ทัวร์ขับรถเที่ยวเองแบบพิเศษ 12 วัน ถนนวงแหวนไอซ์แลนด์และอุทยานแห่งชาติ
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
เริ่มต้นทัวร์ 12 วันในประเทศไอซ์แลนด์ ชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั้งหมด และร่วมสำรวจความลับ สมบัติที่ไม่มีวันหมดอายุในทัวร์ขับรถท่องเที่ยวเองครั้งหนึ่งในชีวิต คุณจะได้ชมวงกลมทองคำที่มีชื่อเสียง ทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ที่น่าตื่นตา อุทยานแห่งชาติของประเทศไอซ์แลนด์ทั้ง 3 แห่ง ฟยอร์ดทางตะวันออก (Eastfjords) ไอซ์แลนด์ตะวันตก และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย.
ความงดงามของทัวร์ขับรถเที่ยวเองนี้คือคุณจะได้นั่งอยู่หลังพวงมาลัยโดยที่ไม่มีไกด์นำเที่ยว ไม่มีการกำหนดจุดนัดพบ หรือกลุ่มอื่นๆให้คุณต้องกังวล คุณจะได้เดินทางไปที่ไหนก็ได้ที่คุณต้องการ ตัดสินว่าคุณจะมาถึงหรืออกเดินทางเมื่อไหร่ ที่พักทั้งหมดของคุณจะถูกจองไว้ให้เรียบร้อยเพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณอย่างเต็มที่ คุณจะได้มีห้องน้ำส่วนตัวพร้อมทั้งรวมอาหารเช้าไว้แล้ว.
คนส่วนใหญ่มาเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์เพื่อต้องการที่จะได้รับประสบการณ์ของธรรมชาติที่ดีที่สุด และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงได้รับตารางการเดินทางที่คุณกำหนดเอง กำหนดชื่อสถานที่ที่คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้จัก คุณจะได้มีโอกาสในการดื่มด่ำในพื้นที่ที่ไม่มีใครเคยเข้าไปสัมผัส คุณจะได้รับแผนการเดินทางจากคำแนะนำของคนในท้องถิ่นผู้เชี่ยวชาญหลังจากที่คุณได้ทำการจองเรียบร้อยแล้ว.
เพื่อเพิ่มการผจญภัยที่แสนวิเศษให้กับการเดินทางของคุณ คุณสามารถเลือกที่จะจองกิจกรรมเพิ่มเติมในทัวร์ครั้งนี้ในราคาพิเศษ กิจกรรมเหล่านี้รวมไปถึงการดำน้ำตื้นในช่องแคบซิลฟรา (Silfra), ล่องเรือในธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน, ปีนหรือขับรถเลื่อนหิมะข้ามธารน้ำแข็ง, ชมถ้ำ, ชมวาฬและการขี่ม้า คุณยังสามารถเดินเข้าไปด้านในของธารน้ำแข็งหรือดิ่งลงไปในโถงแมกมาในภูเขาไฟที่หลับไหลแล้ว.
ผจญภัยไปในวันหยุดที่คุณใฝ่ฝัน เพลิดเพลินกับความงดงามของช่วงฤดูร้อนและได้ทำสิ่งที่คุณรัก รวมถึงการสำรวจทุกๆภาคของประเทศไอซ์แลนด์ในทัวร์ที่สมบูรณ์แบบนี้ ตรวจสอบการจองได้โดยการเลือกวันเดินทางของคุณ.
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - เดินทางมาถึงประเทศไอซ์แลนด์และสำรวจเมืองเรคยาวิก
ยินดีต้อนรับคุณสู่ประเทศไอซ์แลนด์ รถของคุณจะรอคุณอยู่แล้วที่สนามบิน และพร้อมที่จะออกเดินทาง หากเที่ยวบินของคุณเดินทางมาถึงแต่เช้า คุณอาจจะมีเวลาในการขับรถเที่ยวรอบๆคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) ที่เต็มไปด้วยสภาพภูมิประเทศที่น่ามหัศจรรย์และเที่ยวชมสปาพลังงานใต้พิภพบลูลากูน (Blue Lagoon).
ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง. คุณจะได้เข้าพักในที่พักของคุณ หลังจากนั้นคุณสามารถเดินสำรวจตัวเมือง เที่ยวชมร้านขายเสื้อผ้า, แกลลอรี่, พิพิธภัณฑ์, ร้านอาหารและบาร์ รวมถึงการเที่ยวชมสถาปัตยกรรม เช่น โถงคอนเสิร์ตฮาร์ปา (Harpa) และใช้ช่วงเวลาค่ำคืนนี้ในตัวเมืองเรคยาวิก.

วัน 2 - สถานที่ท่องเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำ
วันที่สองนี้คุณจะได้เดินทางไปชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ในเส้นทางวงกลมทองคำ จุดแวะแรกก็คือ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir). สถานที่ที่น่าตื่นตาแห่งนี้อยู่ในหุบเขาที่ยกตัวขึ้นระหว่างสองแผ่นเปลือกโลก ที่คุณสามารถเดินระหว่างยุโรปและอเมริกาเหนือที่นี่ พื้นที่นี้ยังได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกโลก เนื่องจากประวัติศาสตร์ของที่นี่ในปี 930 สิ่งที่ผู้ตั้งถิ่นฐานกลุ่มแรกได้ค้นพบกลายเป็นรัฐสภาที่ได้ดำเนินการมายาวนานที่สุดในโลก คุณอาจจะเลือกทัวร์ดำน้ำตื้นที่นี่ ภายใต้น้ำใสราวกับคริสตัลในช่องแคบซิลฟรา.
จุดแวะถัดไป ได้แก่ ทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ ไกเซอร์ที่มีชื่อเสียงอาจจะไม่เกิดการปะทุมากนัก แต่ท่ามกลางสระน้ำพุร้อนและช่องทางออก คุณจะได้เจอกับการปะทุของสโทรคูร์ (Strokkur) ที่สูงถึง 20 ถึง 40 เมตร ( 66 ถึง 131 ฟุต) ทุกๆไม่กี่นาที. และไม่กี่กิโลเมตรห่างออกไปก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และจะเป็นจุดและสุดท้ายบนเส้นทางวงกลมทองคำนั่นคือ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ขนาดใหญ่ เส้นทางจะนำคุณไปยังริมน้ำที่คุณจะสามารถสัมผัสกับพลังงานที่ยิ่งใหญ่ของน้ำตก จากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ คุณสามารถเลือกที่จะเพิ่มความตื่นเต้นด้วยการเดินทางขับรถเลื่อนหิมะบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ในวันนี้คุณยังสามารถจองทัวร์ขี่ม้าสองชั่วโมงได้ด้วย.
ตรงต่อไปทางใต้เมื่อคุณพร้อม ที่พักของคุณในคืนนี้จะอยู่ในบริเวณเซลฟอสส์ (Selfoss).

วัน 3 - น้ำตกชายฝั่งทางใต้และทรายดำ
วันที่สามเริ่มต้นด้วยการขับรถไปบนถนนวงแหวน ขณะที่คุณเดินทางไปชายฝั่งทางใต้ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของวันนี้ คือ น้ำตกที่งดงามสองแห่ง ได้แก่ น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) คุณสามารถเดินไปรอบๆน้ำตกแห่งแรกและปีนขึ้นไปด้านบนเพื่อที่จะได้ชมวิวจากยอดของน้ำตกแห่งที่สอง. สถานที่ถัดไปตามเส้นทางนี้ คือ ธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) ที่นี่คุณสามารถหยุดเพื่อที่จะได้หลงไหลกับการปีนธารน้ำแข็งหรือตื่นเต้นกับทัวร์ขับรถเลื่อนหิมะ ไม่ว่ากิจกรรมใดที่คุณเลือก คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน คุณสามารถเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านวิก (Vík) สำหรับตัวเลือกทัวร์ชมถ้ำน้ำแข็งบนธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) หากเดินไปตามชายฝั่งใกล้หมู่บ้านวิก ที่จะนำคุณไปหยุดและชื่นชมยังชายหาดภูเขาไฟสีดำที่ชื่อว่าเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) อย่าลืมที่จะต้องระมัดระวังด้วยเพราะคลื่นที่นี่ไม่อาจคาดเดาและเป็นอันตราย จากตรงชายฝั่ง คุณสามารถมองเห็นแหลมที่น่าทึ่งที่ชื่อว่า ดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) และการก่อตัวของหินเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar). ในช่วงพีคของช่วงฤดูร้อน อย่าลืมที่จะรอเฝ้าดูนกพัฟฟินและนกทะเลอื่นๆที่ทำรังอยู่ในบริเวณนี้.ใช้เวลาในช่วงค่ำคืนนี้ในตัวเมืองวิก (Vík) หรือบริเวณสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell)

วัน 4 - สวนสกัฟตาเฟลล์ - โจกุลซาลอนและไดมอนด์บีช
ใช้เวลาในวันนี้เพื่อชื่นชมสถานที่จำนวนมากและกิจกรรมตัวเลือกที่มีอยู่ในพื้นที่สกัฟตาเฟลล์ที่สวยงามในบริเวณอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ที่เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์.
หากคุณชื่นชอบการปีน คุณจะได้พบกับเส้นทางเดินป่าจำนวนมากที่นี่ การเดินป่าที่มีความหลากหลายระดับขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการเคลื่อนไหว รวมถึงเส้นทางที่นำไปสู่น้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่งดงาม คุณสามารถเลือกที่จะไปปีนธารน้ำแข็งพร้อมไกด์ในสกัฟตาเฟลล์โจกุล (Skaftafellsjokull) หากคุณต้องการ.
ทันทีหลังจากอุทยานแห่งชาติ คุณจะเดินทางไปถึงสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์และโอกาสที่จะได้ถ่ายภาพธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนให้ได้มากที่สุด ที่นี่คุณจะได้ชมก้อนน้ำแข็งที่แตกออกมาจากธารน้ำแข็งและล่องลอยออกไปยังมหาสมุทร ความสวยงามของสิ่งเหล่านี้ช่างน่าหลงใหล คุณสามารถเลือกทัวร์ล่องเรือในทะเลสาบเพื่อที่จะได้ชมอย่างใกล้ๆ ทั้งเรือยางหรือเรือครึ่งบกครึ่งน้ำ และอย่าลืมไปชมไดมอด์บีชต่อจากนั้นด้วย ที่นี่เป็นจุดที่ก้อนน้ำแข็งถูกซัดขึ้นไปอยู่บนชายหาด และใช้เวลาในช่วงกลางคืนในเฮิฟน์ (Höfn).

วัน 5 - ฟยอร์ดทางตะวันออกของประเทศไอซ์แลนด์ - เอกิลสตาดีร์
ใช้เวลาในวันที่ 5 ของคุณในการเดินทางซิกแซกในตามฟยอร์ดทางตะวันออก เดินทางผ่านหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบและบริเวณพื้นที่ชายฝั่ง ฟยอร์ดทางตะวันออกมีความงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ อย่าลืมที่จะเฝ้ามองดูนกพัฟฟิน แมวน้ำและเรนเดียร์ระหว่างขับรถด้วย.
ตามตำนานของสัตว์ประหลาดล็อกเนสส์ (Loch Ness) กำลังซุ่มอยู่ในน่านน้ำสีขาวขุ่นของทะเลสาบโลกูรินน์ (Lögurinn) สัตว์ประหลาดตัวนี้ได้รับการอธิบายลักษณะในปี 1345 และได้เข้าไปอยู่ในตำนวนท้องถิ่น อย่าลืมเฝ้ามองออกไปหากคุณหยุดพักที่นี่ คุณอาจต้องการที่จะไปชมป่าที่ใหญ่ที่สุดที่ชื่อว่า ฮาลอร์มสตาร์ดาสโกกูร์ (Hallormsstaðaskógur) เพื่อที่จะได้เดินป่าและส่องนก. ใช้เวลาในคืนนี้ในบริเวณเอกิลสตาดีร์.

วัน 6 - ทะเลสาบมิวาท์น - ภูเขาไฟ, ปล่องภูเขาไฟ & ความลึกลับอื่นๆ
วันที่หกคุณจะเดินทางต่อไปทางเหนือไปยังทะเลสาบมิวาท์น (Mývatn) พื้นที่ที่รู้กันว่าเป็นบริเวณพลังงานใต้พิภพและบริเวณน้ำพุร้อนยอดฮิต ได้แก่ น้ำพุร้อนเนามาส์การ์ด (Námaskarð) อย่าลืมที่จะต้องไปเที่ยวชมดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) ป้อมปราการแห่งความมืด (the Dark Fortress) ที่นี่ได้ถูกตั้งชื่อแบบนี้เนื่องจากการก่อตัวที่น่าทึ่งของลาวา คุณจะได้เพลิดเพลินกับภูเขาไฟคาฟราที่มีปล่องภูเขาไฟที่ชื่อว่า วิติ (Víti) มีปล่องภูเขาไปอีกแห่งในประเทศไอซ์แลนด์ที่มีชื่อเดียวกันนี้ ฉะนั้นต้องให้แน่ใจว่าคุณจะไม่สับสนกับทั้งสองที่นี้.
น้ำพุร้อนถ้ำลาวาที่ชื่อว่า เกรียวตาเกาจ์ (Grjótagjá) ที่คุ้มค่ามากที่ได้ไปชม และคุณสามารถชิมรสชาติของน้ำที่นี่ได้ อุณหภูมิที่สูงที่สุดที่เคยวัดในปี 1984 ที่มีความร้อนถึง 50 องศาเซลเซียส (122 องศาฟาเรนไฮต์) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอุณหภูมิของที่นี่ก็ลดลงเรื่อยๆแต่ก็ยังมีความอุ่นอย่างน่าประหลาดใจ หากคุณมีความคิดที่จะแช่น้ำร้อน คุณอาจจะตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ไปยังอ่างน้ำร้อนตามธรรมชาติมิวาท์น ที่มีอุณหภูมิที่สามารถทนได้และน้ำกลับก็เต็มไปด้วยซิลิกาด้วย. คุณจะได้พักค้างคืนในพื้นที่นี้.

วัน 7 - อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล & น้ำตกเดตติฟอสส์
ใช้เวลาในวันที่ 7 นี้สำรวจบริเวณทะเลสาบมิวาท์นเพิ่มมากขึ้นอีกนิด รวมทั้งบริเวณรอบๆที่มีความพิเศษ คุณจะขับรถผ่านโจกุลส์เอาร์กยูฟูร์ (Jökulsárgljúfur) ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติโจกุลซาลอน และเที่ยวชมยังน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) น้ำตกที่มีพลังงานมากที่สุดในยุโรป และเป็นบริเวณที่เราขอแนะนำ.
ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างคือการเข้าร่วมกับทัวร์ชมวาฬในบริเวณที่ใกล้กับหมู่บ้านฮูสาวิค (Húsavík) ที่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการชมวาฬของยุโรป ในทัวร์นี้สามารถเดินทางโดยเรือเร็ว (RIB) เพื่อที่คุณจะได้เข้าใกล้กับนกพัฟฟิน หรือไม่คุณสามารถเลือกที่จะสนุกสนานกับวันนี้ในเอยาฟยอร์ดู (Eyjafjörður) สำรวจหุบเขาที่งดงามและปีนขึ้นไปยังยอดซูลูร์ (Súlur) เพื่อชมวิวที่น่าทึ่ง ใช้เวลาคืนนี้อีกคืนในเมืองหลวงของทางเหนือ เมืองอาคุเรย์รี่.

วัน 8 - คาบสมุทรโทรล
เดินทางต่อตรงไปยังสกาการ์ฟยอร์ดูร์ (Skagafjörður) หุบเขาที่มีชื่อเสียงในเรื่องของจำนวนของม้าและนักขี่ที่มีความสามารถ และหากคุณพลาดการชมวาฬเมื่อวานนี้ คุณสามารถเลือกที่จะอยู่ที่นี่นานขึ้นอีกหน่อยและออกไปชมวาฬจากเมืองอาคูเรย์ริแทน คุณจะได้เดินทางผ่านความงดงามของบริเวณภูเขาของโทรลลาสกากิ (Tröllaskagi) หรือคาบสมุทรโทรล (Troll), หมู่บ้านชาวประมงเฮอริ่งที่เก่าแก่ที่ชื่อว่าสิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjörður) และโฮฟซอส (Hofsós) ที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่งดงามจากสระน้ำของเมือง และที่ใกล้ๆคุณจะสามารถมองหาสิ่งที่คุณสนใจ คนในท้องถิ่น งานฝีมือของชาวไอซ์แลนด์ ได้ในแกลลอรี่อัลบีดูลิสต์ (Alþýðulist) หรือ รูนาลิสต์ (Rúnalist) และใช้เวลาในคืนนี้ในบริเวณเซยดาร์โครคูร์ (Sauðárkrókur)

วัน 9 - ภูเขาเคิร์คจูแฟส - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
ในวันที่ 9 ของคุณจะมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่มีเสน่ห์ที่ชื่อว่าสติกกิโฮลมูร์ (Stykkishólmur) บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) ระหว่างทางคุณอาจจะต้องการที่จะเดินอ้อมสักเล็กน้อยและตรงไปยังชั้นหินทะเลฮวิทเซอกูร์ (Hvítserkur) ใกล้กับเมืองเบลินดูโอส (Blönduós).
ภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ที่มีความโดดเด่นตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) และที่นี่ยังเหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่น่าประทับใจที่คุณไม่ควรพลาด ที่นี่ยังตั้งอยู่ข้างๆทะเลสาบและน้ำตกที่งดงาม และทั้ง 3 สถานที่นี้ได้เป็นเหมือนภาพเหมือนของประเทศไอซ์แลนด์ที่ไม่มีใครจะสวยงามไปกว่าได้. คุณจะได้ใช้เวลาในคืนนี้ในบริเวณสไนล์แฟลซเนส.

วัน 10 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสแบบลึกซึ้ง
คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสมีสถานที่ที่สวยงามและกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมายให้ค้นหา.
กรวยภูเขาไปสลับชั้นสไนล์เฟลส์โจกุลในอุทยานแห่งชาติสไนล์เฟลส์โจกุล ตั้งอยู่บนยอดของคาบสมุทร รอบๆบริเวณนี้คุณสามารถไปเที่ยวชมยังชายฝั่งงดงามที่ยืดยาวไปไกล เช่น อ่าวดริทวีค (Dritvík) และชายหาดดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur).
คุณสามารถใช้เวลาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ที่ชื่อว่า อาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi), เฮลล์นาร์ (Hellnar) และปูดิร์ (Búðir) รวมถึงเส้นทางปีนเขาที่ไปตามแนวหน้าผา หรือคุณอาจจะสนใจที่จะไปชมเส้นทางลาวาที่เก่าแก่ที่มีอายุถึง 800 ปีที่ชื่อว่า วาท์ทเฮลลิร์ (Vatnshellir) เพื่อเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งสำหรับวันนี้.
ใช้เวลาอีกคืนหนึ่งในสไนล์แฟลซเนส. หากคุณอยู่ที่นี่ในฤดูร้อนคุณสามารถเลือกทัวร์ชมธารน้ำแข็งสไนล์แฟลส์โจกุลล์ (Snæfellsjökull). ในกิจกรรมที่เพิ่มเข้ามานี้คุณจะขึ้นรถที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อจัดการกับภูมิทัศน์น้ำแข็งที่ขรุขระของไอซ์แลนด์. จากเมืองกรุนตาฟยอดุร์ (Grundarfjörðurฉ คุณจะเดินทางไปยังเชิงน้ำแข็งสไนล์แฟลส์โจกุลล์ จากนั้นเดินทางต่อไปยังจุดสูงสุดด้วยโนว์แคท (Snowcat). คุณจะได้ยืนอยู่บนยอดธารน้ำแข็งที่ปกคลุมภูเขาไฟที่ไม่เป็นสองรองใคร นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตที่จะมอบความทรงจำและรูปถ่ายที่ยอดเยี่ยมให้กับคุณ ใช้เวลาอีกหนึ่งคืนในสไนล์แฟลส์เนสส์ (Snæfellsnes).

วัน 11 - ประวัติศาสตร์และม่านน้ำตกเฮินฟอซซาร์
ในวันที่ 11 นี้ จะเป็นการสำรวจประเทศไอซ์แลนด์ตะวันตกพร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายของที่นี่ รวมถึงศูนย์การตั้งถิ่นฐานของประเทศไอซ์แลนด์ในบอร์กาเนส (Borgarnes) ซึ่งได้สำรวจประวัติศาสตร์ของการเริ่มต้นของชาติและเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) ก็เป็นน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป และต้องไม่ลืมที่จะไปต่อยังน้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss).
ผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์อาจเพลิดเพลินไปกับการเยี่ยมชมสนอร์ราสโตฟา (Snorrastofa)
สถาบันวิจัยยุคกลางในเรค์คอร์ค (Reykholt) ที่เป็นสถานที่ที่ผู้ตั้งถิ่นฐานสมัยแรกที่ชื่อว่า สนอร์รี่ สตูร์ลูสัน (Snorri Sturluson) ได้เขียนตำนานเกี่ยวกับเฮมสกริงลา (Heimskringla) ในทศวรรษที่ 13 และเขาได้เป็นผู้เขียนพระคัมภีร์ของตำนานนอร์สโบราณที่ชื่อว่า เอ็ดดา (Edda) ด้วย.
ในวันนี้ คุณจะได้เที่ยวชมถ้ำที่แตกต่างกันสองแบบ คุณสามารถไปตามเส้นทางดั้งเดิมกว่า และเลือกที่จะสำรวจเส้นทางลาวาวิดเกลมิร์ หรืออีกที่หนึ่งคุณสามารถท่องเที่ยวยังลางโจกุล (Langjökull) และทำการสำรวจธารน้ำแข็งจากด้านใน ลงไปในช่องทางที่มนุษย์สร้างขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ.
ตัวเลือกที่สามของวันนี้จะเป็นการลงไปทัวร์ภูเขาไฟ ในการเดินทางนี้ คุณจะได้ดำดิ่งลงไปในห้องแมกมาที่งดงามภายในภูเขาไปที่หลับไหลแล้ว ระหว่างเส้นทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิกคุณสามารถเลือกที่จะเดินทางกลับในเส้นทางที่งดงามในควาลฟยอร์ดูร์ (Hvalfjörður) ฟยอร์ดแทน การใช้เส้นทางอุโมงค์ผ่านทาง ตรงด้านล่างของฟอร์ด คุณสามารถใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการยืดเส้นยืดสายด้วยการปีนน้ำตกที่สูงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่าน้ำตกกลีมูร์ (Glymur) และใช้เวลาในคืนนี้ในเมืองหลวง.

วัน 12 - เดินทางกลับและอำลาประเทศไอซ์แลนด์
สามารถคืนรถของคุณได้ที่สนามบินเคฟราวิกในเวลาที่คุณได้จองเที่ยวบินกลับไว้ สำหรับคนที่มีเที่ยวบินช่วงเย็นและอยากที่จะไปชมบลูลากูน คุณจะได้ท่องเที่ยวทุกสถานที่ก่อนออกเดินทางไปสนามบิน. นี่คือสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนขณะที่คุณอาบน้ำในน้ำอุ่นและน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยเมื่อคุณมองย้อนกลับไปในการผจญภัยที่เหลือเชื่อที่คุณเพิ่งมีในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง หากเที่ยวบินของคุณออกช่องเย็นมีหลายสิ่งให้ทำในเรคยาวิก หากคุณมีเที่ยวบินช่วงเช้สกลับบ้านเราหวังว่าคุณจะเดินทางอย่างสะดวกสบาย
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้สามารถเริ่มต้นออกเดินทางได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิก หรือสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนท้องถนนอย่างน้อยหนึ่งปี ทั้งนี้แผนการท่องเที่ยวที่จัดไว้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย และถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้น โปรดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมมาด้วย
ที่พัก
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล
สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม
ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า
รถ
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)
ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป