3 ใน 1 ทัวร์ลดราคาช่วงฤดูร้อน | สไนล์แฟลซเนส, โจกุลซาลอน & วงกลมทองคำ
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
เที่ยวชมประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูร้อนให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ใน 4 วันที่ได้รวบรวมทัวร์ 3 ทัวร์ไว้ด้วยกัน การเดินทางท่องเที่ยวเหล่านี้น่าจะดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย, ผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาในการท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์ด้วยการชมธรรมชาติที่น่ามหัศจรรย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในราคาประหยัด.
3 ทัวร์ที่คุณจะได้เดินทางไปนี้ จะใช้เวลาในวันแรกและวันสุดท้ายเต็มวัน และทัวร์ค้าง 1 คืนอีกหนึ่งทัวร์ คุณจะได้เริ่มต้นด้วยการออกสำรวจคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) ที่มักถูกเรียกว่าเป็น "ประเทศไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เนื่องจากความหลากหลายของสถานที่และแลนด์มาร์คที่น่าอัศจรรย์.
คุณจะได้เดินทางต่อไปเพื่อทำการสำรวจชายฝั่งทางใต้ และพักค้างคืนที่โรงแรมในชนบทเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยวในบริเวณนี้ให้มากที่สุด รวบรวมประสบการณ์ที่พิเศษที่คุณจะได้รับจากทัวร์นี้ด้วยโอกาสที่จะได้ปีนธารน้ำแข็งรวมถึงการล่องเรือบนทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ที่งดงาม.
ในวันสุดท้ายคุณจะได้ใช้เวลาในการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของวงกลมทองคำ (Golden Circle) ในทัวร์ 4วันนี้คุณจะได้ชมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งทางตะวันตกและทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ และจะได้เที่ยวชมอุทยานแห่งชาติทั้งสามแห่งของประเทศไอซ์แลนด์ด้วย.
ทัวร์ทั้งหมดจะนำเที่ยวโดยรถมินิบัสแบบพิเศษและนำเที่ยวโดยไกด์ที่มีประสบการณ์ นี่เป็นทัวร์คอมโบดังนั้นแน่นอนว่าคุณจะได้รับความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้.
ใช้เวลา 4 วันของคุณในประเทศไอซ์แลนด์ให้คุ้มค่าในราคาที่ประหยัด ตรวจสอบโปรแกรมได้โดยเลือกวันเดินทางของคุณ.
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
คุณจะได้เดินทางด้วยทัวร์วันเดียวในวันแรกนี้ รถจะเดินทางไปรับคุณจากเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) แต่เช้าตรู่และมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) พื้นที่ที่มีลักษณะทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งถึง 90 กิโลเมตรที่มีความหลากหลายมาก และคุณจะได้ชมทุ่งลาวาที่ทอดยาว, น้ำตกที่น่ามหัศจรรย์, หมู่บ้านที่ดูแปลกตาและธารน้ำแข็งขนาดใหญ่.
คุณจะได้เดินทางไปเที่ยวชมยังภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ที่มียอดเขาที่แปลกตาและงดงามที่เป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักถ่ายภาพ นอกจากนั้นที่นี่ยังมีน้ำตกที่แปลกตาที่ชื่อว่า เคิร์คจูเฟลฟอสส์ (Kirkjufellsfoss) ชายหาดทรายดำที่ชื่อว่า ดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณจะได้ไปด้วย สถานที่ที่งดงามที่คุณจะได้เห็นว่าคุณจะเป็นอย่างไรหากคุณได้เป็นชาวประมงในสมัยโบราณด้วยการลองยกก้อนหินแห่งประวัติศาสตร์ แหลมหินภูเขาไฟที่งดงามที่ชื่อว่า ลอนตรังการ์ (Lóndrangar) ก็จะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่คุณจะได้ไปเที่ยวชมด้วยเช่นกัน.
คุณจะได้เดินทางไปเที่ยวชมหมู่บ้านชาวประมงอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) และเฮลล์นาร์ (Hellnar) ที่มีทิวทัศน์ชายฝั่งที่งดงาม รวมถึงหมู่บ้านเล็ก ๆที่ชื่อว่า ปูดิร์ (Búðir) บนทุ่งลาวาบูดาเฮริน (Búðahraun) สถานที่ตั้งถิ่นฐานเหล่านี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökull) ภูเขาและธารน้ำแข็งที่สวยงามที่อยู่ตรงปลายของคาบสมุทร.
หลังจากที่คุณได้ทำการสำรวจสไนล์แฟลซเนสอย่างเต็มที่แล้ว คุณจะได้เดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิกเพื่อพักผ่อนในคืนนี้ และเราขอแจ้งให้คุณทราบว่าที่พักในคืนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในทัวร์คอมโบนี้ด้วย.

วัน 2 - น้ำตก & ตัวเลือกปีนธารน้ำแข็ง
วันนี้คุณจะได้เริ่มทัวร์ในวันที่สอง ที่จะเดินทางไปตามเส้นทางชายฝั่งทางใต้ รถจะไปรับคุณแต่เช้า เพราะมีอะไรมากมายให้คุณได้ชมได้วันนี้.
สถานที่แรกคุณจะได้เที่ยวชมยังน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่ตกลงมาจากความสูง 60 เมตรจากถ้ำหน้าผา ที่เคยเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเขตแดนชายฝั่งทางใต้ หากพื้นด้านล่างไม่ไปเปียกเกินไป และด้วยรูปร่างของหน้าผาที่นี่นั่นหมายถึงสามารถเดินไปชมรอบๆม่านน้ำเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามได้.
ถัดจากนั้นคุณจะได้ไปเที่ยวชมยังน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ที่มีลักษณะที่กว้างกว่าและมีพลังมากกว่าน้ำตกที่อยู่ใกล้กัน และมีขั้นบันไดอยู่ด้านข้างที่ทำให้คุณสามารถชมน้ำตกแห่งนี้ได้จากมุมที่แตกต่างกันหลายมุม คุณจะได้ประทับใจมากขึ้นด้วยการไปเที่ยวชมยังสามสถานที่ที่เหมือนกับอัญมณีที่ถูกซ่อนไว้ใกล้ๆกับน้ำตกทั้งสองแห่งที่มีขนาดใหญ่กว่านั่นคือ กลูยฟราบูอิ (Gljúfrabúi), แควร์นูฟอสส์ (Kvernufoss), และอีราฟอสส์ (Írarfoss).
เดินทางต่อไปทางตะวันออก คุณจะได้หยุดแวะที่ปลายธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) ที่เป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ที่มีขนาดใหญ่กว่า ที่นี่คุณจะได้ปีนธารน้ำแข็ง กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่น่าหลงใหลและน่าตื่นเต้น ที่จะได้แนะนำให้คุณรู้จักกับน้ำแข็งโบราณหลากสีสันพร้อมกับทัศนียภาพที่น่าตื่นตา.
หลังจากที่คุณทำการปีนธารน้ำแข็งแล้วคุณจะได้แวะยังชายหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งที่มีความแปลกตาและความงดงามที่น่าขนลุก เช่นเดียวกับลักษณะของภูมิประเทศต่างๆของที่นี่เช่น ชั้นหินทะเลเรย์นิสฟยาราและแนวหินบะซอลต์ แต่ต้องระวังขณะที่คุณกำลังชื่นชมที่นี่ เพราะชายหาดนี้ขึ้นชื่อว่ามีคลื่นทะเลที่ค่อนข้างรุนแรง.
คุณจะได้เดินทางต่อไปทางตะวันออกและเข้าพักคืนนี้ยังโรงแรมในเขตอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull).

วัน 3 - ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
คุณจะได้เริ่มวันนี้ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลที่น่าประทับใจ สถานที่นี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความงดงามของธรรมชาติที่เขียวขจี, ธารน้ำแข็ง และไฮไลท์ของวันนี้คือ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ทะเลสาบที่ลึกและกว้างใหญ่เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมา ที่ได้แตกออกและตกลงมาจากปลายธารน้ำแข็งและไหลไปอย่างช้าๆลงไปยังมหาสมุทร.
ที่นี่คุณจะมีโอกาสได้เข้าใกล้ภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้มากยิ่งขึ้นด้วยการลงเรือที่จะนำคุณออกไปยังทะเลสาบ ล่องเรือท่ามกลางก้อนน้ำแข็งในขณะที่น้ำแข็งเหล่านี้ไหลเอื่อยๆตรงไปยังมหาสมุทร, ฟังเสียงแตกของก้อนน้ำแข็งในตอนที่น้ำแข็งเหล่านี้ชนกัน และบางทีคุณอาจจะได้มีโอกาสชมแมวน้ำหนึ่งหรือสองตัว เพราะเหล่าแมวน้ำมักจะออกมานอนเล่นบนก้อนน้ำแข็งหรือออกมาลอยน้ำเล่น.
และเดินไปอีกไม่ไกลจากทะเลสาบจะเป็นไดมอนด์บีช (Diamond Beach) ที่ภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้ถูกซัดขึ้นไปหลังจากที่ไปออกจากทะเลสาบ ด้วยเกลียวคลื่นที่ตัดกับทรายสีดำทำให้ที่นี่กลายเป็นภาพที่น่ามหัศจรรย์.
หลังจากนั้นคุณจะได้เดินทางไปตามเส้นทางชายฝั่งทางใต้ตรงไปยังเมืองเรคยาวิก ที่คุณได้ทำการจองที่พักไว้เองแล้ว.

วัน 4 - วงกลมทองคำ
วันสุดท้ายของคุณในทัวร์นี้ คุณจะได้ใช้เวลาในการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวบนวงกลมทองคำ (Golden Circle) ที่เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ยอดฮิตที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์และถือเป็นประสบการณ์สำคัญของประเทศไอซ์แลนด์.
จุดหมายปลายทางแห่งแรก ได้แก่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) อุทยานแห่งชาตินี้ตั้งอยู่ตรงกลางรอยแยกแอตแลนติก และไม่มีที่ใดอีกแล้วในโลกนี้ที่คุณจะได้เห็นแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียได้อย่างชัดเจน แผ่นเปลือกโลกทั้งสองถูกดึงให้แยกออกจากกันซึ่งทำให้เกิดภูมิประเทศที่น่าตื่นตา มีหุบเหวอยู่ตลอดเส้นทางของทุ่งลาวาและหน้าผาที่เป็นสัญลักษณ์ของขอบแผ่นเปลือกโลกที่เป็นภาพที่น่าตื่นตา.
จากนั้นคุณจะได้เดินทางต่อไปยังบริเวณทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) ที่นี่มีไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ที่เกิดการปะทุทุกๆ 5-10 นาที ที่สามารถปะทุน้ำสูงขึ้นไปในอากาศถึง 20 เมตร บริเวณรอบยังมีกิจกรรมจากพลังงานใต้พิภพเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ก๊าซพุ, น้ำพุร้อนที่แต่งแต้มอยู่รอบบริเวณ และบางส่วนของโลกถูกย้อมด้วยแร่ธาตุที่ขึ้นมาจากใต้ฝ่าเท้าของคุณ.
สถานที่แห่งที่สามและเป็นสถานที่สุดท้ายอย่างเป็นทางการบนเส้นทางวงกลมทองคำนี้ ได้แก่ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) นี่เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ที่มีลักษณะที่งดงามและน่าหลงไหล อย่างไรก็ตามทัวร์ของคุณจะนำคุณไปยังแลนด์มาร์คอีกสองแห่งที่อยู่ใกล้เคียง.
คุณจะได้เดินทางไปชมเคริด (Kerið) ซึ่งเป็นปล่องภูเขาไฟที่ถูกแต่งแต้มด้วยหินสีแดงและสระน้ำถาวรสีฟ้าด้านใน สีสันที่ตัดกันระหว่างสองอย่างนี้ทำให้สถานที่นี้งดงามได้อย่างน่าอัศจรรย์และสามารถเดินไปรอบๆขอบปล่องภูเขาไฟได้ คุณจะยังได้ไปชมน้ำตกฟาซิ (Faxi) ที่มีลักษณะที่กว้างและเงียบสงบ ก่อนที่จะตรงกลับไปยังเมืองเรคยาวิก ทันทีที่คุณกลับไปถึงก็ถึงเวลาสิ้นสุดของทัวร์นี้ และกิจกรรมที่เหลือต่อจากนี้ในประเทศไอซ์แลนด์ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว.
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
การยกเลิกกิจกรรมอาจจะเกิดขึ้นได้หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ, หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเราจะทำการจัดการแผนให้กับคุณ หรือ จองกิจกรรมอื่นที่มี และราคาที่ต่างจะทำการคืนให้กับคุณ.
เพื่ความสะดวกสบายของคุณ ขอแนะนำให้นำแค่สิ่งของสำคัญมา. ในเมืองเรคยาวิกมีที่ฝากกระเป๋าหากคุณต้องการจัดกระเป๋าใหม่และนำแค่สิ่งที่สำคัญไป แต่หากคุณต้องการที่จะเพิ่มกระเป๋าเดินนอกจากกระเป๋าหิ้วไปกับคุณด้วย คุณสามารถเลือกเพิ่มกระเป๋าได้และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย.