ทัวร์ขับรถเที่ยวไอซ์แลนด์ 10 วันตามรอยซีรีส์เกมออฟโธรนส์และชมสถานที่ถ่ายทำ
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
จองทริปแอดเวนเจอร์ตามรอยซีรีส์เกมออฟโธรนส์ในประเทศไอซ์แลนด์ เดินทางรอบประเทศและเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุด ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษที่เพิ่มความตื่นเต้นให้กับทริปครั้งนี้ เช่น ขี่สโนว์โมบิลและขี่ม้า ทัวร์นี้นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแฟนซีรีส์มหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) โดยเฉพาะ
ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหลักสำหรับเกมออฟโธรนส์ ซึ่งเป็นซีรีส์แฟนตาซีเรื่องดังของช่อง HBO ที่สร้างจากหนังสือของจอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน จึงไม่น่าแปลกที่จะเป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวสุดพิเศษสำหรับแฟนๆ
ตามแผนการขับรถเที่ยวสุดพิเศษ 10 วันนี้ คุณจะได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ที่คุ้นเคยกันดีจากซีรีส์ เช่น เอียรี เขตตอนเหนือของกำแพง และภูเขาเคิร์คจูแฟสหรือภูเขาหัวลูกศรในเรื่อง และคุณไม่ต้องกลัวหลงทางเลย เนื่องจากแผนการเดินทางที่ได้รับนั้นจะมีคำแนะนำในการเดินทางไปสถานที่แต่ละแห่งให้อย่างละเอียด
การขับรถเที่ยวรอบไอซ์แลนด์ทริปนี้คุณจะได้ใช้เวลาตามใจชอบ และได้รับความอุ่นใจในการเดินทาง เนื่องจากมีตัวแทนท่องเที่ยวส่วนบุคคลคอยดูแลผ่านการติดต่อสื่อสารตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยแผนการเดินทางนี้จะถูกจัดเตรียมและปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของคุณล่วงหน้าก่อนที่คุณจะเดินทางมาถึงที่ไอซ์แลนด์ หมายความว่าคุณมีสิทธิ์เลือกกิจกรรมที่จะทำทั้งหมดในทริปนี้ด้วยตัวเอง
รีบจองเลยเพื่อไม่ให้พลาดภารกิจตามรอยซีรีส์เกมออฟโธรนส์ในไอซ์แลนด์ด้วยการไปเยือนสถานที่ต่างๆ ที่ใช้ในการถ่ายทำ
คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - เดินทางมาถึงไอซ์แลนด์และรับรถเช่า
ขอต้อนรับสู่ไอซ์แลนด์ หรือจะเรียกว่าทวีปเวสเทอรอส ซึ่งเป็นดินแดนของน้ำแข็งและไฟก็ได้ เที่ยวบินของคุณจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) และคุณจะรับรถเช่าสำหรับการเดินทางในทริปนี้จากที่สนามบิน จากนั้นคุณจะขับรถมุ่งหน้าเข้าเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) เมืองหลวง เพื่อเช็คอินเข้าที่พักของคุณในช่วงเย็น
คุณอาจจะอยากใช้เวลาที่เหลือของวันนี้พักผ่อนเอาแรงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเที่ยวในวันพรุ่งนี้ก็ได้ แต่ถ้าคุณยังไม่เหนื่อย คุณอาจจะออกไปสำรวจชีวิตกลางคืนที่น่าตื่นเต้นของเมืองเรคยาวิกสักหน่อย เมืองนี้เหมาะสำหรับการเดินเล่นตอนกลางคืนและมีอาหารมื้อดึกให้เลือกลิ้มลองมากมาย

วัน 2 - วงกลมทองคำ
คุณและผองเพื่อนผู้ร่วมเดินทางจะออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ นั่นก็คือวงกลมทองคำ ซึ่งประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลักสามแห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) หุบเขาความร้อนใต้พิภพเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)
ธิงเวลลีร์นี้ใช้ในการถ่ายทำซีรีส์ด้วยโดยใช้เป็นฉากของเอียรี โดยคุณจะได้ไปเที่ยวที่อัลมานายอง (Almannagja) ซึ่งเป็นหุบเขาหยึกหยักที่ตั้งตระหง่านอยู่ในเขตธิงเวลลีร์ ในเรื่องใช้เป็นทางเข้าเอียรีในซีซั่น 3 ที่มีอาร์ย่า สตาร์ค กับนิ้วก้อยเป็นตัวเดินเรื่อง
ส่วนอีกสองแห่งนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ เฮยคาดาลูร์ เป็นพื้นที่ที่มีน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) และสโทรคูร์ (Strokkur) ตั้งอยู่ โดยสโทรคูร์นั้นพ่นน้ำสูงถึง 66 ฟุต (20 ม.) ในทุก 5-10 นาที และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ที่อยู่ห่างออกไปเพียงครู่เดียว มีน้ำจากธารน้ำแข็งไหลลดหลั่นผ่านผาหินสองชั้นด้วยความสูงรวม 105 ฟุต (32 ม.) ทั้งสองสถานที่นี้จะทำให้คุณประทับใจกับทริปเที่ยวไอซ์แลนด์วันที่สองนี้ไปอีกนานแสนนาน
นอกจากนี้ ในวันที่สองคุณยังมีโอกาสเพิ่มกิจกรรมเสริมเข้าไปในทริปได้ด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณล้วนๆ คุณอาจจะเพิ่มทริปดำน้ำสน็อกเกิลเพื่อลงไปแหวกว่ายในสายน้ำที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งในรอยแยกซิลฟรา (Silfra) ซึ่งมีวิวใต้น้ำที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อและมีน้ำที่ใสมากจนสามารถมองเห็นได้ไกลถึง 100 เมตร หรือคุณอาจจะเลือกไปขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ที่ส่องประกายระยิบระยับก็แล้วแต่คุณเลย ที่นี่จะเป็นประสบการณ์ที่สนุกตื่นเต้นมากที่สุดอย่างหนึ่งในไอซ์แลนด์ หรือหากคุณอินกับโลกของเกมออฟโธรนส์เอามากๆ และอยากเข้าถึงตัวละครโปรดของคุณ คุณอาจจะเลือกไปร่วมกับทัวร์ขี่ม้า เพื่อควบม้าเหยาะๆ ชมวิวชนบทที่สวยงามของไอซ์แลนด์ก็ได้เช่นกัน
จากนั้นคุณจะไปพักค้างคืนในเมืองเล็กๆ ทางใต้ที่ชื่อเซลฟอสส์ (Selfoss) แถวนั้นมีบ้านเรือนอยู่แค่ไม่กี่หลังเท่านั้น จึงเหมาะกับการไปดูแสงเหนือด้วยหากคุณไปในช่วงหน้าหนาว

วัน 3 - ชายฝั่งทางใต้
ชายฝั่งทางใต้เป็นอีกพื้นที่หนึ่งของไอซ์แลนด์ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและยังเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากอีสต์วอทช์ที่ตั้งอยู่ริมทะเลด้วย ซึ่งเป็นปราสาทแห่งเดียวของเดอะเกรทวอลล์ที่อยู่ริมชายฝั่งและเป็นฉากจบที่น่าทึ่งของซีซั่น 7
วันที่สามนี้คุณจะไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวล้ำค่ามากที่สุดส่วนหนึ่งบนชายฝั่งทางใต้ ซึ่งรวมถึงน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) นำ้ตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) และหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ใกล้กับหมู่บ้านวิก (Vik) ซึ่งคุณจะพักค้างคืนในคืนนี้ สถานที่เหล่านี้คือจุดหลักๆ บนชายฝั่งทางใต้ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซีอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ วันนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปในทริปได้ ทั้งการปีนธารน้ำแข็งบนผืนน้ำแข็งที่โซลเฮมาโจกุลล์ (Solheimajokull) และการเข้าไปชมถ้ำน้ำแข็งที่ภูเขาไฟคัทลา (Katla)

วัน 4 - ชายฝั่งทางใต้ (ต่อ)
จุดหมายปลายทางหลายแห่งที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้มีความเกี่ยวพันกับการถ่ายทำเกมออฟโธรนส์ เช่น เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ซึ่งการปีนธารน้ำแข็งที่สกัฟตาเฟลล์จะทำให้คุณมองลงมาเห็นภูมิประเทศของเวสเทอรอสและได้ดื่มด่ำกับวิวที่ทำให้ทั้งซีรีส์เกมออฟโธรนส์และไอซ์แลนด์มีความน่าสนใจ ดังนั้นแนะนำให้จองทัวร์ปีนธารน้ำแข็งด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวหลักของวันนี้ถือเป็นสุดยอดของอัญมณีแห่งไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon) มีภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาลอยตัวอยู่บนผิวน้ำที่นิ่งสนิทและวาววับจับตา และยังเป็นถิ่นของแมวน้ำที่ล้อมรอบด้วยวิวที่งดงามของภูเขาและผืนน้ำแข็งจึงเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งที่สุดของไอซ์แลนด์อย่างไม่ต้องสงสัย
เดินไปอีกไม่ไกลก็จะมีหาดไดมอนด์ที่ทอดยาวอยู่ริมทะเล และบนหาดมีภูเขาน้ำแข็งถูกพัดขึ้นมาเกยบนทรายสีดำมากมายในขณะที่พวกมันกำลังเดินทางออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก หากคุณเดินทางมาในช่วงหน้าร้อน คุณสามารถเพิ่มกิจกรรมล่องเรือเร็วโซดิแอกหรือเรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่แล่นช้าหน่อยเข้าไปในทริปวันนี้ได้ ซึ่งเรือทั้งสองแบบจะพาล่องทะเลสาบโจกุลซาลอนเพื่อเข้าไปชมภูเขาน้ำแข็งแบบใกล้ชิด
ส่วนผู้ที่มาในหน้าหนาวก็สามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่อยู่ในวัทนาโจกุลเข้าไปในทริปวันนี้ได้ ถ้ำน้ำแข็งที่นี่จะออกสีฟ้ามากกว่าถ้ำน้ำแข็งที่อยู่บนชายฝั่งทางใต้ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาในช่วงเดือนหน้าหนาวของไอซ์แลนด์
คุณจะพักค้างคืนที่เฮิฟน์ (Hofn) ร้านอาหารทุกแห่งในเมืองนี้เสิร์ฟกุ้งล็อบสเตอร์ไอซ์แลนด์แสนอร่อย ซึ่งนอกจากจะเหมาะสำหรับแวะรับประทานอาหารเย็นแล้วยังเหมาะกับการมาดูแสงเหนือในช่วงหน้าหนาวด้วย

วัน 5 - ฟยอร์ดทางตะวันออก
ฟยอร์ดทางตะวันออกเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีคนไปเที่ยวน้อยเมื่อเทียบกับที่อื่นในไอซ์แลนด์ ซึ่งสาเหตุหลักเป็นเพราะอยู่ห่างจากเมืองหลวงมาก แต่ในแผนการเดินทางของทริป 10 วันนี้ คุณจะมีเวลามากเกินพอในการสัมผัสกับสถานที่น่าตื่นเต้นแห่งนี้อย่างลึกซึ้ง ฟยอร์ดทางตะวันออกมีภูมิประเทศที่งดงาม มีฝูงเรนเดียร์ป่ามากมาย และมีหมู่บ้านชาวประมงที่น่าสนใจ
สต็อคสเนส (Stokksnes) เป็นอีกจุดหนึ่งที่คุณอาจจะเดินทางไปชม ที่นี่เป็นที่ตั้งของภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ที่มักเรียกกันว่า "ภูเขาค้างคาว" หรือ "ภูเขาที่มีเขาแหลมที่สุดในไอซ์แลนด์" เพราะว่ามียอดแหลมหยึกหยักที่มองดูเหมือนเป็นลางร้ายทิ่มแทง
คุณจะเดินทางขึ้นไปตามแนวชายฝั่ง และขับซิกแซกซอกแซกผ่านฟยอร์ดหลายแห่งของภาคตะวันออกจนไปถึงที่พักซึ่งอยู่ในเมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstadir) และถึงแม้ว่าในไอซ์แลนด์จะไม่มีมังกรแต่ตามตำนานก็บอกว่ามีสัตว์ประหลาดคล้ายหนอนยักษ์อาศัยอยู่ในทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljot) ที่อยู่ใกล้กับเมืองนี้

วัน 6 - ทะเลสาบมิวาทน์
วันนี้คุณจะเดินทางออกจากเอกิลสตาดีร์เพื่อไปยังทะเลสาบมิวาทน์ (Myvatn) ที่โด่งดัง พื้นที่รอบทะเลสาบแห่งนี้คือค่ายของคนเถื่อน (Wildling Camp) ในซีรีส์เกมออฟโธรนส์ ซึ่งเป็นดินแดนหนาวเหน็บนอกกำแพงที่ชนเผ่าป่าเถื่อนโหดร้ายอาศัยอยู่
ในโลกของความเป็นจริง พื้นที่แถบมิวาทน์นี้มีลักษณะภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยเนินภูเขาไฟ เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงามและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) หรือป้อมปราการแห่งความมืดมิด หุบเขาพลังงานความร้อนใต้พิภพเนามาส์การ์ด (Namaskard) และถ้ำเกรียวตาเกาจ์ (Grjotagja) ที่ใช้เป็นรังรักของจอน สโนว์ และอีกริต หญิงคนรักที่เป็นกลุ่มชนเสรี
คุณสามารถเพิ่มกิจกรรมเสริมเข้าไปในทริปวันนี้ได้เช่นกัน การไปแช่ตัวในอ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์นั้นสบาย และได้สัมผัสบรรยากาศที่สวยงามเหมือนๆ กับการไปบลูลากูน แถมมีราคาถูกกว่า และยังมีบรรยากาศเงียบสงบมากกว่าที่บลูลากูนสปาซึ่งเป็นที่รู้จักมากกว่าด้วย
เมื่อสิ้นสุดวันคุณจะเดินทางไปยังเมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) ซึ่งคุณจะพักค้างคืนที่นี่ในคืนนี้

วัน 7 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
วันนี้คุณจะเดินทางไปทางตะวันตกเพื่อสำรวจคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส หรือที่เรียกกันว่าเป็น "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ทั้งน้ำตก ธารน้ำแข็ง แนวชายฝั่งเว้าแหว่ง ภูเขา ปากปล่องภูเขาไฟ และทุ่งแมกมาที่น่าตื่นตาตื่นใจรอให้ผู้กล้าหาญเดินทางเข้าไปสัมผัส
บริเวณรอบภูเขาเคิร์คจูแฟสเป็นจุดที่มีการถ่ายภาพมากที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งภูเขานี้อยู่ทางตอนเหนือของคาบสมุทรและยังเป็นฉากสำคัญในเกมออฟโธรนส์ด้วยทั้งในซีซั่น 3 และ 7 ซึ่งซีซั่น 3 นั้นถ่ายทำในหน้าร้อนจึงมีความเขียวชอุ่มสดชื่นและเป็นตอนที่เด็กแห่งพงไพรสร้างไวท์วอล์กเกอร์ขึ้นมาครั้งแรก ส่วนซีซั่น 7 เดอะฮาวด์ได้พูดถึงภูเขาลูกนี้ว่าเป็น "ภูเขาแอร์โรว์เฮด" คือมียอดเหมือนหัวลูกศร เมื่อตอนที่จอน สโนว์และพรรคพวกกำลังสำรวจพื้นที่ "นอกกำแพง"
คุณจะใช้เวลาในวันนี้สำรวจความน่าตื่นตาตื่นใจของดินแดนแถบนี้ ก่อนที่จะเดินทางไปยังที่พักซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน

วัน 8 - เดินทางกลับเรคยาวิก
วันนี้คุณจะเดินทางกลับเข้าไปในเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ และระหว่างเดินทางจะหยุดแวะเที่ยวสถานที่ต่างๆ ด้วย ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์เป็นดินแดนที่มหัศจรรย์อย่างแท้จริงและเต็มไปด้วยน้ำตก ธารน้ำแข็ง ทุ่งลาวา รวมถึงมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผืนดินรอบฟยอร์ดบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ (Borgarfjordur) นั้นเป็นเขตที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยที่มีการเข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ๆ และมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายดังจะเห็นได้จากตำนานซากาของไอซ์แลนด์
เช่นเดียวกันกับวันอื่นๆ วันนี้คุณก็สามารถเพิ่มกิจกรรมเสริมเข้าไปในทริปได้ ซึ่งสไนล์แฟลซเนสไม่เพียงถูกเลือกใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำเกมออฟโธรนส์เท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีบทบาทสำคัญในนิยายคลาสสิกของจูลส์ เวิร์น เรื่อง 'Journey to the Center of the Earth' ด้วย ซึ่งวันนี้คุณสามารถลงไปผจญภัยในโลกใต้พิภพที่คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสได้เหมือนกันเมื่อเลือกเพิ่มทัวร์ที่พาไปถ้ำลาวาวาทน์เฮลลิร์ (Vatnshellir)
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับกิจกรรมวันนี้คือการพาตัวเองไปแช่น้ำอุ่นที่เครยมาสปา (Krauma) น้ำที่นี่มีต้นกำเนิดมาจากน้ำพุร้อนเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป และเพื่อให้มีอุณหภูมิเย็นลงจนเหมาะสมกับการแช่อาบ จึงมีการนำน้ำจากธารน้ำแข็งที่มีขนาดเล็กที่สุดในไอซ์แลนด์มาผสม

วัน 9 - หนึ่งวันในเรคยาวิก
เรคยาวิกเป็นหนึ่งในเมืองที่ดูเหมือนว่าจะสร้างมาเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ด้วยว่ามีแลนด์มาร์คทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เช่น โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) หอชมวิวพาร์ลาน (Perlan) และฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa) ซึ่งเป็นศูนย์ประชุมด้วย อีกทั้งยังมีแกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร ร้านค้าอีกจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการสำรวจทุกซอกทุกมุมของเมืองหลวงแห่งนี้
กิจกรรมเสริมที่สามารถเพิ่มเข้าไปในทริปวันนี้ก็มีหลากหลายเช่นกันและล้วนมีความสนุกตื่นเต้นเรียกอะดรีนาลีนได้อย่างดี หนึ่งในนั้นคือการนั่งเฮลิคอปเตอร์ที่ออกเดินทางจากสนามบินภายในประเทศที่อยู่ในเมืองเรคยาวิก โดยจะพาขึ้นบินไปชมแนวภูเขาไฟที่อยู่รอบเมือง ก่อนจะไปลงจอดที่พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพแห่งใดแห่งหนึ่ง การได้ไปเที่ยวสถานที่เหล่านี้ ไม่เพียงทำให้ได้สัมผัสว่าไอซ์แลนด์เป็นพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพอย่างแท้จริงแล้ว ยังทำให้คุณได้เห็นไอซ์แลนด์จากมุมสูงซึ่งให้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปอีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่มาในช่วงหน้าร้อนยังสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมทัวร์ชมข้างในภูเขาไฟ (อินไซด์ดิโวลเคโน) เข้าไปในทริปวันนี้ได้ด้วย โดยคุณจะโดยสารลิฟต์ลงไปยังแอ่งภูเขาที่สงบแล้ว เพื่อไปดูการก่อตัวของลาวาภายในโถงขนาดใหญ่ที่ทั้งมหัศจรรย์และมีสีสันสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ

วัน 10 - เดินทางกลับบ้านและส่งคืนรถเช่า
วันนี้คือวันสุดท้ายของทริปตามรอยเกมออฟโธรนส์แล้ว หากเที่ยวบินของคุณออกสายหน่อย คุณอาจจะมีเวลาเหลือให้เที่ยวในเมืองได้อีกเล็กน้อย แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาเหลือมากนัก ก็เช็คเอาท์แล้วเดินทางไปสนามบินเคฟลาวิกเพื่อส่งคืนรถเช่าและขึ้นเครื่องบินกลับบ้านได้เลย
ขอบคุณที่มาเยือนเวสเทอรอสและเราหวังว่าคุณจะกลับมาเที่ยวอีกครั้ง
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองนี้สามารถเริ่มออกเดินทางได้ทั้งจากในตัวเมืองเรคยาวิกและจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ทั้งนี้คนขับจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนถนนอย่างน้อย 1 ปี อย่างไรก็ตามรายละเอียดการเดินทางที่คุณได้รับอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย
โปรดทราบว่าสำหรับกิจกรรมบางอย่างที่คุณเลือก คุณอาจจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ หรือคุณอาจจะต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนการเดินทางของคุณ และคุณอาจจะต้องแสดงเอกสารรับรองทางการแพทย์ในการดำน้ำตื้น
สำหรับการไปเที่ยวภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Þríhnjúkagígur) ห้ามสวมใส่ผ้าคอตตอนหรือผ้ายีนส์ทับที่ชั้นนอก กรุณาสวมเสื้อผ้าที่กันน้ำได้และสวมรองเท้าสำหรับปีนเขาที่มีความคงทนแข็งแรง อุณหภูมิภายในปล่องภูเขาไฟมักจะอยู่ที่ 5–6°C (42–43°F) และคุณจะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (2 ไมล์) ต่อเที่ยว ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 45–50 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนในคณะทัวร์) ระหว่างที่เดินนี้จะมีไกด์ดูแลตลอดเวลา
ส่วนแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมองเห็นหรือไม่ และมีโอกาสมองเห็นแสงเหนือได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น อย่างไรก็ตามแผนการเดินทางนี้ออกแบบมาเพื่อให้คุณมีโอกาสมองเห็นแสงเหนือมากที่สุดในกรณีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย
นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวพื้นถนนและทางเท้าของไอซ์แลนด์จะลื่นมาก เราแนะนำให้คุณนำรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นหรือนำอุปกรณ์หุ้มรองเท้าที่สามารถยึดเกาะน้ำแข็งได้ติดตัวมาด้วย สำหรับอุปกรณ์หุ้มรองเท้านั้น คุณสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือสถานีบริการน้ำมันส่วนใหญ่ในไอซ์แลนด์
นอกจากนี้ยังมีความเป็นได้ว่ากิจกรรมบางอย่างอาจจะต้องถูกยกเลิกไปหากสภาพภูมิอากาศไม่เหมาะสม และถ้ากิจกรรมที่คุณเลือกถูกยกเลิก เราจะช่วยจัดการให้คุณใหม่ หรืออาจจะทำการจองกิจกรรมอื่นๆ ให้แทนเท่าที่จะสามารถทำได้ และเรายินดีที่จะคืนเงินส่วนต่างให้กับคุณ
ทัวร์นี้สามารถออกเดินทางได้ตลอดทั้งปี หากคุณมาเที่ยวในฤดูหนาว เราแนะนำให้คุณอัปเกรดรถเช่าเป็นรถแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4
ที่พัก
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล
สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม
ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
เตียงแบบหอพัก พร้อมห้องน้ำรวมในเกสต์เฮาส์หรือโฮสเทล ที่พักตั้งอยู่ในบริเวณที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำรวมในฟาร์มเฮ้าส์ เกสต์เฮ้าส์ หรือโฮสเทล อยู่ในทำเลดีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า
รถยนต์
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)
ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป