ทัวร์ขับรถเที่ยวไอซ์แลนด์ 10 วันตามรอยซีรีส์เกมออฟโธรนส์และชมสถานที่ถ่ายทำ
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
จองทริปผจญภัยที่น่าทึ่งในธีมเกมออฟโธรนส์ในไอซ์แลนด์แล้วเดินทางท่องเที่ยวรอบประเทศ เยี่ยมชมสถานที่ที่มีชื่อเสียง และเข้าร่วมกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น เช่น เล่นสโนว์โมบิลและขี่ม้า นี่เป็นโอกาสการท่องเที่ยวที่พิเศษสำหรับผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ที่มีความหลงใหลในซีรีส์เกมออฟโธรนส์ ทริปผจญภัยด้วยการขับรถเที่ยวเองในไอซ์แลนด์นี้เริ่มต้นที่สนามบินเคฟลาวิก โดยรถเช่าที่คุณเลือกซึ่งมาพร้อมกับ Wi-Fi ฟรีและไม่จำกัดระยะทางในการขับขี่จะรออยู่ที่สนามบิน เพื่อทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่เชื่อถือได้ของคุณในอีก 10 วันข้างหน้า
เพื่อความสะดวกของคุณ การจองแพ็คเกจนี้จะรวมทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับวันหยุดที่น่าจดจำในไอซ์แลนด์ คุณจะได้เข้าพักในที่พักที่สะดวกสบายเป็นเวลา 9 คืน พร้อมด้วยบริการอาหารเช้าแบบคอนติเนนตัลทุกวัน
จุดเด่นอีกประการหนึ่งของแพ็คเกจนี้คือแผนการเดินทางโดยละเอียดที่คุณจะได้รับ ซึ่งช่วยคุณประหยัดเวลาในการวางแผนและค้นคว้าหาข้อมูลได้หลายสัปดาห์ แผนการเดินทางที่ครอบคลุมนี้ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณสามารถไปเยี่ยมชมและคำแนะนำในการเดินทางไปยังสถานที่เหล่านั้น
ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหลักสำหรับซีรีส์แฟนตาซีของช่อง HBO เรื่อง Game of Thrones ซีรีส์ยอดนิยมนี้สร้างจากหนังสือขายดีของ George R.R. Martin ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางสุดพิเศษสำหรับแฟนๆ
ด้วยแผนการเดินทางขับรถเที่ยวเอง 10 วันนี้ คุณจะได้เยี่ยมชมสถานที่ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดในเรื่อง รวมถึง The Eyrie (อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์) North of the Wall (ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล) ถ้ำที่เป็นฉากรักของจอน สโนว์ และอีกริต (ถ้ำเกรียวทากยา) และ "ภูเขาหัวลูกศร" (ภูเขาคิร์กจูเฟลล์)
การขับรถไปตามถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะได้สำรวจภูมิภาคและเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าทึ่งที่สุด ไฮไลท์สามแห่งของวงกลมทองคำ หาดทรายสีดำของชายฝั่งทางใต้ หุบเขาความร้อนใต้พิภพทางเหนือของไอซ์แลนด์ และถนนที่พลุกพล่านของเมืองเรคยาวิก รอคุณอยู่
เนื่องจากคุณเป็นคนควบคุมพวงมาลัยรถเอง การผจญภัยจึงยังคงปรับแต่งได้ตลอด ซึ่งคุณสามารถใช้เวลามากขึ้นในสถานที่ที่คุณชอบมากที่สุดได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสริมให้คุณสามารถเลือกทำได้ทุกวัน เช่น ปีนธารน้ำแข็ง ขี่ม้า ดูปลาวาฬ และแช่น้ำร้อนใต้พิภพที่บลูลากูน
คุณสามารถควบคุมความเร็วและจังหวัดเวลาในการขับรถเที่ยวรอบไอซ์แลนด์ได้เอง ในขณะเดียวกัน คุณก็รู้สึกสบายใจได้ เนื่องจากคุณจะมีการสื่อสารแบบ 24/7 กับตัวแทนการเดินทางส่วนตัวของคุณ ผู้ติดต่อที่เชื่อถือได้นี้พร้อมที่จะช่วยเหลือคุณเสมอหากคุณมีคำถามหรือต้องการคำแนะนำ
เมื่อใกล้สิ้นสุดทริปเดินทางที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมออฟโธรนส์ในไอซ์แลนด์ คุณจะคืนรถเช่าที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก
หากแผนการเดินทางของคุณมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่คาดคิด คุณก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งใด เนื่องจากคุณสามารถยกเลิกการจองได้ล่วงหน้าสูงสุด 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางและยังคงได้รับเงินคืนเต็มจำนวน
รีบจองเลยตอนนี้เพื่อไม่ให้พลาดภารกิจ 10 วันที่ยอดเยี่ยมในการไปเยือนสถานที่ถ่ายทำเกมออฟโธรนส์ในไอซ์แลนด์ ตรวจสอบความพร้อมของวันเดินทางที่ต้องการได้ทันทีเพียงเลือกวันที่
รวมในแพ็คเกจ
จุดหมายปลายทาง
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
รายละเอียดการเดินทาง
รถ
รถ
รถขนาดเล็ก
รถขนาดกลาง
รถพรีเมี่ยม
large car
SUV
ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ
วันที่ 1 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
- More
ยินดีต้อนรับสู่ไอซ์แลนด์หรือในที่นี้อาจจะเรียกว่าเวสเทอรอส ดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ
เมื่อคุณมาถึงสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก คุณจะสัมผัสได้ทันทีถึงภูมิประเทศอันน่าทึ่งที่เป็นฉากหลังของฉากต่างๆ มากมายจากเกมออฟโธรนส์ สนามบินตั้งอยู่บนคาบสมุทรเรคยาเนส ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีทุ่งลาวาที่ขรุขระและทิวทัศน์มหาสมุทรอันกว้างไกล
เมื่อคุณรับรถเช่าแล้ว การเดินทางของคุณจะเริ่มต้นด้วยการขับรถไปยังเรคยาวิก เมืองหลวงที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของโลก การขับรถจากสนามบินไปยังเรคยาวิกใช้เวลา 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง
ระหว่างทางนั้น นักเดินทางอาจต้องการแวะพักเหนื่อยที่บลูลากูนอันโด่งดังก่อน ซึ่งบลูลากูนเป็นหนึ่งในสปาความร้อนใต้พิภพที่โดดเด่นที่สุดของไอซ์แลนด์ ผืนน้ำสีฟ้าขุ่นของทะเลสาบที่ถูกรายล้อมไปด้วยทุ่งลาวาสีดำถือเป็นโอกาสอันดีที่จะผ่อนคลายหลังจากเที่ยวบินอันยาวนาน
หากคุณเพิ่มบลูลากูนลงในแผนการเดินทางของคุณ ก็จะมีการจัดเตรียมให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากคุณต้องการทำอย่างอื่นในวันนี้ คุณก็สามารถไปเพิ่มประสบการณ์สปานี้ในวันอื่นแทน ซึ่งที่ปรึกษาการเดินทางของคุณสามารถจัดเตรียมสิ่งนี้ให้กับคุณได้
เมื่อกลับมาบนถนนแล้ว คุณจะเดินทางต่อไปยังเมืองเรคยาวิก เรคยาวิกแม้จะมีขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม หลังจากเช็คอินเข้าที่พักแล้ว คุณจะมีทางเลือกสองสามอย่างสำหรับใช้เวลาช่วงเย็นที่เหลือ หากคุณรู้สึกเจ็ทแล็กเล็กน้อย ก็ควรพักผ่อนและเติมพลังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยที่จะเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม หากคุณมีพลังงานเหลือเฟือ เรคยาวิกก็มีสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวาซึ่งคุ้มค่าแก่การสำรวจ เลยกาแวกูร์ (Laugavegur) ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งหลักของเมืองจะเปลี่ยนไปในตอนเย็น โดยคาเฟ่และร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ต่างๆ จะต้องหลีกทางให้บาร์และคลับที่มีชีวิตชีวา
สถานบันเทิงยามค่ำคืนของชาวไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องเปิดทำการถึงดึกดื่น ดังนั้น คุณจะมีเวลาเหลือเฟือที่จะเพลิดเพลินไปกับพลังของเมืองหากคุณพร้อม
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเริ่มต้นแบบเรียบง่าย เรคยาวิกเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมในการเดินสำรวจ คุณสามารถชื่นชมหลังคาบ้านเรือนสีสันสดใส ศิลปะข้างถนนอันโดดเด่น และสถานที่สำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น โบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา (Hallgrimskirkja)
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ในไอซ์แลนด์ของคุณ พรุ่งนี้ การเดินทางสู่ดินแดนเวสเทอรอสที่แท้จริงจะเริ่มต้นขึ้น!
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 2 - ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้
- More
- อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
- พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
- น้ำตกกุลล์ฟอสส์
- ปากปล่องภูเขาไฟเคริด
- More
ในวันที่สอง คุณจะออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังวงกลมทองคำ เส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ซึ่งประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลักสามแห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) พื้นที่ความร้อนใต้พิภพเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)
ธิงเวลลีร์เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกมออฟโธรนส์ด้วย โดยใช้เป็นฉากของเอียรี (The Eyrie) คุณจะได้เห็นหุบเขาอัลมานนากยา (Almannagja) แคนยอนที่หยึกหยักที่ตั้งตระหง่านอยู่ในธิงเวลลีร์ สถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นทางเข้าเอียรีในซีซั่น 3 ที่มีอาร์ย่า สตาร์ค กับนิ้วก้อยเป็นตัวเดินเรื่อง
ไฮไลต์อีกสองแห่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ เฮยคาดาลูร์ เป็นพื้นที่ที่มีน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) และสโทรคูร์ (Strokkur) ตั้งอยู่ โดยสโทรคูร์นั้นพ่นน้ำสูงถึง 20 เมตรในทุก 5-10 นาที
น้ำตกกุลล์ฟอสส์ที่อยู่ห่างออกไปเพียงครู่เดียว มีน้ำจากธารน้ำแข็งไหลลดหลั่นผ่านผาหินสองชั้นด้วยความสูงรวม 32 เมตร ทั้งสองสถานที่นี้จะทำให้คุณประทับใจกับทริปเที่ยวไอซ์แลนด์วันที่สองนี้ไปอีกนานแสนนาน
นอกจากนี้ ในวันที่สองคุณยังมีโอกาสเพิ่มกิจกรรมเสริมเข้าไปในทริปได้ด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณล้วนๆ คุณอาจจะเพิ่มทริปดำน้ำสน็อกเกิลเพื่อลงไปแหวกว่ายในสายน้ำที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งในรอยแยกซิลฟรา (Silfra) ซึ่งมีวิวใต้น้ำที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อและมีน้ำที่ใสมากจนสามารถมองเห็นได้ไกลถึง 100 เมตร
ทั้งนี้ หากคุณวางแผนจะเข้าร่วมทัวร์ดำน้ำตื้น คุณจะต้องไม่กลัวการลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้
หรือคุณอาจจะเลือกไปขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ที่ระยิบระยับก็แล้วแต่คุณเลย ที่นี่จะเป็นประสบการณ์ที่สนุกตื่นเต้นมากที่สุดอย่างหนึ่งในไอซ์แลนด์
หรือหากคุณอินกับโลกของเกมออฟโธรนส์เอามากๆ และอยากเข้าถึงตัวละครโปรดของคุณ คุณอาจจะจองทัวร์ขี่ม้า เพื่อควบม้าเหยาะๆ ชมวิวชนบทที่สวยงามของไอซ์แลนด์ก็ได้เช่นกัน
จากนั้นคุณจะไปพักค้างคืนในเมืองเล็กๆ ทางใต้ที่ชื่อเซลฟอสส์ (Selfoss) หรือพื้นที่ใกล้เคียงอื่นๆ ในไอซ์แลนด์ใต้ ซึ่งแถวนั้นมีบ้านเรือนอยู่แค่ไม่กี่หลังเท่านั้น จึงเหมาะกับการไปรอดูแสงเหนือด้วยหากคุณเดินทางในช่วงหน้าหนาว
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 3 - ชายฝั่งทางใต้
- ชายฝั่งทางใต้
- More
- น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์
- น้ำตกสโกกาฟอสส์
- ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล
- ดิร์โฮลาเอย์
- หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
- โขดทะเลเรนิสดรังการ์
- More
วันนี้คุณจะเข้าสู่หนึ่งในภูมิภาคที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ซึ่งก็คือชายฝั่งทางใต้ แถบนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำ Eastwatch-by-the-Sea ปราสาทแห่งเดียวตามแนวกำแพงที่ตั้งตระหง่านริมชายฝั่งในซีรีส์เกมออฟโธรนส์
แฟนๆ ของซีรีส์น่าจะจดจำพื้นที่นี้ได้จากตอนจบแบบดราม่าของซีซั่น 7 ที่จอน สโนว์และพรรคพวกของเขาเผชิญหน้ากับกองทัพแห่งความตายที่น่าสะพรึงกลัว ด้วยหน้าผาที่ขรุขระ คลื่นลูกใหญ่ และภูมิประเทศอันงดงาม ชายฝั่งทางใต้รวบรวมความงามอันหนาวเย็นและป่าเถื่อนของทางตอนเหนือในเวสเทอรอสเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การขับรถของคุณเริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงจากการที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมม่านน้ำที่ตกลงมาได้ ความงามที่สูง 60 เมตรแห่งนี้มอบมุมมองที่ไม่เหมือนใครโดยให้คุณสัมผัสน้ำตกจากทุกมุม
ขับรถไปไม่ไกลก็จะถึงน้ำตกสโคกาฟอสส์ (Skogafoss) ที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดของไอซ์แลนด์ สโคกาฟอสส์มีความสูงพอๆ กับน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์แต่กว้างกว่า และมักมีสายรุ้งพาดผ่านในวันที่แดดจ้า
จากนั้น คุณจะได้มุ่งหน้าไปยังหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ใกล้กับหมู่บ้านวิก เรย์นิสฟยาราเป็นที่รู้จักจากหาดทรายสีดำของภูเขาไฟและแนวหินบะซอลต์สูงตระหง่านซึ่งมีลักษณะเหมือนกับอยู่โลกอื่น โดยมีคลื่นแอตแลนติกอันทรงพลังซัดเข้าหาชายฝั่ง
เพื่อเพิ่มสีสันให้กับวันที่สามของคุณ คุณจะมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมเสริมได้มากมาย สำหรับผู้รักการผจญภัย การไปปีนธารน้ำแข็งบนโซลเฮมาโจกุล (Solehimajokull) คุณจะได้สำรวจการก่อตัวของน้ำแข็งโบราณและรอยแยกลึกของธารน้ำแข็งในประเทศไอซ์แลนด์พร้อมไกด์ผู้เชี่ยวชาญ
หรือคุณอาจจะไปเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งที่ภูเขาไฟคัทลา (Katla) ซึ่งนำเสนอประสบการณ์ใต้ดินเหนือจริงใต้ชั้นน้ำแข็งภูเขาไฟ
ตัวเลือกอื่นๆ สำหรับวันนี้ ได้แก่ การขี่ม้าบนหาดทรายสีดำ การผจญภัยด้วยรถเอทีวี หรือการขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็ง ซึ่งแต่ละกิจกรรมจะมอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับความงามอันขรุขระของไอซ์แลนด์
ปิดท้ายวันนี้ของคุณที่หมู่บ้านวิก (Vik) ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังที่พักของคุณบนชายฝั่งทางใต้
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 4 - ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
- More
- เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์
- สวาร์ติฟอสส์
- ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
- ไดมอนด์ บีช
- More
ทัวร์ขับรถเที่ยวเองในไอซ์แลนด์ดำเนินมาถึงวันที่สี่ในขณะที่คุณสำรวจชายฝั่งทางใต้กันต่อไป
จุดหมายปลายทางหลายแห่งที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้มีความเกี่ยวพันกับการถ่ายทำเกมออฟโธรนส์ เช่น เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull)
หากต้องการทริปที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น อย่าพลาดเพิ่มกิจกรรมผจญภัยปีนธารน้ำแข็งขณะอยู่ในสกัฟตาเฟลล์เข้าไปด้วย การเข้าร่วมกิจกรรมนี้ คุณจะถูกล้อมรอบไปด้วยภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติของเวสเทอรอส ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่ทำให้ทั้งเกมออฟโธรนส์และไอซ์แลนด์มีความน่าดึงดูดใจ
สถานที่ท่องเที่ยวหลักของวันนี้ถือเป็นสุดยอดของอัญมณีแห่งไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) มีภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาลอยตัวอยู่บนผิวน้ำที่นิ่งสนิทและวาววับจับตา และยังเป็นถิ่นของแมวน้ำที่ล้อมรอบด้วยวิวที่งดงามของภูเขาและผืนน้ำแข็งจึงเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งที่สุดของไอซ์แลนด์อย่างไม่ต้องสงสัย
เดินไปอีกไม่ไกลก็จะมีหาดไดมอนด์ที่ทอดยาวอยู่ริมทะเล และบนหาดมีภูเขาน้ำแข็งถูกพัดขึ้นมาเกยบนทรายสีดำมากมายในขณะที่พวกมันกำลังเดินทางออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก
หากคุณเดินทางมาในช่วงหน้าร้อน คุณสามารถเพิ่มทัวร์ล่องเรือหรือทัวร์พายเรือคายัคในโจกุลซาร์ลอนเข้าไปได้ ทั้งสองโปรแกรมจะพาคุณเข้าใกล้ภูเขาน้ำแข็งที่ลอยน้ำอย่างใกล้ชิด
ผู้ที่มาเยือนในช่วงฤดูหนาวสามารถเลือกสำรวจถ้ำน้ำแข็งแห่งใดแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในวัทนาโจกุลพร้อมไกด์นำเที่ยวได้ ถ้ำน้ำแข็งเหล่านี้มีสีฟ้ากว่าถ้ำที่อยู่ไกลออกไปตามชายฝั่งทางใต้มาก และเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่พิเศษที่สุดในช่วงฤดูหนาวของประเทศไอซ์แลนด์
คุณจะได้พักค้างคืนที่เฮิฟน์ (Hofn) หรือพื้นที่ใกล้เคียงทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ เฮิฟน์เป็นเมืองชายฝั่งที่ขึ้นชื่อเรื่องล็อบสเตอร์ไอซ์แลนด์และอาหารทะเลที่ดีที่สุด จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารเย็นและค้นหาแสงเหนือในฤดูหนาว
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 5 - ฟยอร์ดตะวันออก
- ฟยอร์ดตะวันออก
- More
- เวสตราฮอร์น
- ทะเลสาบลาการ์ฟโยท
- ป่าฮาลลอร์มสตาดาสโกกูร์
- More
ในวันที่ห้า คุณจะได้สำรวจหนึ่งในภูมิภาคที่ห่างไกลและน่าหลงใหลที่สุดของไอซ์แลนด์ นั่นคือฟยอร์ดตะวันออก พื้นที่ของไอซ์แลนด์ที่มีผู้เยี่ยมชมน้อยแห่งนี้มักถูกมองข้ามเนื่องจากอยู่ห่างจากเรคยาวิก ด้วยแผนการเดินทางสิบวันของแพ็คเกจนี้ คุณจึงมีเวลาเหลือมากพอที่จะดื่มด่ำกับความงามของมัน
ฟยอร์ดทางตะวันออกมีชื่อเสียงในด้านภูมิประเทศอันงดงาม ที่ซึ่งภูเขาสูงตระหง่านบรรจบกับทะเล และกวางเรนเดียร์ป่าเดินเตร่อย่างอิสระทั่วพื้นที่ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ นี่คือสถานที่ที่พลังอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นโลกที่หลุดออกมาจากเวสเทอรอส
เมื่อคุณขับรถจากไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ไปยังฟยอร์ดตะวันออก คุณต้องไม่พลาดการไปเยือนสตอกส์เนส (Stokksnes) และภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) อันยิ่งใหญ่ เวสตราฮอร์นมักถูกเรียกว่า "ภูเขาแบทแมน" หรือ "ภูเขาที่น่ากลัวที่สุดในไอซ์แลนด์" เนื่องจากมียอดเขาหยักที่คล้ายปีกหรือเขาของค้างคาว ซึ่งทำให้เวสตราฮอร์นเป็นวิวที่ยากจะลืม
ยอดเขาที่จับคู่กับหาดทรายสีดำและที่ราบที่มีลมพัดแรงรอบๆ ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงาม จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ช่างภาพและผู้สร้างภาพยนตร์จะสนใจจุดนี้
เมื่อคุณเดินทางผ่านภูมิภาคนี้ คุณจะพบกับหมู่บ้านชาวประมงที่มีเสน่ห์ซึ่งเจริญรุ่งเรืองมานานหลายศตวรรษตามแนวชายฝั่งที่มีฟยอร์ดเรียงราย แต่ละหมู่บ้านมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง โดยนำเสนอวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ทางทะเลของไอซ์แลนด์
ชุมชนเงียบสงบเหล่านี้เป็นการพักเบรคจากสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศได้เป็นอย่างดี การไปเยือนชุมชนต่างๆ จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ด้านที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้นของประเทศไอซ์แลนด์
ปิดท้ายวันของคุณที่เมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstadir) ซึ่งคุณจะได้เข้าพักในที่พักของคุณในคืนนี้ เอกิลสตาดีร์ถือเป็นเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ตะวันออกและมีร้านอาหารดีๆ สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น และสถานที่น่าสนใจในบริเวณใกล้เคียง
ก่อนที่คุณจะพักผ่อน ลองไปเยี่ยมชมทะเลสาบลาการ์ฟโยลท์ (Lagarfljot) ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์ประหลาดเวิร์มในตำนานที่กล่าวกันว่าอาศัยอยู่ในส่วนลึกของทะเลสาบ แม้ว่าไอซ์แลนด์อาจไม่มีมังกร แต่นิทานพื้นบ้านก็เต็มไปด้วยสัตว์ในตำนาน ที่จะทำให้การเดินทางของคุณมีมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 6 - ไอซ์แลนด์เหนือ
- ไอซ์แลนด์เหนือ
- More
- น้ำตกเดตติฟอสส์
- พื้นที่แถบทะเลสาบมิวาทน์
- น้ำตกโกดาฟอสส์
- คยาร์นาสโกกูร์
- หุบเขาอาสบิร์กิ
- More
วันนี้คุณจะออกจากเอกิลสตาดีร์และเดินทางต่อไปยังทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn) และอาคูเรย์ริ (Akureyri) ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์
พื้นที่มิวาทน์เป็นที่รู้จักของแฟนๆ เกมออฟโธรนส์ในฐานะไวล์ดลิ่งแคมป์ (Wildling Camp) ดินแดนรกร้างว่างเปล่าอันงดงามนอกกำแพงที่ชนเผ่าป่าเถื่อนอาศัยอยู่ท่ามกลางฤดูหนาวที่โหดร้าย
แต่ในความเป็นจริง มิวาทน์เป็นพื้นที่ธรรมชาติที่น่าทึ่งซึ่งมีชื่อเสียงจากทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ความร้อนใต้พิภพ ภูมิประเทศภูเขาไฟ และนกนานาชนิด
สถานที่ห้ามพลาดที่นี่คือดิมมูบอร์กิร์ (Dimmuborgir ที่แปลว่า "ป้อมปราการแห่งความมืด") ซึ่งเป็นทุ่งลาวาที่บิดเบี้ยวและถ้ำที่ดูเหมือนป้อมปราการที่สร้างโดยยักษ์ เห็นแล้วน่าจะจินตนาการได้ไม่ยากถึงฉากในโลกแฟนตาซีที่มีโครงสร้างที่แปลกประหลาดและสูงตระหง่าน
ไม่ไกลจากที่นี่คือนามาสการ์ด (Namaskard) ซึ่งเป็นหุบเขาพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ขึ้นชื่อเรื่องบ่อโคลนเดือดและปล่องไอน้ำ
ถ้ำเกรียวทากยา (Grjotagja) บนชายฝั่งตะวันออกของทะเลสาบ อาจเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่แฟนเกมออฟโธรนส์ในฐานะ "รังรัก" ของจอน สโนว์และอีกริต ภายในถ้ำเต็มไปด้วยน้ำอุ่นตามธรรมชาติ จึงทำให้เกิดไอน้ำปกคลุมและมีบรรยากาศที่ชวนเคลิ้ม
แม้ว่าถ้ำแห่งนี้จะไม่เหมาะสำหรับการลงแช่น้ำอีกต่อไปเนื่องจากอุณหภูมิของน้ำสูงขึ้น แต่ก็ยังเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งในการเยี่ยมชมทั้งในด้านความงามและความเชื่อมโยงกับซีรีส์เรื่องโปรด
หลังจากนั้น คุณจะได้เดินทางไปยังอาคูเรย์ริ เมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของไอซ์แลนด์เหนือ อาคูเรย์ริเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อยู่บนเชิงเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ สามารถมองเห็นวิวเอยาฟยอร์ดูร์ และยังเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวา ท่าเรือที่คึกคัก ทิวทัศน์อันงดงาม และร้านกาแฟที่น่ารัก
สำหรับผู้ที่แสวงหาการผจญภัย ในอาคูเรย์ริมีกิจกรรมเสริมให้เลือกทำได้มากมาย ในฤดูร้อน คุณสามารถเข้าร่วมทัวร์ชมวาฬได้ โดยคุณจะมีโอกาสได้เห็นวาฬหลังค่อม โลมา และสัตว์ทะเลอื่น ๆ
หากคุณมาเยือนในฤดูหนาว ลองเข้าร่วมทัวร์ล่าแสงเหนือ ซึ่งไกด์ผู้เชี่ยวชาญจะพาคุณไปยังจุดที่ดีที่สุดเพื่อชมแสงออโรร่าส่ายไปมาเหนือท้องฟ้าอาร์กติก
คุณยังสามารถไปใช้บริการฟอเรสต์ลากูน (Forest Lagoon) เพื่อผ่อนคลายได้ตลอดทั้งปี สปาความร้อนใต้พิภพแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ป่าตามแนวฟยอร์ด
หลังจากเที่ยวและชมสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมาทั้งวัน คุณจะได้พักค้างคืนในอาคูเรย์ริ
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 7 - สไนแฟลซเนส
- สไนแฟลซเนส
- More
- กองหินฮวิทแซร์กูร์
- ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
- สไนล์เฟลล์โจกุลล์
- หมู่บ้านบูดิร์
- More
วันนี้ คุณจะได้เดินทางไปยังคาบสมุทรสไนแฟลซเนส (Snaefellsnes Peninsula) หรือที่เรียกกันว่า "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เพราะได้รวบรวมความงามทางธรรมชาติที่หลากหลายของประเทศไว้ในพื้นที่เล็กๆ
การสำรวจของคุณเริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดของคาบสมุทร คิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell) ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านเหนือของสไนแฟลซเนสมีรูปทรงหัวลูกศรอันโดดเด่นและยังเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในภูเขาที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ด้วย โดยตั้งตระหง่านโดดเด่นจากภูมิประเทศโดยรอบ
แฟนๆ เกมออฟโธรนส์น่าจะจดจำเขาลูกนี้ได้จากทั้งซีซั่น 3 และซีซั่น 7 ในซีซั่น 3 คิร์กจูเฟลล์และบริเวณโดยรอบถูกใช้เป็นดินแดนฤดูร้อนอันเขียวชอุ่มที่เด็กแห่งพงไพรสร้างไวท์วอล์กเกอร์ขึ้นมาครั้งแรก
พื้นที่ดังกล่าวปรากฏขึ้นในซีรีส์อีกครั้งในซีซั่น 7 เมื่อเดอะฮาวนด์อธิบายว่ามันเป็น "ภูเขาที่เหมือนหัวลูกศร" ในตอนที่จอน สโนว์และพรรคพวกกำลังสำรวจพื้นที่ "นอกกำแพง" รูปทรงที่โดดเด่นของคิร์กจูเฟลล์นั้นน่าสนใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อมองจากน้ำตกคิร์กจูเฟลส์ฟอสส์ที่อยู่เบื้องหน้าภูเขา
เมื่อคุณเดินทางต่อไป คุณจะค้นพบไฮไลท์อื่นๆ ของคาบสมุทรสไนแฟลซเนส รวมถึงธารน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล (Snaefellsjokull) อันยิ่งใหญ่ ภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งแห่งนี้ใช้เป็นฉากหลักของนวนิยายคลาสสิกของ Jules Verne เรื่อง Journey to the Centre of the Earth
ถัดไปคือหมู่บ้านชาวประมงที่มีเสน่ห์ อาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) ซึ่งมีหน้าผาริมทะเลอันน่าทึ่งเป็นที่อยู่ของนกทะเลและมีหินรูปร่างแปลกประหลาด ใช้เวลาเดินเล่นตามแนวชายฝั่งเพื่อชมเสาหินบะซอลต์ ถ้ำ และส่วนโค้งของพื้นที่ที่ตัดกับมหาสมุทรแอตแลนติกที่ส่งเสียงคำรามกึกก้อง
แวะที่ชายหาดดยูปาลอนส์ซานดูร์ (Djupalonssandur) อีกหนึ่งแห่งเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์การเดินเรือของไอซ์แลนด์ โดยบริเวณนี้มีชายฝั่งหินกรวดสีดำและซากเรือที่หลงเหลืออยู่กระจัดกระจายไปตามผืนทราย คุณยังสามารถลองไปยกก้อนหินโบราณได้ที่นี่ ซึ่งเมื่อก่อนชาวประมงใช้เพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง
สุดท้ายนี้ อย่าพลาดโบสถ์สีดำบูดิร์ (Budir) อันมีเสน่ห์ โครงสร้างไม้สีดำที่ล้อมรอบด้วยทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์คือความฝันของช่างภาพและเป็นสัญลักษณ์ของความงามที่โดดเดี่ยวแต่ลึกซึ้งของประเทศไอซ์แลนด์
เมื่อใกล้หมดวัน คุณจะได้พักผ่อนในที่พักบนคาบสมุทรสไนแฟลซเนส
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 8 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
- น้ำพุร้อนเดลตาร์ตุงกูแวร์
- แหล่งประวัติศาสตร์เรคโฮลท์
- น้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์และน้ำตกบาร์นาฟอสส์
- โบสถ์และฟาร์มที่บอร์กา มิรุม
- More
ในวันที่แปดของการเดินทาง 10 วันรอบไอซ์แลนด์ คุณจะเริ่มต้นการเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิก แต่ระหว่างทางมีสถานที่สวยงามให้แวะชมมากมาย
ไอซ์แลนด์ตะวันตกเป็นภูมิภาคที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง รวมถึงน้ำตก ธารน้ำแข็ง ทุ่งลาวา และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน บริเวณรอบๆ บอร์การ์ฟยอร์ดูร์ (Borgarfjordur) นี้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ตั้งถิ่นฐานกลุ่มแรกๆ ของไอซ์แลนด์ และมีเหตุการณ์สำคัญๆ ในซากาของไอซ์แลนด์หลายอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ ทำให้เป็นสถานที่ที่ผู้รักประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาด
เมื่อคุณเดินทางผ่านภูมิภาคนี้ หนึ่งในจุดแวะเที่ยวที่น่าสนใจคือเดลดาร์ทุงกุฮแวร์ (Deildartunguhver) น้ำพุร้อนที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป น้ำพุร้อนแห่งนี้พ่นน้ำเดือดปริมาณ 180 ลิตรต่อวินาที
สำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ หมู่บ้านเรคโฮลท์ (Reykholt) ที่อยู่ใกล้เคียงก็เป็นอีกหนึ่งจุดแวะเที่ยวที่ยอดเยี่ยม เรคโฮลท์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของสนอร์รี สเทอร์ลูสัน หนึ่งในกวีและนักประวัติศาสตร์ยุคกลางที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ ให้ความรู้เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ คุณสามารถเยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อนใต้พิภพของสอนร์ริและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเขาในซากาของไอซ์แลนด์
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแล้ว คุณยังมีกิจกรรมเสริมอีกมากมายที่สามารถเลือกเพิ่มเข้าไปได้เมื่อทำการจองแพ็คเกจนี้ ทางเลือกหนึ่งคือการสำรวจโลกใต้ดินของไอซ์แลนด์โดยการเยี่ยมชมหนึ่งในถ้ำลาวาอย่างที่วาทน์เฮลลิร์ หรือวิดเกลมีร์ ถ้ำเหล่านี้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับอดีตภูเขาไฟของเกาะด้วยหินที่มีรูปร่างไม่เหมือนใครและลาวาโบราณ
หากคุณต้องการอะไรที่ผ่อนคลายมากกว่า ลองแวะไปที่บ่อน้ำพุร้อนแห่งใดแห่งหนึ่งของภูมิภาคนี้ เครยมาสปา (Krauma Spa) น้ำพุร้อนฮวามม์สวิก (Hvammsvik Hot Springs) หรือฮูสาเฟลล์แคนยอนบาธส์ (Husafell Canyon Baths) ล้วนเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการแช่ตัวในแหล่งน้ำร้อนใต้พิภพอันเงียบสงบ
เมื่อคุณเข้าใกล้เรคยาวิก คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือในการสำรวจเมืองด้วยตัวเอง หรือเข้าร่วมกับทัวร์วัฒนธรรมพร้อมไกด์เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ เรคยาวิกมีสิ่งต่างๆ มากมายให้คุณชม ตั้งแต่ถนนที่เต็มไปด้วยสีสันและสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ไปจนถึงสถานที่จัดแสดงศิลปะที่มีชีวิตชีวา
หลังจากสำรวจมาทั้งวันแล้ว คุณจะได้เข้าพักที่โรงแรมในเรคยาวิกเพื่อพักผ่อนในค่ำคืนอันแสนสุข เตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยวันสุดท้ายในประเทศไอซ์แลนด์
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 9 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- More
ในวันเกือบสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์ คุณจะมีโอกาสสำรวจเมืองหลวงเรคยาวิกที่มีชีวิตชีวา ไม่ว่าคุณจะเดินเล่นไปตามถนนตามที่คุณต้องการหรือเข้าร่วมทัวร์และกิจกรรมพร้อมไกด์ วันนี้ก็เป็นวันที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและความทันสมัยของเมืองที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้
สถานที่สำคัญที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งคือโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา (Hallgrimskirkja) ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงตระหง่านที่ตั้งตระหง่านเหนือเส้นขอบฟ้าของเมือง การออกแบบโบสถ์ได้รับแรงบันดาลใจจากเสาหินบะซอลต์ของประเทศไอซ์แลนด์ และจากหอสังเกตการณ์ของโบสถ์ คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของเมืองและภูเขาโดยรอบ
ในขณะเดียวกัน หากต้องการสัมผัสสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ของเมืองเรคยาวิก อย่าลืมแวะไปที่ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa Concert Hall) อันโดดเด่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำหรับการแสดงดนตรีและวัฒนธรรมด้วย คอนเสิร์ตฮอลล์ของประเทศไอซ์แลนด์แห่งนี้ขึ้นชื่อจากส่วนหน้าอาคารที่สร้างจากแผงกระจกทรงเรขาคณิต
สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความตื่นเต้นให้กับวันนี้ เรคยาวิกมีกิจกรรมที่ทำให้อะดรีนาลีนสูบฉีดมากมาย คุณสามารถเลือกเข้าร่วมการผจญภัยพร้อมไกด์ที่มีให้เลือกมากมายในระหว่างขั้นตอนการจอง หรือสอบถามจากตัวแทนการท่องเที่ยวของคุณ
ทางเลือกหนึ่งคือการเข้าร่วมกับทัวร์นั่งเฮลิคอปเตอร์จากสนามบินภายในประเทศเรคยาวิก ซึ่งคุณจะได้บินชมวิวเหนือภูมิประเทศภูเขาไฟ พื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่เต็มไปด้วยสีสัน และภูเขาที่ขรุขระ ก่อนที่จะลงจอดในสถานที่ห่างไกลเพื่อแวะชมวิวช่วงสั้นๆ นี่เป็นวิธีที่น่าจดจำในการชมไอซ์แลนด์จากด้านบนและชื่นชมความงามทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง
หรือหากคุณต้องการการผจญภัยที่ผ่อนคลายมากกว่า ลองจองทัวร์ชมปลาวาฬที่ออกเดินทางจากท่าเรือเรคยาวิก คุณอาจได้เห็นวาฬหลังค่อม วาฬมิงค์ โลมา หรือแม้แต่ออร์กาในน่านน้ำรอบๆ เมือง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล
ในขณะที่คุณเพลิดเพลินกับการล่องเรือข้ามอ่าวที่อยู่รอบๆ เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ ไกด์ของคุณจะแบ่งปันความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่น่าตื่นเต้นและเรื่องราวเกี่ยวกับยักษ์ใหญ่ผู้อ่อนโยนแห่งทะเล
เมื่อสิ้นสุดวัน คุณจะกลับไปยังที่พักหลังจากได้สัมผัสสิ่งที่ดีที่สุดของเมืองเรคยาวิกก่อนที่วันสุดท้ายของทริปผจญภัยในไอซ์แลนด์ของคุณจะมาถึง
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 10 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
- More
- เคลฟาร์วาทน์
- ครีซูวิก
- กุนนูฮแวร์
- More
วันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์ถือเป็นการสิ้นสุดการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ในธีมเกมออฟโธรนส์ คุณอาจมีเวลาอีกสองสามชั่วโมงในการสำรวจเรคยาวิกก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสนามบินเคฟลาวิกเพื่อเดินทางกลับบ้าน
หากคุณมีเที่ยวบินเช้าตรู่ คุณจะเช็คเอาท์ออกจากที่พัก คืนรถเช่า และบอกลาดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง
สำหรับผู้ที่มีเที่ยวบินช่วงสายหน่อย คุณยังมีเวลาเหลือให้สัมผัสเสน่ห์ของเมืองเรคยาวิกเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ทางเลือกที่ดีคือการเดินเล่นสบายๆ ไปตามถนนเลยกาแวกูร์ (Laugavegur) ซึ่งเป็นศูนย์กลางช้อปปิ้งหลักของเรคยาวิก
เลยกาแวกูร์เต็มไปด้วยร้านบูติก ร้านค้าของตกแต่งบ้านในท้องถิ่น และร้านขายของที่ระลึก ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในนาทีสุดท้าย หรืออาจจะซื้อเสื้อสเวตเตอร์ขนสัตว์ไอซ์แลนด์ หรือสินค้าทำมือเพื่อนำกลับบ้านเป็นของที่ระลึกของการเดินทางของคุณ ถนนสายนี้ยังเป็นจุดที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเพลิดเพลินกับกาแฟในร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของเมืองเป็นครั้งสุดท้าย
หากคุณเป็นผู้ชื่นชอบพิพิธภัณฑ์ เรคยาวิกมีข้อเสนอมากมายให้คุณเลือก และคุณสามารถจองบัตรเข้าชมได้ขณะที่จองแพ็คเกจนี้
พิพิธภัณฑ์เพอร์ลาน (Perlan Museum) เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการเรียนรู้เกี่ยวกับธารน้ำแข็งและภูเขาไฟของประเทศไอซ์แลนด์ ในขณะที่พิพิธภัณฑ์ปลาวาฬแห่งไอซ์แลนด์มีแบบจำลองขนาดเท่าจริงของสิ่งมีชีวิตอันงดงามเหล่านี้ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งคือฟลายโอเวอร์ไอซ์แลนด์ (FlyOver Iceland) ประสบการณ์การบินจำลองที่จะพาคุณเดินทางเสมือนจริงอย่างน่าตื่นเต้นครอบคลุมภูมิประเทศแบบต่างๆ ของไอซ์แลนด์
หากคุณยังไม่เคยไปบลูลากูน (Blue Lagoon) วันนี้เป็นวันที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายก่อนออกเดินทาง บลูลากูนนำเสนอการแช่ตัวอย่างผ่อนคลายในน้ำพุร้อนใต้พิภพสีฟ้าขุ่นเหมือนน้ำนม และล้อมรอบด้วยทุ่งลาวาที่มีบรรยากาศเหนือจริง
ไม่ว่าคุณจะเลือกดื่มด่ำกับสปาทรีตเมนต์หรือเพียงแค่เพลิดเพลินกับการแช่น้ำร้อนที่อุดมด้วยแร่ธาตุ ก็ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปิดท้ายทริปของคุณ คุณสามารถจองบัตรเข้าใช้บริการบลูลากูนล่วงหน้าได้โดยเพิ่มเข้าไปในแพ็คเกจนี้ หรือขอให้ตัวแทนท่องเที่ยวจัดการให้
หลังจากใช้เวลาชั่วโมงสุดท้ายให้คุ้มค่าที่สุดแล้ว คุณจะเดินทางไปยังสนามบินเคฟลาวิก ซึ่งคุณจะคืนรถเช่าและเตรียมพร้อมขึ้นเครื่อง
เมื่อเดินทางออกจากไอซ์แลนด์ คุณจะได้ความทรงจำเกี่ยวกับภูมิประเทศ สถานที่ถ่ายทำเกมออฟโธรนส์ และความงามตามธรรมชาติของเวสเทอรอสติดตัวไปด้วย
ประสบการณ์
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองนี้สามารถเริ่มออกเดินทางได้ทั้งจากในตัวเมืองเรคยาวิกและจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ทั้งนี้คนขับจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนถนนอย่างน้อย 1 ปี อย่างไรก็ตามรายละเอียดการเดินทางที่คุณได้รับอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย แพ็คเกจไม่รวมความคุ้มครองรถยนต์จากกรวดหากคุณเลือกใช้รถ Toyota Aygo หรือที่คล้ายกัน
โปรดทราบว่าสำหรับกิจกรรมบางอย่างที่คุณเลือก คุณอาจจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ หรือคุณอาจจะต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนการเดินทางของคุณ และคุณอาจจะต้องแสดงเอกสารรับรองทางการแพทย์ในการดำน้ำตื้น ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและจำเป็นต้องว่ายน้ำได้
สำหรับการไปเที่ยวภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Þríhnjúkagígur) ห้ามสวมใส่ผ้าคอตตอนหรือผ้ายีนส์ทับที่ชั้นนอก กรุณาสวมเสื้อผ้าที่กันน้ำได้และสวมรองเท้าสำหรับปีนเขาที่มีความคงทนแข็งแรง อุณหภูมิภายในปล่องภูเขาไฟมักจะอยู่ที่ 5–6°C (42–43°F) และคุณจะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (2 ไมล์) ต่อเที่ยว ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 45–50 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนในคณะทัวร์) ระหว่างที่เดินนี้จะมีไกด์ดูแลตลอดเวลา และอาหารเช้านั้นอาจไม่รวมอยู่ในโฮสเทลและเกสต์เฮาส์บางแห่งที่เลือก
ส่วนแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมองเห็นหรือไม่ และมีโอกาสมองเห็นแสงเหนือได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น อย่างไรก็ตามแผนการเดินทางนี้ออกแบบมาเพื่อให้คุณมีโอกาสมองเห็นแสงเหนือมากที่สุดในกรณีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย
นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวพื้นถนนและทางเท้าของไอซ์แลนด์จะลื่นมาก เราแนะนำให้คุณนำรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นหรือนำอุปกรณ์หุ้มรองเท้าที่สามารถยึดเกาะน้ำแข็งได้ติดตัวมาด้วย สำหรับอุปกรณ์หุ้มรองเท้านั้น คุณสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือสถานีบริการน้ำมันส่วนใหญ่ในไอซ์แลนด์
นอกจากนี้ยังมีความเป็นได้ว่ากิจกรรมบางอย่างอาจจะต้องถูกยกเลิกไปหากสภาพภูมิอากาศไม่เหมาะสม และถ้ากิจกรรมที่คุณเลือกถูกยกเลิก เราจะช่วยจัดการให้คุณใหม่ หรืออาจจะทำการจองกิจกรรมอื่นๆ ให้แทนเท่าที่จะสามารถทำได้ และเรายินดีที่จะคืนเงินส่วนต่างให้กับคุณ
ทัวร์นี้สามารถออกเดินทางได้ตลอดทั้งปี หากคุณมาเที่ยวในฤดูหนาว เราแนะนำให้คุณอัปเกรดรถเช่าเป็นรถแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4
วิดีโอ
รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว
แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด