ทัวร์ขับรถเที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูร้อน 1 สัปดาห์ รวมสำรวจพื้นที่ไฮแลนด์
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
หลีกหนีความวุ่นวายในช่วงหน้าร้อนด้วยทัวร์ขับรถเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง 7 วันแพ็คเกจนี้ที่จะพาคุณเดินทางไปบนเส้นทางที่มีผู้คนพลุกพล่านน้อยกว่าและพาคุณไปเที่ยวยังพื้นที่ไฮแลนด์อันห่างไกลด้วย แผนการเดินทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไอซ์แลนด์และในขณะเดียวกันก็ต้องการไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวลับที่ซ่อนอยู่ในไอซ์แลนด์ด้วย
ทริปแอดเวนเจอร์นี้เริ่มต้นขึ้นในทันทีที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ รถเช่าของคุณจะจอดรออยู่ที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกแล้ว โดยคุณจะต้องใช้รถแบบขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อให้เหมาะกับการเดินทางทั้งบนถนนวงแหวนซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงและเส้นทางบนพื้นที่ไฮแลนด์ที่อยู่ห่างไกลความเจริญ
เมื่อรับรถเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณจะเดินทางผ่านทิวทัศน์ที่เหมือนกับอยู่บนดวงจันทร์ของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) ระหว่างที่เดินทางเข้าเมืองนี้ คุณสามารถเลือกแวะเที่ยวที่สปาบลูลากูนเพื่อแช่น้ำอุ่นให้ร่างกายผ่อนคลายหลังจากที่นั่งเครื่องบินมานานก่อนได้ หลังจากนั้นค่อยมุ่งหน้าเข้าเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์
ระยะเวลาสองสามวันต่อจากนี้คุณจะได้ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์รอบประเทศ โดยเริ่มจากเดินทางไปตามชายฝั่งทางใต้ที่งดงาม ซึ่งมีน้ำตกที่มีชื่อเสียง หาดทรายดำ ธารน้ำแข็ง และสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่างหาดทรายดำเรย์นิสฟยาราและเมืองวิก (Vik) ที่สวยแปลกตา
จากนั้นคุณจะได้ใช้ประโยชน์จากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของรถคุณอย่างคุ้มค่าด้วยการบุกตะลุยไปยังพื้นที่ไฮแลนด์ (Highlands) ของไอซ์แลนด์ที่แทบจะไม่มีมนุษย์แตะต้อง และพื้นที่ส่วนนี้ของประเทศจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนคุณเดินทางไปเยือนอีกโลกหนึ่ง ภูมิประเทศกว้างใหญ่ไพศาลของไฮแลนด์เต็มไปด้วยภูเขาหินไรโอไลต์และกิจกรรมที่เกิดจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ สภาพแวดล้อมในบริเวณนี้ก็ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันที่แปลกแตกต่างไปจากพื้นที่อื่นๆ บนโลกใบนี้ และในไฮแลนด์ก็มีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามน่าประทับใจมากมาย
จากนั้นคุณจะเดินทางต่อเพื่อไปชมสิ่งที่น่าสนใจบนวงกลมทองคำ ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ บนเส้นทางนี้มีสถานที่เที่ยวที่ห้ามพลาดสามแห่ง ได้แก่ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) และทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area)
เหนือสิ่งอื่นใด คุณยังจะได้ไปชมคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นมินิไอซ์แลนด์ย่อส่วน เนื่องจากรวมเอาภูมิประเทศหลากหลายแบบของไอซ์แลนด์มารวมไว้ให้ชมครบบนดินแดนเล็กๆ แห่งนี้ และคุณยังจะมีเวลาเหลือให้ไปสนุกกับชีวิตยามค่ำคืนของเมืองเรคยาวิกที่คึกคักและเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันทางวัฒนธรรมอีกด้วย
ระหว่างที่ทำการจองทริปขับรถเที่ยว คุณยังมีโอกาสเลือกเพิ่มกิจกรรมแอดเวนเจอร์เข้าไปในทริปครั้งนี้ได้ด้วย ซึ่งมีตั้งแต่ขี่สโนว์โมบิล ปีนธารน้ำแข็ง เที่ยวถ้ำน้ำแข็ง และเข้าไปในอุโมงค์ลาวา ไปจนถึงพายคายักใต้ภูเขาหรือล่องเรือออกทะเลเพื่อตามหาเมนูซูชิในแบบชาวไวกิ้ง
ที่พักและแผนการเดินทางของคุณในครั้งนี้ได้รับการจัดเตรียมอย่างดี เพื่อให้คุณมีทริปครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไอซ์แลนด์ในแบบที่คุณควบคุมได้เอง นับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากในการเข้าถึงธรรมชาติที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อของไอซ์แลนด์และได้เที่ยวในเส้นทางที่คนยังไม่ค่อยไปกัน ทริปครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและมอบความทรงจำที่ดีให้คุณเก็บไปนึกถึงตลอดชีวิต
อย่าพลาดโอกาสที่คุณจะได้เข้าถึงธรรมชาติที่งดงามของดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟกับทัวร์แอดเวนเจอร์ 7 วันแพ็คเกจนี้ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
รวมในแพ็คเกจ
จุดหมายปลายทาง
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
รายละเอียดการเดินทาง
รถ
รถ
รถขนาดเล็ก
รถขนาดกลาง
รถพรีเมี่ยม
large car
SUV
ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ
วันที่ 1 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
- More
ยินดีต้อนรับสู่ไอซ์แลนด์ ถึงเวลาเริ่มต้นทริปแอดเวนเจอร์ของคุณแล้ว
เมื่อคุณผ่านขั้นตอนต่างๆ ในสนามบินเรียบร้อยแล้ว คุณจะไปรับรถเช่า และออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงของไอซ์แลนด์
ระหว่างทางที่จะไปเรคยาวิก คุณอาจจะแวะเที่ยวที่สปาบลูลากูนกันก่อน ที่นี่โด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องการใช้ประโยชน์จากพลังงานความร้อนใต้พิภพเพื่อมอบประสบการณ์ผ่อนคลายให้กับนักท่องเที่ยว น้ำสีฟ้าเป็นประกายของทะเลสาบแห่งนี้มีอุณหภูมิอุ่นพอเหมาะและว่ากันว่ามีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาด้วย คุณอาจจะใช้เวลาสองสามชั่วโมงแช่น้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุเพื่อให้หายเมื่อยจากการนั่งเครื่องบินมานาน
จากนั้นคุณจะเดินทางผ่านวิวทิวทัศน์ของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) ที่มองดูเหมือนพื้นผิวดวงจันทร์ เพื่อไปเช็คอินเข้าที่พักในช่วงเย็น โดยคุณสามารถใช้เวลาในวันนี้ออกไปเดินเที่ยวในเมืองเพื่อดูตึกรามบ้านช่อง อนุสาวรีย์ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่น่าสนใจภายในเมือง คืนนี้คุณจะพักค้างคืนอยู่ในเรกยาวิก
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 2 - ชายฝั่งทางใต้
- ชายฝั่งทางใต้
- More
- น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์
- น้ำตกสโกกาฟอสส์
- ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล
- ดิร์โฮลาเอย์
- หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
- โขดทะเลเรนิสดรังการ์
- More
วันนี้คุณจะออกสำรวจภูมิประเทศกว้างใหญ่ไพศาลและธรรมชาติที่งดความของชายฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ โดยคุณจะขับรถออกจากเมืองหลวงอันพลุกพล่าน ทิ้งเมืองไว้เบื้องหลัง และมุ่งหน้าเพื่อไปน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) น้ำตกที่งดงามราวฉากในนิยายแฟนตาซีแห่งนี้มีต้นน้ำมาจากแม่น้ำที่หันหน้าเข้ามหาสมุทร ก่อนที่น้ำตกจะไหลผ่านปากถ้ำที่ความสูง 197 ฟุต (60 ม.) ในช่วงเดินที่อากาศอบอุ่น คุณสามารถเดินไปที่ด้านหลังน้ำตกและชมวิวน้ำตกได้แบบ 360 องศา
จุดหมายปลายทางต่อมาคือน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) ซึ่งแตกต่างจากอันแรกแต่ก็สวยไม่แพ้กัน โดยน้ำตกสโกกาฟอสส์ก็มีความสูงมากเช่นกันแต่จะตกลงสู่พื้นราบด้านล่าง ทำให้เกิดเป็นไอน้ำกระจายฟุ้งไปทั่วบริเวณ บางวันก็จะมีรุ้งกินน้ำปรากฏให้เห็นเป็นคู่ด้วย
จากนั้นคุณจะเดินทางไปตามชายฝั่งทางใต้ที่มีภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงตลอดทาง ผ่านที่ราบกว้างใหญ่ไพศาลและภูเขามากมาย ซึ่งบางครั้งจะมีทิวทัศน์ของมหาสมุทรเข้ามาร่วมเฟรมด้วย หากคุณต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ คุณสามาถเลือกไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างทะเลทรายโซลเฮมาซานดูร์ (Solheimasandur) ที่มีผืนทรายสีดำกินบริเวณกว้างตั้งแต่จากทางหลวงหมายเลข 1 จรดทะเล และมีซากเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาจอดทิ้งไว้ให้ชม ตั้งแต่ปี 1973 โดยเครื่องบินลำนี้เกิดปัญหาขัดข้องในระหว่างที่บินปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่โชคยังดีที่เจ้าหน้าที่ทุกคนรอดปลอดภัยกลับไปได้ ปัจจุบันซากเครื่องบิน DC3 ก็ยังคงจอดทิ้งไว้เช่นนั้นและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนผ่านไปมาบนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ต้องแวะเข้าไปชม เมื่อคุณไปถึงจุดที่เครื่องบินจอด คุณจะเพลิดเพลินกับการชมซากเครื่องบินท่ามกลางภูมิประเทศที่แปลกประหลาด ถ่ายภาพจนกว่าคุณจะพอใจแล้วค่อยกลับมาที่ลานจอดรถเพื่อออกเดินทางกันต่อ
จุดหมายต่อไปคือหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) แนวชายฝั่งที่ทอดยาวแห่งนี้มองแล้วจะทำให้ระลึกถึงการปะทุของภูเขาไฟซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ หาดทรายดำเรย์นิสฟยารากับท้องฟ้าสีครามเบื้องบนและเกลียวคลื่นที่ซัดสาดตรงหน้าช่างเป็นภาพที่มีความขัดแย้งอย่างไม่น่าเชื่อ และที่หาดยังมีเสาหินบะซอลต์ทรงหกเหลี่ยมเรียงรายเรียกร้องความสนใจอยู่เป็นจำนวนมาก มองดูเหมือนเป็นอนุสาวรีย์ที่มีคนตั้งใจไปแกะสลักไว้บนหน้าผา แต่ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ทั้งสิ้น
เมื่อมองออกไปที่ทะเลด้านนอกคุณจะมองเห็นหินเรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar) โขดทะเลมืดมิดโผล่แทงทะลุพ้นผิวน้ำสูงตระหง่านอยู่กลางทะเล ตำนานว่ากันว่าในอดีตหินเหล่านี้คือยักษ์โทรลล์ที่มีเจตนาจะออกมาจมเรือในทะเลแต่ดันโดนแสงอาทิตย์สาดเข้าใส่จึงกลายเป็นหินอยู่อย่างนั้น
ต่อจากนั้นคุณจะเดินทางไปยังเมืองชายทะเลชื่อวิก (Vik) หมู่บ้านที่แปลกตานี้เหมาะสำหรับการเดินเล่นเหยียดแข้งเหยียดขาและหาอะไรรับประทาน และจากที่วิกนี้คุณสามารถเลือกไปทำกิจกรรมเสริมเพื่อเพิ่มความสนุกสนานตื่นเต้นให้กับทริปครั้งนี้กันได้
ในกรณีที่คุณเลือกไปปีนธารน้ำแข็งที่โซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull) คุณจะต้องไปพบกับไกด์ท้องถิ่นที่มีประสบการณ์และรู้จักพื้นที่นี้เป็นอย่างดีก่อน โดยไกด์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อความปลอดภัยและมอบอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ให้กับคุณก่อนที่จะพาคุณเดินทางออกสำรวจธารน้ำแข็งราวกับเป็นนักสำรวจอาร์กติกมืออาชีพก็ไม่ปาน
แต่ถ้าคุณต้องการกิจกรรมที่ตื่นเต้นชนิดอะดรีนาลีนพุ่งพล่าน ให้คุณเลือกกิจกรรมขี่สโนว์โมบิลและไปกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่มิร์ดาลส์โจกุล (Myrdalsjokull) แทน แต่คุณจะต้องไปเจอกับไกด์ก่อนเช่นกันเพราะต้องเตรียมตัวเตรียมความพร้อมก่อนที่จะออกไปผจญภัย จากนั้นคุณจะแล่นทะยานไปบนหิมะของธารน้ำแข็ง สัมผัสกับความตื่นเต้นและอากาศที่สดชื่นของไอซ์แลนด์พร้อมดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ที่คุณจะไม่มีวันลืมเลือน
กิจกรรมพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ในวันนี้คือการออกไปสำรวจถ้ำน้ำแข็ง สถานที่พิเศษนี้ก่อตัวขึ้นระหว่างที่น้ำแข็งในธารน้ำแข็งละลายและแข็งตัวตามรอบวัฏจักรปกติ ถ้ำน้ำแข็งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและแต่ละแห่งก็ไม่เหมือนกันเลยเช่นเดียวกับลายนิ้วมือของมนุษย์ เมื่อก้าวเท้าเข้าไปด้านในคุณจะรู้สึกราวกับว่าได้เดินทางไปสู่อีกโลกหนึ่ง โลกแห่งน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยสีฟ้าและสีขาว
หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับการทำกิจกรรมมาทั้งวัน ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเดินทางกลับที่พักของคุณในคืนนี้
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 3 - ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- More
- ลานมันนาเลยการ์
- พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
- More
วันนี้คุณจะไปเยือนไฮแลนด์ (Highlands) ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ไร้การแตะต้องมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์
คุณจะออกจากที่พักและเดินทางไปยังพื้นที่ไฮแลนด์อันห่างไกล บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar) อันหมายถึง "สระว่ายน้ำของประชาชน" เนื่องจากมีสระน้ำร้อนธรรมชาติอยู่มากมาย ลานมันนาเลยการ์นี้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของไฮแลนด์ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักเดินป่า
ลานมันนาเลยการ์มีทั้งความสวยงามและมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจ ด้วยเฉดสีอันหลากหลายของแร่ธาตุและหินที่อยู่รอบบริเวณ และมีทุ่งเลยกาเฮิร์น (Laugahraun) ที่เต็มไปด้วยหินลาวาสีดำเมี่ยมบนที่ราบกว้างใหญ่ที่ถือกำเนิดขึ้นหลังการปะทุของภูเขาไฟในปี 1477
พื้นที่โดยรอบประกอบด้วยหินชนิดหนึ่งที่เรียกว่าหินไรโอไลต์ หินชนิดนี้มีหลายเฉดสีมาก เมื่อไปเที่ยวที่ลานมันนาเลยการ์คุณจะได้เห็นสารพัดเฉดสีของสีเขียว สีน้ำเงิน สีเหลืองทอง สีแดง และสีชมพูที่ร่วมกันแต่งแต้มภูมิประเทศรอบตัว
ในวันนี้คุณห้ามลืมนำชุดว่ายน้ำและผ้าเช็ดตัวมาเป็นอันขาดเพราะลานมันนาเลยการ์เต็มไปด้วยสระน้ำร้อนธรรมชาติ ซึ่งในอดีตผู้ตั้งถิ่นฐานชาวไอซ์แลนด์ก็เคยมาใช้สระน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพเหล่านี้ เมื่อพวกเขาเดินทางไกลผ่านพื้นที่ไฮแลนด์ และในปัจจุบันสระพวกนี้ก็ยังคงเป็นสถานที่แวะพักเพื่อผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้การแตะต้องของภูมิภาคนี้
ต่อไปเป็นการท่องเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์ และนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด 3 แห่งเมื่อมาเยือนไอซ์แลนด์
คุณจะปิดทริปในวันนี้ด้วยการไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งในสามแห่งนี้ และพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ ซึ่งเป็นผลงานธรรมชาติสร้างที่ทำให้ตระหนักถึงกิจกรรมของพลังงานความร้อนใต้พิภพที่หล่อหลอมความเป็นไอซ์แลนด์
ไกเซอร์เป็นศูนย์รวมของบ่อโคลน ภูมิประเทศเกรี้ยวกราด พุก๊าซที่มีไอน้ำพวยพุ่ง จุดเด่นของที่นี่อย่างหนึ่งคือน้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) น้ำพุร้อนที่มีแอกทีฟมากที่สุดในพื้นที่ โดยสโทรคูร์จะพ่นน้ำขึ้นไปบนฟ้าสูงถึง 66 ฟุต (20 ม.) ในเกือบจะทุกๆ 5 นาที
จากนั้นคุณจะเดินทางไปยังที่พักที่อยู่ในบริเวณวงกลมทองคำและพักเอาแรงเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่จะได้เห็นในวันพรุ่งนี้
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 4 - Northwest Iceland
- Northwest Iceland
- More
- น้ำตกกุลล์ฟอสส์
- เทือกเขาแคร์ลิงการ์ฟโยลล์
- คโยลูร์/คยาลแวกูร์
- More
วันนี้คุณจะไปชมสถานที่ท่องเที่ยวบนวงกลมทองคำอีกหนึ่งแห่งซึ่งเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่และงดงามมาก และมีชื่อที่หมายถึง "น้ำตกทองคำ"
น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) มีต้นน้ำมาจากแม่น้ำฮวิทเอา (Hvíta) ที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เมื่อน้ำมาถึงบริเวณน้ำตกกุลล์ฟอสส์จะไหลลดหลั่นลงไปเป็นน้ำตกสองชั้นที่ความสูง 105 ฟุต (32 ม.) พลังความแรงของน้ำที่ตกลงมานั้นรุนแรงมากจนทำให้เกิดละอองน้ำปกคลุมทั่วบริเวณหน้าผา
กิจกรรมตื่นเต้นสำหรับวันนี้คือทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่ธารน้ำแข็งลางโจกุล คุณจะโลดแล่นลัดเลาะข้ามผืนน้ำแข็งไปอย่างเพลิดเพลินพร้อมกับดื่มด่ำทิวทัศน์อันงดงามมากที่สุดเท่าที่คุณเคยเห็นมา
จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปทางเหนือผ่านช่องทางระหว่างภูเขาสูงที่เรียกว่าเคียวลูร์ (Kjölur) ซึ่งผู้ตั้งถิ่นฐานในยุคแรกใช้เทือกเขานี้เป็นทางผ่านเพื่อเข้าถึงพื้นที่ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์ และยังมีตำนานบอกเล่ามาว่าแถวเคียวลูร์นี้เคยเป็นที่ซ่อนตัวของอาชญากรชื่อดังอย่างฟยาลลา เอฟวินดูร์ (Fjalla-Eyvindur) ด้วย และเคียวลูร์ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีองค์ประกอบของหินไรโอไลต์หลากสีมีความสวยงามจับใจ
มีสถานที่ที่น่าสนใจอยู่สองสามแห่งระหว่างที่เดินทางไปตามถนนเคียวลูร์ แห่งแรกที่คุณจะเจอคือแคร์ลิงการ์ฟยอลล์ (Kerlingarfjöll) พื้นที่ภูเขากว้างใหญ่ที่ประกอบด้วยยอดเขาจำนวนมาก บริเวณนี้มีความสูงเกือบ 4,846 ฟุต (1477 ม.) และมีเส้นทางเดินป่ามากมายที่ท้าทายให้ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาทดสอบทักษะการเดินป่าและดื่มด่ำกับความสันโดษ และคุณสามารถมองเห็นธารน้ำแข็งสามแห่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ได้จากบนยอดเขา
ถัดมาที่ในไฮแลนด์ตอนกลาง (Central Highlands) เป็นพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพที่มีความงดงามมากเรียกว่าฮเวราเวลลิร์ (Hveravellir) ที่หมายถึง "ทุ่งน้ำพุร้อน" ซึ่งฮเวราเวลลิร์เปรียบเสมือนไข่มุกที่บริสุทธิ์ผุดผ่องไร้การแตะต้องของไอซ์แลนด์ พื้นที่นี้ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 2,133 ฟุต (650 ม.) และหลังจากที่ขับรถผ่านภูมิประเทศอันโหดร้ายของไฮแลนด์มาระยะหนึ่ง คุณจะรู้สึกว่าที่นี่เหมือนเป็นโอเอซิสเลยทีเดียว บริเวณนี้เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแช่น้ำอุ่นในสระน้ำร้อน หรือแม่น้ำที่ได้รับความร้อนธรรมชาติมาจากพลังงานความร้อนใต้พิภพก่อนที่จะออกเดินทางกันต่อ
จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านเซยดาร์โครคูร์ (Sauðarkrókur) และพักค้างคืนที่นี่
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 5 - สไนแฟลซเนส
- สไนแฟลซเนส
- More
- กองหินฮวิทแซร์กูร์
- ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
- หาดกรวดดำที่ดยูปาลอนส์ซานดูร์
- หน้าผาหินบะซอลต์ลอนดรังการ์
- สไนล์เฟลล์โจกุลล์
- หมู่บ้านบูดิร์
- หาดอีทรี ทุงกา
- More
วันนี้คุณจะได้ไปชมสถานที่ล้ำค่าของไอซ์แลนด์ตะวันตก นั่นก็คือคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) พื้นที่ที่มีความงดงามแห่งนี้มักถูกเรียกว่าเป็นไอซ์แลนด์ฉบับย่อส่วน ซึ่งหมายความว่าภูมิประเทศทางธรรมชาติหลากหลายรูปแบบทั่วไอซ์แลนด์มารวมกันให้เห็นอยู่ในบริเวณนี้ จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปยังเมืองสติกกิโฮลมูร์ (Stykkisholmur) ที่อยู่ริมคาบสมุทร เมืองที่แปลกตาแห่งนี้เป็นศูนย์รวมด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ และเหมาะสำหรับแวะพักเหยียดแข้งขาของคุณพร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อ
เบรียดาฟยอร์ดูร์ (Breiðafjörður) เป็นฟยอร์ดที่สวยงามบนคาบสมุทร ที่นี่มีสัตว์อาศัยอยู่มากมาย หน้าผาในบริเวณนี้มีความเก่าแก่มากที่สุดในประเทศ และเป็นที่อยู่ของนกพัฟฟินแอตแลนติก สำหรับที่เบรียดาฟยอร์ดูร์ คุณจะมีตัวเลือกกิจกรรมเสริมที่จะพาไปผจญภัยล่องเรือกินซูชิในแบบฉบับของชาวไวกิ้งด้วย โดยมีการผสมผสานระหว่างอาหารและวัฒนธรรมสองรูปแบบ และพาคุณท่องมหาสมุทรด้วยเรือประมง ซึ่งทีมงานบนเรือจะเสาะหาอาหารจากทะเลและจับมาทำเป็นอาหารเสิร์ฟให้กับคุณบนเรือพร้อมด้วยวาซาบิและซีอิ๊ว ให้คุณลิ้มรสความสดใหม่ในขณะที่เพลิดเพลินกับการชื่นชมวิวและแลนด์มาร์คบนคาบสมุทร
จากนั้นก็ได้เวลาออกเที่ยวบนคาบสมุทรแห่งนี้ โดยมีสถานที่ให้ไปชมหลายแห่งและคุณมีเวลามากมาย หนึ่งในสถานที่ที่โดดเด่นมากที่สุดในบริเวณนี้คือธารน้ำแข็งที่เป็นที่มาของชื่อคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส สไนล์เฟลล์โจกุล (Snæfellsjökull) เป็นภูเขาไฟที่ปกคลุมและล้อมรอบด้วยธารน้ำแข็ง โดยธารน้ำแข็งแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นฉากเริ่มต้นเรื่องของนิยายวิทยาศาสตร์มหากาพย์เรื่อง 'Journey to the Centre of the Earth' ของฌูล แวร์น (Jules Verne) มาแล้ว
หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสคือภูเขาเคิร์กจูแฟลล์ (Kirkjufell) ที่ตั้งตระหง่านด้วยความสูง 1,519 ฟุต (463 ม.) เห็นแล้วรู้สึกราวกับว่ารูปทรงกรวยยอดแหลมนี้กำลังชี้ทางไปสู่สรวงสวรรค์ หากใครรู้สึกคุ้นๆ กับภูเขาลูกนี้ นั่นเป็นเพราะคุณอาจเคยเห็นเขานี้มาจากซีรีส์ยอดนิยมของ HBO เรื่องเกมออฟโธรนส์ที่ใช้เคิร์กจูแฟลล์เป็นฉากในการถ่ายทำ และหากคุณต้องการเห็นภูเขาลูกนี้ในมุมที่ต่างไปจากเดิม คุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมพายเรือคายักเข้าไปในทริปวันนี้ ซึ่งคุณจะได้ลงไปพายเรือและแหงนมองภูเขาจากในน้ำเบื้องล่าง
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือหาดอิทรี ทุงกา (Ytri-Tunga) แนวชายฝั่งที่สวยงามแปลกตานี้เป็นสวรรค์สำหรับแมวน้ำ นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนมักจะได้เห็นสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้เพลิดเพลินกับเล่นน้ำ หรือนอนอาบแดดอยู่บนหาดอย่างเกียจคร้าน
ตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) เป็นหาดอีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน หาดนี้ตั้งอยู่บนอ่าวที่โค้งมนและหันหน้าประจันกับโขดทะเล และผืนทรายสีดำบนหาดแห่งนี้ยังทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตด้วย โดยเมื่อปี 1948 เรือลากอวนของอังกฤษได้อับปางลงนอกชายฝั่ง และชิ้นส่วนของเรือยังคงกระจัดกระจายอยู่บนหาดทิ้งหลักฐานเอาไว้ให้เห็นจนทุกวันนี้
หากคุณต้องการทำอะไรที่สนุกตื่นเต้นในวันนี้ คุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมเที่ยวถ้ำลาวาเข้าไปในทริปได้ อุโมงค์ลาวาวาทน์เฮลลิร์ (Vatnshellir) อายุ 8,000 ปีแห่งนี้เกิดขึ้นภายหลังการปะทุของภูเขาไฟเมื่อกว่าหนึ่งพันปีก่อน และในทัวร์เที่ยวถ้ำลาวา คุณจะได้ลงไปใต้พื้นดินและเดินตามเส้นทางที่เคยเป็นทางผ่านของแมกมาเมื่อนานมาแล้ว
คุณยังจะได้ไปชมหมู่บ้านประมงที่สวยแปลกตา ทั้งที่หมู่บ้านเฮลล์นาร์ (Hellnar) และอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) ซึ่งอยู่ใต้เงาของภูเขาและหันหน้าออกสู่ทะเล ชุมชนขนาดเล็กทั้งสองแห่งนี้มีธรรมชาติที่งดงามและบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาวไอซ์แลนด์ได้เป็นอย่างดี คืนนี้คุณจะพักค้างคืนอยู่บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 6 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
- น้ำพุร้อนเดลตาร์ตุงกูแวร์
- แหล่งประวัติศาสตร์เรคโฮลท์
- น้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์และน้ำตกบาร์นาฟอสส์
- โบสถ์และฟาร์มที่บอร์กา มิรุม
- More
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเดินทาง ก่อนที่คุณจะมุ่งหน้ากลับเรคยาวิก คุณยังมีโอกาสสนุกกับกิจกรรมเสริมที่ตื่นเต้นอีก โดยคุณสามารถเลือกไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งจากฮูสาเฟลล์ (Husafell) ได้ในวันนี้ ทัวร์นี้คุณต้องไปพบกับคณะที่เบสแคมป์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากธารน้ำแข็งลางโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป จากนั้นคุณจะไปขึ้นรถมอนสเตอร์ทรัคขับเคลื่อน 8 ล้อที่พร้อมลุยได้ทุกสภาวะเพื่อเดินทางขึ้นไปบนทางลาดชันของธารน้ำแข็ง เมื่อเดินทางไปถึงปากทางเข้าอุโมงค์น้ำแข็งแล้ว คุณจะได้เข้าไปสำรวจโลกแห่งน้ำแข็งสีฟ้าและขาวที่อยู่ด้านใน
นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกกิจกรรมเสริมที่พาไปทัวร์ในอุโมงค์ลาวาที่วิดเกลมมิร์ ซึ่งเป็นอุโมงค์ลาวาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ได้ด้วย อุโมงค์นี้ตั้งอยู่ในทางตะวันตกของประเทศใต้ทุ่งลาวา ฮอลล์มุนดาร์เฮิร์น (Hallmundarhraun) ซึ่งก่อตัวขึ้นเมื่อราวปีค.ศ. 900 คนส่วนมากจะคิดว่าด้านในถ้ำลาวาจะต้องมืดและแคบ แต่ที่วิดเกลมิร์นั้นตรงข้ามทุกอย่าง เนื่องจากผนังถ้ำวิดเกลมิร์กว้างมากกว่า 52 ฟุต (16 ม.) และสูง 52 ฟุต (15.8 ม.) คุณจะได้ลงไปสำรวจข้างในถ้ำลาวาและตื่นตาตื่นใจไปกับโลกของหินใต้ดิน
จากบริเวณนี้คุณจะมุ่งหน้าไปยังน้ำตกที่สวยงามสองแห่ง น้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) เป็นน้ำตกหลายอันติดต่อกันที่เกิดขึ้นจากการที่น้ำจืดไหลผ่านหินลาวา ทำให้เกิดเป็นกำแพงม่านน้ำที่สวยงามท่ามกลางสวนธรรมชาติอันงดงาม ส่วนน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) หรือ "น้ำตกเด็ก" นั้นมีน้ำไหลผ่านชะง่อนหินลาวา ทำให้เกิดเป็นแก่งที่มีน้ำเชี่ยวกราก
จากนั้นคุณจะเดินทางต่อไปตามถนนผ่านพื้นที่ไฮแลนด์คัลดิดาลูร์
(Kaldidalur) เพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายบนวงกลมทองคำ ซึ่งก็คืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Thingvellir) ซึ่งมีธรรมชาติที่สวยงามและมีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์สำหรับชาวไอซ์แลนด์ ธิงเวลลีย์เป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกและยังเป็นสถานที่ตั้งของสภาประชาธิปไตยแห่งแรกของโลกด้วย บริเวณนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาและที่ราบกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ตลอดจนหน้าผาหิน และเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดเมื่อมาเยือนไอซ์แลนด์
เสร็จจากที่นี่คุณจะเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ และเมื่อไปถึงที่เรคยาวิก คุณยังมีเวลาเหลือให้เพลิดเพลินกับชีวิตกลางคืนในเมืองหลวงที่อยู่ทางเหนือสุดของโลกแห่งนี้ต่อได้อีก
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 7 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
- More
- เคลฟาร์วาทน์
- ครีซูวิก
- กุนนูฮแวร์
- More
วันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงบ่าย คุณยังมีเวลาเที่ยวในเมืองได้อีกหน่อย ซึ่งเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้ไป ไปชมพิพิธภัณฑ์ หรือหาซื้อของฝาก
ถ้าหากในวันแรกที่เดินทางมาถึงคุณยังไม่ได้ไปแช่น้ำที่บลูลากูน หรือคุณไปมาแล้วแต่อยากไปซ้ำอีกรอบ วันนี้คุณก็ยังสามารถไปเที่ยวบลูลากูนก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้านได้
จากนั้นคุณจะนำรถเช่าไปส่งคืนที่สนามบินนานชาติเคฟลาวิกก่อนขึ้นเครื่องบิน คุณจะบอกลาไอซ์แลนด์และหอบเอาความทรงจำสุดพิเศษของทริปครั้งนี้กลับไปด้วย ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ หรือที่ในภาษาไอซ์แลนด์บอกว่า "Goða Ferð"
ประสบการณ์
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้สามารถเริ่มต้นออกเดินทางได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิก หรือสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนท้องถนนอย่างน้อยหนึ่งปี ทั้งนี้แผนการท่องเที่ยวที่จัดไว้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย และอาหารเช้านั้นอาจไม่รวมอยู่ในโฮสเทลและเกสต์เฮาส์บางแห่งที่เลือก
โปรดทราบว่าสำหรับกิจกรรมบางอย่างที่คุณเลือก คุณอาจจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ หรือคุณอาจจะต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนการเดินทางของคุณ และคุณอาจจะต้องแสดงเอกสารรับรองทางการแพทย์ในการดำน้ำตื้น
และถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้น โปรดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมมาด้วย
แพ็คเกจไม่รวมความคุ้มครองรถยนต์จากกรวดหากคุณเลือกใช้รถ Toyota Aygo หรือที่คล้ายกัน
วิดีโอ
รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว
แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด