แพ็คเกจฤดูร้อน 12 วันพร้อมไกด์ เที่ยวถนนวงแหวนรอบไอซ์แลนด์และคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

เครื่องบินของคุณจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิประเทศคล้ายพระจันทร์ของคาบสมุทรเรคยาเนส เมื่อคุณรับกระเป๋าเสร็จแล้ว ให้ขึ้นรถบัสซึ่งจะพาคุณไปยังเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์

ระหว่างทางคุณสามารถแวะที่สปาความร้อนใต้พิภพบลูลากูน สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องน้ำเพื่อการบำบัด สีฟ้าสดใส และทรีตเมนต์ที่หรูหรา อยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง

หากคุณเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริปวันนี้ ตารางเข้าใช้บริการจะจัดให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากวันนี้คุณยังไม่มีเวลาไปบลูลากูนก็สามารถไปเพิ่มกิจกรรมนี้ในวันอื่นได้ ที่ปรึกษาการเดินทางของคุณสามารถจัดเตรียมสิ่งนี้ให้กับคุณได้

จากนั้นคุณจะได้เดินทางข้ามทุ่งลาวาอันน่าทึ่งจนกระทั่งถึงที่พักในตัวเมือง หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถออกไปสำรวจเมืองได้ พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะส่องสว่างให้บรรยากาศเหมือนยามเย็นยาวไปถึงตอนกลางคืน

เรคยาวิก เมืองหลวงทางตอนเหนือสุดของโลก เป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและประวัติศาสตร์อันยาวนาน เริ่มต้นการสำรวจของคุณด้วยการเยี่ยมชมโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยาอันโดดเด่น ยอดแหลมที่สูงตระหง่านไม่เพียงแต่โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้าของเมืองเท่านั้น แต่ยังมีทิวทัศน์แบบพาโนรามาจากจุดชมวิวอีกด้วย

บริเวณใกล้เคียงมีประติมากรรมงานปั้นซันโวยาจเจอร์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายเรือยาวไวกิ้ง ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล เป็นสัญลักษณ์ของความหวังและอิสรภาพ เดินไปอีกไม่ไกลจะนำคุณไปยังฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ ความมหัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ โดยมีส่วนหน้าเป็นกระจกที่สะท้อนภาพทะเลและเมืองที่มีชีวิตชีวา

ใจกลางเมืองเรคยาวิกเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ถนนที่พลุกพล่านอย่างเลยกาแวกูร์ (Laugavegur) และสโคลาวอร์ดูสติกูร์ (Skolavordustigur) เป็นถนนที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งในท้องถิ่น ลิ้มรสอาหารไอซ์แลนด์รสเลิศ หรือเพียงแค่ดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมือง

คุณสามารถดื่มเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟและบาร์หลายแห่งในเมือง และเพลิดเพลินกับสถานบันเทิงยามค่ำคืนในเมืองเรคยาวิกได้ด้วย แต่อย่าเที่ยวหนักมากเกินไป เพราะคุณจะต้องการประหยัดพลังงานไว้ใช้ในวันข้างหน้า

ทัวร์รถมินิบัสรอบเกาะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไกด์เข้าไปรับคุณในตอนเช้า หลังจากแนะนำตัวอย่างเป็นกันเองแล้ว คุณจะเริ่มต้นเส้นทางการเที่ยวชมสถานที่ในวันนั้น ซึ่งก็คือวงกลมทองคำ

จุดแรกของคุณคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) ซึ่งเป็นบริเวณที่โดดเด่นด้วยช่องเขาขรุขระ ด้านหนึ่งของหุบเขามีแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียนที่เปิดโล่ง และอีกด้านหนึ่งเป็นแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือ ไอซ์แลนด์เป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่สามารถเดินท่ามกลางรอยแยกระหว่างทวีปในลักษณะนี้ได้

ธิงเวลลีร์ยังมีความสำคัญทางวัฒนธรรมอีกด้วย เนื่องจากที่นี่เป็นที่ที่ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวไวกิ้งรวมตัวกันในปี ค.ศ. 1000 เพื่อวางกฎหมายแผ่นดิน นอกจากนี้ สถานที่ทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งแรกของโลกที่ชื่อว่าอัลธิงกิ (Althingi) ทำให้ที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ ภูมิทัศน์ของอุทยานคั่นด้วยลำธารใสสะอาด หินลาวาที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ และป่าไม้เบิร์ช มอบฉากหลังที่งดงามให้กับประวัติศาสตร์อันยาวนาน

ต่อไปคุณจะได้เยี่ยมชมพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir) ซึ่งตั้งชื่อตามน้ำพุร้อนอันโด่งดัง ซึ่งทำให้ต่อมาไกเซอร์กลายเป็นคำเรียกน้ำพุร้อนทั้งหมด ที่นี่คุณจะได้ชมน้ำร้อนเดือดพุ่งออกมาจากไกเซอร์สโทรคูร์ ซึ่งสูงถึง 20 เมตร

ภูมิภาคที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลานี้คั่นด้วยแอ่งโคลนที่เดือดพล่านและพุก๊าซไอน้ำ สีที่ตัดกันของดินที่อุดมด้วยแร่ธาตุและไอน้ำที่พุ่งสูงขึ้นทำให้เกิดบรรยากาศที่แทบจะเหมือนอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นพลังที่แท้จริงของกิจกรรมความร้อนใต้พิภพของไอซ์แลนด์

เมื่อคุณชื่นชมปรากฏการณ์นี้จนครบแล้ว คุณจะได้ไปชมน้ำตกกุลล์ฟอสส์อันยิ่งใหญ่ แม่น้ำฮวิตเอาประกอบด้วยน้ำเย็นบริสุทธิ์ และที่น้ำตกกุลล์ฟอสส์ มีน้ำตกสองชั้นอันยิ่งใหญ่ไหลลงมาด้วยพลังอันมหาศาล การชมน้ำตกทำได้จากหลายมุม ทำให้มีโอกาสมากมายในการได้ภาพที่ดีที่สุด

คืนนี้คุณจะพักผ่อนในที่พักในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์

วันนี้ได้เวลาเดินทางไปยังชายฝั่งทางใต้ ภูมิภาคที่โดดเด่นด้วยชายหาดสีดำกว้างใหญ่และน้ำตกที่สวยงาม หากสภาพอากาศดี ให้คุณลองมองออกไปนอกทะเล เนื่องจากจะสามารถมองเห็นหมู่เกาะเวสต์แมนนอกชายฝั่งได้

จุดแรกของคุณคือน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้จากถนนเมื่อคุณเข้าใกล้หน้าผาของที่ราบสูงทางตอนใต้ อย่างไรก็ตาม การได้เห็นน้ำตกแห่งนี้อย่างใกล้ชิดนั้นน่าทึ่งมาก น้ำตกจากความสูง 60 เมตรด้านหน้าถ้ำขนาดใหญ่ที่คุณสามารถเข้าไปชมน้ำตกได้จากทุกมุม

น้ำตกแห่งที่สองของคุณคือน้ำตกสโคกาฟอสส์ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เช่นเดียวกับน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ น้ำตกอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ตกลงมาจากความสูง 60 เมตรท่ามกลางม่านน้ำแผ่กว้างที่มีเสียงดังกึกก้อง และเนื่องจากพื้นที่โดยรอบเป็นที่ราบ ทำให้ผู้มาเยี่ยมชมสามารถเข้าไปใกล้ได้ ในวันที่มีแสงแดดสดใส คุณอาจเห็นสายรุ้งหลายสายทอดตัวท่ามกลางละอองน้ำของน้ำตก

วันนี้คุณจะเลือกไปเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งก็ได้ ถ้ำน้ำแข็งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันน่าเหลือเชื่อ คุณจะได้เข้าไปในวังน้ำแข็งที่มีกำแพงน้ำแข็งคริสตัลแซมด้วยลวดลายหินอ่อนเป็นสีขาวและน้ำเงิน

นอกจากนี้ คุณยังจะได้เยี่ยมชมซุ้มหินโค้งดิร์โฮลาเอย์ริมทะเล ซึ่งเป็นซุ้มทางเดินจากหินที่ทอดยาวจากแผ่นดินใหญ่ของชายฝั่งทางใต้ลงสู่ทะเล จากที่นี่คุณจะได้เห็นทิวทัศน์โดยรอบบางส่วน จุดนี้ยังเป็นสวรรค์สำหรับนักดูนกด้วย มีสัตว์หลายชนิด รวมถึงนกพัฟฟิน ซึ่งมักพบเห็นทำรังบนหน้าผาในบางช่วงเวลาของปี

เดินทางต่อไปตามชายฝั่งทางใต้ คุณจะไปยังหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา แนวชายฝั่งอันงดงามที่ทอดยาวนี้มีชื่อเสียงในด้านหาดทรายที่น่าหลงใหล เสาหินบะซอลต์อันงดงาม และแนวหินทะเลเรย์นิสดรังการ์ที่ถ่ายรูปสวย จับตาดูเหล่านกน้อยที่น่าประทับใจของชายหาดแห่งนี้ ซึ่งคุณอาจจะได้เห็นนกพัฟฟิน

ในช่วงท้ายวัน คุณจะมุ่งหน้าไปยังที่พักในไอซ์แลนด์ตอนใต้

วันของคุณจะเริ่มต้นด้วยการขับรถข้ามผืนทรายโซลเฮมาซานดูร์ ทะเลทรายสีดำอันกว้างใหญ่ที่ทอดยาวไปจนถึงขอบอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลอันยิ่งใหญ่ ตื่นตาตื่นใจกับภูมิประเทศที่ตัดกันกับเส้นขอบฟ้าที่โผล่มาให้เห็นเรื่อยๆ

จุดแวะแรกของวันนี้จะทำให้คุณต้องมนต์สะกดอย่างแน่นอน ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนมักถูกเรียกว่า "อัญมณียอดมงกุฏแห่งไอซ์แลนด์" และเป็นภาพที่น่าไปชมมาก ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในไอซ์แลนด์ โดยมีความลึกสูงสุด 814 ฟุต (248 เมตร) และมีพื้นที่ 11.2 ตารางไมล์ (18 ตารางกิโลเมตร)

ภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาซึ่งลอยอยู่ในน้ำที่เป็นผลึกนั้นแตกออกจากลิ้นของธารน้ำแข็งเบรดาแมร์คุร์โจกุล และลอยออกไปในทะเลอย่างอ้อยอิ่ง

ที่นี่ คุณจะมีโอกาสได้ล่องเรือท่ามกลางน้ำแข็งเมื่อเข้าร่วมกับทัวร์ล่องเรือสุดพิเศษด้วยยานพาหนะสะเทินน้ำสะเทินบกพิเศษที่จะพาแล่นลงสู่ทะเลสาบและล่องเรือไปท่ามกลางภูเขาน้ำแข็ง ให้คุณได้สัมผัสโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของภูเขาน้ำแข็งแต่ละลูกในขณะที่พวกมันส่งเสียงดังเอี๊ยดและครวญครางตามมวลน้ำหนัก

เมื่อคุณรับชมความยิ่งใหญ่ของโจกุลซาร์ลอนจนเต็มอิ่มแล้ว คุณจะเดินทางไปยังหาดไดมอนด์ (Diamond Beach) ซึ่งเป็นแนวชายฝั่งอันงดงามที่ภูเขาน้ำแข็งถูกพัดขึ้นมาเกยฝั่ง คุณสามารถเดินท่ามกลางธารน้ำแข็งโบราณและถ่ายรูปสวยๆ มากมายได้ที่นี่

ก้อนน้ำแข็งที่ส่องแสงบนทรายสีเข้มดูเหมือนเพชรที่ส่องประกายระยิบระยับ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อชายหาดแห่งนี้ เสียงคลื่นที่กระทบกับน้ำแข็งนั้นช่างน่าทึ่งและเพิ่มความสวยงามให้กับสถานที่นี้

วันนี้คุณจะได้ไปที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่สวยงามของประเทศภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล จากที่นี่ คุณจะได้ไปปีนธารน้ำแข็ง คุณจะได้รับอุปกรณ์ที่จำเป็นและถูกพาขึ้นไปบนเนินน้ำแข็งเพื่อชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งจากบนธารน้ำแข็ง

คุณจะได้ใช้เวลาช่วงเย็นของคุณในที่พักในไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ ใช้ประโยชน์จากพระอาทิตย์เที่ยงคืนให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการนั่งข้างนอกหรือออกไปเดินเล่นเพื่อชมสภาพแวดล้อมที่สวยงาม

วันนี้คุณจะได้สำรวจฟยอร์ดตะวันออกที่ห่างไกลและเป็นธรรมชาติ พื้นที่ภูเขาที่มีประชากรเบาบางแห่งนี้โดดเด่นด้วยหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ และถนนหินที่คดเคี้ยว ไกด์ของคุณสามารถแชร์ความลับในท้องถิ่นให้กับคุณและคณะได้หากต้องการ

ธรณีวิทยาของฟยอร์ดตะวันออกส่วนใหญ่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นควรใส่ใจกับการก่อตัวของหินและก้อนกรวดหลากสีที่ประดับอยู่บนพื้น คุณจะมีโอกาสได้รับประสบการณ์ของเมืองเล็กๆ อย่างแท้จริงเมื่อแวะที่เมืองท่าเรือที่มีเสน่ห์แปลกตาซึ่งกระจายอยู่ตามชายฝั่ง

นอกจากนี้ จะมีการแวะพักที่ทะเลสาบลาการ์ฟโยลท์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่และสวยงามซึ่งมีข่าวลือว่ามีสัตว์ทะเลโบราณอาศัยอยู่ สัตว์ร้ายตัวนี้เรียกว่า Lagarfljot Wyrm และตำนานของมันจะทำให้สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสในสกอตแลนด์เชยไปเลย

คนในท้องถิ่นและผู้มาเยือนจำนวนมากอ้างว่าเคยเห็นการเคลื่อนไหวแปลกๆ ในน้ำ ซึ่งเพิ่มเสน่ห์อันลึกลับของทะเลสาบ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ เรื่องราวอันน่าหลงใหลและความงามอันเงียบสงบของทะเลสาบทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชม

นอกจากนี้คุณยังจะได้เห็นป่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่าฮาลอร์มสตาดาสโคกูร์ (Hallormsstadaskogur) ซึ่งเป็นความสุขที่น่ายินดีหลังจากเดินทางผ่านภูมิประเทศที่ปกติแล้วไม่มีต้นไม้ของประเทศไอซ์แลนด์ ป่าที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบลาการ์ฟโยลท์นี้มีเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม จุดปิกนิก และโอกาสในการชมสัตว์ป่าในท้องถิ่น ความเขียวขจีหนาแน่นของต้นไม้ที่ตัดกับฉากหลังที่ขรุขระของไอซ์แลนด์สร้างบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์และสดชื่น

หากคุณต้องการการผจญภัยเพิ่มเติมในทริปวันนี้ คุณสามารถเลือกเข้าร่วมทัวร์ขี่ม้าได้ ม้าไอซ์แลนด์เป็นที่รู้จักกันดีในด้านนิสัยที่น่ารักและรูปร่างที่แข็งแรง เหมาะสำหรับนักขี่ม้าทุกวัย และจะพาคุณออกไปสัมผัสประสบการณ์ชนบทของประเทศไอซ์แลนด์ในรูปแบบใหม่ได้

จากนั้นคุณจะสิ้นสุดวันของคุณที่เอกิลสตาดีร์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกและมักจะเป็นสถานที่ที่มีแสงแดดสดใสที่สุดในไอซ์แลนด์

คุณจะได้ใช้เวลาช่วงเย็นในที่พักในไอซ์แลนด์ตะวันออก

หลังจากออกจากฟยอร์ดตะวันออกแล้ว คุณจะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งบนเส้นทางไดมอนด์เซอร์เคิล ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของวงกลมทองคำทางตะวันตกเฉียงใต้

อย่างไรก็ตาม ก่อนออกเดินทาง คุณสามารถเพลิดเพลินกับเวิกบาธ (Vok Baths) ซึ่งเป็นสปาที่ลอยอยู่ในทะเลสาบได้ หากคุณเลือกที่จะทำเช่นนั้นเมื่อทำการจอง

วงกลมเพชรหรือไดมอนด์เซอร์เคิลประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลักสี่แห่ง ได้แก่ น้ำตกเดตติฟอสส์ หุบเขาอาสบิร์กี เมืองฮูสาวิก และทะเลสาบมิวาทน์

ก่อนอื่น คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับ "The Beast" ซึ่งเป็นชื่อเล่นของน้ำตกเดตติฟอสส์ที่มีขนาดมหึมาและถือว่ามีพลังมากที่สุดในยุโรป ลักษณะทางธรรมชาติของน้ำตกขนาดยักษ์นี้ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงพอสมควร เนื่องจากเคยปรากฏในภาพยนตร์ไซไฟของริดลีย์ สก็อตต์ เรื่อง “Prometheus” หลังจากเดินไปน้ำตกได้ไม่ไกล คุณจะสามารถรับรู้ถึงพลังอันมหาศาลของมันได้จากการส่งน้ำปริมาณมหาศาลลงไปที่ความสูง 144 ฟุต (44 เมตร)

จากนั้น คุณจะได้เยี่ยมชมอาสบิร์กิ ซึ่งเป็นหุบเขารูปเกือกม้าซึ่งตามตำนานเล่าขานกันนั้น ถูกสร้างขึ้นโดยม้าแปดขาของโอดินที่ชื่อสเลปปินิร์ ในขณะที่มันกระทืบเท้าลงมาบนพื้นโลก เมื่อคุณได้ชมทิวทัศน์อันเขียวขจีที่อาสบิร์กิแล้ว คุณจะได้แวะพักที่เมืองฮูสาวิกอันงดงาม ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านท่าเรือและโบสถ์ไม้อันวิจิตรงดงาม

จากนั้น คุณจะได้เดินทางต่อไปยังทะเลสาบมิวาทน์ แหล่งน้ำอันน่าทึ่งที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติมหัศจรรย์มากมาย ทะเลสาบนี้มีความยาวประมาณ 9.5 กิโลเมตร และกว้าง 6.5 กิโลเมตร ทำให้ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศไอซ์แลนด์

คุณจะได้สำรวจช่องเขาเนามาสการ์ด (Namaskard Pass) ซึ่งเป็นพื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่พลังของโลกลอยขึ้นสู่พื้นผิวในขณะที่ไอน้ำพ่นออกมาจากพุก๊าซหรือบ่อโคลนเดือด

จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปยังเมืองอาคูเรย์ริทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ ระหว่างทางคุณจะแวะที่ “น้ำตกแห่งเทพเจ้า” หรือน้ำตกโกดาฟอสส์ เชื่อกันว่านี่คือจุดที่หัวหน้าเผ่าไวกิ้งโยนรูปเคารพนอกรีตลงในน้ำ ซึ่งเป็นการกระทำในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อกระตุ้นให้ชาวไอซ์แลนด์รับเอาศาสนาคริสต์มาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับนอร์เวย์

จากนั้นคุณจะสิ้นสุดวันของคุณในที่พักในไอซ์แลนด์เหนือ

วันนี้คุณจะเริ่มต้นมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพื่อชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ วันของคุณจะเริ่มต้นด้วยการออกจากเมืองอาคูเรย์ริ

จุดแวะแรกของคุณคือหมู่บ้านเฮยกาเนส (Hauganes) ซึ่งตั้งอยู่บนฟยอร์ดที่มีมนต์ขลังของเอยาฟยอร์ดูร์และมีประชากรไม่มากเพียงประมาณ 140 คน ระหว่างแวะที่นี่ คุณสามารถเดินไปรอบๆ เมืองและดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวและชีวิตในชนบทของชาวไอซ์แลนด์

หมู่บ้านแห่งนี้มีมรดกการประมงอันยาวนาน และท่าเรือเล็กๆ มักจะพลุกพล่านไปด้วยชาวประมงท้องถิ่นที่ง่วนอยู่กับปลาที่จับได้ในแต่ละวัน การผสมผสานระหว่างภูมิประเทศที่สวยงามและการใช้ชีวิตริมชายฝั่งทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสชีวิตฟยอร์ดของประเทศไอซ์แลนด์อย่างแท้จริง

เมืองชายฝั่งทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมปลาวาฬ และจากเฮยกาเนส คุณจะมุ่งหน้าไปในน่านน้ำทางตอนเหนือในทัวร์ชมปลาวาฬ

ฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูร์มีชื่อเสียงจากผืนน้ำนิ่งสงบและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางในการชมวาฬหลังค่อม วาฬมิงค์ และบางครั้งก็มีวาฬเพชฌฆาตด้วยซ้ำ ขณะที่คุณเดินทางข้ามผืนน้ำ ให้สังเกตสิ่งมีชีวิตที่สง่างามเหล่านี้ รวมถึงโลมาขี้เล่น และนกทะเลนานาชนิดที่แวะเวียนมาในบริเวณนี้

สถานที่ต่อไปของคุณคือบริเวณฮวิทแซร์คูร์อันลึกลับ ส่วนนี้ของประเทศเป็นที่ตั้งของกลุ่มหินที่มีชื่อเดียวกัน ฮวิทแซร์คูร์ (Hvitserkur) ยื่นออกมาจากทะเล 15 เมตร และเป็นหนึ่งในกลุ่มหินที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ตำนานท้องถิ่นกล่าวว่าหินก้อนนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นโทรลล์ที่หลบเข้าที่กำบังช้าเกินไป จึงโดนแสงอาทิตย์และและกลายเป็นหิน

นอกจากจะมีเสน่ห์แล้ว หินนี้ยังมีความสูงประมาณ 15 เมตร และในบางมุมก็มีลักษณะคล้ายมังกรกำลังดื่มน้ำจากทะเล ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นกที่ทำรัง โดยเฉพาะนกฟูลมาร์ได้ทำให้ฮวิทแซร์คูร์เป็นบ้านของพวกมัน ทำให้กลุ่มหินดูมีชีวิตชีวาและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

คุณจะได้ใช้เวลาช่วงเย็นในไอซ์แลนด์ตะวันตก

เมื่อเดินทางต่อไปทางตะวันตก วันนี้คุณจะได้เยี่ยมชมคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ซึ่งได้รับการขนานนามอย่างน่ารักว่า “ไอซ์แลนด์ขนาดจิ๋ว” เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของลักษณะทางธรรมชาติที่หลากหลายซึ่งแต่งแต้มสีสันให้กับแนวชายฝั่งขรุขระ คาบสมุทรนี้ตั้งชื่อตามสไนเฟลส์โจกุล ซึ่งเป็นภูเขาไฟธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่ในเรื่องราวอันโด่งดังของจูลส์ เวิร์น เรื่อง “การเดินทางสู่ใจกลางโลก”

มีจุดแวะเยี่ยมชมมากมายตลอดทั้งวัน คุณจะได้ไปดูภูเขาที่เหมาะกับการถ่ายภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ นั่นคือคิร์กจูเฟลล์ ซึ่งปรากฏใน Game of Thrones ซีซั่น 7 ในชื่อ "ภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนหัวลูกศร" คุณสามารถบันทึกภาพความงดงามอันน่าทึ่งของเขาลูกนี้พร้อมกับน้ำตกเบื้องหน้าอันงดงามเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมอันเงียบสงบของคิร์กจูเฟลล์ยังทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักดูนกและผู้ที่รักธรรมชาติอีกด้วย เมื่อคุณถ่ายภาพเงาอันเป็นเอกลักษณ์ของภูเขาตัดกับท้องฟ้าที่กว้างไกลของประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะเข้าใจว่าทำไมภาพนี้จึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับช่างภาพและผู้สร้างภาพยนตร์จำนวนนับไม่ถ้วน

ภายในอุทยานแห่งชาติสไนล์แฟลสโจกุล คุณจะได้เยี่ยมชมชายหาดดยูปาลอนสซานดูร์ คลื่นแรงซัดกระทบชายหาดอันน่าทึ่งแห่งนี้ ขัดเกลาก้อนกรวดบนหาดจนมีผิวเรียบเกลี้ยงอย่างสวยงาม ขณะที่คุณเดินเข้าไปในบริเวณนี้ คุณจะพบหินทดสอบพลังที่หนักอึ้งจำนวนสี่ก้อนที่กะลาสีใช้ทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเขา

หินแต่ละก้อนมีน้ำหนักต่างกัน และตามประเพณีเก่าแก่ใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถของลูกเรือที่จะออกเดินทางไปในทะเลที่ท้าทาย ขณะที่คุณพยายามยกหรือสังเกตหินเหล่านี้ จะเหมือนคุณย้อนไปสู่ช่วงเวลาที่ความแข็งแกร่งของแขนสามารถตัดสินชะตากรรมของพวกเขาในทะเลได้

เพิ่มการผจญภัยให้กับทริปวันนี้ของคุณด้วยการสำรวจโลกใต้ดินของอุโมงค์ลาวาวาทน์เฮลลิร์ เมื่อสวมไฟฉายที่หน้าแล้ว คุณจะลงไปสำรวจสีสันและโครงสร้างลับที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นผิวโลกของเรา

เมื่อเดินลึกเข้าไปในถ้ำอายุ 8,000 ปีแห่งนี้ คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยเขาวงกตที่มีรูปร่างซับซ้อนของหินและหินย้อยโบราณ เรียนรู้เกี่ยวกับการปะทุของภูเขาไฟที่สร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ใต้ดินนี้ นำโดยผู้เชี่ยวชาญ และฟังเรื่องราวเกี่ยวกับความสำคัญทางประวัติศาสตร์

คุณจะกลับไปยังที่พักเดิมในคืนก่อนหน้าในไอซ์แลนด์ตะวันตก

วันนี้คุณจะได้เริ่มต้นการสำรวจภูมิภาคตะวันตกที่งดงามและน่าหลงใหลของประเทศไอซ์แลนด์

อันดับแรก คุณจะได้เยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูแวร์ที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส (212 องศาฟาเรนไฮต์) และให้ความร้อนแก่บ้านเรือนหลายแห่งบนชายฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์

เตาธรรมชาติที่น่าทึ่งนี้จะสูบน้ำเดือดออกมา 39 แกลลอน (180 ลิตร) ทุกๆ วินาที สภาพแวดล้อมที่อบอ้าวและแหล่งสะสมแร่ธาตุที่มีชีวิตชีวาสร้างฉากหลังที่เหนือจริง เผยให้เห็นพลังงานความร้อนใต้พิภพขนาดมหึมาที่เดือดปุดอยู่ใต้พื้นผิวของประเทศไอซ์แลนด์

คุณยังจะได้เยี่ยมชมเครยมาสปา บ่อน้ำพุร้อนใต้พิภพทางทิศตะวันตก สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ให้คุณดื่มด่ำและผ่อนคลายขณะชมวิว

สปาผสมผสานน้ำร้อนใต้พิภพจากเดลดาร์ตุงกูแวร์เข้ากับน้ำเย็นจากธารน้ำแข็งเพื่อให้ได้อุณหภูมิในการอาบน้ำที่สมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังมีบรรยากาศอันเงียบสงบและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ​​ควบคู่ไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับการผ่อนคลาย

ฟาร์มแพะก็อยู่แผนการเดินทางของวันนี้เช่นกัน นี่อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดหวังในไอซ์แลนด์ แต่จริงๆ แล้วการเลี้ยงแพะค่อนข้างเจริญรุ่งเรืองที่นี่ คุณจะมีโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวกับสัตว์ที่มีเสน่ห์เหล่านี้ และเรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของพวกมันต่อการเกษตรกรรมของประเทศไอซ์แลนด์

ต่อไป กลุ่มของคุณจะไปเยี่ยมชมหมู่บ้านเรคฮอลท์ สถานที่นี้คือบ้านของสนอร์รี สเตอร์ลูสัน ผู้โด่งดังที่เป็นทั้งกวี นักประวัติศาสตร์ และนักกฎหมายชาวไอซ์แลนด์ สนอร์รีมีชีวิตอยู่ในยุคกลาง ผลงานของเขาถือเป็นบันทึกอันล้ำค่าของตำนานและภาษานอร์สโบราณ

คุณจะได้แวะชมน้ำตกที่น่าทึ่งสองแห่งด้วย นั่นก็คือบาร์นาฟอสส์ และเฮิร์นฟอสซาร์ เฮิร์นฟอสซาร์ได้น้ำมาจากน้ำใต้ดินที่ซึมผ่านรูพรุนของหินลาวา ส่วนบาร์นาฟอสส์มีน้ำไหลผ่านหุบเขาแคบๆ

น้ำตกเหล่านี้ตั้งอยู่ใกล้กัน แสดงให้เห็นความหลากหลายและพลังของภูมิประเทศทางธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ ขณะที่น้ำตกเฮิร์นฟอสซาร์น่าหลงใหลด้วยสายน้ำตกที่อ่อนโยนไหลรวยรินอยู่เหนือลาวา บาร์นาฟอสส์กลับสร้างความประทับใจด้วยกระแสน้ำที่ไหลแรง ทำให้เกิดความแตกต่างโดยสิ้นเชิงแต่ก็กลมกลืนกันเพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ชื่นชม

หลังจากอีกหนึ่งวันที่น่าจดจำ พนักงานขับรถของคุณจะพาคุณไปยังที่พักในเรคยาวิก

คุณได้เดินทางรอบไอซ์แลนด์ครบแล้ว แต่การผจญภัยยังไม่จบ! คุณมีทางเลือกมากมายว่าจะใช้เวลาวันนี้ทั้งวันอย่างไร

หากคุณยังไม่ได้ไปที่บลูลากูนเมื่อวันที่เดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ คุณสามารถไปแช่ตัวในสระน้ำที่ให้ความผ่อนคลายในสปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้ได้ หากคุณเลือกแพ็กเกจเข้าใช้บริการแบบคอมฟอร์ท คุณจะได้รับมาส์กโคลนซิลิกา ผ้าเช็ดตัว และเครื่องดื่มแก้วแรกของคุณฟรี และเนื่องจากที่นี่มีบาร์ริมสระน้ำ คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มไปพร้อมๆ กับน้ำอุ่นๆ ได้

หรือคุณจะเอาใจตัวเองเพิ่มอีกหน่อยแล้วเลือกแพ็คเกจพรีเมียม แพ็คเกจนี้คุณจะได้รับทุกสิ่งเหมือนแพ็คเกจคอมฟอร์ท แต่จะได้รับของพิเศษเพิ่มเติม เช่น เสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ มาส์กโคลนอันที่สอง และการจองโต๊ะที่ร้านอาหาร Lava อันหรูหรา

บางทีคุณอาจนึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผจญภัยกว่านี้อีกหน่อย? หากเป็นเช่นนั้น ให้เลือกไปสำรวจพื้นที่ไฮแลนด์ของประเทศไอซ์แลนด์ด้วยการนั่งรถซูเปอร์จี๊ปที่น่าตื่นเต้นไปยังลานมันนาเลยการ์ ภูมิภาคอันน่าทึ่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยเนินเขาหลากสีสันและเส้นทางเดินป่าอันตระการตา มันเป็นสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด!

น้ำพุร้อนใต้พิภพทั่วลานมันนาเลยการ์มอบโอกาสพิเศษในการแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่นที่รายล้อมไปด้วยภูมิทัศน์เหนือจริง ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้แสวงหาการผจญภัยหรือเพียงแค่มองหาการชื่นชมความงามตามธรรมชาติ การเดินทางไปยังไฮแลนด์ครั้งนี้จะทิ้งความทรงจำอันยาวนานไว้อย่างแน่นอน

อีกทางเลือกหนึ่งคือการลงไปในภูเขาไฟ ภูเขาไฟธรีฮนูคากีกูร์ตอนนี้สงบแล้ว โดยปะทุครั้งสุดท้ายเมื่อ 4,000 ปีที่แล้ว แต่คุณยังคงเห็นหลักฐานของอดีตอันน่าทึ่งของมัน สำรวจโถงแมกมาสีสันสดใสนี้ และเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางสู่ใจกลางโลกที่คุณจะไม่มีวันลืมง่ายๆ

หากคุณต้องการพักผ่อนหลังจากการผจญภัยบนถนนวงแหวน คุณสามารถเลือกใช้เวลาหนึ่งวันในการสำรวจเมืองเรคยาวิกที่มีชีวิตชีวาและหลากหลายได้ด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งใดแห่งหนึ่งหรือใช้เวลาทั้งวันเดินเล่นรอบๆ ทุกอย่างขึ้นนอยู่กับคุณ!

หลังจากวันที่แสนวิเศษผ่านไปอีกวัน คุณจะได้เดินทางกลับไปยังที่พักในเมืองเรคยาวิก

หากคุณไม่ได้เลือกสำรวจภายในภูเขาไฟเมื่อวานนี้ ไม่ต้องกังวล เพราะวันนี้คุณมีโอกาสอีกครั้ง ค้นพบสีสันอันงดงามภายในโถงแมกมาโดยจองทัวร์ที่น่าหลงใหลของภูเขาไฟธรีฮนูคากีกูร์ ที่รวมบริการรับส่งจากเรคยาวิก

บางทีคุณอยากจะขึ้นไปบนสวรรค์มากกว่าที่จะสำรวจใต้พื้นผิวโลก หากเป็นเช่นนั้นคุณสามารถเข้าร่วมทัวร์เฮลิคอปเตอร์และตื่นตาตื่นใจไปกับเมืองเรคยาวิกที่ค่อยๆ ลับตาไปทางด้านหลังคุณ และคุณจะได้สำรวจพื้นที่ความร้อนใต้พิภพในบริเวณใกล้เคียงจากด้านบน เข้าถึงสถานที่ห่างไกลที่เป็นไปไม่ได้และชื่นชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งในการผจญภัยครั้งหนึ่งในชีวิตนี้

คุณยังสามารถเลือกสัมผัสประสบการณ์ดำน้ำตื้นในน้ำที่ใสที่สุดในโลกกับทัวร์ดำน้ำตื้นบริเวณรอยแยกซิลฟราที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ผืนน้ำอันน่าหลงใหลแห่งนี้มีทัศนวิสัยที่มองเห็นได้ไกลถึง 100 เมตร และคุณยังจะได้สัมผัสความแปลกใหม่เป็นพิเศษในการว่ายน้ำระหว่างทวีป! เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยใต้น้ำที่น่าจดจำ ทั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นจะต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้

ซิลฟราได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ชั้นนำสำหรับการดำน้ำในน้ำเย็น น้ำจากน้ำแข็งบริสุทธิ์ที่ถูกกรองผ่านลาวาใต้ดินมานานหลายทศวรรษ มอบประสบการณ์การดำน้ำที่หนาวเย็นแต่น่าหลงใหล เฉดสีฟ้าที่แปลกตาและการก่อตัวของหินอันเป็นเอกลักษณ์ของรอยแยกทวีปทำให้ประสบการณ์นี้เหนือจริงไม่เหมือนใคร

หากคุณยังไม่สามารถสำรวจเมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลกได้มากนัก ลองใช้เวลาหนึ่งวันเพื่อทำความรู้จักกับเมืองเรคยาวิก ไปช้อปปิ้งในร้านบูติกมากมายหรือไปที่ด้านบนสุดของโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยาและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามอันน่าทึ่ง

เดินเล่นไปตามท่าเรือเก่าซึ่งมีร้านกาแฟทันสมัยและอาคารเก่าแก่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ลิ้มลองรสชาติของมรดกทางทะเลอันอุดมสมบูรณ์ของเมือง ดำดิ่งสู่เรื่องราวและประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์โดยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุดท้าย ผ่อนคลายในสระน้ำความร้อนใต้พิภพสักแห่งหนึ่งของเมือง ซึ่งเป็นพิธีกรรมประจำวันสำหรับคนในท้องถิ่น และประสบการณ์ที่ผ่อนคลายสำหรับผู้มาเยือน

คุณจะได้ใช้เวลาช่วงเย็นวันสุดท้ายในที่พักในเมืองเรคยาวิก

การผจญภัยของคุณสิ้นสุดลงแล้ว บอกลาเมืองเรคยาวิกและขึ้นรถฟรีไปยังสนามบินให้ทันเวลาเที่ยวบินขากลับ

สำหรับผู้ที่มีเที่ยวบินสายหน่อยและเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ คุณจะได้พักผ่อนอย่างผ่อนคลายก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสนามบิน นี่คือสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในขณะที่คุณอาบน้ำอุ่นที่อุดมด้วยแร่ธาตุ และไตร่ตรองถึงการผจญภัยอันเหลือเชื่อที่คุณเพิ่งเกิดขึ้นในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง

หากเที่ยวบินของคุณออกสายไปอีก คุณยังมีกิจกรรมให้ทำได้มากมายในเรคยาวิก

ท่ามกลางเมืองที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ เผยให้เห็นถึงอดีตและปัจจุบันที่น่าสนใจของไอซ์แลนด์ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Arbaer เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง โดยจะพานักท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปด้วยอาคารโบราณและการจัดแสดงต่างๆ ในยุคแรกๆ ของเมือง

พิพิธภัณฑ์การเดินเรือเรคยาวิกบันทึกประวัติศาสตร์การเดินเรือของประเทศ แสดงให้เห็นว่ามหาสมุทรมีความสำคัญต่อการอยู่รอดและวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์มากเพียงใด สำหรับผู้ชื่นชอบงานศิลปะ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเรคยาวิกจัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งรวบรวมคอลเล็กชั่นที่น่าประทับใจซึ่งจัดแสดงตามสถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง

พื้นที่สีเขียวหลายแห่งตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนเมือง เป็นจุดที่เงียบสงบสำหรับการพักผ่อนและความเพลิดเพลิน ทยอร์นินหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า The Pond ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเรคยาวิก ล้อมรอบด้วยอาคารประวัติศาสตร์อันงดงาม สระน้ำแห่งนี้เป็นสวรรค์สำหรับนักดูนก เนื่องจากมีนกมากกว่า 40 สายพันธุ์แวะมาบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูอพยพ

ที่อยู่ติดกับทยอร์นินคือสวนสาธารณะฮยอมสคาลา (Hljomskala) ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยมีทะเลสาบที่สวยงามและมีการแสดงดนตรีสดอยู่บ่อยครั้ง

ออกไปไกลอีกหน่อย สวนพฤกษศาสตร์เรคยาวิกเป็นสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบ มีพืชพรรณนานาชนิดทั้งพื้นเมืองและต่างประเทศ สวนไม่ได้เป็นเพียงสถานที่แห่งการเรียนรู้เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นหรือปิกนิกในวันที่อากาศแจ่มใสอีกด้วย

คุณจะมุ่งหน้าไปยังสนามบินได้ทันเวลาสำหรับเที่ยวบินของคุณ เราหวังว่าคุณจะเดินทางอย่างรื่นรมย์และหวังว่าจะได้พบคุณอีกในเร็วๆ นี้