ทัวร์ขับรถเที่ยวเองในฤดูร้อน 10 วัน เที่ยวภาคตะวันตกเฉียงเหนืออันห่างไกลของไอซ์แลนด์ สไนแฟลซเนส และฟยอร์ดทางตะวันตก

ขายเกือบหมดแล้ว
ขายเกือบหมดแล้ว
ไม่คิดค่ายกเลิก
บริการ 24 ชั่วโมง
แผนการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
ปรับแต่งได้ตามต้องการ

คำอธิบาย

สรุป

เริ่มจาก
Iceland
สิ้นสุดใน
Iceland
ระยะเวลา
10 วัน และ 9 คืน
ระดับความยาก
ง่าย
มีบริการ
พ.ค. - ก.ย.
ที่พัก
รวม 9 คืน
รถเช่า
รวม 10 วัน

คำอธิบาย

ด้วยแพ็คเกจขับรถเที่ยวเองในฤดูร้อน 10 วันนี้คุณจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ได้ไปเยือนพื้นที่ห่างไกลของฟยอร์ดทางตะวันตก และไปสำรวจทางเหนือของไอซ์แลนด์แบบเจาะลึก ทริปนี้จะเป็นการเดินทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางอิสระที่ต้องการเที่ยวไอซ์แลนด์ตามเงื่อนไขที่กำหนดเอง

ทัวร์ 10 วันอันน่าจดจำของคุณเริ่มต้นเมื่อคุณรับรถเช่าจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกหรือเมืองเรคยาวิก แพ็คเกจนี้รวมรถเช่าของคุณและที่พัก 9 คืน ทุกอย่างได้รับการจัดเตรียมไว้สำหรับคุณแล้ว ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือเดินทางให้สนุก

ลูกค้าที่ขับรถเที่ยวเองจะได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่านักท่องเที่ยวโดยทั่วไป ตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่ขับรถเที่ยวเองสามารถเข้าถึงฝ่ายบริการลูกค้าได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการท่องเที่ยวที่คนอื่นไม่รู้และเดินทางได้อย่างปลอดภัย

ในสิบวันนี้คุณสามารถเที่ยวตามแผนการเดินทางที่ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าได้เลย โดยแผนนี้จะออกแบบขึ้นตามตัวเลือกที่คุณเลือก และมีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการตามที่คุณเพิ่มไว้ในระหว่างที่คุณทำการจอง ซึ่งง่ายมากๆ แพ็คเกจนี้จะช่วยให้คุณได้เที่ยวอย่างเป็นส่วนตัว และสำหรับรถเช่าและที่พัก คุณจะมีตัวเลือกมากมายทั้งในระดับคอมฟอร์ทและควอลิตี้

การเลือกทัวร์ขับรถเที่ยวเองเช่นนี้ช่วยให้แน่ใจว่าทริปของคุณจะครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำทั้งหมด พร้อมทั้งได้รับความรู้ในท้องถิ่นเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวลับ และคุณยังมีความยืดหยุ่นในการขับรถไปยังที่ต่างๆ ด้วย

แผนการเดินทางนี้จะพาคุณเดินทางจากเมืองเรคยาวิกขึ้นไปทางเหนือไปยังคาบสมุทรสไนแฟลซเนส จากนั้นไปยังฟยอร์ดทางตะวันตก คาบสมุทรสไนแฟลซเนสได้รับฉายาว่า "ไอซ์แลนด์ขนาดจิ๋ว" ซึ่งได้รับการยกย่องจากความหลากหลายและแหล่งท่องเที่ยวมากมายในภูมิภาคเดียว ฟยอร์ดทางตะวันตกเป็นจุดหมายปลายทางอันห่างไกลที่มีบรรยากาศเงียบสงบและมีสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจ

ตั้งแต่วันที่หก คุณจะขับรถข้ามไอซ์แลนด์เหนือและชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ คุณจะได้เยี่ยมชมเมืองอาคูเรย์ริที่มีชีวิตชีวา เทียบได้กับเมืองหลวงของภาคเหนือ และค้นพบความมหัศจรรย์ของความร้อนใต้พิภพในบริเวณทะเลสาบมิวาทน์

นอกจากนี้ คุณยังจะได้ตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทางไดมอน์เซอร์เคิล ซึ่งเป็นเส้นทางขับรถทางเหนือของไอซ์แลนด์ ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิก คุณสามารถคืนรถที่เมืองเรคยาวิกหรือที่สนามบินก็ได้

คุณมีโอกาสอันยอดเยี่ยมในการเพิ่มกิจกรรมพิเศษให้กับแผนการเดินทางนี้ เลือกเข้าร่วมทัวร์ชมวาฬที่น่าตื่นเต้น ทริปหนึ่งวันในพื้นที่ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์ หรือแม้แต่สัมผัสประสบการณ์ที่สปาเบียร์แห่งแรกของประเทศไอซ์แลนด์! ตั้งแต่การสำรวจถ้ำไปจนถึงการพายเรือคายัคและการอาบน้ำพุร้อน มีตัวเลือกที่น่าตื่นเต้นมากมายในการเพิ่มการผจญภัยให้คุณเลือกเพิ่มและปรับแต่งการเดินทางของคุณให้เหมาะกับคุณมากขึ้น

อิสรภาพที่ได้รับจากการเที่ยวแบบขับรถเที่ยวเองจะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงามของไอซ์แลนด์ คุณจะได้เห็นน้ำตกที่มีสายน้ำไหลลดหลั่น ภูเขาสูงตระหง่าน หุบเขาที่น่าอัศจรรย์ และธารน้ำแข็งสีขาววาววับตลอดการเดินทางในทริปนี้คุณ โดยที่คุณไม่ต้องรีบร้อนเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งด้วย คุณสามารถใช้เวลาซึมซับความมหัศจรรย์ของสถานที่แต่ละแห่งได้อย่างเต็มที่

ดังนั้น อย่ารอช้าอีกเลย! ไม่มีความเสี่ยงใดๆ เมื่อคุณจองทัวร์ 10 วันแพ็คเกจนี้ เนื่องจากสามารถทำการยกเลิกได้ฟรีล่วงหน้าสูงสุด 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทางของคุณ

รีบจองตอนนี้แล้วคุณจะได้ไปเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยทัวร์ขับรถเองฤดูร้อน 10 วัน และพาตัวเองไปสำรวจสไนแฟลซเนส ฟยอร์ดทางตะวันตก อาคูเรย์ริ ทะเลสาบมิวาทน์ และอีกมากมายในแบบที่คุณต้องการ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้ตอนนี้เลยโดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง

อ่านเพิ่ม

รวมในแพ็คเกจ

ที่พัก 9 คืน
อาหารเช้าแบบคอนติเนนตัลทุกวัน
รถเช่า 10 วัน ใช้รถใหม่
ประกันรถเช่า CDW
ประกันภัยคุ้มครองรถยนต์จากกรวด
ไม่จำกัดระยะทาง
Wi-Fi ในรถยนต์ไม่จำกัด
แผนการเดินทางและกำหนดการโดยละเอียด
ตัวแทนท่องเที่ยวส่วนบุคคล สายด่วนช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีทั้งหมด

จุดหมายปลายทาง

เรคยาวิก / 2 คืน
สไนแฟลซเนส / 1 คืน
ฟยอร์ดตะวันตก / 3 คืน
ไอซ์แลนด์เหนือ / 1 คืน
Northeast Iceland / 2 คืน

แผนที่

สถานที่ท่องเที่ยว

คู่มือท่องเที่ยว หาดอิทรี ทุงกา
คู่มือท่องเที่ยว บูดิร์
สไนแฟลส์โจกุล
โลนตรังการ์
ดยูฟาโลนซานตูร์
คู่มือท่องเที่ยว คิร์กจูเฟลล์
ฟลาทเอย์
คู่มือท่องเที่ยว เรยดิซานดูร์
ตินยานติ
คู่มือท่องเที่ยว ครอสเนสเลยก์
ฮวิทแซร์คูร์
คู่มือท่องเที่ยว โทรลลาสกากิ
คู่มือท่องเที่ยว คยาร์นาสโคกูร์
น้ำตกโกดาฟอสส์
มิวาทน์
Mt. Namafjall (Namaskard)
เกรียวตาเกาย์
คู่มือท่องเที่ยว ดิมมูบอร์กิร์
เคลย์ฟาร์วาท์น
ครีซูวิก
กุนนุแควร์

กิจกรรม

เที่ยวถ้ำ
พายเรือคายัค
ไฮกิ้ง (เดินป่า)
เที่ยวชมสถานที่
ล่องเรือ
แช่น้ำพุร้อน
กิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรม
ขับรถเที่ยวเอง

รายละเอียดการเดินทาง

Travel dates

ผู้เดินทาง

รถ

รถ

รถขนาดเล็ก

รถขนาดเล็ก

Category
รถขนาดเล็ก
Transmission
People
Large bags
รถขนาดกลาง

รถขนาดกลาง

Category
กลาง
Transmission
People
Large bags
รถพรีเมี่ยม

รถพรีเมี่ยม

Category
รถพรีเมียม
Transmission
People
Large bags
large car

large car

Category
ขนาดใหญ่
Transmission
People
Large bags
SUV

SUV

Category
JEEPSUV
Transmission
People
Large bags

ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ

วันที่ 1

วันที่ 1 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
  • มากกว่า

ยินดีต้อนรับสำหรับวันแรกของคุณในประเทศไอซ์แลนด์!

หลังจากที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) คุณจะไปรับรถที่คุณจะใช้เป็นพาหนะในอีกสิบวันข้างหน้า และออกเดินทางไปยังเรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่อยู่ในทางเหนือสุดของโลกในทันที

ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถแวะที่สปาพลังงานความร้อนใต้พิภพบลูลากูน (Blue Lagoon) ก่อนได้ สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา สปาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ทำให้มีบรรยากาศแปลกตา

หากคุณเลือกเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริป กิจกรรมนี้จะถูกจัดเข้าในโปรแกรมการเดินทางให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากคุณยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปในวันนี้ ก็ยังสามารถไปในวันอื่นได้ โดยที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ และถึงแม้จะไม่ได้ไปบลูลากูนในวันนี้ ในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนสก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่หากคุณมีเวลาเหลือ

ในขณะที่ขับรถไปยังที่พักของคุณในเมือง คุณจะได้เห็นทัศนียภาพและธรรมชาติที่น่าทึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ คาบสมุทรเรคยาเนสซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศประกอบด้วยแนวชายฝั่งที่ขรุขระ ทุ่งภูเขาไฟที่แห้งแล้ง และมีภูเขาที่อยู่ไกลออกไปเป็นฉากหลัง และเมื่อวิวชนบทค่อยๆ ผ่านพ้นไปและความเจริญของเมืองเรคยาวิกค่อยๆ ปรากฏเข้ามาแทนที่ นั่นหมายถึงว่าคุณได้เดินทางมาถึงศูนย์กลางความเจริญของประเทศไอซ์แลนด์แล้ว

หากคุณไม่ได้เลือกไปบลูลากูนในวันนี้และต้องการประสบการณ์สปาที่แตกต่าง คุณสามารถจองการเข้าใช้บริการซีเครทลากูนได้ สกายลากูนอยู่นอกเมืองเรคยาวิกและมีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นพร้อมทิวทัศน์มหาสมุทรอันตระการตา สปามีการปรนนิบัติด้วยสคโยล์ บาธติ้ง ริชวล ซึ่งมีรากฐานมาจากสุขภาพของชาวไอซ์แลนด์แบบดั้งเดิม เพื่อมอบประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และผ่อนคลาย

หลังจากเก็บสัมภาระในที่พักของคุณแล้ว คุณสามารถออกไปสำรวจเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้ได้อย่างอิสระ และเนื่องจากช่วงฤดูร้อนมีปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนคุณจึงมีแสงสว่างมากเพียงพอสำหรับการไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ได้มากมาย แนะนำว่าให้ไปชมสถาปัตยกรรมสวยๆ ของฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa) และโบสถ์คริสตจักรลูเธอรันฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja)

คุณสามารถไปเดินถนนเรนโบว์สตรีท ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมิตรของชาวไอซ์แลนด์ที่มีต่อชุมชน LGBTQ และจากนั้นไปถนนเลยกาแวร์กูร์ (Laugavegur) ที่มีอาคารสีสันสดใส สตรีทอาร์ต และสถานที่กินและดื่มชั้นเลิศ

หากคุณมีเวลา คุณยังสามารถไปชมนิทรรศการทางวัฒนธรรมหรือสวนสาธารณะของเมืองนี้ได้ด้วย ที่สระทเยิร์นนิน (Tjornin) คุณสามารถไปนั่งชมห่านและเป็ด และบริเวณสวนสาธารณะฮลิยอมสกาลา (Hljomskala) เป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองที่น่าเดินเล่นและอ่านข้อมูลเกี่ยวกับประติมากรรมต่างๆ ในสวน
เมื่อคุณต้องการพักผ่อน คุณก็สามารถกลับเข้าที่พักของคุณในคืนนี้ซึ่งอยู่ในเรคยาวิก

