แพ็คเกจฤดูร้อนเที่ยวไฮไลต์ที่ดีที่สุดบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ 8 วัน

ในวันที่สอง คุณจะได้พบกับไกด์และเพื่อนร่วมคณะกลุ่มเล็กๆ ที่จะใช้เวลาด้วยกันในทริปอีกหลายวัน และออกเดินทางท่องเที่ยวรอบไอซ์แลนด์ คุณจะเริ่มต้นการเดินทางหกวันนี้ด้วยการเดินทางรอบเส้นทางท่องเที่ยววงกลมทองคำ ซึ่งเป็นการแนะนำประเทศที่สมบูรณ์แบบ

สถานที่แห่งแรกที่นี่คือธิงเวลลีร์ อุทยานแห่งชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ขอบของแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นอยู่ที่หุบเขาแห่งนี้ และมีป่าไม้ ทางน้ำ และทุ่งลาวาที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้การสำรวจเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ไวกิ้งอันน่าทึ่งย้อนหลังไปนับพันปี

ขณะอยู่ที่นี่ คุณมีตัวเลือกที่จะเข้าร่วมกิจกรรมผจญภัย โดยคุณสามารถไปดำน้ำตื้นระหว่างทวีปในน้ำใสดุจคริสตัลของรอยแยกซิลฟราได้ คุณจะได้รับอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็นทั้งหมดก่อนที่จะเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพใต้น้ำอันน่าจดจำ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นจะต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้

สิ่งที่น่าสนใจคือรอยแยกนี้มีทัศนวิสัยใต้น้ำที่มองเห็นได้กว่า 100 เมตร และมีเฉดสีฟ้ามากกว่าที่คุณเคยคิดว่าจะเป็นไปได้

สถานที่แห่งที่สอง คุณจะได้เยี่ยมชมพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการปะทุของน้ำพุร้อนและพุก๊าซที่มีอยู่มากมาย ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือสโทรคูร์ ซึ่งฉีดพ่นไอน้ำและน้ำสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าได้สูงกว่า 20 เมตร คุณสามารถชมเหตุการณ์อันน่าทึ่งนี้ได้ทุกๆ 5 ถึง 10 นาที

หากยังไม่พอ ยังมีน้ำพุร้อน ช่องระบายไอน้ำ และแอ่งโคลนอื่นๆ อีกมากมายให้ชมระหว่างที่รอการปะทุด้วย

ในที่สุด คุณก็จะมาถึง "น้ำตกทองคำ" น้ำตกกุลล์ฟอสส์ ซึ่งเป็นน้ำตกที่ทรงพลังมหาศาลที่ไหลลงสู่หุบเขาโบราณ แม้ว่าจะมีความสูงเพียง 32 เมตร แต่ความงามของน้ำตกกุลล์ฟอสส์นั้นมาจากพลังและสภาพแวดล้อมอันเงียบสงบ

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีรุ้งกินน้ำปรากฏอยู่ในละอองน้ำเมื่อมีแดดจ้าด้วย และในวันที่อากาศแจ่มใส คุณอาจสามารถมองเห็นธารน้ำแข็งลางโจกุลได้จากจุดชมวิวที่ด้านบน

จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปยังที่พักของคุณซึ่งอยู่ท่ามกลางภูมิทัศน์ของบริเวณนี้

วันที่สามของแพ็คเกจแปดวันในไอซ์แลนด์ คุณจะมุ่งหน้าไปยังถนนวงแหวนและเริ่มเดินทางรอบประเทศ สถานที่หลายแห่งของคุณในวันนี้อยู่ตามชายฝั่งทางใต้ และเมื่อคุณมุ่งหน้าไปที่นี่ คุณอาจเห็นธารน้ำแข็ง เช่น เอยาฟยาลลาโจกุล ได้จากบนรถ

สถานที่แรกของคุณคือน้ำตกที่น่าทึ่งสองแห่ง น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์และน้ำตกสโคกาฟอสส์ น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์มีความสูง 60 เมตร บริเวณด้านหน้าน้ำตกเป็นหิน

แม้ว่าน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์จะมีความอ่อนโยนกว่า แต่มันก็ไหลลงหน้าปากถ้ำขนาดใหญ่ ทำให้เกิดมุมมองที่ไม่เหมือนใครสำหรับผู้ที่เข้าไปเดินอยู่ด้านหลัง

ในขณะเดียวกัน น้ำตกสโคกาฟอสส์ก็ส่งเสียงคำรามอย่างน่ากลัว และคุณสามารถเดินฝ่าละอองน้ำที่หนาทึบได้ สโคกาฟอสส์เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ มีน้ำตกจากความสูง 60 เมตร (197 ฟุต) และกว้าง 82 ฟุต (25 เมตร) ในบางวัน เมื่อมีแสงสะท้อนผ่านน้ำตก นักท่องเที่ยวจะได้เห็นรุ้งกินน้ำคู่

หลังจากตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้แล้ว คุณจะได้มุ่งหน้าไปยังดิร์โฮลาเอย์ ซึ่งเป็นซุ้มหินโค้งขนาดใหญ่ขนาดที่เรือแล่นผ่านไปได้ ธรณีวิทยาที่นี่ไม่เพียงแต่น่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังมีนกพัฟฟินหลายพันตัวทำรังบนโขดหินในช่วงฤดูร้อน ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์สัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด

ใกล้ๆ ดิร์โฮลาเอย์คือชายหาดเรย์นิสฟยารา ซึ่งมีหาดทรายสีดำอันเป็นเอกลักษณ์และหอคอยลาวานอกชายฝั่งที่โดดเด่น โครงสร้างเหล่านี้มีชื่อว่าเรย์นิสดรังการ์ ที่ตำนานพื้นบ้านบอกว่าเป็นโทรลล์ที่ตัวแข็ง

การผจญภัยที่คุณสามารถเลือกเพิ่มได้ในวันนี้คือการเดินทางไปยังถ้ำน้ำแข็งที่มิร์ดาลสโจกุล ธารน้ำแข็งที่ปกคลุมภูเขาไฟคัทลาอยู่ ทัวร์นี้เป็นหนึ่งในวิธีเดียวที่จะได้เห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งในฤดูร้อน และให้คุณได้สำรวจทั้งบริเวณด้านบนและลึกลงไปในแผ่นน้ำแข็ง

มิร์ดาลสโจกุลเป็นแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในไอซ์แลนด์ ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 600 ตารางกิโลเมตร โดยมียอดเขาสูงเกือบ 1,500 เมตร

หลังจากเพลิดเพลินกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติเหล่านี้แล้ว คุณจะได้มุ่งหน้าไปยังที่พักในไอซ์แลนด์ตอนใต้

วันที่สี่ของทริปเที่ยวไอซ์แลนด์ คุณจะเติมเต็มการเดินทางที่เหลือในชายฝั่งทางใต้ของคุณด้วยการไปยังโจกุลซาร์ลอน ซึ่งเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งอันงดงาม อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางนี้ คุณจะได้มุ่งหน้าไปยังเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) ซึ่งเป็นมุมที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull National Park)

พื้นที่ธรรมชาติแห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยแผ่นน้ำแข็งสามแผ่นที่แผ่ลงมาจากธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งก็คือธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ธารน้ำแข็งแห่งนี้มีพื้นที่ 3,127 ตารางไมล์ (8,100 ตารางกิโลเมตร) และวัทนาโจกุลยังมีภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศคือฮวานนาดาลสฮนูกูร์อยู่ใต้น้ำแข็งด้วย

ในแพ็คเกจนี้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการผจญภัยเดินป่าบนหนึ่งในนั้นได้ โดยไกด์จะจัดอุปกรณ์นิรภัยที่จำเป็นให้คุณสวมใส่ก่อนที่จะนำคุณขึ้นไปบนเนินสีขาวและแนะนำให้คุณรู้จักกับรอยแยก กำแพงน้ำแข็ง รูปทรงหิน และทิวทัศน์อันน่าทึ่งเหนือเขตอนุรักษ์

หลังจากนี้คุณจะไปโจกุลซาร์ลอน ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในไอซ์แลนด์และเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งที่สวยงามหลายพันลูก ซึ่งแตกออกจากลิ้นธารน้ำแข็งและค่อยๆ ลอยลงสู่ทะเล คุณมีแนวโน้มที่จะเห็นแมวน้ำอยู่ท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งและนกนานาชนิดในบริเวณโดยรอบ รวมถึงสามารถเดินเล่นเลียบชายฝั่งได้ด้วย

สำหรับวันนี้ คุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมล่องเรือในทะเลสาบเพื่อดื่มด่ำไปกับความงดงามของโจกุลซาร์ลอน เรือสะเทินน้ำสะเทินบกเป็นตัวเลือกที่สามารถพาคุณไปอยู่ท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งโดยที่ไม่มีน้ำกระเซ็นใส่ ส่วนเรือโซดิแอกท้องแบนจะพาคุณไปชมน้ำแข็งได้ใกล้ชิดมากขึ้น

ขณะที่ภูเขาน้ำแข็งเดินทางออกจากโจกุลซาร์ลอน ก้อนน้ำแข็งเหล่านี้ก็จะไปเกยตื้นบนชายฝั่งทรายสีดำที่อยู่ติดกันที่เรียกว่าหาดไดมอนด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความงดงามตระการตาที่คุณควรไปสำรวจ ทั้งทะเลสาบและแนวชายฝั่งก็เป็นสถานที่ชมแมวน้ำที่ดีเยี่ยมเช่นกัน

ที่น่าสนใจคือไดมอนด์บีชได้ชื่อมาจากภูเขาน้ำแข็งที่เปล่งประกายเหมือนเพชร โดยหาดนี้เป็นสถานที่ที่สวยงามสำหรับเดินเล่นก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังที่พักของคุณที่อยู่ในบริเวณนี้ในตอนเย็น

ในวันที่ห้าของการเดินทางแปดวันรอบไอซ์แลนด์ คุณจะมุ่งหน้าไปยังหนึ่งในภูมิภาคที่ห่างไกลและน่าจดจำที่สุดของประเทศ นั่นคือฟยอร์ดตะวันออก

วันนี้คุณจะได้สำรวจฟยอร์ดตะวันออกที่เป็นธรรมชาติและห่างไกล พื้นที่ส่วนนี้ของประเทศขึ้นชื่อในเรื่องหมู่บ้านชาวประมงอันเงียบสงบและถนนบนภูเขาที่คดเคี้ยว

ฟยอร์ดตะวันออกเป็นแนวชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร เริ่มต้นจากทางใต้ในเบรูฟยอร์ดูร์ (Berufjørdur) ไปทางเหนือในหมู่บ้านชาวประมงบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ เอสทรี (Borgarfjordur Eystri)

ฟยอร์ดตะวันออกมีป่าทึบ ทะเลสาบที่ส่องประกายระยิบระยับ และสัตว์ป่ามากมาย สัตว์บางชนิดที่คุณจะพบในบริเวณนี้ ได้แก่ กวางเรนเดียร์ แมวน้ำ และนกอพยพสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงนกพัฟฟินแอตแลนติกที่เข้าใจยาก

ถนนที่รถวิ่งจะเป็นถนนเลียบแนวชายฝั่งอันงดงาม มองเห็นอ่าวที่ยื่นออกไปและภูเขาสูงตระหง่าน และคุณอาจเห็นสัตว์ป่ามากมาย รวมถึงนกทะเล แมวน้ำ กวางเรนเดียร์ และปลาวาฬ

คุณจะได้เห็นยอดเขาที่โดดเด่น เช่น ภูเขาเวสตราฮอร์น หมู่บ้านที่น่าหลงใหล เช่น ดยูปาโวกูร์ (Djupavogur) และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เช่น พิพิธภัณฑ์จอนส์ ร็อค (Jon's Rock)

นอกจากนี้คุณยังจะได้แวะที่ฮาลลอร์มสตาดาสโกกูร์ (Hallormsstadhaskogur)​ ซึ่งเป็นป่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ฮาลลอร์มสตาดาสโกกูร์อยู่ใกล้กับเอกิลสตาดิร์ และครอบคลุมพื้นที่ 740 ตารางกิโลเมตรที่เต็มไปด้วยต้นไม้

นอกเหนือจากขนาดที่ใหญ่โตแล้ว ป่าแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านเส้นทางเดินป่าและสัตว์ป่าที่มีชีวิตชีวามากมาย ป่าแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ตั้งแต่ปี 1905 และการปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่เริ่มขึ้นในราวปี 1950

จุดแวะเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งคือลาการ์ฟโยลท์ (Lagarfjlot) ซึ่งเป็นทะเลสาบลึกลับที่มีตำนานพื้นบ้านที่น่าสนใจ ว่ากันว่าทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่อยู่ของ Lagarfljot Wyrm สัตว์ร้ายที่เชื่อกันว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของสัตว์ประหลาดล็อกเนส และมักโผล่มาให้เห็นเหนือพื้นผิวของทะเลสาบ ทะเลสาบลาการ์ฟโยลท์ยังขึ้นชื่อในด้านความงามตามธรรมชาติและการตกปลาอีกด้วย

การผจญภัยทางเลือกในวันนี้คือการขี่ม้า มีสถานที่ไม่กี่แห่งที่จะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์นี้ได้ดีไปกว่าภาคตะวันออก

คุณจะได้พักค้างคืนที่ไอซ์แลนด์ตะวันออก

วันที่หกของทริปแปดวันเที่ยวรอบไอซ์แลนด์ คุณจะออกเดินทางไปทางตะวันออกและมุ่งหน้าไปยังเส้นทางท่องเที่ยวไดมอนด์เซอร์เคิลทางตอนเหนือ ก่อนที่คุณจะไปนั้นคุณยังมีโอกาสได้แช่น้ำอุ่นจากพลังงานความร้อนใต้พิภพที่เวิกบาธ (Vok Baths) สปาแห่งนี้ลอยอยู่บนทะเลสาบ ล้อมรอบด้วยภูเขา และห่างไกลจากร่องรอยของอารยธรรมใดๆ

เวิกบาธ เป็นสปาที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ตะวันออก ประกอบด้วยสระน้ำ 2 สระ อุโมงค์เย็นที่นำไปสู่ห้องอาบน้ำ และสระน้ำร้อนที่มองเห็นทิวทัศน์ของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีห้องซาวน่าในสถานที่และมีสระว่ายน้ำที่มีบาร์ในสระด้วย

คุณยังสามารถนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยน และสามารถใช้ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในร่มพร้อมห้องอาบน้ำส่วนตัวได้ นอกจากนี้ สปายังเป็นที่ตั้งของ Tea Bar ซึ่งให้บริการชา Tisane ที่ทำจากน้ำแร่และสมุนไพรไอซ์แลนด์นานาชนิด

หากคุณตัดสินใจไม่ไปเวิกบาธ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของเส้นทางไดมอนด์เซอร์เคิล คือหนึ่งในน้ำตกที่น่าประทับใจที่สุดของประเทศ น้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป น้ำตกมีความกว้าง 328 ฟุต (100 เมตร) และสูง 141 ฟุต (43 เมตร) นอกจากนี้ยังมีอัตราการไหลเฉลี่ย 50,985 แกลลอน (193 ลูกบาศก์เมตร) ต่อวินาที

การตกลงสู่หุบเขาสีเทาอันแห้งแล้งด้วยพลังอันน่าเกรงขาม จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผู้สร้างภาพยนตร์หลายคนจึงใช้สถานที่นี้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์อย่าง Prometheus

จากนั้น คุณจะไปถึงอาสบิร์กิ (Asbyrgi) ซึ่งเป็นหุบเขารูปเกือกม้าอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยป่าไม้เบิร์ช ขนาดและความสวยงามของสถานที่นี้ไม่เพียงแต่น่าหลงใหลเท่านั้น แต่สถานที่แห่งนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับตำนานนอร์สโบราณอีกด้วย

หลังจากนี้ คุณจะได้มุ่งหน้าไปยังบริเวณทะเลสาบมิวาทน์ ทะเลสาบมิวาทน์มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ทะเลสาบฟลาย" เนื่องจากมีแมลงวันตัวเล็กๆ ในบริเวณนี้ นอกจากนี้ยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีความยาวประมาณ 9.5 กิโลเมตร และกว้าง 6.5 กิโลเมตร

แหล่งน้ำที่นี่สวยงาม เจริญรุ่งเรืองไปด้วยพืชและสัตว์ที่มีเอกลักษณ์ และมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยานับไม่ถ้วน เช่น ปล่องภูเขาไฟเทียมและเสาหินบะซอลต์

นอกจากนี้คุณยังจะได้ค้นพบป้อมปราการลาวาที่น่าเกรงขามที่ดิมมูบอร์กิร์ และน้ำพุร้อนของช่องเขานามาสการ์ด

จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปยังอาคูเรย์ริ เมืองหลวงของไอซ์แลนด์เหนือ และแวะที่น้ำตกโกดาฟอสส์ เมืองนี้มีร้านอาหาร ร้านค้า และบาร์มากมายที่คุณสามารถสำรวจได้ก่อนหมดเวลาในวันนี้

ในวันที่เจ็ดของแพ็คเกจนี้ คุณจะกลับไปยังเมืองเรคยาวิกพร้อมกับเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในไอซ์แลนด์เหนือ หลังจากออกจากอาคูเรย์ริแล้ว คุณจะมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งของฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูร์เพื่อไปยังเมืองเฮยกาเนสที่มีเสน่ห์ ชุมชนนี้มีชื่อเสียงด้านการดูปลาวาฬ และทัวร์ดังกล่าวรวมอยู่ในแพ็คเกจนี้แล้ว!

ในการล่องเรืออันน่าตื่นเต้นนี้ คุณน่าจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตมากมาย เช่น โลมาปากขาว วาฬหลังค่อม และนกพัฟฟินแอตแลนติก สัตว์เหล่านี้มีพฤติกรรมบนผิวน้ำที่น่าหลงใหล ทำให้พวกมันเพลิดเพลินในการรับชม และฉากหลังของประสบการณ์ในการรับชมของคุณก็สวยงาม

เฮยกาเนสมีประชากรพักอาศัยจำนวนไม่มาก ประมาณ 140 คน ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่มีอาชีพตกปลาและแปรรูปปลา และเมืองนี้ยังมีกิจกรรมตกปลาทะเลที่ให้คุณตกปลาเป็นอาหารค่ำระหว่างที่ท่องเที่ยวชมวาฬ โลมา และนกพัฟฟิน

สิ่งที่น่าสนใจคือเฮยกาเนสเป็นที่ที่คุณจะได้เห็นบริษัทดูปลาวาฬที่เก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ นอกจากนี้คุณยังจะได้พบกับ Baccala Bar ร้านอาหารยอดนิยมที่มีสินค้าขายดี เช่น พิซซ่าบาคาเลา และบาคาเลาทอดพร้อมมันฝรั่งทอด

สถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองคืออ่างน้ำร้อนข้างหาดทรายสีดำแซนด์วิกูร์ฟยารา (Sandvikurfjara) นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เยี่ยมยอดสำหรับการเดินป่า โดยมีเส้นทางที่ทอดขึ้นไปยังหุบเขาธอร์วาลด์สดาลูร์ (Thorvaldsdalur)

หลังจากเที่ยวและชมวาฬเสร็จแล้ว คุณจะเดินทางออกจากเมืองเฮยกาเนสไปยังคาบสมุทรวาทน์สเนส ภูมิภาคที่มีผู้เยี่ยมชมน้อยแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว หินฮวิทแซร์กูร์ เป็นกลุ่มหินนอกชายฝั่งอันน่าทึ่งที่มีลักษณะคล้ายช้าง จับตาดูชายหาดที่นี่ เพราะคุณอาจได้เห็นฝูงแมวน้ำมากมายในพื้นที่

จากนั้นคุณจะเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิก โดยผ่านภูมิประเทศอันงดงามของไอซ์แลนด์ตะวันตก คุณจะได้เห็นชนบทที่เป็นแนวลูกคลื่น เทือกเขาอันตระการตา และแนวชายฝั่งที่สวยงาม และจะได้แวะดื่มเครื่องดื่มสดชื่น

เมื่อคุณกลับมาถึงเมืองหลวง คุณจะยังมีเวลาสำหรับรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อเฉลิมฉลองการเดินทางอันเหลือเชื่อของคุณ

ในวันที่แปดของทริปนี้เป็นเวลาที่คุณต้องบอกลาประเทศไอซ์แลนด์แล้ว หากเที่ยวบินคุณออกเดินทางแต่เช้า คุณจะต้องขึ้นรถ Flybus เพื่อเดินทางไปยังสนามบินให้ทันเวลา ไม่เช่นนั้น คุณอาจใช้เวลาในวันนี้เพลิดเพลินกับสถานที่และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองเรคยาวิก หรือใช้โอกาสนี้ลงเแช่น้ำในบลูลากูนได้

หรือคุณจะเลือกไปช้อปปิ้งในนาทีสุดท้ายบนถนนสายหลักเลยกาแวกูร์ก็ได้

ขอให้เดินทางปลอดภัย และเราหวังว่าจะได้พบคุณเร็วๆ นี้!