เวิร์กช็อปถ่ายภาพ 14 วัน | ถนนวงแหวนและคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสในฤดูใบไม้ร่วง

1 / 44
น้ำพุร้อนไกเซอร์ถ่ายภาพสวยแต่ต้องรอจังหวะเหมาะๆ
ขายเกือบหมดแล้ว
ขายเกือบหมดแล้ว
ไม่คิดค่ายกเลิก
แผนการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
ปรับแต่งได้ตามต้องการ

คำอธิบาย

สรุป

ทัวร์เริ่มจาก
เรคยาวิก ไอซ์แลนด์
เวลาออกเดินทาง
เวลา 19:00
ระยะเวลา
14 วัน
สถานที่สิ้นสุด
เรคยาวิก ไอซ์แลนด์
ภาษา
อังกฤษ
ระดับความยาก
ง่าย
มีบริการ
กันยายน
อายุขั้นต่ำ
16 ปี
3,123 รีวิว

คำอธิบาย

ใช้เวลาสองสัปดาห์เดินทางทั่วประเทศไอซ์แลนด์ไปพร้อมกับช่างภาพเจ้าของรางวัล เพื่อเก็บภาพสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของไอซ์แลนด์ การเดินทางครั้งนี้จะพาคุณวนรอบถนนวงแหวน (Ring Road) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและพาไปชมสถานที่น่าสนใจ เช่น คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes Peninsula) ทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn) ทะลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) และหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) 

ทริปนี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบทั้งสำหรับช่างภาพมือสมัครเล่นและช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการพัฒนาทักษะการถ่ายภาพและสร้างคอลเลกชันผลงานของตนเอง อีกทั้งยังต้องการมาเห็นธรรมชาติอันน่าพิศวงของประเทศไอซ์แลนด์ในฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยสีสันทั้งแดง เขียว และเหลือง

ทั้งที่พักและบริการรับส่งสำหรับการเดินทางในทริปนี้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนที่คุณจะเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ รวมถึงอาหารมื้อค่ำในวันแรก ที่คุณจะได้ไปทำความรู้จักกับไกด์ที่เป็นช่างภาพและเพื่อนร่วมคณะท่านอื่นๆ ด้วย

ทัวร์ 14 วันแพ็คเกจนี้พิเศษตรงที่คุณจะได้ภาพถ่ายสวยๆ กลับบ้านไปด้วยมากมาย ตรวจสอบจำนวนที่ว่างของทัวร์นี้ได้โดยระบุวันเดินทางที่คุณต้องการ

อ่านเพิ่ม

รวมในแพ็คเกจ

ไกด์พาถ่ายภาพมืออาชีพ 2 ท่าน
บริการรับส่งด้วยรถบัสที่มีพื้นที่กว้างขวางนั่งสบายและมีพื้นที่เหลือสำหรับอุปกรณ์ถ่ายภาพ
ที่พัก 13 คืนในโรงแรมและเกสต์เฮ้าส์ ห้องพักมีห้องน้ำส่วนตัว
มื้อเช้าตลอดทริปการเดินทางทุกวัน และมื้อเย็นร่วมกับคณะในวันที่ 1 และ 13

กิจกรรม

เที่ยวชมสถานที่
ล่าแสงเหนือ
แช่น้ำพุร้อน
กิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรม

แผนที่

สถานที่ท่องเที่ยว

ไอซ์แลนด์เหนือ
ไอซ์แลนด์ตะวันตก
ไฮแลนด์
เรคยาวิก
อาคูเรย์ริ
ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล
มิวาทน์
คู่มือท่องเที่ยว ดิมมูบอร์กิร์
คู่มือท่องเที่ยว วาทน์สเนส
อาลเอยาร์ฟอสส์
น้ำตกโกดาฟอสส์
เดตติฟอสส์
สไนแฟลส์โจกุล
สโคกาฟอสส์
น้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์
เอยาฟยาลลาโจกุล
คู่มือท่องเที่ยว ดิร์โฮลาเอย์
สไนแฟลซเนส
เรคยาเนส
โซลเฮมาโจกุล
มิร์ดาลสโจกุล
หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
ฮราฟนาปยากาฟอสส์
อาร์นาร์สตาปิ
แควร์แฟลลล์
วิก
เขตน้ำแร่ร้อน เนามาฟยาลล์
คู่มือท่องเที่ยว คิร์กจูเฟลล์
คู่มือท่องเที่ยว บูดิร์
คู่มือท่องเที่ยว เรย์นิสดรังการ์
ฮวิทแซร์คูร์
คู่มือท่องเที่ยวอ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์
โลนตรังการ์
Djúpivogur เป็นเมืองสโลว์ทาวน์ ทางตะวันออกของไอซ์แลนด์คู่มือท่องเที่ยว ดยูปิโวกูร์
สต็อกส์เนส
ชายฝั่งทางใต้
คู่มือท่องเที่ยว ไดมอนด์บีช
ฟยอร์ดตะวันออก
สกายลากูน

แผนการเดินทางรายวัน

วัน 1

วัน 1 - เดินทางมาถึง

เมื่อคุณเดินทางมาถึงสนานบินนานาชาติเคฟลาวิกและรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คุณจะขึ้นรถบัสและรถจะพาคุณเดินทางผ่านทุ่งลาวาที่ปกคลุมด้วยมอสส์บนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) เพื่อไปยังเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์

หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จแล้ว ไกด์ที่เป็นช่างภาพมืออาชีพจะไปรับคุณที่บริเวณล็อบบี้และพาคุณออกไปรับประทานอาหารเย็นกันอย่างพร้อมหน้า ซึ่งระหว่างมื้ออาหารคุณจะได้พูดคุยถึงกิจกรรมสนุกๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นและได้ทำความรู้จักคุ้นเคยกับไกด์และเพื่อนร่วมทริปท่านอื่นๆ ด้วย

อ่านเพิ่ม
วัน 2

วัน 2 - โบสถ์ดำและซุ้มหินโค้ง

ทริปเดินทางรอบไอซ์แลนด์ที่เต็มไปด้วยความสุขของคุณครั้งนี้จะเร่ิมต้นขึ้นอย่างจริงจังในเช้าตรู่ของวันที่สอง โดยรถจะไปรับคุณจากโรงแรมในเรคยาวิกและมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes) ซึ่งคุณจะใช้เวลาสองวันในการเที่ยวชมบริเวณนี้ และถ่ายภาพสถานที่ธรรมชาติที่สวยงามและหลากหลายบนพื้นที่แนวชายฝั่งความยาว 90 กม.

จากเมืองเรคยาวิกคุณจะเดินทางผ่านภูเขาเอสยา (Esja) และพื้นที่เพาะปลูกในทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ จากนั้นเมื่อคุณเดินทางไปถึงคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสแล้ว คุณจะได้รับการต้อนรับทักทายจากทุ่งลาวาขนาดกว้างใหญ่ไพศาล เขายอดแหลมหยึกหยัก และธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์สโจกุล (Snæfellsjökull)

สถานที่แรกที่จะแวะในวันนี้คือหมู่บ้านประมงอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) ที่มีเสน่ห์มาก และเมื่อเดินเท้าห่างออกจากหมู่บ้านไปเล็กน้อยก็จะถึงแนวหินกาตาเกลตตูร์ (Gataklettur) ที่เป็นซุ้มหินโค้งขนาดใหญ่เว้าแหว่งและขรุขระจากแรงของคลื่นมหาสมุทรแอตแลนติก และเมื่อแสงของฤดูใบไม้ร่วงตกกระทบลงบนผิวน้ำ บริเวณนี้จะยิ่งดูสวยแปลกตาราวกับพื้นผิวดาวอังคาร ซึ่งไกด์จะช่วยคุณหามุมถ่ายภาพสวยๆ

จากนั้นคุณจะไปต่อกันที่หมู่บ้านปูดิร์ (Búðir) ชุมชนเล็กๆ แห่งนี้มีโบสถ์ขนาดกะทัดรัดตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางความเวิ้งว้างของธรรมชาติอันดิบเถื่อนของประเทศไอซ์แลนด์ โบสถ์หลังนี้เป็นสีดำสนิทตัดกับสีขาวราวกับมุกของธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์โจกุลที่เป็นฉากหลัง

หลังจากนั้นในคืนนี้คุณจะเข้าพักในที่พักที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสวยๆ ของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

อ่านเพิ่ม
วัน 3

วัน 3 - ภูเขาเคิร์กจูเฟลล์

วันนี้คุณยังคงอยู่ที่คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส และจะเริ่มต้นวันด้วยการมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งทางใต้อันงดงาม ซึ่งคุณจะได้ไปเห็นกองหินลอนดรังการ์ (Londrangar) ขนาดมหึมาที่มองดูราวกับว่ามีซากปรักหักพังของปราสาทโบราณโผล่ขึ้นมากลางมหาสมุทร และมีนกจำนวนมากที่เลือกใช้แท่งหินภูเขาไฟขนาดใหญ่ยักษ์แห่งนี้เป็นสถานที่ทำรัง จึงมีฝูงนกบินฉวัดเฉวียนเวียนวนอยู่เหนือเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ามากระทบกับกองหินแหลมคมเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา

สำหรับการถ่ายภาพบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือภูเขาเคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell) แค่ลำพังภูเขารูปกรวยอันโด่งดังและสวยงามแปลกตาลูกนี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยอยู่แล้ว แต่องค์ประกอบของบริเวณโดยรอบภูเขานั้นจะยิ่งทำให้ภาพของคุณเพิ่มความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะด้านหน้าของภูเขาเคิร์กจูเฟลล์มีน้ำตกขนาดย่อมอยู่แห่งหนึ่ง และมีลำธารสายเล็ก หาดทรายดำ ต้นหญ้าสูง และมักจะมีเมฆลอยคล้อยต่ำ ซึ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพ

และหากสภาพอากาศในวันนี้เหมาะสม คุณอาจจะมีโอกาสได้ออกไปล่าแสงเหนือก่อนที่จะกลับเข้าที่พักบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสกันด้วย

อ่านเพิ่ม
วัน 4

วัน 4 - หินฮวิทแซร์กูร์

วันนี้คุณจะเดินทางขึ้นเหนือและออกนอกเส้นทางหลัก โดยจะไปที่คาบสมุทรวาทน์สเนส (Vatnsnes) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลที่สุดของประเทศ แถบนี้มีพื้นที่เพาะปลูกกว้างใหญ่ มีเนินเขายอดแหลม และมีม้าไอซ์แลนด์เล็มหญ้าให้เห็นอยู่ทั่วไป

สถานที่สำหรับวันนี้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง และมีตั้งแต่ทิวทัศน์ภูเขาของฟยอร์ดทางตะวันตกไปจนถึงคลื่นที่ม้วนตัวอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก แต่สิ่งที่คุณต้องโฟกัสในวันนี้คือก้อนหินใหญ่ยักษ์ที่เรียกว่าฮวิทแซร์กูร์ (Hvitserkur)

หินบะซอลต์เหล่านี้บางคนบอกว่ามีรูปร่างคล้ายมังกรกำลังนั่งอยู่ในมหาสมุทร แต่อีกส่วนหนึ่งก็ว่าเหมือนช้างกำลังกินน้ำ แต่ตามตำนานแล้วเชื่อว่านี่คือโทรลล์ที่โดนแสงอาทิตย์แล้วตัวแข็งกลายเป็นหิน

แต่ไม่ว่าฮวิทแซร์กูร์จะเป็นโทรลล์หรือไม่ก็ตาม ที่นี่ถ่ายภาพออกมาสวยมากและลักษณะที่ปรากฏจะเปลี่ยนแปลงไปตามมุมที่คุณเลือกและแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบ และคุณอาจจะได้ภาพแมวน้ำด้วยเพราะมีฝูงแมวน้ำอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เยอะ

คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในที่พักในเมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

อ่านเพิ่ม
วัน 5

วัน 5 - น้ำตกโกดาฟอสส์ & ทะเลสาบมิวาทน์

วันนี้คุณจะไปเยี่ยมชมบริเวณทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn) ในทางเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ พื้นที่แถบนี้ทั้งหมดเป็นเขตที่มีภูเขาไฟคุกรุ่นเนื่องจากตั้งอยู่บนแนวสันเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก (Mid-Atlantic Ridge) ทำให้มีภูมิประเทศที่สวยแปลกตา และคุณจะใช้เวลาเก็บภาพอยู่แถวนี้อย่างเต็มอิ่มถึง 3 วัน

จุดแรกที่คุณจะไปคือน้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss) ซึ่งอยู่นอกพื้นที่มิวาทน์ น้ำตกสวยแห่งนี้กว้าง 30 เมตรและมีชื่อความหมายดีว่า "น้ำตกแห่งเทพเจ้า" คุณจะใช้เวลาในช่วงเช้าของวันนี้บันทึกภาพความงามของน้ำตกท่ามกลางแสงที่สาดส่องลงมากระทบอย่างสวยงาม

ทะเลสาบมิวาทน์นั้นงดงามอย่างไม่น่าเชื่อและรอบบริเวณนี้ทั้งหมดยังมีร่องรอยของลาวาจากภูเขาไฟให้เห็นมากมาย ในทะเลสาบนั้นมีแท่งลาวาขนาดมหึมาตั้งตระหง่านและมีเกาะแก่งที่เป็นหิน (Skerries) และปล่องภูเขาไฟเทียมกว่า 40 แห่ง ซึ่งเป็นลักษณะทางธรณีสัณฐาน (หรือรูปพรรณสัณฐานที่เกิดขึ้นบนแผ่นเปลือกโลก) ที่เกิดจากการระเบิดของไอน้ำเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน

หากคุณมีเวลามากพอคุณจะได้ไปทางตะวันออกของทะเลสาบด้วย เพื่อไปถ่ายภาพเขาวงกตลาวาที่ดิมมูบอร์กิร์ (Dimmuborgir) ก่อนที่จะกลับเข้าที่พักในคืนนี้ ซึ่งก็อยู่ในบริเวณมิวาทน์

อ่านเพิ่ม
วัน 6

วัน 6 - มุ่งหน้าสู่พื้นที่ไฮแลนด์ที่ด้านในของประเทศ

วันนี้คุณจะมุ่งหน้าเข้าไปในพื้นที่ไฮแลนด์ (Highlands) เพื่อถ่ายภาพน้ำตกที่งดงามสองแห่งในแม่น้ำสคาลฟันดาฟโยลท์ (Skjalfandafljot) อันได้แก่ น้ำตกอัลเดยาร์ฟอสส์ (Aldeyjarfoss) และน้ำตกฮราฟนาบยาร์กาฟอสส์ (Hrafnabjargafoss) น้ำตกอัลเดยาร์ฟอสส์นั้นไหลลงสู่แอ่งกว้างที่ล้อมรอบด้วยเสาหินบะซอลต์ที่สวยงาม ซึ่งคุณจะได้ใช้ความสามารถในการถ่ายภาพคอนทราสต์ของหินบะซอลต์สีดำกับน้ำใสสะอาด และสีสันอันสวยงามของฤดูใบไม้ร่วงที่แต้มอยู่รอบน้ำตก

น้ำตกฮราฟนาบยาร์กาฟอสส์นั้นอิงแอบอยู่ท่ามกลางหินภูเขาไฟและเกาะหินขนาดใหญ่ที่บริเวณกลางแม่น้ำ และจะไหลลงสู่อ่างเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำสีฟ้าบริสุทธิ์ด้านล่าง ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ภาพถ่ายของคุณมีมนต์ขลัง

น้ำตกทั้งสองแห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพการเคลื่อนไหวของน้ำ และยังพิสูจน์ให้เห็นด้วยว่าแสงอาทิตย์ส่งผลต่อภาพมากขนาดไหน หลังจากหมดวันที่วุ่นวายนี้ คุณจะกลับไปยังที่พักในแถบมิวาทน์เช่นเดิม

อ่านเพิ่ม
วัน 7

วัน 7 - น้ำพุร้อนธรรมชาติ

คุณยังคงสำรวจแถบทะเลสาบมิวาทน์กันต่อ และในวันนี้คุณจะเดินทางไปยังพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิพใกล้กับภูเขาเนามาฟยาลล์ (Namafjall) ซึ่งคุณจะได้เห็นน้ำพุร้อนหลากสีสัน บ่อโคลนเดือด และฟูมาโรลหรือพุแก๊สที่พ่นไอเดือดออกมา ที่นี่เหมาะสำหรับทดลองถ่ายภาพคอนทราสต์ที่เน้นความแตกต่างระหว่างโทนสีและพื้นผิวโดยเฉพาะในตอนที่มีแสงแดดอ่อนๆ

จากนั้นคุณจะไปเยี่ยมชมฮแวร์เฟลล์ (Hverfell) แอ่งภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเมื่อสมัยยุคของชาวไวกิ้งนั้นได้มีการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาที่อยู่ข้างเคียง ทำให้มีลาวาปกคลุมพื้นที่ปากปล่องภูเขาไฟทั้งหมด

สำหรับการปิดทริปในแถบมิวาทน์นี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ไปแวะที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Myvatn Nature Baths) อีกแล้ว คุณจะได้ลงไปแช่น้ำร้อนผ่อนคลายในสระน้ำจากพลังงานความร้อนใต้พิภพที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ ซึ่งคุณได้เดินทางไปสำรวจกันในช่วงสองวันที่ผ่านมาก่อนที่จะกลับเข้าที่พักในคืนนี้

อ่านเพิ่ม
วัน 8

วัน 8 - ฟยอร์ดทางตะวันออก

วันนี้คุณจะมุ่งหน้าไปยังฟยอร์ดทางตะวันออก (Eastfjords) อันงดงามและห่างไกลของประเทศไอซ์แลนด์ แต่ก่อนที่คุณจะอำลาพื้นที่ทางเหนือไป คุณจะไปแวะที่น้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดของยุโรปกันก่อน

คุณจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอนเมื่อได้เห็นน้ำจากธารน้ำแข็งไหลจากหน้าผาสูง 45 เมตรลงสู่เบื้องล่าง ส่งเสียงดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหวอยู่รอบตัวคุณ พร้อมกับมีละอองน้ำจากน้ำตกที่กระเซ็นมาปะทะเข้ากับใบหน้า และคุณจะได้เก็บภาพทิวทัศน์ที่งดงามเหล่านี้ผ่านเลนส์คู่ใจ

จากนั้นคุณจะเดินทางต่อไปโดยผ่านทะเลทรายในพื้นที่ไฮแลนด์และรถจะผ่านช่องเขาก่อนที่จะไปถึงฟยอร์ดทางตะวันออกอันงดงามในอาณาเขตของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล​ (Vatnajokull Glacier) สิ่งที่คุณจะได้เห็นที่นี่มีทั้งฟยอร์ดจำนวนนับไม่ถ้วน ภูเขาที่สวยงาม ลำธารใส หน้าผาที่มีนกมาทำรัง น้ำตก และหมู่บ้านชาวประมงที่มีเสน่ห์อย่างน่าสนใจ

นอกจากนี้ คุณยังมีโอกาสได้ไปเยือนและไปถ่ายภาพน้ำตกริวย์กันดิ (Rjukandi) ซึ่งมีน้ำตกไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ ลงมาจากหุบเขาสูงชันของโจกุลดาลูร์ (Jokuldalur) ที่เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำธารน้ำแข็งด้วย และพื้นที่โดยรอบแถวนี้ยังเต็มไปด้วยสีสันที่สดใสของฤดูใบไม้ร่วง

คืนนี้คุณจะพักค้างคืนอยู่ในเมืองที่สวยงามน่ารักแห่งหนึ่งของฟยอร์ดทางตะวันออกชื่อเมืองจูปิโวกูร์ (Djupivogur)

อ่านเพิ่ม
วัน 9

วัน 9 - อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล

วันนี้คุณจะเดินทางผ่านพื้นที่เกษตรกรรมในฟยอร์ดทางตะวันออก ลัดเลาะไปตามแนวชายฝั่งทางทิศใต้โดยมีธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลอันยิ่งใหญ่คอยเฝ้ามองคุณอยู่ตลอด จุดหมายปลายทางของคุณในวันนี้คือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) ที่สวยงาม ซึ่งคุณจะใช้เวลาถึง 3 วันสนุกสนานไปกับการถ่ายภาพพื้นที่น่ามหัศจรรย์แห่งนี้

โจกุลซาร์ลอนนั้นตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล ซึ่งมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์และมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากมาย คุณจะได้สำรวจและบันทึกภาพของธารน้ำแข็งและผืนทรายภูเขาไฟสีดำโดยใช้ประโยชน์จากแสงอ่อนๆ ของฤดูกาลนี้ในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่งดงามอย่างเหนือจริง

ที่ทะเลสาบธารน้ำแข็ง คุณจะเห็นภูเขาน้ำแข็งสีฟ้าขนาดมหึมาที่แตกตัวออกมาจากผืนน้ำแข็งที่อยู่ใกล้เคียงลอยอยู่ในทะเลสาบอันเงียบสงบก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกสู่ทะเล หากโชคดีคุณก็อาจจะเห็นแมวน้ำหนึ่งหรือสองตัวว่ายน้ำเล่นอยู่ในทะเลสาบหรือมานอนเล่นอยู่บนภูเขาน้ำแข็งด้วย

ที่พักของอยู่ในอีกสามคืนนับจากนี้จะอยู่ในพื้นที่อันสวยงามแห่งนี้

อ่านเพิ่ม
วัน 10

วัน 10 - ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน & หาดไดมอนด์

วันนี้คุณจะสำรวจทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนเพิ่มเติม โดยจะออกไปเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อให้ได้ภาพแสงอาทิตย์ที่สาดส่องกระทบกับภูเขาน้ำแข็งในทะเลสาบ และจากบริเวณนี้ คุณจะเดินข้ามไปยังหาดทรายดำที่อยู่ใกล้เคียง

ภูเขาน้ำแข็งในทะเลสาบมักจะถูกน้ำพัดขึ้นมาเกยตื้นบนฝั่งที่นี่ และพวกมันจะเรียงรายอยู่บนหาดทรายสีดำและเป็นประกายระยิบระยับเมื่อต้องแสงแดด มองดูราวกับเป็นอัญมณีล้ำค่าอยู่บนผืนผ้าซาติน ทำให้หาดแห่งนี้ได้ชื่อว่า "หาดไดมอนด์" 

หาดแห่งนี้เหมาะสำหรับภาพถ่ายที่เน้นการมีองค์ประกอบภาพที่สวยงาม อีกทั้งก้อนน้ำแข็งที่ใส หาดทรายสีดำ คลื่นในมหาสมุทร และแสงแดด ก็ล้วนเต็มไปด้วยความน่าสนใจเมื่อมองผ่านเลนส์กล้อง

อ่านเพิ่ม
วัน 11

วัน 11 - ภูเขาเวสตราฮอร์น

ในขณะที่คุณอยู่ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล นอกจากถ่ายภาพน้ำแข็งแล้ว คุณยังจะได้ถ่ายภาพหาดสต็อกสเนส (Stokksnes) อันสวยงามและภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย

ซึ่งภูเขายอดหยึกหยักที่ตั้งตระหง่านอย่างโดดเดี่ยวนี้มีหาดทรายดำที่ขรุขระแต่งดงามมากรอให้คุณไปบันทึกภาพกัน และทั้งความสูงชันของภูเขา คลื่นในมหาสมุทรแอตแลนติก และนกนานาชนิดที่บินโฉบเฉี่ยวไปมาคือสิ่งที่ยิ่งทำให้บรรยากาศของแถวนี้ดูเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ

คุณจะใช้เวลาทั้งวันไล่ตามแสงอาทิตย์และเก็บภาพภูเขาอันยิ่งใหญ่ลูกนี้จากหลายๆ มุม ก่อนที่จะกลับเข้าที่พักในคืนนี้ที่อยู่แถวโจกุลซาร์ลอน

อ่านเพิ่ม
วัน 12

วัน 12 - หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา

ได้เวลาหันหลังออกเดินทางจากโจกุลซาร์ลอนและอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลแล้ว และวันนี้คุณจะไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายบนชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์กัน เริ่มต้นจากหมู่บ้านวิก (Vik) ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหล

แม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะน่าถ่ายรูปเสียเหลือเกิน แต่สถานที่ไฮไลต์ที่คุณจะไปในวันนี้คือหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ซึ่งคุณจะไปถ่ายภาพเกลียวคลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกที่สาดซัดขึ้นมาบนหาดทรายสีดำกัน เรย์นิสฟยาราเป็นหาดที่มีหน้าผาเสาหินทรงหกเหลี่ยมเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ซึ่งหินสีดำเหล่านี้เกิดจากภูเขาไฟ และที่นอกชายฝั่งในมหาสมุทรก็ยังมีโขดหินทะเลหินบะซอลต์เรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่สวยงามตั้งอยู่ด้วย

กองโขดหินทะเลรูปทรงประหลาดพิลึก หน้าผาอันงดงาม หาดทรายสีดำ และคลื่นที่ซัดสาดบนหาดเรย์นิสฟยาราเป็นองค์ประกอบที่ลงตัวอย่างมากสำหรับภาพถ่าย และคุณจะใช้เวลาในวันนี้ถ่ายภาพตามสถานที่หลายแห่งบนหาด ก่อนที่จะกลับที่พักในวิกในค่ำคืนนี้

อ่านเพิ่ม
วัน 13

วัน 13 - ชายฝั่งทางใต้

วันนี้คุณจะเดินทางกลับเข้าเมืองเรคยาวิก แต่ก็จะไปแวะสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดบางแห่งบนชายฝั่งทางใต้ก่อน

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว คุณจะเดินทางออกจากหมู่บ้านวิก เพื่อไปยังคาบสมุทรดิร์โฮลาเอย์ (Dyrholaey) ที่อยู่ใกล้เคียง ที่นี่คุณจะได้เห็นโขดทะเลเรย์นิสแดรงเกอร์ในมุมที่ต่างไป เช่นเดียวกับซุ้มหินโค้งที่ถูกคลื่นในมหาสมุทรกัดกร่อนจนเว้าแหว่งคล้ายกับซุ้มหินที่อาร์นาร์สทาปิที่คุณไปเห็นเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา

จากนั้นคุณจะเดินทางไปทางทิศตะวันตก ผ่านธารน้ำแข็งขนาดใหญ่สองแห่ง คือ ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Myrdalsjokull) และธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajokull) ก่อนที่จะไปแวะที่น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) อันงดงาม น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์นี้มีความสูงราว 60 เมตร และผืนดินด้านล่างนั้นราบเรียบ จึงทำให้น้ำที่ตกลงมากระแทกกับพื้นอย่างจังจนเกิดเป็นละอองน้ำจำนวนมหาศาล ในวันที่มีแดดแถวนี้จะมีรุ้งกินน้ำปรากฏให้เห็นอย่างสวยงามด้วย

จากบริเวณนี้ คุณจะเดินทางต่อเพื่อไปยังน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่งดงามน่าประทับใจไม่แพ้กัน น้ำตกแห่งนี้มีสายน้ำแคบๆ ไหลผ่านหน้าถ้ำ และคุณสามารถเดินเข้าไปชมวิวธรรมชาติชนบทที่มีเอกลักษณ์นี้แบบใกล้ๆ ได้

จากนั้นคุณจะเดินทางไปยังที่พักในเมืองเรคยาวิก ที่คุณจะใช้พักเป็นคืนสุดท้ายในไอซ์แลนด์

อ่านเพิ่ม
วัน 14

วัน 14 - วันออกเดินทางกลับ

ตอนนี้ถึงเวลาอำลาไอซ์แลนด์แล้ว หลังจากที่จบทริปเดินทางรอบประเทศครั้งนี้ คุณน่าจะได้รับความทรงจำดีๆ ในไอซ์แลนด์กลับไปมากมาย เช่นเดียวกับภาพถ่ายสวยๆ ของธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์

หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย คุณจะขึ้นรถบัสที่พาเดินทางผ่านทุ่งลาวาของคาบสมุทรเรคยาเนสเพื่อไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ขอให้คุณเดินทางปลอดภัยและมีโอกาสกลับมาเที่ยวไอซ์แลนด์อีกครั้งเร็วๆ นี้

อ่านเพิ่ม

สิ่งที่ควรนำไป

เสื้อผ้าที่อบอุ่นและกันน้ำ
รองเท้าเดินป่าสภาพดี
กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์
ชุดว่ายน้ำและผ้าเช็ดตัว

สิ่งที่ควรรู้

ทัวร์นี้ดูแลโดยผู้สอนถ่ายภาพที่เคยได้รับรางวัลมาแล้ว

ทัวร์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ และสภาพอากาศของประเทศไอซ์แลนด์นั้นไม่สามารถคาดเดาได้เลย

แสงเหนือนั้นมักจะปรากฏในช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงเมษายน ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าในช่วงที่คุณมาจะมีแสงเหนือปรากฏให้เห็น

อ่านเพิ่ม

วิดีโอ

ทัวร์ที่คล้ายกัน

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด