ทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 9 วันแบบประหยัด รอบเส้นทางถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ และคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

ทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 9 วันแบบประหยัด รอบเส้นทางถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ และคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
มีแนวโน้มที่จะขายออกเร็ว ๆ นี้
ไม่คิดค่ายกเลิก
บริการ 24 ชั่วโมง
แผนการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
สามารถจัดตามความต้องการได้เต็มที่
รถ & ที่พัก

คำอธิบาย

รายละเอียด

ทัวร์เริ่มจาก
Keflavík Airport
เวลาออกเดินทาง
ยืดหยุ่น
ระยะเวลา
9 วัน
สถานที่สิ้นสุด
Keflavík Airport
ความยากลำบาก
ง่าย
มีบริการ
พ.ค. - ส.ค.
เวลาสิ้นสุด
ยืดหยุ่น
อายุต่ำสุด
ไม่มี

คำอธิบาย

สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวไอซ์แลนด์อย่างเต็มรูปแบบกับแพ็คเกจสำหรับขับรถเที่ยวด้วยตัวเองในราคาประหยัด คุณจะได้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแบบจุใจภายใน 9 วันนี้ โดยมีไฮไลต์ เช่น ทัวร์วงกลมทองคำ คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes Peninsula) อันสวยงาม และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) อัญมณีเม็ดงามแห่งชายฝั่งทางใต้

แพ็คเกจราคาประหยัดนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของการไปกับทัวร์กรุ๊ปใหญ่และต้องการควบคุมประสบการณ์ในการท่องเที่ยววันหยุดด้วยตัวเองในแบบที่ไม่ต้องใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยด้วย

โดย Guide to Iceland จะมีแผนการท่องเที่ยวที่ออกแบบขึ้นเฉพาะให้กับคุณ เพื่อเป็นแนวทางในการเดินทางไปยังตามสถานที่ต่างๆ รอบไอซ์แลนด์ให้กับคุณ ใน 9 วันนี้ คุณจะมีเวลาเหลือเฟือสำหรับเที่ยวและทำกิจกรรมที่อยากทำในสถานที่แต่ละแห่งด้วย 

ระหว่างที่ทำการจองแพ็คเกจ คุณสามารถเพิ่มทัวร์เสริมสำหรับไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ขี่สโนว์โมบิลที่ธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ขี่ม้าเที่ยวคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) สำรวจหลุมปล่องภูเขาไฟที่ด้านในภูเขาไฟ แช่น้ำผ่อนคลายที่บลูลากูน หรือออกไปทริปดูปลาวาฬรับลมทะเลก็ได้ ตัวเลือกกิจกรรมที่มีนั้นมากมายเหลือเกินและถ้าหากคุณจองพร้อมกันกับแพ็คเกจขับรถนี้ คุณจะได้รับส่วนลดพิเศษสำหรับทัวร์กิจกรรมต่างๆ ด้วย

รีบตัดสินใจให้ไวแล้วมาสัมผัสประสบการณ์ความงดงามสุดพิเศษของไอซ์แลนด์ในราคาประหยัดด้วยกัน เลือกวันเวลาเดินทางที่คุณต้องการแล้วตรวจสอบแพ็คเกจทัวร์ได้เลย

อ่านเพิ่ม

ร่วมด้วย

ที่พักจำนวน 8 คืน (มีให้เลือกหลายระดับ ห้องพักไม่รวมอาหารเช้า ห้องน้ำรวม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง)
รถเช่าจำนวน 9 วัน (Toyota Aygo หรือรุ่นที่ใกล้เคียง สามารถอัปเกรดได้)
ประกันแบบ CDW สำหรับรถระดับซูเปอร์บัดเจท; รถระดับอื่นมีประกันกรวดให้ด้วย
มี Wi-Fi ฟรีในรถยนต์
รายละเอียดการเดินทางเป็นภาษาอังกฤษ
ภาษี

แผนที่

สถานที่ท่องเที่ยว

กิจกรรม

เที่ยวชมสถานที่
ชมนก
ขับรถเที่ยวเอง

แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1
ดาวน์ทาวน์เรคยาวิกเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้รักการกิน หลงใหลในวัฒนธรรม เสียงดนตรี และชีวิตราตรี 

วัน 1 - เดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ & ดาวน์ทาวน์เรคยาวิก

ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ! สิ่งแรกที่ต้องทำคือไปรับรถเช่าเพื่อขับเที่ยว 9 วันกันก่อน จากนั้นคุณจะขับรถเข้าไปยังเมืองเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาที

ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง

เมื่อคุณเดินทางเข้าไปถึงในตัวเมืองแล้ว เวลาที่เหลือของวันนี้คุณจะออกไปสำรวจสถานที่แปลกๆ ในเมืองหลวงแห่งนี้กัน แม้ว่าเรคยาวิกจะเป็นเมืองที่มีขนาดเล็ก แต่ก็เต็มไปด้วยกิจกรรมและประสบการณ์ที่สนุกตื่นเต้น คุณอาจจะใช้เวลาในวันนี้เดินเล่นตามถนนสายต่างๆ เพื่อไปชมแลนด์มาร์กทางวัฒนธรรมอย่างอาคาร์ พาร์ลาน (Perlan) และฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa) หรือไม่อย่างนั้นคุณอาจจะอยากไปนั่งตามคาเฟ่ร้านดังๆ หรือไปเที่ยวบาร์เพื่อสัมผัสชีวิตยามค่ำคืนของที่นี่ คืนนี้คุณพักค้างคืนที่โรงแรมในดาวน์ทาวน์

อ่านเพิ่ม
วัน 2
ในหน้าร้อนให้เดินไปชมผาดิร์โอลาเอย์เพื่อดูนกพัฟฟินและชมความงามของหินโค้ง

วัน 2 - วงกลมทองคำ & มหัศจรรย์แห่งน้ำตก

วันที่สองในไอซ์แลนด์คุณควรตื่นแต่เช้า เพราะมีอะไรให้คุณต้องปรับตัวอีกมาก คุณจะเริ่มวันด้วยการขับรถไปที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Þingvellir) จุดแวะเที่ยวแห่งแรกบนทัวร์วงกลมทองคำ

ธิงเวลลีร์เป็นสถานที่ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในไอซ์แลนด์ทั้งในทางประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยา และอิทธิพลในเชิงวัฒนธรรมที่มีต่อชาวไอซ์แลนด์ ที่นี่เป็นสถานที่ตั้งของรัฐสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ ซึ่งสร้างขึ้นโดยชาวไวกิงเมื่อปี 930 และยังเป็นสถานที่แห่งเดียวบนโลกใบนี้ที่มนุษย์จะได้เห็นแผ่นเปลือกทวีปของทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือโผล่ออกมาให้เห็นจากใต้ผืนดิน

เมื่อคุณเที่ยวที่ธิงเวลลีร์จนพอแล้ว คุณจะมุ่งหน้าตรงไปที่หุบเขาพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) เพื่อไปดูน้ำพุร้อนที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่นี่คุณจะได้เห็นสโทรคูร์ (Strokkur) พ่นน้ำอย่างแน่นอนเพราะว่ามันทำงานโชว์ในทุกๆ 5 นาทีโดยประมาณ 

สถานที่เที่ยวแห่งสุดท้ายสำหรับการทัวร์วงกลมทองคำคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์อันยิ่งใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากเฮยคาดาลูร์ออกไปไม่ไกลนัก น้ำตกแห่งนี้สูง 30 เมตรและมีสองชั้น และน้ำตกธารน้ำแข็งแห่งนี้ยังถือเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ด้วย ห้ามลืมนำกล้องถ่ายรูปติดตัวเอาไว้เป็นอันขาด

ถ้าคุณต้องการความแอดเวนเจอร์ในวันนี้ คุณมีตัวเลือก 3 อย่างด้วยกัน อันแรกคือไปขี่ม้าไอซ์แลนด์เที่ยวชมวิวชนบท ม้าไอซ์แลนด์เป็นม้าที่ทั้งฉลาดและอ่อนโยนมาก ทำให้ใครก็สามารถขี่พวกมันได้สบายๆ แม้แต่ผู้ที่หัดขี่ม้าใหม่ๆ 

ทางเลือกที่สองคือการไปดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลในรอยต่อระหว่างสองทวีปที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ รอยแยกซิลฟรา (Silfra) มีน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) เข้าไปเติมเต็ม การได้ลงไปดำน้ำในน้ำที่ใสราวกับคริสตัลที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นประสบการณ์ที่สนุกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกที่สุดที่คุณจะได้ทำที่ไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้

ตัวเลือกสุดท้ายนั้นเป็นทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่ด้านบนของธารน้ำแข็งลางโจกุล ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเร็ว และทัวร์นี้จะรวมบริการรับส่งจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ด้วยรถซุปเปอร์จี๊ปคันยักษ์ เพื่อพาคุณเดินทางไปยังธารน้ำแข็งบริเวณที่คุณจะขี่สโนว์โมบิลโลดแล่นไปบนผืนน้ำแข็งโบราณด้วย

หลังจากคุณไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวทั้งสามแห่งบนเส้นทางวงกลมทองคำครบหมดแล้ว คุณจะเดินทางลงไปทางชายฝั่งตอนใต้เพื่อไปเที่ยวน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) ซึ่งเป็นน้ำตกอันงดงามอีกสองแห่ง จากนั้นคุณจะเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านวิก (Vík) ซึ่งเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และคืนนี้คุณพักค้างคืนที่วิก

อ่านเพิ่ม
วัน 3
ปีนกลาเซียร์ในทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ที่สวีนาเฟลล์สโจกุลล์ ส่วนปลายของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

วัน 3 - ไฮกิ้งที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์

วันที่สามในไอซ์แลนด์นั้นเริ่มต้นด้วยการขับรถไปที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) พื้นที่อันงดงามที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) แต่ก่อนที่คุณจะเดินทางพ้นจากหมู่บ้านวิกคุณจะได้ไปเที่ยวที่หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) กันก่อน หาดแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนักขับรถแค่อึดใจเดียวก็ถึง

คุณอาจเลือกไปเข้าร่วมกับทัวร์ที่พาไปชมถ้ำน้ำแข็งของจริงที่ในธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ด้วยก็ได้ ที่นี่เป็นถ้ำน้ำแข็งแห่งเดียวในประเทศที่เปิดให้เข้าชมในช่วงหน้าร้อน และการที่ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลตั้งอยู่เหนือภูเขาไฟคัทลา (Katla) นั่นหมายความว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนที่ไหนอย่างแน่นอน

แนะนำให้คุณไปเดินเทรลที่สกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ด้วย เพราะว่าที่นั่นมีวิวสวยมาก และมีอยู่เส้นทางหนึ่งที่จะพาคุณเดินไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) อันงดงาม นอกจากนี้ แถวนี้เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการมาปีนกลาเซียร์ โดยคุณจะได้ขึ้นไปเดินอยู่บริเวณไหลเขาฮวานนาดาลส์ฮนูคูร์ (Hvannadalshnjúkur) ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ 

หลังจากสนุกกับการเที่ยวแถวสกัฟตาเฟลล์แล้วคุณจะเดินทางไปยังหนึ่งในสถานที่ที่มีความงดงามมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ซึ่งก็คือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ที่นี่นักท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจกับภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่แตกตัวออกมาจากกลาเซียร์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ภูเขาน้ำแข็งเหล่านั้นจะค่อยๆ ลอยมาเหนือผิวน้ำสีฟ้าอันนิ่งสงบในทะเลสาบและสะท้อนกับแดดเป็นประกายวิบวับ

นักท่องเที่ยวสามารถเลือกไปล่องเรือเพื่อชมความงามของทะเลสาบแห่งนี้แบบใกล้ชิดได้ด้วย หรือถ้าไม่อยากล่องเรือก็สามารถเดินไปเที่ยวหาดไดมอนด์บีชซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบ ซึ่งตามแนวชายฝั่งบนหาดแห่งนี้จะมีภูเขาน้ำแข็งถูกพัดขึ้นบกมากมาย

คืนนี้คุณจะพักที่เมืองเฮิฟน์ (Höfn)

อ่านเพิ่ม
วัน 4
ม้าไอซ์แลนด์เล็มหญ้าในทุ่งดอกไม้ป่าใต้สายหมอก

วัน 4 - เที่ยวทางภาคตะวันออก

วันนี้คุณจะทิ้งหาดทรายดำของชายฝั่งทางใต้ไว้ข้างหลังแล้วมุ่งหน้าไปหาภูเขา ฟยอร์ด และทุ่งหญ้าทางชายฝั่งตะวันออกของไอซ์แลนด์แทน ระหว่างที่คุณขับรถผ่านทิวทัศน์สวยๆ ให้คุณคอยสังเกตตามข้างทางให้ดี เพราะทางภาคตะวันออกนี้เป็นภูมิภาคเดียวที่มีกวางเรนเดียร์อาศัยอยู่ และถ้าคุณไปเที่ยวหรือผ่านบริเวณด้านข้างของหน้าผาก็ให้คุณมองหานกพัฟฟินด้วย เพราะนกพวกนี้อาศัยอยู่ในแถบภูมิภาคตะวันออกนี้เยอะมาก

ระหว่างที่เดินทางคุณจะผ่านฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstaðaskógur) ป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ซึ่งป่าแห่งนี้ทำให้สภาพแวดล้อมในบริเวณนี้มีเอกลักษณ์แตกต่างออกไปจากที่อื่นๆ บนเกาะ และคุณยังจะผ่านทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljót) ที่มีตำนานเล่าขานว่ามีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ในน้ำด้วย

ตอนกลางคืนคุณอาจจะไปแวะรับประทานอาหารทะเลที่ร้านอาหารในท้องถิ่นก่อนที่จะเข้าที่พักในหมู่บ้านเอกิลสตาดีร์ (Egilsstadir) หรือหมู่บ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง

อ่านเพิ่ม
วัน 5
เมื่อความงดงามและพละกำลังอันมหาศาลของธรรมชาติมาผสานกันจึงเกิดเป็นน้ำตกเดตติฟอสส์ 

วัน 5 - ทะเลสาบมิวาทน์และอาคูเรย์ริ

วันที่ 5 คุณจะเดินทางไปทางเหนือเพื่อไปยังทะเลสาบมิวาทน์ (Mývatn) ดินแดนแห่งความมืดมิดเต็มไปด้วยทิวทัศน์แปลกประหลาดอันเป็นผลพวงมาจากภูเขาไฟ คุณจะขับรถผ่านแถบโจกุลส์เอาร์กยูฟูร์ (Jokulsargljufur) ในเขตอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ซึ่งแถวนั้นคุณสามารถแวะเข้าไปชมน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) น้ำตกที่ทรงพลังมากที่สุดในทวีปยุโรปได้ด้วย

ที่มิวาทน์คุณสามารถไปดูปล่องไอน้ำที่ช่องเขาเนามาส์การ์ด (Namaskard) ชมปากปล่องภูเขาไฟเทียมที่สกูตูสตาดากีการ์ (Skutustadagigar) และไปเที่ยวที่ภูเขาคราฟลา (Krafla) ซึ่งเป็นภูเขาไฟอีกหนึ่งแห่งที่มีคนไปเที่ยวชมมากที่สุดในไอซ์แลนด์ นอกจากนี้แถบนี้ยังมีถ้ำลาวาที่เกรียวตาเกาจ์ (Grjotagja) และ "ปราการดำ" หรือดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) ซึ่งเป็นลานหินรูปร่างประหลาดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติให้เที่ยวชมด้วย

เมื่อคุณเที่ยวแถวนี้ครบหมดแล้วก็น่าจะไปแช่น้ำร้อนเพื่อผ่อนคลายที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Myvatn Nature Baths) กันหน่อย น้ำร้อนที่อุดมไปด้วยซิลิกาจะช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการที่คุณใช้ร่างในการท่องเที่ยวติดๆ กันหลายวันได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นคุณค่อยออกเดินทางเพื่อไปยังเมืองหลวงแห่งทางตอนเหนือ อาคูเรย์ริ (Akureyri)

แต่กระนั้นคุณก็ยังสามารถขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อไปเที่ยวที่ฮูสาวิค (Husavik) ก่อนได้ ซึ่งที่นั่นถ้าคุณซื้อทัวร์ดูวาฬหรือทัวร์ดูนกพัฟฟินเอาไว้ คุณก็จะได้ล่องเรือออกไปดูสัตว์เหล่านั้นใกล้ๆ และเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมในวันนี้คุณค่อยเข้าไปพักค้างคืนที่ในอาคูเรย์ริ

อ่านเพิ่ม
วัน 6
ในปีค.ศ. 1000 เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายแห่งสภาไอซ์แลนด์โยนรูปสัญลักษณ์เทพเจ้านอร์สโบราณลงไปในน้ำตกโกดาฟอสส์ เพื่อเป็นการประกาศการนับถือศาสนาคริสต์อย่างเป็นทางการของไอซ์แลนด์

วัน 6 - สำรวจชายฝั่งอาร์กติกของไอซ์แลนด์

วันนี้คุณจะได้ออกไปสำรวจชายฝั่งอาร์กติกของไอซ์แลนด์กัน แต่อยากให้คุณเที่ยวชมวัฒนธรรมต่างๆ ในเมืองอาคูเรย์ริกันก่อน คุณอาจจะไปหาอะไรดื่มที่คาเฟ่สวยๆ ไปชมสวนพฤกษศาสตร์ โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ จากนั้นค่อยขับรถไปที่คาบสมุทรโทรลลาสกายี (Trollaskagi) ชมวิวหุบเขาและปากแม่น้ำ

 

หรือถ้าคุณอยากไปทัวร์ดูวาฬก่อนที่คุณจะเดินทางออกจากอาคูเรย์ริก็สามารถทำได้เช่นกัน เรือจากที่นี่จะพาคุณแล่นออกไปทางอ่าวเอยาฟยอร์ดู (Eyjafjordur) เพื่อไปตามหาปลาตัวยักษ์ใหญ่แสนอ่อนโยน นักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาติต้องไม่อยากพลาดการได้ไปเห็นพวกมันแหวกว่ายอยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติอย่างแน่นอน 

ต่อไปคุณจะมุ่งหน้าไปที่สกาการ์ฟยอร์ดูร์ (Skagafjordur) หุบเขาที่ได้ชื่อว่ามีม้าไอซ์แลนด์อาศัยอยู่มากมาย และถ้าหากวันก่อนๆ นี้คุณยังไม่ได้ไปทัวร์ขี่ม้า ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับแวะมาร่วมสนุกกับกิจกรรมขี่ม้ามากๆ

และแล้วคุณก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านชาวประมงที่สิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjordur) และโฮฟซอส (Hofsos) ซึ่งคุณจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามในขณะที่ดื่มด่ำกับการแช่น้ำร้อนที่สระน้ำร้อนพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ในเมือง คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่นี่ หรือไม่ก็ไปพักแถวหมู่บ้านเซยดาร์โครคูร์ (Saudarkrokur)

อ่านเพิ่ม
วัน 7
โบสถ์ปูดิร์ เป็นหลักฐานเพียงสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ที่แสดงให้เห็นว่าคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสนั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนและการประมง

วัน 7 - เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

ในช่วงเช้าของวันที่ 7 คุณจะเดินทางมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านสติกกิโฮลมูร์ (Stykkisholmur) อันเงียบเหงาซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) อันงดงามตลอดกาล ระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยวบนคาบสมุทรแห่งนี้ไม่ว่าจะขับไปทางไหนคุณก็จะมองเห็นธารน้ำแข็งสไนล์เฟลส์โจกุล (Snaefellsjokull) ขนาดมหึมาจากหน้าต่างรถได้ตลอดเวลา

ไฮไลต์สำคัญของแถวนี้คือภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของคาบสมุทร ภูเขาลูกนี้เป็นภูเขาที่มีคนมาถ่ายรูปมากที่สุดในไอซ์แลนด์และยังถูกใช้เป็นฉากถ่ายทำซีรีส์เรื่องเกมออฟโธรนของช่อง HBO ด้วย

คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสยังเป็นพื้นที่ที่มีชุมชนแปลกๆ อยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งนั้นคุ้มค่ากับการแวะชมมาก เช่นที่อาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) เฮลล์นาร์ (Hellnar) และปูดิร์ (Budir) และคุณควรไปเที่ยวที่อ่าวดริทวีค (Dritvik) ด้วย ที่นั่นมีหินรูปร่างประหลาดให้ดูเต็มไปหมด 

คืนนี้พักค้างคืนในเขตสไนล์แฟลซเนส

อ่านเพิ่ม
วัน 8
น้ำตกเฮินฟอซซาร์ มีสายน้ำไหลออกมาจากทุ่งลาวาผืนกว้างในทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ดูเหมือนเป็นลำธารเล็กๆ มากมาย

วัน 8 - น้ำตกและประวัติศาสตร์

ตอนนี้คุณมาอยู่กันที่ทางตะวันตกของประเทศแล้ว และก็ได้เวลาออกไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายในภูมิภาคแห่งนี้ วิธีเริ่มทริปที่ดีที่สุดคือการไปเที่ยวที่ศูนย์การตั้งถิ่นฐาน (Settlement Centre) ของชาวไอซ์แลนด์ที่บอร์การ์เนส (Borgarnes) กันก่อน เพราะไม่มีที่ไหนจะรวบรวมเอาประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์มาจัดแสดงให้ชมได้น่าสนใจและได้ความรู้เท่านี้อีกแล้ว

ผู้ที่หลงใหลประวัติศาสตร์อาจจะอยากไปเที่ยวที่สนอร์ราส์ทอฟา เซ็นเตอร์ (Snorrastofa Centre) สถาบันจัดแสดงวัฒนธรรมแห่งยุคกลางที่อยู่ในหมู่บ้านเรค์คอร์ค (Reykholt) ที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งสนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) กวีในยุคต้นของไอซ์แลนด์เคยอาศัยอยู่เมื่อตอนที่เขาแต่งนิยายซากาฮีมสกรินก์กา (Heimskringla) ในศตวรรษที่ 13

นอกจากนี้คุณอาจจะไปที่เดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) น้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป และที่บริเวณใกล้ๆ กันก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างน้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) ด้วย

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในวันนี้คือการลงไปทัวร์โลกใต้พิภพที่ไอซ์แลนด์ คุณสามารถเข้าไปเที่ยวถ้ำวิดเกลมิร์ (Vidgelmir) ที่อยู่ใต้ดิน หรืออาจจะเลือกไปชมอุโมงค์ที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใต้ธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ก็ได้ และตัวเลือกแบบที่สามคือลงไปในปล่องภูเขาไฟที่สงบแล้ว ซึ่งอันนี้ไม่ใช่ประสบการณ์แบบธรรมดาที่คุณจะได้ทำกันบ่อยๆ อย่างแน่นอน!

คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในที่พักในเมืองเรคยาวิก (Reykjavik)

อ่านเพิ่ม
วัน 9
แช่น้ำร้อนที่บลูลากูนเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก่อนบินออกจากเรคยาวิก

วัน 9 - เดินทางกลับบ้าน

มาถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่ในไอซ์แลนด์แล้ว ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข สุดท้ายคุณจะนำรถไปส่งคืนที่ในสนามบิน 2 ชั่วโมงก่อนเวลาขึ้นเครื่อง เราหวังว่าคุณจะมีประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์ในประเทศที่สวยงามแห่งนี้

อ่านเพิ่ม

สิ่งที่ควรนำไป

เสื้อผ้าที่อบอุ่นและกันน้ำ
ใบอนุญาตขับขี่
ชุดว่ายน้ำและผ้าเช็ดตัว
กล้องถ่ายรูป

สิ่งที่ควรรู้

ทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้สามารถเริ่มต้นออกเดินทางได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิก หรือสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกก็ได้ ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนท้องถนนอย่างน้อยหนึ่งปี ทั้งนี้ขอโปรดทราบว่าแผนการท่องเที่ยวอาจมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย และแม้ว่าทริปนี้จะอยู่ในช่วงหน้าร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ กรุณาเตรียมเสื้อผ้ามาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ

อ่านเพิ่ม

ที่พัก

ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล

สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม

ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง

ซูเปอร์บัดเจท

เตียงแบบหอพัก พร้อมห้องน้ำรวมในเกสต์เฮาส์หรือโฮสเทล ที่พักตั้งอยู่ในบริเวณที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า

บัดเจท

ห้องพักพร้อมห้องน้ำรวมในฟาร์มเฮ้าส์ เกสต์เฮ้าส์ หรือโฮสเทล อยู่ในทำเลดีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า

รถ

ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)

ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว

ซูเปอร์บัดเจท 2WD

รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป

บัดเจท 2WD

รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป

บัดเจท 4x4

รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป

คอมฟอร์ท 4x4

รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป

รถหรู 4x4

รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป

รถตู้

รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป

วิดีโอ

รีวิวที่รับรองแล้ว

ทัวร์ที่คล้ายกัน