ทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 4 วันช่วงฤดูร้อนที่ชายฝั่งทางใต้และวงกลมทองคำ

วันแรกของทัวร์ขับรถเที่ยวเองในประเทศไอซ์แลนด์เป็นวันที่คุณเดินทางมาถึงสนามบิน รับรถ และออกเดินทางสู่การผจญภัยของคุณ

เครื่องบินของคุณจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ซึ่งเป็นสนามบินหลักสำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาไอซ์แลนด์ และเมื่อคุณผ่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้พบกับรถเช่าที่จอดรอคุณอยู่ ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่สปาพลังงานความร้อนใต้พิภพบลูลากูน (Blue Lagoon) ก่อนได้

สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา สปาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ทำให้มีบรรยากาศแปลกตา นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนและผ่อนคลายหลังจากนั่งเครื่องบินมานาน

เมื่อเลือกเพิ่มสปาความร้อนใต้พิภพบลูลากูนเข้าไปในทริป กิจกรรมนี้จะถูกจัดเข้าในโปรแกรมการเดินทางให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากคุณยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปในวันนี้ ก็ยังสามารถไปในวันอื่นได้ โดยที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้

อีกทางเลือกหนึ่งคือการไปแช่ตัวในสกายลากูนใกล้กับเมืองเรคยาวิก สกายลากูนมีสระว่ายน้ำอินฟินิตี้พร้อมทิวทัศน์อันตระการตาเหนือมหาสมุทร และสคโยล์ บาธติ้ง ริชวล ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากประเพณีด้านสุขภาพของชาวไอซ์แลนด์ มอบประสบการณ์อันเงียบสงบและไม่เหมือนใคร ด้วยบัตรเข้าใช้บริการแบบพรีเมียม คุณสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นของห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนตัว ซึ่งยกระดับการเข้าใช้บริการของคุณ

แต่หากคุณมีเวลาเหลือในวันแรกที่เดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ ในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนสก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่

หากคุณต้องการใช้เวลาทุกช่วงเวลาในธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) มีความน่าสนใจมาก ภูมิภาคนี้มีภูเขาไฟรูปทรงกรวย พื้นที่ว่างเปล่าที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ ธรณีวิทยาชายฝั่งอันน่าทึ่ง และมีพื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่ร้อนระอุหลายแห่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) ซึ่งมีความน่าสนใจมากสำหรับผู้ที่ต้องการมาใช้เวลากับธรรมชาติของไอซ์แลนด์อย่างเต็มที่ ภูมิภาคนี้มีภูเขาไฟรูปกรวย มีพื้นที่รกร้างที่เต็มไปด้วยลาวาที่ปกคลุมด้วยมอสส์กินบริเวณกว้าง มีธรณีวิทยาชายฝั่งที่น่าทึ่ง และมีพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพที่ปกคลุมด้วยไอน้ำอีกมากมายหลายแห่ง

ในขณะเดียวกัน หากคุณต้องการมาสัมผัสกับวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านี้ได้ภายในเมืองหลวง ซึ่งมีทั้งพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ สวนสาธารณะและเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ สถาปัตยกรรมและศิลปะสาธารณะ ตลอดจนร้านแฟชั่น ร้านอาหาร และบาร์อยู่เป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นเมืองที่ตอบโจทย์สำหรับคนทุกประเภทจริงๆ

แวะชมคอนเสิร์ตฮอลล์และศูนย์การประชุมฮาร์ปา ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมชั้นนำของเมือง นอกจากนี้ยังมีส่วนหน้าอาคารที่สวยงาม จัดแสดงแผงกระจก 714 แผ่นพร้อมไฟ LED

คุณยังสามารถเยี่ยมชมโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์คยา ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ โดยมีความสูงถึง 74.5 เมตร อีกแห่งคือเพอร์ลาน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีโดมแก้วหมุนได้ครึ่งวงกลมเอาไว้ชมวิว

หลังจากสัมผัสกับประสบการณ์ในการขับรถเที่ยวอย่างอิสระและใช้เวลาในวันนี้อย่างคุ้มค่ากันแล้ว คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในที่พักที่อยู่ในเรคยาวิก

ในวันที่สองของทริปครั้งนี้คุณจะได้พบกับสถานที่ที่สวยงามและมีความแตกต่างหลากหลายบนวงกลมทองคำ ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไอซ์แลนด์

อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) คือสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่อยู่ในแผนการเดินทางของคุณ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณก็สามารถเพิ่มสีสันให้กับวันนี้ได้อีก ด้วยการเพิ่มกิจกรรมและทัวร์ที่สนุกตื่นเต้นเข้าไปในทริปและเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวลับๆ ที่น้อยคนจะรู้จัก

อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่​แวดล้อมไปด้วยหน้าผาสูงชันที่เป็นเขตสิ้นสุดของแผ่นเปลือกโลกของทวีปอเมริกาเหนือและยูเรเชียน ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ทั้งหมดในบริเวณนี้ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสองทวีป

ที่นี่เป็นสถานที่สุดพิเศษเหมาะแก่การมาเที่ยวชมอย่างยิ่ง เนื่องจากเต็มไปด้วยป่าต้นเบิร์ชและทุ่งลาวา อีกทั้งยังล้อมรอบด้วยภูเขาไฟและทะเลสาบขนาดใหญ่ และมีหุบเขารอยแยกมากมายที่เต็มไปด้วยน้ำจากธรรมชาติ

ส่วนพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์น่าสนใจและโดดเด่นสะดุดตามาก โดยเป็นที่ตั้งของไกเซอร์หรือน้ำพุร้อน สระโคลนเดือด และพุก๊าซไอน้ำ น้ำพุร้อนที่น่าประทับใจที่สุดที่ระเบิดได้คือสโทรคูร์ (Strokkur) ซึ่งจะปะทุอย่างน้อยทุก ๆ สิบนาที โดยมักจะสูงถึง 20 เมตร

สำหรับน้ำตกกุลล์ฟอสส์เป็นน้ำตกที่คลาสสิกที่สุดในไอซ์แลนด์ น้ำตกนี้ทรงพลัง สวยงามชวนมอง และเป็นภาพประทับใจที่ยากจะลืม โดยเกิดขึ้นจากการที่แม่น้ำจากธารน้ำแข็งไหลมาจากผืนน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และตกลดหลั่นลงเป็นสองชั้นลงไปในหุบเขาด้านล่าง

เมื่อน้ำกระทบด้านล่างก็จะเกิดละอองฟุ้งกระจายปกคลุมบรรยายากาศโดยรอบ ระหว่างที่คุณเดินทางระหว่างสถานที่เหล่านี้ คุณมีตัวเลือกเข้าร่วมกิจกรรมกับทัวร์ 3 โปรแกรม เพื่อคั่นกลางระหว่างการเที่ยวชมสถานที่

ที่ธิงเวลลีร์ คุณสามารถไปเข้าร่วมกับทริปดำน้ำตื้นในรอยแยกซิลฟรา (Silfra) ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นจะต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้ ซิลฟรามีทัศนวิสัยใต้น้ำที่สามารถมองเห็นได้ไกลกว่า 100 เมตร และน้ำสีฟ้าสดใสที่นี่ก็สวยงามน่าอัศจรรย์จนที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสถานที่ดำน้ำสน็อกเกิลที่ดีที่สุดมาต่อเนื่องยาวนาน

กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่คุณสามารถทำได้คือจากบริเวณน้ำตกกุลล์ฟอสส์คุณสามารถไปขึ้นรถซูเปอร์จี๊ปที่จะพาคุณขึ้นไปบนธารน้ำแข็งลางโจกุลเพื่อไปเข้าร่วมกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่ด้านบนของธารน้ำแข็ง ซึ่งมีกิจกรรมเพียงไม่กี่อย่างที่จะตื่นเต้นมากไปกว่าการได้เร่งความเร็วแล่นทะยานไปบนที่ราบที่ปกคลุมไปด้วยหิมะแวววาวขาวบริสุทธิ์อีกแล้ว และการขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งมองเห็นทั้งทางใต้ ตะวันตก และไฮแลนด์

ตัวเลือกที่สามคือคุณสามารถไปร่วมกับทัวร์ขี่ม้าชมบรรยากาศชนบทที่งดงามรอบสถานที่ต่างๆ บนวงกลมทองคำ ม้าไอซ์แลนด์มีชื่อเสียงเรื่องความเป็นมิตรและการได้เห็นภูมิประเทศที่งดงามจากบนหลังของพวกมันเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาก และไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการขี่ม้ามาก่อนหรือไม่ คุณก็สามารถเข้าร่วมทัวร์นี้ได้

คุณอาจจะไปเที่ยวแค่สถานที่ท่องเที่ยวหลัก หรือจะเพิ่มกิจกรรมตามที่กล่าวมาข้างต้นไปด้วยก็ได้ แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะทริปนี้คุณยังสามารถใช้รถเช่าให้คุ้มค่าได้อีกด้วยการขับออกนอกเส้นทางหลักเพื่อไปชมสถานที่ท่องเที่ยวลับๆ นับสิบแห่ง ซึ่งขับรถไปได้ไม่ไกล ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid) และทะเลสาบซีเครตลากูน (Secret Lagoon) อันเงียบสงบคือตัวอย่างของสถานที่ที่น่าสนใจที่คุณสามารถแวะไปชมได้ในวันนี้

หลังจากที่เที่ยวเหนื่อยมาทั้งวัน คืนนี้คุณจะกลับไปพักผ่อนในโรงแรมซึ่งอยู่ในเรคยาวิก

วันที่สามของทริปหน้าร้อน 4 วันในประเทศไอซ์แลนด์นี้ คุณจะออกเดินทางไปสำรวจสถานที่อันงดงามบนชายฝั่งทางใต้

วันนี้คุณจะได้เห็นว่าการขับรถเที่ยวเองด้วยแพ็คเกจนี้ทำให้คุณมีอิสรภาพมากขนาดไหน เพราะว่าคุณสามารถเลือกสถานที่ที่คุณจะไปดูและกิจกรรมที่คุณจะไปทำเองได้ตามที่คุณและคนในคณะต้องการ

เมื่อออกเดินทางจากเรคยาวิกแล้ว คุณอาจต้องการไปชมน้ำตกในภูมิภาคนี้ น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่โดดเด่นที่สุดของประเทศ และห่างจากเรคยาวิกประมาณ 129 กิโลเมตร สามารถมองเห็นได้จากถนนวงแหวน และมีชื่อเสียงจากปากถ้ำขนาดมหึมาที่อยู่ด้านหลัง ซึ่วทำให้คุณเดินไปรอบๆ น้ำตกได้

น้ำตกกลูยฟราบูอิ (Gljufrabui) ที่อยู่ใกล้เคียงนั้นไม่ค่อยมีใครรู้จักแม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปเพียง 900 เมตร และซ่อนตัวอยู่ในถ้ำมหัศจรรย์ที่ต้องลุยน้ำเพียงเล็กน้อย

ในขณะเดียวกัน น้ำตกสโกคาร์ฟอสส์ (Skogafoss) ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ 29 กิโลเมตรนั้นก็เป็นอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดชม ด้วยความสูงประมาณ 60 เมตร กว้างอย่างน้อย 10 เมตร และมีพลังอันน่าหลงใหล น้ำตกแห่งนี้จึงเป็นตัวอย่างที่น่าอัศจรรย์ของพลังแห่งธรรมชาติของไอซ์แลนด์

หลังจากเที่ยวชมสถานที่เหล่านี้จนพอใจแล้ว คุณสามารถขับออกจากถนนวงแหวน เพื่อเดินทางไปชมธารน้ำแข็งที่น่าทึ่งที่สุดสองแห่งบนชายฝั่งทางใต้แบบใกล้ๆ มิร์ดาลสโจกุล (Myrdalsjokull) เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของไอซ์แลนด์และปกคลุมภูเขาไฟคัทลา (Katla) ที่โด่งดังเอาไว้ ส่วนธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajokull) นั้นมีขนาดเล็กกว่าแต่ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กันจากการปะทุเมื่อปี 2010 ที่ทำให้การเดินทางทางอากาศในยุโรปต้องเจอกับปัญหาครั้งใหญ่

วันนี้คุณสามารถเข้าร่วมกับหนึ่งใน 3 ทัวร์ ทัวร์แรกจะพาไปยังผืนน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุลล์ (Solheimajokull) ที่เป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล การปีนธารน้ำแข็งถือเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมที่คุณจะได้ชมการก่อตัวที่สวยงามของน้ำแข็งและทัศนียภาพที่น่าประทับใจ

ส่วนอีกสองทัวร์นั้นจะออกเดินทางจากหมู่บ้านวิก (Vik) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางต่อไปของคุณ ทัวร์แรกเป็นทัวร์เที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่อยู่ใกล้กับยอดของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล แต่แทนที่จะเป็นการไฮกิ้งเดินเท้าข้ามผืนน้ำแข็งคุณจะลงไปในรอยแยกที่ซ่อนตัวอยู่บนผืนน้ำแข็ง เพื่อไปชมด้านในธารน้ำแข็งกัน

ทัวร์ที่สองนั้นเป็นทัวร์ซูเปอร์จี๊ปที่พาเข้าไปในลานมันนาเลยการ์ ซึ่งเป็นบริเวณที่สวยงามในพื้นที่สงวนไฮแลนด์ ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำพุร้อนธรรมชาติที่คุณสามารถลงไปแช่ได้อยู่มากมาย

บริเวณนี้ยังมีภูเขาไรโอไลต์สีสันมหัศจรรย์ ทั้งเฉดสีเหลือง เขียว และชมพูที่สดใสอย่างที่คุณคาดไม่ถึง นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งหลายเส้นทางนั้นจะนำไปสู่ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่สวยงาม และมีวิวพาโนรามาและบรรยากาศที่น่าประทับใจ

ไม่ว่าคุณจะไปเข้าร่วมกับทัวร์ไหน คุณก็น่าจะอยากไปเที่ยวหาดที่อยู่ข้างหมู่บ้านวิก หาดนี้ชื่อว่าเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) เป็นหาดทรายสีดำซึ่งเต็มไปด้วยตำนาน และที่นอกชายฝั่งมีหินเรย์นิสแดรงการ์ (Reynisdrangar) ขนาดมหึมาตั้งอยู่ ซึ่งตำนานบอกว่าแท้จริงแล้วเป็นโทรลล์คู่หนึ่งที่โดนแดดแล้วกลายเป็นหิน

ใกล้ๆ กับหาดแห่งนี้มีซุ้มหินโค้งดิร์โฮลาเอย์ (Dyrholaey) ด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการดูนกพัฟฟินแอตแลนติกที่มาทำรังในช่วงหน้าร้อน

หลังจากที่ดื่มด่ำกับความสวยงามของชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์จนพอใจแล้ว คุณจะเดินทางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม