ทัวร์ขับรถเที่ยวตามแสงเหนือในหน้าหนาว 9 วัน คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส และชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
จองทริปสำหรับขับรถเที่ยวเองกับเราแล้วใช้เวลา 9 วันในไอซ์แลนด์ของคุณให้คุ้มค่ามากที่สุด ทัวร์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปเห็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์และในขณะเดียวกันก็ได้ไปเยือนสถานที่แปลกๆ ที่น้อยคนจะรู้จักด้วย และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการกำหนดเวลาในการท่องเที่ยวด้วยตนเอง
ในทริปนี้คุณจะได้ขับรถไปบนเส้นทางวงกลมทองคำอันโด่งดังของไอซ์แลนด์ ได้เห็นภูมิประเทศที่หลากหลายบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส และได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของชายฝั่งทางใต้ นอกจากนี้คุณยังจะได้รับบัตรผ่านเข้าไปแช่น้ำร้อนเพื่อผ่อนคลายที่บลูลากูนซึ่งสปาแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องน้ำร้อนธรรมชาติที่มีสีฟ้าเหมือนท้องฟ้า
นอกจากคุณจะได้เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ แล้ว คุณยังสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมแอดเวนเจอร์สนุกๆ เข้าไปในทริปแต่ละวันได้ด้วย เช่น ดำน้ำตื้นสน็อกเกิล เที่ยวถ้ำ ขี่สโนว์โมบิล ปีนกลาเซียร์ และชมถ้ำน้ำแข็งซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณไม่ควรพลาด โดยคุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมเหล่านี้ได้ในขณะที่ทำการจองทริปขับรถกับเรา
ข้อดีของการขับรถเที่ยวเองคือคุณเป็นคนเลือกว่าจะไปที่ไหนและใช้เวลากับแต่ละที่นานเท่าไร คุณแค่ต้องขับรถไปตามสถานที่ท่องเที่ยวตามที่ระบุอยู่ในแพ็กเกจของคุณและขับรถไปยังที่พักในแต่ละคืนแค่นั้นเอง เพื่อให้ทุกอย่างสะดวกมากขึ้นเราจึงจัดทำเป็นรายละเอียดแผนการเดินทางเอาไว้ให้คุณแล้ว โดยในแผนการจะแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับสถานที่ที่คุณสามารถไปเยือนได้ในแต่ละวัน ทั้งสถานที่เที่ยวมีชื่อและสถานที่เที่ยวที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก คุณสามารถเลือกเที่ยวให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น ไอซ์แลนด์ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูที่ถูกความมืดมิดปกคลุมยาวนานจึงมีโอกาสอย่างมากที่คุณจะได้เห็นแสงเหนือ คุณจะพักค้างคืนที่โรงแรมซึ่งอยู่นอกเมืองเป็นเวลาหลายคืน แถวนั้นห่างไกลจากแสงสีของเมืองจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูแสงออโรร่า
ดังนั้นอย่าพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ในการเที่ยวไอซ์แลนด์ ในทริปขับรถเที่ยว 9 วันนี้คุณจะได้เห็นมุมแปลกๆ ในไอซ์แลนด์ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย รีบเช็กตารางเวลาโดยระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางตอนนี้เลย
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - เดินทางมาถึงประเทศไอซ์แลนด์
วันแรกนี้เป็นวันที่คุณเดินทางมาถึงสนามบินเคฟลาวิก คุณจะรับรถและเดินทางเข้าสู่ที่พักในเมืองเรคยาวิก (Reykjavík)ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ หรือไม่เช่นนั้นคุณก็สามารถมุ่งตรงเข้าไปในเมืองเรคยาวิกเลยก็ได้ ซึ่งเมืองหลวงแห่งนี้มีเสน่ห์ลึกลับไม่เหมือนใครและในเมืองมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่น แกลอรี่ พิพิธภัณฑ์ และบาร์ให้คุณเพลิดเพลินมากมาย คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในเรคยาวิก

วัน 2 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
ในวันที่สองคุณจะเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อไปที่คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes Peninsula) ระหว่างทางคุณจะขับรถผ่านสถานที่เที่ยวมีชื่อของไอซ์แลนด์ตะวันตกหลายแห่ง คุณสามารถขับรถออกนอกเส้นทางเล็กน้อยเพื่อไปเที่ยวสถานที่เหล่านั้นได้ เช่น น้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) และเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) น้ำพุร้อนที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป
คาบสมุทรแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไอซ์แลนด์ฉบับมินิ” เนื่องจากบนคาบสมุทรความยาว 90 กิโลเมตรนี้มีภูมิทัศน์ที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อและคุณจะใช้เวลาวันนี้ทั้งวันย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง สถานที่ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ภูเขาที่มีคนไปถ่ายรูปมากที่สุดในไอซ์แลนด์ หมู่บ้านประมงอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) และเฮลล์นาร์ (Hellnar) อันเงียบสงบ ดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) หาดที่เต็มไปด้วยกรวดสีดำ และสไนเฟลล์โจกุล (Snæfellsjökull) ธารน้ำแข็งขนาดยักษ์และภูเขาไฟที่ทอดตัวอยู่บนคาบสมุทรแห่งนี้
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนบนสไนล์แฟลซเนส อย่าลืมแหงนหน้ามองหาแสงเหนือเต้นระบำด้วยหากท้องฟ้าในคืนนี้ปลอดโปร่ง

วัน 3 - วงกลมทองคำ
ในวันที่สาม คุณจะออกเดินทางจากสไนล์แฟลซเนสเพื่อไปยังวงกลมทองคำ เส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์ บนเส้นทางนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่ 3 แห่ง แต่ในรายละเอียดแผนการเดินทางของคุณนั้นจะแสดงสถานที่เที่ยวอื่นๆ อีกมากมายที่อยู่บนเส้นทางวงกลมทองคำและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งสถานที่เหล่านั้นยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก
สำหรับสถานที่ไฮไลต์ 3 แห่งนั้น ที่แรกคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Þingvellir National Park) ซึ่งได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นสถานที่มรดกโลกของประเทศไอซ์แลนด์ บริเวณนี้เมื่อปี 930 เคยเป็นสถานที่ตั้งแห่งแรกของรัฐสภาแห่งไอซ์แลนด์ และอุทยานฯ แห่งนี้ยังมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่สวยงามเนื่องจากตั้งอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกทวีปอเมริกาเหนือและยูเรเซีย
จุดที่สองบนวงกลมทองคำคือทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) และสมกับชื่อทุ่งน้ำพุร้อนภายในหุบเขาแห่งนี้มีไกเซอร์หรือน้ำพุร้อนอยู่หลายแห่ง ซึ่งรวมถึงไกเซอร์ต้นตำรับที่เป็นที่มาของคำว่าไกเซอร์ด้วย และน้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) ที่พ่นน้ำขึ้นฟ้าสูงราว 25 เมตรในทุกๆ 5-10 นาที และบริเวณโดยรอบยังมีบ่อน้ำร้อนและบ่อโคลนเดือดอีกหลายแห่ง
จุดสุดท้ายคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) น้ำตกแสนสวยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ โดยเป็นน้ำตกสองชั้นสูงกว่า 30 เมตรที่ไหลลงสู่เหวโบราณที่ด้านล่าง
ในวันนี้คุณจะมีตัวเลือกกิจกรรมเสริมให้เลือกเข้าร่วมอยู่ 2 ทัวร์ด้วยกัน คือที่ธิงเวลลีร์คุณสามารถไปร่วมทัวร์ดำน้ำตื้นสน็อกเกิลในน้ำที่ใสราวกับคริสตัลเพื่อชมโลกใต้น้ำที่ตั้งอยู่บนรอยแยกระหว่างสองทวีปที่รอยแยกซิลฟรา (Silfra)
หรือคุณจะไปร่วมกับทัวร์เที่ยวถ้ำลาวาที่วิดเกลมิร์ (Víðgelmir) ก็ได้ ซึ่งที่นั่นคุณจะเดินไปตามเส้นทางลาวาที่เคยร้อนระอุ โดยลาวาพวกนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อหลายพันปีมาแล้ว ทั้งสองกิจกรรมนี้เป็นประสบการณ์ที่สนุกตื่นเต้นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่ไม่สามารถหาได้ที่อื่นอีกแล้วบนโลกใบนี้
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนบนเส้นทางวงกลมทองคำ

วัน 4 - จากชายฝั่งทางใต้สู่หมู่บ้านวิก
ในวันที่สี่คุณจะมุ่งหน้าไปบนชายฝั่งทางใต้เพื่อชื่นชมกับสิ่งมหัศจรรย์มากมายซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลัก
สถานที่แรกคือน้ำตกอันงดงามมากที่สุดสองแห่งของไอซ์แลนด์ ได้แก่ น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) น้ำตกสวยที่มีน้ำไหลออกมาจากหน้าผาโค้งเว้าและน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออก น้ำตกสโกกาฟอสส์มีความสูงราว 60 เมตรซึ่งเท่าๆ กับน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ แต่มีน้ำไหลแรงกว่ามากและมีบันไดอยู่ที่ด้านข้างตัวน้ำตกให้คุณสามารถเดินขึ้นไปชมวิวจากจุดชมวิวหลายแห่งที่ด้านบน
ในระหว่างที่คุณขับรถต่อไปเรื่อยๆ นั้นถ้าเป็นวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะสามารถมองเห็นภูเขาและธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) อันโด่งดังด้วย และในทิศตรงข้ามกับมหาสมุทรคุณอาจจะเห็นหมู่เกาะเวสท์แมนด้วยก็ได้
จากนั้นอีกไม่นานผืนน้ำแข็งก็จะโผล่มาให้คุณเห็นเต็มไปหมด คุณอาจจะเลือกไปทัวร์ธารน้ำแข็งที่ไหนสักแห่งหนึ่งดูก็ได้ คุณสามารถไปปีนกลาเซียร์ทังก์ที่โซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) หรือเลือกไปขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งมิร์ดาลส์โจกุล (Mýrdalsjökull) ซึ่งทั้งสองกิจกรรมนี้ทำให้คุณได้เห็นและสำรวจภูมิประเทศสวยงามแปลกตาแบบใกล้ชิดมากๆ
หลังจากเพลิดเพลินกับกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเสร็จแล้ว คุณจะเดินทางต่อไปทางทิศตะวันออก และคุณอาจจะแวะที่หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ซึ่งอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านวิก (Vík) เพื่อชื่นชมสภาพทางธรณีวิทยาอันงดงามของบริเวณโดยรอบ เช่น หินโค้งดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) และเสาหินบะซอลต์เรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar)
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่หมู่บ้านวิก

วัน 5 - จากชายฝั่งทางใต้สู่เฮิฟน์
ในวันที่ห้านี้คุณจะขับรถผ่านส่วนที่เหลือบนชายฝั่งทางใต้ทั้งหมด ซึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศนี้มีสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากๆ อยู่สองแห่ง คือเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón)
สกัฟตาเฟลล์มีธรรมชาติที่งดงามเหลือเชื่อและที่นี่เคยถูกจัดให้เป็นอุทยานแห่งชาติมาก่อน แต่ต่อมาภายหลังได้ถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า สกัฟตาเฟลล์ตั้งอยู่ใต้เงาของธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีธรรมชาติหลากหลายตั้งแต่ป่าไปจนถึงทุ่งลาวา รวมถึงมีเส้นทางเดินเขามากมายด้วย เส้นทางหนึ่งที่แนะนำคือเส้นทางที่จะไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ซึ่งมีสิ่งแวดล้อมที่แปลกตามาก โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) ในเมืองเรคยาวิกเองก็ได้รับแรงบันดาลใจในมาจากสถานที่แห่งนี้ หากเมื่อวันก่อนหน้าคุณยังไม่ได้ไปปีนกลาเซียร์ วันนี้คุณก็ยังมีโอกาสไปเข้าร่วมกับทัวร์ปีนกลาเซียร์ที่นี่ได้ด้วย
หลังจากเที่ยวที่สกัฟตาเฟลล์เสร็จแล้วคุณจะเดินทางต่อไปที่โจกุลซาลอน ซึ่งถือว่าเป็นมงกุฎอัญมณีหรือสุดยอดแห่งธรรมชาติของไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ ที่โจกุลซาลอนคุณจะได้เห็นภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาจำนวนมากลอยอยู่เต็มทะเลสาบ ซึ่งภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้แตกตัวออกมาจากธารน้ำแข็งและเคลื่อนตัวออกสู่มหาสมุทรไปอย่างช้าๆ ทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามมาก พื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของแมวน้ำจำนวนมากด้วย ในขณะที่คุณชมความงามของภูเขาน้ำแข็งก็อย่าลืมมองหาพวกแมวน้ำขี้เล่นด้วย
ชายฝั่งใกล้ๆ กับโจกุลซาลอนนั้นเต็มไปด้วยเศษน้ำแข็งที่ถูกพัดขึ้นมาเกยตื้น ซึ่งมองดูเหมือนมีอัญมณีอยู่เต็มหาด หาดแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าหาดไดมอนด์บีช ถ้ามาแถวนี้คุณต้องไม่พลาดมาเดินเล่นบนหาดไดมอนด์บีชก่อนที่จะเลยไปยังเมืองเฮิฟน์ (Höfn) รับรองว่าคุ้มค่ากับเวลาอย่างแน่นอน
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในเมืองสวยๆ แห่งนี้

วัน 6 - ถ้ำน้ำแข็งและพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
วันที่หกของการเดินทางคุณจะอยู่ในพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ ถ้าเมื่อตอนที่จองทริปขับรถคุณได้เลือกเข้าร่วมกับกิจกรรมเที่ยวถ้ำน้ำแข็งของจริงเอาไว้
ถ้ำน้ำแข็งเป็นปรากฏการณ์แปลกประหลาดไม่เหมือนใครและหาดูได้ยากมาก โดยจะสามารถเข้าไปชมได้เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น และตอนที่คุณเข้าไปในถ้ำนั้นห้ามลืมนำกล้องถ่ายรูปติดตัวมาเป็นอันขาดเพราะคุณจะได้ภาพถ่ายแห่งความทรงจำกลับไปเพียบ
หรือถ้าไม่ได้จองทัวร์ถ้ำน้ำแข็ง คุณอาจจะวกกลับไปที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งเพื่อดื่มด่ำกับความงดงามของทะเลสาบกันอีกครั้งก็ได้ หรือจะไปที่สกัฟตาเฟลล์เพื่อไปเดินเขาเส้นทางที่ยังไม่เคยไปก็น่าสนใจไม่น้อย เส้นทางระยะสั้นที่เป็นเส้นทางไปยังธารน้ำแข็งสกัฟตาเฟลล์โจกุล (Skaftafellsjökull) นั้นจะเปลี่ยนจากสีขาวไข่มุกไปเป็นเฉดสีฟ้าในช่วงหน้าหนาวซึ่งเป็นวิวที่งดงามจนคุณแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย
หรือถ้าคุณต้องการขึ้นเหนือเพื่อไปถ่ายรูปภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ที่มียอดแหลมหยึกหยักเหมือนฟันปลาและภูเขาเอสตราฮอร์น (Eystrahorn) แล้วเดินทางไปเที่ยวต่อที่หมู่บ้านชาวประมงอันสงบเงียบที่ฟยอร์ดตะวันออกก็สามารถทำในวันนี้ได้เช่นกัน
คืนนี้คุณจะพักค้างที่ในเฮิฟน์อีกหนึ่งคืนหรือไม่ก็พักในบริเวณใกล้เคียง

วัน 7 - จากเฮิฟน์สู่เรคยาวิก
คุณจะเดินทางกลับเข้าเรคยาวิกในวันที่เจ็ด โดยจะขับรถกลับไปตามเส้นทางบนชายฝั่งทางใต้ ในวันนี้คุณจะดูจากรายละเอียดในแผนการเดินทางและตามเก็บสถานที่ที่คุณยังไม่ได้แวะเมื่อตอนขามา ระหว่างทางถ้าคุณขับออกนอกเส้นหลักไปนิดหน่อยก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวแปลกๆ ที่คุ้มค่าน่าแวะอีกหลายแห่งทีเดียว
ฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) หุบเขาขนาดใหญ่ที่มีความลึก 100 เมตรและยาว 2 กิโลเมตร ก็อยู่เลยออกจากถนนเส้นหลักไปไม่ไกล โดยขับเลยจากหมู่บ้านเคิร์กยูแบร์ยาร์กเลาสเทอร์ (Kirkjubæjarklaustur) ในทิศตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ไปอีกเล็กน้อย เหวลึกแห่งนี้เหมาะสำหรับแวะถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง
คุณสามารถแวะชมหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) อีกครั้งก็ได้หรือไม่ก็แวะที่หมู่บ้านวิก (Vík) เพื่อช้อปสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านติดไม้ติดมือไปเป็นที่ระลึก และเนื่องจากสภาพอากาศที่ไอซ์แลนด์นั้นค่อนข้างแปรปรวน ไม่แน่ว่าในวันนี้คุณอาจจะอยากเข้าไปดูน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) ในบรรยากาศที่แตกต่างไปอีกแบบก็ได้
คุณยังสามารถเดินทางไปเที่ยวชมเซลลาย์วัลลาเลยก์ (Seljavallalaug) ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ได้ด้วย ซึ่งสระแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกในภูเขาลูกหนึ่ง
เมื่อคุณเดินทางกลับไปถึงเรคยาวิก คุณจะขับรถเข้าที่พักและใช้เวลาที่เหลือในคืนนี้ออกท่องราตรีในเมือง

วัน 8 - เพลิดเพลินกับเรคยาวิกหนึ่งวัน
วันที่แปดคุณจะเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมในเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซึ่งก็มีกิจกรรมให้คุณทำมากมาย ตั้งแต่เดินเที่ยว ชมพิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ ไปรับประทานอาหารที่ร้าน และช้อปปิ้ง
กิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างคือการไปสระว่ายน้ำ ซึ่งที่ไอซ์แลนด์นั้นการว่ายน้ำไม่ได้สงวนไว้แค่สำหรับฤดูร้อน คุณสามารถทำตัวเหมือนชาวไอซ์แลนด์และไปแช่น้ำร้อนที่สระน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพได้แม้ในวันที่หิมะตก บางคนถึงกับบอกว่าเวลาที่เหมาะแก่การไปสระว่ายน้ำมากที่สุดก็คือตอนที่บรรยากาศข้างนอกเป็นน้ำแข็งเลยทีเดียว
การไปรับประทานอาหารไอซ์แลนด์ที่ร้านอาหารและคาเฟ่ที่มีอยู่มากมายทั่วเมืองก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ ปลาที่จับมาสดๆ และแกะที่เลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติถือเป็นเมนูเด็ดประจำวันของร้านอาหารส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ร้านอาหารในไอซ์แลนด์ส่วนมากจะมีเมนูอาหารวีแกนและมังสวิรัติให้บริการด้วย
การรับประทานไอศกรีมเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ชาวไอซ์แลนด์ไม่ได้สงวนไว้เฉพาะหน้าร้อน ในเมืองมีร้านขายไอศกรีมอยู่เต็มไปหมด ซึ่งก็มีให้เลือกหลายรสชาติ ทั้งรสธรรมดาอย่างวนิลา ช็อกโกแลต และสตรอว์เบอร์รี่ ไปจนถึงรสชาติแปลกๆ หน่อย เช่น รสชะเอม มะม่วง และแอปเปิ้ลอบ
คืนสุดท้ายที่ไอซ์แลนด์นี้คุณจะพักที่ในเมืองเรคยาวิก

วัน 9 - เดินทางกลับบ้าน
ในวันที่เก้าคุณจะต้องนำรถไปส่งคืนที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก อย่าลืมกะเวลาเผื่อไว้คืนรถและเช็กอินที่สนามบินให้พอดี
ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ทัวร์ขับรถนี้สามารถเริ่มต้นได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิกและที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก สิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีคือใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ พร้อมด้วยประสบการณ์ในการขับรถบนถนนหนึ่งปี ทั้งนี้โปรดทราบด้วยว่าแผนการเดินทางท่องเที่ยวของคุณอาจมีการปรับเปลี่ยนในภายหลังเพื่อให้สอดคล้องกับวันและเวลาที่คุณเดินทางมาถึงที่ไอซ์แลนด์
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังนั้นไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าคุณจะได้เห็นมัน แต่แผนการเที่ยวครั้งนี้เราออกแบบเพื่อเพิ่มโอกาสในการเห็นแสงเหนือให้กับคุณอยู่แล้วในกรณีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย นอกจากนี้หากสภาพอากาศเลวร้ายมาก กิจกรรมบางอย่างอาจต้องถูกยกเลิก หากกิจกรรมที่คุณจองไว้ต้องมีอันยกเลิกไป เราจะช่วยจัดการจองกิจกรรมอื่นๆ ที่สามารถทำได้ให้กับคุณ และคุณจะได้รับเงินส่วนต่างคืน (ถ้ามี) ทั้งนี้โปรดทราบว่าถ้ำน้ำแข็งจะสามารถเข้าชมได้เฉพาะช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงมีนาคมเท่านั้น
นอกจากนี้คุณควรทราบด้วยว่าในฤดูหนาวถนนและบาทวิถีที่ไอซ์แลนด์นั้นค่อนข้างลื่น เราแนะนำให้คุณนำรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นหรือพื้นเกาะน้ำแข็งติดมาด้วย หรือไม่อย่างนั้นก็สามารถมาหาซื้อพื้นรองเท้าเกาะน้ำแข็งได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตและสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ
ที่พัก
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล
สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม
ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
ห้องพักพร้อมห้องน้ำรวมในฟาร์มเฮ้าส์ เกสต์เฮ้าส์ หรือโฮสเทล อยู่ในทำเลดีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า
รถ
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี และมาพร้อมประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)
ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป