ทัวร์ขับรถตามล่าแสงเหนือฤดูหนาว 11 วัน ชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ & สไนล์แฟลซเนส
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
รวมในแพ็คเกจ
จุดหมายปลายทาง
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
รายละเอียดการเดินทาง
รถ
รถ
รถขนาดเล็ก
รถขนาดกลาง
รถพรีเมี่ยม
large car
SUV
ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ
วันที่ 1 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
- More
เมื่อคุณเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก (Keflavík) และยินดีต้อนรับคุณสู่ประเทศไอซ์แลนด์ คว้ากระเป๋าของคุณและเดินทางไปรับรถจากเอเจนซี่ที่ระบุอยู่บนเวาเชอร์ของคุณ ขึ้นรถและเริ่มออกเดินทางกันได้เลย.
คุณจะขับรถข้ามทุ่งลาวาของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) เพื่อตรงไปยังเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) ที่เป็นเมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลก.
หากคุณพอมีเวลา คุณสามารถเพิ่มการจองบลูลากูน และหยุดแวะที่นั่นระหว่างทาง สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกนี้มีลักษณะพิเศษเนื่องจากมีน้ำสีฟ้าขุ่น ท่ามกลางกองหินลาวาสีดำ. นี่ถือเป็นการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถเพลิดเพลินกับผลที่ได้จากน้ำและการปวดเมื่อยจากการเดินทาง.
หลังจากไปถึงเมืองเรคยาวิกและเข้าพักยังโรงแรมที่พักของคุณ เราขอแนะนำให้คุณออกสำรวจบาร์ที่น่าหลงใหลและร้านอาหารตรงใจกลางเมือง. ในขณะที่คุณเดินไปตามถนนอย่าลืมมองไปที่ท้องฟ้าในวันที่อากาศแจ่มใสในกรณีที่แสงเหนือออกมาเต้นรำ.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 2 - สไนแฟลซเนส
- สไนแฟลซเนส
- More
- โบสถ์และฟาร์มที่บอร์กา มิรุม
- น้ำพุร้อนเดลตาร์ตุงกูแวร์
- แหล่งประวัติศาสตร์เรคโฮลท์
- น้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์และน้ำตกบาร์นาฟอสส์
- More
ตื่นและเริ่มออกเดินทางกันเลย เพราะวันนี้คุณจะได้ทำการสำรวจประเทศไอซ์แลนด์ฝั่งตะวันตกและคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสที่สวยงาม ตรงต่อไปยังเมืองแห่งประวัติศาสตร์บอร์การ์เนส (Borgarnes) ที่รู้กันว่ามีผู้อาศัยตั้งแต่เริ่มมีการเข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยแรกๆ.
จากที่นี่ เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าให้คุณตรงไปยังสองน้ำตกที่ยิ่งใหญ่พอๆกันและตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน ได้แก่น้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) เป็นชั้นของน้ำตกสูงที่ค่อยๆไหลมาจากที่ราบสูงลาวา และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) ไหลไม่ไกลไปกว่าระยะก้อนหินขว้าง และเป็นกระแสน้ำเชี่ยวกรากของกระแสน้ำที่ไหลผ่านก้อนหิน และต้องไม่ลืมที่จะไปเที่ยวชมยังเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่มีพลังงานมากที่สุดในยุโรป.
หากคุณจะต้องตัดสินใจตอนนี้เลยว่าจะใช้เวลาที่เหลือของวันอย่างไร คุณควรจะลองไปเที่ยวชมถ้ำลาวาวิดเกลมิร์ (Viðgelmir) ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ภายในถ้ำที่เต็มไปด้วยสีสันด้วยการก่อตัวของหินที่น่าสนใจ.
อีกทางเลือกหนึ่ง คุณอาจจะหาบางอย่างที่สบายกว่า คุณอาจจะเลือกเอนหลังและพักผ่อนในน้ำอุ่นจากพลังงานความร้อนใต้พิภพที่สปาเครยมา (Krauma). คุณยังสามารถเลือกที่จะไปสำรวจอุโมงค์น้ำแข็งโดยฝีมือมนุษย์ ที่ตั้งอยู่บนธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า ลางโจกุล (Langjökull).
ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหนก็ตาม รับรองได้ว่าคุณจะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติรอบตัว. พักผ่อนคืนนี้ในที่พักบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสและไม่ควรลืมที่จะเฝ้ามองแสงออโรร่าในคืนนี้ด้วย.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 3 - สไนแฟลซเนส
- สไนแฟลซเนส
- More
- หาดอีทรี ทุงกา
- หมู่บ้านบูดิร์
- หน้าผาหินบะซอลต์ลอนดรังการ์
- หาดกรวดดำที่ดยูปาลอนส์ซานดูร์
- สไนล์เฟลล์โจกุลล์
- ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
- More
วันนี้คุณจะได้ตื่นขึ้นมาชม "ไอซ์แลนด์แบบย่อส่วน" . คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสได้รับการตั้งชื่อแบบนี้ก็ต้องขอบคุณเนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวที่มากมายและหลากหลายตามแนวชายฝั่งที่มีระยะทาง 90 กิโลเมตร.
คุณจะเป็นผู้ตัดสินใจอีกครั้งวันนี้ คุณอาจจะวางแผนที่จะออกไปชมทัศนียภาพด้วยการเลือกทัวร์ชมถ้ำวาท์ทเฮลลิร์ (Vatnshellir) ที่งดงามพร้อมไกด์. และในนวนิยายอันโด่งดังเรื่อง "ดิ่งทะลุสะดือโลก" (Journey to the Centre of the Earth) ตามจินตนาการของฌูล แวร์น (Jules Verne) ที่ได้นึกถึงสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökull) ที่เป็นภูเขาไฟธารน้ำแข็งที่หลับใหลอยู่ตรงคาบสมุทร และเป็นประตูลงสู่ด้านล่าง ปลุกจินตนาการของคุณและดิ่งลงสู่โลกด้านล่าง.
คุณสามารถออกเดินทางสำรวจอุทยานแห่งชาติสไนล์เฟลส์โจกุลได้เช่นกัน บนชายฝั่งทางใต้ของคาบสมุทรนี้ คุณสามารถไปยังหาดทรายดำดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúplaónssandur) เพื่อที่จะได้ชื่นชมคลื่นซัดกระทบฝั่งและยังคงมีซากเรืออับปางที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รวมถึงการยกหินที่หนักบนชายหาด ที่ในอดีตพวกเขาถูกใช้โดยลูกเรือเพื่อแสดงความแข็งแกร่ง.
อีกทางเลือกหนึ่งคือการเลือกไปเยี่ยมชมเมืองที่เงียบสงบที่ชื่อว่าอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) และเฮลล์นาร์ (Hellnar) เพื่อคุณจะได้ชมการก่อตัวของหินที่น่าสนใจซึ่งทำให้ชายฝั่งนี้มีชื่อเสียง คุณยังสามารถแวะท่องเที่ยวที่โบสปูดิร์ (Búðir) เพื่อจะได้โอกาสในการถ่ายภาพที่งดงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและส่องประกายโดยแสงเหนือ.
ในทางด้านเหนือของคาบสมุทร เราขอแนะนำให้คุณไปเที่ยวชมเมืองกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) และชื่นชมภูเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า ภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) ยอดเขาแหลมที่สูงโดดเด่นแห่งนี้จะมีความงดงามที่สุดเมื่ออยู่ต่อหน้าน้ำตกขนาดเล็กที่ชื่อว่าเคิร์คจูแฟสฟอสส์ (Kirkjufellsfoss) ที่ถูกตั้งชื่อเดียวกันกับสถานที่ที่ตั้งอยู่เพื่อเป็นเกียรติให้กับภูเขาที่ตั้งอยู่ใกล้กัน.
คุณจะได้ใช้เวลาคืนนี้อีกคืนในบริเวณไอซ์แลนด์ย่อส่วนที่งดงามนี้และเตรียมตัวพักผ่อนสำหรับการผจญภัยวันพรุ่งนี้.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 4 - ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- More
- อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
- พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
- น้ำตกกุลล์ฟอสส์
- ปากปล่องภูเขาไฟเคริด
- More
กลับมาอยู่บนถนนอีกครั้งในวันนี้ และคุณจะได้มุ่งหน้าตรงไปยังเส้นทางวงกลมทองคำที่คุณกำลังเฝ้ารอ. ถนนที่งดงามแห่งนี้จะนำคุณตรงไปยังอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) , น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) และทุ่งน้ำพุร้อน เฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ที่เป็นที่ตั้งของไกเซอร์หลายแห่ง.
อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์เป็นเพียงสถานที่เดียวในประเทศไอซ์แลนด์ที่ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ที่นี่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในใจของชาวไอซ์แลนด์ทุกคน เนื่องจากที่นี่เป็นจุดรวบรวมในการตั้งรัฐสภาแห่งแรกที่ชื่อว่า อัลธิงกิ (Alþingi) เมื่อปีคริสตศักราช 930. อัลธิงกิยังคงมีการดำเนินการอยู่ทุกวันนี้ ทำให้อัลธิงกิถือว่ามีการดำเนินงานที่ยาวนานที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าตอนนี้จะย้ายมาอยู่ในเมืองเรคยาวิกแล้ว.
ที่นี่ยังมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่น่าประทับใจไม่แพ้กับเรื่องทางวัฒนธรรม. ธิงเวลลีย์ตั้งอยู่บนสันเขาที่แยกตัวที่เกิดจากการดึงออกจากกันของแผ่นเปลือกโลก ประเทศไอซ์แลนด์ตั้งอยู่บนยอดรอยแยกกลางมหาสมุทรแอตแลนติก และเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่คุณสามารถสังเกตปรากฏการณ์ตามธรรมชาติทางธรณีวิทยา ขณะที่คุณเดินอยู่ภายในสวนสาธารณะ หมายถึงคุณกำลังเดินอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกที่มีแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนืออยู่ด้านหนึ่งและแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียอีกด้านหนึ่ง.
บริเวณใกล้เคียงเรียกว่าทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ ที่เป็นที่ตั้งของไกเซอร์ (Geysir) ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่น้ำพุร้อนอื่นๆได้ชื่อตามๆกันมา. แม้ว่าไกเซอร์จะไม่มีการปะทุแล้วและคุณยังสามารถชมการระเบิดของน้ำพุร้อนได้จากสโทรคูร์ (Strokkur) ที่เป็นน้ำพุร้อนที่อยู่ใกล้เคียงและยังคงมีการปะทุสูงได้ถึง 20 เมตรในทุกๆ 5 นาทีหรือมากกว่านั้น.
ใกล้กับที่นั่นเป็นน้ำตกที่มีพลังงานมากเป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่ากุลล์ฟอสส์ ม่านน้ำของน้ำตกลงมาเป็นสองระดับและสามารถมองได้จากหลายมุม แต่ไม่ว่าคุณจะมองจากมุมใดก็ตามรับรองได้ว่าคุณจะต้องประทับใจด้วยเสียงที่กึกก้องของน้ำตก ในช่วงฤดูหนาวจัดบางส่วนของน้ำตกจะแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็งตะปุ่มตะป่ำและนั่นทำให้ที่นี่น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น.
คุณมีกิจกรรมให้เลือกมากมายเพื่อที่จะเติมเต็มประสบการณ์บนเส้นทางวงกลมนี้ได้ หากคุณรู้สึกว่าถูกกระตุ้นให้ออกไปกับการผจญภัยและจินตนาการถึงความตื่นเต้นเพื่อปลุกอะดรีนาลีนของคุณ คุณสามารถกระโดดขึ้นไปบนรถเลื่อนหิมะและซิ่งไปบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ในแบบของคุณ.
หรือบางทีแหล่งน้ำที่คุณได้เห็นในวันนี้ดึงดูดให้คุณลงไป คุณสามารถเลือกการดำน้ำตื้นในช่องแคบซิลฟรา (Silfra) และลอยตัวอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลก รอยแตกของเขาในเปลือกโลกที่ถูกเติมเต็มไปด้วยน้ำจากธารน้ำแข็งที่ใสถูกกรองผ่านหินลาวาโดยรอบและทำให้มีทัศนวิสัยถึง 100 เมตร.
หากคุณผจญภัยเพียงพอแล้ววันนี้ คุณสามารถเลือกแช่ตัวในซีเคร็ทลางกูน ที่เป็นน้ำพุร้อนที่ร้อนจัดจากพลังงานใต้พิภพใกล้กับเมืองที่มีเสน่ห์ที่ชื่อว่าฟลูดิร์ (Flúðir).
และคืนนี้คุณจะได้เข้าพักในบริเวณวงกลมทองคำ.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 5 - ชายฝั่งทางใต้
- ชายฝั่งทางใต้
- More
- น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์
- น้ำตกสโกกาฟอสส์
- หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
- โขดทะเลเรนิสดรังการ์
- More
การผจญภัยจะดำเนินต่อไป ในวันนี้คุณจะได้ขับรถต่อไปยังเส้นทางชายฝั่งทางใต้ของประเทศที่มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นที่ตั้งของชายหาทรายดำและน้ำตกนับไม่ถ้วนที่ตกลงมาจากที่ราบสูงทางใต้ที่ยิ่งใหญ่ สถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดได้แก่สองน้ำตกที่โด่งดังที่ชื่อว่า น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ซึ่งน้ำตกทั้งสองแห่งตกลงมาจากความสูง 60 เมตร น้ำตกแห่งแรกงดงามน่าตื่นตาและแห่งที่สองมีม่านน้ำที่หนาและดังกึกก้อง.
ขณะที่คุณขับรถ คุณจะเห็นแนวชายฝั่งทางด้านขวามือของคุณและธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมอยู่ทางซ้ายมือของคุณ เช่น มิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull), เอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull), และโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull). ทำความรู้จักกับธารน้ำแข็งให้มากขึ้นด้วยการปีนธารน้ำแข็ง สัมผัสถึงน้ำแข็งด้านล่างของที่กันลื่นรองเท้าและตื่นตากับพื้นที่ที่งดงามที่อยู่ห่างไกล.
บางทีคุณอาจอยากลงลึกไปในธารน้ำแข็งและเห็นด้วยตาตัวเองในทัวร์ถ้ำน้ำแข็งคัทลา ที่รับรองได้ว่าคุณจะต้องหลงเสน่ห์ในแสงระยิบระยับที่เกิดตามธรรมชาติที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างยอดเยี่ยม.
คุณจะได้ใช้เวลาในคืนนี้ในบริเวณหมู่บ้านวิก (Vík).
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 6 - ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- More
- เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์
- ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
- ไดมอนด์ บีช
- More
เดินทางออกจากหมู่บ้านวิกที่สวยงาม คุณสามารถเลือกที่จะไปปีนธารน้ำแข็งในศูนย์อนุรักษ์สกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell). ตื่นแต่เช้าเพื่อชมแสงแดดในเวลายามเช้า และใช้เวลาในช่วงเช้าเพื่อชื่นชมปลายธารน้ำแข็งสวีนาเฟลลส์โจกุล (Svínafellsjökull) ที่งดงาม.
และตอนนี้เตรียมตัวคุณให้พร้อมที่ได้พบกับ "อัญมณียอดมงกุฏของประเทซไอซ์แลนด์" ที่ชื่อว่าทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ที่นั่นคุณจะได้ชมภูเขาน้ำแข็งสีฟ้าและขาวขนาดใหญ่ลอยเอื่อยๆออกไปนอกทะเล มีรอยแผลเป็นในจุดที่เป็นเส้นทางจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต.
หากคุณเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม คุณสามารถเลือกที่จะนั่งเรือเพื่อที่จะได้เช้าใกล้ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติเหล่านี้ โดยใช้เรือทัวร์สะเทินบกสะเทินน้ำหรือทัวร์เรือยางที่เร็วกว่าและคุณจะเป็นคนตัดสินใจ.
หรือคุณเลือกที่จะไปชมไดมอนด์บีช ที่ติดกับทะเลสาบและที่นั่นคุณได้พบกับภูเขาน้ำแข็งที่ถูกซัดขึ้นไปบนชายหาด ตั้งส่องประกายแสงตัดกับทรายสีดำแม้ว่าจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ.
คุณจะได้ใช้เวลาช่วงเย็นนี้ในที่พักบริเวณใกล้เคียง และต้องไม่ลืมที่จะเฝ้ามองหาแสงเหนือด้วย.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 7 - ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- More
- ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
- ไดมอนด์ บีช
- คาบสมุทรสต็อกสเนสและภูเขาเวสตราฮอร์น
- เวสตราฮอร์น
- More
วันนี้คุณจะมีโอกาสเดินทางไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์และเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในทัวร์ช่วงฤดูหนาว ได้แก่ การชมถ้ำน้ำแข็งที่งดงาม. ถ้ำน้ำแข็งตั้งอยู่บนแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่ชื่อว่า วัทนาโจกุล คุณจะรู้สึกเหมือนว่าคุณได้ก้าวเข้าไปอีกโลกหนึ่งเพราะที่อยู่รอบๆตัวคุณจะเป็นเพียงการก่อตัวของก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่สีฟ้าใส และนี่คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดและแน่นอนว่านี่ถือเป็นไฮไลท์หนึ่งของการท่องเที่ยวในครั้งนี้.
คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณจะใช้เวลาที่เหลือในวันนี้อย่างไร บางทีคุณต้องการที่จะเสี่ยงที่จะเดินทางไปยังคาบสมุทรสตอกก์เนสส์ (Stokksnes) เพื่อที่จะได้เฝ้าดู "ภูเขาแบทแมน" หรือภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ยอดเขาที่แหลมและโดดเด่นนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ช่างภาพนับไม่ถ้วน ดังนั้นอย่าลืมนำกล้องของคุณติดไปด้วย.
คุณสามารถใช้เวลาวันนี้ที่เหลือในหมู่บ้านที่น่ารักที่ชื่อว่าเฮิฟน์ (Höfn) ที่มีชื่อเสียงในด้านกุ้งมังกร หากคุณไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อวานนี้ ทำไมไม่ลองกลับไปที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งในช่วงเวลาที่แตกต่างกันและจับภาพน้ำแข็งขนาดยักษ์ด้วยกล้องถ่ายภาพอีกครั้ง.
ในตอนท้ายของวันคุณจะพักในที่พักเดียวกันกับคืนก่อนใกล้เมืองเฮิฟน์.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 8 - ชายฝั่งทางใต้
- ชายฝั่งทางใต้
- More
- เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์
- สวาร์ติฟอสส์
- ฟยาดราร์กลูย์ฟูร์
- More
วันที่ 8 และคุณมีเวลาทั้งวันในการทำความคุ้นเคยกับศูนย์อนุรักษ์สกัฟตาเฟลล์ ที่นี่เคยเป็นอุทยานแห่งชาติมาก่อนที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล และนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ.
สกัฟตาเฟลล์อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายตั้งแต่ป่าทุ่งลาวา ปลายธารน้ำแข็งไปจนถึงน้ำตก มีสถานที่มากมายให้ได้ชม. พื้นที่นี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์ของนักปีนเขา ดังนั้นทำไมคุณไม่ลองสำรวจเส้นทางที่สั้นๆกว่านี้ในพื้นที่นี้ดู. เส้นทางแรกเป็นเส้นทางไปยังสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่มีม่านน้ำตกที่งดงามตกเรียงซ้อนกันตรงหน้าเสาหินบะซอลต์สีดำ แน่นอนว่าคุณจะต้องหาเจอแน่ๆ. หรือทำความรู้จักกับสกัฟตาเฟลล์ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการที่เดินทางกลับไปยังหมูบ้านวิกในช่วงเย็นและออกไปเดินเล่นยามเย็นและสำรวจแสงเหนือชายฝั่งทะเลที่มืด คริสตจักรที่นั่นได้รับการยกระดับทำให้เป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมสำหรับการชมแสงเหนือ.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 9 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
ด้วยธารน้ำแข็งที่กว้างใหญ่ไม่รู้จบ ทำให้กิจกรรมบนธารน้ำแข็งที่นี่ไม่มีวันหมดเช่นกัน วันนี้คุณสามารถเลือกที่จะดำดิ่งลงไปในมิร์ดาลสโจกุล ที่เป็นแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเพื่อที่จะกระโดดขึ้นบนรถเลื่อนหิมะและแข่งกันขี่ข้ามป่าสีขาวในฤดูหนาว นี่คือการผจญภัยที่ได้สัญญาไว้ และสามารถปฏิเสธได้.
ไม่ว่าคุณจะเลือกทำอะไรอย่าพลาดการไปเยือนหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีชื่อเสียงในด้านของชั้นหินทะเลและเสาหินบะซอลต์ที่งดงามเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ แต่ต้องระวังที่จะไม่เข้าใกล้ชายหาดมากเกินไป เพราะชายหาดที่นี่ขึ้นชื่อว่ามีคลื่นที่รุนแรงและอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้.
เย็นนี้คุณจะกล่าวคำอำลากับชายฝั่งทางใต้และกลับไปยังเมืองเรคยาวิก.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 10 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
นี่เป็นวันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์ดังนั้นทำไมไม่ลองทำมันให้ดีที่สุด! ชมเมืองหลวงเรคยาวิกที่มีขนาดเล็กลงในขณะที่คุณบินขึ้นเหนือเมืองด้วยเฮลิคอปเตอร์ก่อนที่จะไปชมทิวทัศน์ทางอากาศของพื้นที่ความร้อนใต้พิภพใกล้กับเมืองเรคยาวิก.
คนรักสัตว์จะมีความสุขกับทัวร์ตัวเลือกที่จะทำให้คุณได้พบกับม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของท่วงท่าการเดิน หรือ 'ötölt' รวมถึงความใจเย็นและเป็นมิตร เหมาะสำหรับทั้งนักขี่ม้ามืออาชีพและผู้เริ่มต้นได้เช่นกัน หากคุณเดินทางมาก่อนวันที่ 31 ตุลาคม คุณสามารถเลือกสำรวจภูเขาไฟและสำรวจความมหัศจรรย์ของพื้นที่ขนาดใหญ่จากภายใน!
หรือคุณอาจใช้เวลาทั้งวันสำรวจเมือง คุณสามารถไปที่ด้านบนของโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) ซึ่งเป็นสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองเรคยาวิกและเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุด เพื่อที่จะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามทั่วเมือง รวมทั้งอย่าลืมเข้าไปดูโถงคอนเสิร์ตฮาร์ปา (Harpa Concert Hall) ซึ่งถือเป็นผลงานการออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม.
มีทั้งหอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ บาร์และคาเฟ่จำนวนมาก จึงมีกิจกรรมให้คุณเลือกทำได้ไม่มีวันหมด และในช่วงเย็น เราขอแนะนำลองลิ้มรสความบันเทิงยามค่ำคืนที่แปลกตาของเมืองเรคยาวิก.
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 11 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
- More
ถึงเวลาเดินทางกลับแล้ว คุณสามารถคืนรถของคุณได้ที่สนามบินนานาชาติเคฟราวิกก่อนขึ้นเครื่อง ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข
ประสบการณ์
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองเริ่มต้นออกเดินทางได้ทั้งจากตัวเมืองเรคยาวิกและสนามบินเคฟลาวิก ผู้ขับขี่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่และมีประสบการณ์ในการขับรถอย่างน้อย 1 ปี และรายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวอาจมีการแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับวันและเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ แพ็คเกจไม่รวมความคุ้มครองรถยนต์จากกรวดหากคุณเลือกใช้รถ Toyota Aygo หรือที่คล้ายกัน
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณจะได้เห็น แต่โปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการเห็นแสงเหนือให้กับคุณในกรณีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย และอาหารเช้านั้นอาจไม่รวมอยู่ในโฮสเทลและเกสต์เฮาส์บางแห่งที่เลือก
สำหรับกิจกรรมเสริมบางอย่างคุณอาจต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้อง หรือคุณอาจต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปยังผู้วางแผนการเดินทางของคุณ โปรดทราบว่าคุณอาจต้องแสดงเอกสารทางการแพทย์สำหรับการดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึก และผู้เข้าร่วมจะต้องรู้สึกสบายตัวในน้ำและสามารถว่ายน้ำได้
ในกรณีที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายจนไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ตามแผนได้ เราจะจัดหาหรือจองกิจกรรมอื่นที่สามารถทำได้ให้แก่คุณแทนถ้าหากเป็นไปได้ และคุณจะได้รับเงินส่วนต่างของราคาคืน
ทั้งนี้ โปรดทราบว่าทัวร์นี้เปิดให้จองในช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงพฤษภาคมเท่านั้น แต่ถ้ำน้ำแข็งจะสามารถไปเข้าชมได้ระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายน
ถนนหนทางและทางเดินในไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาวนั้นลื่น กรุณาเตรียมรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นหรือแผ่นสำหรับยึดเกาะน้ำแข็งที่ใช้ติดบนรองเท้าติดตัวมาด้วย ซึ่งแผ่นเกาะน้ำแข็งนี้สามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตและปั๊มน้ำมันทั่วไปในไอซ์แลนด์
วิดีโอ
แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด