิจกรรมแล้ว คุณจะเดินทางไปที่น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) น้ำตกนี้จะสูงพอๆ กับน้ำตกสโกกาฟอสส์ แต่มีน้ำไหลเบากว่ามากและสามารถเดินชมได้รอบน้ำตก และถ้าเดินลุยน้ำข้ามลำธารตื้นๆ ไปในหลืบเขาคุณก็จะเจอกับน้ำตกลับๆ อีกหนึ่งแห่งที่ชื่อกลูยฟราบูอิ (Gljufrabui)
ก่อนจะจบทริปในวันนี้คุณจะเดินทางไปยังเซลฟอสส์ (Selfoss) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทที่สวยงาม และโรงแรมของคุณในคืนนี้อยู่ที่นี่
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 10 - เรคยาวิก
วันที่ 10 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
- น้ำตกกุลล์ฟอสส์
- อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
- พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
- ปากปล่องภูเขาไฟเคริด
- More
ในวันที่สิบของทริปท่องเที่ยวรอบไอซ์แลนด์ คุณจะออกจากถนนวงแหวนและขับเข้าสู่เส้นทางวงกลมทองคำ ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ บนเส้นทางนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องไปชม 3 แห่งด้วยกัน ที่แรกคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศ น้ำตกกุลล์ฟอสส์งดงามน่าประทับใจด้วยมีน้ำไหลลดหลั่นสองชั้นและมีละอองน้ำปกคลุมไปทั่ว รวมถึงมักจะมีรุ้งกินน้ำออกมาอวดโฉมในวันที่มีแสงแดดด้วย
หลังจากชมน้ำตกกุลล์ฟอสส์คุณอาจจะอยากไปร่วมกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิล ทัวร์ ซึ่งมีจุดนับพบอยู่ใกล้กับลานจอดรถของน้ำตก สำหรับทัวร์นี้คุณจะเดินทางด้วยรถซูเปอร์จี๊ปเพื่อขึ้นไปยังธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) กิจกรรมนี้เป็นการเที่ยวชมผืนน้ำแข็งที่กว้างใหญ่อย่างสนุกตื่นเต้นและยังจะทำให้คุณได้เห็นวิวสวยๆ ของชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์จากมุมมองใหม่ด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งต่อไปบนวงกลมทองคำคือพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ไม่มาก ใช้เวลาขับรถเพียง 10 นาทีเท่านั้น บริเวณนี้มีน้ำพุร้อนมากมาย แต่น้ำพุร้อนที่ชื่อไกเซอร์ (Geysir) มีความสวยงามมาก จนทำให้น้ำพุร้อนในที่ต่างๆ ทั่วโลกถูกเรียกว่าไกเซอร์ตามไปหมด แต่ปัจจุบันน้ำพุร้อนที่เป็นดาวเด่นในบริเวณนี้คือน้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) ซึ่งพ่นน้ำขึ้นฟ้าสูงมากในทุกๆ 10 นาที
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) ซึ่งเป็นสถานที่มหัศจรรย์และน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ผู้ที่ชอบด้านธรณีวิทยาจะต้องประหลาดใจกับแผ่นเปลือกโลกที่โผล่มาให้เห็นอยู่ในเขตอุทยานฯ ผู้ที่สนใจด้านประวัติศาสตร์อาจจะอยากรู้ว่าที่นี่มีบทบาทต่อประชาธิปไตยในยุคสมัยใหม่อย่างไร ส่วนผู้ที่หลงใหลในธรรมชาตินั้นสามารถเพลิดเพลินไปกับการสำรวจทุ่งลาวา ป่าไม้ ลำธาร และหุบเหวที่งดงามภายในพื้นที่อุทยานฯ
ซิลฟรา (Silfra) เป็นหนึ่งในหุบเหวลึกที่เป็นรอยแยกระหว่างสองทวีป ซึ่งในช่องเหวที่เป็นรอยแยกนี้จะมีน้ำธรรมชาติไหลเข้าไปเติมจนเต็ม ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปดำน้ำชมวิวได้ หากเลือกเพิ่มทัวร์สน็อกเกิลเข้าไปในทริปวันนี้ น้ำในรอยแยกซิลฟรานั้นเป็นน้ำที่ใสบริสุทธิ์มากจนสามารถดื่มได้ เมื่อดำลงไปจะพบว่าสามารถมองเห็นได้ไกลถึง 100 เมตรเลย และโลกใต้น้ำที่นี่ก็มีสีสันสวยงามอย่างแปลกประหลาด
แต่ถ้าหากทั้งการขี่สโนว์โมบิลและการดำน้ำตื้นไม่ใช่กิจกรรมที่คุณโปรดปราน คุณอาจจะอยากไปร่วมกับทัวร์ขี่ม้าที่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการชมทิวทัศน์สวยๆ ของไอซ์แลนด์ตะวันตกแทนก็ได้ และเนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวไปบนท้องถนนแล้ว คุณอาจจะอยากขับออกนอกเส้นทางเพื่อไปชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่สำคัญรองลงไป ซึ่งแถวนี้มีอยู่หลายแห่งที่คุ้มค่าน่าแวะ เช่น ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟเคริด Kerid) ซีเครตลากูน (Secret Lagoon) และฟาร์มมะเขือเทศฟริดไฮมาร์ (Fridheimar)
เมื่อเที่ยวจนหมดเวลาแล้ว คุณจะเดินทางกลับสู่เมืองเรคยาวิก และโรงแรมแห่งสุดท้ายของทริปนี้อยู่ในเมืองหลวง
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 11 - เรคยาวิก
วันที่ 11 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
ในวันเกือบสุดท้ายของทริปคุณจะพักผ่อนและเที่ยวอยู่ในเรคยาวิก เมืองหลวงที่พลุกพล่านเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของไอซ์แลนด์ และดึงดูนักท่องเที่ยวได้ทุกประเภท ด้วยสิ่งที่น่าสนใจหลายรูปแบบ ทั้งพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ ผลงานศิลปะ และสถาปัตยกรรม รวมถึงร้านอาหารอร่อยระดับโลก ร้านค้าทันสมัย และพื้นที่ธรรมชาติที่งดงาม แต่ถ้าหากคุณยังติดใจกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ในวันนี้คุณยังสามารถเลือกไปร่วมกับทัวร์สนุกๆ กันได้อีก โดยมีให้เลือกสองแบบ
ตัวเลือกแรกเป็นทัวร์เฮลิคอปเตอร์ชมเมืองหลวงและบริเวณโดยรอบ ที่ออกเดินทางจากสนามบินในประเทศ ซึ่งเหมาะกับเป็นกิจกรรมปิดท้ายทริปที่จะสร้างความประทับให้กับคุณไปอีกนาน ส่วนตัวเลือกที่สองคือการลงไปเที่ยวโถงแมกม่า ซึ่งเป็นการผจญภัยสุดเอ็กซคลูซีฟที่มีเฉพาะในประเทศไอซ์แลนด์เท่านั้น ทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Thrihnukagigur) เป็นภูเขาไฟที่สงบมานานหลายร้อยปีแล้ว แต่โถงแมกม่าซึ่งเคยเป็นช่องทางไหลของแมกม่าของภูเขาไฟลูกนี้ไม่ได้ยุบตัวและสลายไปเหมือนกับภูเขาไฟลูกอื่นๆ ที่สงบไปแล้ว และยังอยู่ในสภาพดีด้วย ลิฟต์แบบที่ใช้กันในเหมืองจะพาคุณลงไปยังพื้นที่ว่างกว้างใหญ่และสวยงามที่ด้านล่าง เพื่อให้คุณเดินชมรอบบริเวณและตื่นตาตื่นใจไปกับสีสันและรูปทรงที่สวยงาม
วันนี้คุณยังมีรถเช่าอยู่ ถ้าหากคุณยังอยากออกเดินทางท่องเที่ยวอีกก็สามารถทำได้ โดยคุณอาจจะไปดูสถานที่ท่องเที่ยวในทางใต้และทางตะวันตกเพิ่มเติม คาบสมุทรเรคยาเนส หุบเขาพลังงานใต้พิภพที่เรคยาดาลุร์ (Reykjadalur) และภูเขายอดราบเอสยาน (Esjan) นั้นอยู่ห่างจากเรคยาวิกไม่มาก
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เวลาในวันนี้แบบไหนก็คุ้มค่าทั้งนั้นสำหรับค่ำคืนสุดท้ายในไอซ์แลนด์
ประสบการณ์
ที่พัก
วันที่ 12 - เรคยาวิก
วันที่ 12 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - Departure Day
- More
- เคลฟาร์วาทน์
- ครีซูวิก
- กุนนูฮแวร์
- More
น่าเสียดายเหลือเกิน วันที่สิบสองนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์แล้ว คุณจะต้องนำรถเช่าไปส่งคืนที่สนามบินสองถึงสามชั่วโมงล่วงหน้าก่อนถึงเวลาขึ้นเครื่อง หากเที่ยวบินของคุณออกเดินทางสายหน่อยคุณยังอาจจะมีเวลาเที่ยวแถวในเมืองได้อีก เช่น ผู้ที่ยังไม่ได้ไปบลูลากูนในวันแรกสามารถไปแช่น้ำผ่อนคลายในวันนี้แทนได้หลังจากที่เมื่อยล้ากับการเดินทางมานานหลายวัน ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพและกลับมาเที่ยวไอซ์แลนด์กันอีกเร็วๆ นี้
ประสบการณ์
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้สามารถเริ่มต้นออกเดินทางได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิก หรือสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนท้องถนนอย่างน้อยหนึ่งปี ทั้งนี้แผนการท่องเที่ยวที่จัดไว้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย โปรดทราบว่าสำหรับกิจกรรมบางอย่างที่คุณเลือก คุณอาจจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ หรือคุณอาจจะต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนการเดินทางของคุณ และคุณอาจจะต้องแสดงเอกสารรับรองทางการแพทย์ในการดำน้ำตื้น และถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้น โปรดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมมาด้วย
รีวิวที่รับรองแล้ว
แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด