กิจกรรมยอดนิยมในไอซ์แลนด์
จองทริปของคุณกับบริษัทที่ดีที่สุดเท่านั้น
คุณจะได้ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจบนเส้นทางถนนวงแหวน เช่น น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) และน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajökull) ทะเลสาบมิวาทน์อันงดงาม (Mývatn) และหาดทรายดำที่มีอยู่จำนวนมากในไอซ์แลนด์ ในทริปนี้คุณจะได้เห็นทั้งภูมิประเทศแบบชนบทที่ยังมีความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริงทั้งที่ฟยอร์ดตะวันตก วงกลมทองคำ และอุทยานแห่งชาติทั้งสามแห่งของไอซ์แลนด์
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการลงไปว่ายน้ำในสระว่ายน้ำที่อยู่ในพื้นที่ หยุดแวะระหว่างทางเพื่อแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติ หรือจะปิดท้ายวันด้วยการแช่ตัวในสปาที่เงียบสงบก็ได้ เพราะในทุกๆ วันจะมีตัวเลือกที่แตกต่างกันมาให้คุณเพลิดเพลินเสมอ
คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระเลยเพราะทริปนี้ไม่มีไกด์คอยควบคุม คุณจะเลือกอยู่ห่างจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นเพื่อให้ทริปนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนสำหรับครอบครัว หรือเป็นทริปโรแมนติกก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของคุณ แต่สำหรับทัวร์นี้คุณจะมีแผนการเดินทางท่องเที่ยวที่ออกแบบขึ้นเฉพาะสำหรับคุณและมีตัวแทนท่องเที่ยวที่คุณสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันในกรณีที่คุณนึกอยากเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง หรืออยากจะเพิ่มการปีนธารน้ำแข็งเข้าไปในทริปอย่างปัจจุบันทันด่วน
นอกจากปีนธารน้ำแข็งแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย คุณสามารถลองขี่สโนว์โมบิล ปีนน้ำแข็ง เที่ยวถ้ำน้ำแข็ง หรือออกไปดูวาฬ ตลอดจนแวะแช่บ่อน้ำร้อน สระน้ำ และสปาในตลอดเส้นทางที่คุณผ่าน และถ้าหากคุณอยากลงสำรวจน้ำที่เย็นกว่านั้น คุณต้องไม่พลาดการดำน้ำตื้นที่ซิลฟรา (Silfra)
ลงเล่นน้ำให้ชุ่มฉ่ำใจและสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูร้อนได้ด้วยทัวร์นี้ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
หากคุณต้องการไปเที่ยวที่บลูลากูน (Blue Lagoon) บ่อน้ำร้อนที่โด่งดังที่สุดในไอซ์แลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสนามบินและเมืองหลวง คุณสามารถจองบัตรเข้าบลูลากูนล่วงหน้าได้ในระหว่างที่ทำการจองทัวร์นี้ และคุณสามารถเลือกเข้าไปใช้บริการสปาแห่งนี้ได้ในวันที่เดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ หรือวันที่เดินทางกลับ
นอกจากนี้คุณอาจสนใจไปเที่ยวสระน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพที่มีอยู่มากมายในเรคยาวิกด้วย ซึ่งเมืองนี้มีสระว่ายน้ำ 17 แห่ง แต่ละแห่งนั้นมีสระกลางแจ้ง ห้องซาวน่า และอ่างน้ำร้อนจำนวนมาก ซึ่งให้บริการในราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ
วันนี้คุณสามารถเลือกได้เลยว่าอยากจะทำอะไร และหากคุณยังไม่อยากลงแช่น้ำในวันนี้ คุณก็สามารถออกไปเดินเล่นเพื่อสำรวจย่านใจกลางเมืองเรคยาวิก รวมถึงเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว เช่น โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) สระน้ำในเมือง ท่าเรือเก่า หรือฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa Concert Hall) ได้เหมือนกัน
คืนนี้พักค้างคืนในย่านใจกลางเมืองเรคยาวิก
นอกจากนี้คุณยังสามารถเติมสีสันให้กับวันนี้ด้วยกิจกรรมเสริมที่สนใจ คุณสามารถไปดำน้ำตื้นที่รอยแยกซิลฟราในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ที่มีน้ำใสราวกับคริสตัล คุณสามารถขี่สโนว์โมบิลข้ามธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökul) ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ หรือคุณจะไปแช่น้ำอุ่นที่ซีเครทลากูน (Secret Lagoon) หรือฟอนทาน่าสปา (Fontana Spa) หลังจากเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำจนเหนื่อยมาทั้งวัน
การเดินทางในวันนี้คุณจะมองเห็นธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajökull) และมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) เป็นแลนด์มาร์กที่เด่นเป็นสง่า ถ้าคุณอยากสำรวจธารน้ำแข็งในวันนี้ก็สามารถเลือกกิจกรรมปีนกลาเซียร์หรือปีนน้ำแข็งที่โซลเฮมาโจกุล (Sólheimajökull) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมิร์ดาลสโจกุล หรือเลือกไปสำรวจถ้ำน้ำแข็งสีดำที่อยู่บนภูเขาไฟคัทลา (Katla) ได้
ส่วนตัวเลือกในการแช่บ่อน้ำร้อนในวันนี้คือสระน้ำเซลลาย์วัลลาเลยก์ (Seljavallalaug) สระน้ำคอนกรีตบนไหล่เขาซึ่งมีน้ำอุ่นตามธรรมชาติไหลลงมาเติมเต็ม สระน้ำนี้ไม่ใช่สระที่มีคนดูแล ดังนั้นห้องสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าอาจจะเรียบง่ายมาก และไม่มีฝักบัวหรือห้องน้ำให้บริการ
หลังจากเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษมาทั้งวัน คืนนี้พักค้างคืนใกล้กับเมืองวิก (Vík) ที่สวยงาม
ที่สกัฟตาเฟลล์คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ปีนกลาเซียร์หรือปีนน้ำแข็งบนหนึ่งในผืนน้ำแข็งที่เป็นส่วนหนึ่งของวัทนาโจกุลได้ และยังสามารถเดินป่าระยะสั้นๆ เองได้ด้วย โดยให้เดินไปตามเส้นทางที่มีให้ ซึ่งสกัฟตาเฟลล์นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องความหลากหลายของเส้นทางเดินป่า เส้นทางที่แนะนำคือเส้นทางเดินป่าไปน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่สวยงาม ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) อันโด่งดังในเมืองเรคยาวิก
จากนั้นกลับมาที่รถและขับไปทางตะวันออกเล็กน้อยเพื่อไปยังสถานที่งดลามล้ำค่าของไอซ์แลนด์อย่างทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) และหาดไดมอนด์ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงที่นั่นเพียงแค่จ้องมองก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาลอยอยู่บนน้ำอันเงียบสงบและดูแมวน้ำที่เอนกายอยู่บนภูเขาน้ำแข็งเหล่านั้น หากคุณต้องการเข้าไปดูภูเขาน้ำแข็งในระยะใกล้ คุณสามารถไปกับทัวร์ล่องเรือที่พาคุณไปดูรอบๆ ภูเขาน้ำแข็งที่ลอยอยู่ได้ ซึ่งเรือจะมีให้เลือกสองแบบ คือเรือสะเทินน้ำสะเทินบกซึ่งช้าหน่อย และอีกอันคือเรือโซดิแอกที่เป็นเรือเร็ว
ในตอนท้ายของวันนี้ คุณสามารถไปผ่อนคลายในอ่างน้ำร้อนที่ฮอฟเฟลล์ (Hoffell) ซึ่งอยู่ก่อนถึงที่พักของคุณในเมืองเฮิฟน์ (Höfn) ทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ อ่างน้ำร้อนที่นี่มีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยโดยคุณสามารถหยอดตู้ที่ตั้งไว้ได้เลย
อย่างเช่นที่หมู่บ้านจูปิโวกูร์ (Djúpivogur) อันงดงาม คุณสามารถเพลิดเพลินกับงานศิลปะกลางแจ้งที่บริเวณอ่าวเกลดิวิก (Gleðivík) และที่หมู่บ้านเฟาส์กรูดสฟยอร์ดูร์ (Fáskrúðsfjörður) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับฝรั่งเศสมีป้ายชื่อถนนที่มีทั้งภาษาไอซ์แลนด์และฝรั่งเศส ส่วนหมู่บ้านเซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seyðisfjörður) นั้นมีชื่อเสียงในด้านชุมชนศิลปะที่เฟื่องฟูและน่าสนใจ อีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม บ้านเรือนสีสันสดใส และเป็นที่ตั้งของหนึ่งในร้านซูชิที่ดีที่สุดในยุโรป!
คุณสามารถใช้เวลาสำรวจเมืองเล็กๆ เหล่านี้อย่างไม่เร่งรีบ หรือจะขับรถไปชมรอบๆ ทะเลสาบลาการ์ฟโลยต์ (Lagarfljót) ใกล้กับเมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir) ก็ได้ ซึ่งที่ริมฝั่งทะเลสาบ คุณจะพบป่าฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstaðaskógur) ป่าที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์และน้ำตกเฮนกิฟอสส์ (Hengifoss) ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ
คืนนี้พักค้างคืนที่เมืองเอกิลสตาดีร์
ที่ริมทะเลสาบมิวาทน์ คุณจะได้สำรวจพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพที่เนามาส์การ์ด (Námaskarð) คุณจะได้เห็น (ได้กลิ่นและได้ยินเสียง) ของน้ำพุร้อนหลากสีสันที่เดือดปุด ๆ และมีไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินในทุกทิศทาง
และควรไปเดินป่ารอบๆ ทุ่งดิมมูบอร์กีร์ (Dimmuborgir) ดูหินลาวาสีดำที่ก่อตัวขึ้นบนต้นเบิร์ชสีเขียว หรือขึ้นไปยังปากปล่องแควแฟลล์ (Hverfell) ที่มืดและเต็มไปด้วยทราย
นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์สปาได้ที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Mývatn Nature Baths) ซึ่งเปรียบเสมือนบลูลากูนในทางเหนือ น้ำสีฟ้าขุ่นที่นี่มีอุณหภูมิกำลังพอเหมาะที่ 100°F (38°C) และมีห้องอบไอน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า และฝักบัวอาบน้ำให้ด้วย
คืนนี้พักค้างคืนที่บริเวณทะเลสาบมิวาทน์
ที่ฮูสาวิก คุณอาจจะเลือกไปเที่ยวกับทัวร์ดูวาฬ เพราะเมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของการดูวาฬของไอซ์แลนด์ จากนั้นคุณสามารถไปแช่อ่างน้ำร้อนที่ออสตาคาริด (Ostakarið) แบบที่คนในแถบนั้นนิยมกันก็ได้ ที่นี่เป็นอ่างน้ำร้อนที่ทำด้วยเหล็กและสามารถลงไปแช่ได้ครั้งละประมาณ 20 คน และใกล้ๆ กันมีห้องสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ไม่มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
นอกจากนี้ที่นอกตัวเมืองฮูสาวิกก็ยังมีอ่างน้ำให้ใช้บริการได้อีกแห่งหนึ่ง เป็นทะเลสาบน้ำอุ่นธรรมชาติขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง น้ำที่นี่มีอุณหภูมิประมาณ 20°C เท่านั้นจึงเหมาะสำหรับวันที่อากาศอบอุ่นหน่อย และบางทีคุณอาจจะได้เจอปลาทองแหวกว่ายอยู่ในทะเลสาบด้วย ที่นี่ไม่มีห้องสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า และไม่มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้
จากนั้นคุณจะเดินทางเข้าที่พักแถวทะเลสาบมิวาทน์ และพักค้างคืนที่นี่อีกคืน
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่เมืองน่ารักแห่งนี้
คุณจะได้เห็นวิวที่สวยงามมากๆ ด้วยในขณะที่ขับรถบนคาบสมุทรนี้ และยิ่งถ้าไปที่สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ในเมืองเล็กๆ อย่างโฮฟซอส (Hofsós) คุณจะมองเห็นวิวที่สวยกว่าเดิมอีก เพราะสระน้ำแห่งนี้สร้างอยู่บนเนินเขาเหนือทะเล มองออกไปเห็นทั้งวิวฟยอร์ดและและเกาะแดรงกี (Drangey)
หากคุณนึกอยากขับรถออกนอกเส้นทางในระยะไม่ไกล คุณสามารถไปแช่น้ำที่บ่อน้ำเล็กๆ ชื่อเกรทติสส์เลยก์ (Grettislaug) ซึ่งอยู่หน้าอ่าวในโฮฟโซส หรือจะไปดูหินรูปสัตว์ที่ฮวิทเซอร์คูร์ (Hvítserkur) ก็ได้ ในช่วงน้ำลง คุณสามารถเดินขึ้นไปจนถึงหินสูง 15 เมตรนี้ได้ แต่เมื่อน้ำขึ้นสูงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน เพราะหินจะดูคล้ายกับช้างหรือมังกรกำลังดื่มน้ำจากทะเลโดยรอบ
ในตอนท้ายของวัน คุณจะเดินทางไปถึงหมู่บ้านโฮลมาวิก ซึ่งขึ้นชื่อด้านพิพิธภัณฑ์เวทมนตร์และคาถา และคุณจะใช้เวลาสองคืนถัดไปที่นี่
วันนี้มีตัวเลือกบ่อน้ำร้อนถึง 3 แห่งด้วยกัน ที่ใกล้ที่สุดอยู่ริมทะเลในใจกลางหมู่บ้านเล็กๆ เปี่ยมเสน่ห์ที่ชื่อแดรงส์เนส (Drangsnes) ซึ่งขับรถไปจากโฮลมาวิกไม่ไกล ชาวบ้านจากทั้งแดรงส์เนสและโฮลมาวิกนิยมมาแช่น้ำร้อนที่บ่อนี้ในช่วงเย็น โดยพวกเขามักจะมาแช่ตัวพร้อมกับจิบเครื่องดื่มที่นำติดมาด้วย และเชิญชวนกันลงไปแช่น้ำเย็นในทะเลเมื่อรู้สึกว่าน้ำในบ่อเริ่มร้อนเกินไป ที่นี่มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม และบ่อเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
แห่งที่สองคือเกวนดาร์เลยก์ (Gvendarlaug) ซึ่ง Hotel Laugarhóll เป็นเจ้าของสถานที่ คุณต้องจ่ายค่าบริการเล็กน้อยที่แผนกต้อนรับของโรงแรม จากนั้นจึงสามารถเข้าใช้สระน้ำอุ่นธรรมชาติ ลำธารร้อนธรรมชาติที่มีหินสำหรับแช่เท้า และสระว่ายน้ำ
แห่งที่สามคือสระครอสส์เนสเลยก์ (Krossneslaug) ที่อยู่ห่างออกไปสุดปลายถนน ระหว่างทาง คุณจะผ่านจูปาวิก (Djúpavík) ชุมชนเล็กๆ เก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้าง ซึ่งที่นี่ล้อมรอบด้วยน้ำตกที่สวยงาม โดยสระว่ายน้ำครอสส์เนสเลยก์ตั้งอยู่ริมทะเลและมีทัศนียภาพอันตระการตา การขับรถไปที่นี่ก็มีวิวที่สวยงามมากเหมือนกันแต่ถนนไม่ได้ลาดยาง
เดินทางกลับโฮลมาวิก คืนนี้คุณจะพักค้างคืนที่นี่อีกคืน
อย่าลืมเผื่อเวลาเอาไว้ชมวิวบนเส้นทางระหว่างอีสาฟยอร์ดูร์กับตัวเมืองกันด้วย และคุณยังสามารถสำรวจเส้นทางที่ไกลออกไปกว่านี้ได้ เช่น ไปดูวิวภูเขาโบลาฟยาลล์ (Bolafjall) ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองเล็กๆ ชื่อโบลุงการ์วิก (Bolungarvík)
สระว่ายน้ำที่แนะนำอีกแห่งคือสระในหมู่บ้านซูดีเรย์ริ (Suðureyri) ที่คุณสามารถจิบกาแฟในอ่างน้ำร้อนก่อนที่จะเดินทางกลับที่พักของคุณในคืนนี้ที่อีสาฟยอร์ดูร์
จากอีสาฟยอร์ดู มุ่งหน้าไปยังดินยานติ (Dynjandi) เพื่อไปดูน้ำตกที่ลดหลั่นลงมาตามหน้าผาสูง 328 ฟุต (100 เมตร) ซึ่งเห็นแล้วคงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจึงได้ชื่อว่า "อัญมณีแห่งฟยอร์ดทางตะวันตก"
บ่อน้ำพุร้อนที่คุณสามารถไปเที่ยวได้ในวันนี้คือเรคยาฟยาร์ดาร์เลยก์ (Reykjafjarðarlaug) ซึ่งมีเสน่ห์ไม่น้อย ที่นี่มีทั้งสระน้ำและน้ำพุร้อนธรรมชาติ และอ่างน้ำร้อนที่คนในพื้นที่นิยมใช้กันอีกแห่งคือพอลูริน (Pollurinn) ซึ่งเป็นสระน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นตั้งอยู่ใกล้เมืองเล็กๆ อย่างทัลคนาฟยอร์ดูร์ (Tálknafjörður)
ถ้ายังพอมีเวลาเหลือ คุณสามารถขับรถไปชมทรายสีแดงที่หาดเราดาซานดูร์ (Rauðasandur) หรือไปที่หน้าผาลาทราบียอร์ก (Látrabjarg) ซึ่งเป็นผาสำหรับดูนกในทางตะวันตกสุดของยุโรป หรือไม่อย่างนั้นคุณก็สามารถเก็บไว้ไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้เช้าแทนก็ได้ คืนนี้พักค้างคืนในเมืองพาเทรคสฟยอร์ดูร์
เกาะแฟลทเทย์เป็นเกาะเงียบสงบ มีชาวบ้านอยู่อาศัยและทำเกษตรกรรมอยู่บนเกาะแบบถาวรเพียงแค่ 2 คน จึงเหมาะกับการไปพักผ่อนสบายๆ คุณอาจจะเพียงแค่นั่งดูนกพัฟฟินที่ริมหาด หรืออาจจะไปเดินเล่นรอบเกาะก็เพลิดเพลินไปอีกแบบ
หรือคุณอาจจะใช้เวลาในวันนี้ทั้งวันที่ฟยอร์ดทางตะวันตก เที่ยวหาดเราดาซานดูร์ (Rauðasandur) หน้าผาลาทราบียอร์ก (Látrabjarg) สระว่ายน้ำบีร์กิเมลูร์ (Birkimelur) หรือไปที่น้ำพุร้อนเฮลลูเลยก์ (Hellulaug) ข้างโรงแรม Hótel Flókalundur ก็ได้ จากนั้นค่อยนั่งเรือเฟอร์รี่รอบเย็นจากโฟลกาลันดูร์ (Flókalundur) ไปที่สติกกิโฮลมูร์ โดยไม่ต้องไปแวะที่เกาะแฟลทเทย์
คืนนี้พักค้างคืนที่สติกกิโฮลมูร์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
บนชายฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ คุณสามารถเลือกไปผ่อนคลายกับสปาที่เครยมา (Krauma) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่างเรค์คอร์ค (Reykholt) น้ำตกเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) ที่สวยงาม และน้ำพุร้อนเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) อันทรงพลัง
หากคุณยังมีแรงเหลืออยู่บ้างในช่วงท้ายของวัน คุณสามารถเดินขึ้นเขาเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมงไปยังน้ำตกกลีมูร์ (Glymur) ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งอยู่ที่ด้านล่างของฟยอร์ดควาลฟยอร์ดูร์ (Hvalfjörður) ไม่ไกลจากเรคยาวิก นอกจากนี้คุณยังสามารถไปเที่ยวอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็ง ซึ่งเป็นกลุ่มอุโมงค์ที่สลับซับซ้อนอยู่ภายในธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull)
โปรดทราบว่าสำหรับกิจกรรมบางอย่างที่คุณเลือก คุณอาจจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ หรือคุณอาจจะต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนการเดินทางของคุณ และคุณอาจจะต้องแสดงเอกสารรับรองทางการแพทย์ในการดำน้ำตื้น
และถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้น โปรดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมมาด้วย
ทั้งนี้ ในพื้นที่ฟยอร์ดทางตะวันตกนั้นไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ ลูกค้าที่ไปเยือนฟยอร์ดทางตะวันตกจะได้เข้าพักในที่พักระดับที่มีความสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่จะหาได้
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
เตียงแบบหอพัก พร้อมห้องน้ำรวมในเกสต์เฮาส์หรือโฮสเทล ที่พักตั้งอยู่ในบริเวณที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำรวมในฟาร์มเฮ้าส์ เกสต์เฮ้าส์ หรือโฮสเทล อยู่ในทำเลดีใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ไม่รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW) ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป