แพ็คเกจท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ฤดูร้อน 8 วันแบบเจาะลึก รวมเดย์ทัวร์เที่ยวกรีนแลนด์พร้อมไกด์

วันที่สองของคุณในไอซ์แลนด์เป็นวันที่คุณจะได้ผจญภัยไปกับความงามอันน่าหลงใหลของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ภูมิภาคนี้เป็นขุมสมบัติของภูมิประเทศที่หลากหลายและสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ซึ่งแต่ละแห่งมีเสน่ห์เฉพาะตัว

การเดินทางของคุณเริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมโบสถ์สีดำบูดิร์อันโด่งดัง ซึ่งเป็นอัญมณีทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นตัดกับภูมิทัศน์ธรรมชาติอันน่าทึ่ง โบสถ์ที่มีเสน่ห์และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แห่งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของประเทศไอซ์แลนด์และเป็นสถานที่อันเงียบสงบสำหรับการถ่ายภาพ

เมื่อเดินทางต่อไปบนเส้นทางของคุณ อัญมณีล้ำค่าของสไนล์แฟลซเนส สไนล์เฟลล์สโจกุล ก็ปรากฏให้เห็น ภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ได้ดึงดูดจินตนาการของศิลปินมาหลายชั่วอายุคน โดยทำหน้าที่เป็นฉากสำคัญของนวนิยายอมตะของ Jules Verne เรื่อง 'Journey to the Center of the Earth'

ในขณะที่คุณเดินทางผ่านภูมิภาคที่น่าทึ่งนี้ คุณมีโอกาสมากมายที่จะประหลาดใจกับความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งนี้ ซึ่งมียอดเขาน้ำแข็งตั้งตระหง่านอย่างตระการตาบนเส้นขอบฟ้า

การผจญภัยของคุณจะพาคุณไปยังภูเขาคิร์กจูเฟลล์ หนึ่งในยอดเขาที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในไอซ์แลนด์ รูปร่างที่โดดเด่นและภูมิทัศน์โดยรอบทำให้ที่นี่เหมาะแก่การถ่ายภาพหรือชมวิว

ต่อไป คุณจะได้เยี่ยมชมหาดทรายสีดำแห่งดยูปาลอนสซานดูร์ ที่ซึ่งความท้าทายที่ไม่เหมือนใครรออยู่ ทดสอบความแข็งแกร่งของคุณกับ 'หินยก' โบราณ เช่นเดียวกับชาวประมงผู้กล้าหาญเมื่อหลายศตวรรษก่อน นี่เป็นวิธีที่สนุกและคุณยังได้เข้าถึงประวัติศาสตร์ทางทะเลอันยาวนานของไอซ์แลนด์ด้วยตัวเองด้วย

ใกล้ๆ กันนี้ คุณจะค้นพบชั้นหินบะซอลต์ลอนดรังการ์ที่น่าทึ่ง ซึ่งบางแห่งเปรียบเสมือนป้อมปราการจากยุคอื่น การก่อตัวทางธรรมชาติเหล่านี้มีความลึกลับ ช่วยเพิ่มความน่าหลงใหลให้กับการเดินทางของคุณ

เมื่อคุณสำรวจต่อไป คุณจะมีโอกาสได้เยี่ยมชมหมู่บ้านอาร์นาร์สตาปิและเฮลล์นาร์ที่งดงาม หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์เหล่านี้เต็มไปด้วยตำนานพื้นบ้านและเรื่องราวแห่งเวทมนตร์ พร้อมด้วยกระท่อมที่แปลกตาและทิวทัศน์ชายฝั่งอันน่าทึ่ง

หลังจากท่องเที่ยวมาทั้งวันผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งและประสบการณ์ที่น่าจดจำ คุณจะได้กลับมายังเมืองเรคยาวิกเพื่อพักผ่อนยามค่ำคืนในแบบที่คุณคู่ควร

ในวันที่สามของทริปฤดูร้อนในประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะได้สำรวจวงกลมทองคำ เส้นทางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมสามแห่งในประเทศ

คุณจะเริ่มต้นที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก สถานที่งดงามแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย ซึ่งคุณสามารถเห็นขอบเขตแบ่งแยกเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน ตำแหน่งอันเป็นเอกลักษณ์คือเหตุผลของลักษณะทางธรณีวิทยาอันเป็นเอกลักษณ์ที่คุณจะเห็นที่นี่

ธิงเวลลีร์ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจด้วย เพราะชาวไอซ์แลนด์ในยุคแรกได้ก่อตั้งสภาขึ้นที่นี่ ซึ่งสภาดังกล่าวก็ยังคงดำเนินงานต่อเนื่องมาถึงในปัจจุบัน ทำให้ธิงเวลลีร์ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ก่อตั้งแห่งแรกของรัฐสภาที่มีการดำเนินการมายาวนานที่สุดในโลก

ถัดมาหลังจากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปที่หุบเขาเฮยคาดาลูร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากปล่องไอน้ำและไกเซอร์ น้ำพุร้อนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไกเซอร์สโทรคูร์ ซึ่งจะปะทุทุก ๆ ห้าถึง 10 นาที โดยมีความสูงถึง 20 เมตร

ที่นี่เป็นพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพที่งดงาม มีน้ำพุร้อนและพุก๊าซฟุมาโรลมากมายให้คุณชม และหากคุณโชคดี คุณอาจจะได้เห็นเดอะเกรทไกเซอร์ที่เป็นต้นตำรับของคำว่าไกเซอร์ที่แปลว่าน้ำพุร้อนเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม น้ำพุร้อนไกเซอร์อันยิ่งใหญ่ได้สงบนิ่งมาหลายปีแล้ว

จุดแวะแห่งที่สามและแห่งสุดท้ายบนวงกลมทองคำคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ซึ่งมีพลังมหาศาลทำให้สายน้ำกระหน่ำอย่างแรงลดหลั่นเป็นสองชั้นก่อนไหลลงสู่หุบเขาโบราณ และถือว่าเป็นสถานที่ยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งในประเทศไอซ์แลนด์ที่คนนิยมมาชมพลังอันน่าทึ่งของธรรมชาติ

แม้ว่าวันนี้จะเป็นการเที่ยวชมสถานที่เป็นหลัก แต่คุณมีตัวเลือกในการผจญภัยเพิ่มเติมได้หากคุณชอบ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกดำน้ำตื้นในหุบเขาซิลฟราที่มีน้ำใสดุจคริสตัลในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ซึ่งเป็นการว่ายน้ำระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่น ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นจะต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้

อีกทัวร์หนึ่งที่คุณสามารถจองพิ่มเข้าไปได้คือทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่บนธารน้ำแข็งลางโจกุล ซึ่งออกเดินทางจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ และทางเลือกสุดท้ายคือการขี่ม้าน่ารักที่เป็นสัญลักษณ์ของไอซ์แลนด์เป็นเวลาสองชั่วโมง พร้อมสำรวจหุบเขาอันเขียวชอุ่มและทุ่งลาวา

คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในเรคยาวิก

วันที่สี่ของทริปแอดเวนเจอร์ฤดูร้อนนี้เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของแผนการเดินทางแปดวันของคุณ คุณจะมีโอกาสพิเศษในการเยี่ยมชมเกาะกรีนแลนด์ที่สวยงาม ดื่มด่ำไปกับความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการออกเดินทางจากสนามบินภายในประเทศเรคยาวิกในช่วงเช้าตรู่ ขณะที่คุณเดินทางด้วยเที่ยวบินระยะสั้นไปยังเกาะคูลูซุก เที่ยวบินนี้อาจใช้เวลาสั้นประมาณสองชั่วโมง แต่เป็นโอกาสที่น่าตื่นตาตื่นใจในการชื่นชมมหาสมุทรสีน้ำเงินเข้มที่ล้อมรอบไอซ์แลนด์และกรีนแลนด์

เมื่อคุณเข้าใกล้จุดหมายปลายทาง คุณจะสังเกตเห็นว่าคูลูซุกเป็นเกาะหินขนาดเล็กที่ล้อมรอบด้วยความยิ่งใหญ่ ภูเขาที่ซึ่งธรรมชาติและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน

เมื่อเครื่องลงจอด คุณจะก้าวเข้าสู่ชุมชนเล็กๆ ของคูลูซุก ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยไม่ถึง 300 คน ที่นี่คุณจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนในท้องถิ่นที่กระตือรือร้นที่จะแบ่งปันวิถีชีวิตและมรดกของพวกเขา ทัวร์นำชมหมู่บ้านจะทำให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเกาะกรีนแลนด์

สถาปัตยกรรมของหมู่บ้านสะท้อนถึงความมีไหวพริบของผู้อยู่อาศัยที่ได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ท้าทายของเกาะ คุณจะมีโอกาสชื่นชมบ้านและอาคารหลากสีสันที่กระจายอยู่ตามภูมิประเทศ ซึ่งแต่ละหลังบอกเล่าเรื่องราวการเอาชีวิตรอดที่ไม่เหมือนใครในมุมที่ห่างไกลของโลกนี้

การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจะทำให้คุณเข้าใจมรดกทางวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ของกรีนแลนด์ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เป็นสถานที่ที่คุณสามารถสำรวจวัตถุโบราณ เสื้อผ้าแบบดั้งเดิม และนิทรรศการทางประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์และประเพณีของเกาะ

หากคุณโชคดี การเยี่ยมชมของคุณอาจตรงกับการแสดงระบำกลองของชาวอินูอิตแบบดั้งเดิม การแสดงเรื่องราวที่มีจังหวะอันน่าหลงใหลผ่านดนตรีและการเคลื่อนไหวนี้เป็นประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่จะทำให้คุณมีความทรงจำอันยาวนานเกี่ยวกับช่วงเวลาของคุณในกรีนแลนด์

เมื่อใกล้หมดวัน คุณจะได้ขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิก ที่ซึ่งคุณจะได้พักค้างคืน ความงามของภูมิประเทศของกรีนแลนด์และความอบอุ่นของผู้คนที่ได้สัมผัสในวันนี้จะอยู่ในความทรงจำของคุณไปอีกหลายปี

ในวันที่ห้า คุณจะกลับไปเที่ยวในชนบทของประเทศไอซ์แลนด์เพื่อสำรวจทิวทัศน์เพิ่มเติมและลักษณะทางธรรมชาติที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณจะได้เดินทางไปยังชายฝั่งทางใต้ หนึ่งในภูมิภาคที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง

สถานที่แรกในแผนการเดินทางของคุณคือน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สูงถึง 200 ฟุต (60 เมตร) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชายฝั่งทางใต้แห่งนี้เป็นน้ำตกที่ไหลลงจากหน้าผาเว้า และคุณสามารถเดินเล่นหลังม่านน้ำตกเพื่อชมมุมมองที่มีเอกลักษณ์และหาได้ยาก

น้ำตกแห่งที่สอง น้ำตกสโคกาฟอสส์นั้นมีความสูงเท่ากันแต่มีความกว้างมากกว่า 25 เมตร คุณสามารถเข้าใกล้บริเวณพื้นที่น้ำตกลงมาหรือขึ้นบันไดที่อยู่ติดกันเพื่อไปชมทิวทัศน์ที่สวยงาม หากคุณมาเที่ยวในวันที่อากาศสดใสคุณจะได้เห็นสายรุ้งที่พาดตัวเหนือน้ำตกและไอน้ำหนาทึบด้วย

ระหว่างทางคุณจะนั่งรถผ่านธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลและมิร์ดาลสโจกุล เมื่อออกทะเลคุณอาจมองเห็นหมู่เกาะเวสต์แมนได้ด้วย

ที่โซลเฮมาโจกุล ซึ่งเป็นลิ้นของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลที่ยิ่งใหญ่กว่า คุณจะมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมปีนธารน้ำแข็ง หากคุณเพิ่มประสบการณ์นี้ระหว่างขั้นตอนการจอง คุณจะมีการผจญภัยที่น่าหลงใหลและน่าตื่นเต้นที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ยอดเยี่ยมแก่คุณ โดยจะได้เข้าไปในภูมิประเทศที่ขรุขระของธารน้ำแข็ง

จากนั้น คุณจะได้เยี่ยมชมเรย์นิสฟยารา หาดทรายสีดำที่มีแนวยาวของทรายภูเขาไฟ เสาหินบะซอลต์และโขดหินในทะเล แม้ว่าคุณจะไม่สามารถว่ายน้ำในบริเวณนี้ได้เนื่องจากคลื่นที่อันตราย แต่ชายหาดก็ยังคงเป็น สถานที่ที่สวยงามสำหรับการสำรวจและถ่ายรูป

ใกล้ชายหาดคือหมู่บ้านชายฝั่งวิก ซึ่งคุณจะต้องแวะพัก หมู่บ้านแห่งนี้มีร้านกาแฟและร้านค้าที่มีเสน่ห์ เหมาะสำหรับการช็อปปิ้งและชิมอาหารท้องถิ่น

จากที่นั่น คุณจะเดินทางต่อไปทางทิศตะวันออกผ่านธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป จนกระทั่งถึงที่พักใกล้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

คุณจะใช้เวลาช่วงเย็นของคุณในทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ 

ในวันที่หกของการผจญภัยในฤดูร้อน คุณจะได้เดินทางต่อไปตามชายฝั่งทางใต้ที่น่าหลงใหลของประเทศไอซ์แลนด์ ที่ซึ่งคุณจะได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล วัทนาโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ปกคลุมพื้นที่กว่า 10% ของประเทศที่สวยงามแห่งนี้ด้วยอ้อมกอดน้ำแข็ง

เมื่อคุณเดินทางลึกเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์แห่งธารน้ำแข็งแห่งนี้ คุณจะได้พบกับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนที่น่าทึ่งซึ่งเต็มไปด้วยน้ำแข็งที่ดูราวกับอัญมณีสีฟ้าที่หลุดออกมาจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาแตกตัวออกมาและล่องลอยไปในมหาสมุทรอย่างนุ่มนวล ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยสีฟ้าเย็นตาที่ชวนให้หลงใหล โดยมีภูเขาน้ำแข็งทุกรูปทรงและขนาดลอยอย่างสงบบนพื้นผิวบริสุทธิ์

สำหรับผู้ที่มองหาการชมการก่อตัวของน้ำแข็งอันงดงามเหล่านี้อย่างใกล้ชิด คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ล่องเรือชมทะเลสาบเข้าไปในทริปวันนี้ได้ ไกด์ท้องถิ่นผู้ชำนาญจะร่วมเดินทางกับคุณบนเรือสะเทินน้ำสะเทินบก ล่องไปตามผืนน้ำอันเงียบสงบอย่างเชี่ยวชาญ

พวกเขาจะแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของธารน้ำแข็งและระบบนิเวศอันเป็นเอกลักษณ์ในสภาพแวดล้อมที่งดงามเหนือจริงนี้ ทัวร์ล่องเรือนี้ไม่ใช่แค่การเที่ยวชมสถานที่เท่านั้น เป็นโอกาสในการเชื่อมต่อกับโลกธรรมชาติและเป็นสักขีพยานถึงพลังอันทรงพลังที่สร้างภูมิทัศน์ของประเทศไอซ์แลนด์

เมื่อคุณล่องเรืออยู่ท่ามกลางภูเขาน้ำแข็ง คุณจะมีเวลาเหลือเฟือในการถ่ายภาพอันน่าทึ่งของสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ความแตกต่างระหว่างน้ำแข็งใสดุจคริสตัลและน้ำทะเลสีฟ้าเข้มคือความฝันของช่างภาพที่เป็นจริง โดยมอบโอกาสในการถ่ายภาพความงามของภูมิประเทศที่เป็นธารน้ำแข็งของประเทศไอซ์แลนด์

หลังจากใช้เวลาอยู่บนทะเลสาบแล้ว การเดินทางของคุณจะพาคุณไปยังหาดไดมอนด์บีชที่เป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเดินทางจากธารน้ำแข็งแล้ว ที่นี่น้ำแข็งจะถูกพัดขึ้นฝั่ง และคุณจะได้เห็นภาพประติมากรรมน้ำแข็งที่เปล่งประกายราวกับเพชรบนทรายภูเขาไฟสีดำที่เหนือจริง ด้วยฉากหลังของคลื่นคำรามและธารน้ำแข็งที่อยู่ห่างไกล ทำให้ที่นี่เป็นภาพที่สวยงามและน่าทึ่ง

หลังจากใช้เวลาบนชายฝั่งทางใต้อย่างเพลิดเพลินแล้ว คุณจะกลับไปยังเมืองเรคยาวิกโดยจะมาถึงในตอนเย็น ด้วยวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาและการต้อนรับอันอบอุ่น เมืองหลวงที่คึกคักแห่งนี้จะเป็นบ้านของคุณสำหรับค่ำคืนนี้

วันที่สองและวันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์ให้อิสรภาพแก่คุณในเมืองเรคยาวิก เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวา นี่เป็นโอกาสของคุณที่จะค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเมือง เปิดรับวัฒนธรรมอันมั่งคั่ง และลิ้มรสอาหารเลิศรส

เรคยาวิกมีพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่ยอดเยี่ยมมากมายที่ตอบสนองทุกความสนใจ ตั้งแต่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ซึ่งประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์กลับมามีชีวิตอีกครั้งผ่านการจัดแสดงที่น่าหลงใหล ไปจนถึงการจัดแสดงศิลปะร่วมสมัยที่โดดเด่นที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเรคยาวิก มีบางสิ่งบางอย่างที่จะตอบสนองทุกความอยากรู้อยากเห็น

สำหรับผู้ที่แสวงหาการผจญภัยด้านอาหาร ร้านอาหารที่หลากหลายของเมืองเรคยาวิกกำลังรอคอยอยู่ ไม่ว่าคุณจะอยากลิ้มลองอาหารไอซ์แลนด์แบบดั้งเดิม เช่น สตูว์เนื้อแกะแสนอร่อยและอาหารทะเลรสอร่อย หรือคุณชอบรสชาตินานาชาติ บาร์และร้านอาหารของเมืองนี้รับรองว่าคุณจะพบจุดที่สมบูรณ์แบบที่จะสนองความอยากของคุณ

นอกจากนี้ นี่เป็นโอกาสของคุณที่ ลองชิมฮอทดอกอันโด่งดังของประเทศไอซ์แลนด์ แผงขายฮอตดอกที่โด่งดังที่สุดของเมืองมีชื่อว่า Baeajarins Beztu Pylsur ฮอตดอกที่นี่ไม่ธรรมดาเพราะมันทำมาจากเนื้อแกะ เนื้อวัว และหมูผสมผสานกัน ปรุงรสได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือรสชาติที่เผ็ดร้อน หอมกลิ่นควันเล็กน้อย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไอซ์แลนด์ซึ่งทำให้แตกต่างจากที่อื่นในต่างประเทศ

หากคุณต้องออกเดินทางไปสนามบินแต่เช้าในวันพรุ่งนี้ คุณอาจเลือกที่จะใช้โอกาสนี้ในการพักผ่อนและเติมพลัง เดินเล่นไปตามถนนที่มีเสน่ห์ของเมือง ดื่มด่ำกับบรรยากาศท้องถิ่น หรือเพียงผ่อนคลายด้วยกาแฟไอซ์แลนด์ในขณะที่ลิ้มรสขนมอบในร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ

หรือหากคุณอยากผจญภัยมากขึ้น คุณสามารถเลือกจองหนึ่งในทัวร์ที่น่าตื่นเต้นมากมายที่เริ่มต้นออกเดินทางจากในเมืองหลวง การดูวาฬเปิดโอกาสให้คุณได้ชมสัตว์ทะเลอันงดงามในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของพวกมัน ในขณะเดียวกัน ทัวร์ขี่ม้าจะแนะนำให้คุณรู้จักกับม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์ที่มีเอกลักษณ์ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องนิสัยที่เป็นมิตร

เมื่อใกล้หมดวัน คุณจะกลับไปที่เรคยาวิกเพื่อค้างคืนสุดท้ายในเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ และเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่แสนหวานในขณะที่คุณไตร่ตรองถึงประสบการณ์อันน่าทึ่งและสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่คุณเคยพบระหว่างการเดินทาง

วันที่แปดของคุณถือเป็นการสิ้นสุดการผจญภัยในไอซ์แลนด์ แต่ก่อนที่คุณจะอำลาดินแดนที่มีเสน่ห์แห่งนี้ ยังมีเวลาสำหรับการสำรวจในเมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาอย่างเรคยาวิกเป็นครั้งสุดท้าย 

ไม่ว่าเที่ยวบินของคุณจะอยู่ในช่วงสายของวันหรือคุณแค่ต้องการใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่า เรคยาวิกมีอัญมณีทางวัฒนธรรมและสถานที่สำคัญมากมายให้เลือก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างความทรงจำอันยาวนานและบันทึกช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับโซเชียลมีเดียของคุณ

ดาวน์ทาวน์เรคยาวิกเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นที่สุดของเมือง และเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยม สถานที่เพื่อเริ่มการสำรวจของคุณ สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งที่ต้องไปเยี่ยมชมคือโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโบสถ์ที่สวยที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ รูปแบบสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นลาวาหินบะซอลต์และน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ที่มีเสน่ห์

หอคอยของโบสถ์สูงถึง 244 ฟุต (74.5 เมตร) และเป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามาสำหรับเก็บภาพทิวทัศน์อันน่าทึ่งของเมืองและบริเวณโดยรอบ ส่วนด้านในโบสถ์คุณจะประทับใจไม่แพ้กันกับเพดานสูง เส้นสายที่สะอาดตา และการออกแบบภายในโบสถ์แบบมินิมอลลิสต์

ไม่ไกลจากฮอลล์กริมสคิร์กยายังมีฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์เป็นสถานที่ที่มีความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมอีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เป็นที่จัดงานกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ และตัวอาคารเองก็เป็นผลงานศิลปะที่โดดเด่นเช่นกัน ด้วยแผงกระจกกว่า 700 แผ่นที่ส่วนหน้าอาคารอันโดดเด่น ฮาร์ปาสร้างภาพสะท้อนที่น่าหลงใหลโดยมีปฏิสัมพันธ์กับแสงธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปและภูมิทัศน์โดยรอบ

ขณะที่คุณสำรวจเมืองเรคยาวิกต่อ ให้พิจารณาเพิ่มสถานที่น่าสนใจอื่นๆ ลงในแผนเที่ยวของคุณด้วย เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไอซ์แลนด์ ท่าเรือเก่า และถนเลยกาแวกูร์

เมื่อถึงเวลาเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกเพื่อขึ้นเครื่องบิน คุณจะได้นั่งรถบัสที่จัดไว้ให้ในแพ็คเกจทัวร์ของคุณ

เมื่อคุณมุ่งหน้ากลับบ้าน คุณจะนึกถึงความมหัศจรรย์ที่หาได้ยากและน่าทึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ ธรรมชาติที่คุณมีโอกาสได้เห็น โดยรู้ว่าความทรงจำของคุณเกี่ยวกับการเดินทางอันน่าทึ่งนี้จะคงอยู่กับคุณตลอดไป

พบกันใหม่ทริปหน้าสู่ดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง