ทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 8 วันแบบประหยัด รอบเส้นทางถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ และวงกลมทองคำ
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
ประหยัดเงินของคุณด้วยการจองแพ็คเกจขับรถเที่ยวเองในราคาสุดคุ้มนี้ สำหรับประสบการณ์ที่คุณจะได้ใช้เวลา 8 วันในการสำรวจประเทศไอซ์แลนด์ที่น่ามหัศจรรย์นี้ ทัวร์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเดินทางด้วยตัวเอง และเดินทางท่องเที่ยวอย่างอิสระ โดยไม่ต้องสนใจเวลาเดินทางของรถบัสหรือแรงกดดันอื่นๆ
ในการเดินทางครั้งนี้ สิ่งที่จะนำทางของคุณเพียงหนึ่งเดียวคือถนนสายวงแหวน ที่จะนำคุณเดินทางไปตามชนบทต่างๆ ที่มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่กำลังรอคุณอยู่มากมาย คุณจะได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งในเมืองหลวงเรคยาวิก (Reykjavík) ที่คึกคัก รวมถึงเมืองหลวงของทางเหนือที่ชื่อว่า อาคูเรย์ริ (Akureyri) ด้วยเช่นกัน
ในระหว่างนั้น คุณยังจะได้ท่องเที่ยวสำรวจวงกลมทองคำ (Golden Circle) ชมความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดทางตะวันออก และเยี่ยมชมทะเลสาบมิวาทน์ (Mývatn) ที่งดงาม รวมถึงน้ำตก ภูเขาไฟ และหมู่บ้านชายฝั่งทะเลอันน่าทึ่งอีกนับไม่ถ้วน
ระหว่างทำการจอง คุณยังสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมพิเศษระหว่างการเดินทางได้ นั่นรวมถึงการปีนธารน้ำแข็งและขี่สโนว์โมบิลที่ด้านบนของธารน้ำแข็ง ร่วมเดินทางไปกับทัวร์ล่องเรือทะเลสาบโจกุลซาลอน ออกไปชมวาฬในฮูสาวิก (Husavik) หรือลองทำความรู้จักกับม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์ในทัวร์ขี่ม้าชมธรรมชาติที่งดงาม
หรือหากเป็นไปได้ คุณอาจจะเลือกการดำน้ำตื้นในทะเลสาบน้ำใสราวกับคริสตัล ที่อยู่ในช่องแคบระหว่างสองแผ่นเปลือกโลก เดินทางผจญภัยท่ามกลางความมืดด้วยทัวร์ถ้ำลาวา เดินทางเข้าไปในธารน้ำแข็ง หรือดำดิ่งลงในโถงแมกมาของภูเขาไฟที่หลับไหลแล้ว นี่คือการเดินทางที่เป็นไปได้ทั้งหมดของคุณ นี่จะเป็นการเดินทางของคุณที่คุณจะเป็นผู้กำหนดการผจญภัยครั้งนี้ในแบบที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ดังนั้นคุณไม่ควรรอที่จะได้พบกับการเดินทางที่น่ามหัศจรรย์นี้อีกต่อไป และด้วยแพ็คเกจราคาสุดคุ้มนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้ทำความรู้จักดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟให้ได้มากที่สุด ตรวจสอบจำนวนที่ว่างด้วยการเลือกวันเดินทางของคุณ
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - มาถึงเมืองเรคยาวิก
ยินดีต้อนรับคุณสู่ประเทศไอซ์แลนด์ รถของคุณจะจอดรอคุณอยู่ที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก จากที่นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นภารกิจแรกของคุณ ในการขับรถผ่านพื้นที่ของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) เพื่อตรงไปยังเมืองเรคยาวิกที่จะเป็นจุดหมายแรกของคุณ ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง
หลังจากที่คุณเดินทางมาถึงยังที่พักในตัวเมืองเรคยาวิก คุณสามารถออกไปเดินชมและทำความรู้จักกับผู้คนในท้องถิ่นของเมืองหลวงที่งดงามนี้ ใช้ช่วงเวลาอิสระนี้ในการสำรวจสถานที่ต่างๆ ใจกลางเมืองหลวง ที่มีตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ บาร์ หรือร้านอาหาร ก่อนที่จะเข้าพักผ่อนในคืนนี้

วัน 2 - วงกลมทองคำ & สถานที่ท่องเที่ยวในชายฝั่งทางใต้
ในวันที่สองของการเดินทาง คุณจะเริ่มต้นด้วยการเดินทางไปยังเส้นทางท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศไอซ์แลนด์ที่เรียกว่า วงกลมทองคำ (Golden Circle) โดยในเส้นทางนี้มีอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์(Þingvellir) หุบเขาทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ที่เฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) อันงดงาม
อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ตั้งอยู่ในหุบเขาที่เป็นรอยแยกของสันกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นั่นคุณสามารถเข้าร่วมกับทัวร์ดำน้ำตื้นในน้ำใสเป็นประกายของช่องแคบซิลฟรา (Silfra) และว่ายน้ำระหว่างแผ่นเปลือกโลกยุโรปและอเมริกาเหนือได้
ที่ทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ คุณจะได้พบกับไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ที่มักจะเกิดการปะทุเป็นประจำในทุกๆ 5-10 นาที และในขณะที่น้ำพุร้อนอันงดงามนี้เกิดการปะทุขึ้น นั่นอาจทำให้เกิดน้ำพุพุ่งขึ้นสูงถึง 49-66 ฟุต หรือ 15-20 เมตรเลยทีเดียว
ถัดจากนั้นคุณจะได้ไปยัง บริเวณน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ที่นั่นคุณสามารถเลือกที่จะตื่นเต้นกับกิจกรรมการขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) หรือคุณสามารถเลือกที่จะเดินทางไปกับทัวร์ขี่ม้าเพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกับม้าแสนรู้สายพันธุ์ไอซ์แลนด์ก็ได้
จากนั้นคุณจะต้องเดินทางต่อไปยังเส้นทางชายฝั่งทางใต้ (South Coast) ซึ่งคุณจะต้องไม่ลืมที่จะแวะยังน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ซึ่งน้ำตกทั้งสองนี้ตั้งอยู่ภายใต้ภูเขาไฟธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull)
จุดหมายปลายทางสุดท้ายของคุณในวันนี้ก็คือหมู่บ้านวิก (Vík) ที่เป็นที่ตั้งของหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีความงดงามแต่แฝงไปด้วยอันตราย เนื่องจากกระแสน้ำอันรุนแรงของมหาสมุทรแอตแลนติก ธรรมชาติทางธรณีวิทยาในบริเวณนี้น่าสนใจมาก ทุกอย่างในทริปวันนี้จะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับคุณ
ที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ในหมู่บ้านวิก

วัน 3 - เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ | ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
ในวันที่ 3 นี้ คุณจะได้เดินทางต่อบนเส้นทางตะวันออกเฉียงใต้เพื่อไปยังบริเวณศูนย์อนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ที่นั่นมีเส้นทางเดินป่า และเส้นทางชมธรรมชาติมากมาย รวมถึงกิจกรรมที่กำลังรอคุณอยู่ที่นั่นด้วย
คุณสามารถปีนขึ้นไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) และดื่มด่ำกับแนวกำเพงหินบะซอลล์สีดำที่แสนพิเศษ หรือเลือกกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งเพื่อไปยังยอดของแผ่นน้ำแข็งที่เกิดจากการก่อตัวของหิมะและช่องเขาที่มีแสงระยิบระยับ
จากนั้นคุณจะต้องเดินทางต่อไปยังสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ถัดไปของการเดินทางในครั้งนี้ที่ชื่อว่าทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ที่นั่นมีภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่งดงาม ล่องลอยเอื่อยๆ เต็มทะเลสาบก่อนที่จะลอยออกไปในมหาสมุทร
ที่นี่คุณสามารถเลือกกิจกรรมล่องเรือได้สองแบบ เพื่อคุณจะได้มีโอกาสในการนั่งเรือออกไปท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้ รวมถึงการที่คุณจะได้ชมบรรดาฝูงแมวน้ำด้วย
สถานที่ใกล้ๆ กับธารน้ำแข็งก็คือ ไดมอนด์บีช (Diamond Beach) ที่นั่นเป็นสถานที่ที่น้ำแข็งจากทะเลสาบได้ถูกซัดขึ้นไปอยู่บนชายฝั่ง และภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้ได้ส่องประกายราวกับอัญมณีภายใต้แสงอาทิตย์ และจุดหมายปลายทางสุดท้ายของคุณวันนี้ก็ชื่อหมู่บ้านบริเวณชายฝั่งที่ชื่อว่าเฮิฟน์ (Hofn) ที่คุณจะได้เข้าพักในคืนนี้

วัน 4 - ฟยอร์ดทางตะวันออก
ในวันที่ 4 นี้ก็ได้เวลาที่คุณจะต้องเดินทางออกจากเส้นทางชายฝั่งทางใต้ และมุ่งหน้าต่อไปยังฟยอร์ดที่อยู่ทางตะวันออก แม้ฟยอร์ดเหล่านี้จะดูเหมือนว่าไม่มีจุดสิ้นสุด เพราะคุณจะต้องเดินทางผ่านที่นี่ไปเรื่อยๆ แต่ฟยอร์ดแต่ละแห่งจะมีความพิเศษ และเรามั่นใจว่าที่นี่ต้องทำให้คุณได้ตื่นตาแน่นอน
คุณจะได้เดินทางข้ามไปตามแนวสันเขา และเนินเขามากมาย พร้อมทั้งการได้ชมวิวของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลไปด้วยในทางตะวันออกของคุณในขณะที่คุณขับรถมุ่งหน้าไปทางเหนือ
ฟยอร์ดทางตะวันออก (East Fjords) เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด รวมถึงฝูงกวางเรนเดียร์ป่า แมวน้ำ และนกหลากหลายายพันธุ์
วันนี้จะเป็นวันแห่งการชมธรรมชาติ ดังนั้นคุณจะได้ชมธรรมชาติมากมายในขณะที่คุณขับรถมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางทางตะวันออกของเอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir) ที่นั่นเป็นเมืองที่งดงามที่ริมชายฝั่งของแม่น้ำลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljót) คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่นี่

วัน 5 - ทะเลสาบมิวาทน์และทางเหนือ
ในวันที่ 5 ของการผจญภัยบนถนนวงแหวน คุณจะได้ทำความรู้จักกับทางเหนือ และสถานที่มหัศจรรย์ของที่นี่ ระหว่างทางคุณจะได้ขับรถผ่านหุบเขาโจกุลส์เอาร์กยูฟูร์ Jökulsárgljúfur เพื่อที่คุณจะได้ชมน้ำตกที่ทรงพลังมากที่สุดของยุโรปที่ชื่อว่าน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss)
จุดแวะถัดไปของคุณได้แก่ทะเลสาบมิวาทน์ (Mývatn) ที่เป็นแหล่งความร้อนใต้พิภพที่งดงาม และเป็นที่ตั้งของหลุมปล่องภูเขาไฟสกูตูสตาดากีการ์ (Skútustaðagígar) เส้นทางเนามาส์การ์ด (Námaskarð) ดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) ป้อมปราการที่เกิดจากการก่อตัวของลาวาอันลึกลับ และภูเขาคราฟลา (Krafla) ที่เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่เป็นที่จดจำมากที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์
หลังจากที่คุณได้ชมธรรมชาติอันงดงามของบริเวณมิวาทน์แล้ว คุณสามารถเลือกพักผ่อนด้วยการแช่น้ำร้อนธรรมชาติที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ได้ เพื่อคุณจะได้เติมพลังก่อนที่คุณจะต้องเดินทางต่อไป
ในเมืองฮูสาวิค (Húsavík) คุณสามารถเลือกที่จะเดินทางออกจากพื้นที่แห้งๆ เพื่อนั่งเรือออกไปยังน่านน้ำในการชมวาฬที่อ่าวสเกาล์ฟานติ (Skjálfandi) หรือหากคุณได้ทำการอัพเกรดเป็นทัวร์เรือยาง คุณก็จะได้มีโอกาสในการชมนกพัฟฟินแอตแลนติก (Atlantic Puffin) ที่มีนิสัยอ่อนโยนและเป็นที่โปรดปรานของทุกคนอย่างใกล้ชิดด้วย
สุดท้ายของวันนี้คุณจะต้องตรงไปยังเมืองอาคูเรย์ริ ที่คุณจะต้องเข้าพักที่นั่นในคืนนี้

วัน 6 - เมืองหลวงของทางเหนือ & คาบสมุทรโทรลลาสกายี
การเดินทางวันที่ 6 คุณจะได้ตื่นขึ้นในเมืองอาคูเรย์ริ และชมเมืองที่คนในท้องถิ่นส่วนใหญ่เรียกว่า "เมืองหลวงของทางเหนือ" ใช้ช่วงเวลาในตอนเช้าของวันนี้ในการสำรวจเมืองที่สวยงามนี้ ที่มีทั้งร้านค้าท้องถิ่น อาคาร พิพิธภัณฑ์ คาเฟ่ และสวนสาธารณะ
คุณสามารถเพิ่มทัวร์ชมวาฬได้ในวันนี้เช่นกัน ซึ่งทัวร์นี้เริ่มเดินทางออกจากท่าเรือเมืองอาคูเรย์ริ ทันทีที่คุณพร้อมจะออกเดินทาง คุณจะได้ออกเดินทางจากแหลมโทรลลาสกากิ (Trollaskagi) และต่อไปยังสกาการ์ฟยอร์ดูร์ (Skagafjörður)
หรือคุณสามารถเลือกที่จะเริ่มต้นการเดินทางวันนี้ด้วยทัวร์ขี่ม้าตามแนวชนบทของเมืองอาคูเรย์ริ และเพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์ที่งดงามของเอยาฟยอร์ดู (Eyjafjörður)
การเดินทางจะนำคุณเลาะไปตามเส้นทางของแหลมโทรลลาสกากิ คุณจะได้เดินทางผ่านภูเขาขนาดใหญ่ เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวประมงที่ชื่อว่าสิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjördur) และแวะพักที่เมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่าโฮฟซอส (Hofsos) ก่อนถึงเซยดาร์โครคูร์ (Saudarkrokur)
ที่คุณจะได้เข้าพักในคืนนี้

วัน 7 - ดินแดนทางตะวันตก & ประวัติศาสตร์แห่งการตั้งถิ่นฐาน
ในวันที่เจ็ด สำรวจส่วนสุดท้ายของเกาะด้วยการเดินทางไปยังฝั่งตะวันตกที่ยิ่งใหญ่ ที่นั่นเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายมากมาย เช่น ศูนย์การตั้งถิ่นฐานในบอร์กาเนส (Borgarnes) และเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) ที่เป็นน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป
คุณจะต้องไม่ลืมที่จะไปเที่ยวยังน้ำตกที่อยู่ใกล้เคียงชื่อว่าน้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) และ บาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) ที่มีความพิเศษที่แตกต่างกันแต่อยู่ห่างกันเพียงนิดเดียว
หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ คุณสามารถแวะอ้อมไปยังศูนย์วิจัยยุคกลางที่สนอร์ราสโตฟา (Snorrastofa) ที่เป็นอดีตบ้านของนักเขียน นักวิชาการ และกวีในตำนานที่ชื่อว่าสนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) ที่มีสวนหลังบ้านเป็นที่ตั้งของสนอร์ราโลยก์ (Snorralaug) ที่เป็นสระว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์
หากคุณชื่นชอบการผจญภัย คุณมีสองทางเลือก คือสำรวจโลกใต้ดินไปกับทัวร์ถ้ำ ที่จะพาคุณเดินทางผ่านอุโมงค์ลาวาที่วิดเกลมิร์ (Vidgelmir) หรือเลือกที่จะชมภายในธารน้ำแข็งในอุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นในลางโจกุล (Langjökull)
จากนั้นคุณจะต้องเตรียมตัวเดินทางกลับไปยังเรคยาวิก แต่คุณจะต้องไม่ลืมแวะที่ฟอสสาตุน ซึ่งเป็นน้ำตกที่ถูกคุ้มกันโดยโทร์ลหญิงสาวจากคำบอกเล่าของตำนานในอดีต และเมื่อคุณเดินทางไปถึงตัวเมืองคุณสามารถเลือกลงไปเที่ยวในโถงแมกมาของปล่องภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Thrihnjukagigur) ได้ด้วย

วัน 8 - เดินทางกลับ & กล่าวอำลา
การผจญภัยในประเทศไอซ์แลนด์ของคุณจะต้องจบลงแล้ว อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถส่งคืนรถที่สนามบินเคฟลาวิกได้ทันเวลาก่อนเที่ยวบินกลับ
ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้สามารถเริ่มต้นออกเดินทางได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิก หรือสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนท้องถนนอย่างน้อยหนึ่งปี ทั้งนี้แผนการท่องเที่ยวที่จัดไว้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย และแม้ว่าทริปนี้จะอยู่ในช่วงหน้าร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ คุณต้องเตรียมเสื้อผ้ามาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศด้วย
ที่พัก
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล
สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม
ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
เตียงแบบหอพัก พร้อมห้องน้ำรวมในเกสต์เฮาส์หรือโฮสเทล ที่พักตั้งอยู่ในบริเวณที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำรวมในฟาร์มเฮ้าส์ เกสต์เฮ้าส์ หรือโฮสเทล อยู่ในทำเลดีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
รถ
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)
ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป