ทัวร์ขับรถเที่ยวเองในฤดูร้อน 4 วัน เที่ยววงกลมทองคำ & หมู่บ้านวิกของไอซ์แลนด์

หลังจากได้ใช้เวลาเล็กน้อยในเมืองเรคยาวิกแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องออกเดินทาง คุณจะต้องขับผ่านโรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพเนสยาเวลลิร์ ซึ่งเส้นทางนี้นับว่าเป็นเส้นทางที่สวยงามที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขา ที่จะเริ่มจางหายไปเมื่อคุณไปถึงทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่าธิงวัลลาวาทน์ 

ในตอนนี้คุณก็จะได้เข้าสู่พื้นที่มรดกโลกขององค์กรยูเนสโก นั่นคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของรัฐสภาไอซ์แลนด์

อุทยานแห่งชาตินี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่กั้นระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นที่ลอยแยกออกจากกัน เพราะขณะที่แผ่นเปลือกโลกทั้งสองเคลื่อนที่ การเคลื่อนที่แยกออกจากกันก็ได้ทำให้เกิดหุบเหว และรอยแยกขนาดใหญ่ โดยหนึ่งในรอยแยกเหล่านั้นมีชื่อว่าซิลฟรา ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณทะเลสาบธิงวัลลาวาทน์ ที่เต็มไปด้วยน้ำใสและมีทัศนวิสัยที่สูงถึง 100 เมตรทำให้ที่นี่เป็นจุดดำน้ำตื้นที่สมบูรณ์แบบที่สุด

หากคุณต้องการที่จะพิสูจน์ความใสแจ๋วของน้ำในบริเวณรอยแยกนี้ และต้องการที่จะได้ว่ายน้ำในระหว่างแผ่นเปลือกโลก คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ดำน้ำตื้นในซิลฟราได้ในวันนี้ ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำ และต้องสามารถว่ายน้ำได้

น้ำพุร้อนไกเซอร์อันยิ่งใหญ่ รวมถึงสโทรคูร์ที่ปะทุอยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ แม้ว่าไกเซอร์ จะไม่ได้ปะทุเหมือนที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว แต่สโทรคูร์ ยังคงพ่นน้ำดังสนั่นทุก 10 นาทีโดยพ่นน้ำเดือดสูงขึ้นฟ้าถึง 20 เมตร

ถัดไปใกล้ๆ กันเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ ที่นี่คุณจะสามารถเดินลงไปยังริมน้ำตก และสัมผัสถึงพลังของแม่น้ำขณะที่ตกลงมาตามหุบเขาแคบๆ

หากคุณต้องการเพิ่มความตื่นเต้นลองเลือกกิจกรรมการขับสโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล และซึ่งกิจกรรมนี้สามารถเริ่มได้จากที่น้ำตกกุลล์ฟอสส์

หากคุณอยากตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้น คุณสามารถเลือกกิจกรรมขี่สโนว์โมบิลไปบนธารน้ำแข็งลางโจกุล โดยทัวร์นี้จะไปรับคุณจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกเข้าร่วมทัวร์ขี่ม้าได้ในวันนี้ด้วย

จากนั้นคุณจะมุ่งหน้ากลับไปบนถนนสายหลัก และหยุดแวะที่ปล่องภูเขาไฟเคริด ที่ซึ่งมีสีสันหลากหลายเป็นประกาย ด้วยเฉดสีแดงสนิมของหินภูเขาไฟตัดกับน้ำสีเขียวของทะเลสาบอันเงียบสงบที่ซ่อนอยู่ภายใน

คุณจะได้ใช้เวลาคืนนี้ในบริเวณที่เงียบสงบในไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้

ในวันก่อนวันสุดท้ายของการผจญภัยช่วงฤดูร้อนในประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะได้สำรวจชายฝั่งทางใต้อันงดงาม ภูมิภาคนี้ล้อมรอบด้วยคลื่นที่โหมกระหน่ำของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ และถูกล้อมรอบด้วยลักษณะทางธรรมชาติที่หลากหลาย

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการขับรถไปยังน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ และน้ำตกกลูยฟราบูอิ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ด้วยม่านน้ำที่ไหลลงมาจากความสูงถึง 60 เมตร ทำให้น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ดูน่าตื่นตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีถ้ำแคบๆ ที่บริเวณหลังม่านน้ำตก ซึ่งคุณสามารถชมน้ำตกได้ในมุมมองแปลกใหม่ที่สวยงาม 

จากที่นั่น ขับรถลงไปตามถนนอีกเพียงไม่กี่นาที คุณก็จะไปถึงน้ำตกอันทรงพลังที่ชื่อว่าสโคกาฟอสส์ และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านสโคการ์ ที่คุณจะได้ชมนิทรรศการยิ่งใหญ่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชนบทแห่งนี้

น้ำตกสโคกาฟอสส์ตกลงมาจากความสูงเดียวกันกับน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ แต่มีปากที่กว้างกว่าด้วยความกว้าง 25 เมตร (82 ฟุต) เมื่อมีโชคเข้าข้างคุณและอากาศแจ่มใส คุณจะได้เห็นรุ้งกินน้ำสองตัวพาดเหนือละอองน้ำหนาทึบ

วันนี้คุณยังสามารถเข้าร่วมทัวร์ปีนธารน้ำแข็งบนแผ่นน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล หรือขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งมิร์ดาลโจกุล คุณยังมีตัวเลือกในการสำรวจถ้ำน้ำแข็งที่มีเอกลักษณ์และน่าทึ่งบนธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลด้วย ซึ่งเป็นถ้ำเดียวที่สามารถเข้าถึงได้ตลอดทั้งปี

จุดแวะพักสุดท้ายของคุณในวันนี้คือชายหาดสีดำอันน่าทึ่งที่ชื่อว่าเรย์นิสฟยารา และหมู่บ้านวิกอันเงียบสงบ คุณสามารถออกไปสำรวจชายหาดและหน้าผาหินบะซอลต์ที่ดูน่าขนลุกได้ที่นี่ แต่ต้องระวังคลื่นอันตรายที่สามารถกวาดคุณจากชายฝั่งและพาคุณออกไปในทะเลได้อย่างง่ายดายด้วย

คุณจะได้ชมความงดงามของหน้าผาเรนิสแดรงการ์จากหมู่บ้านวิก ก่อนเดินทางกลับสู่เมืองเรคยาวิกที่ซึ่งคุณสามารถออกเที่ยวชมเมืองได้อีกในช่วงค่ำคืนนี้ เพราะแสงของพระอาทิตย์เที่ยงคืนจะส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณ

เดินเที่ยวไปรอบๆ เมืองหลวงแห่งอารยธรรมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรม อาหารและสถานบันเทิงยามค่ำคืน คุณจะได้ใช้เวลาคืนสุดท้ายในไอซ์แลนด์ในที่พักที่อยู่ตัวเมืองเรคยาวิก