ทัวร์ลดราคาพิเศษจ่าย 1 ได้ถึง 2 | เที่ยวชมอุทยานแห่งชาติทุกแห่งและถ้ำน้ำแข็ง
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
เพลิดเพลินกับทัวร์ที่หลากหลายสำหรับช่วงฤดูหนาว ที่คุณจะได้ล่าแสงเหนือตามสถานที่ที่สวยที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เช่น อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) วัทนาโจกุล (Vatnajökull) และสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) ไม่เพียงเท่านั้น คุณจะยังได้ปีนไปยังธารน้ำแข็งที่งดงามของประเทศและสำรวจภายในของอีกหนึ่งการเดินทางชมถ้ำน้ำแข็งที่น่าประทับใจ.
แพ็คเกจทัวร์ลดราคานี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาการที่จะได้ไปชมสถานที่ท่อเที่ยวไฮไลท์ของช่วงฤดูหนาวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมาย เพลิดเพลินกับกิจกรรมทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการขับรถหรือการจัดการแต่ละทัวร์.
คุณจะได้เข้าร่วมกับสองทัวร์ที่แยกกันในการท่องเที่ยว 5 วัน ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ใช้เวลาอันมีค่าของคุณได้มากที่สุดในประเทศ หลังจากการได้เที่ยวชมเส้นทางวงกลมทองคำที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกแล้ว คุณจะได้ออกไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามหัศจรรย์มากมายตามเส้นทางชายฝั่งทางใต้ในช่วงเวลา 3 วัน.
ในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้คุณจะได้เดินทางไปชมน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ชายหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) และอัญมณียอดมงกุฏของประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) คุณจะได้ปีนธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) เพื่อที่จะได้ชมมุมมองแบบพาโนรามาที่น่าตื่นตาของพื้นที่บริเวณรอบๆ รวมทั้งยังได้เที่ยวชมถ้ำน้ำแข็งตามธรรมชาติภายในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล.
ในแพ็คเกจทัวร์ส่วนที่สองคุณจะได้ออกเดินทางโดยรถมินิบัสไปยังคาบมหาสมุทรสไนล์แฟลซเนสอันน่าทึ่ง ภูมิภาคที่มักถูกมองข้ามที่มีทั้งธารน้ำแข็งขนาดใหญ่และภูเขาไฟสไนล์เฟลส์โจกุล ระหว่างการเดินทางของคุณ คุณจะได้ชมน้ำตก ภูเขาไฟ ธารน้ำแข็งและน้ำพุร้อนพลังงานใต้พิภพจำนวนมาก รวมถึงแนวชายฝั่งที่งดงาม.
ความงดงามตามธรรมชาติของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสที่ไม่มีใครแตะต้องและไม่มีมลพิษทางแสง นั่นหมายถึงท้องฟ้าช่วงกลางคืนที่ปลอดโปร่ง คุณสามารถมองเห็นการแสดงบนท้องฟ้าของแสงเหนือได้ คุณจะจบทัวร์ของคุณด้วยการเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิก (Reykjavík).
ใช้ช่วงเวลาในช่วงฤดูหนาวของคุณในประเทศไอซ์แลนด์ให้คุ้มค่าและประหยัดไปพร้อมๆกัน ตรวจสอบโปรแกรมด้วยการเลือกวันเดินทางของคุณ.
รวมในแพ็คเกจ
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเดินทางรายวัน
วัน 1 - วงกลมทองคำและแสงเหนือ
ในการเดินทางวันแรกนี้จะเริ่มด้วยการออกไปสำรวจโลกของเส้นทางวงกลม (Golden Circle) ที่โด่งดัง การเดินทางในครั้งนี้คุณจะได้เดินทางไปชมน้ำตกขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า กุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) บริเวณทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) และสถานที่ที่ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรณ์ยูเนสโกที่ชื่อว่าอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ รถจะไปรับคุณจากเมืองเรคยาวิกในช่วงเช้าและนำคุณเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแรกที่ชื่อว่า ธิงเวลลีย์.
อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มีชื่อเสียงเนื่องจากหลายเหตุผล แต่ที่สำคัญที่สุดที่นี่เป็นสถานที่ตั้งของรัฐสภาที่ยังคงมีการดำเนินงานมาเป็นเวลานานที่สุดและยังคงมีการดำเนินงานอยู่ที่ชื่อว่าอัลธิงกิ (Alþingi) ที่ได้ก่อตั้งในปีคริสตศักราช 930 สถานที่นี้ยังมีความสำคัญทางด้านภูมิศาสตร์และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติเนื่องจากสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างการยกตัวของแผ่นเปลือกโลกภูมิภาคแอตแลนติก หรือระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย.
สถานที่ที่สอง คุณจะได้แวะท่องเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำก็คือบริเวณทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ บริเวณนี้โด่งดังในเรื่องของไกเซอร์ที่ชื่อว่า สโทรคูร์ (Strokkur) ที่เป็นน้ำพุร้อนที่การปะทุขึ้นมาทุกๆ 5-10 นาที ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่น่าประทับใจสำหรับนักถ่ายภาพและความเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ลึกลงไปที่ภูมิประเทศของที่นี่ได้สร้างสรรค์ขึ้น น้ำพุร้อนอีกแห่งที่อยู่ใกล้ๆชื่อว่าไกเซอร์ (Geysir) และได้ชื่อตามไกเซอร์ที่เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกแต่ตอนนี้ที่นี่ได้หลับไหลไปแล้ว.
สถานที่สุดท้ายที่คุณจะได้หยุดแวะในวันนี้เป็นน้ำตกที่โด่งดังที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า กุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือ "น้ำตกทองคำ" ม่านน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา (Hvítá) ที่ได้ไหลลงไปที่ความสูง 32 เมตรจากทั้งสองฝั่งลงไปยังช่องเขาที่น่าทึ่งด้านล่าง.
คุณจะได้ใช้เวลาในคืนแรกของทัวร์นี้ในบริเวณควอลส์เวิลลูร์ (Hvolsvöllur) ที่นี่นับว่าเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการนั่งเอนหลังและเฝ้ามองไปบนท้องฟ้าและรอคอยที่จะได้เห็นแสงเหนือ.
วัน 2 - ไฮไลท์ในชายฝั่งทางใต้
จุดแวะแรกของคุณในวันนี้จะอยู่บนเส้นทางชายฝั่งทางใต้นั่นคือ น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ ที่มีความสูงถึง 60 เมตรซึ่งหากสภาพเอื้ออำนวยคุณสามารถเดินไปบนเส้นทางที่อยู่รอบๆ เพื่อคุณจะได้มีโอกาสชมสายน้ำและพื้นที่รอบๆอย่างใกล้ชิด.
หลังจากนั้นคุณจะได้เดินทางต่อไปอีกไม่ไกลก็จะไปถึงน้ำตกแห่งที่สองของวันนี้ที่ชื่อว่า น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss ) น้ำตกแห่งนี้มีขนาดกว้างกว่าน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) แต่มีความสูงเท่ากัน ในขณะที่ขับรถอยู่ระหว่างน้ำตกทั้งสองแห่ง คุณจะต้องประทับใจกับทัศนียภาพของภูเขาไฟทะเลสาบน้ำแข็งที่ชื่อว่า เอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull).
หลังจากนั้นคุณจะได้เริ่มการผจญภัยของวันนี้ คุณจะโดนลากขึ้นไปยังปลายธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) ที่ไกด์ผู้มากประสบการณ์ของคุณจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยให้กับคุณ รวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการปีนน้ำแข็ง.
ต่อจากนั้นคุณจะได้เริ่มต้นการปีนธารน้ำแข็ง ผ่านรูปแกะสลักน้ำแข็งที่น่าอัศจรรย์และสลับซับซ้อน และรอยแยกสีฟ้าอ่อนของน้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่ ยิ่งคุณปีนขึ้นไปสูงเท่าไหร่คุณจะได้ชมภาพงดงามของบริเวณรอบๆแบบพาโนรามา.
ถัดไปคุณจะได้ไปเที่ยวชมชายหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของแนวหน้าผาหินบะซอลล์ และการก่อตัวของหินรูปร่างแปลกๆที่อยู่ออกไปด้านนอกมหาสมุทร คุณจะได้เดินทางผ่านไปยังหมู่บ้านชาวประมงที่ชื่อว่าวิก ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังศูนย์อนุรักษ์สกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ที่เป็นเพียงส่วนเล็กในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลที่ยิ่งใหญ่.
สถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายของวันนี้ได้แก่ อัญมณียอดมงกุฏของประเทศไอซ์แลนด์ที่เรียกว่าทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ชมภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากล่องลอยอย่างเอื่อยๆอยู่บนผิวของทะเลสาบ ก้อนน้ำแข็งจะลอยไปเรื่อยๆตรงไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก คุณสามารถติดตามการเดินทางของก้อนน้ำแข็งเหล่านี้ได้ด้วยตัวคุณเอง โดยการเดินต่อไปเรื่อยๆจากทะเลสาบไปจนถึงไดมอนบีช ที่นี่ก้อนน้ำแข็งจะถูกคลื่นซัดขึ้นไปบนชายหาดทรายดำ และคุณจะได้มีโอกาสในการถ่ายภาพที่น่าเหลือเชื่อที่นี่.
คุณจะได้ใช้เวลาในคืนที่สองนี้ในบริเวณโจกุลซาลอน (Jökulsárlón).
วัน 3 - ถ้ำน้ำแข็งและเมืองเรคยาวิก
ในวันที่สามของคุณ คุณจะได้เดินทางไปสำรวจภายในความลึกของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล และวันนี้จะเป็นโอกาสของคุณที่จะได้เดินทางไปเที่ยวชมถ้ำน้ำแข็งที่โด่งดังของประเทศไอซ์แลนด์.
ไกด์ของคุณในวันนี้จะเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นรวมถึงหมวกนิรภัยและฆ้อนน้ำแข็ง ก่อนที่จะคุณเดินทางไปยังโลกแห่งอัญมณีภายในแผ่นน้ำแข็งวัทนาโจกุลที่ปกคลุมอยู่ เตรียมตัวให้พร้อมที่จะได้พบกับความน่าตื่นเต้นด้วยการไถลไปบนแผ่นน้ำแข็งสีฟ้า เช่นเดียวกับรูปปั้นน้ำแข็งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ตกแต่งโดยธารน้ำแข็งที่อยู่ภายใน.
หลังจากการชมถ้ำน้ำแข็งแล้ว คุณจะได้เดินทางกลับโดยรถมินิบัสไปยังเมืองเรคยาวิก ไกด์ของคุณมีความยินดีที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณยังไม่ได้ไปเที่ยวชมตั้งแต่วันแรกให้คุณได้.
เมื่อคุณเดินทางกลับมาถึงเมืองเรคยาวิก ช่วงเย็นจะเป็นเวลาพักผ่อนอิสระในแบบที่คุณต้องการ คุณสามารถออกไปค้นหาความน่าตื่นเต้นในชีวิตช่วงกลางคืนของเมืองนี้ สำรวจสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม เช่น โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) หรือโถงคอนเสิร์ตฮาร์ปา (Harpa) หรือแม้แต่การไปเที่ยวชมสระน้ำของเมืองเรคยาวิก.
คุณจะใช้เวลาช่วงกลางคืนในที่พักภายในตัวเมือง เราขอแจ้งให้คุณทราบว่าที่พักในคืนนี้จะไม่ได้ถูกรวมไว้ในทัวร์.
วัน 4 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสและบอร์การ์ฟอย์ดูร์
วันที่สี่นี้จะเป็นการเดินทางในส่วนที่สองของทัวร์นี้ คุณจะได้ไปเยี่ยมชมคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่สวยงามและไม่ค่อยมีใครได้ไปสัมผัสมากที่สุดในประเทศ หลังจากที่ไปรับคุณจากที่พักในเมืองเรคยาวิกแล้ว คุณจะได้เดินทางโดยรถมินิบัสไปยังควาลฟยอร์ดูร์ (Hvalfjörður) ที่งดงาม ที่นี่ถือเป็นฟยอร์ด (fjord) ที่เป็นที่รู้จักกันเรื่องความสูงของยอดเขาและความงดงามของน้ำตก.
สถานที่แรกที่เราจะหยุดแวะท่องเที่ยวคือ หุบเขาสโกร์ราดาลูร์ (Skorradalur) ที่นี่คุณจะได้ชมน้ำพุร้อนที่สูงที่สุดในยุโรปที่ชื่อว่าเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) เป็นน้ำพุที่ปล่อยน้ำร้อนออกมามากกว่า 180 แกลลอน/วินาที ดังนั้นกรุณาอย่าเข้าไปใกล้บริเวณน้ำพุนี้มากเกินไป และคุณจะได้หยุดแวะสักครู่ยังหมู่บ้านแห่งประวัติศาสตร์เรค์คอร์ค (Reykholt) ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของ สนอร์ริ สตูร์ลูสัน (Snorri Sturluson) ที่เป็นนักเขียนในยุคกลางที่มีชื่อเสียงจากงานเขียนของเขาเรื่อง "โพส เอ็ดดา" (Prose Edda) ที่ถือว่าเป็นคัมภีร์ของตำนานนอร์สโบราณ.
ใกล้ๆกับทะเลสาบเรค์คอร์ค (Reykholt) คุณจะได้ไปเที่ยวชมน้ำตกสองแห่งที่แตกต่างกัน ได้แก่ บาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) ที่มีความรุนแรงและแคบ ม่านน้ำที่สวยงามตกลงไปยังหุบเขาหินด้านล่าง แต่ในขณะที่น้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar ) เป็นน้ำตกที่ค่อนข้างเงียบสงบและตกลงมาเบายังก้อนหินด้านล่าง.
อีกหนึ่งจุดแวะที่น่าตื่นเต้นในวันนี้คือ เกดูร์เบิร์ก (Gerðuberg) ที่ถูกค้นพบใกล้ๆกับหุบเขาฮแนบปาดาลูร์ (Hnappadalur) สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงจากกำแพงขนาดใหญ่ที่เกิดจากรูปร่างของแนวหินบะซอลล์ที่ก่อตัวขึ้นเป็นรูปแบบเลขาคณิตที่สวยงามตามแนวหน้าผา หลังจากที่เพลิดเพลินกับพื้นที่บริเวณนี้แล้ว คุณจะถูกนำไปยังบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติเรยดาเมลโซลเคลดาร์ (Rauðamelsölkelda) คุณจะได้ใช้เวลาในช่วงเย็นวันนี้ในที่พักบริเวณคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส.
วัน 5 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสแบบลึกซึ้งและเมืองเรคยาวิก
ในวันสุดท้ายของทัวร์นี้ คุณจะได้ใช้เวลามากขึ้นในการสำรวจไฮไลท์จำนวนมากในคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส เดินทางท่องเที่ยวทั้งด้านบนและด้านล่างของทั้งสองฝั่งของคาบสมุทร รวมทั้งสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökull ) ที่เป็นภูเขาไฟใต้น้ำแข็งที่จะมีอยู่ไปทั่วทุกแห่งตลอดการเดินทางของคุณ ทั้งที่อยู่สูงตระหง่านเหนือที่ราบลาวาและเนินเขาภูเขาไฟ.
จุดแรกของวันจะอยู่ที่Gerðubergซึ่งเป็นเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามที่เรียงเป็นแนวหน้าผา คุณสมบัติดังกล่าวหาได้ยากทั่วโลก ถัดไปคุณจะมุ่งหน้าไปยังหาด Ytri-Tunga หนึ่งในสถานที่ที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับการดูตราในประเทศ พวกมันสามารถลากออกไปบนโขดหินเป็นประจำหรือเล่นในน้ำที่อยู่นอกชายฝั่ง,
ที่นี่คุณจะยังมีโอกาสได้ไปเที่ยวชมหาดทรายดำดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) ที่คุณจะได้ลอง "หินยกได้" ด้วยมือของคุณเอง ที่เคยถูกใช้เป็นเครื่องทดสอบความแข็งแกร่งที่เก่าแก่มาหลายทศวรรษและความเหมาะสมที่จะได้เป็นชาวประมงในท้องถิ่นอีกด้วย.
หลังจากได้ใช้เวลาในดยูปาลองส์ซานดูร์ คุณจะได้ตรงไปยังวาท์ทเฮลลิร์ (Vatnshellir) หนึ่งในถ้ำที่สามารถเข้าไปชมได้มากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ทันทีที่คุณได้ลงไปใต้พื้นโลก
คุณจะตื่นตาไปกับการก่อตัวของหินที่มีรูปร่างแปลกตาและสีสันของลาวา.
ตรงด้านเหนือของคาบสมุทร คุณจะได้แวะถ่ายภาพภูเขาที่ถูกบันทึกภาพมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่าภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ภูเขาที่มีน้ำตกอยู่ในบริเวณใกล้เคียงทำให้บริเวณรอบๆทั้งหมดของพื้นที่นี้มีความงดงามที่แท้จริงในการไปเยี่ยมชม และที่นี่ยังถือเป็นไฮไลท์ของตลอดการเดินทางทั้งหมดในคาบสมุทรแห่งนี้ หลังจากได้เที่ยวชมยังภูเขาเคิร์คจูแฟสแล้ว คุณจะได้เริ่มต้นเส้นทางในการเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิก แต่ก็จะได้เดินทางผ่านฟยอร์ดอีกสองแห่งที่สวยงามกว่านั่นคือเฮินฟยอร์ดูร์ (Hraunsfjörður) และโคกราฟาฟยอร์ดูร์ (Kolgrafafjörður).
ใช้เวลาช่วงเย็นในการสำรวจเมืองเรคยาวิก เราไม่แนะนำให้คุณจองเที่ยวบินกลับในวันสุดท้ายของทัวร์นี้ เพราะภูมิอากาศอาจจะไม่เอื้ออำนวยหรืออาจเกิดความล่าช้าซึ่งจะกระทบกับการเดินทางของคุณได้.
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังนั้นปรากฏการณ์จึงไม่สามารถการันตีได้ แต่แผนการเที่ยวนี้จัดทำเพื่อให้คุณมีโอกาสเห็นได้มากที่สุด หากสภาพอากาศเป็นใจ. เราขอแจ้งให้คุณทราบว่าจะไม่มีตามล่าแสงเหนืออย่างจริงจังในการเดินทางครั้งนี้แต่ไกด์ของคุณจะแนะนำคุณจากสภาพอากาศอำนวยและจะแนะนำวิธีที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือ.
การยกเลิกกิจกรรมอาจจะเกิดขึ้นได้หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ, หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเราจะทำการจัดการแผนให้กับคุณ หรือ จองกิจกรรมอื่นที่มี และราคาที่ต่างจะทำการคืนให้กับคุณ.
ขอเรียนให้ทราบว่าถนนบนประเทศไอซ์แลนด์สามารถลื่นได้ง่ายมากในช่วงฤดูหนาว. เราขอแนะนำให้คุณใช้รองเท้าที่หน้ารองเท้าเกาะได้ดี หรือซื้อที่เกาะน้ำแข็งติดรองเท้าของคุณ. ที่เกาะสามารถซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือปั้มน้ำมันทั่วประเทศ.
เพื่อความสะดวกสบายของคุณ เราขอแนะนำให้คุณจัดกระเป๋าใบเล็กๆให้เหมาะสำหรับการค้างคืนสำหรับการเดินทางในทัวร์ครั้งนี้ และจัดกระเป๋าใบเล็กอีกใบหรือแบ็คแพคสำหรับการเดินทาง. เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าคุณไม่ควรจองเที่ยวบินขากลับเป็นวันเดียวกับวันที่เดินทางกลับในวันสุดท้ายของทัวร์นี้ เพราะหากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือเกิดความล่าช้าอาจจะมีผลกับการเดินทางของคุณ และกรุณาทำการจองที่พักสำหรับคืนวันสุดท้ายพร้อมจองการเดินทางไปยังสนามบินเพื่อที่จะนำคุณเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเคลฟราวิกในวันเดินทางกลับของคุณด้วย.
วิดีโอ
รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว
ทัวร์ที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด