ทัวร์ขับรถล่าแสงเหนือ 10 วันสุดคลาสสิกรอบถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์

ทัวร์ขับรถล่าแสงเหนือ 10 วันสุดคลาสสิกรอบถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์
มีแนวโน้มที่จะขายออกเร็ว ๆ นี้
ไม่คิดค่ายกเลิก
บริการ 24 ชั่วโมง
แผนการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
สามารถจัดตามความต้องการได้เต็มที่
รถ & ที่พัก

คำอธิบาย

รายละเอียด

ทัวร์เริ่มจาก
Keflavík Airport
เวลาออกเดินทาง
ยืดหยุ่น
ระยะเวลา
10 วัน
สถานที่สิ้นสุด
Keflavík Airport
ความยากลำบาก
ปานกลาง
มีบริการ
ก.ย. - เม.ย.
เวลาสิ้นสุด
ยืดหยุ่น
อายุต่ำสุด
ไม่มี

คำอธิบาย

สนุกกับทริปขับรถเที่ยวรอบวงกลมไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาวเป็นเวลา 10 วัน ทริปนี้จัดทำขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่รู้จักพื้นที่และสภาพอากาศในไอซ์แลนด์เป็นอย่างดี และเพื่อให้มีความเหมาะสมกับการเดินทางในช่วงฤดูหนาวของไอซ์แลนด์ รายละเอียดต่างๆ ในแผนการเดินทางจึงมีการคำนึงถึงสภาพท้องถนนและแสงสว่างในเวลากลางวันเป็นสำคัญด้วย

ทริปนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวไอซ์แลนด์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ผู้ที่ต้องการความสนุกตื่นเต้น และต้องการมีอิสรภาพในการกำหนดสถานที่เที่ยวและระยะเวลาที่ใช้ด้วยตนเอง

สำหรับทริปขับรถเที่ยวเองทริปนี้ คุณจะไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อของไอซ์แลนด์ ได้เห็นภูเขาน้ำแข็งลอยอยู่ในทะเลสาบโจกุลซาลอน ได้ชื่นชมทุ่งลาวาเงียบสงัดที่ทะเลสาบมิวาทน์ ได้สัมผัสกับเส้นทางวงกลมทองคำอันมีชื่อเสียง และในขณะที่ความมืดปกคลุมท้องฟ้าคุณอาจจะได้ตื่นตากับแสงเหนือที่เฝ้าคอย คุณจะได้รับรายละเอียดแผนการเดินทางที่จะนำคุณไปยังสถานที่ที่แปลกใหม่ซึ่งไม่ค่อยมีใครรู้จักด้วย โดยคุณจะได้หลีกหนีกลุ่มนักท่องเที่ยวและออกไปดื่มด่ำกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่หรืออยากลองทำอะไรที่ตื่นเต้นท้าทาย ในขณะที่คุณทำการจองทริปนี้คุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมแอดเวนเจอร์ อาทิ นั่งเลื่อนสุนัข ปีนกลาเซียร์ และขี่สโนว์โมบิล เข้าไปในทริปได้ ถ้าคุณเดินทางมาเยือนในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม คุณยังจะมีโอกาสเข้าชมถ้ำน้ำแข็งของจริงด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ

การเดินทางรอบไอซ์แลนด์ในช่วงหน้าหนาวจะทำให้คุณได้เห็นดินแดนอันงดงามเหลือเชื่อที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ แต่การขับรถในช่วงนี้อาจจะยากสักหน่อยสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ขับรถบนถนนที่เป็นน้ำแข็งมาก่อน ดังนั้นแนะนำว่าก่อนที่จะตัดสินใจจองทริปนี้ให้ลองสำรวจผู้ร่วมทีมดูก่อนว่ามีคนขับที่มีประสบการณ์มาด้วยหรือเปล่า ถ้าในกลุ่มของคุณมีคนที่เชี่ยวชาญการขับรถบนสภาพถนนแบบนี้มาด้วยแล้วล่ะก็ ทัวร์นี้จะเป็นทริปที่เพอร์เฟ็คมากสำหรับพวกคุณ

อย่าพลาดทริปแอดเวนเจอร์ในไอซ์แลนด์ครั้งนี้ รีบจองตอนนี้เลยเพื่อทริปหน้าหนาวที่คุณจะประทับใจไปตลอดชั่วชีวิต ตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง

อ่านเพิ่ม

ร่วมด้วย

ที่พักจำนวน 9 คืน (มีให้เลือกหลายระดับ สำหรับแบบคอมฟอร์ทและควอลิตี้จะรวมอาหารเช้า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ด้านล่าง)
รถเช่าสำหรับ 10 วัน ((Dacia Duster ขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรุ่นใกล้เคียง สามารถอัปเกรดได้)
ประกัน CDW และประกัน GP สำหรับรถเช่า
มี Wi-Fi ฟรีในรถยนต์
รายละเอียดแผนการเดินทาง
ตัวแทนท่องเที่ยวส่วนบุคคล
ภาษี

แผนที่

สถานที่ท่องเที่ยว

กิจกรรม

ทัวร์ปีนธารน้ำแข็ง
ดำน้ำตื้น
ปีนถ้ำ
สโนว์โมบิล
เที่ยวชมสถานที่
ล่าแสงเหนือ
แช่บ่อน้ำแร่
ถ้ำคริสตัล
ขับรถเที่ยวเอง

แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1
ผ่อนคลายกับน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพที่บลูลากูน ทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยลาวาสีดำสนิทที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนจะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืม

วัน 1 - เดินทางมาถึงเรคยาวิก

คุณเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกของไอซ์แลนด์ หลังจากรับรถที่ในสนามบินแล้วคุณจะเดินทางมุ่งหน้าไปบนเส้นทางที่มีทุ่งลาวามืดมิดบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) เพื่อเข้าไปที่ในเรคยาวิก (Reykjavík) เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ สำหรับวันนี้คุณสามารถเลือกได้เองว่าอยากทำอะไร ระหว่างเดินทางเข้าเมืองคุณสามารถแวะชมภูมิประเทศแบบดิบๆ ที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟบนคาบสมุทรเรคยาเนส ไปดูสถานที่สวยๆ อย่างทะเลสาบเคลฟาร์วาทน์ (Kleifarvatn Lake) หรือไปชมพิพิธภัณฑ์ร็อกแอนด์โรลในเมืองเคฟลาวิก (Keflavík) ก่อนก็ได้ หรือคุณจะมุ่งตรงไปที่เรคยาวิกทันทีเพื่อใช้เวลาที่มีวันนี้ในเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันก็ได้

ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง.

คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่ในเมืองหลวง

อ่านเพิ่ม
วัน 2
น้ำตกกุลล์ฟอสส์อันยิ่งใหญ่และทิวทัศน์รอบๆ ในหน้าหนาวเป็นอะไรที่งดงามมาก

วัน 2 - วงกลมทองคำ

คุณจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในวันที่สองของทริปชื่นชมสถานที่มหัศจรรย์ 3 แห่งบนเส้นทางวงกลมทองคำ แห่งแรกคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Þingvellir National Park) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยูเรเซีย โดยจุดที่ทั้งสองทวีปแยกตัวออกจากกันนั้นเกิดเป็นรอยแยกระหว่างหุบเขาขนาดใหญ่

รอยแยกซิลฟรา (Silfra) เป็นหนึ่งในรอยแยกที่ว่านี้ และที่ในรอยแยกซิลฟราจะมีน้ำจากธารน้ำแข็งไหลเข้าไปเติมจนเต็ม และน้ำนั้นมีความใสราวกับคริสตัลจนทำให้จุดนี้กลายเป็นจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากคุณต้องการลงไปดำน้ำให้เห็นกับตาตนเองคุณสามารถเพิ่มทัวร์สน็อกเกิลระหว่างสองทวีปเข้าไปในทริปนี้ได้ระหว่างที่คุณทำการจองทัวร์ขับรถเที่ยวหน้าหนาวแพ็กเกจนี้

หลังจากเที่ยวที่ธิงเวลลีร์เสร็จแล้ว คุณจะมุ่งหน้าไปต่อกันที่ทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) ซึ่งเป็นศูนย์รวมของไกเซอร์หรือน้ำพุร้อนจำนวนมาก สโทรคูร์ (Strokkur) เป็นน้ำพุร้อนที่มีความน่าสนใจมากที่สุดในตอนนี้เพราะมันพ่นน้ำขึ้นฟ้าสูงถึง 40 เมตร ในทุกๆ 5-10 นาที 

หลังจากนั้นเมื่อขับรถต่อไปอีกไม่ไกลคุณก็จะไปถึงน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในไอซ์แลนด์ โดยคุณจะได้เห็นแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา (Hvítá) ไหลลดหลั่นเป็นสองชั้นก่อนถาโถมตกลงสู่หุบเขาโบราณที่ด้านล่างด้วยพละกำลังที่รุนแรง หากคุณอยากทำอะไรสนุกๆ ในทริปวันนี้ คุณสามารถเพิ่มทัวร์ขี่สโนว์โมบิลเข้าไปได้อีกกิจกรรมหนึ่ง

หลังจากออกจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ คุณจะใช้บริการรถบัสเพื่อเดินทางไปยังธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) อันยิ่งใหญ่ ซึ่งคุณจะเดินทางข้ามผืนน้ำแข็งสีขาวกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา นับเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นและเป็นโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสถึงความรู้สึกอิสระที่ได้โลดแล่นอยู่ท่ามกลางพื้นที่ว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ไพศาลของไอซ์แลนด์

ตัวเลือกกิจกรรมอื่นสำหรับวันนี้ยังมีขี่ม้าชมภูมิประเทศที่สวยงามในทางใต้ของไอซ์แลนด์ และทัวร์ที่พาเดินทางด้วยรถมอนสเตอร์ทรัคขึ้นไปบนธารน้ำแข็งลางโจกุล หรือคุณอาจจะไปแช่น้ำที่ฟอนทานาสปา (Fontana Spa) ซึ่งมีสระน้ำร้อนที่ได้รับความร้อนมาจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ และตั้งอยู่ระหว่างธิงเวลลีร์และทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์

ที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ที่ควอลส์เวิลลูร์ (Hvolsvöllur) บนชายฝั่งทางตอนใต้ ระหว่างเดินทางเข้าสู่ที่พักคุณสามารถใช้แผนการเดินทางที่ได้รับให้เป็นประโยชน์ โดยการไปเที่ยวชมสถานที่แปลกใหม่บนเส้นทางนี้ตามที่ได้รับคำแนะนำ เช่น ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerið) หรือหมู่บ้านโซลเฮมาร์ (Sólheimar) ซึ่งเป็นชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

อ่านเพิ่ม
วัน 3
หาดทรายดำเรย์นิสฟยาราถูกหิมะปกคุลมท่ามกลางแสงอาทิตย์สีแดงในหน้าหนาว

วัน 3 - จากควอลส์เวิลลูร์สู่หมู่บ้านวิก

วันที่สามคุณจะไปเที่ยวน้ำตก ธารน้ำแข็ง และชมสิ่งมหัศจรรย์บนชายฝั่งทางตอนใต้ หลังจากออกเดินทางไม่นานคุณก็จะมองเห็นเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) อันยิ่งใหญ่อยู่ทางด้านซ้ายมือและในที่สุดก็จะได้ขับรถผ่านภูเขาไฟชื่อดังกระฉ่อนโลกที่เคยระเบิดอย่างรุนแรงจนเป็นปัญหาต่อการเดินทางทางอากาศครั้งใหญ่ในปี 2010 

สถานที่แห่งแรกที่คุณจะไปในวันนี้คือน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งคุณสามารถเดินชมน้ำตกแห่งนี้ได้จากทุกทิศทาง และใกล้ๆ กันนั้นก็มีน้ำตกกลูยฟราบูอิ (Gljúfrabúi) ซึ่งงดงามไม่น้อยเช่นเดียวกัน แต่หลายคนมักจะพลาดน้ำตกแห่งนี้ไปเพราะว่ามันหลบซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกบนภูเขา และน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) ซึ่งได้ชื่อว่ามีพละกำลังรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อจะเป็นจุดหมายปลายทางถัดไปของคุณ

จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปเที่ยวที่ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) และบริเวณที่เรียกว่ากลาเซียร์ทังก์ของธารน้ำแข็งแห่งนี้ คุณสามารถเลือกออกสำรวจภูมิประเทศแปลกประหลาดมหัศจรรย์บนผืนน้ำแข็งได้สองวิธีด้วยกัน

แบบแรกคือเลือกเข้าร่วมกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็ง 1 ชั่วโมงที่นี่ หรือไม่อย่างนั้นก็เลือกไปสนุกกับทัวร์ปีนกลาเซียร์บนธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งอันนี้จะได้สนุกตื่นเต้นยาวนานขึ้นอีกหน่อยและจะได้เข้าใจลึกซึ้งมากขึ้นด้วยว่าสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติเหล่านี้ก่อตัวขึ้นมาอย่างไรและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

กิจกรรมอื่นๆ ที่คุณสามารถทำได้ในวันนี้ ได้แก่ การไปดูนิทรรศการที่ศูนย์ลาวา (Lava Center) หรือไปเที่ยวถ้ำเฮลลา (Hella) ที่ลึกลับ ศูนย์ลาวานั้นเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับศึกษาประวัติศาสตร์ของภูเขาไฟในประเทศไอซ์แลนด์ ส่วนถ้ำเฮลลานั้นเป็นกลุ่มอุโมงค์ที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ในเชิงประวัติศาสตร์

ออกเดินทางไปบนชายฝั่งทางใต้ไปอีกไม่ไกล คุณก็จะไปถึงหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ซึ่งเป็นชายฝั่งทะเลที่มีความงดงามมาก คุณจะประทับใจกับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาหลายรูปแบบในบริเวณนี้ เช่น หินโค้งดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) และโขดทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) แต่การเที่ยวที่หาดนี้คุณก็ต้องระมัดระวังตัวด้วย เพราะบริเวณนี้มักมีคลื่นมหาภัยซัดเข้ามาบนหาดตอนทีเผลออยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นอันตรายมาก

จากหาดเรย์นิสฟยาราคุณจะเดินทางต่อไปอีกเล็กน้อยเพื่อไปพักค้างคืนที่หมู่บ้านวิก (Vík)

อ่านเพิ่ม
วัน 4
พระอาทิตย์หน้าหนาวส่องแสงสีทองเหนือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนในขณะที่ภูเขาน้ำแข็งที่ใสราวคริสตัลกำลังเคลื่อนตัวอย่างสงบนิ่งบนผิวน้ำ

วัน 4 - จากหมู่บ้านวิกสู่เฮิฟน์

ในวันที่สี่คุณจะเดินทางจากหมู่บ้านวิกไปยังเฮิฟน์ (Höfn) โดยระหว่างทางจะผ่านสถานที่งดงามตระการตาอย่างเหลือเชื่ออีกสองแห่ง ที่แรกคือเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักเดินเขา เนื่องจากในนั้นมีเส้นทางเดินป่าที่เหมาะสำหรับนักเดินเขาทุกระดับ โดยเป็นเส้นทางคดเคี้ยวผ่านทุ่งลาวาและป่าเขาไปจนกระทั่งถึงกลาเซียร์ทังก์และน้ำตกอันงดงามหลายแห่ง 

และที่นี่คุณยังสามารถไปปีนธารน้ำแข็งในช่วงบ่ายได้ด้วยเพื่อชมทิวทัศน์และการก่อตัวของน้ำแข็งที่งดงามอย่างเหลือเชื่อ

หลังจากใช้เวลาที่สกัฟตาเฟลล์กันพอสมควรแล้ว คุณจะเดินทางไปทางทิศตะวันออกเพื่อไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsárlón) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในไอซ์แลนด์ และทะเลสาบแห่งนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังเพราะว่ามันมีความงดงามเหนือคำบรรยายจริงๆ ในทะเลสาบเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งที่แตกตัวออกมาจากกลาเซียร์ทังก์และพวกมันจะค่อยๆ ลอยตามน้ำออกสู่ทะเลไป

นอกจากภูเขาน้ำแข็งแล้ว ในบริเวณนี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของแมวน้ำจำนวนมากด้วย ไม่แน่คุณอาจจะได้เห็นพวกมันออกมาว่ายน้ำหรือเล่นอยู่บนภูเขาน้ำแข็งด้วย

หากสภาพอากาศเอื้ออำนวยคุณสามารถเพลิดเพลินกับการลงไปล่องเรือในทะเลสาบได้ด้วย สำหรับคนตื่นเช้า คุณอาจจะไปปีนธารน้ำแข็งในช่วงเช้า และเข้าร่วมกับทัวร์ล่องเรือที่โจกุลซาลอนในตอนบ่ายเพื่อชื่นชมผืนน้ำที่สงบนิ่งของทะเลสาบธารน้ำแข็งแห่งนี้

สำหรับช่วงเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย คุณสามารถเลือกไปชมถ้ำน้ำแข็งที่วัทนาโจกุล (Vatnajokull) ได้ในช่วงบ่าย ซึ่งคุณจะต้องประทับใจในความงดงามอย่างแน่นอน และขอแนะนำให้ตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปถึงสถานที่นัดหมายได้ทันเวลา 

อีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับทัวร์ในวันนี้คือทัวร์รถบักกี้บนหาดทรายดำ ซึ่งคุณจะออกเดินทางไปกับทัวร์นี้ก่อนที่จะเดินทางไปสกัฟตาเฟลล์ 

นอกจากนี้ติดกับทะเลสาบโจกุลซาลอนยังมีหาดไดมอนด์บีช ซึ่งมีก้อนน้ำแข็งถูกพัดขึ้นฝั่งมาเป็นจำนวนมาก ทำให้แถวนี้มีความสวยงามระยิบระยับไปทั่วบริเวณ หลังจากชมวิวสวยๆ บนหาดเสร็จแล้วคุณจะไปพักค้างคืนที่เฮิฟน์ (Höfn)

อ่านเพิ่ม
วัน 5
ภูเขาเวสตราฮอร์นเป็นสถานที่เด็ดที่คุณไม่ควรพลาดอยู่ไม่ไกลจากเมืองเฮิฟ์น.

วัน 5 - จากเฮิฟน์สู่เอกิลสตาดีร์

ในวันที่ห้านี้คุณจะขับรถเข้าไปในฟยอร์ดตะวันออกซึ่งไม่ค่อยมีคนเข้าไปมากนัก

ฟยอร์ดตะวันออกเป็นพื้นที่ห่างไกลที่มีความสวยงามมาก มีภูเขา ช่องแคบที่ว่างเปล่า และมีสัตว์ให้ดูหลายชนิด คุณอาจเห็นแมวน้ำวิ่งเล่นอยู่บนชายหาดและเจอฝูงเรนเดียร์หากินอยู่ในบริเวณรอบๆ ซึ่งแถวนี้เป็นเพียงจุดเดียวในไอซ์แลนด์ที่พบกวางเรนเดียร์

คุณสามารถดูในรายละเอียดแผนการเดินทางที่คุณได้รับ ในนั้นจะมีระบุถึงสถานที่แปลกๆ หลายแห่งที่น่าแวะชมธรรมชาติอันบริสุทธิ์ นอกจากเอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir) แล้ว ยังมีสถานที่ที่คนมักแวะไปมากที่สุดอีกสองแห่ง ที่แรกคือฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstaðaskógur) ซึ่งเป็นป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ในป่าแห่งนี้มีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทางที่เหมาะสำหรับนักเดินเขาที่เชี่ยวชาญ ส่วนแห่งที่สองคือทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljót) อันเงียบสงบ ว่ากันว่าในทะเลสาบแห่งนี้มีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ ซึ่งจากตำนานแล้วดูน่าจะเก่าแก่กว่าสัตว์ประหลาดในล็อกเนสส์อยู่มาก

ในวันนี้มีกิจกรรมให้เลือก 2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือการไปกับทัวร์ที่พานั่งรถซูเปอร์จี๊ปตามหาฝูงกว่างเรนเดียร์ที่สวยงาม ซึ่งพบได้เฉพาะในภาคตะวันออกเท่านั้น อย่างที่สองคือการไปแช่น้ำร้อนที่อ่างน้ำเวิก (Vok Baths) ซึ่งเป็นสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบอันงดงาม

คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่ในเอกิลสตาดีร์ ซึ่งเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทางตะวันออก

อ่านเพิ่ม
วัน 6
แสงเหนือบนฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวกับไอน้ำร้อนจากแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพใกล้ทะเลสาบมิวาทน์

วัน 6 - จากเอกิลสตาดีร์ถึงมิวาทน์

สำหรับวันที่หกคุณจะขับผ่านพื้นที่ส่วนที่เหลือของฟยอร์ดตะวันออกเพื่อไปยังบริเวณทะเลสาบมิวาทน์ (Mývatn) โดยจะผ่านเส้นทางคดเคี้ยว ยอดเขา และชายฝั่งอันสวยงาม ซึ่งทิวทัศน์ที่จะเห็นในวันนี้ก็น่าประทับใจไม่แตกต่างไปจากวันก่อนหน้าเลย

พอไปถึงที่ทะเลสาบมิวาทน์คุณสามารถเริ่มออกเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้ทันที แต่เนื่องจากกว่าจะเดินทางมาถึงก็น่าจะใช้เวลามากอยู่ทำให้วันนี้ยังเที่ยวได้ไม่เต็มที่นัก ดังนั้นคุณจะใช้เวลาหนึ่งวันเต็มที่นี่ในวันพรุ่งนี้แทน แต่ไหนๆ ก็มาถึงแล้วคุณอาจใช้เวลาที่เหลือของวันนี้ไปแช่น้ำร้อนที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Mývatn Nature Baths) เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าก่อนที่จะเดินทางเข้าไปยังที่พักในคืนนี้ก็ได้ 

อ่างน้ำธรรมชาติแห่งนี้มีน้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและธรรมชาติแวดล้อมโดยรอบก็มีความสวยงามบริสุทธิ์ ถ้าคืนนี้ฟ้ากระจ่างคุณอาจโชคดีได้ดูแสงเหนือในขณะที่แช่น้ำร้อนจากแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพอยู่ก็ได้ หรือคุณจะเลือกจองทัวร์แสงเหนือแบบมีไกด์ที่พาออกไปไล่ล่าตามหาแสงเหนือตามสถานที่ต่างๆ ก็ได้

อ่านเพิ่ม
วัน 7
น้ำสีฟ้าในน้ำพุร้อนที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำเกรียวตาเกาจ์แถวทะเลสาบมิวาทน์

วัน 7 - เที่ยวมิวาทน์

วันที่เจ็ดนี้คุณจะเที่ยวชมรอบๆ บริเวณมิวาทน์ แค่ทะเลสาบและหินบะซอลต์รูปร่างประหลาดที่โผล่เหนือผิวน้ำตื้นๆ ออกมาให้เห็นก็สร้างความอัศจรรย์ให้คุณได้ไม่น้อยแล้ว แต่แถวนี้ยังมีอะไรให้คุณตื่นตามากกว่านั้นอีกมาก

คุณสามารถไปชมทุ่งลาวาดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) หรือที่เรียกกันว่า “ป้อมแห่งความมืด” เนื่องจากขนาดและสีของหินที่อยู่ในบริเวณนี้ ไปดูถ้ำน้ำพุร้อนเกรียวตาเกาจ์ (Grjótagjá) ซึ่งใช้เป็นสถานที่ทำเกมออฟโธรนส์ ไปเที่ยวปากปล่องภูเขาไฟเทียมสกูตูสตาดากีการ์ (Skútustaðagígar) เข้าชมทุ่งน้ำพุร้อนเนามาส์การ์ด  (Námaskarð) และสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย แผนการเดินทางของคุณในวันนี้อาจจะต้องอัดแน่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หากคุณอยากทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ คุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมนั่งเลื่อนสุนัขเข้าไปในวันนี้ด้วยก็ได้ แล้วคุณจะได้ใช้เวลาสนุกๆ บนหิมะสีขาวริมทะเลสาบกับเหล่าสุนัขฮัสกีปุกปุยที่เป็นมิตร หรือไม่อย่างนั้นคุณก็ยังสามารถเลือกไปสนุกสนานตื่นเต้นให้นานขึ้นอีกด้วยการเข้าร่วมกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิล

คืนนี้คุณจะยังคงพักอยู่ในมิวาทน์

อ่านเพิ่ม
วัน 8
ในหน้าหนาว น้ำจากน้ำตกสโกกาฟอสส์ตกลงมาจากหน้าผาที่มีความกว้าง 30 เมตรและกลายเป็นน้ำแข็ง

วัน 8 - จากมิวาทน์สู่อาคูเรย์ริ

ในวันที่แปดคุณจะขับรถขึ้นไปยังอาคูเรย์ริ (Akureyri) เมืองหลวงของทางตอนเหนือ แต่ก่อนจะไปถึงนั้นคุณอาจจะออกนอกเส้นทางไปแวะเที่ยวที่เมืองฮูสาวิก (Húsavík) ซึ่งอยู่ริมทะเลก่อนเพราะทะเลแถวนี้ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำมาก

หากอยากตื่นตาตื่นใจไปกับสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล คุณก็สามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์ดูวาฬในวันนี้ได้ โดยในช่วงระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ คุณจะได้นั่งเรือแบบดั้งเดิมออกไปดูวาฬในทะเลอย่างสะดวกสบาย ส่วนในช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม คุณจะได้เดินทางด้วยเรือยางท้องแบน (RIB) 

ทะเลแถบนี้มีวาฬและโลมาให้เห็นได้ตลอดทั้งปี แต่จะชุกชุมมากขึ้นในช่วงหน้าร้อน และในฤดูร้อนยังสามารถดูนกพัฟฟินได้ด้วย

และที่ฮูสาวิกยังเป็นที่ตั้งของอ่างน้ำจีโอซี (GeoSea Baths) ซึ่งเป็นสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ใช้น้ำจากทะเลด้วย จึงแตกต่างไปจากสระน้ำทั่วไปในไอซ์แลนด์ และว่ากันดีที่สุด

นอกจากนี้ในอาคูเรย์ริก็ยังมีอะไรให้ทำอีกมากมาย เช่น มีสวนพฤกษศาสตร์ที่อยู่ทางเหนือสุดของโลก มีคริสต์มาสเฮ้าส์ที่ตกแต่งสวยงาม มีเนินสกีเจ๋งๆ และมีสระน้ำร้อนพลังงานความร้อนใต้พิภพให้เล่นด้วย

สำหรับคืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่ในอาคูเรย์ริ เมืองหลวงของทางเหนือ

อ่านเพิ่ม
วัน 9
หินฮวิทแซร์กูร์ในทางเหนือของไอซ์แลนด์ ดูเหมือนมีมังกรโผล่ขึ้นมาจากทะเล

วัน 9 - จากอาคูเรย์ริสู่เรคยาวิก

วันที่เก้าคุณจะเดินทางลงใต้จากอาคูเรย์ริสู่เรคยาวิก วันนี้คุณจะขับรถไกลหน่อยแต่คุณอาจจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลยก็ได้เพราะว่าตลอดเส้นทางนั้นมีอะไรสวยงามให้ดูมากมาย

คุณอาจจะแวะชมฮวิทแซร์กูร์ (Hvítserkur) หินรูปช้างกินน้ำที่ตั้งอยู่ห่างชายฝั่งออกไปแค่เล็กน้อย ถัดไปทางใต้อีกหน่อยคุณสามารถแวะเที่ยวเมืองเรค์คอร์ค (Reykholt) เมืองแห่งประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของสนอร์ริ สตูร์ลูสัน (Snorri Sturluson) นักประวัติศาสตร์ นักการเมือง และนักเขียนชื่อดังแห่งยุคกลาง หรือคุณจะไปแวะชมพิพิธภัณฑ์สนอร์ราสโตฟา (Snorrastofa) เพื่อศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับสนอร์ริเพิ่มเติมก็ได้

บนเส้นทางนี้ยังมีน้ำตกที่สวยมากๆ ตั้งอยู่ด้วย น้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) เป็นน้ำตกแคบๆ ที่ไหลลงสู่หุบเหวในขณะที่น้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) ที่อยู่ติดกันนั้นเป็นน้ำตกที่มีขนาดกว้างและเตี้ยกว่าและสวยงามมากกว่าด้วย ซึ่งน้ำตกแห่งนี้มีสายน้ำไหลออกมาจากริมขอบของทุ่งลาวามองดูแปลกตาไปอีกแบบ บริเวณใกล้กันนั้นคุณจะได้เห็นน้ำพุร้อนเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) น้ำพุร้อนที่สูงที่สุดในยุโรปซึ่งมีน้ำที่มีอุณหภูมิเกือบถึงจุดเดือดพวยพุ่งออกมามากกว่า 180 ลิตรในทุกๆ วินาทีด้วย

บริเวณข้างๆ เดลตาร์ทุงกุแควร์ยังมีสปาที่ขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพและบรรยากาศที่หรูหราด้วย คุณสามารถเลือกจองเพื่อเข้าใช้บริการเครยมาสปา (Krauma Spa) ได้เมื่อทำการจองแพ็คเกจนี้

นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกเพิ่มทัวร์แบบมีไกด์นำเที่ยวพาเข้าไปในอุโมงค์ลาวาที่วิดเกลมิร์ (Víðgelmir) เข้าไปในทริปวันนี้ได้อีก อุโมงค์นี้เป็นเหมือนถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความยาวเกือบ 1,600 เมตรและเป็นหนึ่งในถ้ำลาวาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ถ้าคุณอยากไปเที่ยวชมอะไรที่เย็นๆ มากกว่าที่จะไปดูสถานที่อบอุ่นใต้ดิน ให้คุณเลือกไปเที่ยวที่อุโมงค์น้ำแข็งที่ลางโจกุล (Langjökull) แทน อุโมงค์ที่มนุษย์สร้างขึ้นแห่งนี้อยู่ภายใต้ผืนน้ำแข็งและภายในอุโมงค์มีโถงและทางเดินเป็นสีฟ้าสดและสีขาวงดงามมาก

คุณจะเดินทางไปถึงเรคยาวิกในช่วงบ่ายแก่ๆ หรือตอนเย็นและคืนนี้จะพักค้างคืนในเมือง

อ่านเพิ่ม
วัน 10
เรคยาวิกใต้หิมะในหน้าหนาวยิ่งมีเสน่ห์

วัน 10 - ออกเดินทางจากไอซ์แลนด์

ในวันที่สิบนี้คุณจะต้องนำรถไปส่งคืนที่สนามบินเคฟลาวิกและขึ้นเครื่องบินกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข

อ่านเพิ่ม

สิ่งที่ควรนำไป

เสื้อผ้าที่อบอุ่น
รองเท้าสำหรับปีนเขาในหน้าหนาว
กล้องถ่ายรูป
ชุดว่ายน้ำและผ้าเช็ดตัว
ใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ

สิ่งที่ควรรู้

ทัวร์ขับรถเที่ยวเองครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นได้ทั้งที่ในเมืองเรคยาวิกและสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก สิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีคือใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและประสบการณ์ในการขับรถ 1 ปีแค่นั้นเอง ทั้งนี้แผนการเดินทางที่จัดไว้ให้คุณอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์

แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณจะได้เห็นหรือไม่ แต่แผนการเดินทางของทริปนี้เราตั้งใจออกแบบขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการเห็นแสงเหนือให้กับคุณอยู่แล้วหากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทั้งนี้ก็มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกันที่คุณจะเจอกับสภาพอากาศที่เลวร้ายจนต้องมีการยกเลิกกิจกรรม หากกิจกรรมที่คุณเลือกถูกยกเลิก เราจะช่วยเหลือโดยการจัดการจองให้ใหม่หรือเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอื่นให้แทนหากเป็นไปได้ และคุณจะได้รับเงินส่วนต่างคืน (ถ้ามี) ทั้งนี้โปรดทราบว่าถ้ำน้ำแข็งจะสามารถเข้าชมได้เฉพาะช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงมีนาคมเท่านั้น

นอกจากนี้คุณควรทราบด้วยว่าในฤดูหนาวถนนและบาทวิถีที่ไอซ์แลนด์นั้นค่อนข้างลื่น เราแนะนำให้คุณนำรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นหรือพื้นเกาะน้ำแข็งติดมาด้วย หรือไม่อย่างนั้นก็สามารถมาหาซื้อพื้นรองเท้าเกาะน้ำแข็งได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตและสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ

คุณสามารถจองกิจกรรมเสริมได้ในราคาพิเศษ หากคุณจองพร้อมกับทัวร์นี้เลย 

อ่านเพิ่ม

ที่พัก

ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล

สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม

ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง

บัดเจท

ห้องพักพร้อมห้องน้ำรวมในฟาร์มเฮ้าส์ เกสต์เฮ้าส์ หรือโฮสเทล อยู่ในทำเลดีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า

คอมฟอร์ท

ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า

ควอลิตี้

ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า

รถ

ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี และรวมประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW) และประกันกรวด (GP)

ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว ในฤดูหนาวรถเช่าทุกคันมาพร้อมยางสำหรับฤดูหนาว

บัดเจท 4x4

รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป

คอมฟอร์ท 4X4

รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป

รถหรู 4x4

รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป

รถตู้

รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป

วิดีโอ

รีวิวที่รับรองแล้ว

ทัวร์ที่คล้ายกัน