ทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 8 วันบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ พร้อมสำรวจชายฝั่งทางใต้แบบเจาะลึก

มีแนวโน้มที่จะขายหมดในเร็วๆ นี้
มีแนวโน้มที่จะขายหมดในเร็วๆ นี้
ไม่คิดค่ายกเลิก
บริการ 24 ชั่วโมง
แผนการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
ปรับแต่งได้ตามต้องการ

คำอธิบาย

สรุป

เริ่มจาก
สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก (KEF), Reykjanesbær, Iceland
สิ้นสุดใน
สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก (KEF), Reykjanesbær, Iceland
ระยะเวลา
8 วัน และ 7 คืน
ระดับความยาก
ง่าย
มีบริการ
ทั้งปี
ที่พัก
รวม 7 คืน
รถเช่า
รวม 8 วัน

คำอธิบาย

เที่ยวชมสถานที่ยอดนิยมของไอซ์แลนด์และอีกมากมาย ด้วยทริปขับรถเที่ยวเอง 8 วัน ทริปนี้เน้นชายฝั่งทางใต้ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ของไอซ์แลนด์อยู่ที่นี่ ค้นพบความสวยงามของธรรมชาติที่ไอซ์แลนด์ในขณะที่คุณเดินทางรอบถนนวงแหวน โดยเริ่มต้นจากเรคยาวิก เมืองหลวงของประเทศ และในช่วงเวลานี้ที่ไอซ์แลนด์จะมีช่วงกลางวันที่ยาวนานมากเป็นพิเศษ คุณสามารถเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลินใต้แสงสว่างของพระอาทิตย์เที่ยงคืน

จองแพ็คเกจนี้เพื่อรับแผนการเดินทางโดยละเอียดที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปเห็นภูมิประเทศและสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายของไอซ์แลนด์ และต้องการเดินทางท่องเที่ยวอย่างอิสระเสรีตามที่ต้องการ

ยิ่งไปกว่านั้น คุณไม่ต้องเสียเวลาหลายสัปดาห์ในการวางแผนการเดินทางของทริปเที่ยวไอซ์แลนด์ที่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากเราได้ครอบคลุมส่วนการวางแผนเพื่อช่วยให้คุณไม่ต้องยุ่งยากใดๆ เลย นอกจากนี้เรายังนำเสนอทัวร์ในอุดมคติในราคาสุดคุ้มอีกด้วย

ทัวร์ของคุณจะเริ่มต้นทันทีที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ โดยที่คุณไม่ต้องกังวลกับการเดินทางจากสนามบินด้วย เพราะว่าคุณจะรับรถจากที่สนามบินเลย และอีก 8 วันหลังจากนี้ คุณจะเดินทางสำรวจประเทศไอซ์แลนด์อย่างเพลิดเพลิน คุณจะได้ไปเห็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญบนถนนวงแหวน โดยเน้นที่ชายฝั่งทางใต้แบบละเอียดยิบ

คุณจะเริ่มต้นออกเที่ยวบนวงกลมทองคำอันโด่งดังก่อน จากนั้นจะมุ่งหน้าลงใต้ แวะชมน้ำตก แนวชายฝั่งที่งดงาม หน้าผาสูงชัน และหาดทรายสีดำ

คุณจะไปชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) ที่สวยแปลกตาเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งลอยเท้งเต้ง ก่อนจะเดินทางต่อไปยังฟยอร์ดทางตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีคนเข้าไปสัมผัสมากนัก จากนั้นคุณจะไปชมพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพในทางตะวันออกเฉียงเหนือของไอซ์แลนด์ และหลังจากที่แวะเที่ยวเมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) เมืองหลวงของทางเหนือ คุณจะเดินทางครบรอบวงกลมทองคำพอดีและวกกลับมาที่เมืองเรคยาวิก (Reykjavík)

เพื่อให้การเดินทางครั้งนี้น่าจดจำมากยิ่งขึ้น คุณสามารถเพิ่มกิจกรรมเสริมเข้าไปในทริปนี้ได้เมื่อคุณทำการจองแพ็คเกจขับรถเที่ยวกับเรา โดยคุณสามารถเลือกไปเที่ยวสปาบลูลากูนที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ สามารถไปร่วมกับทัวร์ดูวาฬจากเมืองฮูสาวิค ไปขี่ม้า ปีนธารน้ำแข็ง เที่ยวถ้ำน้ำแข็ง หรือจะลงไปเที่ยวในภูเขาไฟก็ได้

สถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมเหล่านี้เป็นเพียงเหตุผลบางส่วนที่ทำให้ผู้คนชื่นชอบการขับรถไปตามชายฝั่งทางใต้แพ็คเกจนี้ ส่งผลให้ทัวร์นี้ได้รับเรตติ้งสูงและได้รับการรีวิวในเชิงบวก นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในแพ็คเกจที่ง่ายที่สุดสำหรับครอบครัวและนักท่องเที่ยวทุกวัย

ข้อดีของการเที่ยวในครั้งนี้คือแผนการเดินทางและที่พักของคุณจะถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้หมดแล้ว ดังนั้นในขณะที่คุณเดินทางรอบประเทศไอซ์แลนด์ คุณสามารถโฟกัสไปที่สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณชื่นชอบได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องมานั่งกังวลกับรายละเอียดปลีกย่อย แม้ว่าการจัดการทริปของคุณด้วยตัวเองอาจฟังดูน่าตื่นเต้น แต่คุณก็เสี่ยงที่จะพลาดสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดระหว่างการเดินทาง

แต่การให้เราจัดการการวางแผนให้คุณ เรารับประกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทั้งหมดที่คุณต้องไปดูและสัมผัสจะถูกรวมอยู่ในทัวร์ขับรถเที่ยวเองแพ็คเกจนี้ด้วย

นอกเหนือจากการเพลิดเพลินกับความยืดหยุ่นและอิสระในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวแล้ว เรายังให้การสนับสนุนที่จำเป็นที่คุณอาจต้องการอีกด้วย แพ็คเกจของเรามาพร้อมกับตัวแทนการท่องเที่ยวส่วนตัวที่คุณสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา เจ็ดวันต่อสัปดาห์

โร้ดทริปครั้งนี้จะทำให้คุณใช้เวลาในไอซ์แลนด์อย่างคุ้มค่า ในขณะที่คุณยังมีอิสระในการเที่ยวและทำสิ่งต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ มาดื่มด่ำกับธรรมชาติอันมหัศจรรย์ของไอซ์แลนด์ที่อาบไล้ด้วยเฉดสีสวยงามของแสงอาทิตย์เที่ยงคืน และทำให้ทริปนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนที่คุณยากที่จะลืมเลือนอย่างแท้จริง

หากคุณต้องการยกเลิกการเดินทางไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม คุณสามารถยกเลิกได้ฟรีและยังรับเงินคืนเต็มจำนวนหากทำการยกเลิกก่อนถึงเวลาออกเดินทาง 24 ชั่วโมง

ทำให้ความฝันอยากเที่ยวไอซ์แลนด์ในหน้าร้อนของคุณกลายเป็นเรื่องจริงตอนนี้เลย คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง

 

อ่านเพิ่ม

รวมในแพ็คเกจ

ที่พัก 7 คืน
อาหารเช้าแบบคอนติเนนตัลทุกวัน
รถเช่า 8 วัน ใช้รถใหม่
ประกันรถเช่า CDW
ประกันภัยรถยนต์ป้องกันกรวด
ไม่จำกัดระยะทาง
Wi-Fi ในรถยนต์ไม่จำกัด
กำหนดการเดินทางโดยละเอียดและแผนการเดินทาง
ตัวแทนท่องเที่ยวส่วนบุคคล
สายด่วนช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีทั้งหมด

จุดหมายปลายทาง

บ้านเรือนในเรคยาวิกเมื่อมองจากโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยาเรคยาวิก / 2 คืน
An abandoned house on the Reykjanes Peninsula presents a striking contrast against a lush green landscape.ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้ / 1 คืน
คาบสมุทรดิร์โฮลาเอย์จากตะวันออกไปตะวันตกชายฝั่งทางใต้ / 1 คืน
The Vatnajokull glacier in Southeast Iceland.ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ / 1 คืน
ไอซ์แลนด์ตะวันออกเป็นภูมิภาคที่งดงามฟยอร์ดตะวันออก / 1 คืน
ไอซ์แลนด์เหนือเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งมากมาย เช่น แนวหินฮวิตแซร์คูร์ไอซ์แลนด์เหนือ / 1 คืน

แผนที่

สถานที่ท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์เป็นสถานที่มรดกโลกเพียงแห่งเดียวของไอซ์แลนด์และเป็นหนึ่งในจุดแวะพักหลักตามเส้นทางวงกลมทองคำที่มีชื่อเสียงระดับโลกธิงเวลลิร์
ไกเซอร์เป็นน้ำพุร้อนที่สงบแล้วในพื้นที่ความร้อนใต้พิภพอย่างหุบเขาเฮยคาดาลูร์ ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ไกเซอร์
ภาพถ่ายของน้ำตกกุลล์ฟอสส์ในวันที่มีเมฆมากกุลล์ฟอสส์
Kerid is a stunning volcanic crater in Icelandเคริด
น้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์บนชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์อาบแสงพระอาทิตย์เที่ยงคืนเซลยาแลนด์สฟอสส์
น้ำตกสโคกาฟอสส์อันยิ่งใหญ่สโคกาฟอสส์
โซลเฮมาโจกุลเป็นธารน้ำแข็งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการไฮกิ้งสำหรับผู้ที่อยู่ในเมืองเรคยาวิกโซลเฮมาโจกุล
คาบสมุทรดีร์โฮลาเอย์เป็นทางเดินยาว 120 เมตรที่โด่งดังจากทิวทัศน์ตระการตาของชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ รวมถึงประภาคารเก่าแก่และนกนานาชนิดคู่มือท่องเที่ยว ดิร์โฮลาเอย์
ชายหาด Reynisfjara และหน้าผา Reynisdrangar ในฤดูหนาวหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
ภาพถ่ายมุมสูงของเรย์นิสดรังการ์และภูเขาเรย์นิสฟยอลล์ คู่มือท่องเที่ยว เรย์นิสดรังการ์
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์อยู่ในเออไรฟาสไวต์ ภูมิภาคตะวันตกของเอิสตูร์-สกัฟตาเฟลล์สซิสลาในประเทศไอซ์แลนด์สกัฟตาเฟลล์
สวาร์ติฟอสส์ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ในฤดูร้อนคู่มือท่องเที่ยว สวาร์ติฟอสส์
โจกุลซาร์ลอนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดของไอซ์แลนด์ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
ก้อนน้ำแข็งเหมือนเพชรที่หาดไดมอนด์คู่มือท่องเที่ยว ไดมอนด์บีช
เวสตราฮอร์นเป็นภูเขาที่งดงาม โดยเฉพาะภายใต้แสงเหนือคู่มือท่องเที่ยว เวสตราฮอร์น
Lagarfljot, in east Iceland, has a terrible monster in its depths, according to legend.ลาการ์เฟลียวท์
น้ำตกเดตติฟอสส์ในไอซ์แลนด์เดตติฟอสส์
ทะเลสาบมิวาทน์ล้อมรอบด้วยความงามของธรรมชาติอันน่าทึ่งมิวาทน์
โกดาฟอสส์เป็นน้ำตกที่สวยงามและมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ทางศาสนาของไอซ์แลนด์น้ำตกโกดาฟอสส์
ดอกไม้ที่สวยงามสามารถพบได้ในป่า Kjarnaskogur ในประเทศไอซ์แลนด์คู่มือท่องเที่ยว คยาร์นาสโคกูร์
Asbyrgi Canyon in north Iceland is a centre of folklore and beauty.เอาส์ปิร์กิร์
Hvítserkur, aka; “The Troll of North-West Iceland”, is a 15-metre (49ft) high basalt rock stack protruding from Húnaflói Bay.ฮวิทแซร์คูร์
Kleifarvatn is the third largest lake in Iceland.เคลย์ฟาร์วาท์น
ครีซูวิกครีซูวิก
Gunnuhver is one of the geothermal areas on the Reykjanes Peninsula.กุนนุแควร์

กิจกรรม

ปีนธารน้ำแข็ง
ดำน้ำตื้น
ไฮกิ้ง (เดินป่า)
ขี่สโนว์โมบิล
ขี่ม้า
ชมวาฬ
เที่ยวชมสถานที่
แช่น้ำร้อน
เที่ยวถ้ำน้ำแข็ง
ขับรถเที่ยวเอง

รายละเอียดการเดินทาง

Travel dates

ผู้เดินทาง

รถ

รถ

รถขนาดเล็ก

รถขนาดเล็ก

Category
รถขนาดเล็ก
Transmission
People
Large bags
รถขนาดกลาง

รถขนาดกลาง

Category
กลาง
Transmission
People
Large bags
รถพรีเมี่ยม

รถพรีเมี่ยม

Category
รถพรีเมียม
Transmission
People
Large bags
large car

large car

Category
ขนาดใหญ่
Transmission
People
Large bags
SUV

SUV

Category
JEEPSUV
Transmission
People
Large bags

ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ

วันที่ 1

วันที่ 1 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
  • More

ทริปเที่ยวครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณลงเครื่องบินที่ไอซ์แลนด์ ผ่านด่านศุลกากรเข้ามาแล้ว และเดินผ่านประตูอัตโนมัติที่เป็นทางออกของโถงผู้โดยสารขาเข้า

คุณจะไปรับรถที่สนามบินและเริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังใจกลางเรคยาวิก เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์

ระหว่างทางไปเมืองหลวงคุณสามารถเลือกแวะเที่ยวที่บลูลากูนก่อนได้

สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา สปาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ทำให้มีบรรยากาศแปลกตา หากคุณเลือกเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริป กิจกรรมนี้จะถูกจัดเข้าในโปรแกรมการเดินทางให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ

หากคุณยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปในวันนี้ ก็ยังสามารถไปในวันอื่นได้ โดยที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้

ในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนสมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่

เรคยาวิกมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายนับไม่ถ้วน เมืองนี้มีสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ วัฒนธรรมศิลปะที่ยอดเยี่ยม ตลอดจนร้านอาหาร บาร์ และร้านค้ามากมาย คุณสามารถเดินไปรอบๆ ได้ง่าย หรือจะใช้รถเช่าเพื่อขับรถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ห่างไกลออกไปก็ได้

หากคุณสนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ คุณจะพบกับพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจและหอศิลป์ที่ตระการตา ในขณะเดียวกันผู้ที่รักกิจกรรมกลางแจ้งสามารถเดินเล่นสบายๆ ตามแนวชายฝั่งและชื่นชมทิวทัศน์ หรือขับรถไปยังเขตอนุรักษ์ธรรมชาติในบริเวณใกล้เคียง

ส่วนคาบสมุทรเรคยาเนสนั้น มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติให้ชมมากยิ่งขึ้น เช่น น้ำพุร้อน ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น และลักษณะทางธรณีวิทยา ภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยลาวาของที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับทิวทัศน์อันน่าทึ่งของประเทศไอซ์แลนด์

เมื่อสิ้นสุดวัน คุณจะได้เข้าพักในโรงแรมที่สะดวกสบายในเมืองเรคยาวิก เพื่อนอนหลับพักผ่อนเอาแรง เพราะในอีก 7 วันข้างหน้าจะเต็มไปด้วยการผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจและภูมิประเทศที่น่าทึ่ง

อ่านเพิ่ม

ที่พัก

ประสบการณ์

วันที่ 2

วันที่ 2 - ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้

  • ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
  • More
  • อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
  • พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
  • น้ำตกกุลล์ฟอสส์
  • ปากปล่องภูเขาไฟเคริด
  • More

วันนี้คุณจะได้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไอซ์แลนด์ วงกลมทองคำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ซึ่งรวมถึงอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) และพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir)

คุณจะเริ่มต้นวันด้วยการขับรถออกจากที่พัก โดยมีเป้าหมายคือสถานที่ทั้งสามแห่งนี้

อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์นั้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก พื้นที่ในบริเวณนี้มีความงดงามและมีความสำคัญสำหรับชาวไอซ์แลนด์ด้วย เพราะเป็นสถานที่ตั้งของสภาแห่งแรกที่ผู้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในยุคแรกได้สร้างขึ้นเมื่อประมาณปีค.ศ. 930

ธิงเวลลีร์เต็มไปด้วยหน้าผาและหินลาวาที่ปกคลุมด้วยมอสส์ไอซ์แลนด์ หากมองไกลออกไปจะเห็นว่ามีทิวเขาล้อมรอบบริเวณ พื้นที่แห่งนี้จึงเหมาะสำหรับการไปชมวิวและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาวไอซ์แลนด์

ในขณะที่คุณอยู่ที่ธิงเวลลีร์ คุณสามารถเลือกลงไปดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลในรอยแยกซิลฟรา (Silfra)

ผืนน้ำที่นี่ตั้งอยู่ตรงกลางจุดที่เป็นรอยแยกของแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียนและอเมริกาเหนือ และน้ำที่ซิลฟรานั้นถูกกรองผ่านหินลาวามานานนับร้อยๆ ปี จึงมีความใสราวกระจก ซึ่งการไปร่วมดำน้ำกับทัวร์สน็อกเกิลในรอยแยกนี้ คุณจะได้เห็นหุบเขาใต้น้ำที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ไกลถึง 328 ฟุต (100 ม.) ทั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและต้องว่ายน้ำได้

สถานที่สำคัญที่ต้องแวะอีกแห่งคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่โดดเด่นที่สุดในไอซ์แลนด์ ชื่อของมันมีความหมายว่า "น้ำตกทอง" และน้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ใต้หุบเขาแม่น้ำฮวิทเอา น้ำตกกุลล์ฟอสส์สูง 105 ฟุต (32 ม.) และมีกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากไหลลดหลั่นลงมาสองชั้น ทำให้เกิดละอองน้ำหนาทึบปกคลุมไปทั่ว

สถานที่ต่อไปบนวงกลมทองคำคือพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ ที่นี่จะทำให้คุณเห็นภาพของพลังงานที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไอซ์แลนด์ได้ชัดเจน พื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยน้ำพุร้อนและฟูมาโรลที่ระบายก๊าซและไอร้อนออกมาบนพื้นผิวโลก

ไฮไลต์ที่ดึงคนมาเที่ยวที่นี่คือไกเซอร์สโทรคูร์ ที่พ่นน้ำขึ้นฟ้าสูงเกือบ 66 ฟุต (20 ม.) ในเกือบทุกห้านาที

มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นอีกหลายแห่งที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปในระหว่างเที่ยวบริเวณวงกลมทองคำได้ คุณอาจจะไปชมปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater) ในวันนี้ด้วยก็ได้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำ ปล่องภูเขาไฟแห่งนี้ยังใหม่มาก มีอายุราว 3,000 ปีเท่านั้น

ปล่องภูเขาไฟเคริดมีสีสันที่สดใสของหินสีแดงสดที่ตัดกับน้ำสีฟ้าครามที่ก้นหลุม

ส่วนเรคยาดาลูร์ (Reykjadalur) เป็นหุบเขาที่ปกคลุมด้วยไอน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวงกลมทองคำ พื้นที่นี้แถบนี้มีเนินเขาที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อของช่องระบายไอน้ำและบ่อน้ำร้อนกระจายอยู่ทั่วบริเวณ

หากคุณต้องการความตื่นเต้นเป็นพิเศษในวันนี้ คุณสามารถเพิ่มการผจญภัยเพิ่มเติมเข้าไปได้ เนื่องจากคุณมีอิสระในการปรับเปลี่ยนทัวร์ได้ตามใจ

คุณสามารถเลือกไปทัวร์ขี่ม้าได้ ม้าไอซ์แลนด์เป็นสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถูกเลี้ยงแยกอยู่ที่นี่มานานกว่าพันปี

พวกมันแข็งแรง เตี้ย และเป็นมิตรมากจึงเหมาะสำหรับผู้ขี่ทุกระดับ และการได้ชมวิวชนบทของไอซ์แลนด์จากบนหลังม้านั้นเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนที่ไหนอย่างแน่นอน

หากคุณต้องการกิจกรรมสนุกตื่นเต้นเพื่อให้อะดรีนาลีนสูบฉีดก็สามารถเลือกเพิ่มทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่ธารน้ำแข็งลางโจกุลเข้าไปในวันนี้ได้ การขี่สโนว์โมบิลโลดแล่นไปบนธารน้ำแข็งกว้างใหญ่ไพศาลที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

การปล่อยให้ลมเย็นปะทะกับร่างกายระหว่างขี่สโนว์โมบิเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กิจกรรมใดๆ เลย

หลังจากหมดเวลาในวันนี้ คุณจะเข้าพักในที่พักในไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้

อ่านเพิ่ม

ที่พัก

ประสบการณ์

วันที่ 3

วันที่ 3 - ชายฝั่งทางใต้

  • ชายฝั่งทางใต้
  • More
  • น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์
  • น้ำตกสโกกาฟอสส์
  • ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล
  • ดิร์โฮลาเอย์
  • หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
  • โขดทะเลเรนิสดรังการ์
  • More

วันนี้คุณยังคงผจญภัยบนถนนวงแหวนกันต่อและจะเริ่มมุ่งหน้าไปทางใต้ ชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องภูเขา ธารน้ำแข็ง หาดทรายดำ น้ำตก และนกหลากสายพันธุ์

จุดแรกที่คุณจะไปแวะบนชายฝั่งทางใต้คือน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) น้ำตกที่ได้รับความนิยมมากสำหรับผู้ที่มาเยือนไอซ์แลนด์ เนื่องจากอยู่ใกล้กับถนนวงแหวนและโครงสร้างของน้ำตกมีความน่าสนใจ น้ำตกนี้สูง 197 ฟุต (60 ม.) และมีฉากหลังเป็นผาหินมองดูสวยงาม 

ไม่ไกลจากน้ำตกเซลยานแลนส์ฟอสส์ก็ยังมีน้ำตกสโคกาฟอสส์อีกหนึ่งแห่ง ซึ่งมีความสวยงามพอกัน สโคกาฟอสส์เป็นหนึ่งในน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ มีความสูง 197 ฟุต (60 ม.) และมีความกว้างถึง 52 ฟุต (25 ม.) โดยสายน้ำที่ตกลงมากระทบกับพื้นที่เกือบจะราบทำให้เกิดเป็นม่านไอน้ำฟุ้งกระจาย ในบางวันเมื่อมีแสงแดดส่องมาที่น้ำตก รุ้งกินน้ำคู่หนึ่งก็จะทอดตัวเป็นสะพานให้นักท่องเที่ยวได้เห็น

เมื่อคุณเดินทางต่อไปตามชายฝั่งทางใต้ คุณจะผ่านโซลเฮมาโจกุลล์ (Solheimajokull) ผืนน้ำแข็งที่เป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งมิดาร์ลสโจกุลล์ หากคุณอยากทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ในวันนี้ คุณสามารถเลือกไปปีนธารน้ำแข็งที่เป็นแลนด์มาร์คของแถวนี้ได้

สำหรับกิจกรรมปีนธารน้ำแข็ง คุณจะต้องไปพบกับไกด์เพื่อฟังบรีฟเกี่ยวกับความปลอดภัย และรับอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการชมธารน้ำแข็ง โดยคุณจะได้รับหมวกกันน็อก รองเท้าตะปู และขวาน 

จุดหมายต่อไปคือดิร์โฮลาเอย์ (Dyrholaey) คาบสมุทรเล็กๆ ที่โด่งดังเพราะมีหน้าผาหินสูงตระหง่านและเป็นแหล่งที่อยู่ของนกนานาชนิด และยังเป็นส่วนใต้สุดของแผ่นดินใหญ่ของไอซ์แลนด์ด้วย ที่นี่คุณจะได้เห็นวิวที่สวยงามของแนวชายฝั่งและนกพื้นเมืองมากมาย

ไม่ไกลจากดิร์โฮลาเอย์ก็จะเป็นหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ชายฝั่งบริเวณนี้มีคลื่นที่ซัดเข้าหาหาดทรายภูเขาไฟอย่างแรงจนไม่น่าเชื่อ

บนหาดคุณจะได้เห็นหน้าผาที่เต็มไปด้วยเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมซึ่งมองดูแปลกตามาก

ที่นอกชายฝั่งของหาดเรย์นิสฟยารา คุณจะมองเห็นหินเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) อนุสาวรีย์หินธรรมชาติที่โผล่ขึ้นมาจากท้องทะเล 

ถัดไปคือหมู่บ้านวิก (Vik) เมืองริมทะเลที่เหมาะสำหรับหยุดแวะพักเหยียดแข้งขา คุณอาจจะอยากไปชมโบสถ์ของในเมืองนี้ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาและหันหน้าออกทะเลด้วย

คุณยังสามารถไปเข้าร่วมกิจกรรมและทัวร์อีกหลายอย่าง ซึ่งมีจุดเริ่มต้นไม่ไกลจากวิก คุณอาจจะอยากไปชมซากเครื่องบิน DC-3 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่มาตกอยู่ที่โซลเฮมาซานดูร์ (Solheimasandur) เมื่อปี 1973 และซากเครื่องบินถูกทิ้งให้เป็นซากปรักหักพัง จนกลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมในทุกวันนี้

หรือคุณอาจจะเลือกไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็ง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์พิเศษของไอซ์แลนด์ก็ได้เช่นกัน ถ้ำน้ำแข็งเหล่านี้ก่อตัวขึ้นเมื่อน้ำแข็งจากธารน้ำแข็งละลายและแข็งตัวใหม่ตามวัฏจักรของมัน โดยในแต่ละปีจะมีถ้ำน้ำแข็งที่หายไปและเกิดใหม่มาทดแทน นั่นหมายถึงว่าถ้ำน้ำแข็งแต่ละแห่งนั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะไม่ซ้ำกันเลย

ภายในถ้ำ บางทีคุณอาจจะได้เห็นสิ่งที่ดูเหมือนกับพระราชวังคริสตัล ซึ่งความโค้งและชั้นของน้ำแข็งที่ประดับประดาด้วยเฉดสีฟ้า เทา ขาว และสีดำของเถ้าภูเขาไฟภายในนั้น เปรียบเสมือนแคปซูลแห่งกาลเวลาที่เก็บบันทึกย้อนสู่อดีตไปนับร้อยนับพันปี

หลังจากเที่ยวชมสถานที่และทำกิจกรรมตื่นเต้นสนุกสนานมาทั้งวันแล้ว ที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ในไอซ์แลนด์ใต้

อ่านเพิ่ม

ที่พัก

ประสบการณ์

วันที่ 4

วันที่ 4 - ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้

  • ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
  • More
  • เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์
  • สวาร์ติฟอสส์
  • ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
  • ไดมอนด์ บีช
  • More

วันนี้คุณจะเที่ยวบนชายฝั่งทางใต้กันต่อและค่อยมุ่งหน้าไปทางตะวันออกของไอซ์แลนด์

คุณจะเริ่มต้นด้วยการเดินทางเข้าไปในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull) แต่ถ้าหากคุณอยากทำกิจกรรมตื่นเต้นในวันนี้ คุณอาจจะเลือกเริ่มต้นวันด้วยการไปปีนธารน้ำแข็งที่สกัฟตาเฟลล์ในรอบเช้า

ภูมิประเทศที่ขรุขระแถบนี้มีพืชพรรณที่น่าสนใจมากมาย ทำให้เหมาะกับการมาถ่ายภาพ

นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินป่าสวยๆ ระดับง่ายหลายเส้นทาง จึงเป็นสวรรค์ของการเดินป่าด้วย

จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) ซึ่งเป็นที่สุดยอดของสถานที่ท่องเที่ยวในทางใต้ของไอซ์แลนด์ ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดของไอซ์แลนด์ โดยมีความลึกถึง 820 ฟุต (250 ม.)

น้ำที่อยู่ในทะเลสาบโจกุลซาร์ลอนเป็นน้ำที่ละลายมาจากผืนน้ำแข็งเบรดาแมร์คุร์โจกุล (Breidamerkurjokull) ที่เป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล น้ำในทะเลสาบจึงเย็นจัดและเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งที่แตกตัวตัวออกมาจากธารน้ำแข็ง (ซึ่งเป็นกระบวนการแบ่งตัวของน้ำแข็งที่เรียกว่า Ice calving) เมื่อภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาเหล่านี้เดินทางอยู่ในทะเลสาบ พวกมันจะเรืองแสงเป็นสีขาวและสีฟ้าสวยงาม

ที่ทะเลสาบแห่งนี้คุณสามารถเลือกเข้าร่วมกับทัวร์ล่องเรือที่จะพาคุณลงไปในทะเลสาบโจกุลซาร์ลอน ซึ่งมีให้เลือกทั้งทัวร์เรือสะเทินน้ำสะเทินบก ซึ่งเรือจะค่อยๆ เคลื่อนตัวจากบกลงน้ำอย่างช้าๆ ทำให้คุณได้เห็นว่าทะเลสาบนี้ก่อตัวขึ้นอย่างไร

คุณอาจจะโชคดีได้เห็นแมวน้ำออกมาว่ายน้ำหรืออาบแดดอยู่บนก้อนภูเขาน้ำแข็งด้วย

ส่วนทัวร์อีกแบบจะพาคุณล่องทะเลสาบด้วยเรือยางท้องแบนโซดิแอก เรือเล็กนี้จะทำให้คุณได้เข้าไปใกล้ภูเขาน้ำแข็งได้มากขึ้นเพื่อชื่นชมขนาดอันใหญ่โตมโหฬารของพวกมันได้อย่างเต็มที่

ถัดจากโจกุลซาร์ลอนจะเป็นหาดไดมอนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว แนวชายแนวชายฝั่งสั้นๆ ในบริเวณนี้เป็นจุดที่น้ำในทะเลสาบโจกุลซาร์ลอนมาบรรจบกับทะเล ซึ่งภูเขาน้ำแข็งที่ถูกพัดไปมาจะค่อยๆ ละลายเมื่อโดนน้ำเค็ม บางส่วนก็ขึ้นไปเกยอยู่บนหาดทรายสีดำ ทำให้มองดูเหมือนกับเป็นอัญมณีล้ำค่า จึงได้ชื่อว่าหาดไดมอนด์

จุดหมายปลายทางต่อไปคือเมืองเฮิฟน์ (Hofn) ที่อยู่ในทางตะวันออก ที่นี่เป็นหมู่บ้านประมงที่สวยงามแปลกตาและมีชื่อเสียงเรื่องล็อบสเตอร์ จึงเหมาะกับการแวะรับประทานอาหารเย็น ร้านอาหารที่มีอยู่มากมายในเมืองมีเมนูที่หลากหลาย รวมถึงล็อบสเตอร์ของขึ้นชื่อของเมืองด้วย

คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้

 

อ่านเพิ่ม

ที่พัก

ประสบการณ์

วันที่ 5

วันที่ 5 - ฟยอร์ดตะวันออก

  • ฟยอร์ดตะวันออก
  • More
  • เวสตราฮอร์น
  • ทะเลสาบลาการ์ฟโยท
  • More

วันนี้คุณจะเดินทางไปยังฟยอร์ดทางตะวันออกอันห่างไกลของไอซ์แลนด์ ที่มีชื่อเรื่องความสวยงามที่มีเอกลักษณ์และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ยังไม่ถูกสัมผัส คุณจะไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง ฟยอร์ดทางตะวันออกมีทั้งภูเขา หน้าผา วิวชายฝั่ง และเมืองที่แปลกตามากมาย

ภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ยิ่งใหญ่และถ่ายรูปสวยมากและยังตั้งอยู่ใกล้กับมหาสมุทร โดยช่วงหน้าร้อนจะมีเงาสะท้อนของภูเขา ตัดกับฉากพื้นหลังเป็นภาพที่งดงามมาก

จูปิโวกูร์ (Djupivogur) เป็นเมืองประมงริมชายฝั่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาทรงปิรามิดที่ชื่อบูลานด์สทินดูร์ (Bulandstindur) หากคุณบังเอิญโชคดีได้ไปเยือนจูปิโวกูร์ในวันที่มีกลางวันยาวที่สุดของปี (ครีษมายัน) ให้คุณเตรียมคำอธิษฐานขอพรเอาไว้ได้เลย เพราะว่ากันว่าภูเขาลูกนี้จะทำให้คำขอของคุณเป็นจริง

ฟาสกรูดสฟยอร์ดูร์ (Faskrudsfjordur) ในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านของชาวประมงที่มาจากฝรั่งเศส และอิทธิพลความเป็นฝรั่งเศสยังคงหลงเหลือให้เห็นในทุกวันนี้ โดยผู้อพยพชาวฝรั่งเศสได้สร้างโรงพยาบาลและท่าเรือขึ้นมาเมื่อพวกเขามาถึง และเมื่อพวกเขาถูกทางการฝรั่งเศสเรียกตัวกลับในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พื้นที่ส่วนใหญ่ภายในเมืองนี้จึงเริ่มมีความเป็นไอซ์แลนด์ให้เห็น

ปัจจุบันป้ายบอกทางบนถนนในหมู่บ้านนี้ก็ยังใช้ทั้งภาษาฝรั่งเศสและไอซ์แลนด์ และโรงพยาบาลได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาที่เกี่ยวโยงกับความเป็นฝรั่งเศสของหมู่บ้านแห่งนี้

สถานที่เที่ยวแห่งต่อไปคือเอกิลสตาดีร์ (Egilsstadir) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฟยอร์ดทางตะวันออก เมืองนี้เหมาะสำหรับแวะพัก เติมน้ำมัน และรับประทานอาหาร ในเอกิลสตาดีร์มีประชากรมากกว่าที่อื่น ดังนั้นจึงมีตัวเลือกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และศูนย์ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังเป็นเหมือนศูนย์กลางในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอื่นๆ ของฟยอร์ดทางตะวันออกด้วย

จากเมืองนี้คุณอาจจะเลือกเดินทางไปเที่ยวอ่างน้ำธรรมชาติเวิก (Vok) ซึ่งเป็นสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเอกิลสตาดีร์เพียง 3.1 ไมล์ (5 กม.) และมีสระน้ำอุ่นให้คุณได้แช่น้ำผ่อนคลายท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามน่าอภิรมย์

ทางตะวันออกของเอกิลสตาดีร์คือเมืองเซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seydisfjordur) เมืองท่าแห่งนี้มีเสน่ห์ราวกับฉากในภาพยนตร์แฟนตาซี โดยล้อมรอบไปด้วยภูเขาและน้ำตก และยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สร้างขึ้นโดยชาวนอร์เวย์เมื่อครั้งอดีตกาลหลงเหลือให้เห็น

ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปะและวัฒนธรรม และยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลศิลปะสำหรับเยาวชนที่เรียกว่า LungA ในช่วงฤดูร้อนของทุกปีด้วย นอกจากนี้ในเมืองยังมีถนนสายรุ้งที่สร้างขึ้นอย่างถาวรเพื่อใช้เป็นทางไปโบสถ์สีฟ้าที่โดดเด่นสะดุดตา

ในทางตะวันตกของเอกิลสตาดิร์มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีก 3 แห่ง ทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljot) ที่ว่ากันว่ามีสัตว์ประหลาดลึกลับหน้าตาคล้ายหนอนยักษ์อาศัยอยู่ ไกลออกจากเมืองไปหน่อยก็มีฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ ( Hallormsstadarskogur) ซึ่งเป็นผืนป่าที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และมีน้ำตกเฮนกิฟอสส์ (Hengifoss) ที่สวยงามอยู่ด้านหน้าหน้าผาหินบะซอลต์หลากสีสัน

หลังจากเที่ยวทางตะวันออกครบหมดแล้ว ที่พักของคุณในคืนนี้จะอยู่ในไอซ์แลนด์ตะวันออก

อ่านเพิ่ม

ที่พัก

ประสบการณ์

วันที่ 6

วันที่ 6 - ไอซ์แลนด์เหนือ

  • ไอซ์แลนด์เหนือ
  • More
  • น้ำตกเดตติฟอสส์
  • พื้นที่แถบทะเลสาบมิวาทน์
  • น้ำตกโกดาฟอสส์
  • คยาร์นาสโกกูร์
  • หุบเขาอาสบิร์กิ
  • More

ในวันที่หก คุณจะมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของไอซ์แลนด์ ในแถบนี้มีน้ำตกที่สวยงาม มีทุ่งกว้าง และมีพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพที่น่าทึ่ง

ด้วยความที่มีสถานที่มากมายที่รอให้คุณไปชม ดังนั้นคุณจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกสถานที่ที่อยากไป

คุณอาจต้องการแวะที่น้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) เป็นแห่งแรกระหว่างทางขึ้นเหนือ น้ำตกเดตติฟอสส์มีความกว้าง 100 เมตร และมีความสูงถึง 43 เมตร เมื่อคุณยืนอยู่ข้างๆ น้ำตกเดตติฟอสส์ คุณจะสัมผัสได้ถึงเสียงคำรามอันทรงพลังของมัน น้ำตกแห่งนี้น่าประทับใจมากจนผู้กำกับริดลีย์ สก็อตต์ใช้น้ำตกนี้ในฉากเปิดเรื่อง "Prometheus" เมื่อปี 2012

ส่วนบริเวณรอบๆ ทะเลสาบมิวาทน์ (Myvatn) เป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมของพลังงานความร้อนใต้พิภพมากมาย แถบนี้มีทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของไอซ์แลนด์ นั่นก็คือทะเลสาบมิวาทน์ ซึ่งแปลว่า "ทะเลสาบแมลงวัน" เนื่องจากแมลงตัวจิ๋วเหล่านี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปเป็นเรื่องปกติ

ถ้าคุณไปเที่ยวที่มิวาทน์ คุณอาจจะอยากไปแช่น้ำร้อนที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราและได้รับการขนานนามว่าเป็นบลูลากูนแห่งทางเหนือ

ใกล้ๆ ในแถบมิวาทน์ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกแห่ง นั่นก็คือคราฟลา (Krafla) ซึ่งเป็นแอ่งภูเขาไฟทางเหนือของทะเลสาบ ที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแนวภูเขาไฟขนาดใหญ่และเป็นเขตที่มีภูเขาไฟคุกรุ่นอยู่มากที่สุดในประเทศ

ในพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพเนามาฟยาลล์ (Namafjall) คุณจะได้เห็นบ่อโคลนเดือด ฟูมาโรลที่เป็นช่องระบายไอน้ำร้อน และผลึกกำมะถันสีน้ำเงิน เขียว เหลือง และขาว

ดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในแถวมิวาทน์อีกแห่ง หินนี้บางครั้งเรียกว่าเป็น "ป้อมปราการสีดำ" เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับปราสาทในยุคกลาง ตำนานพื้นบ้านของไอซ์แลนด์กล่าวว่า หินและถ้ำลาวาในบริเวณนี้เป็นที่อยู่ของโทรลล์ โดยเฉพาะ "กรีลา" ที่เป็นแม่ของซานต้าทั้ง 13 ของไอซ์แลนด์

หากคุณอยากเที่ยวแถวชายฝั่งมากกว่า คุณสามารถไปที่น้ำตกเดตติฟอสส์ก่อน จากนั้นค่อยขึ้นเหนือเพื่อไปเมืองฮูสาวิค (Husavik) หมู่บ้านริมทะเลที่นี่ถือว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป" 

ถ้าคุณต้องการออกทะเลไปชมน่านน้ำในทางเหนือและต้องการดูวาฬ คุณสามารถเลือกไปกับทัวร์ดูวาฬที่ออกเดินทางจากฮูสาวิคได้ โดยทัวร์มีให้เลือกสองแบบ

ทัวร์แบบดั้งเดิมจะพานั่งเรือขนาดมาตรฐานออกไปตามล่าหาปลาวาฬ ส่วนถ้าคุณเลือกทัวร์ล่องเรือแบบ RIB คุณจะได้นั่งเรือเล็ก ซึ่งหมายถึงคุณจะได้เข้าไปใกล้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแห่งท้องทะเลชนิดนี้มากขึ้นโดยที่ไม่รบกวนพวกมัน

ฮูสาวิคยังมีแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพให้เห็นมากมาย หนึ่งในนั้นคืออ่างน้ำธรรมชาติจีโอซี ซึ่งแตกต่างไปจากสระน้ำร้อนส่วนใหญ่ในไอซ์แลนด์อย่างสิ้นเชิง โดยน้ำในสระน้ำที่จีโอซีจะเป็นน้ำทะเลอุ่นๆ 

ในขณะที่คุณเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแห่งสุดท้ายสำหรับวันนี้ คุณจะได้เห็นน้ำตกอีกหนึ่งแห่ง น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss) เป็นน้ำตกที่มีประวัติน่าสนใจ เพราะเมื่อราวปีค.ศ. 1000 หัวหน้าเผ่าไวกิ้งได้โยนรูปเคารพตามความเชื่อของพวกเขาทิ้งลงน้ำตกที่นี่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการที่ไอซ์แลนด์รับเอาศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติ

เมื่อสิ้นสุดวันคุณจะเดินทางไปยังที่พักของคุณในเมืองอาคูเรย์ริ ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองหลวงของภาคเหนือ ที่พักของคุณจะอยู่ในบริเวณนี้ในไอซ์แลนด์เหนือ

อ่านเพิ่ม

ที่พัก

ประสบการณ์

วันที่ 7

วันที่ 7 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก
  • More
  • กองหินฮวิทแซร์กูร์
  • More

วันนี้เป็นวันสุดท้ายสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในทริปนี้ หากคุณต้องการใช้เวลาในเมืองหลวงอีกหนึ่งวัน ให้คุณตรงไปที่เรคยาวิกได้เลยเพื่อที่จะได้มีเวลาเที่ยวมากขึ้น

แต่ถ้าคุณยังต้องการดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ระหว่างทาง คุณก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้เลือกแวะได้อีกหลายแห่ง

ห่างจากเมืองอาคูเรย์ริไปอีกประมาณ 48 ไมล์ (78 กม.) ในทางตะวันตกเฉียงเหนือเป็นที่ตั้งของเมืองซิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjordur) ซึ่งเป็นเมืองทางเหนือสุดบนแผ่นดินของไอซ์แลนด์

เมืองนี้มีภูเขาล้อมรอบและมีบรรยากาศแบบชนบท เหมาะสำหรับแวะพักยืดแข้งยืดขา และลงไปถ่ายรูปเพื่อบันทึกภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนที่อยู่ในฟยอร์ด

ซิกลูฟยอร์ดูร์ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ยุคแฮร์ริ่ง ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ที่นี่ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศเกี่ยวกับการประมงและการแปรรูปปลาแฮร์ริ่ง

ในขณะที่ถัดไปประมาณ 124 ไมล์ (200 กม.) ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของซิกลูฟยอร์ดูร์จะมีหินฮวิทแซร์กูร์ (Hvitserkur) เสาหินลึกลับรูปทรงแปลกประหลาดที่โผล่ขึ้นจากทะเลตามธรรมชาติ

ในระหว่างที่คุณมุ่งหน้ากลับเข้าเมืองเรคยาวิก สถานที่ท่องเที่ยวสองแห่งนี้ก็น่าแวะเป็นอย่างมาก ประมาณ 81 ไมล์ (130 กม.) ในทางเหนือของเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ มีน้ำตกที่น่าสนใจอยู่ 2 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน คือน้ำตกเฮิร์นฟอซซ่าร์ (Hraunfossar) และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) 

ชื่อของเฮรินฟอซซ่าร์นั้นแปลว่า "น้ำตกลาวา" และน้ำตกแห่งนี้ก็มีบรรยากาศที่สวยงามโดดเด่นคล้ายกับฉากในภาพยนตร์แฟนตาซี สิ่งที่น่าสนใจคือน้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์ไหลผ่านทุ่งลาวาที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งลางโจกุล ทุ่งลาวายังขึ้นชื่อว่ามีถ้ำที่ซ่อนอยู่ด้วย

หลังจากเพลิดเพลินกับความงามของน้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์แล้ว คุณสามารถเดินไปยังน้ำตกบาร์นาฟอสส์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 15 เมตร บาร์นาฟอสส์เป็นน้ำตกไหลเชี่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และนิทานพื้นบ้าน ต่างจากน้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์ที่ไหลออกมาจากทุ่งลาวา บาร์นาฟอสส์หรือ "น้ำตกสำหรับเด็ก" ไหลผ่านหุบเขาหินทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวที่ทรงพลัง

หลังจากเดินทางมาทั้งวัน คุณจะเข้าพักในที่พักที่อยู่ในเมืองเรคยาวิก ซึ่งคืนนี้คุณอาจจะอยากจะออกไปสัมผัสบรรยากาศของแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนในเมืองกันก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านในวันพรุ่งนี้ด้วยก็ได้

อ่านเพิ่ม

ที่พัก

ประสบการณ์

วันที่ 8

วันที่ 8 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
  • More
  • เคลฟาร์วาทน์
  • ครีซูวิก
  • กุนนูฮแวร์
  • More

วันนี้เป็นวันสุดท้ายในไอซ์แลนด์แล้ว ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน

บลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ

มีสิ่งอื่นๆ ที่คุณสามารถทำได้อีกมากมายในเมืองเรคยาวิก คุณสามารถช้อปปิ้งในนาทีสุดท้ายได้ คุณยังสามารถเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม เช่น ศูนย์แสดงคอนเสิร์ตและศูนย์การประชุมฮาร์ปา พิพิธภัณฑ์และหอชมวิวเพอร์ลาน และโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา

แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์

สิ่งที่ควรนำไป

เสื้อผ้าที่อบอุ่น
กล้องถ่ายรูป
ชุดว่ายน้ำ
ใบขับขี่
แว่นกันแดด

สิ่งที่ควรรู้

แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองเริ่มต้นออกเดินทางได้ทั้งจากตัวเมืองเรคยาวิกและสนามบินเคฟลาวิก ผู้ขับขี่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่และมีประสบการณ์ในการขับรถอย่างน้อย 1 ปี และรายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวอาจมีการแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับวันและเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ แพ็คเกจไม่รวมความคุ้มครองรถยนต์จากกรวดหากคุณเลือกใช้รถ Toyota Aygo หรือที่คล้ายกัน และอาหารเช้านั้นอาจไม่รวมอยู่ในโฮสเทลและเกสต์เฮาส์บางแห่งที่เลือก

สำหรับกิจกรรมเสริมบางอย่างนั้นคุณอาจจำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตขับขี่หรืออาจต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนโปรแกรมของคุณ นอกจากนี้คุณอาจต้องใช้เอกสารทางการแพทย์ด้วยในกรณีที่คุณเลือกทำกิจกรรมอย่างการดำน้ำหรือการดำน้ำตื้น ทั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้

และถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้น โปรดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมมาด้วย

อ่านเพิ่ม

วิดีโอ

รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว

แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด