ทัวร์สต็อปโอเวอร์ที่เรคยาวิก 3 วัน เที่ยววงกลมทองคำและบลูลากูน

ใช้วันแรกในไอซ์แลนด์ในการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเรคยาวิกและเพลิดเพลินกับทัวร์ล่าแสงเหนือ

เมื่อเดินทางถึงสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก คุณจะขึ้นรถรับส่งเพื่อเดินทางไปยังใจกลางเมืองเรคยาวิก ในระหว่างทางคุณจะผ่านทุ่งลาวาของคาบสมุทรเรคยาเนส ซึ่งจะทำให้คุณได้รู้จักกับทัศนียภาพของประเทศที่สวยงามแห่งนี้เป็นครั้งแรก

คุณสามารถเช็คอินเข้าที่พักและเก็บกระเป๋าของคุณให้เรียบร้อย จากนั้นคุณจะได้ใช้เวลาที่เหลือของวันในการสำรวจเรคยาวิก เมืองหลวงที่ตั้งอยู่เหนือสุดของโลก ซึ่งมีประชากรประมาณ 120,000 คน แต่ถือเป็นการตั้งถิ่นฐานที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สำรวจ

เริ่มต้นด้วยการเดินไปตามถนนช้อปปิ้งเลยกาแวกูร์ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ และร้านบูติกต่างๆ คุณสามารถเริ่มหาของฝากที่เหมาะสมขณะวอร์มอัพร่างกายด้วยกาแฟหรือโกโก้ร้อนๆ สักถ้วย

หลังจากนั้น คุณสามารถเดินชมเมืองต่อไป เพื่อดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมือง บริเวณท่าเรือเก่ามีวิวทะเลที่สวยงามและมองเห็นศูนย์ประชุมและคอนเสิร์ตฮอลล์ฮาร์ปาที่โดดเด่น

คุณยังสามารถเลือกเข้าชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในเรคยาวิก ซึ่งมีแกลเลอรี่ศิลปะหลายแห่ง รวมถึงพิพิธภัณฑ์และสวนประติมากรรม Einar Jonsson ที่คุณสามารถเดินเล่นชมประติมากรรมที่สวยงามในสวนได้ตามสบาย

หากคุณต้องการทำกิจกรรมแบบคนท้องถิ่น คุณสามารถไปที่สระว่ายน้ำที่อยู่ใกล้เคียง โดยอาจจะว่ายน้ำสักพัก แล้วค่อยแช่ตัวในอ่างน้ำพุร้อนเพื่อผ่อนคลาย แม้ในช่วงฤดูหนาว ชาวไอซ์แลนด์ก็ยังนิยมไปว่ายน้ำในสระกัน โดยหลายคนชอบว่ายน้ำในอากาศหนาว เพราะพวกเขาบอกว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการแช่ในน้ำอุ่นขณะที่สูดอากาศเย็นยะเยือกของหน้าหนาว

ในช่วงเย็นคุณสามารถเลือกออกไปตามหาแสงเหนือที่สวยงามและขึ้นชื่อว่ายากที่จะเข้าใจด้วยการนั่งรถบัสหรือล่องเรือ เมื่อทัวร์แสนพิเศษนี้จบลง คุณจะกลับไปยังที่พักในใจกลางเมืองเพื่อพักผ่อนและนอนหลับให้เต็มอิ่ม

ค้นพบความมหัศจรรย์ของวงกลมทองคำในทัวร์กลุ่มเล็กและเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดของไอซ์แลนด์

หลังจากทานอาหารเช้าในเรคยาวิก คุณจะขึ้นรถมินิบัสและได้พบกับไกด์ท้องถิ่นผู้เชี่ยวชาญที่จะดูแลคุณในทริปการผจญภัยของวันนี้ เมื่อทุกคนในกลุ่มพร้อมแล้ว คุณจะเดินทางออกจากเมืองไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของวัน ซึ่งก็คืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน

อัลธิงกิ (Althingi) หรือรัฐสภาของไอซ์แลนด์ถูกก่อตั้งขึ้นในอุทยานแห่งนี้เมื่อกว่า 1,000 ปีก่อน เมื่อชาวไวกิ้งที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานได้มารวมตัวกันเพื่อแก้ไขข้อพิพาทและออกกฎหมายใหม่ อุทยานแห่งนี้ยังมีภูมิศาสตร์ที่น่าสนใจ เนื่องจากตั้งอยู่ในหุบเขารอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นที่กำลังเคลื่อนห่างออกจากกัน

โดยปกติแล้วรอยแยกประเภทนี้จะไม่สามารถมองเห็นได้จากพื้นดิน แต่ไอซ์แลนด์เป็นที่เดียวในโลกที่คุณสามารถเห็นรอยแยกนี้เหนือระดับน้ำทะเล ไกด์ของคุณจะอธิบายเกี่ยวกับธรณีวิทยาของพื้นที่นี้ขณะสำรวจ

ถ้าคุณต้องการเพิ่มความตื่นเต้นให้กับทริป คุณสามารถไปดำน้ำในรอยแยกซิลฟราที่ตั้งอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย คุณจะได้แหวกว่ายในน้ำจากธารน้ำแข็งใสสะอาดและเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ สำหรับกิจกรรมนี้ คุณต้องมีความมั่นใจในการว่ายน้ำและต้องว่ายน้ำเป็น

จากธิงเวลลีร์ คุณจะเดินทางต่อไปยังพื้นที่ความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำพุร้อน บ่อโคลนเดือด และไกเซอร์หรือน้ำพุร้อนที่ปะทุออกมา ที่นี่คุณจะมีโอกาสถ่ายภาพสวยๆ ขณะที่คุณชมไกเซอร์สโทรคูร์พ่นน้ำร้อนขึ้นสู่ท้องฟ้า สโทรคูร์จะปะทุในทุกๆ ไม่กี่นาที ดังนั้นคุณจะมีโอกาสถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบหลายครั้ง

สถานที่ต่อไปคือน้ำตกกุลล์ฟอสที่สวยงามในแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา เสียงคำรามจากน้ำตกที่ไหลลงสู่หุบเขาเก่าแก่สองขั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถลืมได้ และคุณจะได้สัมผัสละอองน้ำจากน้ำตกบนใบหน้าของคุณจากจุดชมวิวสองจุด

อีกหนึ่งทัวร์เสริมที่สามารถเลือกเพิ่มเข้าไปได้ในวันนี้คือทัวร์ขับรถสโนว์โมบิลบนยอดของธารน้ำแข็งลางโจกุล ซึ่งเป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ ถ้าคุณจองกิจกรรมนี้แล้ว คุณจะขึ้นมินิบัสอีกคันจากกุลล์ฟอสและเพลิดเพลินไปกับการขับขี่สโนว์โมบิลท่ามกลางผืนน้ำแข็ง

หากคุณต้องการกิจกรรมที่ผ่อนคลายกว่า คุณสามารถเลือกทัวร์ขี่ม้าแทนได้ ม้าไอซ์แลนด์เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องนิสัยที่เป็นมิตรและขนาดที่เล็ก เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้มีประสบการณ์ คุณสามารถเลือกไปขี่ม้าผ่านชนบทของไอซ์แลนด์และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ได้

หลังจากวันอันแสนยุ่งเหยิง คุณจะกลับไปที่เรคยาวิกเพื่อพักค้างคืนที่ที่พักของคุณ