ทัวร์ขับรถเที่ยวเองในฤดูร้อน 6 วัน เส้นทางรอบถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์

เมื่อคุณเดินทางมาถึงที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกของไอซ์แลนด์ คุณจะรับรถเช่าและขับเข้าไปในเมืองเรคยาวิก

ระหว่างทางไปเมืองหลวง คุณสามารถแวะที่บลูลากูน สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องน้ำบำบัด สีฟ้าสดใส และการบำบัดที่หรูหรา ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมด้วยมอส ให้บรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร

หากคุณเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริปนี้ ตารางจะถูกจัดตามเวลาเที่ยวบินของคุณ หากวันนี้คุณยังไม่มีเวลาเยี่ยมชมทะเลสาบบลูลากูน คุณก็จะได้ไปในวันอื่นแทน ที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณเอง

และหากวันนี้คุณมีเวลาว่างเหลือเฟือ ก็ยังมีอะไรให้ดูและทำได้มากมายทั้งในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนส

คุณสามารถไปสำรวจพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงยามค่ำคืนของเมืองเรคยาวิกได้

เริ่มต้นด้วยสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม เช่น ศูนย์ประชุมและคอนเสิร์ตฮอลล์ฮาร์ปา ซึ่งถือเป็นศูนย์วัฒนธรรมที่สำคัญของเรคยาวิก โดยใช้เป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ คอนเสิร์ต เทศกาล และกิจกรรมทางวัฒนธรรมเป็นประจำ

จากนั้น แนะนำให้มุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์เพอร์ลานซึ่งมีจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพที่ดีที่สุดของเมืองเรคยาวิก เพอร์ลานเป็นที่รู้จักจากหอชมวิวทรงโดมแก้วครึ่งวงกลมที่หมุนได้

ที่ต้องไปชมอีกแห่งคือโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา โบสถ์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ โบสถ์นี้ตั้งตระหง่านสูง 74.5 เมตร เป็นแลนด์มาร์คที่สวยงาม แนะนำให้ขึ้นไปบนหอคอยของโบสถ์เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองเรคยาวิกด้วย

คุณยังสามารถใช้เวลาวันแรกนี้ด้วยการเดินช้อปปิ้งวันแรกที่ถนนสายหลักเลยกาแวกูร์อันโด่งดังได้ด้วย ลองไปเดินชมของตามร้านบูติกต่างๆ หรือแวะร้านอาหารและคาเฟ่สักแห่งเมื่อคุณรู้สึกหิว

หลังจากทำอะไรมากมายมาตลอดทั้งวัน คืนนี้คุณจะได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายในโรงแรมบรรยากาศสบายๆ ในใจกลางเมืองก่อนที่จะออกเดินทางแต่เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น

เริ่มต้นโร้ดทริปครั้งนี้ด้วยการมุ่งหน้าขึ้นเหนือเพื่อไปยังอาคูเรย์ริ (Akureyri) เมืองหลวงของทางเหนือ แม้ว่าวันนี้คุณจะใช้เวลาขับรถนานกว่าวันอื่นๆ แต่ก็มีอะไรให้คุณแวะดูระหว่างทางมากมาย หากคุณขับรถออกนอกเส้นทางไปนิดหน่อยก็จะได้เห็นหินฮวิทแซร์กูร์ (Hvítserkur) รูปร่างเหมือนช้าง (หากคุณอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม) ที่ตั้งตระหง่านสูง 15 เมตร อยู่นอกชายฝั่งในมหาสมุทร

เมืองอาคูเรย์ริก็เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และมีสิ่งต่างๆ ให้ดูมากมาย เช่น มีโบสถ์ ถนนสายหลักที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สวนพฤกษศาสตร์ที่มีพืชพรรณมากกว่า 700 สายพันธุ์ และมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ หลังจากใช้เวลาเที่ยวที่เมืองนี้จนพอใจแล้ว คุณจะเดินทางต่อไปยังทะเลสาบมิวาทน์ (Mývatn) ระหว่างทางคุณจะได้เห็นน้ำตกโกดาฟอสส์ (Goðafoss) อันยิ่งใหญ่และพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพที่น่าประทับใจด้วย

เราขอแนะนำให้แวะเที่ยวที่ทุ่งลาวาดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) ที่ดูเหมือนป้อมปราการอันมืดมิดและถ้ำน้ำพุร้อนเกรียวตาเกาจ์ (Grjótagjá) ด้วยหากคุณมีโอกาส และคุณอาจจะไปแช่น้ำในอ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์เพื่อผ่อนคลายในช่วงค่ำๆ ก็ได้ ซึ่งเวลาไม่ใช่ปัญหาเพราะในหน้าร้อนที่นี่เปิดให้ใช้บริการจนถึงเที่ยงคืน

คืนนี้พักค้างคืนแถวทะเลสาบมิวาทน์หรือเมืองอาคูเรย์ริ

หมายเหตุ: คุณต้องใช้เวลาขับรถประมาณ 6 ชั่วโมงในวันนี้

ใช้เวลาในช่วงแรกของวันสำรวจที่เที่ยวซึ่งตั้งอยู่รอบทะเลสาบมิวาทน์ เช่น พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพเนามาส์การ์ด (Námaskarð) และน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ก่อนออกเดินทางต่อไปยังเมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir) เมืองหลวงของทางตะวันออก ระหว่างทางคุณจะขับผ่านอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ที่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันงดงาม ใกล้กับเอกิลสตาดีร์มีป่าฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstaðaskógur) ผืนป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และมีจุดตั้งแคมป์อัทลาวิก (Atlavík) ที่เขียวชอุ่มและเป็นที่นิยม ซึ่งทั้งสองสถานที่นี้เป็นสถานที่ห้ามพลาดสำหรับนักดูนก นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagarfljót) อันเงียบสงบที่ว่ากันว่ามีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ ซึ่งเจ้าสัตว์ประหลาดนี้มีหน้าตาคล้ายหนอนยักษ์และอาจจะเก่าแก่กว่าเนสซีในทะเลสาบล็อคเนสของสก็อตแลนด์เสียอีก

หลังจากเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณนี้แล้ว คุณจะขับรถไปพักค้างคืนที่หมู่บ้านเฮิฟน์ที่งดงามแปลกตาในทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

หมายเหตุ: คุณต้องใช้เวลาขับรถประมาณ 5 ชั่วโมงในวันนี้

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการออกจากที่พักและมุ่งหน้าลงใต้ไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) อย่าลืมสังเกตทิวทัศน์ข้างทางด้วยคุณจะมองเห็นภูเขาภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) และธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปส่องประกายวาววับ

เมื่อคุณเดินทางไปถึงทะเลสาบธารน้ำแข็งที่อยู่ทางใต้ของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล คุณจะเข้าใจทันทีว่าทำไมที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ภูเขาน้ำแข็งที่แตกตัวออกจากธารน้ำแข็งและลอยอยู่ในทะเลสาบนั้นงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ แนะนำให้ใช้เวลาดื่มด่ำกับทะเลสาบและไปดูหาดไดมอนด์ที่อยู่ติดกันด้วย บนหาดมีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ใสราวกับคริสตัลจำนวนมากกระจายตัวอยู่บนผืนทรายภูเขาไฟที่มีสีดำ และเมื่อแดดส่องมากระทบพวกมันจะส่องประกายระยิบระยับสวยงามราวกับอัญมณีล้ำค่า และที่นี่มีทัวร์ล่องเรือในทะเลสาบซึ่งเป็นกิจกรรมเสริมที่คุณสามารถเลือกเพิ่มเข้าไปในทริปวันนี้ได้ก่อนที่จะเดินทางต่อไปบนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ โดยมีให้เลือกทั้งทัวร์ล่องเรือยางท้องแบนโซดิแอกและทัวร์ล่องเรือสะเทินน้ำสะเทินบก

นอกจากนี้ คุณควรแวะเที่ยวที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ และเดินเล่นตามเส้นทางเดินป่าที่มีอยู่มากมายด้วย สำหรับผู้ที่ชอบเดินระยะไกล ให้เลือกใช้เส้นทางเดินป่าเพื่อไปชมตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่มีสายน้ำไหลลงมาตามเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนที่อื่น หรือถ้าอยากตื่นเต้นหน่อย คุณอาจจะเลือกเพิ่มกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งเข้าไปในทริปวันนี้ด้วยก็ได้

คุณจะขับรถต่อไปยังหุบเขาฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) อันสวยงาม โดยอาจจะแวะรับประทานอาหารเย็นที่เมืองเคิร์กยูแบร์ยาร์กเลาสเทอร์ (Kirkjubæjarklaustur) ด้วยก็ได้ จากนั้นคุณจะขับรถผ่านภูมิประเทศที่หลากหลายของหมู่บ้านวิก (Vík) รวมถึงคุณจะได้เห็นโขดทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ด้วย คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในหมู่บ้านวิก

หมายเหตุ: คุณต้องใช้เวลาขับรถประมาณ 4.5 ชั่วโมงในวันนี้

จากหมู่บ้านวิกไปไม่ไกลคุณจะได้เห็นหินดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) และหาดเรย์นิสฟยาราที่มีทิวทัศน์งดงามของหาดทรายสีดำทอดตัวยาวไปตามแนวชายฝั่งทางใต้จรดธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ที่อยู่ติดกัน คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์เที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลเข้าไปในวันนี้ได้ ซึ่งทัวร์นี้จะออกเดินทางจากหมู่บ้านวิก

ชายหาดเรย์นิสฟยารามีลักษณะทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจมากมายและเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการดูนกพัฟฟิน แต่คลื่นที่หาดนี้มีอันตรายที่คาดเดาไม่ได้อยู่เสมอ ดังนั้น โปรดใช้ความระมัดระวังด้วย

หลังจากเที่ยวหาดแล้ว ให้เดินทางต่อไปบนชายฝั่งทางใต้โดยมุ่งหน้าไปทางตะวันตก คุณจะได้ชื่นชมความงามของน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) และน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ก่อนที่จะขับรถไปยังน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir geothermal area) และอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเส้นทางวงกลมทองคำของไอซ์แลนด์ สถานที่แต่ละแห่งนี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยเหตุผลบางประการ และทั้งหมดนี้คือสถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนไอซ์แลนด์

หากคุณต้องการแช่น้ำร้อนด้วย ให้คุณแวะไปที่ซีเคร็ทลากูน (Secret Lagoon) ในเมืองฟลูดิร์ (Flúðir) หรือคุณจะไปแช่น้ำร้อนที่สปาฟอนทานา (Fontana Spa) ในเลยการ์วาทน์ (Laugarvatn) ก็ได้เช่นกัน

สำหรับทัวร์เสริมในวันนี้มีให้เลือก 3 โปรแกรมด้วยกัน โดยมีทั้งปีนธารน้ำแข็ง ขี่สโนว์โมบิลที่โซลเฮมาโจกุล และเล่นร่มร่อนพาราไกลดิ้ง หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมและการท่องเที่ยวมาทั้งวัน คุณจะเดินทางมุ่งหน้าเพื่อกลับไปยังเมืองเรคยาวิก และพักค้างคืนที่นั่นสำหรับคืนสุดท้ายในทริปนี้

หมายเหตุ: คุณต้องใช้เวลาขับรถประมาณ 4 ชั่วโมงในวันนี้

ผ่อนคลายในเรคยาวิกหลังจากโร้ดทริปที่ยาวนานแต่เพลิดเพลินอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก

คุณอาจจะเลือกออกไปดูวาฬกับทัวร์ดูวาฬก็ได้หากต้องการดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมอันน่าทึ่งของไอซ์แลนด์เป็นครั้งสุดท้าย แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข

นำรถเช่าของคุณไปส่งคืนที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกและเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพพร้อมกับความทรงจำที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์