อ่านเพิ่ม

ที่พักในวันที่ 1

ประสบการณ์ในวันที่ 1

วันที่ 2

วันที่ 2 - สไนแฟลซเนส

  • สไนแฟลซเนส
  • มากกว่า
  • หาดอีทรี ทุงกา
  • หมู่บ้านบูดิร์
  • สไนล์เฟลล์โจกุลล์
  • หน้าผาหินบะซอลต์ลอนดรังการ์
  • หาดกรวดดำที่ดยูปาลอนส์ซานดูร์
  • ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
  • มากกว่า

คาบสมุทรสไนแฟลซเนสมักถูกเรียกว่า "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เนื่องจากแถบนี้มีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายรูปแบบผสมปนเป ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมักจะแปลกใจกับภูมิทัศน์ที่มหัศจรรย์ สัตว์ป่านานาชนิด และบรรยากาศที่ตรึงตาตรึงใจราวกับมีมนต์ขลัง และในขณะที่ชื่นชมสภาพแวดล้อมที่เหลือเชื่อเหล่านี้ คุณจะอยู่ใต้เงาของสไนเฟลลส์โจกุล (Snaefellsjokull) ภูเขาไฟที่เกิดจากการสลับชั้นของลาวา (Stratovolcano) และมีธารน้ำแข็งปกคลุมยอดซึ่งเป็นที่มาของชื่อของคาบสมุทรแห่งนี้

การเที่ยวที่นี่นั้นคุณอาจจะเริ่มจากหาดทรายอิทรี ทุงกา (Ytri-Tunga) ที่มีแมวน้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งคุณสามารถเดินเล่นริมชายฝั่งและเข้าไปดูพวกมันใกล้ๆ ได้เลย สัตว์ที่อยากรู้อยากเห็นเหล่านี้อาจจะกำลังเล่นน้ำหรือพักผ่อนบนโขดหินและหาดทรายสีทอง

จากนั้นคุณสามารถไปที่หมู่บ้านอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) และหมู่บ้านเฮลล์นาร์ (Hellnar) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์เพื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ริมชายฝั่งทะเล ก่อนที่จะไปชมสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายกันต่อ เช่น หาดดยูปาโลนสซานดูร์ (Djupalonssandur) ที่เต็มไปด้วยกรวดสีดำ และภูเขาคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell)

หาดดยูปาโลนสซานดูร์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งและมีสิ่งที่น่าสนใจที่เรียกว่า "หินยก" (Lifting Stones) ซึ่งหินก้อนใหญ่ทั้งสี่ก้อนนี้เคยถูกใช้ทดสอบความแข็งแกร่งของชาวประมงไอซ์แลนด์ คุณเองก็สามารถทดลองยกดูได้เพื่อลองสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น

ภูเขาคิร์กจูเฟลล์เป็นภูเขาตระหง่านที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามตามธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ ภูเขาคิร์กจูเฟลล์สูงจากระดับน้ำทะเล 1,500 ฟุต (463 เมตร) มักถูกเรียกว่า "เขาโบสถ์" (Church Mountain) เนื่องจากมียอดทรงกรวยที่โดดเด่น ภาพเงาสะท้อนและสภาพแวดล้อมที่สวยงามทำให้ที่นี่ได้รับสมญานามว่าเป็นภูเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์

คุณสามารถอัปเกรดเพิ่มความตื่นเต้นให้กับทริปในวันนี้ได้ด้วยการไปเที่ยวถ้ำวาทน์เฮลลิร์ (Vatnshellir) ซึ่งคุณจะลงบันไดเวียนไปยังดินแดนใต้พิภพของไอซ์แลนด์เพื่อไปศึกษาธรณีประวัติของประเทศไอซ์แลนด์ และแน่นอนว่าที่คาบสมุทรสไนแฟลซเนสแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นฉากในนิยายชื่อดังของจูลส์ เวิร์นเรื่อง "Journey to The Centre of the Earth"

เมื่อเที่ยวจนหมดวันแล้ว คืนนี้คุณจะเข้าไปพักผ่อนในที่พักที่อยู่คาบสมุทรสไนแฟลซเนส

อ่านเพิ่ม

ที่พักในวันที่ 2

ประสบการณ์ในวันที่ 2

วันที่ 3

วันที่ 3 - ฟยอร์ดตะวันตก

  • ฟยอร์ดตะวันตก
  • มากกว่า
  • เกาะแฟลทเทย์
  • หาดทรายแดงเรยดิซานดูร์
  • มากกว่า

วันนี้มีตัวเลือกมากมาย ดังนั้นคุณควรวางแผนเที่ยวตามที่คุณสนใจ

หากคุณต้องการไปดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงามของฟยอร์ดทางตะวันตก คุณควรออกเดินทางแต่เช้าและไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ที่ออกจากสติกกิโฮลมูร์ (Stykkisholmur) รอบ 9 โมงเช้า สำหรับเฟอร์รี่รอบเช้านี้ คุณจะได้แวะไปเที่ยวที่เกาะเล็กๆ ชื่อแฟลทเทย์ (Flatey)

เกาะแฟลทเทย์ถูกตั้งชื่อตามลักษณะของเกาะที่ค่อนข้างแบนราบ เชื่อกันว่าเกาะเกิดขึ้นในช่วงยุคน้ำแข็งครั้งหลังสุด พื้นที่บนเกาะมีแต่ความเขียวสดสวยงามและมีคนอาศัยอยู่เฉพาะในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น โดยผู้คนที่นี่ยังคงรักษาวิถีดั้งเดิมโดยการทำประมงอย่างโดดเดี่ยวไม่สนโลกสมัยใหม่ภายนอก 

หากคุณเพิ่มเกาะแฟลทเทย์เข้าไปในทริปวันนี้ คุณจะต้องจอดรถทิ้งเอาไว้บนเรือเฟอร์รี่ เพราะบนเกาะนั้นห้ามนำรถขึ้นไปได้อย่างเด็ดขาด แต่คุณก็ไม่ต้องกังวล เพราะในขณะที่คุณเที่ยวบนเกาะแฟลทเทย์อยู่นั้น เรือเฟอร์รี่จะแล่นต่อไปและเจ้าหน้าที่จะนำรถของคุณขึ้นจากเรือไปจอดรอคุณอยู่ที่ลานจอดรถในฟยอร์ดทางตะวันตกรอให้คุณมารับหลังจากเที่ยวเสร็จแล้ว

หากคุณต้องการทดลองลิ้มรสอาหารอร่อยๆ ก่อนที่จะเดินทางไปยังฟยอร์ดทางตะวันตก คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ล่องเรือกินซูชิแบบไวกิ้งเข้าไปในทริปวันนี้ได้ด้วย ทัวร์นี้จะมอบประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป โดยคุณจะนั่งเรือประมงที่สะดวกสบายออกทะเลมุ่งหน้าเข้าหาฟยอร์ดที่อยู่ทางทิศตะวันตก และระหว่างที่คุณชื่นชมธรรมชาติอยู่นั้น ชาวประมงที่มีประสบการณ์จะหาจับปลามาปรุงอาหารให้คุณรับประทานกันสดๆ บนเรือพร้อมกับเครื่องจิ้มอย่างวาซาบิและซอสถั่วเหลือง และเมื่อทัวร์ล่องเรือกินซูชิสิ้นสุดลงคุณจะขับรถไปยังสติกกิชโฮลมูร์เพื่อไปขึ้นเรือเฟอร์รี่รอบบ่ายไปยังฟยอร์ดทางตะวันตก

ทั้งนี้โปรดทราบว่าเรือเฟอร์รี่ไปยังฟยอร์ดทางตะวันตกนั้นมีตารางเดินเรือที่ค่อนข้างจำกัดหากคุณมาในช่วงนอกฤดูร้อน ทำให้ในบางวันจะมีช่วงเวลาที่ให้บริการน้อยลง ดังนั้นหากคุณไม่ได้เดินทางมาเที่ยวในช่วงหน้าร้อน ตัวเลือกนี้อาจจะไม่เหมาะกับคุณและแผนการเดินทางของคุณจะถูกจัดตามวันที่คุณเดินทางมา

เมื่อเดินทางมาที่ฟยอร์ดทางตะวันตก ผานกลาทราบียอร์ก (Latrabjarg) เป็นจุดแวะที่ห้ามพลาด หน้าผาสูงตระหง่านแห่งนี้มีนกอาศัยอยู่จำนวนนับไม่ถ้วน และตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของประเทศไอซ์แลนด์ ทอดยาวไปตามช่องแคบเดนมาร์กเป็นระยะทาง 14 กม. ช่างภาพธรรมชาติและสัตว์ป่าจะต้องถูกใจกับนกหลากหลายสายพันธุ์ที่นี่ เช่น นกสกัว นกกิลเลอมอต และนกพัฟฟินที่โด่งดังมากๆ

นอกจากนี้คุณยังจะได้ไปที่เรยดาซานดูร์ (Raudasandur) ที่แปลว่า "ทรายแดง" ด้วย ชายหาดสีทองแห่งนี้อยู่ในฟยอร์ดทางตะวันตก ซึ่งหาดทรายในเขตฟยอร์ดทางตะวันตกนั้นจะมีทรายสีออกทองหรือชมพู ไม่เหมือนกับหาดทรายดำที่พบได้ทั่วไปในประเทศไอซ์แลนด์ และคุณอาจจะอยากไปที่เบอร์กิเมลูร์ (Birkimelur) สระว่ายน้ำที่ต้ังอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยสดงดงามตามแบบฉบับของไอซ์แลนด์

ในช่วงเย็นของวันที่สามนี้คุณจะไปพักในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในฟยอร์ดตะวันตก

อ่านเพิ่ม

ที่พักในวันที่ 3

ประสบการณ์ในวันที่ 3

วันที่ 4

วันที่ 4 - ฟยอร์ดตะวันตก

  • ฟยอร์ดตะวันตก
  • มากกว่า
  • ดินยานดิ
  • มากกว่า

ฟยอร์ดทางตะวันตกเป็นพื้นที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามและโดดเดี่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเพียงไม่กี่คนต่อปีเมื่อเทียบกับพื้นที่ชายฝั่งทางใต้และตะวันตกเฉียงใต้ที่ได้รับความนิยมมากกว่า จึงทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความตื่นเต้นของการผจญภัยนอกเส้นทางท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

จุดแวะแห่งแรกของคุณในวันนี้คือดินยานดิ (Dynjandi) หรือที่รู้จักกันในชื่อฟยาลล์ฟอสส์ (Fjallfoss) น้ำตกสวยงามไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นที่หลายคนบอกว่ายกให้เป็นดาวเด่นของภูมิภาคนี้ น้ำตกแห่งนี้สูง 100 ม. และเหมาะสำหรับการถ่ายภาพมากๆ

นอกจากนี้คุณยังสามารถไปแวะที่สระน้ำร้อนเรคยาฟยาร์ดาร์เลยก์ (Reykjafjardarlaug) ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฟยอร์ดทางตะวันออกข้างถนนหมายเลข 63 ได้ด้วย น้ำในสระที่นี่มีอุณหภูมิ 32 องศาเซลเซียส และอันที่จริงใกล้ๆ กันแถวนี้ยังมีสระน้ำร้อนอีกหลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุณหภูมิแตกต่างกันไปและอาจจะต้องเดินป่านิดหน่อยเพื่อเข้าไป ซึ่งการไปสระน้ำร้อนในไอซ์แลนด์นั้นเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากด้วยเหตุผลหลายประการ และยังเต็มไปด้วยบรรยากาศที่โรแมนติก หรูหรา และมักจะตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม

คุณยังจะได้ไปชมหมู่บ้านแฟลทเทย์ริ (Flateyri) ซึ่งเป็นหมู่บ้านริมทะเลขนาดย่อมที่มีประชากรประมาณ 267 คนด้วย ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางการประมงและการล่าวาฬ แต่เหตุการณ์หิมะถล่มเมื่อเดือนตุลาคม 1995 ได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตด้วย

และตั้งแต่นั้นก็มีการสร้างเขื่อนสำหรับป้องกันอันตรายให้กับคนในหมู่บ้าน การแวะไปเที่ยวที่นี่คุณจะได้รับข้อมูลอันล้ำค่าทั้งในด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนเล็กๆ ของไอซ์แลนด์

นอกจากนี้คุณจะไปชมเมืองต่างๆ ที่ใหญ่กว่านั้น ได้แก่ อีสาฟยอร์ดูร์ (Isafjordur) และโบลุงการ์วิก (Bolungarvik)

ที่อีสาฟยอร์ดูร์นั้นมีชื่อเสียงจากอาคารไม้แบบดั้งเดิมและพิพิธภัณฑ์เวสต์ฟยอร์ดเฮอริเทจมิวเซียม (Westfjords Heritage Museum) คุณจะได้เดินเล่นบนถนนที่แปลกตาซึ่งเรียงรายไปด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน และดื่มด่ำกับอาหารทะเลสดใหม่ที่ร้านอาหารท้องถิ่นในอีสาฟยอร์ดูร์

ส่วนโบลุงการ์วิกเป็นพื้นที่ที่สร้างขึ้นเพียงแห่งเดียวในเขตเทศบาลโบลุงการ์วิกกูร์กวปสตาดูร์ (Bolungarvikurkaupstadur) และห่างจากโบลุงการ์วิกไปประมาณ 1.6 ไมล์ (2.7 กิโลเมตร) มีพิพิธภัณฑ์ Osvor Maritime พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กแห่งนี้มีบ้านสไตล์เทิร์ฟเฮ้าส์ที่สวยงามให้ชมและจัดแสดงวิธีการตกปลาแบบดั้งเดิม สิ่งประดิษฐ์ในอดีต และเรื่องราวที่น่าสนใจของชีวิตชาวเรือ

วันที่สี่นี้คุณจะพักค้างคืนในที่พักในฟยอร์ดตะวันตก

อ่านเพิ่ม

ที่พักในวันที่ 4

ประสบการณ์ในวันที่ 4

วันที่ 5

วันที่ 5 - ฟยอร์ดตะวันตก

  • ฟยอร์ดตะวันตก
  • มากกว่า
  • ครอสส์เนสเลยก์
  • มากกว่า

วันที่ห้าของการผจญภัยในไอซ์แลนด์คุณจะพบกับสถานที่สวยงามระหว่างทางจากอีสาฟยอร์ดูร์ไปยังโฮลมาวีค (Holmavik) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคสตรานดิ (Strandir)

ก่อนที่คุณจะออกเดินทางในวันนี้ คุณสามารถเข้าร่วมทริปพายเรือคายัค ซึ่งเป็นทัวร์เสริมที่สามารถเพิ่มเข้าไปได้เมื่อคุณจองทัวร์นี้ การพายเรือบนผืนน้ำในฟยอร์ดอันเงียบสงบและชื่นชมทิวทัศน์อันน่าหลงใหลรอบตัวคุณเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด

หนึ่งในสถานที่น่าแวะสำหรับวันนี้คือวิกูร์ (Vigur) เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองในฟยอร์ดอีสาฟยาร์ดาร์ดจูป (Isafjardardjup) ที่ใช้เวลาในการเดินทางด้วยเรือประมาณ 30 นาทีจากอีสาฟยอร์ดูร์ วิกูร์มีความกว้างประมาณ 400 เมตร และยาว 2 กิโลเมตร และเหมาะสำหรับการมาเดินเล่นพักผ่อนชมธรรมชาติและดูนก

เมื่อเดินทางไปตามฟยอร์ดอาล์ฟตาฟยอร์ดูร์ (Alftafjordur) คุณจะผ่านหมู่บ้านริมชายฝั่งชื่อซูดาวิก (Sudavik) ซึ่งใกล้ๆ กับบริเวณหมู่บ้านจะมีอาร์กติกฟ็อกซ์เซ็นเตอร์ (Arctic Fox Center) ที่จัดแสดงความรู้เกี่ยวกับจิ้งจอกอาร์กติกตัวน้อยน่ารักน่าเอ็นดู ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประจำถิ่นเพียงชนิดเดียวของไอซ์แลนด์ ที่นี่คุณจะได้เห็นจิ้งจอกอาร์กติกแบบใกล้ชิดและจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชีววิทยาและประวัติความเป็นมาของสัตว์ที่น่าสนใจ

เมื่อคุณไปถึงที่โฮลมาวีค คุณสามารถเลือกไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เวทมนตร์และคาถาแห่งไอซ์แลนด์ (Museum of Icelandic Sorcery and Witchcraft) ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับมนตร์ดำที่น่าขนลุกขนพองของเมืองนี้ ซึ่งในปี 1654 มีการเผาชายสามคนที่ถูกกล่าวหาว่าใช้เวทมนตร์ทั้งเป็น และเหตุการณ์นี้กลายเป็นต้นกำเนิดของการเผาแม่มดกันอย่างบ้าคลั่งในไอซ์แลนด์จวบจนกระทั่งปี 1690

หากคุณยังมีเวลาในวันนี้ คุณสามารถขับรถไปที่จูพาวิก (Djupavik) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเกือบร้างทางตอนเหนือของโฮลมาวีค และบ้านที่รกร้างและทรุดโทรมจะทำให้คุณได้ภาพถ่ายที่สวยงามจนน่าขนลุก

ถัดไปอีกหน่อยคือบ่อน้ำพุร้อนครอสเนสเลยก์ (Krossneslaug) ซึ่งรู้จักกันในนาม "สระน้ำที่จุดสิ้นสุดของโลก" เนื่องจากสถานที่อยู่ห่างไกล และน้ำจากความร้อนใต้พิภพของสระแห่งนี้มีความเงียบสงบและช่วยฟื้นฟูความกระปรี้กระเปร่าสดชื่นได้ดี แถมยังรายล้อมไปด้วยทัศนียภาพแบบพาโนรามาของหน้าผาที่ขรุขระและมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล

คืนนี้ที่พักของคุณอยู่ในฟยอร์ดตะวันตกใกล้กับโฮลมาวิก

อ่านเพิ่ม

ที่พักในวันที่ 5

ประสบการณ์ในวันที่ 5

วันที่ 6

วันที่ 6 - ไอซ์แลนด์เหนือ

  • ไอซ์แลนด์เหนือ
  • มากกว่า
  • กองหินฮวิทแซร์กูร์
  • คาบสมุทรโทรลล์
  • มากกว่า

เมื่อออกจากฟยอร์ดทางตะวันตกในวันที่หก คุณจะเดินทางข้ามไปทางเหนือเพื่อไปยังเมืองอาคูเรย์ริ ซึ่งระหว่างทางมีสถานที่ท่องเที่ยวและทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ คุณอาจจะเลือกแวะชมฮวิทแซร์กูร์ (Hvitserkur) โขดหินบะซอลต์สูงตระหง่านราว 15 ม. ที่บ้างก็ว่ามีรูปร่างเหมือนโทรลล์ที่กลายเป็นหิน บ้างก็ว่าเหมือนช้าง หรือไม่ก็มังกร และคุณอาจจะแวะชมน้ำตกเรคยาฟอสส์ (Reykjafoss) หรือไปเที่ยวที่ทะเลสาบฮอป (Hop) และทะเลสาบบลอนดูลอน (Blondulon) ด้วยก็ได้ ซึ่งบลอนดูลอนนั้นเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์

บนคาบสมุทรโทรลล์คุณจะเจอกับหมู่บ้านสิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjordur) และหมู่บ้านโฮฟซอส (Hofsos) ซึ่งมีเสน่ห์น่าสนใจ สิกลูฟยอร์ดูร์นั้นเป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือสุดของประเทศและมีธรรมชาติที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์แห่งยุคแฮร์ริ่ง (Herring Era Museum) ที่ได้รับรางวัลพิพิธภัณฑ์ดีเด่นด้วย ส่วนโฮฟซอสนั้นเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศในช่วงทศวรรษ 1500 แต่ปัจจุบันเมืองโฮฟซอสมีชื่อเสียงเรื่องสระว่ายน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพแบบอินฟินิตี้ที่อยู่ท่ามกลางวิวฟยอร์ดและธรรมชาติที่งดงาม

เมืองอาคูเรย์ริที่มีประชากรราว 18,000 คนได้รับฉายาอย่างไม่เป็นทางการว่าเป็น "เมืองหลวงของทางเหนือ" และได้ชื่อว่ามีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และรอบบริเวณยังมีสถานที่น่าสนใจและกิจกรรมให้ทำได้มากมาย อย่างเช่น ไฮกิ้ง

แต่ถ้าคุณอยากเที่ยวแบบผ่อนคลายเสียมากกว่า คุณสามารถเลือกไปสปาเบียร์ที่บิยอร์บอดิน (Bjorbodin) แทนได้ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นำศิลปะในการผลิตเบียร์แบบดั้งเดิมมาผสมผสานเข้ากับคอนเซ็ปต์ของสปาเพื่อมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้มาเยือน การแช่ตัวในอ่างเบียร์อุ่นๆ ซึ่งประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติช่วยและเพิ่มความสดชื่นและผ่อนคลาย และยังอาจช่วยบำรุงผิวได้ด้วย

หากคุณมีเวลาเหลือในช่วงเย็น เมืองอาคูเรย์รินั้นมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย คุณอาจจะไปชมโบสถ์อาคูเรย์ราเคิร์กยา (Akureyrarkirkja) ที่ว่ากันว่าสวยงามน่าประทับใจมากกว่าโบสถ์ในเมืองหลวงเสียอีก ไปสวนพฤกษศาสตร์อาคูเรย์ริ (Akureyri Botanical Gardens) หรือจะออกเที่ยวตามสถานบันเทิงในท้องถิ่นก็น่าสนุกสนานเช่นกัน

เมื่อคุณรู้สึกอยากพักผ่อนแล้ว ให้คุณมุ่งหน้าไปยังที่พักของคุณในไอซ์แลนด์เหนือ

อ่านเพิ่ม

ที่พักในวันที่ 6

ประสบการณ์ในวันที่ 6

วันที่ 7

วันที่ 7 - Northeast Iceland

  • Northeast Iceland
  • มากกว่า
  • คยาร์นาสโกกูร์
  • น้ำตกโกดาฟอสส์
  • พื้นที่แถบทะเลสาบมิวาทน์
  • ช่องเขาเนามาสการ์ด
  • ถ้ำกริโยทากยา
  • การก่อตัวของลาวาที่ดิมมูบอร์กิ
  • มากกว่า

วันที่เจ็ดเป็นวันที่คุณจะไปชมสถานที่น่าประทับใจบนเส้นทางวงแหวนเพชร หรือไดมอนด์เซอร์เคิล (Diamond Circle)

ไดมอนด์เซอร์เคิลเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเหมือนกับเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างวงกลมทองคำ (Golden Circle) แต่เป็นเวอร์ชันของทางภาคเหนือ และบนเส้นทางนี้มีสถานที่ที่คุณจะไปแวะชม 4 แห่ง ได้แก่ ฮูสาวิก (Husavik) หุบเขาเอาส์บิร์กิ (Asbyrgi) ทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn) และน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss)

น้ำตกเดตติฟอสส์ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล​ (Vatnajokull) ซึ่งเป็นอุทยานฯ​ ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป และเป็นน้ำตกที่ทรงพลังมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีปริมาณน้ำมากถึง 96,500 แกลลอนต่อวินาทีที่ไหลลงสู่หุบเขาลึกด้านล่างที่มีแต่ความมืดมิดและขรุขระ

เอาส์บิร์กิเป็นหุบเขาที่งดงาม กล่าวกันว่าเกิดจากการที่ม้าสไลป์เนียร์ (Sleipnir) แปดขาของโอดินประทับรอยเท้าลงบนดิน แต่ในทางวิทยาศาสตร์นั้นสรุปว่าหุบเขานี้ก่อตัวขึ้นหลังจากน้ำจากธารน้ำแข็งไหลเข้าท่วมพื้นที่ในช่วงยุคน้ำแข็งครั้งหลังสุด ปัจจุบันหุบเขาเอาส์บิร์กิเป็นสถานที่สำหรับเดินป่าที่มีความงดงามมากเพราะสามารถมองเห็นวิวของบริเวณโดยรอบและมีต้นไม้ขึ้นเขียวชอุ่ม

ฮูสาวิคนั้นนี้ยังเป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของไอซ์แลนด์ด้วยเพราะในน่านน้ำแถวนี้มีวาฬชุม ซึ่งการมาดูวาฬที่นี่นักท่องเที่ยวมีโอกาสที่จะได้เห็นสัตว์จำพวกวาฬอย่างน้อยหนึ่งสายพันธุ์จากทั้งหมดกว่า 20 สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ เช่น วาฬมิงค์ วาฬหลังค่อม วาฬออร์กา และฮาร์เบอร์พอร์พอยส์

หากคุณต้องการดูวาฬที่มีอยู่มากมาย คุณสามารถเพิ่มทัวร์ดูวาฬที่ออกเดินทางจากฮูสาวิคเข้าไปในทริปวันนี้ได้ ซึ่งมีให้เลือกสองแบบด้วยกัน

คุณสามารถเลือกไปกับทัวร์ที่พาออกทะเลไปตามหาปลาวาฬด้วยเรือแบบดั้งเดิม หรือเลือกไปกับทัวร์ดูวาฬที่เดินทางด้วยเรือยางท้องแบน ซึ่งอย่างหลังนี้คุณจะเดินทางไปบนน่านน้ำของทางเหนือด้วยเรือที่มีขนาดเล็กและคล่องตัวมากกว่า ทำให้สามารถเข้าไปใกล้วาฬได้มากกว่า

หากคุณต้องการไปผ่อนคลายร่างกายในวันนี้ คุณจะมีตัวเลือกสำหรับกิจกรรมเสริมสองแบบด้วยกัน

ที่ฮูสาวิคมีสปาหรูหราชื่อจีโอซี (GeoSea) ที่นี่แตกต่างจากสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพแห่งอื่นๆ ในไอซ์แลนด์เล็กน้อย เพราะน้ำที่จีโอซีเป็นน้ำทะเลร้อนที่มีคุณสมบัติในการช่วยเยียวยาร่างกายและจิตใจได้ในขณะที่คุณแช่น้ำผ่อนคลายอยู่ท่ามกลางวิวเปิดโล่งของมหาสมุทรกว้างใหญ่

นอกจากนี้คุณยังมีตัวเลือกสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพอีกหนึ่งแห่งที่อยู่ในแถบมิวาทน์ (Myvatn) อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์นี้มักจะถูกเรียกว่าเป็น "บลูลากูนแห่งทางเหนือ" เพราะน้ำสีฟ้าที่นี่เหมาะสำหรับการมาผ่อนคลายและดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่งดงามของภาคเหนือที่เต็มไปด้วยแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพ

คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในไอซ์แลนด์เหนือแถวมิวาทน์

อ่านเพิ่ม

ที่พักในวันที่ 7

ประสบการณ์ในวันที่ 7

วันที่ 8

วันที่ 8 - Northeast Iceland

  • Northeast Iceland
  • มากกว่า
  • พื้นที่แถบทะเลสาบมิวาทน์
  • ช่องเขาเนามาสการ์ด
  • ถ้ำกริโยทากยา
  • การก่อตัวของลาวาที่ดิมมูบอร์กิ
  • มากกว่า

ทะเลสาบมิวาทน์และพื้นที่รอบทะเลสาบนั้นเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนอย่างยิ่ง ทะเลสาบที่นี่สวยงามน่ามหัศจรรย์มีผืนน้ำสีฟ้าครามกินพื้นที่กว้างใหญ่และล้อมรอบด้วยปล่องภูเขาไฟเทียมสีเขียวที่ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน อย่าลืมเตรียมกล้องถ่ายรูปให้พร้อมจับภาพภูมิประเทศที่มีเอกลักษณ์ของมิวาทน์อยู่ตลอดเวลา

สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณนี้ ได้แก่ ดิมมูบอร์กีร์ (Dimmuborgir) ซึ่งมีหินภูเขาไฟที่ก่อตัวเป็นรูปร่างขรุขระบิดเบี้ยวมาเป็นเวลายาวนานหลายศตวรรษ มองดูคล้ายกับเป็นป้อมปราการหรือปราสาทสีดำทะมึนที่มักจะเห็นในหน้าหนังสือแนวแฟนตาซี พื้นที่บริเวณนี้น่าจะดึงดูดนักธรณีวิทยาและผู้ที่ต้องการมาชื่นชมผลงานของธรรมชาติมากเป็นพิเศษ

ใกล้ๆ กันนั้น คุณสามารถไปที่ช่องเขาเนามาสการ์ด (Namaskard) เพื่อไปดูภูมิประเทศที่เหมือนกับดาวอังคาร เพราะบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมของพลังงานใต้พิภพเกิดขึ้นมากมาย ทั้งบ่อโคลนเดือดและฟูมาโรลที่พ่นไอน้ำร้อนออกมา การไปเยือนเนามาสการ์ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีสุดที่คุณจะได้เห็นกับตาว่าความร้อนที่ระอุคุกรุ่นอยู่ใต้พื้นดินนั้น มีส่วนหล่อหลอมลักษณะของเกาะแห่งนี้อย่างไรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

วิธีเที่ยวชมภูมิภาคที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดเห็นจะเป็นการเข้าร่วมกับเดย์ทัวร์แบบเช้าไปเย็นกลับที่จะพาคุณไปดูสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญตั้งแต่อาสยา (Askja) ไปจนถึงมิวาทน์ ซึ่งคุณสามารถเพิ่มทัวร์นี้ได้ขณะที่ทำการจอง ทริปนี้ใช้เวลา 12 ชั่วโมงและครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีทั้งหมดแบบไม่พลาดแม้แต่แห่งเดียว

ระหว่างที่เข้าร่วมกับทัวร์หนึ่งวันเต็มนี้ คุณจะได้พักจากการขับรถและการดูแผนที่ เนื่องจากจะมีรถพร้อมไกด์มารับคุณ และคุณจะมีเวลาเหลือเฟือในการชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมพิเศษอย่างการไปแช่น้ำอุ่นในปากปล่องภูเขาไฟได้ด้วย นอกจากนี้คุณยังจะได้ไปดูพื้นที่ที่มีบรรยากาศเหมือนอยู่บนดาวดวงอื่น ซึ่งเคยถูกใช้เป็นสนามฝึกซ้อมสำหรับภารกิจโครงการอะพอลโลที่ไปเยือนดวงจันทร์ในยุค 60 มาก่อนหน้านี้ และในปี 2020 ก็เพิ่งใช้เป็นสนามทดสอบสำหรับภารกิจไปดาวอังคารขององค์การนาซ่า

คืนนี้คุณจะพักอยู่ในไอซ์แลนด์เหนืออีกหนึ่งคืน

อ่านเพิ่ม

ที่พักในวันที่ 8

ประสบการณ์ในวันที่ 8

วันที่ 9

วันที่ 9 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก
  • มากกว่า
  • กองหินฮวิทแซร์กูร์
  • มากกว่า

วันนี้คุณจะเดินทางจากอาคูเรย์ริและกลับไปยังเรคยาวิกเมืองหลวง

ระหว่างทางคุณจะขับรถไปตามชายฝั่งตะวันตกที่สวยงามที่มีทั้งน้ำตก น้ำพุร้อน และชุมชนเก่าแก่

คุณจะเดินทางผ่านฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูร์และอาจจะอยากแวะชมหมู่บ้านเฮยกาเนส (Hauganes) ที่สวยแปลกตา ชุมชนแห่งนี้มีบรรยากาศเงียบสงบตามแบบฉบับของชีวิตในชนบท จึงเหมาะแวะยืดเส้นยืดสายและชมวิวเป็นอย่างยิ่ง

จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปทางตะวันตกผ่านทิวทัศน์อันกว้างใหญ่และฟยอร์ด และคุณควรแวะไปชมกลุ่มหินฮวิทแซร์กูร์ (Hvitserkur) โขดหินขรุขระรูปร่างสูงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลด้วย

หินฮวิทแซร์กูร์เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีคนแวะมาถ่ายภาพมากที่สุดในไอซ์แลนด์ เนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่แปลกตาน่าสนใจและสามารถมองเห็นเป็นสิ่งต่างๆ ได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับจุดที่คุณไปยืนดู และตามตำนานของไอซ์แลนด์บอกว่าหินฮวิทแซร์กูร์นี้คือโทรลล์ที่จบชีวิตลงหลังจากที่โดนพระอาทิตย์ตอนเช้าสาดแสงเข้าใส่

เมื่อเดินทางต่อไปทางทิศตะวันตกในที่สุดคุณก็จะเดินทางไปถึงเมืองฮูสาเฟลล์ (Husafell) ซึ่งจากที่นั่นคุณสามารถเลือกไปเข้าร่วมกับทัวร์เที่ยวถ้ำลาวาได้ ทัวร์นี้จะพาคุณลงไปผจญภัยในหนึ่งในถ้ำลาวาที่ใหญ่ที่สุดในโลก และคุณจะได้เห็นโลกใต้ดินที่เต็มไปด้วยหินลาวาที่เกิดจากการปะทุเมื่อกว่าหนึ่งพันปีมาแล้ว

จากนั้นคุณจะเดินทางมุ่งหน้าไปทางใต้ ซึ่งคุณก็ยังสามารถแวะที่สปาธรรมชาติเครยมา (Krauma) เพื่อแช่น้ำอุ่นได้อีกแห่ง หรือไปรับประทานเมนูอร่อยจากวัตถุดิบในท้องถิ่นได้ที่ร้านอาหารของสปา

ก่อนที่คุณจะกลับเข้าเมือง คุณอาจจะอยากเข้าไปเที่ยวชมข้างในภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Thrihnukagigur) กันก่อน โถงแมกมาที่นี่เต็มไปด้วยสีสันและรูปทรงที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อ และในทัวร์ชมด้านในภูเขาไฟนี้ คุณจะถูกหย่อนลงไปในใจกลางถ้ำลาวาเพื่อชื่นชมภาพความประทับใจที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อนานมาแล้ว

หากคุณเดินทางไปถึงเมืองเรคยาวิกเร็วและยังมีเวลาเหลือ คุณสามารถไปเที่ยวที่ฟลายโอเวอร์ไอซ์แลนด์ (FlyOver Iceland) ได้อีกแห่ง แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่นี้ผสมผสานเทคนิคของภาพยนตร์ระดับ HD การเล่าเรื่อง การฉายภาพ และความสนุกตื่นเต้นของสวนสนุกเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ ส่วนที่น่าตื่นเต้นที่สุดของฟลายโอเวอร์ไอซ์แลนด์คือเที่ยวบินจำลองที่พาคุณขึ้นไปอยู่เหนือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศโดยที่ตัวคุณยังอยู่บนพื้นดิน

สำหรับคืนสุดท้ายในไอซ์แลนด์คุณจะพักอยู่ในเมืองเรคยาวิก 

อ่านเพิ่ม

ที่พักในวันที่ 9

ประสบการณ์ในวันที่ 9

วันที่ 10

วันที่ 10 - เรคยาวิก

  • เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
  • มากกว่า
  • เคลฟาร์วาทน์
  • ครีซูวิก
  • กุนนูฮแวร์
  • มากกว่า

วันนี้เป็นวันที่คุณจะเดินทางกลับบ้าน คุณอาจจะรู้สึกเศร้าที่ต้องบอกลาไอซ์แลนด์ แต่วันนี้คุณก็ยังสามารถไปเที่ยวก่อนกลับบ้านได้อีกหน่อยหากคุณมีเที่ยวบินในช่วงท้ายของวัน

ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายหน่อยยังสามารถไปแวะบลูลากูนก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสนามบินในวันนี้ได้ สปาระดับโลกแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายด้วยการแช่ตัวในน้ำอุ่นที่อุดมด้วยแร่ธาตุ และนึกย้อนกลับไปถึงการผจญภัยอันน่าทึ่งของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง

หรือคุณอาจจะอยากใช้เวลาที่เหลือในวันนี้ไปสำรวจสถานที่ต่างๆ ของเรคยาวิกเพิ่มเติม หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นคือพิพิธภัณฑ์เพอร์ลาน (Perlan Museum) ซึ่งเป็นสถานที่จัดนิทรรศการให้ความรู้ที่น่าประทับใจ พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนถังเก็บน้ำร้อนและมีการจัดแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟ รวมถึงมีถ้ำน้ำแข็งเทียมให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมของธารน้ำแข็งด้วย และบนดาดฟ้าสำหรับชมวิวแบบพาโนรามาของเพอร์ลาน นักท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจไปกับทิวทัศน์อันน่าทึ่งของเมืองเรคยาวิกและภูมิทัศน์โดยรอบ

ในเมืองเรคยาวิกยังมีศิลปะที่เฟื่องฟูมาก โดยมีแกลเลอรีต่างๆ ให้เข้าชม เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะเรคยาวิกที่จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยของไอซ์แลนด์และนานาชาติ หรือคุณอาจจะอยากไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แปลกๆ หลายแห่งของเมือง เช่น พิพิธภัณฑ์ลึงค์แห่งไอซ์แลนด์ และ พิพิธภัณฑ์พังค์แห่งไอซ์แลนด์

อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงท้ายของวันคือการไปสำรวจคาบสมุทรเรคาเนส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าสะดวกมากเนื่องจากอยู่ใกล้สนามบิน

หนึ่งในไฮไลท์ที่โดดเด่นของคาบสมุทรเรคยาเนสคือหน้าผาริมชายฝั่งที่เรคยาเนสวิติ (Reykjanesviti) นักท่องเที่ยวสามารถชมคลื่นอันทรงพลังซัดเข้าหาชายฝั่งที่ขรุขระและตื่นตาตื่นใจไปกับประภาคารที่เก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์

ภูมิทัศน์แปลกตาราวกับอยู่นอกโลกของพื้นที่ความร้อนใต้พิภพครีซูวิก (Krysuvik) เต็มไปด้วยปล่องไอน้ำ บ่อโคลนเดือดปุดๆ และแหล่งแร่หลากสี ทำให้เข้าใจถึงการระเบิดของภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ได้อย่างดีทีเดียว

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดนตรี พิพิธภัณฑ์ไอซ์แลนด์ร็อคแอนด์โรลนำเสนอการเดินทางที่น่าสนใจผ่านประวัติศาสตร์ดนตรีของไอซ์แลนด์ โดยจัดแสดงฉากดนตรีที่มีชีวิตชีวาของประเทศ

ในที่สุดคุณจะไปส่งคืนรถเช่าของคุณที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกโดยยังมีเวลาเหลือเฟือก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้าน ขอให้คุณมีความสุขกับการเดินทางและหวังว่าจะได้พบคุณอีกในเร็วๆ นี้!

อ่านเพิ่ม

ประสบการณ์ในวันที่ 10

สิ่งที่ควรนำไป

เสื้อผ้าที่อบอุ่นและกันน้ำ
รองเท้ากันน้ำสภาพดี
ชุดว่ายน้ำและผ้าเช็ดตัว
กล้องถ่ายรูป
ใบขับขี่

สิ่งที่ควรรู้

ทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้สามารถเริ่มต้นออกเดินทางได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิก หรือสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนท้องถนนอย่างน้อยหนึ่งปี ทั้งนี้แผนการท่องเที่ยวที่จัดไว้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย แพ็คเกจไม่รวมความคุ้มครองรถยนต์จากกรวดหากคุณเลือกใช้รถ Toyota Aygo หรือที่คล้ายกัน

แม้ว่าทริปนี้จะอยู่ในช่วงหน้าร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ คุณต้องเตรียมเสื้อผ้ามาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศด้วย

โปรดทราบว่าอาหารเช้านั้นอาจไม่รวมอยู่ในโฮสเทลและเกสต์เฮาส์บางแห่งที่เลือก

อ่านเพิ่ม

วิดีโอ

แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด