ทัวร์ชายฝั่งตะวันตกและคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส 2 วัน พร้อมถ้ำลาวาและทัวร์ชมแสงเหนือ

สิ่งที่คุณเห็นค่อยๆ โผล่อยู่ตรงหน้าคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสนั่นคือธารน้ำแข็งสไนล์แฟลซโจกุล (Snæfellsjökull) ซึ่งมีบทบาทสำคัญอยู่ในนิยายคลาสสิกของจูลส์ เวิร์น (Jules Verne) เรื่องการเดินทางสู่ใจกลางโลก (Journey to the Centre of the Earth) โดยในเรื่องนั้นบอกว่าธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็นประตูที่เปิดออกสู่การเดินทางใต้พิภพอันยิ่งใหญ่

หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารเช้ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณจะออกเดินทางท่องเที่ยวต่อและจะได้มีโอกาสผจญภัยใต้พิภพด้วยตนเองด้วย

เมื่อคุณเดินทางไปถึงที่คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส คุณจะได้เจอกับหน้าผาแกรูแบร์ (Gerðuberg) ซึ่งเป็นกำแพงเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยม ต่อจากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปที่หาดอิทรี-ทุงกา (Ytri-Tunga) โดยหาดนี้จะแตกต่างกับหาดอื่นๆ ตรงที่ทรายที่นี่เป็นสีทองไม่ใช่สีดำ และหาดแห่งนี้ยังเป็นจุดชมแมวน้ำที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ด้วย

จุดหมายปลายทางแรกของวันนี้คือหมู่บ้านอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) บริเวณท่าเรือของหมู่บ้านนี้ล้อมรอบด้วยหุบเขาหินบะซอลต์และถ้ำ และถ้าคุณเดินไปตามเส้นทางเรียบชายฝั่งคุณจะมองเห็นมหาสมุทรแอตแลนติกกระเพื่อมไปมาอยู่ตรงหน้าผาและซัดสาดกระทบเข้ากับหินทะลุแกทเคล็ตตูร์ (Gatklettur)

จากนั้นคุณจะได้ไปที่หาดกรวดดำดยูปาลอนส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) และถ้าจะเดินไปที่มหาสมุทร คุณจะต้องเดินไปตามทางที่มีลักษณะเหมือนเขาวงกตซึ่งเต็มไปด้วยเสาลาวาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยมีความสวยงามแปลกตาราวกับกับหลุดมาจากฉากในนิยายแฟนตาซีอย่างไรอย่างนั้น เมื่อคุณเดินทางไปถึงที่หาดคุณจะได้เดินเล่นบนชายฝั่งที่เต็มไปด้วยกรวด ไม่แน่ว่าคุณอาจไปเจอกับเศษซากของสิ่งของที่ถูกโยนทิ้งลงมาจากเรืออวนเมื่อ 50 ปีก่อนและถูกน้ำพัดมาเกยตื้นที่นี่เข้าก็ได้

จากนั้นก็จะเป็นเวลาที่คุณจะได้ตามรอยศาสตราจารย์ออตโต ลีเดนบร็อก (Otto Lidenbrock) และหลานชายของเขา (ทั้งสองเป็นตัวละครในนิยายของเวิร์น) เข้าไปผจญภัยในอุโมงค์ภูเขาไฟเพื่อตามหาแกนโลก และแม้ว่าคุณจะไปไม่ถึงแกนโลกแต่คุณก็จะได้เข้าไปยังถ้ำลาวาวาทน์เฮลลิร์ (Vatnshellir) และเดินตามเส้นทางที่เมื่อ 8,000 ปีก่อนเคยมีลาวาไหลผ่าน

เมื่อกลับขึ้นมาบนพื้นโลกคุณจะออกเดินทางสำรวจสไนล์แฟลซเนสต่อไป และเดินทางมุ่งหน้าไปยังทางฝั่งเหนือของคาบสมุทร ซึ่งคุณจะได้พบกับภูเขาคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell) คนที่เป็นแฟนซีรีส์เกมออฟโธรนส์อาจจะคุ้นตากับภูเขาที่มีรูปทรงเหมือนหัวหอกลูกนี้อยู่บ้าง เพราะมันเป็นแบ็คกราวด์อยู่ในฉากตอนที่เด็กแห่งพงไพรได้สร้างเหมันตภูติ (While Walker) ตัวแรกขึ้นมา

ในระหว่างทางขากลับเข้าเรคยาวิก รถจะแล่นผ่านเฮินฟยอร์ดูร์ (Hraunsfjörður) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่สวยงามแวดล้อมไปด้วยภูเขาที่มีหิมะปกคลุม และมีทุ่งลาวาสีดำแห่งแบร์แซร์คจาเฮิน (Berserkjahraun) ตัดกับฟยอร์ด และคุณน่าจะได้ฟังเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้างถนนสายนี้จากไกด์ของคุณด้วย

เมื่อรถแล่นไปตามท้องทุ่งบนชายฝั่งทางตะวันตก คุณต้องไม่ลืมแหงนหน้ามองดูท้องฟ้าบ่อยๆ เผื่อว่าจะได้เจอกับแสงเหนือสีเขียว สีชมพู และสีขาวที่ตามหา และเมื่อคุณเดินทางไปถึงที่พักในเรคยาวิกในช่วงเย็นก็ถือเป็นอันจบทริปอันสวยงามทริปนี้