แพ็คเกจ 11 วันช่วงฤดูหนาว | เส้นทางถนนวงแหวนและคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
เพลิดเพลินกับแพ็คเกจฤดูหนาวสุดวิเศษ 11 วันนี้ และออกสำรวจไฮไลท์บนถนนสายวงแหวน (RIng Road)ในประเทศไอซ์แลนด์ แพ็คเกจนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในการขับขี่ในฤดูหนาวในต่างประเทศ.
ด้วยแพ็คเกจนี้คุณไม่จำเป็นต้องมีการวางแผนล่วงหน้า เช่น บริการรับ-ส่งสนามบิน, โรงแรม, การเดินทางและตั๋วเข้าบลูลากูน (Blue Lagoon). รถมินิบัสที่คุณจะได้ใช้ในการเดินทางครั้งนี้นั้นเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายเพื่อให้มั่นใจว่าการเดินทางครั้งนี้ คุณจะได้ผ่อนคลายมากที่สุด.
สิบเอ็ดวันในการเดินทางนี้คุณจะได้มีเวลามากมายที่จะได้เห็นและดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันน่าทึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ รับประกันได้ว่าแพ็คเกจนี้จะกลายเป็นความทรงจำที่ยอดเยี่ยมของคุณไปตลอดชีวิต อีกทั้งคุณยังมีโอกาสในการเดินสำรวจธารน้ำแข็งที่สวยงาม, สำรวจภายในถ้ำน้ำแข็งที่ใสเหมือนแก้ว, ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อเพิ่มความตื่นเต้น, ออกไปชมวาฬและกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย.
นับว่าโชคดีที่แพ็คเกจมีไกด์ทัวร์เดินทางไปกับคุณด้วย นั่นหมายความว่าคุณจะมีโอกาสมากมายที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศและทำความเข้าใจกับผู้คน วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณยังจะได้รับอิสระหนึ่งวันในการสำรวจเรคยาวิก (Reykjavík) ซึ่งคุณสามารถออกไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์, แกลเลอรี่และสวนสาธารณะมากมายในเมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลก.
และแน่นอนว่า นอกจากนี้คุณจะได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าในธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และไม่ค่อยมีใครได้เข้าถึงของไอซ์แลนด์ และในส่วนหนึ่งของแพ็คเกจนี้คุณจะได้เยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติทั้งสามแห่งของประเทศไอซ์แลนด์: มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO)ที่ชื่อว่าธิงเวลลีย์ (Þingvellir), อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) รวมถึงทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ที่สวยงามและสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) ที่ล้อมรอบลาดหินของภูเขาไฟธารน้ำแข็งสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökull).
เพื่อให้การเดินทางดูผจญภัยมากยิ่งขึ้น เราได้เตรียมการท่องเที่ยวเพิ่มเติมมากมายที่คุณสามารถเพิ่มในวันหยุดพักผ่อนของคุณ และเพิ่มรสชาติให้วันเดินทางของคุณด้วยการขี่ม้า, ปีนธารน้ำแข็งชมวาฬและแม้แต่ชมถ้ำน้ำแข็ง คุณสามารถเลือกจองแต่ละกิจกรรมในราคาลดพิเศษหากคุณเลือกจองพร้อมกันกับการคุณจองทัวร์ของคุณ.
และที่สุดยอดไปกว่านั้นคือในแต่ละคืนคุณสามารถมองออกไปที่ท้องฟ้าเพื่อโอกาสในการมองเห็นแสงเหนือซึ่งเป็นปรากฏการณ์แสงสีม่วง สีเขียวและสีแดงที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว.
ดังนั้นนั่งลงและดื่มด่ำกับสถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของไอซ์แลนด์โดยไม่ต้องกังวลใดๆกับแพ็คเกจ 11 วันที่สุดยอดนี้ ตรวจสอบที่นั่งว่างโดยเลือกวันเดินทางของคุณ.
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - เดินทางมาถึง, บลูลากูนและเมืองเรคยาวิก
ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไอซ์แลนด์และยินดีต้อนรับเข้าสู่จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของคุณ! เมื่อคุณมาถึงคุณจะได้รับเวาเชอร์สำหรับรถบัส แลกเป็นตั๋วโดยสารเพื่อขึ้นรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองเรคยาวิก.
เส้นทางจากสนามบินนั้นสวยงามและดูน่าเหลือเชื่อ ทุ่งภูเขาไฟที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาและตั้งอยู่อย่างกระจัดกระจายของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) ในทางด้านขวามือและสีฟ้าครามของมหาสมุทรแอตแลนติกทางซ้ายมือของคุณ และในตอนนั้นคุณจะรู้สึกได้ถึงธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ที่จะสะกดคุณไว้.
ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง. นักเดินทางส่วนใหญ่ที่มายังประเทศไอซ์แลนด์เป็นครั้งแรกมักจะหยุดพักที่สปาบลูลากูน (Blue Lagoon) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่มีระยะทางไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติเคฟราวิก (Keflavík).
ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะสามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายจากการเดินทางได้เท่ากับการได้แช่น้ำอุ่น ที่ทะเลสาบบลูลากูน ที่รายล้อมไปด้วยมวลไอน้ำและทิวทัศน์ของภูเขาที่อยู่ห่างไกล ความหรูหราของรีสอร์ทแห่งนี้ทำให้เกิดนิยามของคำว่า 'ผ่อนคลาย' และ 'ความสะดวกสบาย' ได้อย่างสิ้นเชิง.
คุณจะเข้าพักคืนแรกในที่พักในเมืองเรคยาวิก ที่แม้จะมีขนาดเล็กแต่เมืองเรคยาวิกถือเป็นเมืองที่คึกคัก มีพิพิธภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม, หอศิลป์, คาเฟ่, ร้านอาหารและบาร์มากมาย คุณสามารถใช้เวลาในช่วงเย็นในเมืองเพื่อออกสำรวจสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม เช่นหอสังเกตการณ์พาลาน (Perlan) โถงคอนเสิร์ตฮาร์ปา (Harpa) หรือโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja).

วัน 2 - วงกลมทองคำ
ในวันที่สอง คุณได้มีโอกาสเป็นครั้งแรกในการสำรวจไอซ์แลนด์ไกลออกไปยังวงกลมทองคำ (Golden Circle) ที่น่ามหัศจรรย์ วงกลมทองคำถือเป็นตัวเลือกทัวร์ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์และถือเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มต้นการเดินทางไปรอบประเทศของคุณ.
สถานที่แรกของคุณในการทัวร์วงกลมทองคำ ได้แก่ มรดกโลกที่ได้รับการรับรองโดยองค์การยูเนสโกที่ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir National Park) สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญต่อชาวไอซ์แลนด์ด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือที่นี่เป็นที่ตั้งดั้งเดิมของอัลธิงกิ (Alþingi) ซึ่งเป็นรัฐสภาที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยครั้งแรกในโลก.
นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับนักธรณีวิทยาและผู้รักธรรมชาติ เนื่องจากธิงเวลลีย์ตั้งอยู่บนสันใจกลางแอตแลนติก และเป็นหนึ่งในสถานที่เดียวในโลกที่คุณสามารถเห็นแผ่นเปลือกโลกทวีปอเมริกาเหนือและแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย ในขณะที่ยืนอยู่บนพื้นโลก.
หลังจากเที่ยวชมในธิงเวลลีย์แล้ว คุณจะมุ่งหน้าไปยังทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำพุร้อนเดือดไกเซอร์ (Geysir) ซึ่งน้ำพุร้อนทุกแห่งได้ใช้ชื่อตามไกเซอร์แห่งนี้ รวมถึงสโทรคูร์ (Strokkur) ด้วย. สโทรคูร์ได้มีการปะทุอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ห้าถึงสิบนาทีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีโอกาสได้เห็นผลงานของปรากฏการณ์ธรรมชาติ.
สถานที่สุดท้ายของการทัวร์วงกลมทองคำ ได้แก่ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) อันยิ่งใหญ่ (หรือเรียกอีกชื่อว่า "น้ำตกทองคำ") ซึ่งเกิดจากแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา (Hvítá) ที่ไหลลงมาที่ความสูง 32 เมตรจากสองฝั่งของหน้าผาที่น่าทึ่ง ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องและมวลหมอกทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ทรงพลังที่สุดในประเทศ.
หากคุณเลือกทำกิจกรรมในระหว่างทำการจอง วันนี้คุณจะได้ร่วมทัวร์ขี่ม้า ผ่านที่ราบลุ่มทางตอนใต้ที่สวยงาม คุณจะได้เดินทางไปยังคอกม้า ที่นั่นคุณจะได้พบและขี่ม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์ที่เป็นมิตร.
คุณจะใช้เวลาคืนที่สองในแพ็คเกจนี้ ยังที่พักในทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ และหากท้องฟ้าแจ่มใสคุณอาจเห็นแสงเหนือแสดงตัวบนท้องฟ้าด้วย.

วัน 3 - ชายฝั่งทางใต้
ชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สวยงามที่สุดของประเทศ มีทั้งหุบเขาโบราณ และภูเขาหิมะ ม่านน้ำตกและสายแม่น้ำมากมาย.
วันนี้คุณจะได้ชื่นชมกับน้ำตกที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสองแห่งของประเทศ ได้แก่ น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) และน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) แม้ว่าน้ำตกทั้งคู่จะมีความสูงกว่า 60 เมตร แต่ก็ยังมีความแตกต่างกัน โดยที่น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์มีสายน้ำที่แคบและตกมาเหนือถ้ำหน้าผา ในขณะที่น้ำตกสโกการ์ฟอสส์นั้นกว้างกว่าและทรงพลังกว่ามาก.
ด้วยทัวร์ตัวเลือกเพิ่มเติมในวันที่ 3 คุณจะได้ลองปีนเขาธารน้ำแข็งบนโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) อันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผ่นน้ำแข็งที่สวยที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ ไม่มีสิ่งใดจะดีไปกว่าการได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติในขณะที่ได้อยู่ท่ามกลางประติมากรรมน้ำแข็งที่ซับซ้อนและรอยแยกขาวโพลน.
ผู้ที่ได้ขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบที่งดงาม โดยไม่ต้องกังวลใดๆเพราะไกด์ของคุณจะเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดแก่คุณรวมถึงกันลื่นรองเท้าและหมวกนิรภัย สิ่งเดียวที่คุณต้องทำคือเพิ่มการผจญภัยครั้งนี้ในระหว่างทำการจองด้วย.
คุณจะใช้เวลาคืนที่สองของการเดินทางในชนบทใกล้กับหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบที่ชื่อว่าวิก (Vík) ที่อยู่ไม่ไกลจากหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตากับชั้นหินบะซอลต์แปลกตาที่เรียงอยู่ตามแนวหน้าผา รวมถึงพลังของคลื่นมหาสมุทรแอตแลนติก เราขอเตือนว่าอย่าเข้าใกล้คลื่นที่เรย์นิสฟยารามากเกินไป เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้!

วัน 4 - ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
ในขณะที่คุณเดินทางข้ามทะเลทรายสีดำที่ชื่อว่าสเกรดาร์เอาซานดูร์
(Skeiðarársandur) คุณจะเห็นศูนย์อนุรักษ์สกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าคุณอย่างช้าๆเหนือเส้นขอบฟ้า และสามารถสังเกตได้ง่ายจากทางลาดของป่าขอบหน้าผาและแผ่นน้ำแข็ง ผ่านโอเอซิสสีเขียวนี้ที่คุณจะเดินทางภายใต้ยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์: ฮวานนาดาลส์ฮนูคูร์ (Hvannadalshnjúkur) ในธารน้ำแข็งภูเขาไฟเออไอราโจกุลล์ (Öræfajökull).
ไม่ไกลจากที่นั่นจะเป็น "อัญมณียอดมงกุฏของประเทศไอซ์แลนด์" ที่ชื่อว่าทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ที่นี่ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่แตกตัวออกมาจากธารน้ำแข็งเปรียดาร์แมร์คูร์โจกุล (Breiðamerkurjökull) แล้วตกลงไปในทะเลสาบด้านล่างและล่องลอยเอื่อยๆไปด้วยกัน.
นักท่องเที่ยวที่นี่สามารถเฝ้าชมภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้ไหลอย่างเอื่อยๆได้เป็นชั่วโมง เพื่อที่จะได้ชื่นชมความงดงามของทิวทัศน์นี้ และจะดียิ่งขึ้นหากคุณมีโอกาสได้ชมบรรดาแมวน้ำที่อาศัยอยู่บนทะเลสาบแห่งนี้ด้วย.
จากที่โจกุลซาลอน คุณสามารถเดินข้ามถนนไปยังไดมอนด์บีช ซึ่งเป็นแนวชายฝั่งที่ภูเขาน้ำแข็งของทะเลสาบถูกพัดขึ้นไป เมื่อภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้เปล่งประกายท่ามกลางแสงอาทิตย์บนชายหาดสีดำ ที่มองดูเหมือนหินมีค่าบนผืนผ้ากำมะหยี่.
กิจกรรมเพิ่มเติมในวันที่สี่นี้ คุณสามารถเลือกสำรวจธารน้ำแข็งเพิ่มขึ้นและสำรวจถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศ การได้ก้าวเข้าสู่โลกสีฟ้าน้ำทะเลใต้พื้นดินแห่งนี้ถือเป็นประสบการณ์พิเศษในประเทศไอซ์แลนด์ที่มีมากกว่าที่อื่นๆในโลก!
หากคุณต้องการรับประกันในการที่จะได้มีโอกาสเข้าชมหนึ่งในถ้ำน้ำแข็งที่มีสีสันเหล่านี้คุณสามารถเลือกจองได้ในระหว่างกระบวนการการจอง หากคุณเลือกเดินทางก่อนเดือนพฤศจิกายนคุณจะได้ไปเยี่ยมชมถ้ำภายในธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ไม่เช่นนั้นคุณจะไปชมถ้ำในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลในช่วงบ่าย.
คุณจะได้ค้างคืนในที่พักในบริเวณวัทนาโจกุล.

วัน 5 - ฟยอร์ดทางตะวันออก
ฟยอร์ดทางตะวันออก (Eastfjords) ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ รวมถึงมีความสมบูรณ์และสวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย, อารยธรรม และต้องการกลับมาสัมผัสกับความสงบสุขที่ธรรมชาติมีให้.
คุณจะเดินทางไปในพื้นที่ภูเขานี้ ซิกแซกผ่านฟยอร์ดและหุบเขา พร้อมทั้งหยุดแวะชมอัญมณีที่ซ่อนอยู่บางส่วนที่ไกด์ของคุณได้แอบเก็บไว้ในใจของเขา.
อย่าลืมจับตาดูสัตว์ป่าตลอดการเดินทางรอบไอซ์แลนด์ตะวันออกของคุณครั้งนี้ด้วย เพราะที่นี่เป็นภูมิภาคเดียวในประเทศที่สามารถมองเห็นฝูงกวางเรนเดียร์ป่า เช่นเดียวกับสถานที่อีกหลายแห่งในไอซ์แลนด์ที่คุณจะได้มีโอกาสมากมายที่จะชมแมวน้ำตามแนวชายฝั่งด้วย.
ในตอนท้ายของวันที่ 5 คุณจะได้เข้าพักในเมืองที่สวยงามในภูมิภาคฟยอร์ดทางตะวันออก.

วัน 6 - ทะเลสาบมิวาท์น
วันที่ 6 คุณจะได้เดินทางไปยังเมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) ที่งดงาม อย่างไรก็ตามในระหว่างทางคุณจะได้มีโอกาสในการถ่ายภาพที่งดงามมากมายและอาจเป็นถือว่าเป็นการผจญภัยในพื้นที่ของทะเลสาบมิวาท์น (Mývatn) ที่ยอดเยี่ยมนี้.
คุณจะได้เริ่มต้นด้วยการแวะยังเนามาส์การ์ด (Námaskarð) ซึ่งเป็นพื้นที่ความร้อนใต้พิภพ. ที่นี่คุณจะพบกับพุก๊าซและสระโคลนเดือดในทุกก้าว คุณจะได้ลงจากรถมินิบัสที่นี่ และไม่แปลกใจที่คุณจะคิดว่าคุณเพิ่งก้าวเข้าสู่ฉากหนึ่งของภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์.
หนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมมากที่สุดรอบ ๆ ทะเลสาบมิวาท์นคือ ดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) พื้นที่นี้เกิดจากหินรูปร่างแปลกประหลาดได้ก่อตัวเป็นหินที่น่ากลัวและกลายเป็นสิ่งที่ตกแต่งภูมิทัศน์ให้กับภูเขาไฟนี้. ดิมมูร์บอร์กิร์หมายถึงปราสาทมืด และชื่อนี้ก็ได้มาจากการก่อตัวของหินรูปร่างคล้ายป้อมปราการยุคกลางที่ดูแปลกตา.
หากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง คุณสามารถเลือกที่จะใช้เวลาผ่อนคลายที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาท์น ที่เป็นคำตอบของทางเหนือเช่นเดียวกับที่ทะเลสาบบลูลากูน. ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการผ่อนคลายหลังจากวันที่วุ่นวายและเฝ้าชมการปรากฏของแสงเหนือ.
ก่อนที่จะไปยังเมืองอาคูเรย์ริที่คุณจะใช้เวลาทั้งคืนนี้ คุณจะหยุดที่น้ำตกโกดาฟอสส์ (Goðafoss) ที่งดงาม น้ำตกที่สวยงามนี้ตกลงมาจากหน้าผาโค้งลงสู่แม่น้ำที่คดเคี้ยวด้านล่าง.

วัน 7 - สำรวจไอซ์แลนด์เหนือ
วันนี้คุณจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ นั่นคือหมู่บ้านเล็กๆที่ชื่อว่าเฮยกาเนส (Hauganes). เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นที่อยู่ของประชากรเพียงประมาณ 140 คน แต่ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ คุณสามารถเดินเล่นบนหาดทรายสีดำและชื่นชมกับทิวทัศน์ทะเลและท่าเรือที่งดงาม.
หากคุณต้องการชมทิวทัศน์ที่นี่ให้งดงามมากยิ่งขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือการเข้าร่วมทัวร์ชมปลาวาฬ. ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของที่นี่แล้ว แต่คุณจะได้ออกไปมองหาปลาวาฬอันงดงามที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ.
วันนี้ยังถือว่าเป็นวันหยุด เพราะคุณสามารถใช้เวลาทั้งวันในการดื่มเบียร์เย็นๆ ในขณะที่แช่เบียร์อุ่นๆที่สปาเบียร์. โรงเบียร์ในท้องถิ่นได้เปิดเป็นสปาเบียร์ ซึ่งลูกค้าจะได้ผ่อนคลายด้วยการแช่เบียร์อุ่นๆ และเบียร์ยีสต์ซึ่งมีการกล่าวกันว่านั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมและผิวหนังของคุณ.
จากนั้นออกไปเที่ยวชมกองหินแปลกตาที่เรียกว่าฮวิทแชร์คูร์ (Hvítserkur) หรือ 'เสื้อเชิ๊ตสีขาว' ชื่อแปลกนี้ได้มาจากปริมาณของขี้ค้างคาวที่อยู่ด้านบน. ที่นี่ถือเป็นที่พักผ่อนที่โปรดปราณของบรรดานกที่กำลังมองหาอาหารในน้ำรอบบริเวณ หินนี้มีลักษณะคล้ายกับช้างและเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับช่างภาพด้วย.
จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปยังภูมิภาคบอร์กาเนส (Borgarnes) ที่นี่คุณจะใช้เวลาพักผ่อนในคืนนี้ คุณจะได้แช่อ่างน้ำร้อนที่ดีที่โรงแรม ที่คุณจะได้ผ่อนคลายหลังจากวันแห่งการเดินทางที่ยาวนาน และบางทีแสงเหนืออาจอาจจะปรากฏขึ้นเพื่อจะทำให้ดูเหมือนเป็นการสวมมงกุฏให้กับการเดินทางในวันนี้.

วัน 8 - ไอซ์แลนด์ตะวันตก
ตอนนี้เป็นเวลาในสำรวจสถานที่น่าสนใจหลากหลายของไอซ์แลนด์ตะวันตกก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) อันงดงามที่คุณจะได้ใช้เวลาทั้งคืนในคืนนี้ด้วย.
คุณจะเริ่มต้นวันใหม่โดยการมุ่งหน้าไปยังน้ำพุร้อนที่ทรงพลังที่สุดของยุโรปอย่างเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver). หากคุณต้องการภาพเซลฟี่ที่งดงามที่นี่ คุณจะต้องอดทนเพราะน้ำเดือดจะปะทุขึ้นมาจากพื้นโลกพร้อมกับไอน้ำจำนวนมหาศาลซึ่งครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาค.
จากนั้นก็จะได้ออกเดินทางสู่น้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) ที่งดงาม ที่ละลายจากธารน้ำแข็งในบริเวณใกล้เคียงและเดินทางผ่านช่องว่างใต้ดินในทุ่งลาวาที่อยู่โดยรอบ ก่อนที่จะผุดขึ้นมาที่น้ำตกเฮินฟอซซาร์เป็นสายน้ำ เดินไปไม่ไกลจากที่นั่นคุณจะพบกับบาร์นาฟอสส์ (Barnafoss) ซึ่งเป็นน้ำตกอีกแห่งที่สวยงาม แต่มีความแตกต่างกันอย่างมาก เนื่องจากที่นี่เกิดจาการที่แม่น้ำฮวิทเอา (Hvítá) ที่ไหลเชี่ยวผ่านหุบเขาแคบๆและทำให้เกิดน้ำตกที่งดงามแห่งนี้.
จากนั้นคุณจะได้กลับสู่ที่พัก ที่คุณสามารถใช้เวลายามเย็นคืนนี้เพื่อมองหาแสงเหนือในขณะที่กำลังผ่อนคลายในอ่างน้ำร้อน.

วัน 9 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
วันนี้เป็นสุดท้ายของคุณที่จะได้อยู่นอกเมืองเรคยาวิก จะอยู่ระหว่างการเดินทางกลับไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) ที่ลึกลับและน่าเกรงขามซึ่งเป็นภูมิภาคที่เหมือนมีชีวิต, เป็นแรงบันดาลใจในนิยายมากมายและมีทิวทัศน์ที่น่าทึ่งที่สุดในไอซ์แลนด์.
การหยุดแวะแรกที่หน้าผาแกร์ดูเบิร์ก (Gerðuberg) ที่เป็นกำแพงหินบะซอลต์หกเหลี่ยมที่น่าประทับใจนี้ดูเหมือนออกมาจากซีรี่ส์เรื่องมหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) และคุณสามารถเดินขึ้นไปที่นั่นและแม้แต่ขึ้นไปด้านบนได้ในบางส่วน จากนั้นคุณจะได้ออกไปยังหาดทรายขาวอิทรี ทุงกา (Ytri-Tunga). หาดทรายขาวถือเป็นสิ่งหายากในไอซ์แลนด์และหาดทรายแห่งนี้ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ของภูเขาและทะเล แหล่งจุดสำคัญหลักของที่นี่คือแมวน้ำซึ่งมักจะออกมาว่ายน้ำในมหาสมุทรหรือผ่อนคลายอยู่บนชายฝั่ง.
ธารน้ำแข็งสไนล์เฟลส์โจกุลถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุณจะไม่เคยเห็นมาก่อนทั้งตลอดการเดินทางข้ามคาบสมุทร คาบสมุทรจะดูใหญ่ขึ้นเรื่อยๆตรงหน้าคุณ และจะนำคุณไปยังปลายสุดของแผ่นดิน. ในขณะที่คุณเยี่ยมชมสถานที่ที่ดูแปลกตาเช่น ชายหาดสไนล์เฟลส์โจกุล (Djúpalónssandur) และภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell).
ธารน้ำแข็งแห่งนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนวนิยายเรื่อง "ดิ่งทะลุสะดือโลก" (Journey to the Center of the Earth) ของฌูลส์ เวิร์น (Jules Verne). นอกจากที่นี่จะดูเหมือนจักรวาลสมมติแล้ว ยังมีความเชื่อของผู้คนว่าที่นี่เป็น "พื้นที่ซ่อนเร้น" ของไอซ์แลนด์ที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคสไนล์แฟลซเนสด้วย.
ถือเป็นโบนัสเพิ่มเติมสำหรับวันที่ 9 นี้ เพราะคุณจะไปเยี่ยมชมถ้ำวาท์ทเฮลลิร์ (Vatnshellir) ที่เป็นหนึ่งในถ้ำลาวาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่มีลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่ใต้ดินที่จะทำให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมประหลาดใจด้วยสีสันอันหลากหลายละลานตาที่ตกแต่งภายในที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ.
ในตอนท้ายของวันบนคาบสมุทรแห่งนี้ คุณจะได้เดินทางกลับโดยรถมินิบัสไปยังเรคยาวิกที่คุณจะได้เข้าพักในคืนนี้.

วัน 10 - วันอิสระในเมืองเรคยาวิก
ในวันที่สิบของแพ็คเกจนี้ คุณจะมีอิสระในการออกสำรวจเมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลกที่ชื่อว่าเรคยาวิก.
นอกเหนือจากการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ยังมีทัวร์จำนวนมากที่คุณสามารเข้าร่วมได้จากตัวเมือง เช่นหากคุณพลาดไปเมื่อวันก่อนหน้า คุณสามารถเข้าร่วมทัวร์ชมวาฬจากท่าเรือเก่าซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่คุณจะได้เห็นสัตว์ป่าของประเทศไอซ์แลนด์ได้อย่างใกล้ชิด น่านน้ำชายฝั่งรอบเกาะได้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลหลากหลายชนิดรวมถึง วาฬมิ้งค์ (Minke), วาฬหลังค่อม (Humpbacks), วาฬออร์การ์ (Orcas) และปลาโลมา.
นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกขึ้นรถบัสมุ่งหน้าไปยังธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ เพื่อเข้าชมอุโมงค์ที่สลับซับซ้อนที่มีการแกะสลักเข้าไปในธารน้ำแข็ง อุโมงค์เหล่านี้ถือเป็นความพิเศษของโลกของธารน้ำแข็งเมื่อคุณได้เคลื่อนที่ผ่านห้องน้ำแข็งสีขาวและสีฟ้า.
อีกทางเลือกหนึ่งคือคุณสามารถเลือกทัวร์ที่จะนำคุณขึ้นบินไปทั่วเมืองด้วยเฮลิคอปเตอร์และหยุดพักบนภูเขาใกล้เคียง การได้ชมเมืองเรคยาวิกโดยเฮลิคอปเตอร์นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ที่จะทำให้คุณได้ชมทัศนียภาพที่หายากและให้คุณได้เข้าใจในเมืองเล็กๆที่อยู่ทางเหนือนี้.
ไม่ว่าคุณจะเลือกทำอะไรในวันนี้ มั่นใจได้เลยว่าว่าคุณจะรู้สึกอิสระในเมืองเล็กๆที่มีด้วยเอกลักษณ์และกิจกรรมทั้งหมดที่มีอยู่ในเมือง.

วัน 11 - วันเดินทางกลับ
น่าเสียใจที่วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายของคุณในประเทศไอซ์แลนด์และทุกสิ่งที่ดีจะต้องจบลงจนกว่าคุณจะได้เดินทางกลับมาอีกครั้ง! หากคุณมีเวลาก็ยังมีอะไรให้สำรวจอีกมากมายในเมืองเรคยาวิกรวมถึงสระน้ำของเมืองที่ชื่อว่าทุยอร์นิน (Tjörnin), สวนสาธารณะในเมืองและตลาดนัดในเมืองเรคยาวิกที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี.
สำหรับคนที่มีเที่ยวบินช่วงเย็นและอยากที่จะไปชมบลูลากูน คุณจะได้ท่องเที่ยวทุกสถานที่ก่อนออกเดินทางไปสนามบิน. นี่คือสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนขณะที่คุณอาบน้ำในน้ำอุ่นและน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยเมื่อคุณมองย้อนกลับไปในการผจญภัยที่เหลือเชื่อที่คุณเพิ่งมีในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง หากเที่ยวบินของคุณออกช่องเย็นมีหลายสิ่งให้ทำในเรคยาวิก หากคุณมีเที่ยวบินช่วงเช้สกลับบ้านเราหวังว่าคุณจะเดินทางอย่างสะดวกสบาย
เมื่อถึงเวลาคุณจะได้เดินทางกลับผ่านที่ราบภูเขาไฟของคาบสมุทรเรคยาเนส ไปยังสนามบินนานาชาติเคฟราวิก ที่คุณจะได้จับเที่ยวบินของคุณกลับบ้าน เราหวังว่าจะได้พบคุณอีกในเร็วๆนี้!
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังนั้นการปรากฏการณ์จึงไม่สามารถการันตีได้ แต่แผนการเที่ยวนี้จัดทำเพื่อให้คุณมีโอกาสเห็นที่สุด หากสภาพอากาศเป็นใจ.
เราขอแจ้งให้คุณทราบว่าประเทศไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงของอากาศที่รุนแรง สภาพอากาศอาจจะไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและอาจจะค่อนข้างเย็น การสวมรองเท้าและเสื้อคลุมที่เหมาะสมจะทำให้การเดินทางของคุณสนุกยิ่งขึ้น.
เราขอแจ้งให้คุณทราบว่าตารางการเดินทางของคุณอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสภาพภูมิอากาศ.
การยกเลิกกิจกรรมอาจจะเกิดขึ้นได้หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ, หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเราจะทำการจัดการแผนให้กับคุณ หรือ จองกิจกรรมอื่นที่มี และราคาที่ต่างจะทำการคืนให้กับคุณ.
ขอเรียนให้ทราบว่าถนนบนประเทศไอซ์แลนด์สามารถลื่นได้ง่ายมากในช่วงฤดูหนาว. เราขอแนะนำให้คุณใช้รองเท้าที่หน้ารองเท้าเกาะได้ดี หรือซื้อที่เกาะน้ำแข็งติดรองเท้าของคุณ. ที่เกาะสามารถซื้อได้ทั่วซูเปอร์มาร์เก็ตหรือปั้มน้ำมันทั่วประเทศ.
ที่พักในเรคยาวิก
ดูระดับที่พักของเราและผู้บริการพาร์ทเนอร์ของเราใต้แผนการเที่ยวของแต่ละวันด้านล่าง.
สำหรับที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะจัดทำในฮอสเทลและที่นอนแบบหอพัก. สำหรับระดับบัดเจทและระดับคอมฟอร์ท, สำหรับการจองแบบคนเดียวจะจัดเตรียมให้เป็นห้องนอนเดี่ยว, และสำหรับการจองสำหรับสองคนหรือมากกว่านั้นจะจัดเป็นห้องเตียงคู่หรือทริปเปิ้ลรูม. สำหรับระดับมาตรฐาน ผู้พักเลขคี่จะจัดให้เป็นห้องเตียงเดี่ยว.
วัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้กับผู้ปกครอง. หากต้องการห้องเพิ่ม, ค่าเสียหายเพิ่มเติมอาจจะถูกคิดเพิ่ม.
Guide to Iceland จะบริการคุณเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุดพร้อมด้วยกันกับที่พักที่ถูกจองผ่านพาร์ทเนอร์ของเรา. เราขอเรียนให้ท่านทราบว่าโรงแรมในประเทศไอซ์แลนด์มีจำกัด และหากว่าพาร์ทเนอร์ของเราได้ทำการจองเต็มในวันที่คุณต้องการ เราจะต้องหาสถานที่อื่นในระดับเดียวกันให้กับคุณ.
ขอเรียนให้ทราบว่าที่พักระดับคุณภาพไม่มีในทุกพื้นที่. ที่พักแบบคอมฟอร์ทจะได้ทำการจัดการในพื้นที่ที่ไม่มีที่พักระดับนั้น.
เราจะพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อให้ตรงกับความต้องการของคุณ, และนั้นอาจจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น. กดเลือกวันเพื่อที่จะหาวันที่ว่าง
หอพักพร้อมด้วยห้องน้ำรวมในเกสท์เฮาส์หรือฮอสเตลล์. บนสถานที่ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย. ไม่รวมอาหารเช้า.
ห้องพร้อมด้วยห้องน้ำรวม ในฟาร์มเฮาส์, เกสท์เฮาส์หรือฮอสเทลล์ บนสถานที่ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย. ไม่รวมอาหารเช้า.
ห้องพร้อมห้องน้ำส่วนตัวโรงแรม3ดาวหรือเกสท์เฮาท์คุณภาพดี. ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว. รวมอาหารเช้า.
ห้องพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรม4ดาวหรือ ห้องซูพีเรียร์ในโรงแรม3ดาว บนสถานที่ที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์. รวมอาหารเช้า.