ทัวร์ลดราคา แพ็คเกจ 2 in 1 | ถ้ำน้ำแข็ง ชายฝั่งทางใต้ และสไนล์แฟลซเนส
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
เดินทางไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความแตกต่างหลากหลายรูปแบบกับทัวร์คอมโบ ที่รวมเอาแพ็คเกจท่องเที่ยวชายฝั่งทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์และแพ็คเกจคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) ไว้ด้วยกัน คุ้มสุดๆ ทั้งได้ชมน้ำตกชื่อดัง เข้าถ้ำน้ำแข็ง ผจญภัยในอุโมงค์ลาวา และออกล่าแสงเหนือ
ทริปแอดเวนเจอร์ 4 วันนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวไอซ์แลนด์แบบคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุดในระยะเวลาสั้นๆ
ในสองวันแรกของทริป คุณจะได้สำรวจชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ และจะได้ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศหลายแห่ง ได้แก่ ถ้ำน้ำแข็ง ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) หาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีทรายสีดำขลับ น้ำตกอันยิ่งใหญ่ตระการตาอีกหลายแห่ง และอุทยานแห่งชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell National Park)
ส่วนครึ่งหลังของทริป คุณจะไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ รวมถึงคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสที่มีความสวยงามแปลกตาและเป็นสถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็น “มินิไอซ์แลนด์” เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายรูปแบบ และไม่ใช่แค่มีความหลากหลายทางธรณีวิทยาอย่างเดียวเท่านั้น แต่คาบสมุทรแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดแห่งหนึ่งในการดูแสงเหนือออกมาเต้นระบำบนท้องฟ้าที่มืดสนิทของหน้าหนาวด้วย
จองทัวร์แพ็คเกจบันเดิลราคาประหยัดตอนนี้ แล้วไปชื่นชมความงดงามของไอซ์แลนด์ด้วยกัน รีบตรวจสอบจำนวนที่นั่งว่างโดยระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางได้เลย
รวมในแพ็คเกจ
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเดินทางรายวัน
วัน 1 - ชายฝั่งทางใต้และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
รถจะไปรับคุณจากในเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) และพาคุณมุ่งหน้าไปตามชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ระหว่างทางคุณจะได้แวะเที่ยวน้ำตกที่สวยงามหลายแห่งของไอซ์แลนด์
น้ำตกแห่งแรกที่จะไปคือน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่มีความสูงมากกว่า 60 เมตร และสามารถมองเห็นน้ำตกได้จากทุกทิศทุกทาง เพราะคุณสามารถเข้าไปยังถ้ำที่อยู่ด้านหลังม่านน้ำตกได้ด้วย ถัดมาคุณจะไปที่น้ำตกกลูยฟราบูอิ (Gljúfrabúi) ที่งดงามไม่แพ้กันแต่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ตามด้วยน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) หนึ่งในน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งน้ำตกสโกกาฟอสส์นี้ตกจากหน้าผาที่เป็นจุดแบ่งแยกดินแดนไฮแลนด์และโลว์แลนด์ของไอซ์แลนด์
หลังจากเดินทางผ่านผืนทรายสีดำอันเวิ้งว้างที่โซลเฮมาซานดูร์ (Sólheimasandur) คุณก็จะเข้าเขตคาบสมุทรดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) ซึ่งมีหินลาวาทรงโค้งขนาดมหึมายื่นโผล่ออกไปในทะเล จากนั้นจุดหมายปลายทางของคุณคือหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ชายหาดที่ได้ชื่อว่าเป็นหาดที่ไม่ใช่หาดเมืองร้อนที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กระแสน้ำในบริเวณนี้มีความรุนแรงมากและสภาพแวดล้อมก็แข็งแกร่งพอกัน โดยมีทั้งหน้าผาสูงชันและหินภูเขาไฟที่ผ่านการกัดกร่อนจนเรียบมน
หลังจากแวะพักเหนื่อยกันเล็กน้อยที่หมู่บ้านวิก (Vík) คุณจะออกเดินทางกันต่อโดยจะข้ามทะเลทรายสีดำอันกว้างใหญ่ที่สเกรดาร์เอาซานดูร์ (Skeiðarársandur) และผ่านเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) เพื่อไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ในทะเลสาบแห่งนี้มีภูเขาน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนลอยน้ำอยู่ พวกมันจะค่อยๆ เคลื่อนตัวจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปเพื่อเดินทางออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก
คืนนี้คุณจะพักข้างคืนแถวโจกุลซาลอนใกล้กับธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลอันยิ่งใหญ่
วัน 2 - ชายฝั่งทางใต้
วันที่สองนี้คุณต้องสวมแจ็กเก็ตตัวที่อบอุ่นมากที่สุดเพราะวันนี้จะเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณจะได้เข้าไปสำรวจถ้ำน้ำแข็งที่วัทนาโจกุล (Vatnajökull)
คุณจะไปพบกับไกด์พาเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ก่อนออกเดินทางขึ้นรถซุปเปอร์จี๊ปมุ่งหน้าขึ้นไปบนธารน้ำแข็งเพื่อไปยังถ้ำน้ำแข็ง ไกด์ของคุณซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำแข็งจะอยู่กับคุณด้วยตลอดเวลาเพื่อคอยให้ความช่วยเหลือในระหว่างที่คุณเที่ยวถ้ำ
ถ้ำน้ำแข็งเกิดขึ้นจากการที่แม่น้ำที่อยู่ใต้ผืนน้ำแข็งเกิดการละลายในช่วงหน้าร้อนและไหลตัดผ่านผืนน้ำแข็ง ถ้ำเหล่านี้จึงสามารถเข้าชมได้เฉพาะเวลาที่น้ำในแม่น้ำแข็งตัวในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ซึ่งในบริเวณนี้จะมีถ้ำแห่งใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกปีและนักสำรวจภูเขาที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจะเป็นผู้ที่ออกค้นหาถ้ำเหล่านี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
การเข้าไปถ้ำน้ำแข็งคุณจะต้องสวมรองเท้าสำหรับปีนเขาที่มีสภาพดีและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่อบอบอุ่นและมีชุดชั้นนอกที่กันน้ำได้ด้วย เพราะถ้ำน้ำแข็งมีความสวยงามมาก แต่ภายในนั้นก็หนาวเหน็บมากเช่นกัน น้ำแข็งในถ้ำจะมีสีฟ้าสดใสและสีขาวและพวกมันมีลักษณะเรียบมนเพราะเกิดจากการที่น้ำในแม่น้ำละลายและแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง
คุณจะใช้เวลาเที่ยวด้านในถ้ำน้ำแข็งและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสภาพของธารน้ำแข็ง หลังจากสำรวจถ้ำกันเรียบร้อยแล้ว คุณจะมุ่งหน้ากลับไปที่ทะเลสาบโจกุลซาลอน และจะมีเวลาเที่ยวทะเลสาบและบริเวณโดยรอบกันก่อนที่จะกลับเข้าไปในเมือง
คุณจะเดินทางไปถึงเรคยาวิกในตอนค่ำหลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว
หมายเหตุ: แพ็คเกจไม่รวมที่พักสำหรับคืนนี้
วัน 3 - เดินทางไปยังสไนล์แฟลซเนส - บอร์การ์ฟอย์ดูร์ และเรย์คอล์ท
เช้าวันที่สาม รถจะมารับคุณจากในเรคยาวิกและมุ่งหน้าออกเดินทางในครึ่งหลังของทริปนี้ ก่อนที่จะไปถึงคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสคุณจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ฝั่งตะวันตกด้วย
เส้นทางที่ใช้จะพาคุณวิ่งวนรอบภูเขาเอสยัน (Esjan) ที่มียอดราบเรียบและมองเห็นวิวเมืองหลวง โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ฟยอร์ดแห่งควาลฟยอร์ดูร์ (Hvalfjörður) ฟยอร์ดแห่งนี้ได้ชื่อว่ามีทะเลสวยและมีภูเขาสูงและมีน้ำตกเล็กๆ หลายแห่ง
จุดแรกที่จะแวะในวันนี้คือเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunghver) น้ำพุร้อนที่มีน้ำไหลแรงที่สุดในยุโรป และบริเวณรอบน้ำพุร้อนนั้นมีธรรมชาติงดงามมากเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดื่มด่ำกับวิวสวยๆ และผู้ที่ชอบถ่ายภาพ
ถัดมาเป็นหมู่บ้านเรย์คอล์ท (Reykholt) ซึ่งมีความงดงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เพราะเป็นที่อยู่ของสนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) ผู้นำและนักเขียนนิยายซากาชื่อดังแห่งยุคกลาง หากไม่มีผลงานเขียนของสนอร์รีเรื่อง Prose Edda พวกเราก็จะไม่รู้จักประวัติศาสตร์ของยุโรปและระบบความเชื่อของชาวนอร์สโบราณดีเท่านี้
จากเรย์คอล์ทคุณจะมุ่งหน้าสู่น้ำตกอีกสองแห่ง ได้แก่ น้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) น้ำตกเฮินฟอซซาร์เป็นน้ำตกที่สวยสงบมีน้ำไหลเบาๆ ผ่านทุ่งลาวา และเมื่อเดินต่อไปอีกไม่ไกลก็จะถึงน้ำตกบาร์นาฟอสส์ ซึ่งเป็นน้ำตกที่ทรงพลังกว่ามาก โดยน้ำจะไหลลงสู่เหวแคบๆ
หลังจากชื่นชมความงามของสถานที่เหล่านี้เสร็จแล้วคุณจะเดินทางเข้าที่พักซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ และถ้าหากท้องฟ้าคืนนี้ปลอดโปร่งคุณก็อย่าลืมมองหาแสงเหนือด้วย!
วัน 4 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
วันสุดท้ายนี้คุณจะได้ไปสำรวจคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) ดินแดนที่ได้ชื่อว่า “มินิไอซ์แลนด์” เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความหลากหลายทางธรณีวิทยาเสมือนรวมเอาลักษณะเด่นมาจากทั่วประเทศมาไว้บนคาบสมุทร นอกจากนี้ คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสยังมีภูเขาไฟอยู่ใต้ธารน้ำแข็งสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökul) ในเขตอุทยานแห่งชาติชื่อเดียวกันด้วย ซึ่งภายในบริเวณนี้มีสถานที่ที่สวยงามอยู่หลายแห่ง
การเดินทางของคุณในวันนี้เริ่มต้นที่หน้าผาแกร์ดูเบิร์ก (Gerðuberg) ซึ่งเกิดจากเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมเรียงตัวกันอย่างสวยงามราวกับแกะสลักด้วยมือ แต่อันที่จริงแล้วเป็นผลงานที่ธรรมชาติสร้างเมื่อครั้งที่เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ ใกล้ๆ กันเป็นหาดอิทรี ทุงกา (Ytri-Tunga) หาดทรายสีเหลือง ซึ่งพบได้น้อยมากในไอซ์แลนด์และหาดแห่งนี้มีชื่อเสียงขึ้นมาเพราะเป็นจุดที่แมวน้ำชอบมาอาบแดดเล่นกัน
จากนั้นคุณจะไปที่หมู่บ้านชาวประมงอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) และเฮลล์นาร์ (Hellnar) ซึ่งคลื่นพละกำลังมหาศาลจากมหาสมุทรแอตแลนติกได้ส่งผลให้ลาวาที่อยู่บนชายฝั่งมีรูปร่างและลักษณะสวยงามมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะหินโค้งกัทแคลทเทอร์ (Gatklettur)
ต่อจากนั้นคุณจะเดินทางมุ่งหน้าไปที่หาดทรายดำตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) บนหาดแห่งนี้มีหินโบราณอยู่ 4 ก้อน หินพวกนี้ถูกใช้เป็นที่ทดสอบพละกำลังของชาวประมงในหมู่บ้านมาหลายร้อยปีแล้ว และไกด์ของคุณจะทำให้คุณเห็นเองว่าคุณเหมาะกับวิถีชีวิตที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้หรือไม่
ถัดมาคุณจะมุ่งหน้าไปที่วาท์ทเฮลลิร์ (Vatnshellir) ถ้ำลาวาเก่าแก่อายุ 7,000 ปีที่ลึกกว่า 200 เมตร คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าร่วมกับทัวร์เที่ยวถ้ำหรือไม่ ถ้าคุณเข้าไปในถ้ำคุณจะได้เดินลงไปชมลักษณะทางธรณีวิทยาที่ใต้ดินแบบใกล้ชิด และสิ่งที่ทำให้การเที่ยวถ้ำแห่งนี้มีความพิเศษและน่าตื่นเต้นคือสไนเฟลล์โจกุล เป็นฉากที่อยู่ในนิยายของจูลส์ เวิร์น (Jules Verne) เรื่อง 'A Journey to the Centre of the Earth'
จากนั้นคุณจะเดินทางต่อไปยังภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) หนึ่งในสถานที่ธรรมชาติที่คนนิยมไปถ่ายรูปมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ภูเขาลูกนี้มีรูปร่างแปลกประหลาดไม่เหมือนใครและทิวทัศน์โดยรอบก็สวยงามมาก เห็นแล้วคุณจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่จึงเปรียบเหมือนสวรรค์ของนักถ่ายภาพ ซึ่งที่นี่ก็ถูกใช้เป็นฉากในการถ่ายทำเกมออฟโธรนส์ด้วย โดยคุณจะเห็นภูเขาเคิร์คจูแฟสไปปรากฎอยู่ในหลายตอนของซีซั่น 7
จากนั้นคุณจะเดินทางกลับเข้าสู่เรคยาวิก ระหว่างทางจะผ่านฟยอร์ดสวยๆ หลายแห่งและจะเข้าไปถึงตัวเมืองในช่วงค่ำ คุณสามารถใช้เวลาหลังจากนั้นออกท่องราตรีดูชีวิตยามค่ำคืนของเรคยาวิกกันได้ตามใจชอบ
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ในกรณีที่สภาพอากาศเลวร้ายมาก กิจกรรมบางอย่างอาจต้องถูกยกเลิก หากกิจกรรมที่คุณจองไว้ต้องมีอันยกเลิกไป เราจะช่วยจัดการจองกิจกรรมอื่นๆ ที่สามารถทำได้ให้กับคุณ และคุณจะได้รับเงินส่วนต่างคืน (ถ้ามี)
คุณควรทราบด้วยว่าในฤดูหนาวถนนและบาทวิถีที่ไอซ์แลนด์นั้นค่อนข้างลื่น เราแนะนำให้คุณนำรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นหรือพื้นเกาะน้ำแข็งติดมาด้วย หรือไม่อย่างนั้นก็สามารถมาหาซื้อพื้นรองเท้าเกาะน้ำแข็งได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตและสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ
เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางของคุณเองเวลาที่ต้องออกไปค้างคืนข้างนอก คุณควรนำสัมภาระติดตัวมาให้น้อยที่สุด โดยให้นำเฉพาะของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋าถือใบเล็กหรือเป้เพื่อพกติดตัวไปเท่านั้น หากคุณจำเป็นต้องมีกระเป๋าติดตัวไปมากกว่าหนึ่งใบ คุณสามารถแจ้งขอเพิ่มจำนวนกระเป๋าได้โดยเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเล็กน้อย
นอกจากนี้ คุณไม่ควรจองเที่ยวบินเพื่อเดินทางกลับบ้านทันทีหลังจบทริปในวันสุดท้าย เพราะถ้าหากคุณต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายหรือมีการเดินทางที่ล่าช้ากว่ากำหนดโดยไม่คาดคิด สิ่งเหล่านี้จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินของคุณ ทั้งนี้ แพ็คเกจนี้ไม่รวมรถรับ-ส่งไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกและที่พักในคืนสุดท้าย คุณต้องจัดการจองที่พักสำหรับคืนสุดท้ายและรถรับ-ส่งสนามบินสำหรับวันถัดไปด้วยตัวเอง
วิดีโอ
รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว
ทัวร์ที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด