แพ็คเกจเที่ยวไอซ์แลนด์หน้าร้อน 7 วันแบบเจาะลึก พร้อมเดย์ทัวร์กรีนแลนด์แบบมีไกด์

ในวันที่สอง คุณจะได้เยี่ยมชมคาบสมุทรสไนล์แฟลเนสที่น่าทึ่ง ที่มักเรียกกันว่า 'ไอซ์แลนด์ในรูปแบบย่อส่วน' เนื่องจากมีทิวทัศน์มากมายที่แผ่กระจายไปทั่วระยะทาง 90 กิโลเมตร ปัจจุบันจะเต็มไปด้วยการผจญภัยเที่ยวชมสถานที่

อันดับแรกในแผนเที่ยววันนี้คือการเยี่ยมชมอัญมณียอดมงกุฎของคาบสมุทร นั่นคือธารน้ำแข็งสไนเฟลส์โจกุลอันงดงาม ภูเขาไฟขนาดมหึมาที่ดับแล้วแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะฉากในนวนิยายอันน่าตื่นเต้นของ Jules Verne เรื่อง 'Journey to the Centre of the Earth' เมื่อคุณยืนอยู่ท่ามกลางรูปลักษณ์อันน่าเกรงขาม คุณจะรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าสู่หน้าหนังสือของเรื่องราวการผจญภัยสุดคลาสสิก

ถัดไปที่จะเห็นคือดยูปาโลนส์ซานดูร์ที่มีเสน่ห์ หาดทรายสีดำที่ดูราวกับอยู่ในความฝัน คลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งทำให้เกิดภาพที่น่าหลงใหล เหมาะสำหรับการชมและถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง

บริเวณใกล้เคียงมีโขดหินบะซอลต์และหน้าผาลอนดรังการ์อันเป็นเอกลักษณ์ การก่อตัวทางธรณีวิทยาที่สูงตระหง่านเหล่านี้ก่อตัวขึ้นจากลมและคลื่นที่ยืนหยัดงามสง่าอยู่ตามแนวชายฝั่งอันขรุขระ

หมู่บ้านอาร์นาร์สตาปิและเฮลล์นาร์ที่งดงามก็อยู่ในแผนการเดินทางของคุณเช่นกัน ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสชีวิตที่มีเสน่ห์และแปลกตาของชายฝั่งไอซ์แลนด์ นอกจากทิวทัศน์ชายฝั่งที่ล้อมรอบด้วยภูเขาแล้ว การเยี่ยมชมชุมชนเหล่านี้ยังช่วยให้คุณเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย

อย่าลังเลที่จะถามคำถามกับไกด์ของคุณเกี่ยวกับประเพณีและประวัติศาสตร์ของการตั้งถิ่นฐานเหล่านี้

และสุดท้ายคุณจะได้เผชิญหน้ากับหนึ่งในภูเขาที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์อย่างคิร์กจูเฟลล์ รูปทรงกรวยอันโดดเด่นตั้งตระหง่านเหนือเส้นขอบฟ้า ทำให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ต้องไปชม

สำหรับผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมป๊อป คุณอาจจำคิร์กจูเฟลล์ได้ว่าเป็น "ภูเขาหัวลูกศร" ในรายการทีวีชื่อดังเรื่อง Game of Thrones

หลังจากท่องเที่ยวมาทั้งวันด้วยทิวทัศน์อันน่าทึ่งและช่วงเวลาที่น่าจดจำ คุณจะได้เดินทางกลับไปยังเมืองหลวงเรคยาวิกที่มีชีวิตชีวา เพื่อพักผ่อนยามค่ำคืนอย่างคุ้มค่า พรุ่งนี้ยังมีการผจญภัยอีกมากมาย ดังนั้นชาร์จแบตให้เต็มและเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศไอซ์แลนด์เพิ่มเติม

วันที่สามคุณจะเดินทางไปตามแนวชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ภูมิภาคนี้ของไอซ์แลนด์เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมเนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและอยู่ใกล้กับเรคยาวิก

คุณจะเริ่มต้นวันด้วยการนั่งรถไปยังน้ำตกขนาดมหึมาสองแห่ง ได้แก่ น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์และน้ำตกสโคกาฟอสส์ ซึ่งทั้งสองมีความสูง 60 เมตรเหมือนกันแต่มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างมาก

แห่งแรกไหลลงสู่ลำธารแคบๆ ที่อยู่เหนือถ้ำขนาดเล็ก ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมสายน้ำตกจากมุมที่ไม่เหมือนที่ไหนได้ แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะตัวเปียกจากละอองน้ำด้วย

ตรงกันข้ามน้ำตกสโคกาฟอสส์นั้นมีความกว้างมากกว่าและมีพลังแรงกว่า ทำให้มีละอองน้ำหนาทึบจนมักจะมีรุ้งกินน้ำสองตัวออกมาปรากฏให้เห็นในวันที่มีแดด คุณสามารถชมม่านน้ำได้จากหุบเขาที่ราบด้านล่าง หรือขึ้นบันไดข้างหน้าผา

วันนี้คุณยังสามารถเลือกไปร่วมกับทัวร์ปีนธารน้ำแข็งที่โซลเฮมาโจกุลได้ด้วย ซึ่งธารน้ำแข็งที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของผืนน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ที่มีขนาดใหญ่กว่า คุณจะเดินขึ้นไปบนผืนน้ำแข็งขนาดมหึมาพร้อมกับไกด์ปีนธารน้ำแข็งมืออาชีพ และจะได้เห็นน้ำแข็งสีฟ้าที่มีรอยเถ้าสีดำเป็นริ้วๆ หลงเหลือให้เห็นจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต

หลังจากนั้นคุณจะได้ไปชมหาดทรายดำเรย์นิสฟยาราและได้เห็นคลื่นทะเลที่ซัดกระหน่ำเข้าหาฝั่งอย่างแรง นอกจากทรายภูเขาไฟที่แปลกตาแล้ว เรย์นิสฟยารายังมีเสาหินบะซอลต์และชั้นหินทะเล ซึ่งจะทำให้การมาเยือนของคุณสนุกสนานยิ่งขึ้น

และอย่าลืมแหงนหน้ามองขึ้นไปบนริมผาเพื่อมองหานกพัฟฟินที่กำลังง่วนกับการทำรังด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน คุณจะไปถึงหมู่บ้านชายฝั่งวิกเพื่อแวะพัก ชุมชนที่สวยงามแห่งนี้มีร้านค้าและร้านกาแฟที่น่าสนใจที่คุณสามารถเยี่ยมชมได้

จากตรงนี้คุณจะเดินทางต่อไปทางตะวันออกจนกว่าจะไปถึงพื้นที่ใกล้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน พรุ่งนี้คุณจะมีเวลาทั้งวันในการสำรวจทะเลสาบธารน้ำแข็งและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง สำหรับตอนนี้ คุณสามารถพักค้างคืนในที่พักในไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ของคุณได้

ในวันที่สี่ของคุณ การเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิกตามชายฝั่งทางใต้สัญญาว่าจะสนุกสนานเมื่อคุณแวะไปยังจุดที่น่าทึ่งทั้งหมดที่คุณอาจพลาดไประหว่างทางที่นี่ แต่ก่อนหน้านั้น คุณจะได้มีช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นในการสำรวจความมหัศจรรย์ของทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนกันก่อน

ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่โด่งดังจากภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่ ภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปที่ครอบคลุมพื้นที่อย่างน้อย 10% ของประเทศไอซ์แลนด์ ตัวทะเลสาบเองมีขนาดค่อนข้างเล็กและเพิ่งก่อตัวขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เท่านั้น เนื่องจากธารน้ำแข็งที่กำลังหดตัวเรื่อยๆ

โจกุลซาร์ลอนไม่ได้เป็นเพียงแหล่งน้ำนิ่งแต่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ภูเขาน้ำแข็งแยกตัวออกจากธารน้ำแข็งและค่อยๆ เคลื่อนตัวไปสู่มหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สีฟ้าอันน่าทึ่งของทะเลสาบเป็นผลมาจากการอัดตัวของน้ำแข็ง ซึ่งทำให้ผลึกน้ำแข็งกระจายแสงในลักษณะที่ไม่เหมือนใคร

หากต้องการชมภูเขาน้ำแข็งในระยะใกล้ยิ่งขึ้น คุณสามารถเลือกทัวร์ทางเรือได้ เรือสะเทินน้ำสะเทินบกเหล่านี้เปลี่ยนจากบกสู่น้ำได้อย่างราบรื่น ช่วยให้คุณเดินทางท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งได้อย่างปลอดภัย

น้ำอันเงียบสงบของทะเลสาบเป็นโอกาสพิเศษในการสังเกตการก่อตัวของน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่น่าทึ่งของภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาเหล่านี้

ขณะสำรวจทะเลสาบ ให้จับตาดูแมวน้ำ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันว่าพวกมันอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ การแสดงท่าทางสนุกสนานของพวกมันช่วยเพิ่มเสน่ห์ตามธรรมชาติของทะเลสาบธารน้ำแข็ง

หลังจากท่องเที่ยวที่โจกุลซาร์ลอนแล้ว คุณจะได้มุ่งหน้าไปยังหาดไดมอนด์ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ที่นี่ ภูเขาน้ำแข็งที่ลอยออกมาจากทะเลสาบถูกพัดขึ้นมาบนชายฝั่ง ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างน่าทึ่งกับทรายสีดำ ภูเขาน้ำแข็งเปล่งประกายระยิบระยับเมื่อถูกแสงแดด คล้ายเพชรที่กระจัดกระจายไปทั่วชายหาด จึงเป็นที่มาของชื่อ "หาดไดมอนด์"

เมื่อหมดวัน คุณจะกลับไปที่เรคยาวิกเพื่อพักค้างคืนที่สี่ เป็นการพักผ่อนที่สมควรได้รับหลังจากวันที่เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ในวันที่ห้า คุณจะต้องตื่นแต่เช้าและมุ่งหน้าไปยังสนามบินภายในประเทศของเรคยาวิกเพื่อเดินทางไปยังกรีนแลนด์ เที่ยวบินไปกลับรวมอยู่ในแพ็คเกจทัวร์ฤดูร้อนของคุณแล้ว

เที่ยวบินสองชั่วโมงจากเรคยาวิกไปยังคุลลุสค์ทำให้คุณได้เห็นวิวทะเลและมหาสมุทรสีครามอันกว้างใหญ่ เมื่อเดินทางถึงที่หมายคุณจะได้เห็นภาพอันตระการตาของแผ่นน้ำแข็งและแนวชายฝั่งที่เต็มไปด้วยภูเขาที่ประกอบเป็นภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของกรีนแลนด์

ตั้งอยู่ภายในฟยอร์ดที่งดงามราวกับภาพวาด ล้อมรอบด้วยภูเขาขรุขระและมียอดหยึกหยัก ภูมิทัศน์ที่สวยงามของคุลลุสค์จะสะกดใจคุณ คุณจะมีโอกาสสำรวจใจกลางชุมชน ชื่นชมสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ โบสถ์ที่แปลกตาของเมือง และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เพื่อทำความเข้าใจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับมรดกอันยาวนานของเกาะกรีนแลนด์

ระหว่างที่เที่ยวชมอยู่นั้น คุณจะมีโอกาสมากมายในการพูดคุยกับชาวบ้านที่ให้การต้อนรับ ทำความเข้าใจวิถีชีวิตของพวกเขาให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และความท้าทายที่พวกเขาเผชิญในสภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์นี้ ฉากหลังอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่มีธารน้ำแข็งสูงตระหง่านและมหาสมุทรอาร์คติก มอบบรรยากาศที่น่าทึ่งสำหรับการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมของคุณ

นอกจากนี้ การชมภูเขาน้ำแข็งยังเป็นกิจกรรมยอดนิยมในพื้นที่ เนื่องจากมีก้อนน้ำแข็งจำนวนมากแตกออกจากแผ่นน้ำแข็งขนาดมหึมาของกรีนแลนด์

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เป็นไปได้คือโอกาสในการชมการเต้นรำกลองของชาวเอสกิโม ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมอันน่าหลงใหลนี้ทำให้ได้สัมผัสถึงประเพณีของชุมชนที่น่าทึ่งแห่งนี้ จังหวะและการแสดงที่มีสีสันจะทำให้คุณมีความทรงจำอันยาวนานในช่วงเวลาของคุณในคุลลุสค์

เมื่อเที่ยวชมได้สักพักคุณจะพบว่าตัวเองหลงใหลในความอบอุ่นของคนในท้องถิ่นและความงามที่แท้จริงของสภาพแวดล้อม ไกด์ที่มีประสบการณ์จะนำคุณไปทั่วหมู่บ้านเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ของคุณ พวกเขาจะเล่าให้คุณฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว และเรื่องราวท้องถิ่นอื่นๆ เกี่ยวกับคุลลุสค์

คุณจะกลับไปที่สนามบินหลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสำรวจเพื่อบินกลับไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ ที่ซึ่งคุณจะได้พักค้างคืน

วันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์จะมุ่งเน้นไปที่จุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงที่สุดสามแห่งของประเทศที่เป็นเกาะแห่งนี้ สถานที่เหล่านี้ตั้งอยู่ในวงกลมทองคำ หลังจากที่ไกด์เข้าไปรับคุณ หรือคุณไปพบกับไกด์ ณ จุดนัดพบแล้ว คุณจะเริ่มต้นการเดินทางของทริปเที่ยวชนบทในวันนี้

สถานที่แรกคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ชาวไอซ์แลนด์ได้ก่อตั้งสถาบันประชาธิปไตย์ขึ้นซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในฐานะรัฐสภาที่ดำเนินมายาวนานที่สุดในโลก ทำให้ที่นี่เป็นมรดกโลกของยูเนสโก 

ธรณีวิทยาของอุทยานแห่งนี้ยังมีเสน่ห์อีกด้วย โดยตั้งอยู่ระหว่างหุบเขารอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียน หุบเขาอันเขียวชอุ่ม หุบเหว น้ำตก และทะเลสาบเป็นเพียงลักษณะทางธรรมชาติคือตัวอย่างของสิ่งที่คุณจะได้เห็นที่นี่

หลังจากชมธิงเวลลีร์แล้ว คุณจะมุ่งหน้าไปยังหุบเขาเฮยคาดาลูร์ ภูมิภาคนี้เป็นที่ตั้งของน้ำพุร้อน พุก๊าซ และไกเซอร์อันเป็นเอกลักษณ์สองแห่ง

ไกเซอร์อันแรกซึ่งเป็นต้นแบบของการเรียกน้ำพุร้อนแห่งอื่นๆ ทั้งหมดว่าไกเซอร์นั้นไม่แอกทีฟแล้ว แต่สโทรคูร์ซึ่งเป็นไกเซอร์แห่งที่สองในบริเวณใกล้เคียงจะปะทุขึ้นสูงอย่างน่าประทับใจทุกๆ ห้าถึงสิบนาที ความถี่นี้จะทำให้คุณสามารถชื่นชมและบันทึกการปะทุของสโทรคูร์ได้อย่างน้อยหนึ่งหรือสองครั้งเมื่อคุณมาเยือน

ห่างออกไปไม่ถึงสิบนาทีตามถนน คุณจะพบสถานที่สุดท้ายของวงกลมทองคำ ซึ่งเป็นน้ำตกกุลล์ฟอสส์อันยิ่งใหญ่และน่าตื่นตาตื่นใจ น้ำตกอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ไหลเป็นสองชั้นก่อนที่จะตกลงสู่หุบเขาโบราณแคบๆ 

ขณะอยู่ที่น้ำตกกุลล์ฟอสส์ คุณสามารถเดินไปรอบๆ สถานที่เพื่อค้นหาจุดชมวิวที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ

นอกจากสถานที่ทั้งสามแห่งในวงกลมทองคำแล้ว คุณยังมีตัวเลือกการผจญภัยทั้งหมดสามแบบที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปในทริปวันนี้ได้ คุณสามารถเลือกเข้าร่วมทัวร์ดำน้ำตื้นในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล หรือทัวร์ขี่ม้าพื้นเมืองที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ ทั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นจะต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้

คุณสามารถเลือกหนึ่งในกิจกรรมเสริมเหล่านี้ได้ในขั้นตอนการจองหรือด้วยความช่วยเหลือจากตัวแทนการท่องเที่ยวส่วนตัวของคุณ

ไม่ว่าคุณจะเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหรือไม่ก็ตาม คุณจะกลับไปพักที่ในเมืองหลวงสำหรับคืนสุดท้ายของคุณ

วันที่ต้องบอกลาเสน่ห์แห่งฤดูร้อนของประเทศไอซ์แลนด์มาถึงแล้ว หลังจากรับประทานอาหารเช้ามื้อใหญ่ในเมืองเรคยาวิก ก็ถึงเวลาที่จะแพ็คของและขึ้นรถบัสที่จะพาคุณไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ซึ่งเที่ยวบินกลับบ้านของคุณรออยู่

เพลิดเพลินไปกับการนั่งรถชมวิวเป็นครั้งสุดท้าย ดื่มด่ำกับความงามของภูมิประเทศไอซ์แลนด์ในขณะที่คุณมุ่งหน้าไปยังสนามบิน

หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงท้ายวัน คุณก็ยังมีโอกาสได้สนุกสนานในเมืองเรคยาวิกได้อีก เมืองนี้มีกิจกรรมผจญภัยและผ่อนคลายที่จะทำให้นักเดินทางที่อยากรู้อยากเห็นทุกคนตื่นเต้น

ผู้ชื่นชอบอาหารไม่ควรพลาดโอกาสลิ้มลองอาหารท้องถิ่น เช่น เนื้อแกะ สตูว์ปลา และฮอตดอกไอซ์แลนด์ที่ร้านต่างๆ เช่น Baejarins Beztu Pylsur สำหรับของหวาน ลองสกีร์เค้ก หรือไอศกรีมเนื้อครีมข้นแบบไอซ์แลนด์ สกีร์ (Skyr) เป็นอาหารชั้นเลิศในท้องถิ่นที่สามารถเปรียบได้กับโยเกิร์ต

ในขณะเดียวกัน นักช้อปก็สามารถสำรวจร้านบูติกและร้านขายงานฝีมือริมถนนเลยกาแวกูร์ซึ่งคุณจะได้พบกับเสื้อสเวตเตอร์ขนสัตว์ไอซ์แลนด์ เครื่องประดับ และของที่ระลึกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเหล่านี้เป็นของที่ระลึกที่ดีเยี่ยมซึ่งคุณสามารถนำกลับบ้านไปให้เพื่อนและครอบครัวของคุณได้

หากคุณชอบท่องเที่ยว ลองแวะไปที่โบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา โบสถ์สูงที่มีสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์และทิวทัศน์อันงดงามจากจุดชมวิว สำรวจฉากสตรีทอาร์ตของเมืองด้วยจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใสที่ประดับประดาอาคารหลายแห่ง คุณยังสามารถเดินเล่นไปตามริมท่าเรือเก่าเพื่อเพลิดเพลินไปกับลมทะเลและชมเรือประมงที่ลอยอยู่ในน้ำ

หากต้องการตัวเลือกเพิ่มเติม ลองไปที่เพอร์ลานซึ่งเป็นโดมแก้วที่สร้างจากแท้งค์น้ำ ที่นั่นมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองและบริเวณโดยรอบ เพอร์ลานยังเป็นที่ตั้งของนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับธรรมชาติที่หลากหลายของไอซ์แลนด์ รวมถึงถ้ำน้ำแข็ง ภูเขาไฟ และสัตว์ป่า

เมื่อหมดวัน คุณจะมุ่งหน้าไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน พร้อมนำความทรงจำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการต้อนรับแบบไอซ์แลนด์ที่สวยงามติดตัวไปด้วย และคุณจะกลับมาเที่ยวในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็งอีกในไม่ช้า ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ แล้วพบกันใหม่เร็วๆ นี้