ทัวร์ฤดูหนาว 3 วันสุดอลังการ วงกลมทองคำและชายฝั่งใต้ พร้อมชมถ้ำน้ำแข็งและเดินป่าธารน้ำแข็ง

ในวันที่สองของการเดินทาง คุณจะได้สำรวจชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ธรรมชาติอันน่าทึ่งและภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ตั้งแต่น้ำตกที่ไหลรินไปจนถึงธารน้ำแข็งที่ส่องประกาย ทิวทัศน์จะทำให้คุณหลงใหลในทุกย่างก้าว

จุดแรกของวันคือการเยี่ยมชมน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์และสโคกาฟอสส์ เซลยาแลนด์สฟอสส์มอบประสบการณ์พิเศษที่คุณสามารถเดินไปด้านหลังม่านน้ำตกที่ไหลรินได้ ส่วนสโคกาฟอสส์สร้างความประทับใจด้วยพลังของสายน้ำที่ดังกึกก้อง และในวันที่แดดส่อง คุณอาจได้เห็นรุ้งกินน้ำที่ส่องแสงอยู่เหนือสายน้ำ ระหว่างทาง คุณจะได้ชมวิวของเอยาฟยาลลาโจกุล ภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งที่เคยเป็นข่าวดังไปทั่วโลกในปี 2010 เมื่อการปะทุของมันทำให้การจราจรทางอากาศในยุโรปต้องหยุดชะงัก และกลายเป็นคำท้าทายสำหรับผู้ประกาศข่าวในการออกเสียงชื่อของมัน

จากนั้น คุณจะได้ไปสัมผัสประสบการณ์การปีนธารน้ำแข็งอันน่าจดจำที่สกัฟตาเฟลล์ ใกล้ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล หรือธารน้ำแข็งชื่อดังอย่าโซลเฮมาโจกุล หลังจากฟังคำแนะนำเรื่องความปลอดภัยและสวมใส่อุปกรณ์ อาทิ ที่ครอบรองเท้าแบบมีฟันและขวานน้ำแข็งแล้ว คุณจะเริ่มต้นการผจญภัยบนพื้นน้ำแข็งที่ส่องประกายระยิบระยับ ประสบการณ์นี้จะทำให้คุณหลงใหลไปกับความงดงามของธารน้ำแข็ง ทั้งน้ำแข็งสีน้ำเงินใส ช่องแคบที่ซับซ้อน และวิวกว้างไกลสุดขอบฟ้า ระหว่างทาง ไกด์จะเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และธรณีวิทยาของธารน้ำแข็ง ทำให้การเดินทางครั้งนี้ทั้งน่าตื่นเต้นและให้ความรู้

เมื่อสิ้นสุดวัน คุณจะเดินทางถึงโรงแรมในไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากเข้าที่พัก ไกด์จะบอกให้ทราบหากสภาพอากาศเหมาะสมสำหรับการชมแสงเหนือ หากโชคดี คุณจะได้ออกไปชมท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ถูกแต่งแต้มด้วยริ้วแสงสีเขียว สีม่วง และสีขาว สร้างความประทับใจเป็นการปิดท้ายวันที่เต็มไปด้วยการผจญภัย

ในวันที่สามของการเดินทาง คุณจะไปถึงทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนที่งดงาม ภายใต้แสงที่นุ่มนวล ภูเขาน้ำแข็งจะเปล่งประกายเป็นสีทองสร้างทิวทัศน์ที่แสนมหัศจรรย์ เมื่อภูเขาน้ำแข็งใหม่พลิกตัวร่วงหล่นลงสู่ผิวน้ำ คุณจะได้เห็นด้านล่างที่เป็นสีน้ำเงินเข้มซึ่งเกิดจากฟองอากาศที่ถูกบีบอัดมานับพันปี ทะเลสาบน้ำแข็งแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดอัญมณีแห่งธรรมชาติของไอซ์แลนด์ เป็นทะเลสาบที่เงียบสงบเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ ภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้จะลอยออกไปสู่ชายฝั่งที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งรู้จักกันในชื่อไดมอนด์บีช ที่ซึ่งพวกมันจะก่อกำเนินเป็นภาพทิวทัศน์น้ำแข็งระยิบระยับให้คุณได้ชม

หลังจากเพลิดเพลินกับความงดงามของทะเลสาบน้ำแข็งและไดมอนด์บีช คุณจะมุ่งหน้าไปยังธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล เพื่อสำรวจหนึ่งในถ้ำน้ำแข็งที่น่าทึ่งที่สุด ถ้ำน้ำแข็งที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ ได้แก่ ถ้ำน้ำแข็งฝั่งตะวันออก (Eastern Ice Cave) ที่มีพื้นที่กว้างขวาง และ ถ้ำน้ำแข็งฝั่งตะวันตก (Western Ice Cave) ที่มีผนังสีน้ำเงินสดใสและน้ำแข็งใสราวกับแก้วคริสตัล ไกด์ของคุณจะเลือกถ้ำที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในวันนั้น โดยคำนึงถึงสภาพอากาศ ทัศนวิสัย ความปลอดภัย และโอกาสในการถ่ายภาพ

จากนั้น คุณจะหยุดพักรับประทานอาหารกลางวันก่อนที่จะไปเยือนหาดทรายดำเรย์นิสฟยาราที่น่าตื่นตาตื่นใจ หาดแห่งนี้มีชื่อเสียงจากทรายสีดำ เสาหินบะซอลต์สูงตระหง่าน และก้อนหินทะเลเรย์นิสแดรงการ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในมหาสมุทร นอกจากนี้ คุณยังจะได้ผ่านที่ราบทรายดำกว้างใหญ่ ซึ่งเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่

หลังจากใช้เวลาอยู่ที่ชายหาด คุณจะเดินทางกลับสู่เรคยาวิก ระหว่างการเดินทาง ไกด์จะชี้ให้เห็นสถานที่ที่คุณอาจพลาดไปในวันก่อนหน้านี้ พร้อมเล่าเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และธรรมชาติของไอซ์แลนด์

คุณจะถึงเรคยาวิกในช่วงมืดหน่อย ซึ่งเป็นเวลาที่พอดีกับมื้อค่ำ หลังจากนั้น คุณจะได้เพลิดเพลินกับค่ำคืนในเมืองหลวง ซึ่งมีร้านอาหารและบาร์ให้เลือกมากมาย ขอแนะนำว่าอย่าจองไฟลท์บินกลับบ้านในคืนเดียวกันนี้ เผื่อว่าการเดินทางเกิดความล่าช้า ให้เวลากับตัวเองในการผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับเสน่ห์ของเมืองหลวงแห่งนี้

การเดินทางที่น่าจดจำครั้งนี้ซึ่งพาคุณผ่านภูมิทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของไอซ์แลนด์ ตั้งแต่ธารน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ ทะเลสาบที่เงียบสงบ ไปจนถึงถ้ำน้ำแข็งที่เหมือนโลกอื่น จะมอบความทรงจำอันล้ำค่าของดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็งไว้ให้คุณ