ทัวร์ชมสุริยุปราคา 2026 และเที่ยวชายฝั่งทางใต้สำหรับผู้หญิง รวมเดินบนธารน้ำแข็งและแช่น้ำพุร้อน

วันที่สองของทริปหลายวันในไอซ์แลนด์ จะพาคุณไปสัมผัสหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของประเทศอย่างชายฝั่งทางใต้อันงดงาม เส้นทางนี้เต็มไปด้วยภูมิทัศน์อันตระการตา น้ำตกทรงพลัง ธารน้ำแข็งกว้างใหญ่ และชายหาดทรายสีดำที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

หลังอาหารเช้าแบบจัดเต็มที่โรงแรมในเรคยาวิก คุณจะขึ้นมินิบัสสุดสบายมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ ระหว่างทาง คุณจะได้ชมวิวภูเขาไฟเฮกลา (Hekla Volcano) ที่สูงตระหง่าน และธารน้ำแข็งภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajokull Glacier Volcano) ซึ่งเป็นข่าวโด่งดังทั่วโลกจากการปะทุครั้งใหญ่ในปี 2010

จุดแวะแรกของวันนี้คือเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss) หนึ่งในน้ำตกที่โด่งดังที่สุดของไอซ์แลนด์ สายน้ำสูงราว 60 เมตรที่ไหลลงจากหน้าผาหิน ทำให้น้ำตกโดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยเส้นทางเดินเข้าไปด้านหลังม่านน้ำตก มอบประสบการณ์แปลกใหม่และใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุด ๆ

เมื่อเดินตามเทรลหลังม่านน้ำตก คุณจะได้เห็นวิวสวยงามและสัมผัสละอองน้ำเบา ๆ ที่ทำให้ช่วงเวลานี้เป็นหนึ่งในความประทับใจของวัน

จากนั้นการผจญภัยยังดำเนินต่อด้วยการเดินบนธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull) ประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสได้สัมผัส คุณจะก้าวเดินบนผืนน้ำแข็งโบราณ พร้อมไกด์ผู้เชี่ยวชาญคอยนำทาง

เมื่อสวมแครมปอนแบบมีฟันเหล็กครอบรองเท้า พร้อมด้วยอุปกรณ์นิรภัยครบชุด คุณจะเดินผ่านผืนน้ำแข็งที่มีรอยแยก สำรวจแนวสันน้ำแข็งที่งดงาม และเรียนรู้เกี่ยวกับการก่อตัวของธารน้ำแข็งแห่งนี้ การเห็นพื้นผิวน้ำแข็งที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจากระยะใกล้ เป็นประสบการณ์ที่ทั้งน่าตื่นเต้นและน่าทึ่ง

หลังจากผจญภัยบนธารน้ำแข็งแล้ว คุณจะมุ่งหน้าไปยังเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ชายหาดทรายสีดำที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ ที่นี่คลื่นมหาสมุทรแอตแลนติกซัดกระทบฝั่งอย่างทรงพลัง และเสาหินบะซอลต์เรนิสดรังการ์ (Reynisdrangar) ตั้งตระหง่านขึ้นจากทะเลอย่างน่าประทับใจ ชายหาดแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในจุดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในไอซ์แลนด์ด้วยความงามทางธรณีวิทยาที่หาดูได้ยาก

ก่อนกลับเรคยาวิก ยังมีอีกหนึ่งจุดหมายที่ต้องแวะคือสโคกาฟอสส์ (Skogafoss) น้ำตกใหญ่ทรงพลังที่สูงประมาณ 60 เมตรจากหน้าผาชายฝั่งทะเลโบราณ สายน้ำที่ตกกระทบพื้นทำให้เกิดละอองฟุ้งเป็นวงกว้าง และมักเกิดเป็นสายรุ้งงดงามในวันที่มีแดด คุณสามารถชมน้ำตกจากด้านล่าง หรือเดินขึ้นบันไดเพื่อชมวิวพาโนรามาจากมุมสูงก็ได้เช่นกัน

เมื่อถึงช่วงเย็น คุณจะเดินทางกลับที่พักในเรคยาวิกที่ Exeter Hotel พร้อมภาพความทรงจำที่น่าประทับใจของชายฝั่งทางใต้และผืนธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์

วันที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว วันนี้คุณจะได้ชมหนึ่งในปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด นั่นคือสุริยุปราคาเต็มดวงท่ามกลางภูมิประเทศอันงดงามของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula)

หลังจากรับประทานอาหารเช้าแสนอร่อย กลุ่มของคุณจะออกเดินทางจากเรคยาวิกมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบเคลฟาร์วาทน์ (Kleifarvatn) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดบนคาบสมุทร ทะเลสาบเคลฟาร์วาทน์ซ่อนตัวอยู่ในปล่องภูเขาไฟและโอบล้อมด้วยหน้าผาสูงชันรูปร่างแปลกตา จุดแรกของวันจึงเป็นฉากเปิดที่งดงามเกินคาด

จากนั้นทริปผจญภัยที่นำทางโดยผู้หญิงจะพาคุณเดินทางต่อไปยังพื้นที่ความร้อนใต้พิภพเซลตุน (Seltun Geothermal Area) ที่ซึ่งไอน้ำลอยขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อน โคลนปุด ๆ และแร่ธาตุหลากสีสัน พื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่มีความเคลื่อนไหวสูงแห่งนี้เผยให้เห็นพลังดิบที่ซ่อนอยู่ใต้แผ่นดินไอซ์แลนด์

สำรวจทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยไอน้ำร้อนเสร็จแล้ว เราจะเดินสั้น ๆ ไปยังจุดชมวิวที่มองลงไปยังปล่องภูเขาไฟซึ่งเป็นต้นเหตุของการปะทุในปี 2021 และชมพื้นที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปฐมบทใหม่แห่งประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของไอซ์แลนด์

หลังจากพักรับประทานมื้อกลางวันกันแบบสบาย ๆ คุณจะเดินทางลึกเข้าไปในเรคยาเนส และแวะที่น้ำพุร้อนกุนนูฮแวร์ (Gunnuhver Hot Springs) จุดที่น้ำเดือดและไอน้ำพุ่งทะลุพื้นดินอย่างทรงพลัง

ต่อจากนั้น คุณจะไปยังสะพานเชื่อมระหว่างสองทวีป (Bridge Between Continents) สัญลักษณ์ที่บอกถึงจุดบรรจบของแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย ลักษณะภูมิประเทศที่ไม่ธรรมดานี้เผยให้เห็นถึงพลังธรรมชาติที่ก่อร่างสร้างไอซ์แลนด์และดาวเคราะห์ดวงนี้ เป็นการปูทางก่อนที่จะได้ชื่นชมปรากฏการณ์บนท้องฟ้าต่อไปในวันนี้

ช่วงบ่ายแก่ ๆ กลุ่มของคุณจะไปถึงประภาคารเรคยาเนสวีติ (Reykjanesviti Lighthouse) จุดชมสุริยุปราคาเต็มดวงที่เลือกไว้สำหรับทริปนี้ ทำเลชายฝั่งอันเงียบสงบแห่งนี้เปิดมุมมองท้องฟ้าได้กว้างสุดสายตา โอบล้อมด้วยหน้าผาหินและคลื่นทะเลกระทบฝั่ง

เมื่อสุริยุปราคาเริ่มขึ้นเวลาประมาณ 17.47 น. ท้องฟ้าจะค่อย ๆ มืดลง และชั้นโคโรนาของดวงอาทิตย์จะเผยแสงเรืองรองเป็นวงรอบดวงจันทร์ การเปลี่ยนจากกลางวันเป็นแสงสนธยาในเสี้ยววินาทีจะสร้างช่วงเวลาแห่งความตะลึงงันร่วมกัน เป็นประสบการณ์หายากที่ทั้งตื่นเต้นและตราตรึงใจ

ระหว่างที่คุณดื่มด่ำกับความงดงามของเหตุการณ์บนฟ้านี้ จะมีเวลาให้เก็บภาพ เฉลิมฉลอง และนั่งซึมซับบรรยากาศ ก่อนเดินทางกลับสู่เรคยาวิกในค่ำคืนนี้

การผจญภัยวันนี้จะพาคุณไปยังเส้นทางวงกลมทองคำ (Golden Circle) อันโด่งดังของไอซ์แลนด์ เส้นทางที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ น้ำตกอันทรงพลัง และความมหัศจรรย์ของธรรมชาติจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ

หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างเต็มอิ่มจากโรงแรม ไกด์จะพาคุณออกเดินทางท่ามกลางวิวชนบทสวยงาม มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) มรดกโลกยูเนสโก พื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้คือจุดกำเนิดของรัฐสภาอัลธิงกิของไอซ์แลนด์ ที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 930 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสภาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

นอกจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ธิงเวลลีร์ยังเป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา เพราะคุณสามารถเดินอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย ที่กำลังแยกออกจากกันทีละน้อยในทุก ๆ ปี

จุดหมายต่อไปคือกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หนึ่งในน้ำตกที่งดงามที่สุดของไอซ์แลนด์ แม่น้ำฮวิทเอาไหลเชี่ยวลงมาตามชั้นหินสองระดับ ก่อนจะพุ่งตกลงสู่แคนยอนลึก ไม่ว่าคุณจะชมจากจุดชมวิวด้านบนหรือด้านล่าง พลังและความงดงามของน้ำตกแห่งนี้จะตราตรึงใจอย่างแน่นอน

ในช่วงฤดูร้อน คุณมักจะเห็นรุ้งกินน้ำลอยอยู่ในละอองน้ำของกุลล์ฟอสส์ เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก

จากนั้นคุณจะเดินทางไปยังพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) ดินแดนแห่งแบ่อโคลนเดือดและไอน้ำพวยพุ่ง ไฮไลต์คือสโทรคูร์ (Strokkur) ไกเซอร์ที่ยังปะทุอยู่ตลอดเวลา พ่นน้ำเดือดสูงขึ้นไปในอากาศราว 20 เมตรทุกไม่กี่นาที เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าทึ่งและเป็นโอกาสดีในการถ่ายภาพพลังความร้อนใต้พิภพของไอซ์แลนด์

หลังรับประทานอาหารกลางวัน การผจญภัยจะดำเนินต่อด้วยการเดินป่าชิล ๆ แต่คุ้มค่าไปยังน้ำตกบรูอาร์ฟอสส์ (Bruarfoss Waterfall) ที่มักถูกเรียกว่า “น้ำตกสีน้ำเงินแห่งไอซ์แลนด์” เพราะสีน้ำเงินสดใสราวสีของน้ำแข็ง เส้นทางเดินไป-กลับประมาณ 7 กิโลเมตร จะพาคุณผ่านทิวทัศน์เขียวชอุ่มและน้ำตกเล็ก ๆ ก่อนถึงจุดหมายอันงดงาม บรูอาร์ฟอสส์ตัดกับสีเขียวรอบด้านอย่างโดดเด่น ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดสุดท้ายที่สวยงามของวันนี้

หลังจากเต็มอิ่มกับการสำรวจตลอดทั้งวัน คุณจะเดินทางกลับเรคยาวิก เพื่อพักผ่อนและทบทวนช่วงเวลาน่าประทับใจของวันนี้

การผจญภัยในวันนี้จะพาคุณออกจากเรคยาวิกเพียงเล็กน้อย เพื่อไปสำรวจหนึ่งในอัญมณีลับที่งดงามที่สุดของไอซ์แลนด์ นั่นคือน้ำตกกลีมูร์ (Glymur) น้ำตกที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศ ซ่อนตัวอยู่ในแคนยอนสวยงาม รายล้อมด้วยหน้าผาและหุบเขาเขียวชอุ่ม

หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารเช้าฟรีจากโรงแรม คุณจะออกเดินทางโดยรถบัสมุ่งหน้าขึ้นเหนือประมาณหนึ่งชั่วโมง ผ่านฟยอร์ดฮวาลฟยอร์ดูร์ (Hvalfjordur) เส้นทางที่ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบสงบและธรรมชาติอันบริสุทธิ์

ระหว่างทาง รถจะจอดแวะที่เบเกอรี่ท้องถิ่น ให้คุณซื้อขนมอบสดใหม่หรืออาหารแบบปิกนิกติดตัวไปทานระหว่างเดินป่า

เส้นทางเดินสู่น้ำตกกลีมูร์ เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม ระยะทางเดินเป็นวงรอบประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3–4 ชั่วโมง ระดับความชันปานกลางสูงราว 220 เมตร

เส้นทางจะผ่านเนินเขาที่ปกคลุมด้วยมอสส์ ก้อนหินและผาหินสวยงาม รวมถึงจุดข้ามลำธารที่เพิ่มความสนุกให้กับการเดินป่า เมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุด คุณจะได้ชมวิวพาโนรามาของน้ำตกที่ไหลพุ่งลงสู่แคนยอนด้านล่างอย่างน่าตื่นตา

ละอองน้ำที่ลอยขึ้นจากน้ำตกและทิวทัศน์รอบด้านที่เขียวชอุ่ม ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่คุ้มค่าที่สุดในไอซ์แลนด์

เมื่อพิชิตเส้นทางเดินป่าที่กลีมูร์เสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาพักผ่อนที่ บ่อน้ำร้อนฮวามม์สวิกฮอตสปริงก์ (Hvammsvik Hot Springs) แหล่งอาบน้ำร้อนลับริมอ่าวที่เงียบสงบ คุณจะได้แช่ตัวในบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ 8 บ่อ พร้อมชมวิวภูเขาและมหาสมุทรแอตแลนติกเหนืออย่างเพลิดเพลิน

บ่อน้ำแร่ธรรมชาติเหล่านี้ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและฟื้นตัวหลังจากการเดินป่า อีกทั้งค่าบัตรเข้าบ่อน้ำร้อนก็รวมอยู่ในแพ็คเกจของคุณแล้ว

เพื่อปิดท้ายวันอย่างสมบูรณ์แบบ คุณจะได้ลิ้มลองอาหารค่ำแบบ 3 คอร์ส จากวัตถุดิบสดใหม่ของไอซ์แลนด์ในบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ระหว่างมื้ออาหาร คุณสามารถทบทวนประสบการณ์ที่น่าประทับใจของวันนี้ พร้อมแบ่งปันรอยยิ้มกับเพื่อนร่วมทริป

เมื่อถึงวันสุดท้ายของการผจญภัย 6 วันอันน่าทึ่งของคุณในไอซ์แลนด์ วันนี้เป็นช่วงเวลาที่คุณสามารถใช้ตามอัธยาศัยก่อนออกเดินทางกลับ ไม่ว่าคุณจะมีไฟลต์เช้า หรือยังมีเวลาเที่ยวในเรคยาวิกเพิ่มอีกเล็กน้อย วันที่สงบๆ นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทบทวนประสบการณ์ที่น่าประทับใจตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับผู้ที่บินกลับช่วงสาย เรคยาวิกก็ยังมีสถานที่น่าสนใจให้ใช้เวลาในตอนเช้าอย่างเพลิดเพลิน คุณอาจเลือกไปที่พิพิธภัณฑ์เพอร์ลาน (Perlan Museum) ซึ่งมีนิทรรศการแบบอินเทอร์แอ็กทีฟและจุดชมวิวพาโนรามา 360 องศา ให้คุณมองเห็นเมืองจากมุมสูงแบบสวยสะกดตา โดยเฉพาะนิทรรศการธารน้ำแข็ง & ถ้ำน้ำแข็ง ที่พาคุณเรียนรู้เรื่องภูมิประเทศธารน้ำแข็งอันเป็นเอกลักษณ์ของไอซ์แลนด์

อีกทางเลือกหนึ่งคือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไอซ์แลนด์ (National Museum of Iceland) ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์หลายศตวรรษและโบราณวัตถุยุคไวกิ้ง ถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตของประเทศได้อย่างมีชีวิตชีวา

หากคุณสนใจวัฒนธรรมร่วมสมัยของไอซ์แลนด์ การเดินเล่นบนถนนเลยกาแวกูร์ (Laugavegur) ย่านช้อปปิ้งหลักของเมืองที่เต็มไปด้วยคาเฟ่น่ารัก ร้านบูติก และงานฝีมือท้องถิ่น เหมาะมากสำหรับเลือกของฝากชิ้นสุดท้ายก่อนบินกลับ

อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือถนนชื่อดังของเรคยาวิก สโกลาวอร์ดูสตีกูร์ (Skolavordustigur) หรือที่รู้จักในชื่อ Rainbow Street ถนนสีรุ้งสายนี้เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม รายล้อมด้วยร้านน่ารัก แกลเลอรี และร้านอาหารให้คุณได้ทานอาหารไอซ์แลนด์มื้อสุดท้ายก่อนกลับอย่างประทับใจ

ถนนสีสันสดใสนี้ยังมุ่งตรงไปยังโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา (Hallgrimskirkja) โบสถ์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ และเป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมของเมือง

เมื่อถึงเวลา คุณจะเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก พร้อมพกพาความทรงจำของธารน้ำแข็ง น้ำตก ภูมิประเทศภูเขาไฟ และช่วงเวลาน่าตื่นตะลึงของการเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงปี 2026 ที่ไอซ์แลนด์กลับไปด้วย