จ่าย 1 ได้ 2 ทัวร์ราคาพิเศษช่วงฤดูหนาว| ท่องเที่ยวเส้นทางวงกลมทองคำ, ถ้ำน้ำแข็งและสไนล์แฟลซเนส
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
เที่ยวชมไฮไลท์จำนวนมากของประเทศไอซ์แลนด์อย่างประหยัดใน 4 วันในทัวร์ลดราคาพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรวมช่วงเวลาของฤดูหนาวไปกับทั้งการชมทัศนียภาพและการผจญภัย พร้อมทั้งส่วนลดค่าทัวร์ ที่คุณไม่ควรพลาดโอกาสนี้.
ทัวร์นี้ประกอบไปด้วยทัวร์ 2 ทัวร์ ที่จะนำคุณไปยังสถานที่ที่มีชื่อเสียงรวมถึงอุทยานแห่งชาติทั้ง 3 แห่งของประเทศไอซ์แลนด์ ในทัวร์ 3 วันในชายฝั่งทางใต้ คุณจะได้สำรวจวงกลมทองคำ ชายฝั่งทางใต้และทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) รวมทั้งคุณจะได้ตื่นเต้นกับการปีนน้ำแข็งและการผจญภัยในถ้ำน้ำแข็ง และในทัวร์วันเดียวในคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsjökul) คุณจะได้ชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตก และเดินทางต่อไปถึงทุ่งลาวามืด และธารน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่.
ระหว่างทัวร์ 3 วันในชายฝั่งทางใต้ คุณจะได้พักในโรงแรมชนบทเป็นเวลา 2 คืนที่ได้รวมไว้ในราคาทัวร์แล้ว ที่จะทำให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางและได้พัก ณ บริเวณสถานที่ท่องเที่ยว คุณจะได้เดินทางโดยรถมินิบัสที่สะดวกสบายในทั้ง 2 ทัวร์ ที่นำโดยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์และเพลิดเพลินที่สุดเท่าที่จะทำได้.
ช่วงฤดูหนาวในประเทศไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สวยที่สุด สถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมากที่คุณจะได้ไปเที่ยวชมจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและส่องประกายด้วยความหนาวเย็น ธารน้ำแข็งจะมีความสดชื่น มีสีฟ้าใสและถ้ำน้ำแข็งจะถูกเปิดให้เข้าชมได้ ถ้ำเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงเดือนที่หนาวที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่แน่นอน ดังนั้นโอกาสที่จะได้สำรวจถ้ำเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่กี่คนที่จะได้ชม.
แน่นอนว่า ฤดูหนาวเป็นฤดูกาลของแสงเหนือ มีเวลาช่วงกลางคืนหลายชั่วโมงในแต่ละวัน และเมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่มีก้อนเมฆปกคลุม คุณจะได้มีโอกาสได้ชมแสงเหนือ โอกาสเหล่านี้จะเกิดได้มากขึ้นเมื่อคุณอยู่ในแถบชนบทที่มีมลภาวะจากแสงสีน้อยกว่า.
ใช้เวลาของคุณให้ได้มากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ตลอดช่วงฤดูหนาว ในแบบประหยัด ตรวจสอบโปรแกรมได้โดยเลือกวันเดินทางของคุณ.
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - เส้นทางวงกลมทองคำ
ในทัวร์แรกของคุณ คุณจะได้ออกเดินทางออกจากเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) แต่เช้า และเริ่มต้นวันของคุณด้วยการเดินทางไปชมทัศนียภาพของจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสามแห่งในเส้นทางวงกลมทองคำ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) ที่เป็นเพียงสถานที่เดียวบนแผ่นดินของประเทศไอซ์แลนด์ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้.
ที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งผู้ตั้งถิ่นฐานยุคแรกก่อตั้งรัฐสภาซึ่งจะคงอยู่ตลอดกว่าพันปีบนแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงหุบเขาระหว่างสองแผ่นเปลือกโลก และไม่มีที่ไหนในโลกที่คุณจะได้เห็นสถานที่แบบนี้ได้อย่างชัดเจนอีกแล้ว เนื่องจากแผ่นเปลือกโลกทั้งสองมีการดึงกันทำให้เกิดรอยแยกหุบเหวในทุ่งลาวา เป็นเหตุผลให้พื้นที่บริเวณนี้ขรุขระและงดงาม.
สถานที่ถัดไปบนเส้นทางวงกลมทองคำคือ ไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ที่ตั้งอยู่บนทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) ด้วยความโดดเด่นที่เคยการปะทุน้ำขึ้นไปที่ความสูง 40 เมตร และมักจะเกิดการปะทุอยู่บ่อยครั้ง แทบจะทุกๆ 5-10 นาที ช่วงที่เกิดการปะทุคุณยังสามารถสำรวจบริเวณรอบๆที่เต็มไปด้วยน้ำพุร้อนและพื้นดินที่เป็นหลุม.
และสุดท้ายในวันนี้คุณจะได้ไปชม "น้ำตกทองคำ" หรือ กุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ที่เปรียบได้กับอัญมณีบนมงกุฏของธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ น้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่และมีพลังงานมหาศาลนี้ได้ไหลลงไปยังหุบเขาด้วยกำลังที่น่าเหลือเชื่อ และมองดูสวยงามมาก.
คุณจะได้ตรงไปยังโรงแรมในชนบทในคืนแรกนี้ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณควอลส์เวิลลูร์ (Hvolsvöllur).

วัน 2 - ชายฝั่งทางใต้และปีนธารน้ำแข็ง
คุณจะได้เริ่มต้นวันที่สองนี้ด้วยการไปเที่ยวชมยังน้ำตกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในประเทศนั่นคือ น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) น้ำตกทั้งสองแห่งมีความสูงมากกว่า 60 เมตรจากหน้าผาที่น่าตื่นตา และสามารถเดินทางเข้าไปชมความงดงามและถ่ายรูปแบบใกล้ๆได้.
จากนั้นคุณจะเดินทางไปถึงยังธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) และติดฆ้อนของคุณให้พร้อม เพราะนี่จะเป็นเวลาที่คุณจะได้ปีนธารน้ำแข็ง หลังจากได้สรุปรายละเอียดในเรื่องของความปลอดภัยและติดตั้งอุปกรณ์นิรภัยให้กับคุณพร้อมแล้ว คุณจะถูกนำขึ้นไปบนธารน้ำแข็งเพื่อที่จะได้ชมทัศนียภาพที่เกินบรรยาย การเดินทางขึ้นไปด้านบนจะทำให้คุณได้มีโอกาสได้เห็นการก่อตัวที่น่าเหลือเชื่อ เช่น สันเขาที่น่าทึ่งและรอยแยกที่ลึก ไกด์จะอธิบายให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับศาสตร์ของธารน้ำแข็ง.
หลังจากการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นนี้ คุณจะได้เดินทางกลับโดยรถมินิบัสและเดินทางไปยังเส้นทางชายฝั่งทางใต้ จุดแวะต่อไปของคุณ ได้แก่ หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความงดงามที่น่าหลงไหล พร้อมทั้งเกลียวคลื่นที่รุนแรงและต่อเนื่อง.
ชายหาดแห่งนี้สภาพทางภูมิศาสตร์ที่งดงาม ส่วนใหญ่จะถูกพูดถึงเกี่ยวกับกองหินเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่ตั้งอยู่ทั่วไปในมหาสมุทร รวมถึงคุณจะยังกองหินขี้เถ้าที่ถูกเรียกว่า ดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) ที่มีขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากหน้าผาสู่ทะเล.
หลังจากนั้นคุณจะได้ไปต่อที่หมู่บ้านวิก (Vík) เพื่อที่จะได้ดื่มเครื่องดื่ม และเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้ายของวันนี้ นั่นคือ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) และไดมอนด์บีช (Diamond Beach).
ทะเลสาบน้ำแข็งแห่งนี้มีความงดงามอย่างเหลือเชื่อ ก้อนน้ำแข็งที่แตกออกจากปลายของธารน้ำแข็งที่อยู่ห่างไกล ล่องลอยอย่างเอื่อยๆไปตามกระแสน้ำ บางก้อนอาจมีขนาดใหญ่เท่าตึกหลายชั้น ก้อนน้ำแข็งเหล่านี้ไหลเรื่อยต่อไปยังมหาสมุทร ขณะที่คุณเดินเลาะไปตามชายฝั่งของทะเลสาบ แน่ใจได้เลยว่าคุณจะต้องเพลิดเพลินกับขนาด สีสัน และความสวยงามของก้อนน้ำแข็งเหล่านี้ หากคุณมีสายตาที่ดีพอ คุณอาจจะได้เห็นเหล่าแมวน้ำที่นี่ด้วย.
ไดมอนด์บีชตั้งอยูใกล้ๆทะเลสาบ ชื่อของชายหาดแห่งนี้ได้มาจากการที่ก้อนน้ำแข็งถูกพัดขึ้นไปบนชายฝั่งที่นี่ และส่องประกายอยู่บนชายหาดสีดำที่มองดูราวกับอัญมณี การได้เห็นชายฝั่งอันกว้างใหญ่นี้และทะเลสาบภายใต้แสงเหนือเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งดังนั้นเมื่อถึงเวลากลางคืนอย่าลืมจับตามองบนท้องฟ้าด้วย.
อย่าลืมว่าโจกุลซาลอนเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล ดังนั้นจนถึงตอนนี้คุณก็ได้ชมอุทยานแห่งชาติถึง 2 ใน 3 อุทยานแห่งชาติของประเทศไอซ์แลนด์แล้ว คุณจะได้ใช้เวลาคืนนี้ในโรงแรมบริเวณโจกุลซาลอน.

วัน 3 - ถ้ำน้ำแข็งและเดินทางกลับเมืองเรคยาวิก
คุณจะได้เริ่มต้นวันที่สามนี้ด้วยความน่าตื่นเต้น ด้วยการเดินทางไปสำรวจถ้ำน้ำแข็ง คุณจะได้นั่งรถไปยังที่ใดก็ตามที่มีถ้ำน้ำแข็งเปิดให้เข้าไปด้านในได้ภายใต้ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป สวมอุปกรณ์เพื่อป้องกันความปลอดภัยของคุณให้พร้อมแล้วตรงเข้าไปด้านในได้เลย.
น้ำแข็งสีฟ้าใสที่ราบเรียบที่ล้อมรอบอยู่รอบตัวของคุณช่างน่าหลงไหล ที่เป็นระดับและบางส่วนจะสามารถเข้าถึงด้านในได้ คุณจะได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการสำรวจ และฟังเกี่ยวกับการก่อตัวของถ้ำน้ำแข็ง พร้อมทั้งถ่ายรูปให้ได้มากที่สุดเท่าที่กล้องของคุณจะทำได้.
ทันทีที่คุณได้สำรวจถ้ำน้ำแข็งแล้ว คุณจะได้กลับมายังรถมินิบัสและเดินทางกลับเมืองเรคยาวิก ตามเส้นทางชายฝั่งทางใต้ที่สวยงาม และคุณจะได้แวะพักดื่มน้ำและสถานที่บางแห่งที่คุณอาจจะยังไม่ได้ไปชมในวันก่อนหน้า ทันทีที่กลับไปถึงเมืองหลวง คุณจะได้เข้าพักยังโรงแรมที่คุณได้เลือกไว้ เราขอแจ้งให้คุณทราบว่าที่พักในคืนนี้จะไม่ได้ถูกรวมไว้ในทัวร์นี้.

วัน 4 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
สำหรับทัวร์ส่วนที่สองของคุณ รถจะไปรับคุณแต่เช้าจากเมืองเรคยาวิก และตรงไปยัง "ประเทศไอซ์แลนด์จำลอง" ที่เรียกว่าคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ที่ได้ถูกตั้งชื่อตามสภาพที่เป็นเนื่องจากพื้นที่แห่งนี้มีขนาดใหญ่และมีลักษณะเหมือนกับพื้นที่ที่สามารถพบเห็นได้รอบๆประเทศไอซ์แลนด์ ที่ถูกรวมมาไว้แล้วในพื้นที่ที่ยาวออกไปถึง 90 กิโลเมตร.
คุณจะได้ไปเที่ยวชมยังหมู่บ้านอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) และเฮลล์นาร์ (Hellnar) เพื่อที่จะชมทิวทัศน์ของชายฝั่ง ที่อยู่ใกล้ๆบริเวณตั้งถิ่นฐานที่มีลมแรงที่ชื่อว่าปูดิร์ (Búðir) บนเส้นทางที่ใช้เดินทางไปยังทุ่งลาวาบูดาเฮิร์น (Búðahraun) ด้านหลังของสถานที่ทั้งสามนี้จะเป็นธารน้ำแข็งและภูเขาไฟสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökull) ขนาดใหญ่ จากที่ได้ถูกกล่าวไว้ในนวนิยายเรื่อง ดิ่งทะลุสะดือโลก (Journey to the Centre of the Earth) ว่าถ้ำแห่งนี้จะนำไปสู่จุดที่ลึกที่สุดของใจกลางโลก สไนล์เฟลส์โจกุลถูกลอมรอบด้วยอุทยานแห่งชาติสไนล์แฟลซเนส ซึ่งเป็นอุทยานแห่งที่สามที่คุณจะได้เที่ยวชม.
และคุณจะยังได้ชมภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ที่นี่เป็นภูเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในประเทศ ชายหาดดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) ก็ได้อยู่ในแผนการท่องเที่ยวของคุณด้วย ที่นี่คุณจะได้ทดสอบความแข็งแกร่งด้วยการเผชิญหน้ากับการยกหินที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อที่จะได้ดูว่าคุณดีพอที่จะเป็นชาวประมงโบราณ สุดท้ายของวันนี้ชั้นหินบะซอลล์โลนตรังการ์ (Lóndrangar) จะทำให้คุณตื่นตาเนื่องจากขนาดของมัน.
ครั้งนึงที่คุณได้เดินทางไปสำรวจคาบสมุทรแห่งนี้ คุณจะได้เดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิก ที่คุณจะได้ใช้เวลาส่วนที่เหลือในการเที่ยวชมรอบๆเมือง คุณอาจจะชื่นชอบที่ไปเยี่ยมชมยังพิพิธภัณฑ์หรือพักผ่อนในสระน้ำพลังงานใต้พิภพ ได้อย่างที่คุณต้องการ.
เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าคุณไม่ควรจะวางแผนที่จะบินกลับในเย็นวันเดียวกับที่คุณเดินทางมาถึงเรคยาวิก เนื่องจากสภาพอากาศอาจไม่เอื้ออำนวยและความล่าช้าอาจจะส่งผลกับการเดินทางของคุณ.
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังนั้นการปรากฏการณ์จึงไม่สามารถการันตีได้ แต่แผนการเที่ยวนี้จัดทำเพื่อให้คุณมีโอกาสเห็นที่สุด หากสภาพอากาศเป็นใจ เราของแจ้งให้คุณทราบว่าจะไม่มีตามล่าแสงเหนืออย่างจริงจังในการเดินทางครั้งนี้แต่ไกด์ของคุณจะแนะนำคุณจากสภาพอากาศอำนวย และจะแนะนำวิธีที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือ.
ขอเรียนให้ทราบว่าแผนการเดินทางของคุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้เพื่อให้เข้ากับวันเวลาในการมาถึงของคุณ.
การยกเลิกกิจกรรมอาจจะเกิดขึ้นได้หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ, หากเหตุการนั้นเกิดขึ้นเราจะทำการจัดการแผนให้กับคุณ หรือ จองกิจกรรมอื่นที่มี และราคาที่ต่างจะทำการคืนให้กับคุณ.
ขอเรียนให้ทราบว่าถนนบนประเทศไอซ์แลนด์สามารถลื่นได้ง่ายมากในช่วงฤดูหนาว. เราขอแนะนำให้คุณใช้รองเท้าที่หน้ารองเท้าเกาะได้ดี หรือซื้อที่เกาะน้ำแข็งติดรองเท้าของคุณ. ที่เกาะสามารถซื้อได้ทั่วซูเปอร์มาร์เก็ตหรือปั้มน้ำมันทั่วประเทศ.
เพื่อความสะดวกสบายของคุณ เราขอแนะนำให้คุณจัดกระเป๋าใบเล็กๆให้เหมาะสำหรับการค้างคืนสำหรับการเดินทางในทัวร์ครั้งนี้และจัดกระเป๋าใบเล็กอีกใบหรือแบ็คแพคสำหรับการเดินทางหากคุณมีความจำเป็นต้องมีกระเป๋าอีกใบไปด้วย คุณสามารถเลือกเพิ่มกระเป๋าได้โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเล็กน้อย. เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าคุณไม่ควรจองเที่ยวบินขากลับเป็นวันเดียวกับวันที่เดินทางกลับในวันสุดท้ายของทัวร์นี้ เพราะหากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือเกิดความล่าช้าอาจจะมีผลกับการเดินทางของคุณ และกรุณาทำการจองที่พักสำหรับคืนวันสุดท้ายพร้อมจองการเดินทางไปยังสนามบินเพื่อที่จะนำคุณเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเคลฟราวิกในวันเดินทางกลับของคุณด้วย.