ทัวร์ขับรถชมแสงเหนือด้วยตนเอง 1 สัปดาห์ในไอซ์แลนด์ใต้และไปชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

ในวันที่สองนี้ คุณจะได้เดินทางไปสำรวจคาบมหาสมุทรสไนล์แฟลซเนส ที่นี่คุณจะได้พบกับทัศนียภาพของภูเขาไฟสไนล์เฟลส์โจกุล และภูเขาไฟนี้ยังเป็นธารน้ำแข็งด้วยเช่นกัน และที่นี่ยังเป็นทางเข้าสำหรับการเดินทางไปยังใต้ดินในการเดินทางในนวนิยายคลาสสิคของ จูเลส เวิร์น (Jules Verne) ในเรื่องดิ่งทะลุสะดือโลก (Journey to the Centre of the Earth).

เพื่อเป็นโอกาสที่คุณจะได้เดินทางเข้าไปยังภายในภูเขาไฟ คุณจะต้องเดินทางไปยังทรีฮนูคาร์กีกูร์(Þríhnúkagígur) หากคุณเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคม คุณสามารถเดินทางโดยรถบัสนำเที่ยวจากเมืองเรคยาวิกที่จะนำคุณไปยังภูเขาไฟที่หลับไหลแล้ว และที่นี่คุณจะได้ลงไปในโถงแม็กมาที่ว่างเปล่าแล้ว.

ทันทีที่คุณพร้อมที่จะเริ่มเดินทาง คุณจะขับรถไปยังคาบมหาสมุทรสไนล์แฟลซเนส ที่นี่คุณจะพบกับอุทยานแห่งชาติที่เต็มไปด้วยหน้าผาริมมหาสมุทรที่สูงชัน การก่อตัวของก้อนหินที่สวยงาม หุบเขาแคบๆ น้ำตกสายเล็กๆ หมู่บ้านชาวประมงที่น่ารัก และชายหาดกรวดสีดำดจูร์ปาลงซานดูร์ (Djúpalónssandur) ที่สวยงาม.

ใกล้ๆสถานที่นี้ยังมีภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ที่มีชื่อเสียง และเป็นจุดยอดฮิตสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเพื่อที่จะได้ลองฝีมือของตัวเอง ในวันที่ท้องฟ้าสดใสคุณจะได้เห็นทัศนียภาพของอ่าวฟาซาโฟลอิ(Faxaflói) ตลอดเส้นทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิกจากคาบมหาสมุทรสไนล์แฟลซเนส

หากคุณไม่ได้เลือกเพิ่มทัวร์ "อินทูดิโวลเคโน" เพื่อเข้าไปเที่ยวชมที่ด้านในของภูเขาไฟ คุณก็อาจจะไปร่วมกับทริปขี่ม้า หรืออาจจะไปแช่น้ำร้อนที่สปาความร้อนใต้พิภพในวันนี้แทนได้

ซึ่งถ้าหากคุณเลือกกิจกรรมขี่ม้าในวันนี้ คุณจะได้ไปขี่ม้าชมภูมิประเทศที่สวยงามใกล้ๆ กับเมืองเรคยาวิกก่อนที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ส่วนสปาความร้อนใต้พิภพที่คุณจะไปเยือนคือสปาเครยมา (Krauma Spa) ซึ่งมองเห็นวิวของน้ำพุร้อนเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunghver) น้ำพุร้อนที่มีอัตราการไหลของน้ำสูงสุดในทวีปยุโรป และน้ำร้อนที่นี่ก็มาจากเดลตาร์ทุงกุแควร์นั่นเอง

และอย่าลืมมองหาแสงเหนือในคืนนี้ด้วยในขณะที่คุณพักค้างคืนในโรงแรมบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการล่าแสงเหนือ

วันนี้ก็ได้เวลาไปเยี่ยมชมแผ่นดินที่แยกออกจากกัน การปะทุของไกเซอร์และน้ำตกสายฟ้า ที่เป็นส่วนประกอบของวงกลมทองคำ.

เริ่มการเดินทางด้วยการขับรถตรงไปทางใต้ แต่ก่อนที่คุณจะไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของวงกลมทองคำ คุณสามารถเลือกที่จะไปเที่ยวชมวิดเกลมิร์ (Víðgelmir) ที่มีสายลาวาจำนวนมากอยู่ใกล้กับเมืองบอร์การ์ฟอย์ดูร์ (Borgarfjörður) กำแพงของถ้ำนี้มีสีสันที่สวยงามของแร่ธาตุต่างๆของพื้นโลก และภายในคุณจะได้เห็นการก่อตัวของหินที่มีรูปร่างแปลกและโดดเด่น.

คุณจะขับตรงไปยังอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ พื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ตรงขอบรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและอเมริกาเหนือ ในตอนที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ได้แยกดินรอบๆออกจากกัน และเป็นสาเหตุของการแตกและรอยแยกของภูมิภาคนี้.

หนึ่งในรอยแยกนี้ ได้แก่ ซิลฟรา (Silfra) ที่ถูกเติมเต็มด้วยน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ คุณสามารถเลือกทัวร์ดำน้ำตื้นในรอยแยกซิลฟรา ที่มีทัศนวิสัยที่น่ามหัศจรรย์ถึง 100 เมตร คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความเย็นของน้ำที่ซิลฟรานี้ เพราะคุณจะได้รับชุดดรายสูทเพื่อให้ความอบอุ่น.

จากที่ซิลฟราคุณจะได้ขับรถต่อไปยังบริเวณทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ ที่คุณจะได้พบกับไกเซอร์สโทรคูร์(Strokkur) สโทรคูร์มีการปะทุทุกๆ 5-10 นาทีที่พุ่งขึ้นไปได้สูงถึง 15 - 20 เมตร คุณจะมีโอกาสมากมายในการถ่ายรูปปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่น่าทึ่งนี้.

ขับรถต่อไปอีกไม่ไกลจากไกเซอร์คุณจะได้พบกับสถานที่ที่น่ามหัศจรรย์ ที่ชื่อว่าน้ำตกกุลล์ฟอสส์(Gullfoss) ที่มีความกว้างเท่ากับแม่น้ำฮวิทเอา (Hvítá) น้ำตกแห่งนี้ไหลหลงไปยังหุบเขาทั้งสองด้าน ทำให้เกิดเป็นสองชั้นของน้ำที่ตกลงไป.

เสียงสนั่นกัมปนาทของน้ำจากธารน้ำแข็งที่ทิ้งตัวจากความสูง 32 เมตรลงสู่หุบเขาโบราณด้านล่างจะก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของคณไปอีกนานแม้หลังจากที่คุณเดินทางพ้นจากบริเวณน้ำตกไปแล้ว

หากคุณต้องการเข้าร่วมกับทัวร์ที่มีสีสันแตกต่างออกไปในวันนี้ คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ผจญภัยด้วยการนั่งมอนสเตอร์ทรัคขึ้นไปบนเนินของธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ซึ่งคุณจะได้ชื่นชมทัศนียภาพและสภาพแวดล้อมโดยรอบที่น่าประทับใจมาก

หรือคุณอาจจะเลือกไปสำรวจภูมิประเทศในโลกใต้ดินของประเทศไอซ์แลนด์ ด้วยการจองทัวร์เที่ยวถ้ำลาวาวิดเกลมิร์ (Vidgelmir) และตัวเลือกสุดท้ายของวันนี้คือกิจกรรมธาราบำบัดด้วยการไปแช่น้ำร้อนที่ฟอนทานาสปา (Fontana Spa) ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลสาบ

อย่าลืมแหงนหน้ามองท้องฟ้าในตอนกลางคืนด้วยเผื่อมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือออกมาเต้นระบำ

ในวันที่สี่ คุณจะได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังชายฝั่งทางใต้ที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ วันนี้คุณจะได้ขับรถผ่านธารน้ำแข็งที่กว้างขวางที่เป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในประเทศ.

เริ่มต้นวันของคุณโดยตรงไปที่น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่เป็นน้ำตกที่มีทั้งความสูงและแคบ ที่ตกลงไปตามผิวของหน้าผา ในช่วงฤดูหนาวน้ำตกที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้จะสว่างจ้าด้วยแสง ทำให้ที่นี่ดูราวกับมีเวทมนตร์.

คุณจะเดินทางผ่านไปยังธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) เพื่อไปยังจุดท่องเที่ยวถัดไปคือ น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) น้ำตกแห่งนี้มีรูปร่างคลาสสิคกว่าอีกน้ำตกที่อยู่ใกล้กันที่ชื่อ น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่มีความกว้างกว่า และพื้นด้านใต้น้ำตกมีความเรียบมาก ดังนั้นคุณสามารถเดินขึ้นไปตรงม่านน้ำได้.

หากคุณต้องการจะรู้จักธารน้ำแข็งให้มากขึ้น วันนี้เป็นวันที่เหมาะสมมาก คุณสามารถเลือกทัวร์ขับรถเลื่อนหิมะในธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ที่ปกคลุมภูเขาไฟคัทลา (Katla) ไว้ เลือดของคุณจะสูบฉีดโดยการพุ่งผ่านพื้นที่สีขาวของภูเขาที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งที่เห็นได้จากระยะไกล.

คุณยังสามารถเลือกกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งบนยอดเขาโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) ที่เป็นส่วนนึงของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล(Mýrdalsjökull)ที่ยื่นออกมา เติมความเย็นให้เต็มปอดบนยอดเขาหิมะ ในขณะที่คุณสำรวจผ่านพื้นที่สีฟ้า รอยหิมะและความดำของเถ้าจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต.

ตัวเลือกกิจกรรมอื่นๆ ในวันนี้ยังรวมถึงทัวร์ขี่ม้าชมภูมิประเทศที่สวยงามของทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ หรือไปเที่ยวชมคอกม้าระยะเวลาสั้นๆ เพื่อทำความรู้จักกับม้าไอซ์แลนด์ให้ดีขึ้น พร้อมกับแวะจิบเครื่องดื่มร้อนๆ และคุณยังสามารถเริ่มต้นวันนี้ด้วยการไปเที่ยวถ้ำที่เฮลลา (Hella) ซึ่งเป็นถ้ำเทียมที่มีประวัติศาสตร์และตำนานพื้นบ้านให้ชมมากมาย

ก่อนจะเดินทางต่อไปยังที่พักของคุณที่หมู่บ้านวิก (Vík) สามารถหยุดแวะที่เรย์นิสฟยารา หาดทรายดำแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยหน้าผา และแนวเสาหินบะซอลต์ทรงหกเหลี่ยม ที่มีรูปร่างทั้งแปลกตาและสวยงามในเวลาเดียวกัน ออกไปทางมหาสมุทรของที่นั่นเป็นที่ตั้งของชั้นหินทะเลขนาดใหญ่เรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่ดูเหมือนคลื่นขนาดใหญ่ที่ปะทะชายฝั่งอย่างเต็มกำลัง.

จากหมู่บ้านวิก เดินทางต่อไปทางตะวันออกตรงไปยังทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ที่สวยงามในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull).

แต่ก่อนที่จะออกเดินทาง คุณยังสามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์รถบักกี้ชมหาดทรายดำและภูมิประเทศที่งดงามบริเวณรอบๆ หาดเรย์นิสฟยารากันก่อนได้

ขณะเดินทางไปยังธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล คุณจะขับรถผ่านหมู่บ้านที่น่าหลงไหลที่ชื่อว่า เคิร์กยูแบร์ยาร์กเลาสเทอร์ (Kirkjubæjarklaustur) และน้ำตกฟอลสส์ อา ซิดู (Foss á Síðu) ก่อนที่จะเดินทางไปถึงศูนย์อนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ที่มีธารน้ำแข็งที่ยื่นลงไปในหุบเขาแคบๆ.

หากคุณพลาดการปีนธารน้ำแข็งเมื่อวานนี้ คุณสามารถเลือกที่จะปีนได้อีกวันในวันนี้ที่สกัฟตาเฟลล์ ที่คุณสามารถเดินข้ามธารน้ำแข็งโบราณที่เป็นหุบเขาน้ำแข็งและประติมากรรมที่ซับซ้อน.

และคุณยังสามารถเลือกจองกิจกรรมที่พาคุณบินชมวิวอันงดงามน่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ได้ด้วย โดยทัวร์นี้จะขึ้นบินเหนืออุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล และเครื่องจะออกเดินทางจากสกัฟตาเฟลล์

จากที่นั่น คุณจะขับผ่านเพชรยอดมงกุฏของประเทศไอซ์แลนด์ที่เรียกว่าทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ที่มีภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่แตกออกใกล้ๆตกลงไปในธารน้ำแข็ง ลอยไปตามน้ำที่สงบของทะเลสาบก่อนที่จะตกลงไปในมหาสมุทร.

และก่อนจะหมดวันนี้ คุณจะได้ใช้เวลาในช่วงกลางคืนในที่พักนอกเมืองใกล้ทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอน ที่ล้อมรอบทัศนียภาพที่ตื่นตาและคาดว่าจะได้เห็นแสงเหนือในคืนนี้.

คุณจะเริ่มต้นวันนี้ที่อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล.

หากคุณท่องเที่ยวในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมและมีนาคม คุณจะได้รับโอกาสที่หายากที่จะได้เที่ยวชมถ้ำน้ำแข็งที่แท้จริง ฉวยโอกาสนี้ไว้เพราะถ้ำน้ำแข็งเหล่านี้สามารถเข้าไปชมได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆเพราะด้านในจะมีน้ำท่วม กับพระอาทิตย์ขึ้น คุณสามารถวางแผนในการเที่ยวชมที่นี่ได้ระหว่างทำการจอง และเริ่มต้นที่จะดื่มด่ำไปในเฉดสีฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดของถ้ำน้ำแข็ง.

กลับตรงไปยังทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอน เพราะบรรยากาศจะดูแตกต่างกันมากกับในช่วงกลางวัน คุณจะได้ชมทัศนียภาพที่มีสีสันมากกว่าของน้ำแข็ง ผลึกสีฟ้า และสีไข่มุกขาวที่เป็นประกายในแสงของช่วงกลางวัน คุณอาจจะได้เห็นแมวน้ำหนึ่งหรือสองตัวนอนขี้เกียจอยู่บนภูเขาน้ำแข็งและชายฝั่ง.

ที่ใกล้ๆกับทะเลสาบจะเป็นชายหาดทรายดำที่มีก้อนน้ำแข็งเล็กๆถูพัดขึ้นมาบนชายฝั่ง และได้ส่องแสงประกายภายใต้แสงอาทิตย์ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ชายหาดนี้ถูกเรียกว่าไดมอนด์บีช.

ในช่วงบ่ายคุณจะได้เริ่มเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิก ระหว่างการเดินทางคุณสามารถหยุดพักในสถานที่โปรดปรานของคุณตามชายฝั่งทางใต้ คุณยังสามารถค้นพบสถานที่ส่วนตัวใหม่ๆและเพิ่มเข้าไปในโปรแกรมของคุณระหว่างทาง คุณจะได้ใช้เวลาช่วงกลางคืนในที่พักในเมืองเรคยาวิก หากคุณมาถึงเร็วคุณยังได้สำรวจชีวิตช่วงค่ำคืนของเมืองเรคยาวิกได้.