แพ็คเกจแสงเหนือสุดหรู 5 วันในไอซ์แลนด์ | เรคยาวิกและบลูลากูน
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
ตื่นตาตื่นใจไปกับแสงเหนือและท่องเที่ยวอย่างสุขสบายด้วยทริปหรูหราเมื่อจองแพ็คเกจฤดูหนาวระยะเวลาห้าวัน นักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาโปรแกรมเที่ยวระยะสั้นพร้อมที่พักในโรงแรมบูติกและการบริการแบบส่วนตัวที่ยากจะลืมเลือนไม่ควรพลาดจองแพ็คเกจนี้
ในช่วงห้าวันของคุณในไอซ์แลนด์ คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและธรรมชาติของไอซ์แลนด์ในรูปแบบที่ดีที่สุด โดยคุณจะพักอยู่ในเมืองเรคยาวิก (Reykjavik) และที่บลูลากูนสปา (Blue Lagoon) ซึ่งเป็นสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง คุณจะเพลิดเพลินไปกับทริปท่องเที่ยวที่มีมัคคุเทศก์ส่วนตัว พร้อมด้วยอาหารมื้ออร่อยจากร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองหลวง และจะได้ไปเลือกซื้อสินค้าจากแหล่งช้อปปิ้งที่ดีที่สุด
ทุกคืนคุณจะมีโอกาสมากมายในการดูแสงเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์น่าประทับใจที่เกิดในช่วงฤดูหนาวที่ไอซ์แลนด์ ช่วงที่คุณพักในเมืองเรคยาวิก คุณจะเดินทางไปชมแสงเหนือแบบเอ็กซ์คลูซีฟโดยที่ไม่ต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวอื่น และเมื่อคุณไปพักที่บลูลากูน คุณจะสามารถมองหาแสงเหนือได้จากบริเวณที่พักอันหรูหราของคุณเลย
บลูลากูนเป็นสปาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงที่สุด และมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดด้วย สปาแห่งนี้มีน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพซึ่งมีคุณสมบัติในการเยียวยาร่างกายและยังมีแพ็คเกจทรีตเมนต์ให้เลือกใช้บริการอีกมากมายด้วย หากคุณเลือกเอาไว้เมื่อทำการจอง คุณยังสามารถเข้าพักที่รีทรีตสปา (Retreat Spa) สปาระดับ 5 ดาวซึ่งมีทะเลสาบรีทรีต (Retreat Lagoon) เอาไว้ให้บริการเฉพาะแขกระดับพิเศษเท่านั้นด้วย
นอกจากนี้คุณยังมีตัวเลือกในการท่องเที่ยวสำหรับเส้นทางวงกลมทองคำ ชายฝั่งทางใต้ หรือคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้คุณได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากๆ เกี่ยวกับความหลากหลายและความมหัศจรรย์ของภูมิประเทศที่ไอซ์แลนด์ และคุณยังมีตัวเลือกสำหรับเฮลิคอปเตอร์ทัวร์อีกสองแบบ แบบแรกจะพาคุณขึ้นบินเหนือตัวเมืองและไปลงจอดที่ภูเขาเอสยาน (Esjan) ส่วนแบบที่สองจะพาคุณบินข้ามสภาพภูมิประเทศที่โหดร้ายแต่งดงามตระการตาและไปลงจอดบนธารน้ำแข็ง
ทริปท่องเที่ยวเหล่านี้จัดขึ้นเป็นพิเศษไม่ปะปนกับลูกค้าท่านอื่นๆ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว หากคุณต้องการเพิ่มเวลาสำหรับทัวร์เฮลิคอปเตอร์หรือต้องการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางข้างต้น คุณสามารถแจ้งกับตัวแทนท่องเที่ยวของคุณได้
แพ็คเกจนี้รวมบริการรถรับ-ส่งจากสนามบินเคฟลาวิกด้วยพนักงานขับรถส่วนตัวเมื่อเริ่มต้นและสิ้นสุดทริป เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับประสบการณ์สุดหรูหราตั้งแต่ต้นจนจบ
ใช้เวลาห้าวันในไอซ์แลนด์ให้คุ้มค่ามากที่สุดด้วยการจองทริปเที่ยวแบบหรูหรากับแพ็คเกจนี้ ที่เน้นการดูแสงเหนือและพาคุณเดินทางท่องเที่ยวแบบส่วนตัว ตลอดจนคัดสรรบริการด้านที่พักและอาหารจากโรงแรมและร้านอาหารที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
รวมในแพ็คเกจ
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเดินทางรายวัน
วัน 1 - เดินทางมาถึงไอซ์แลนด์
หลังจากที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกและคุณผ่านด่านศุลกากรมาแล้ว คุณจะพบว่าพนักงานขับรถส่วนตัวรอคุณอยู่แล้วพร้อมด้วยรถที่กว้างขวางนั่งสบายและจะพาคุณมุ่งหน้าเข้าไปยังเมืองหลวง โดยจะเดินทางข้ามคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) อันงดงาม ผ่านแนวชายฝั่งที่ว่างเปล่า ภูเขาไฟ และทุ่งลาวากว้างใหญ่ไพศาลไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้นราว 45 นาทีก็จะถึงโรงแรมหรูที่คุณจะเข้าพัก
ระหว่างทางคุณสามารถพูดคุยสอบถามคนขับรถของคุณเกี่ยวกับภูมิประเทศโดยรอบ รวมถึงการใช้ชีวิตในไอซ์แลนด์ หรือคุณจะถือโอกาสพักผ่อนหลังจากที่นั่งเครื่องบินมาเป็นเวลานานก็ได้
หลังจากที่เดินทางไปถึงที่พักที่หรูหราในเมืองเรคยาวิกแล้ว คุณอาจจะล้างหน้าล้างตาเพิ่มความสดชื่นเสียก่อนแล้วค่อยออกไปเที่ยวในเมืองกัน ในเมืองมีกิจกรรมให้ทำได้มากมาย เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ที่มีวัฒนธรรมน่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และหากคุณต้องการเริ่มทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ในวันนี้เลย ตัวแทนท่องเที่ยวของคุณก็สามารถจองกิจกรรมที่คุณต้องการให้ได้
ในตอนเย็นคุณจะเดินทางไปรับประทานอาหารที่ร้านมีระดับ ซึ่งตัวแทนของคุณได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ตามความต้องการและรสนิยมการกินของคุณ สำหรับอาหารของไอซ์แลนด์นั้นได้ชื่อว่ามีการนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาพลิกแพลงแปลงโฉมให้เป็นอาหารจานพิเศษได้อย่างอร่อยและน่าประทับใจมาก
หลังจากนั้นก็เป็นเวลาสำหรับการล่าแสงเหนือครั้งแรกของคุณแล้ว ไกด์ส่วนตัวจะไปรับคุณและพาเดินทางไปอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมธรรมชาติที่มืดสนิทนอกเมือง โดยจะพาไปในจุดที่ไร้เมฆและห่างไกลจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ เพื่อให้คุณมีประสบการณ์ในการชมแสงเหนือที่ดีที่สุด การได้เห็นแสงออโรร่าบอเรลลิสปรากฏอยู่บนท้องฟ้านั้นเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมากและเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนมากตั้งเป้าว่าจะต้องมาเห็นให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต และการได้มาเห็นแสงออโรร่าพร้อมกับทัวร์ที่พิเศษเช่นนี้จะยิ่งน่าประทับใจมากขึ้นไปอีก
เมื่อคุณได้เพลิดเพลินกับแสงเหนือกันแล้ว (หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น) คุณจะเดินทางกลับเข้าเมืองเรคยาวิก และจากนั้นคุณจะออกไปท่องราตรีเพื่อสัมผัสกับแสงสีของเรคยาวิกตามสถานบันเทิงกันต่อ หรือจะเข้านอนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทริปในวันพรุ่งนี้ก็ได้
วัน 2 - เมืองหลวงแห่งประเทศนอร์ดิก
ในวันที่สองของแพ็คเกจเที่ยวไอซ์แลนด์แบบหรูหราระยะเวลาห้าวัน ไกด์ส่วนตัวจะไปรับคุณและพาออกไปเที่ยวในเมืองเรคยาวิกแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พวกเขามีความรู้เกี่ยวกับเมืองและพื้นที่โดยรอบเป็นอย่างดีและจะจัดทริปตามความสนใจของกลุ่มคุณโดยเฉพาะ
ตัวเลือกที่น่าสนใจของวันนี้มีทั้งการไปชมสถาปัตยกรรม เช่น โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) และฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa Concert Hall) พิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ที่น่าสนใจ อย่างที่พาร์ลาน (Perlan) และไปชมธรรมชาติ เช่น หาดเนยโทลส์วิค (Nautholsvik) และป่าเอิสคูฮลีด (Oskjuhlid) ไกด์ของคุณยังสามารถแนะนำร้านรวงที่น่าสนใจบนถนนเลยกาแวร์กูร์ (Laugavegur) และสามารถพาคุณไปชมบริเวณท่าเรือ หรือพาชมงานศิลปะสาธารณะที่มีชื่อเสียงได้ด้วย
เมื่อเที่ยวชมเมืองแบบส่วนตัวเสร็จแล้ว คนขับรถจะพาคุณไปส่งที่ร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับมื้อกลางวันที่แสนอร่อย
จากนั้นได้เวลาสำหรับทัวร์เฮลิคอปเตอร์ที่คุณจะไม่มีวันลืมเลือน ตัวเลือกแรกของคุณคือบินขึ้นจากเรคยาวิก คุณจะได้ชมเมืองจากเบื้องบนและแลนด์มาร์คต่างๆ จะค่อยๆ เล็กลงจนเหมือนของเล่น ส่วนหลังคาบ้านเรือนจะกลายเป็นเหมือนแผ่นผ้าหลากสีสดใสที่นำมาเย็บปะติดเข้าด้วยกัน คุณจะบินข้ามอ่าวฟาซาโฟลอิ (Faxafloi) ที่ผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับและไปลงจอดยังภูเขาเอสยาน (Esjan) ที่มียอดราบ ซึ่งคุณจะได้ลงไปจิบสปาร์กลิ้งไวน์พร้อมกับชมวิวพาโนรามาที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นค่อยบินกลับมาลงที่สนามบินภายในประเทศ
ส่วนอีกตัวเลือกหนึ่งคือคุณบินตรงออกนอกเมืองข้ามพื้นที่ธรรมชาติที่สวยงามในทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ คุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยลาวา เส้นทางชนบทที่คดเคี้ยว หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และยอดเขาที่สวยงามมากมาย จากนั้นเฮลิคอปเตอร์จะไปจอดบนธารน้ำแข็งที่มีผืนน้ำแข็งส่องประกายระยิบระยับเพื่อให้คุณลงไปดื่มด่ำกับทิวทัศน์สุดตระการตาและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ตัวเลือกแรกนั้นใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ส่วนตัวเลือกที่สองใช้เวลาสองชั่วโมง หรือถ้าคุณอยากบินเที่ยวชมธรรมชาติของไอซ์แลนด์ให้นานกว่านี้ ตัวแทนท่องเที่ยวของคุณก็ยินดีที่จะจัดเตรียมแผนที่เหมาะสมให้
เมื่อเสร็จจากทัวร์เฮลิคอปเตอร์แล้ว คุณจะไปที่ร้านอาหารสไตล์บูติกอีกแห่งหนึ่งเพื่อไปรับประทานเทสติ้งเมนู ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจนได้รสชาติที่อร่อยล้ำ แต่กิจกรรมสำหรับวันนี้ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะคุณยังจะต้องไปล่าแสงเหนือแบบส่วนตัวในตอนกลางคืนอีก
แม้ว่าคืนก่อนหน้านี้คุณอาจจะได้เห็นแสงเหนือที่สวยงามกันไปแล้ว แต่การได้เห็นอีกหลายๆ ครั้งก็ยิ่งทำให้การมาไอซ์แลนด์ในครั้งนี้มีความคุ้มค่ามากขึ้น เพราะคุณจะได้เดินทางไปยังสถานที่ใหม่และแสงเหนือที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งก็มีความงดงามแตกต่างกันไป
เมื่อเสร็จสิ้นทริปที่น่าตื่นเต้นของวันนี้แล้ว คุณจะเดินทางกลับเข้าไปยังโรงแรมบูติกที่อยู่ในเมืองหลวง
วัน 3 - ธรรมชาติที่ไอซ์แลนด์
ในวันที่สามของแพ็คเกจเที่ยวไอซ์แลนด์แบบลักชัวรี่ในฤดูหนาวนี้ คุณจะออกเดินทางไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของหนึ่งในสามตัวเลือก ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหนคุณก็จะได้เห็นภูมิประเทศและสถานที่ที่สวยสดงดงามของไอซ์แลนด์ทั้งสิ้น
ตัวเลือกที่หนึ่งนั้นใช้เวลาน้อยที่สุดแต่พาไปชมเส้นทางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ในทริปพาชมสถานที่ท่องเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำระยะเวลาเจ็ดชั่วโมงนี้ คุณจะได้ไปเยือนอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)
ธิงเวลลีร์ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกของสองทวีปที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน บริเวณนี้มีผืนลาวาที่มีมอสส์ขึ้นปกคลุม มีแหล่งน้ำพุธรรมชาติที่ใสสะอาดหลายสิบแห่งที่ไหลไปสู่ทะเลสาบอันกว้างใหญ่ และมีป่าต้นเบิร์ชที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อกว่าพันปีก่อนหน้า ผู้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานชาวไวกิ้งได้รวมตัวกันจัดตั้งสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ขึ้นที่นี่ ซึ่งเป็นสภาที่ยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้ยังเคยถูกใช้เป็นสมรภูมิในการต่อสู้ประลองเวทมนตร์ของเหล่าแม่มดด้วย
ส่วนพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์นั้นเป็นสถานที่ตั้งของน้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่แอกทีฟมากที่สุดในประเทศ โดยคุณจะได้เห็นน้ำร้อนฉีดพุ่งขึ้นฟ้าสูงถึง 20 เมตรในทุกๆ ห้าถึงสิบนาที และจะตื่นตาตื่นใจไปกับน้ำพุร้อนและฟูมาโรลหรือพุก๊าซที่มีอยู่ในบริเวณอีกจำนวนนับไม่ถ้วน
สถานที่สุดท้ายคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ที่สวยงาม น้ำตกนี้ได้น้ำมาจากธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) และไหลลดหลั่นเป็นสองชั้นก่อนที่จะไหลลงหุบเหวด้านล่าง ที่นี่มีจุดชมวิวหลายแห่งซึ่งทำให้คุณสามารถเก็บภาพน้ำตกได้จากหลากหลายมุม
ตัวเลือกที่สองเป็นทริปสิบชั่วโมงที่พาคุณเที่ยวตามแนวชายฝั่งทางใต้ พื้นที่ส่วนนี้ของไอซ์แลนด์มีภูมิประเทศและสถานที่ที่สวยงามมากมายที่เผยให้เห็นถึงความหลากหลายทางธรรมชาติของเกาะแห่งนี้ ระหว่างที่เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรก คุณจะผ่านธารน้ำแข็ง ภูเขาไฟ หมู่เกาะ พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเส้นทางขึ้นลงเขาตามชนบท
สถานที่ท่องเที่ยวสามแห่งแรกบนเส้นทางนี้เป็นน้ำตก น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) มีความสูง 60 เมตร และมีน้ำไหลแผ่วเบาอยู่หน้าปากถ้ำขนาดมหึมา และหากสภาพอากาศเอื้ออำนวยไกด์ส่วนตัวของคุณจะพาคุณไปดูทางเดินที่ล้อมรอบตัวน้ำตกแห่งนี้ ซึ่งการเดินรอบน้ำตกจะทำให้คุณได้เห็นมุมมองที่หลากหลายไม่เหมือนใคร และจากบริเวณนี้คุณสามารถเดินเท้าเพื่อไปชมน้ำตกกลูยฟราบูอิ (Gljufrabui) น้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำได้ด้วย
จากนั้นหากขับรถต่อไปอีกไม่ไกลก็จะถึงน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) ซึ่งมีความสูงไม่ต่างจากน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์แต่มีพละกำลังที่เหนือชั้นกว่ามาก น้ำตกสโกกาฟอสส์สวยงามและคลาสสิกมาก ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมได้ใกล้อย่างไม่น่าเชื่อ และยังสามารถขึ้นบันไดที่อยู่ข้างน้ำตกเพื่อขึ้นไปชมวิวจากด้านบนได้ด้วยถ้าหากบันไดยังไม่ได้กลายเป็นน้ำแข็ง
ต่อจากนั้นคุณจะเดินทางไปที่หาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ซึ่งมีแนวชายฝั่งที่น่าสะพรึงกลัวเพราะมีคลื่นขนาดใหญ่มาก มีหาดทรายสีดำที่ทอดตัวยาวไม่มีที่สิ้นสุด และมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่น่าตื่นตาตื่นใจ และที่บริเวณหน้าผาเรย์นิสฟยาลล์ (Reynisfjall) นั้นคุณจะได้เห็นเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมมากมายและเมื่อมองออกไปที่ทะเลก็จะเห็นกองหินบะซอลต์สูงตระหง่านด้วย ซึ่งตามตำนานพื้นบ้านเชื่อว่าเป็นโทรลล์ที่ออกไปปล้นเรือในทะเลแล้วหลบแสงอาทิตย์ไม่ทันจึงกลายเป็นหิน
ตัวเลือกที่สามคือทัวร์พาเที่ยวคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes) ระยะเวลาสิบสองชั่วโมง คาบสมุทรแห่งนี้ได้ฉายาว่าเป็น "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" และคุณไม่ควรพลาดทัวร์นี้หากคุณต้องการเห็นสถานที่ที่มีความแตกต่างจำนวนหลายแห่งภายในหนึ่งวัน ซึ่งไกด์ส่วนตัวจะพาคุณไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับความสนใจของคุณมากที่สุด
นักท่องเที่ยวที่รักสัตว์จะต้องชื่นชอบโขดหินบะซอลต์โลนตรังการ์ (Londrangar) ซึ่งเป็นที่อยู่ของนกทะเลที่มาทำรังเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน รวมถึงหาดอิทรี ทุงกา (Ytri Tunga) ที่มีประชากรแมวน้ำมากมายให้เห็นตลอดทั้งปี ส่วนผู้ที่สนใจวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์สามารถไปที่เมืองสติกกิโฮลมูร์ (Stykkisholmur) ซึ่งเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ และหมู่บ้านเฮลล์นาร์ (Hellnar) และปูดิร์ (Budir) ที่ถูกทิ้งร้าง และสำหรับผู้ที่ชอบทำกิจกรรมตื่นเต้น แนะนำให้ไปสำรวจช่องเขาเรยด์เฟลด์จยา (Raudfeldsgja) และไปเที่ยวถ้ำวาทน์เฮลลิร์ (Vatnshellir)
แต่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องประทับใจกับความงามตามธรรมชาติของภูเขาเคิร์กจูแฟลล์ (Kirkjufell) และภูเขาไฟสไนล์เฟลล์โจกุล (Snaefellsjokull) ที่มีธารน้ำแข็งปกคลุม เคิร์กจูแฟลล์นั้นเป็นภูเขาที่ปรากฏอยู่ในเกมออฟโธรนส์สองซีซั่นสุดท้าย ส่วนสไนล์เฟลล์โจกุลนั้นว่ากันว่าเป็นเส้นทางลี้ลับและมีพลังเหนือธรรมชาติ
แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เวลาในวันนี้อย่างไร ไกด์ส่วนตัวของคุณก็จะพาคุณเดินทางไปที่บลูลากูนและคุณจะพักค้างคืนที่นั่นเป็นเวลาสองคืน โดยคุณจะเข้าพักที่ Silica Hotel ที่สวยงาม แต่คุณสามารถอัปเกรดเป็น Retreat Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมระดับห้าดาวแทนได้หากคุณต้องการบรรยากาศที่หรูหรามากยิ่งขึ้น และยังมีอาหารเลิศรสรอคุณอยู่ที่ห้องอาหาร Lava หรือห้องอาหาร Moss เพื่อให้คุณอิ่มอร่อยส่งท้ายวันที่เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย
ก่อนเข้านอนในคืนนี้อย่าลืมแหงนหน้ามองหาแสงออโรร่าบอเรลลิสด้วย!
วัน 4 - บลูลากูน
ในวันสุดท้ายของทริปเที่ยวไอซ์แลนด์แบบหรูหราในช่วงหน้าร้อนครั้งนี้ คุณมีตัวเลือกสองแบบ แบบแรกคือการไปพักผ่อนที่สปาเพื่อแช่น้ำสีฟ้าบริสุทธิ์และเพลิดเพลินกับทรีตเมนต์ปรนนิบัติร่างกาย แบบที่สองคือการท่องเที่ยวกับทัวร์แบบส่วนตัวเพื่อไปชมภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes)
ผู้ที่เลือกไปแช่น้ำแร่ที่บลูลากูนจะได้สัมผัสกับความผ่อนคลายอย่างมากด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีไว้ให้บริการกับนักท่องเที่ยว สระน้ำสีฟ้าขุ่นที่นี่เต็มไปด้วยแร่ธาตุและจุลินทรีย์ที่หายากหรือพบได้แค่ที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งมีคุณสมบัติในการเยียวยาร่างกายและจิตใจ ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ทางบลูลากูนยังมีมาส์กซิลิกาไว้ให้บริการกับผู้ที่มาใช้บริการทุกท่านด้วย
คุณสามารถเพิ่มทรีตเมนต์อย่างบริการนวดตัวเข้าไปในทริปวันนี้ได้ด้วย โดยมีค่าบริการเพิ่มเติม
หากคุณเลือกเข้าพักที่ Retreat Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมหรู คุณจะสามารถเข้าใช้บริการสระน้ำรีทรีตลากูน (Retreat Lagoon) และสปาของโรงแรมได้ด้วย ซึ่งจะมอบความเป็นส่วนตัวและประสบการณ์ที่หรูหรามากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่เลือกไปเที่ยวคาบสมุทรเรคยาเนสในวันนี้ จะได้เดินทางไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟและห่างไกลจากนักท่องเที่ยวเพราะมีคนรู้จักน้อยมาก เช่น น้ำพุร้อนที่คริสุวิก (Krysuvik) และกุนนูฮแวร์ (Gunnuhver) นั้นเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมเหมาะสำหรับการไปดูพลังของพลังงานความร้อนที่อยู่ใต้พิภพ หรือคุณจะไปเดินข้ามสะพานที่อยู่ระหว่างสองทวีป (Bridge Between the Continents) เพื่อเดินข้ามจากแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียนไปยังแผ่นเปลือกโลกทวีปอเมริกาเหนือก็ได้
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ในบริเวณ ได้แก่ ทะเลสาบเคลฟาร์วาทน์ (Kleifarvatn) ที่กว้างใหญ่ สระน้ำริมทะเลที่บริมเคตติลล์ (Brimketill) และประภาคารเรคยาเนสวิติ (Reykjanesviti) หรือคุณจะจัดทริปไปไฮกิ้งพร้อมกับไกด์ส่วนตัวที่ภูเขาไฟฟากราดาลสฟยาลล์ (Fagradalsfjall) ที่เพิ่งปะทุปล่อยลาวาออกมาเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้!
ค่ำของวันสุดท้ายนี้คุณจะได้อร่อยกับเทสติ้งเมนูที่ห้องอาหาร Lava หรือห้องอาหาร Moss และยังมีเวลาในคืนสุดท้ายให้ได้ชมแสงเหนือก่อนเข้านอนด้วยหากสภาพอากาศเป็นใจ
วัน 5 - เดินทางกลับบ้าน
วันที่ห้าเป็นวันสุดท้ายสำหรับทริปชมแสงเหนือแบบลักชัวรี่ที่ไอซ์แลนด์ในครั้งนี้ คุณจะบอกลาเมืองเรคยาวิกและบลูลากูนไปพร้อมกับความสุขเปี่ยมล้น และเราหวังว่าคุณจะมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือไปแล้วหลายครั้ง
คนขับรถส่วนตัวของคุณจะพาคุณเดินทางจากบลูลากูนเพื่อไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกให้ทันเวลาขึ้นเครื่อง และคุณยังสามารถใช้เวลาเพลิดเพลินกับการแช่น้ำที่บลูลากูนได้อีกในวันนี้หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงบ่ายหรือค่ำ หรือถ้าเที่ยวบินออกดึกมากๆ ตัวแทนท่องเที่ยวของคุณก็สามารถจัดทริปแอดเวนเจอร์ในบริเวณใกล้ๆ ให้คุณในวันนี้ได้
เราขอให้คุณเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ แล้วกลับมาพบกันใหม่เร็วๆ นี้!
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณจะได้เห็น และรายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวอาจมีการแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับวันและเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์
มื้ออร่อย
เราได้คัดสรรร้านอาหารที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์มาให้บริการคุณในทริปนี้ อาหารกลางวันและอาหารเย็นทุกมื้อของคุณในไอซ์แลนด์ถูกจัดเตรียมไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว คุณจะได้เพลิดเพลินกับมื้อกลางวันและมื้อเย็นแสนอร่อยตลอดทั้งทริปที่คุณเดินทางอยู่ในไอซ์แลนด์ ดังนั้นในทริปนี้คุณจะเที่ยวอย่างสนุกสนานและเพลิดเพลินกับการได้รับประทานของอร่อยมากมาย
ไอซ์แลนด์ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่มีความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นจึงเต็มไปด้วยแหล่งน้ำและธรรมชาติที่สะอาดบริสุทธิ์ ซึ่งทำให้ชาวไอซ์แลนด์มีวัตถุดิบในการปรุงอาหารที่สดใหม่ที่สุดในโลก และพลังงานความร้อนใต้พิภพที่มีอยู่ทำให้ไอซ์แลนด์สามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย
อาหารไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องความสด ไม่ว่าจะเป็นปลาสด เนื้อแกะที่นุ่ม และกุ้งแลงกูสทินไอซ์แลนด์ที่โด่งดังมาก โดยร้านอาหารทุกแห่งจะมีตัวเลือกให้ทั้งแบบอาหารธรรมดาและอาหารมังสวิรัติ และเมื่อคุณไปถึงที่ร้านอาหารคุณสามารถแจ้งให้กับทางร้านทราบได้หากคุณมีข้อจำกัดในการบริโภค
บริการรับ-ส่งแบบส่วนตัว
ระหว่างที่อยู่ในไอซ์แลนด์ คุณจะเดินทางด้วยรถ Mercedes-Benz Vito ซึ่งมีความสะดวกสบายมาก
วิดีโอ
รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว
ทัวร์ที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด