ทัวร์ขับรถเที่ยวตามรอยซีรีส์ 8 วัน เยือนสถานที่ถ่ายทำเกมออฟโธรนส์
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
ไปเยือนสถานที่ถ่ายทำเกมออฟโธรนส์ที่อยู่ในประเทศไอซ์แลนด์ทุกแห่งด้วยทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 8 วันแพ็คเกจนี้ คุณจะได้เดินทางวนรอบเกาะ และแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์ (หรือเวสเทอรอส)
โร้ดทริปครั้งนี้ไม่เหมือนทริปอื่นๆ และนอกจากความมหัศจรรย์และความพิเศษของไอซ์แลนด์ที่คุณจะได้เห็นด้วยตัวเองแล้ว คุณยังจะได้ดำดิ่งสู่โลกแห่งจินตนาการของจอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ตินด้วยเมื่อคุณเดินทางจากเอียรี (Eyrie) ไปถึงอีสต์วอท์ชบายเดอะซี (Eastwatch-by-the-Sea) และพื้นที่นอกกำแพง คุณจะได้ไปชมสถานที่ถ่ายทำหลายแห่งที่อยู่รอบไอซ์แลนด์แบบจุใจเลยทีเดียว
การเที่ยวบนถนนวงแหวนนั้นเหมาะสำหรับแฟนซีรีส์อย่างมาก และทริปนี้รวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์มาให้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวงกลมทองคำ (Golden Circle) หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon) ทะเลสาบมิวาทน์ (Myvatn) หรือคาบสมุทรโทรลล์ (Troll)
เนื่องจากแพ็คเกจนี้เป็นทริปสำหรับขับรถเที่ยวเอง คุณจึงมีเวลาเที่ยวชมสถานที่แต่ละแห่งได้อย่างที่ต้องการ และคุณจะได้รับแผนการเดินทางแบบละเอียดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด โดยในการเดินทางครั้งนี้คุณจะเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างเอง คุณจะเที่ยวตามแผนการเดินทางที่ได้รับด้วยจังหวะเวลาที่คุณเลือกเองและใช้เวลากับสถานที่แต่ละแห่งตามความพอใจของคุณ หรือคุณจะข้ามสถานที่ที่คุณไม่สนใจไปเลยก็ได้
แผนการขับรถเที่ยวครั้งนี้ถูกจัดเตรียมไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้ว รวมถึงที่พักสำหรับแต่ละวันด้วย โดยมีการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้คุณใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดและอิงจากสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณจะเดินทางไปชม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์และทัวร์เสริมให้คุณเลือกทำได้มากมาย ตั้งแต่ทริปล่องเรือไปจนถึงการปีนธารน้ำแข็ง เพื่อให้คุณได้เข้าถึงดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟที่แท้จริงนอกเหนือไปจากโลกแห่งแฟนตาซี
ดังนั้นอย่ามัวรอช้า! รีบมาชมค่ายคนเถื่อนทางเหนือของกำแพง ตามรอยตัวละคร เช่น จอน สโนว์ อีกริต อาร์ย่า ซานซ่า และอีกมากมาย รวมถึงมาสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษในประเทศไอซ์แลนด์ด้วยแพ็คเกจนี้ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - เดินทางมาถึงไอซ์แลนด์
คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ในวันนี้และคุณจะสัมผัสได้ทันทีว่าเกาะที่มีเสน่ห์แห่งนี้ส่งเสริมบรรยากาศให้กับโลกแห่งแฟนตาซีได้อย่างไร เครื่องบินของคุณจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก และรถเช่าของคุณก็รออยู่ที่นั่นแล้ว จากสนามบินเคฟลาวิกคุณจะเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองเรคยาวิกเพื่อพักค้างคืน (Reykjavik)
ในช่วงเย็นวันนี้คุณอาจจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในที่พักของคุณให้หายเหนื่อย หรือคุณจะออกไปเดินเล่นในเมืองก็ได้ เรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ มีขนาดเล็กและสามารถเดินเที่ยวได้สบายๆ ภายในเมืองมีบาร์และร้านอาหารมากมายให้คุณเลือกหากคุณต้องการจิบเครื่องดื่มหรือลิ้มลองอาหารของชาวไอซ์แลนด์

วัน 2 - วงกลมทองคำ & หุบเขาสู่เอียรี
วันนี้ได้เวลาที่คุณจะออกผจญภัยกันเพื่อสำรวจสถานที่ต่างๆ ในไอซ์แลนด์และเวสเทอรอสกันอย่างจริงจังแล้ว การเดินทางของคุณเริ่มต้นที่การไปเที่ยววงกลมทองคำ (Golden Circle) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์สามแห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur Geothermal Valley) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)
สถานที่แห่งแรกที่คุณจะแวะคืออุทยานฯ ธิงเวลลีร์ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ภายในอุทยานฯมีรอยแยกที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก โดยรอยแยกเหล่านี้เกิดจากการที่แผ่นเปลือกโลกของทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือแยกออกจากกัน คุณจึงสามารถลงไปเดินอยู่บนพื้นที่ตรงกลางระหว่างสองทวีปได้เลย ซึ่งเมื่อคุณลงไปในรอยแยกอัลมานายองจอร์เก (Almannagja) แล้วคุณอาจจะรู้สึกว่าที่นี่ดูคุ้นเคยมาก
นั่นเป็นเพราะว่ารอยแยกนี้ถูกใช้เป็นฉากในเกมออฟโธรนส์มากกว่าหนึ่งครั้ง แต่ที่เป็นที่จดจำมากที่สุดเห็นจะเป็นฉากหุบเขา Bloody Gate ที่เป็นทางไปสู่เอียรี ซึ่งซานเดอร์ คลีเก้น หรือ The Hound พาอาร์ยาไปให้กับป้าของเธอที่ Vale of Arryn ซึ่งในภายหลังซานซ่าและนิ้วก้อยก็เดินทางแบบเดียวกัน
ธิงเวลลีร์ยังเป็นฉากที่อีกริตและทอร์มุนด์ ไจแอนส์เบนไปพบกับ Thenns ชนเผ่าป่าเถื่อนกินเนื้อมนุษย์เมื่อตอนที่พวกเขาถูกจอน สโนว์หักหลัง ซึ่งฉากนี้ได้เผยให้เห็นภูมิทัศน์หลากหลายรูปแบบภายในอุทยานฯ
หลังจากอยู่ที่ Vale กันพักใหญ่ คุณจะเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป นั่นก็คือพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพเฮยคาดาลูร์ คุณจะได้เห็นน้ำพุร้อนต้นตำรับของคำว่าไกเซอร์ และถึงแม้ไกเซอร์ที่โด่งดังนี้จะมอดดับไปแล้วในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีสโทรคูร์ที่เป็นไฮไลต์หลักคอยพ่นน้ำสูงขึ้นฟ้า 20 เมตรให้ชมในทุกๆ 5-10 นาที
สถานที่ต่อไปที่คุณจะไปเยือนคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ น้ำตกที่ทรงพลังเป็นอันดับสองของยุโรปและแน่นอนว่าต้องเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยงามน่าประทับใจมาก น้ำของน้ำตกแห่งนี้ไหลมาตามแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา (Hvita) และไหลลงสู่หุบเขาเบื้องล่างเป็น 3 ชั้นและส่งเสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณ
แต่ถ้าแค่สถานที่ที่เอ่ยมาข้างต้นนี้ยังไม่เพียงพอสำหรับวันนี้ คุณยังสามารถเพิ่มกิจกรรมแอดเวนเจอร์เข้าไปในทริปวันนี้ได้ โดยเลือกไปดำน้ำสน็อกเกิลที่รอยแยกซิลฟรา (Silfra) ซึ่งในรอยแยกเต็มไปด้วยน้ำจากธารน้ำแข็งที่ใสราวกับคริสตัลเนื่องจากผ่านการกรองด้วยหินภูเขาไฟ หรือถ้าคุณต้องการกิจกรรมที่ตื่นเต้นอะดรีนาลีนหลั่งไหลมากกว่านี้ให้คุณเลือกไปเข้าร่วมกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิลประลองความเร็วบนผืนน้ำแข็งที่กว้างใหญ่ของธารน้ำแข็งลางโจกุลแทน ส่วนผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยพาหนะในแบบเดียวกับที่เวสเทอรอส คุณสามารถใช้โอกาสนี้ไปทำความรู้จักกับม้าไอซ์แลนด์ ซึ่งก็ได้เข้าร่วมแสดงในเกมออฟโธรนส์ด้วยเหมือนกัน โดยคุณจะได้นั่งบนอานม้าแบบอาร์ยาเพื่อเที่ยวชมธรรมชาติที่บริสุทธิ์ของไอซ์แลนด์
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนอยู่ในบริเวณเซลฟอสส์ (Selfoss)

วัน 3 - นอกกำแพง
คุณจะเริ่มต้นวันนี้ด้วยการเดินทางไปตามชายฝั่งทางใต้และมุ่งหน้าต่อไปทางทิศตะวันออกเพื่อไปยังน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่สวยงาม ซึ่งมีความสูงมากและมีถ้ำอยู่ที่ด้านหลังของน้ำตก ทำให้คุณสามารถเดินอ้อมไปที่ด้านหลังเพื่อชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกได้จากทุกมุม ห่างออกไปเล็กน้อยมีหมู่บ้านสโกการ์ (Skogar) ซึ่งตั้งอยู่ข้างน้ำตกสโกการ์ (Skogar) ที่ตำนานโบราณบอกว่ามีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่
สถานที่ต่อไปคือดิร์โฮลาเอย์ (Dyrholaey) บริเวณนี้คุณอาจจะได้เห็นนกพัฟฟินมาทำรังในฤดูร้อนและได้ชมวิวซุ้มหินขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านอยู่ในทะเล ทั้งนี้โปรดทราบว่าบริเวณซุ้มหินโค้งดิร์โฮลาเอย์อาจจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าในช่วงพีคของฤดูร้อนเพื่อสงวนพื้นที่เอาไว้ให้นกมาทำรัง
สถานที่ต่อไปที่คุณจะไปเยือนคือหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) หรือที่คุณอาจจะรู้จักในชื่อ Eastwatch by the Sea ซึ่งที่นี่สวยงามน่าเที่ยวมากยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีพวกซอมบี้ (Wights) หรือไนท์คิงมาป้วนเปี้ยนอยู่บนหาด คุณสามารถใช้เวลาในการชื่นชมโขดทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) และหน้าผาเสาหินบะซอลต์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับบริเวณนี้ พร้อมกับดื่มด่ำกับวิวมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
เมื่อเดินทางต่อไปตามแนวชายฝั่งคุณก็จะพบกับเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ซึ่งเป็นหุบเขาที่งดงามเต็มไปด้วยน้ำตก ป่าไม้ ผืนน้ำแข็งของธารน้ำแข็ง และเสาหินบะซอลต์ที่อยู่ใต้เงาของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ ที่นี่คุณสามารถสัมผัสกับสุดยอดแห่งประสบการณ์บนผืนน้ำแข็งที่ดำรงอยู่มาตั้งแต่ยุคโบราณผ่านกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งด้วย
ธารน้ำแข็งสูงชันอาจจะดูคุ้นเคยจากฉากเขตตอนเหนือของกำแพง แต่คุณจะเดินทางได้สะดวกสบายกว่าจอน สโนว์มากเพราะว่าคุณมีไกด์นำทางที่ได้รับใบอนุญาตพาเที่ยวชมธารน้ำแข็ง และอุปกรณ์เสริมอย่างรองเท้าตะปู และหมวกนิรภัย
เมื่อออกจากสกัฟตาเฟลล์ คุณจะมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon) ที่งดงามจับใจและเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากมายที่กำลังลอยเลื่อนเคลื่อนตัวออกสู่ท้องทะเล ซึ่งบางลูกนั้นมีขนาดใหญ่เท่ากับบ้านทั้งหลังทีเดียว คุณสามารถเข้าไปชมภูเขาน้ำแข็งสีขาวขนาดมหึมาเหล่านี้ใกล้ๆ ได้โดยการไปเข้าร่วมกับทัวร์ล่องเรือ โดยมีให้เลือกทั้งเรือท้องแบนโซดิแอก ซึ่งเป็นเรือเร็วที่สามารถแล่นเข้าไปชมภูเขาน้ำแข็งแบบใกล้ชิดได้ และเรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่พาเดินทางแบบชิลล์ๆ
จากทะเลสาบถ้าคุณเดินต่อไปอีกนิดหน่อยก็จะเจอกับหาดไดมอนด์ (Diamond Beach) ที่ซึ่งภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากถูกพัดมาเกยอยู่บนฝั่ง และสีสันของพวกมันตัดกับหาดทรายที่มีสีดำขลับอย่างสิ้นเชิงทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามน่าประทับใจ และหลังจากเที่ยวมาทั้งวัน คุณจะใช้เวลาช่วงเย็นอยู่แถวหมู่บ้านเฮิฟน์ (Hofn)

วัน 4 - ทางตะวันออกของไอซ์แลนด์
วันนี้เต็มไปด้วยทิวทัศน์กว้างขวางของฟยอร์ดตะวันออกในขณะที่คุณขับรถไปบนเส้นทางคดเคี้ยวผ่านหุบเขาและช่องเขาของฟยอร์ดตะวันออก ซึ่งก่อนที่คุณจะเข้าเขตตะวันออกนั้นคุณจะผ่านแหลมสต็อกสเนส (Stokksnes) และภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ซึ่งตั้งตระหง่านเป็นหน้าด่านของภาคตะวันออกของไอซ์แลนด์ และหาดทรายในบริเวณนี้เหมาะสำหรับการไปเดินเล่นในช่วงเช้ามาก
คุณสามารถแวะไปเที่ยวหมู่บ้านประมงที่มีบรรยากาศสวยแปลกตา ซึ่งตั้งอยู่ตามริมฟยอร์ดอันห่างไกล และระหว่างที่คุณเดินทางไปทางตะวันออกจะมีวิวภูเขาที่สวยสดงดงามให้ชื่นชมตลอด เมืองที่อยากแนะนำให้ไปคือเมืองฟาสกรูด์สฟยอร์ดูร์ (Faskrudsfjordur) เมืองนี้มีบ้านเก่าที่สร้างตั้งแต่สมัยปลายทศวรรษที่ 1800 และยังคงได้รับการดูแลรักษาให้มีสภาพดี และอีกแห่งคือเมืองเซย์ดิร์ฟยอร์ดูร์ (Seydisfjordur) ที่โอบล้อมด้วยเขาสูงชันและมีท่าเรือธรรมชาติ
อีกทางเลือกหนึ่งคุณสามารถเที่ยวลึกเข้าไปในแผ่นดินและเข้าไปเดินสำรวจป่าฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstadarskogur) ป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagafljot) ทะเลสาบที่สวยงามที่ลือกันว่ามีหนอนลาการ์ฟโลย์ทหรือล็อกเนสเวอร์ชันไอซ์แลนด์อาศัยอยู่
ทริปวันนี้จะไปสิ้นสุดที่เอกิลสตาดีร์ (Egilsstadir) ซึ่งคุณจะได้พักผ่อนหลังจากที่เดินทางท่องเที่ยวมาทั้งวสัน

วัน 5 - ทะเลสาบมิวาทน์ & เขตตอนเหนือของกำแพง
การผจญภัยของคุณยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ คุณจะขับรถไปตามถนนวงแหวนเพื่อเดินทางไปทางทิศเหนือและนอกกำแพง คุณจะเริ่มต้นด้วยการข้ามที่ราบสูงมอดรูดาลซอแรฟ (Modrudalsoraefi) ที่ทำให้ได้เห็นถึงภูมิประเทศแบบดิบๆ ของพื้นที่ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์ก่อนที่จะลงไปยังบริเวณมิวาทน์สเวท (Myvatnssveit) ที่เต็มไปด้วยความน่าพิศวง
ระหว่างทางคุณสามารถขับอ้อมออกนอกเส้นทางเล็กน้อยเพื่อไปชมน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ที่สวยงามน่าประทับใจ น้ำตกนี้เสียงดังสนั่นและเป็นน้ำตกที่มีพลังมากที่สุดในยุโรป โดยสายน้ำจะไหลผ่านหน้าผาเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมที่ล้อมรอบน้ำตกก่อนที่จะไหลลงไปในหุบเขาเบื้องล่างด้วยพละกำลังมหาศาล
ห่างจากทะเลสาบมิวาทน์ไปเล็กน้อยมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ตื่นตามากมาย เช่น พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพเนามาส์การ์ด (Namaskard) ที่มีความเก่าแก่มากและปากปล่องภูเขาไฟสกูตูสทาดากีกูร์ ( Skutustadagigur) สถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมอีกแห่งคือทุ่งลาวาดิมมูบอร์กิร์ (Dimmuborgir) แต่คุณต้องระวังเจอพวกคนเถื่อนด้วยเนื่องจากบริเวณนี้เป็นค่ายของแมนซ์ เรเดอร์และพวกคนเถื่อน
ใกล้ๆ กันก็มีถ้ำเกรียวตาเกาจ์ (Grjotagja) ซึ่งสมัยก่อนชาวบ้านแถวนี้มักจะมาแช่น้ำ แต่เมื่อไม่นานมานี้ถ้ำนี้โด่งดังเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะเป็น "รังรัก" ของจอน สโนว์ แม้ว่าถ้ำเกรียวตาเกาจ์จะปิดไม่ให้ลงไปแช่น้ำแล้วเพราะว่าปัจจุบันน้ำที่นี่ร้อนมากเกินกว่าที่จะลงไปอาบได้ คุณก็ยังสามารถไปแช่น้ำที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ อีกทั้งยังแวดล้อมด้วยทิวทัศน์ที่งดงาม
เมื่อเดินทางต่อไปทางตะวันตก คุณจะผ่านน้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss) ที่สวยงามและมีตำนานที่น่าสนใจ จากนั้นจะเข้าสู่พื้นที่เอยาฟยอร์ดูร์ (Eyjafjordur) ก่อนเข้าสู่เมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) ซึ่งคืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่นี่

วัน 6 - ภูเขาหัวลูกศรและคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
วันนี้คุณจะเดินทางต่อโดยมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้และไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes) ที่มักจะเรียกกันว่า "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เนื่องจากมีภูมิประเทศที่หลากหลาย และวันนี้คุณจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งมากมาย
เมื่อผ่านกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjordur) ซึ่งเป็นเมืองท่าที่งดงามคุณจะสังเกตเห็นภูเขาเคิร์กจูแฟลล์ (Kirkjufell) เขายอดแหลมรูปทรงเกือบจะเป็นสามเหลี่ยม แลนด์มาร์คที่คุณคุ้นเคยตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ โดยเมื่อไม่นานมานี้ ภูเขาลูกนี้ได้กลายมาเป็นที่รู้จักกันทั่วในชื่อภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนหัวลูกศร
ภูเขาหัวลูกศรเขียวขจีนั้นสูงตระหง่านอยู่เหนือเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในฉากที่เด็กแห่งพงไพรสร้างไวท์วอล์กเกอร์ตัวแรกขึ้นมา และเขาลูกเดียวกันนี้ยังเป็นที่ที่เดอะฮาวด์เห็นในกองไฟเมื่อตอนที่พาจอน สโนว์และพวกไปนอกกำแพงเพื่อจับพวกซอมบี้มาพิสูจน์ว่ามีกองทัพแห่งความตายอยู่จริง ในหน้าร้อนภูเขาลูกนี้จะสวยงามน่าประทับใจมากและไม่มีความน่ากลัวแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ บนคาบสมุทร
เมื่อคุณเดินทางต่อไปบนชายฝั่งทางใต้ คุณจะค่อยๆ เข้าใกล้กับสถานที่สำคัญที่สุดของคาบสมุทร นั่นก็คือธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์โจกุล (Snaefellsjokull) รวมถึงอุทยานแห่งชาติที่ล้อมรอบธารน้ำแข็งอยู่ ที่นั่นคุณจะได้ไปชมหาดทรายดำตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djupalonssandur) และหน้าผาที่สวยงามในเมืองอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) และเฮลล์นาร์ (Hellnar) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนอยู่บนคาบสมุทรแห่งนี้

วัน 7 - กลับสู่เมืองเรคยาวิก
คุณจะเริ่มต้นวันนี้ด้วยการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ (Borgarfjordur) โดยแนะนำว่าคุณควรไปชมน้ำตกเฮรินฟอซซ่าร์ (Hraunfossar) น้ำตกที่ไหลรวยรินเบาๆ ผ่านหน้าผาลาวานี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) ที่เชี่ยวกรากซึ่งตั้งอยู่ห่างกันเพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้บอร์การ์ฟยอร์ดูร์ยังเป็นที่ตั้งของน้ำพุร้อนเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) ด้วย ซึ่งที่นี่เป็นน้ำพุร้อนที่ทรงพลังที่สุดของยุโรป และยังเป็นแหล่งที่มาของน้ำร้อนที่ส่งไปใช้ตามบ้านเรือนเกือบทั้งหมดในเมืองใกล้เคียงอย่างบอร์การ์เนส (Borgarnes) และอาคราเนส (Akranes) อีกด้วย
คุณสามารถไปแช่น้ำร้อนจากน้ำพุร้อนของที่นี่ได้ที่สปาและอ่างน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพเครยมา (Krauma) หรือถ้าหากคุณอยากทำอะไรที่แอดเวนเจอร์น่าตื่นเต้นหน่อย ให้คุณเลือกไปทัวร์ถ้ำลาวาที่ทุ่งลาวาในฮูสาแฟลล์ (Husafell) ที่อยู่ใกล้กับธารน้ำแข็งอีริคสโจกุล (Eiriksjokull) แทนได้ โดยถ้ำลาวาวิดเกลมิร์ (Vidgelmir) นี้เป็นหนึ่งในถ้ำลาวาที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์
หากคุณยังพอมีเวลาเหลือเมื่อเดินทางไปถึงเมืองเรคยาวิก คุณอาจจะออกไปเดินเล่นในย่านใจกลางเมืองและหาอาหารอร่อยรับประทาน หรือคุณจะลองออกไปเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืนในเรคยาวิกซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและบรรยากาศที่แปลกใหม่ดูก็ได้

วัน 8 - ฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามา
คำพูดของสตาร์คสะท้อนถึงความเศร้าหมองโดยเฉพาะเมื่อคุณต้องบอกลาไอซ์แลนด์ หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงบ่ายและคุณยังพอมีเวลาเหลือ คุณยังสามารถไปเที่ยวที่คาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) เพื่อไปดูสมบัติที่ซ่อนอยู่ในทุ่งลาวาอันกว้างใหญ่ไพศาลได้อีกก่อนที่คุณจะเดินทางไปสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก และเมื่อไปถึงสนามบินคุณจะส่งคืนรถเช่าและขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน หรือจะไปผจญภัยที่อื่นต่อก็สุดแล้วแต่ แต่สำหรับทริปนี้คุณจะบอกลาเวสเทอรอสเพียงแค่นี้ แล้วพบกันใหม่ฤดูร้อนปีหน้า
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองเริ่มต้นออกเดินทางได้ทั้งจากตัวเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) และสนามบินเคฟลาวิก ผู้ขับขี่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่และมีประสบการณ์ในการขับรถอย่างน้อย 1 ปี และรายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวอาจมีการแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับวันและเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์
สำหรับกิจกรรมเสริมบางอย่างนั้นคุณอาจจำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตขับขี่หรืออาจต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนโปรแกรมของคุณ นอกจากนี้คุณอาจต้องใช้เอกสารทางการแพทย์ด้วยในกรณีที่คุณเลือกทำกิจกรรมอย่างการดำน้ำหรือการดำน้ำตื้น
ที่พัก
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล
สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม
ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
เตียงแบบหอพัก พร้อมห้องน้ำรวมในเกสต์เฮาส์หรือโฮสเทล ที่พักตั้งอยู่ในบริเวณที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำรวมในฟาร์มเฮ้าส์ เกสต์เฮ้าส์ หรือโฮสเทล อยู่ในทำเลดีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า
รถยนต์
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)
ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป