ทัวร์ขับรถชมแสงเหนือด้วยตนเอง 8 วัน สำรวจธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์พร้อมเที่ยวถ้ำน้ำแข็ง

วันแรกของคุณในไอซ์แลนด์จะเริ่มต้นด้วยความสนุกสนานเมื่อคุณใช้เวลาในเมืองเรคยาวิกหรือแวะที่สปาบลูลากูน

คุณจะมาถึงสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก และรับรถเช่าได้หลังจากรับสัมภาระจากบริเวณรับกระเป๋าแล้ว ซึ่งตอนนี้คุณพร้อมที่จะออกเดินทางสู่การผจญภัยครั้งสำคัญในชีวิตแล้ว

คุณจะได้ใช้เวลาคืนแรกในที่พักแสนสบายในเมืองเรคยาวิก เมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลก การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองเรคยาวิกเป็นระยะทางประมาณ 30 ไมล์ (ประมาณ 50 กิโลเมตร) ซึ่งคุณสามารถแวะเที่ยวระหว่างทางได้หากต้องการเริ่มสนุกสนานให้เร็วที่สุด

นักเดินทางหลายคนอยากไปเที่ยวสปาความร้อนใต้พิภพบลูลากูนทันทีหลังจากที่พวกเขาเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องน้ำอุ่นสีฟ้าซึ่งมีแร่ธาตุที่กล่าวกันว่ามีประโยชน์ต่อผิวอย่างไม่น่าเชื่อ

คุณสามารถใช้เวลาที่นี่เพื่อแช่ตัวและผ่อนคลายขณะชมภูมิทัศน์ภูเขาไฟของบลูลากูน ซึ่งเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการขจัดความตึงเครียดหลังการนั่งเครื่องบิน และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่คุณจะพบในการผจญภัยของคุณ

หากวันนี้คุณยังไม่มีเวลาไปบลูลากูน คุณก็สามารถไปเพิ่มกิจกรรมนี้ในวันอื่นแทนได้ ที่ปรึกษาการเดินทางของคุณจะสามารถจัดเตรียมสิ่งนี้ให้กับคุณได้ โดยในวันนี้คุณสามารถใช้เวลาที่มีเหลือเพื่อสำรวจคาบสมุทรเรคยาเนส หรือมุ่งหน้าตรงไปยังเมืองเรคยาวิกได้เลย

ทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ของคาบสมุทรเรคยาเนสเป็นฉากหลังที่น่าทึ่งในการขับรถของคุณ คุณสามารถเยี่ยมชมพื้นที่ความร้อนใต้พิภพครีซูวิก (Krysuvik) หรือเดินไปรอบๆ ชายฝั่งเพื่อชมประภาคารที่สวยงามและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของมหาสมุทร

เมื่อคุณมาถึงเรคยาวิก คุณสามารถเช็คอินเข้าที่พักของคุณในคืนนี้และใช้เวลาที่เหลือของวันออกไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งของเมืองที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ คุณจะมีเวลามากมายให้ไปชมพิพิธภัณฑ์ที่น่าหลงใหล ประติมากรรมและศิลปะ สวนสาธารณะที่งดงาม และถนนที่เต็มไปด้วยสีสัน

ค้นพบไฮไลท์ของไอซ์แลนด์ตะวันตกด้วยการเดินทางไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสอันน่าทึ่ง

วันที่สองของทัวร์ขับรถเที่ยวเองจะแนะนำให้คุณรู้จักกับพื้นที่มหัศจรรย์ที่คนท้องถิ่นเรียกว่า "ไอซ์แลนด์ขนาดย่อ" คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสแห่งนี้มีภูมิประเทศทางธรรมชาติที่หลากหลายของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับความงดงามของประเทศไอซ์แลนด์

คุณจะขับรถไปทางเหนือจากเรคยาวิกและเข้าสู่คาบสมุทร นักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมแวะที่เมืองชายฝั่งทะเลสติกกิชโฮลมูร์เพื่อรับประทานอาหารว่างหรือพักผ่อน คุณสามารถเยี่ยมชมโบสถ์สติกกิชโฮล์มสคิร์กยาที่โดดเด่น หรือเดินไปตามชายฝั่งเพื่อเพลิดเพลินกับทัศนียภาพ

จากที่นี่สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงคือภูเขาคิร์กจูเฟลล์ ภูเขารูปทรงกรวยนี้ปรากฏในซีรีส์ HBO เรื่อง Game of Thrones และมียอดเขาที่ไม่เหมือนใครซึ่งดูเหมือนชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้วยความสูง 1,519 ฟุต (ประมาณ 463 เมตร) ที่นี่จึงเป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งบนคาบสมุทรและคุ้มค่าแก่การเยี่ยมชม

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆ บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ได้แก่ หมู่บ้านชาวประมงอันงดงามแห่งเฮลล์นาร์และอาร์นาร์สตาปิ เมืองเล็กๆ เหล่านี้ตั้งอยู่เชิงเขาและมองเห็นทะเล จึงอุดมไปด้วยความงามทางธรรมชาติ และยังให้ภาพที่ยอดเยี่ยมของวิถีชีวิตชาวไอซ์แลนด์อันงดงามอีกด้วย

สิ่งที่ต้องไปดูคือภูเขาไฟธารน้ำแข็งซึ่งตั้งชื่อตามคาบสมุทร สไนล์เฟลสโจกุลเป็นภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งที่ตั้งตระหง่านเหนือภูมิประเทศโดยรอบราวกับผู้พิทักษ์ขนาดยักษ์ ธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ Jules Verne และเป็นจุดเริ่มต้นในนวนิยายมหากาพย์เรื่อง Journey to the Center of the Earth

คุณสามารถเยี่ยมชมถ้ำลาวาได้หากต้องการการผจญภัยเพิ่มเติม วาทน์เฮลลีร์เป็นอุโมงค์แม็กมาอายุ 8,000 ปีที่ก่อตัวขึ้นระหว่างการปะทุของภูเขาไฟ ในประสบการณ์นี้ คุณจะได้ลงไปในส่วนลึกของอุโมงค์และเดินตามเส้นทางที่แม็กมาสร้างขึ้นในอดีต

หลังจากท่องเที่ยวมาทั้งวัน คุณจะได้เข้าพักในที่พักบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสเพื่อพักผ่อนนอนหลับ

สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์ด้วยทริปหนึ่งวันรอบเส้นทางเที่ยวชมวงกลมทองคำ

วงกลมทองคำประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญสามแห่ง ช่วยให้ผู้มาเยือนได้ชมความงามตระการตา สิ่งมหัศจรรย์ใต้พิภพ และประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแวะที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ก่อน พื้นที่อันน่าทึ่งแห่งนี้ตั้งอยู่บนรอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียนและอเมริกาเหนือ ธิงเวลลีร์ป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกและเป็นที่ที่รัฐสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ก่อตั้งขึ้นในคริสตศักราช 930 ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

นอกจากนี้ ธิงเวลลีร์ยังเป็นที่ตั้งของรอยแยกซิลฟรา ซึ่งเป็นสันเขาระหว่างแผ่นทวีปที่เต็มไปด้วยน้ำใสแจ๋วจากธารน้ำแข็งที่ผ่านการกรองด้วยหินลาวามานานกว่าศตวรรษ และด้วยระบบการกรองนี้หมายความว่าน้ำจะมีอุณหภูมิที่ 35.6 F (2 C) อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี การดำน้ำตื้นโดยสวมชุดดรายสูทนั้นสะดวกสบายและเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการชมกิจกรรมการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในประเทศไอซ์แลนด์ แต่ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นจะต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้

จุดแวะพักถัดไปบนวงกลมทองคำคือหุบเขาความร้อนใต้พิภพเฮยคาดาลูร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพื้นที่ความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ และน้ำพุร้อนที่ชื่อไกเซอร์ของที่นี่ได้ทำให้น้ำพุร้อนแห่งอื่นๆ ทั่วโลกถูกเรียกว่าไกเซอร์ไปตามๆ กัน  แต่ทุกวันนี้ไกเซอร์ต้นแบบไม่ค่อยแอกทีฟแล้ว โชคดีที่ไกเซอร์สโทรคูร์ที่อยู่ใกล้ๆ ยังคงปะทุทุกๆ สองสามนาที ดังนั้นคุณจะได้เห็นการปะทุที่น่าจดจำอย่างแน่นอนระหว่างการมาเยือนของคุณ

จากที่นี่ คุณจะได้เดินทางต่อไปรอบๆ วงกลมทองคำโดยไปที่น้ำตกกุลล์ฟอสส์ในแม่น้ำฮวิเอา ซึ่งไหลมาจากธารน้ำแข็งลางโจกุล น้ำตกขนาดมหึมานี้ตกลงมาเป็นน้ำตกขนาดใหญ่สองชั้นและไหลลงสู่หุบเขาเบื้องล่าง ส่งเสียงคำรามดังกึกก้องไปบนหน้าผาโดยรอบ

หากคุณต้องการเพิ่มความตื่นเต้นเป็นพิเศษ คุณสามารถเลือกไปขี่สโนว์โมบิลไปยังอุโมงค์น้ำแข็งได้ ในประสบการณ์นี้ คุณจะไปพบกับไกด์ของคุณที่น้ำตกกุลล์ฟอสส์ และเดินทางด้วยรถซูเปอร์จี๊ปไปยังธารน้ำแข็งลางโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ จากนั้นคุณจะขี่สโนว์โมบิลพุ่งทะยานโลดแล่นตามผืนน้ำแข็งกว้างใหญ่เพื่อไปยังอุโมงค์น้ำแข็ง

คุณจะมีเวลาเหลือเฟือในการชมสีสันอันน่ามหัศจรรย์ของกำแพงน้ำแข็งก่อนที่คุณจะมุ่งหน้ากลับไปตามธารน้ำแข็งเพื่อกลับไปที่รถของคุณ

คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในบริเวณวงกลมทองคำ

วันถัดมาหลังจากที่คุณผจญภัยบนธารน้ำแข็ง คุณจะได้เดินทางไปตามชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์

พื้นที่นี้ของประเทศเป็นที่รู้จักจากน้ำตกที่น่าทึ่งที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งก็คือน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์และน้ำตกสโคกาฟอสส์

น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์มีชื่อเสียงจากสายน้ำที่ตกจากความสูง 196 ฟุต (ประมาณ 60 เมตร) เหนือปากถ้ำ คุณจึงสามารถเยี่ยมชมถ้ำจากเส้นทางด้านหลังน้ำตกได้ เพื่อชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม แม้ว่าเส้นทางเดินนี้จะปิดในช่วงฤดูหนาว แต่คุณยังคงสามารถเพลิดเพลินไปกับสถานที่เหมือนอยู่ในเทพนิยายได้

น้ำตกสโคกาฟอสส์อยู่ใกล้กับน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ และมีความสูงพอๆ กัน แต่ความคล้ายคลึงกันก็มีเพียงเท่านี้ น้ำตกสโคกาฟอสส์มีความกว้าง 80 ฟุต (ประมาณ 25 เมตร) ที่นี่เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ บางส่วนของน้ำตกนี้อาจกลายเป็นน้ำแข็งได้ในช่วงฤดูหนาว ทำให้มีความสวยงามน่าทึ่งอย่างแท้จริง

ในขณะที่คุณเดินทางต่อ คุณจะผ่านภูเขาไฟธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajokull) อันโด่งดังที่ปะทุขึ้นในปี 2010 แต่ไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีคำเตือนใดๆ เกี่ยวกับการปะทุของสถานที่นี้

คุณยังจะได้เห็นธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Myrdalsjokull) อันงดงามอีกแห่งด้วย มิร์ดาลสโจกุลเป็นแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศไอซ์แลนด์ และตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟขนาดยักษ์ที่เรียกว่าคัทลา (Katla) เพิ่มกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งให้กับทริปของคุณในวันนี้ หากคุณต้องการเข้าใกล้ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาตินี้มากขึ้น ไกด์ผู้เชี่ยวชาญของคุณจะมอบอุปกรณ์ทั้งหมดที่จำเป็นในการสำรวจผืนน้ำแข็งยักษ์นี้ และคุณจะได้ขึ้นไปบนธารน้ำแข็งเพื่อชื่นชมทิวทัศน์จากด้านบน

หรืออีกตัวเลือกหนึ่ง คุณสามารถจองกิจกรรมขี่สโนว์โมบิลที่มิร์ดาลสโจกุลเพื่อทำอะไรตื่นเต้นกระตุ้นอะดรีนาลีนในวันนี้

จากนั้นคุณจะเดินทางออกจากมิร์ดาลสโจกุลเพื่อไปยังหมู่บ้านชายฝั่งที่มีเสน่ห์อย่างวิก ชุมชนที่งดงามราวภาพวาดนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งและให้ทัศนียภาพอันน่าทึ่งเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกและหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยาราที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ชายหาดแห่งนี้น่าจะมีชื่อเสียงมากที่สุดในไอซ์แลนด์และเคยปรากฏในภาพยนตร์และรายการทีวีหลายเรื่อง รวมถึง Game of Thrones และ Star Wars: Rogue One

การเยี่ยมชมชายหาดเรย์นิสฟยาราในฤดูหนาวจะทำให้คุณได้เห็นความแตกต่างอันน่าทึ่งของทรายภูเขาไฟสีดำสนิทที่มีหิมะขาวโพลนและน้ำแข็งล้อมรอบชายฝั่ง อย่าลืมนำกล้องมาด้วยเพื่อถ่ายภาพความงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้นี้

หลังจากการผจญภัยมาทั้งวัน คุณจะได้พักค้างคืนในไอซ์แลนด์ตอนใต้

วันนี้คุณจะได้มุ่งหน้าไปยังภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็งทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ในขณะที่คุณเดินทางไปยังภูมิภาคตะวันออก โดยจะไปเยี่ยมชมเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ และหมู่บ้านชาวประมงเฮิฟน์

หลังจากอาหารเช้า คุณจะเริ่มต้นการเดินทางไปยังเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ ซึ่งล้อมรอบด้วยธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป

สกัฟตาเฟลล์เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินป่า โดยมีเส้นทางเดินที่สวยงามเหมาะสำหรับนักเดินป่าทุกระดับฝีมือ และจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สถานที่แห่งนี้ยังเหมาะสำหรับการเดินป่าบนธารน้ำแข็งด้วย คุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมบนธารน้ำแข็งอย่างใดอย่างหนึ่งเข้าไปในทริปวันนี้เพื่อทำให้ทัวร์ของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น

ตัวเลือกแรกคือการปีนธารน้ำแข็งในสกัฟตาเฟลล์เป็นเวลาสามชั่วโมง ซึ่งคุณสามารถทำได้ในช่วงเช้าหรือช่วงบ่าย ในทัวร์นี้ คุณจะได้พบกับไกด์ที่เป็นมิตรที่เบสแคมป์ ก่อนที่จะเดินทางไปยังบริเวณเชิงของธารน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่ คุณจะได้ขึ้นไปบนนั้นและมีเวลาดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์รอบๆ ตัวคุณ

ไม่มีอะไรเทียบได้กับการยืนอยู่บนยอดน้ำแข็งอายุหลายศตวรรษในขณะที่ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันน่าทึ่งของธรรมชาติที่แทบไม่ถูกแตะต้องของชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์

อีกตัวเลือกหนึ่ง คุณสามารถไปเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งบนภูเขาไฟคัทลาอันยิ่งใหญ่ สำหรับทริปเที่ยวบนธารน้ำแข็งนี้ คุณจะเดินทางด้วยรถซูเปอร์จี๊ปข้ามทุ่งลาวาที่ตีนเขาคัทลา ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังธารน้ำแข็งของภูเขาไฟเพื่อชมภายในถ้ำน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่

ถ้ำน้ำแข็งก่อตัวที่ขอบธารน้ำแข็ง พวกมันคืออุโมงค์แม่น้ำใต้ดินที่เกิดขึ้นระหว่างวงจรการละลายและแข็งตัวของธารน้ำแข็งซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำ ในแต่ละปี ไกด์ที่มีประสบการณ์และทุ่มเทจะค้นหาถ้ำน้ำแข็งและคอยดูแลเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยสำหรับผู้มาเยือน

การเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนที่หลายคนใฝ่ฝัน ไม่มีถ้ำสองแห่งที่เหมือนกันเลยเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ถ้ำมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมือนลายนิ้วมือ

เมื่อเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งแล้ว ไกด์ของคุณจะบอกทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการก่อตัวของถ้ำเหล่านี้ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้ถ้ำมีความพิเศษมาก คุณจะมีเวลาเหลือเฟือที่จะเข้าไปในถ้ำที่มีลักษณะคล้ายคริสตัลซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ และคุณจะเห็นกำแพงสีฟ้าที่เกือบจะดูเหมือนเรืองแสงได้ 

หลังจากเที่ยวชมธารน้ำแข็งแล้ว คุณจะขับรถต่อไปทางตะวันออกเพื่อไปยังไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ที่นี่

วันที่หกของทัวร์ขับรถเที่ยวเองของคุณรวมการเดินทางไปยังอัญมณีล้ำค่าของไอซ์แลนด์ ซึ่งก็คือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

คุณจะออกจากที่พักและเดินทางไปทางทิศตะวันตกเพื่อไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ทะเลสาบน้ำแข็งที่ลึกที่สุดของไอซ์แลนด์ และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามที่สุด

น้ำในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนมาจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล และมีภูเขาน้ำแข็งที่แตกออกจากลิ้นของธารน้ำแข็งลอยอยู่ในทะเลสาบ ภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้เคลื่อนตัวและละลายอย่างต่อเนื่อง โดยมีเฉดสีน้ำเงินและขาวที่ดูเหมือนทำให้น้ำแข็งเรืองแสงได้ เป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อที่คุณไม่ควรพลาด

ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่ของแมวน้ำที่มักออกมาว่ายน้ำเล่นอย่างสนุกสนานหรืองีบหลับบนภูเขาน้ำแข็ง

หากคุณมาที่นี่ในเดือนกันยายนหรือตุลาคม คุณสามารถเพิ่มทัวร์ล่องเรือชมทะเลสาบในทริปวันนี้ได้ ในประสบการณ์นี้ คุณจะได้ขึ้นเรือสะเทินน้ำสะเทินบกและล่องไปในผืนน้ำอันเงียบสงบและเป็นน้ำแข็งเพื่อชมภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์และแมวน้ำอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการใกล้ชิดมากไปกว่านั้นอีกควรเลือกทัวร์ล่องเรือท้องแบนโซดิแอก เรือที่มีขนาดเล็กและว่องไวกว่าลำนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงความมหัศจรรย์สีฟ้าเย็นฉ่ำได้ในระยะไม่กี่เมตร

ถัดจากโจกุลซาร์ลอนคือหาดไดมอนด์อันโด่งดัง หาดทรายสีดำแห่งนี้ได้ชื่อมาจากรูปลักษณ์ที่ดูเหมือนอัญมณี เมื่อภูเขาน้ำแข็งจากทะเลสาบธารน้ำแข็งลอยขึ้นสู่พื้นดิน พวกมันจะไปเกยตื้นอยู่บนชายฝั่งและดูเหมือนเพชรขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วชายหาด

การเยี่ยมชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนในทัวร์ขับรถเที่ยวเองหมายความว่าคุณสามารถใช้เวลาชื่นชมทิวทัศน์ได้มากเท่าที่คุณต้องการ การเดินทางมาที่นี่แบบจัดทริปสั้นๆ หรือแบบไปเช้าเย็นกลับจากเรคยาวิกมักจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าพวกเขาต้องการเวลามากขึ้นที่นี่ แต่คุณสามารถใช้เวลาและดื่มด่ำไปกับทุกสิ่งได้จนกว่าจะพอใจ

เมื่อคุณพร้อมที่จะออกเดินทาง ก็ถึงเวลาที่จะเริ่มขับรถเพื่อเดินทางกลับสู่เมืองเรคยาวิก คุณจะขับไปตามถนนวงแหวนเลียบชายฝั่งทางใต้ และมีเวลาแวะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณอาจพลาดเมื่อตอนที่เดินทางไปทางตะวันออก

ที่พักของคุณคืนนี้อยู่ในตัวเมืองเรคยาวิก ใช้เวลายามค่ำคืนในเมืองให้คุ้มค่าที่สุดด้วยอาหารค่ำแสนอร่อยในแบบไอซ์แลนด์และเที่ยวผับ หรือจะเข้าที่พักแต่หัววันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันอันวุ่นวายในวันพรุ่งนี้

ใช้เวลาที่คุณมีแบบเต็มวันเป็นวันสุดท้ายในไอซ์แลนด์เพื่อสำรวจถนนที่เต็มไปด้วยสีสันของเมืองเรคยาวิก

หลังจากนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน คุณจะตื่นขึ้นมาในใจกลางเมืองและพร้อมที่จะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ดีที่สุดของเมืองให้เกิดประโยชน์สูงสุด เรคยาวิกเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร ใจกลางของที่นี่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม อาหาร และประวัติศาสตร์ และถนนต่างๆ ก็เต็มไปด้วยร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ สถาปัตยกรรมที่น่าหลงใหล และสตรีทอาร์ต

เมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลกยังเป็นศูนย์กลางของประสบการณ์การทำอาหารอีกด้วย คุณจะพบกับร้านอาหารที่น่าทึ่งมากมายรอให้คุณไปค้นพบ ซึ่งเหมาะที่สุดในการแวะเติมพลังในเมืองเป็นครั้งสุดท้าย

เมื่อเดินเล่นไปตามถนนช้อปปิ้งเลยกาแวกูร์ (Laugavegur) คุณจะพบกับร้านบูติก และคุณสามารถหาของที่ระลึกสำหรับทริปครั้งนี้เพื่อนำกลับบ้านได้

นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์หลายแห่งในเมืองเรคยาวิก คุณสามารถใช้เวลาทั้งวันเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ตั้งถิ่นฐานไวกิ้งในประเทศไอซ์แลนด์และบุคคลสำคัญจากประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ หรือชมรูปปั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอนาร์ จอนส์สันที่พิพิธภัณฑ์และสวนประติมากรรมไอนาร์ จอนส์สัน

คุณอาจตัดสินใจจองทัวร์ขี่ม้าในชนบทของประเทศไอซ์แลนด์ในวันนี้ด้วยก็ได้ ม้าไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อในเรื่องนิสัยที่เป็นมิตรและท่าเดินที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่าโทลต์ ทัวร์ขี่ม้าเป็นวิธีที่สวยงามในการพบปะกับสัตว์ที่อ่อนโยนเหล่านี้และชมทิวทัศน์ชนบทรอบเรคยาวิกที่แตกต่างออกไป

ตัวเลือกกิจกรรมอื่นๆ ของวันคือการนั่งเฮลิคอปเตอร์ที่พาคุณบินเหนือเรคยาวิกแล้วไปแวะจอดบนยอดเขาในบริเวณใกล้เคียง การขึ้นไปบนท้องฟ้าทำให้มองเห็นทิวทัศน์มุมสูงของเมืองและบริเวณโดยรอบ รวมถึงทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่ไม่มีใครเทียบได้

หากสภาพอากาศเอื้ออำนวยและท้องฟ้าแจ่มใส คุณสามารถจองทัวร์ที่พาออกไปล่าแสงเหนือในตอนเย็นได้ ทริปท่องเที่ยวเหล่านี้จะพาคุณออกนอกเมืองไปยังสถานที่ห่างไกลที่สวยงามเพื่อหลีกเลี่ยงมลภาวะทางแสงและเพิ่มโอกาสในการมองเห็นแสงออโรร่าบอเรลลิส นอกจากนี้ยังมีทัวร์ล่องเรือชมแสงเหนือที่พาคุณไปชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติจากผืนน้ำด้วย

ไม่ว่าคุณจะเลือกทำอะไร เวลาในวันนี้เป็นของคุณ ดังนั้นจงใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด ก่อนบินกลับบ้านในวันพรุ่งนี้ คุณจะได้ใช้เวลาในคืนสุดท้ายในที่พักอันสะดวกสบายในตัวเมืองเรคยาวิก

สิ่งดีๆ ทั้งหลายมีจุดสิ้นสุด และวันนี้ก็เป็นจุดสิ้นสุดของการผจญภัยในไอซ์แลนด์ของคุณ

ผู้ที่มีเที่ยวบินออกสายหน่อยสามารถไปเที่ยวที่บลูลากูนในวันนี้ได้ การเยี่ยมชมแหล่งน้ำร้อนใต้พิภพอันโด่งดังเหล่านี้เป็นวิธีผ่อนคลายที่ยอดเยี่ยมหลังจากการเดินทางอันแสนวุ่นวาย คุณสามารถแช่น้ำและผ่อนคลายในน้ำที่อุดมด้วยแร่ธาตุในขณะที่คุณไตร่ตรองถึงประสบการณ์ของคุณในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ

คุณอาจมีเวลาเหลือให้ไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รอบคาบสมุทรเรคยาเนสด้วย เช่น สะพานเชื่อมระหว่างทวีป นี่คือสะพานเชื่อมเชิงสัญลักษณ์ระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียนและแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ

สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในพื้นที่ ได้แก่ สถานที่ปะทุของภูเขาไฟฟากราดาลสฟยาล ภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดในปี 2021 และ 2022 หลังจากสงบนิ่งมาเป็นเวลา 6,000 ปี แต่ตอนนี้สงบลงแล้วและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินป่าที่ต้องการเข้าใกล้ลาวาที่เพิ่งเย็นลงเมื่อไม่นานมานี้

เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง คุณสามารถคืนรถที่สนามบินและมุ่งหน้าไปที่เคาน์เตอร์เช็คอินเพื่อโหลดกระเป๋าสัมภาระ เราหวังว่าคุณจะเดินทางกลับบ้านอย่างรื่นรมย์ และหวังว่าคุณจะกลับมาที่ไอซ์แลนด์เร็วๆ นี้!