กิจกรรมยอดนิยมในไอซ์แลนด์
จองทริปของคุณกับบริษัทที่ดีที่สุดเท่านั้น
สำหรับแพ็คเกจ 7 วันนี้ คุณจะไปเที่ยววงกลมทองคำอันโด่งดัง ซึ่งคุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมผจญภัย เช่น ขี่สโนว์โมบิลบนกลาเซียร์ ดำน้ำตื้นสน็อกเกิลในรอยแยกซิลฟรา และขี่ม้าไอซ์แลนด์เข้าไปในแพ็คเกจได้
คุณจะได้เดินทางท่องเที่ยวบนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ซึ่งมีความงดงามสุดแสนประทับใจเป็นเวลา 2 วันด้วย โดยจะไปชมน้ำตก หาดทรายดำ กลาเซียร์ และทะเลสาบธารน้ำแข็ง ที่ทะเลสาบคุณจะมีโอกาสได้ไปปีนธารน้ำแข็งและถ้าหากคุณเดินทางมาในช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป คุณยังสามารถล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนได้ด้วย
กลับมาที่เรคยาวิก (Reykjavík) คุณจะต้องตัดสินใจเลือกระหว่างเข้าไปในธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) หรือเข้าไปในโถงแมกมาใต้ภูเขาไฟ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกใช้เวลาไปกับการสำรวจเมืองเรคยาวิก เดินทางเข้าไปในไฮแลนด์ หรือจะเลือกไปดูวาฬก็ได้
ทั้งที่พัก การเดินทาง และกิจกรรมต่างๆ จะถูกจัดเตรียมไว้ก่อนที่คุณจะเดินทางมาถึง สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงตัดสินใจว่าคุณจะใช้เวลาที่ไอซ์แลนด์ทำอะไรบ้างเท่านั้นเอง ออกแบบทริปในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟของคุณด้วยตัวเองและจองแพ็คเกจซัมเมอร์ 7 วันสุดพิเศษตอนนี้เลย ตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่คุณต้องการเดินทาง
จุดแวะเที่ยวแห่งแรกคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) ซึ่ง UNESCO ประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกเนื่องจากผู้เข้ามาตั้งถิ่นฐานชาวไวกิงยุคแรกเริ่มได้ตั้งรัฐสภาหรืออัลทิงกิ (Alþingi) ขึ้นที่นี่เมื่อกว่าหนึ่งพันปีมาแล้ว ภายในอุทยานฯ ยังเป็นจุดที่แผ่นเปลือกทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือมาบรรจบกันและเกิดแรงดึงจนทำให้เกิดรอยแยกขนาดใหญ่ที่แบ่งเขตแผ่นดินของสองทวีปออกจากกัน
แรงดึงที่ว่านี้ยังทำให้เกิดภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหุบเหวและรอยแยก หนึ่งในนั้นคือรอยแยกซิลฟราที่ปัจจุบันมีน้ำจากธารน้ำแข็งที่มีความใสราวกับคริสตัลไหลเข้าไปเติมเต็มจนเกิดเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ได้รับความนิยมมาก คุณสามารถเพิ่มทัวร์ดำน้ำที่ซิลฟราเข้าไปในกิจกรรมเสริมสำหรับวันนี้ก็ได้ถ้าคุณอยากลงไปว่ายน้ำในรอยต่อระหว่างสองทวีป
จุดหมายต่อไปคือทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) ซึ่งเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยไกเซอร์หรือน้ำพุร้อนเดือดปุดๆ สถานที่ท่องเที่ยวหลักคือน้ำพุร้อนสโทรคูร์ที่พ่นน้ำสูงขึ้นฟ้าในทุกๆ ไม่กี่นาที และเนื่องจากในน้ำร้อนมีแร่ธาตุหลายชนิด ดินโคลนแถวนี้เลยมีสีสันประหลาดหลากหลายเฉดสีจนทำให้ทุ่งน้ำพุร้อนแห่งนี้มีลักษณะแปลกตาราวกับอยู่นอกพิภพ
สถานที่เที่ยวสุดท้ายก่อนที่จะกลับเข้าไปเมืองในวันนี้คือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) น้ำตกขนาดมหึมาในแม่น้ำกลาเซียร์ฮวิทเอา (Hvítá) แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามมากที่สุดในไอซ์แลนด์ โดยเฉพาะในช่วงที่อาบแสงอาทิตย์เที่ยงคืน
หากคุณอยากทำอะไรที่สนุกตื่นเต้นในวันนี้ แนะนำให้เพิ่มทัวร์ขี่สโนว์โมบิลเข้าไปในแพ็คเกจ ทัวร์นี้ออกเดินทางจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ คุณจะได้ขึ้นไปบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) และสนุกกับการเร่งสปีดเครื่องยนต์โลดแล่นไปบนผืนน้ำแข็งขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา
สำหรับผู้ที่อยากทำอะไรสนุกตื่นเต้นแบบสโลว์ไลฟ์หน่อย แนะนำให้จองทัวร์ขี่ม้าและออกไปขี่ม้าชมธรรมชาติสวยๆ ในเขตชนบทของไอซ์แลนด์แทน คุณจะได้ทดลองขี่ม้าไอซ์แลนด์อันเลื่องชื่อด้วยตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าม้าเหล่านี้เดินได้นิ่มอย่างที่ว่ากันจริงไหม
หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมคุณจะเดินทางกลับเข้าไปพักค้างคืนที่ในเมือง
สถานที่แรกที่คุณจะไปในวันนี้คือน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) น้ำตกมีความสูงมากและมีสายน้ำไหลลงถ้ำขนาดเล็กด้านล่าง แต่ด้วยความที่ตัวน้ำตกมีขนาดที่ไม่กว้างมากนัก นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินอ้อมไปชมน้ำตกจากด้านหลังได้ทำให้สามารถเห็นน้ำตกได้จากทุกทิศทุกทาง
จากนั้นคุณจะไปเที่ยวน้ำตกอีกหนึ่งแห่งที่สวยงามไม่แพ้กันแต่มีขนาดแตกต่างอย่างสิ้นเชิง น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) เป็นน้ำตกที่มีขนาดกว้างใหญ่และมีน้ำไหลตกลงที่พื้นเรียบด้านล่างอย่างแรงจนก่อให้เกิดละอองน้ำพัดปกคลุมทั่วบริเวณ ในวันที่แดดออกคุณจะเห็นสายรุ้งคาดซ้อนกันสองชั้นอยู่ท่ามกลางละอองน้ำด้วย
เอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) และคัทลา (Katla) เป็นภูเขาไฟที่มีกลาเซียร์ปกคลุมสองลูกที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่บนชายฝั่งทางใต้ เอยาฟยาลลาโจกุลล์นั้นเป็นที่รู้จักดี เนื่องจากเพิ่งระเบิดอย่างรุนแรงไปเมื่อปี 2010 ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรทางอากาศไปหลายวัน ส่วนคัทลานั้นยังคงสงบนิ่งอยู่ภายใต้ผืนน้ำแข็งของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull)
หากคุณต้องการเพิ่มความสนุกตื่นเต้นเร้าใจ คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ปีนกลาเซียร์ที่โซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) ซึ่งเป็นส่วนปลายของมิร์ดาลสโจกุลเข้าไปในทริปวันนี้ได้ ทัวร์นี้จะพานักท่องเที่ยวไปชมวิวรอยแยกลึกสีฟ้าบนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งและยอดธารน้ำแข็งขาวโพลนที่ถูกเถ้าสีดำปกคลุมตั้งแต่เมื่อครั้งที่มีการปะทุของภูเขาไฟ
จากบริเวณนี้คุณจะเดินทางต่อไปยังหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่ซึ่งคุณจะได้ยินเสียงกึกก้องของเกลียวคลื่นจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือพัดสาดกระทบตลอดแนวชายฝั่งสีดำและปะทะเข้ากับหินเรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar) สูง 66 เมตรในทะเลเข้าอย่างแรง อย่าลืมมองหานกพัฟฟินด้วย เพราะพวกมันชอบมาทำรังอยู่บนหน้าผาแถวนั้น
ต่อจากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกจนถึงที่พักสำหรับคืนนี้ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล
ทะเลสาบธารน้ำแข็งขนาดมหึหาแห่งนี้เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่แตกตัวออกมาจากธารน้ำแข็งที่อยู่ติดกัน พวกมันค่อยๆ ลอยอย่างเชื่องช้าไปตามน้ำนิ่งไหลเอื่อยเพื่อเดินทางออกสู่มหาสมุทร บางครั้งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นแมวน้ำออกมาว่ายน้ำ หาอาหาร และหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางกลุ่มภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้
หากคุณต้องการเห็นภูเขาน้ำแข็งอย่างใกล้ชิดและคุณมาในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมและตุลาคมพอดี คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ล่องเรือในทะเลสาบเข้าไปในทริปได้ เรือสะเทินน้ำสะเทินบกจะพาคุณเดินทางซอกแซกระหว่างภูเขาน้ำแข็งในทะเลสาบให้คุณได้บันทึกภาพที่น่าประทับใจอย่างใกล้ชิด
เดินจากทะเลสาบไปไม่ไกลจะเป็นหาดไดมอนด์หรือหาดเพชร ซึ่งมีภูเขาน้ำแข็งก้อนขนาดย่อมถูกพัดมาเกยตื้นมากมาย และเมื่อแสงอาทิตย์ส่องลงมากระทบกับน้ำแข็งเหล่านั้น พวกมันจะส่องประกายระยิบระยับราวกับเป็นอัญมณีที่อยู่บนหาดทรายสีดำ ภาพนี้เป็นฉากพื้นหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่เลยก็ว่าได้
จากนั้นคุณจะเดินทางกลับเข้าไปในเมืองหลวงเพื่อพักค้างคืน แต่ระหว่างที่เดินทางกลับไกด์จะพาแวะเที่ยวชมสถานที่โปรดของเขาและแบ่งปันความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับธรรมชาติของไอซ์แลนด์ให้กับคุณ
ตัวเลือกแรกเหมาะสำหรับผู้ที่อยากเข้าใกล้อะไรที่ร้อนแรงหน่อย เพราะทริปเที่ยวภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Þríhnúkagígur) จะพาคุณลงไปใต้พิภพเพื่อไปชมโถงแมกมาใต้ภูเขาไฟลูกใหญ่ที่กำลังหลับใหล ในโพรงอันมืดมิดนี้มีผนังหินสีสันสวยสดงดงามแปลกตาเนื่องจากมีแร่ธาตุปนอยู่มาก และที่นี่จะทำให้คุณนึกถึงถ้ำที่ซ่อนขุมทรัพย์ของมังกร
ตัวเลือกที่สองเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหนาวเย็น เพราะสถานที่ที่คุณจะไปนั้นมีอุณหภูมิต่ำกว่าที่คุณเคยเจอมาอยู่หลายองศาทีเดียว ในทริปหนึ่งวันที่จะพาเที่ยวธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) นี้คุณจะได้ขี่สโนว์โมบิลโลดแล่นสำรวจธารน้ำแข็งอย่างสนุกสนานก่อนที่จะเข้าไปที่ด้านในน้ำแข็งกลาเซียร์สีฟ้าสวยเพื่อชมโถงน้ำแข็ง
ในบริเวณเดียวกันนั้นยังมีน้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) ที่ลดหลั่นหลายชั้น มีสายน้ำไหลผ่านลาวาก่อนไปบรรจบรวมกับแม่น้ำ และใกล้ๆ กันนั้นยังมีน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) อีกหนึ่งแห่ง ซึ่งน้ำจากน้ำตกนี้ก็ไหลไปลงแม่น้ำสายเดียวกัน
คุณจะใช้เวลาช่วงที่เหลือของวันนี้ที่ในดาวน์ทาวน์เรคยาวิก โดยในเมืองมีทั้งกิจกรรมสนุกและร้านอาหารอร่อยๆ ให้คุณเลือกใช้เวลาอย่างที่ต้องการ
สำหรับผู้ที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ คุณจะไปร่วมกับทัวร์ที่เดินทางไปยังไฮแลนด์ รถซุปเปอร์จี๊ปจะพาคุณไปตามเส้นทางบนภูเขาจนไปถึงลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar) สวรรค์บนดินภายใต้เงาทะมึนของภูเขาไฟเฮคลา (Hekla) ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องความงามเนื่องจากริ้วสีบนหินและหน้าผา
ที่นั่นมีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ปีนเขา และแช่น้ำร้อนธรรมชาติจากน้ำพุร้อนใต้พิภพที่มีอยู่มากมายใต้ภูเขาหิน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและอยากเข้าไปสัมผัสดินแดนส่วนที่เข้าถึงได้ยากของไอซ์แลนด์ ทริปนี้เป็นโอกาสที่เหมาะมาก
แต่ถ้าหากคุณอยากพักผ่อนอยู่ในเมืองมากกว่า คุณสามารถเลือกเที่ยวอยู่ในเรคยาวิกและทำความรู้จักกับวัฒนธรรมของชาวไอซ์แลนด์ให้ดีขึ้น คุณสามารถไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ หรือทำตัวกลมกลืนกับชาวไอซ์แลนด์โดยไปใช้บริการสระว่ายน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพเพื่ออัปเดตข่าวสาร พูดคุยเรื่องการบ้านการเมืองในขณะที่เพลิดเพลินกับการผ่อนคลายจากแช่น้ำอุ่น
ยิ่งถ้าคุณซื้อบัตรซิตี้การ์ด 24 ชั่วโมงเพิ่ม คุณจะสามารถเข้าชมนิทรรศการเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานที่พิพิธภัณฑ์เอาร์ไบร์ (Árbær) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แบบโอเพ่นแอร์ รวมถึงพิพิธภัณฑ์อื่นอีกหลายแห่ง รวมถึงใช้บริการสระว่ายน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพ เข้าชมสวนสัตว์เรคยาวิก หอศิลป์ และใช้บริการรถสาธารณะได้ฟรี
คุณยังสามารถไปเที่ยวที่ท่าเรือเก่าในเมืองเรคยาวิก ขึ้นเรือออกไปกับทัวร์ดูวาฬ หรือจะไปเที่ยวที่บลูลากูนในวันนี้ก็ได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกอยู่ในเมือง หรือออกไปนอกเมือง วันนี้ก็จะเต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกสนาน
หากคุณยังไม่ได้ไปที่บลูลากูน คุณสามารถไปแวะที่นั่นก่อนที่จะเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก เพื่อให้น้ำอุ่นๆ ช่วยบำบัดให้ร่างกายผ่อนคลายก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้านก็ได้
สำหรับวันที่ 5 หากคุณเลือกเดอะ อินไซด์ โวลเคโน ทัวร์ คุณห้ามแต่งกายชั้นนอกด้วยผ้าคอตตอนหรือยีนส์เมื่อเข้าไปในภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Þríhnjúkagígur) เป็นอันขาด คุณต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมสามารถกันน้ำได้ และต้องสวมรองเท้าปีนเขาที่มีสภาพดีด้วย เนื่องจากด้านในของปากปล่องภูเขาไฟมีอุณหภูมิประมาณ 5–6°C (42–43°F) คุณจึงจำเป็นต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถให้ความอบอุ่นและกันชื้นได้ดี
ผู้ที่ไปทัวร์ภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์จะต้องเดินจากลานจอดรถเพื่อขึ้นไปยังภูเขาไฟเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (2 ไมล์) ต่อเที่ยว และการเดินเท้าใช้เวลาประมาณ 45–50 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนในคณะ) และจะมีไกด์จะคอยดูแลคุณตลอดทางที่เดินขึ้นไป
ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ดังนั้น กรุณาจัดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมนี้ ทั้งนี้ กำหนดการในแผนการเดินทางท่องเที่ยวของคุณอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงที่ไอซ์แลนด์ด้วย สำหรับทัวร์ล่องเรือทะเลสาบธารน้ำแข็งนั้นจะเปิดให้บริการได้ในช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี
หากคุณจองทัวร์สำหรับกิจกรรมเสริมไปพร้อมกับการจองแพ็คเกจนี้เลย คุณจะซื้อทัวร์ได้ในราคาพิเศษกว่าราคาปกติทั่วไป
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทที่พักได้ที่ด้านล่าง สำหรับที่พักที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเราจะแสดงอยู่ที่ด้านล่างของรายละเอียดแผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักประเภทซุปเปอร์บัดเจ็ทจะเป็นเตียงนอนอยู่ในหอรวมในโฮสเทล สำหรับที่พักประเภทบัดเจ็ทและคอมฟอร์ท ผู้ที่จองเข้าพักท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิ้ล ส่วนผู้ที่มาสองท่านขึ้นไปจะได้รับห้องแบบทวิน/ดับเบิ้ล หรือทริปเปิ้ล สำหรับที่พักประเภทควอลิตี้นั้น กรุ๊ปที่มีจำนวนเลขคี่จะได้รับห้องแบบซิงเกิ้ลจำนวนหนึ่งห้อง หากคุณเดินทางมาเป็นคณะแต่ต้องการพักห้องแบบซิงเกิ้ล กรุณาแยกกันจอง สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักในห้องเดียวกับผู้ปกครอง ในกรณีที่ต้องการห้องพักเพิ่มจะต้องชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับทัวร์หลายวันแบบมีไกด์นำเที่ยว ลูกค้าจะไม่สามารถอัปเกรดที่พัก และประเภทของที่พักที่อยู่ด้านล่างไม่สามารถใช้กับทัวร์ประเภทนี้ Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีและเหมาะสมที่สุดเท่าที่จะหาได้จากพาร์ทเนอร์ของเราในเวลานั้น ในกรณีที่พาร์ทเนอร์ของเราไม่มีห้องว่าง เราจะหาที่พักอื่นในระดับเดียวกันให้กับคุณ เรายินดีให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อที่จะตอบสนองทุกความต้องการพิเศษของลูกค้า แต่บางครั้งความต้องการพิเศษเหล่านั้นอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณากดเลือกวันที่ที่ต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
เตียงนอนในหอพักรวม ห้องน้ำรวม ไม่รวมอาหารเช้า โดยอาจจะเป็นเกสต์เฮ้าส์หรือโฮสเทลในเขตเมือง เช่น HI Hostels
ห้องพักส่วนตัว ห้องน้ำรวม ไม่รวมอาหารเช้า โดยอาจเป็นเกสต์เฮ้าส์หรือโฮสเทลในเขตเมือง เช่น Capital Inn Guesthouse
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัว รวมอาหารเช้า โดยอาจเป็นโรงแรมระดับสามดาวหรือเกสต์เฮ้าส์อย่างดีในย่านใจกลางเมืองหรือพื้นที่ใกล้เคียง เช่น Hótel Klettur
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัว รวมอาหารเช้า พักในโรงแรมระดับสี่ดาวบนทำเลที่ดีที่สุดในย่านดาวน์ทาวน์ เช่น Hotel Alda