ทัวร์ขับรถเที่ยวเองในฤดูร้อน 6 วัน เส้นทางรอบถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์

เมื่อคุณเดินทางมาถึงที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกของไอซ์แลนด์ คุณจะรับรถเช่าและขับเข้าไปในเมืองเรคยาวิก

ระหว่างทางไปเมืองหลวง คุณสามารถแวะที่บลูลากูน สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องน้ำบำบัด สีฟ้าสดใส และการบำบัดที่หรูหรา ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมด้วยมอสส์ ให้บรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร

หากคุณเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริปนี้ ตารางจะถูกจัดตามเวลาเที่ยวบินของคุณ หากวันนี้คุณยังไม่มีเวลาเยี่ยมชมทะเลสาบบลูลากูน คุณก็จะได้ไปในวันอื่นแทน ที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณเอง

หากคุณมีเวลาว่างเหลือเฟือ วันนี้ก็ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมายในเมืองเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนส คาบสมุทรเรคยาเนสเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมในการเข้าถึงธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ คุณสามารถเยี่ยมชมภูเขาไฟฟากราดาลสฟยาลล์ ซึ่งปะทุในปี 2021, 2022 และ 2023 หรือไปชมพื้นที่ความร้อนใต้พิภพ เช่นที่กุนนูฮแวร์และเซลตุน

หรือไม่คุณก็อาจจะไปสำรวจพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงยามค่ำคืนของเมืองเรคยาวิกได้

เริ่มต้นด้วยสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม เช่น ศูนย์ประชุมและคอนเสิร์ตฮอลล์ฮาร์ปา ซึ่งถือเป็นศูนย์วัฒนธรรมที่สำคัญของเรคยาวิก โดยใช้เป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ คอนเสิร์ต เทศกาล และกิจกรรมทางวัฒนธรรมเป็นประจำ

จากนั้น แนะนำให้มุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์เพอร์ลานซึ่งมีจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพที่ดีที่สุดของเมืองเรคยาวิก เพอร์ลานเป็นที่รู้จักจากหอชมวิวทรงโดมแก้วครึ่งวงกลมที่หมุนได้

ที่ต้องไปชมอีกแห่งคือโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา โบสถ์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ โบสถ์นี้ตั้งตระหง่านสูง 74.5 เมตร เป็นแลนด์มาร์คที่สวยงาม แนะนำให้ขึ้นไปบนหอคอยของโบสถ์เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองเรคยาวิกด้วย

คุณยังสามารถใช้เวลาวันแรกนี้ด้วยการเดินช้อปปิ้งวันแรกที่ถนนสายหลักเลยกาแวกูร์อันโด่งดังได้ด้วย ลองไปเดินชมของตามร้านบูติกต่างๆ หรือแวะร้านอาหารและคาเฟ่สักแห่งเมื่อคุณรู้สึกหิว

หลังจากทำอะไรมากมายมาตลอดทั้งวัน คืนนี้คุณจะได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายในโรงแรมบรรยากาศสบายๆ ในใจกลางเมืองก่อนที่จะออกเดินทางแต่เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น

เริ่มต้นการเดินทางบนถนนในวันที่สองโดยมุ่งหน้าไปทางเหนือไปยังอาคูเรย์ริ "เมืองหลวงแห่งภาคเหนือ"

แม้ว่าวันนี้คุณจะขับรถนานกว่าวันอื่นๆ แต่คุณสามารถเพิ่มทัวร์เสริมเล็กๆ น้อยๆ ได้มากมาย ตัวอย่างเช่น เพียงใช้ทางอ้อมสั้นๆ ก็จะถึงหินฮวิทแซร์กูร์ที่น่าประทับใจ ซึ่งสูงจากมหาสมุทร 15 เมตรและมีรูปร่างเหมือนช้าง (ถ้าคุณมองจากมุมที่ถูกต้อง)

เมืองอาคูเรย์ริที่มีเสน่ห์มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น โบสถ์ที่น่าประทับใจ ถนนสายหลักที่มีชีวิตชีวา สวนพฤกษศาสตร์ และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่

อาคูเรย์ราร์คิร์กยา หรือโบสถ์อาคูเรย์ริเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่โดดเด่นที่สุดของเมือง Gudjon Samuelsson สถาปนิกคนเดียวกับที่อยู่เบื้องหลังโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยาในเมืองเรคยาวิก เป็นผู้ออกแบบโบสถ์นิกายลูเธอรันแห่งนี้ คุณจะได้เห็นภาพนูนต่ำของโบสถ์ที่วาดโดย Asmundur Sveinsson และไปป์ออร์แกนขนาดใหญ่

ขณะเดียวกัน สวนพฤกษศาสตร์อาคูเรย์ริก็อยู่ห่างจากโบสถ์ประมาณ 750 เมตร สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1957 และได้ขยายจนครอบคลุมพื้นที่ 3.6 เฮกตาร์ ในสวนมีพืชมากกว่า 7,000 สายพันธุ์ โดยมากกว่า 400 สายพันธุ์เป็นพืชพื้นเมือง

ต่อไปคุณสามารถไปที่สระว่ายน้ำอาคูเรย์ริได้ มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งยาว 25 เมตร 2 สระ สไลเดอร์ 3 จุด สระสแปลช 1 สระ และอื่นๆ อีกมากมาย

หลังจากผ่อนคลายในสระว่ายน้ำแล้ว คุณจะเดินทางต่อไปยังทะเลสาบมิวาทน์ คุณจะเห็นน้ำตกโกดาฟอสส์อันยิ่งใหญ่และพื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่น่าประทับใจระหว่างทาง

ที่โกดาฟอสส์ คุณจะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติและพลังอันบริสุทธิ์ในเวลาเดียวกัน น้ำในโกดาฟอสส์ตกลงมาจากความสูง 12 เมตร และมีความกว้าง 98 ฟุต (30 เมตร) คุณจะประหลาดใจที่น้ำตกโกดาฟอสส์แยกออกเป็นสองส่วนซึ่งมีรูปร่างคล้ายเกือกม้า

เมื่อคุณไปถึงบริเวณทะเลสาบมิวาทน์ คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับความงามอันน่าประทับใจ ทะเลสาบครอบคลุมพื้นที่ 36.5 ตารางกิโลเมตร ทำให้เป็นแหล่งน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศ นอกจากนี้พื้นที่ยังอุดมไปด้วยพืช สัตว์ และลักษณะทางธรณีวิทยาที่น่าประทับใจ

หากคุณมีโอกาส ขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณไปดูทุ่งลาวาดิมมูบอร์กิร์หรือ "ป้อมปราการแห่งความมืด" ดิมมูบอร์กีร์ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทะเลสาบมิวาทน์ เต็มไปด้วยเสา แนวสันเขา และถ้ำที่ทำจากหินลาวา ลักษณะที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนจึงเปรียบดิมมูบอร์กิร์กับปราสาท

นอกจากนี้คุณยังสามารถเยี่ยมชมถ้ำน้ำพุร้อนกริโยทากยาได้อีกด้วย ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งบางครั้งอาจมองเห็นได้ยาก อย่างไรก็ตาม การค้นหาบ่อน้ำพุร้อนภายในถ้ำก็เหมือนกับการค้นหาขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่

คุณยังสามารถแช่ตัวในอ่างน้ำธรรมชาติมิวาท์ได้ หากคุณรู้สึกอยากทำอะไรผ่อนคลายในช่วงเย็น เวลาก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะที่นี่จะเปิดให้บริการจนถึงเที่ยงคืนในช่วงฤดูร้อน

จากนั้นคุณจะได้พักค้างคืนที่ไอซ์แลนด์เหนือ

ใช้เวลาช่วงแรกของวันสำรวจพื้นที่อันงดงามรอบๆ ทะเลสาบมิวาทน์

จุดแวะแรกของคุณคือช่องเขานามาสการ์ด ซึ่งเป็นพื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่อยู่ห่างจากทะเลสาบมิวาทน์ประมาณ 14 กิโลเมตร เมื่อเดินทางรอบๆ นามาสการ์ด คุณจะสังเกตเห็นเนินลาดชันที่ไม่มีพืชพรรณขึ้นเลย เนื่องจากความร้อนและความเป็นกรดที่ส่งผลต่อดิน สิ่งที่ทำให้บริเวณนี้โดดเด่นคือเส้นสายหลากสีรอบๆ น้ำพุและบนพื้นดิน

จากช่องเขานามาสการ์ด คุณจะต้องขับรถเป็นระยะทาง 64 กิโลเมตรไปยังน้ำตกเดตติฟอสส์อันงดงาม ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเอกิลสตาดีร์ เมืองหลวงของตะวันออก เดตติฟอสส์เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ทรงพลังและมีความกว้าง 100 เมตร

ยิ่งไปกว่านั้น น้ำตกไหลลงมาจากความสูง 141 ฟุต (43 เมตร) และมีอัตราการไหลเฉลี่ย 50,985 แกลลอน (193 ลูกบาศก์เมตร) ต่อวินาที ลองไปยืนถัดจากน้ำตกเดตติฟอสส์แล้วคุณจะสัมผัสถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ

จากนั้นขับรถต่อไปจนถึงอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลอันงดงามซึ่งมีทิวทัศน์ตระการตามากมาย อุทยานแห่งชาติแห่งนี้เป็นที่ตั้งของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป คุณจะได้เห็นภูมิประเทศที่หลากหลายและสวยงามที่สุดซึ่งเป็นผลมาจากการผสมผสานอันน่าทึ่งของธารน้ำแข็งและภูเขาไฟในบริเวณนี้

ก่อนที่จะถึงเอกิลสตาดีร์ คุณจะแวะที่ฮาลลอร์มสตาดาสโคกูร์ ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ บริเวณนี้มีชื่อเสียงในด้านเส้นทางเดินป่า พันธุ์ไม้ และสัตว์ป่านานาชนิด

หากคุณมาเยือนในเดือนมิถุนายน คุณอาจเข้าร่วม Skogardagurinn หรือ "เดอะ เกรท ฟอเรสต์ เดย์" เทศกาลประจำปีนี้เป็นการเฉลิมฉลองป่า โดยมีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัย คุณสามารถเข้าร่วมการแข่งขันตัดไม้และมินิมาราธอน หรือเพลิดเพลินกับนิทรรศการศิลปะและลองชิมแกะย่างที่ปรุงโดยเกษตรกรในท้องถิ่น

นอกจากนี้ แนะนำให้เยี่ยมชมแอตลาวิก จุดตั้งแคมป์อันเขียวชอุ่มและเป็นที่นิยม แอตลาวิกยังเป็นสถานที่ที่นักดูนกต้องแวะด้วย ที่ตั้งแคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลสาบลาการ์ฟโยลท์อันเงียบสงบและรายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม

ที่น่าสนใจคือเชื่อกันว่าทะเลสาบแห่งนี้เป็นบ้านของสัตว์ประหลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ นั่นคือลาการ์ฟโยลท์เวิร์ม กล่าวกันว่าสัตว์ประหลาดนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องกับสัตว์ประหลาดเนสซีในทะเลสาบล็อกเนสของสกอตแลนด์แต่มีอายุมากกว่ามาก 

หลังจากเพลิดเพลินกับพื้นที่เหล่านี้แล้ว ขับรถไปยังหมู่บ้านที่มีเสน่ห์แปลกตาในไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ ที่ซึ่งคุณจะได้พักค้างคืน

เริ่มต้นวันที่สี่โดยมุ่งหน้าจากที่พักของคุณไปทางใต้สู่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ระหว่างเส้นทางของภูเขาเวสตราฮอร์นอันสูงตระหง่านบนคาบสมุทรสตอกเนส ภูเขาเวสตราฮอร์นที่มีความสูง 1,490 ฟุต (454 เมตร) สามารถมองเห็นแยกออกจากภูเขาอื่นๆ ใกล้กับอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล

เมื่อไปถึงภูเขา คุณจะสังเกตเห็นลักษณะหยักและมืดมน เกิดจากหินแก๊บโบรบนภูเขาที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและแมกนีเซียม คุณยังจะได้เห็นแนวชายฝั่งทรายซึ่งเป็นจุดยอดนิยมสำหรับแมวน้ำ

จากนั้น คุณจะได้มุ่งหน้าไปยังธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลที่วาววับ วัทนาโจกุลเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีพื้นที่ผิวประมาณ 8,100 ตารางกิโลเมตร และครอบคลุมพื้นที่ประมาณแปดเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ

เมื่อคุณไปถึงทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของวัทนาโจกุล คุณจะเข้าใจว่าทำไมที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นนี้ ภูเขาน้ำแข็งที่แตกออกจากธารน้ำแข็งและลอยอยู่ในน้ำนั้นสวยงามมาก

ถ่ายรูปภูเขาน้ำแข็งให้สนุกเนื่องจากบางก้อนอาจมีความสูงเท่าตึกหลายชั้น นอกจากนี้คุณยังจะสังเกตเห็นสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของสีน้ำเงินเข้ม สีขาว และเส้นเถ้าสีดำที่มีอายุหลายศตวรรษ

ใช้เวลาสำรวจทะเลสาบและหาดไดมอนด์ในบริเวณใกล้เคียงด้วย ที่นี่คุณจะได้เห็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่ถูกพัดขึ้นไปอยู่บนทรายภูเขาไฟสีดำและส่องแสงระยิบระยับราวกับอัญมณี หากคุณต้องการ คุณสามารถเลือกที่จะล่องเรือชมทะเลสาบก่อนที่จะเดินทางต่อไปตามชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์

คุณสามารถใช้บริการเรือยางท้องแบนหรือเรือสะเทินน้ำสะเทินบกและออกไปชมทิวทัศน์ของทะเลสาบธารน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ แวะที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์และลองเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง

หากคุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ลองเดินตามเส้นทางที่ยาวกว่าเพื่อไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ที่น่าประทับใจ ซึ่งไหลลงมาตามเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ หากคุณรู้สึกอยากผจญภัย คุณสามารถไปปีนธารน้ำแข็งได้จากที่นี่

ขับรถต่อไปยังหุบเขาฟยาดราร์กยูฟูร์ที่สวยงาม และรับประทานอาหารเย็นในเมืองคิร์กยูแบยาร์คลอสตูร์ที่มีเสน่ห์ จากที่นั่น คุณจะขับรถต่อไปผ่านภูมิทัศน์ที่น่าประทับใจและหลากหลายเพื่อไปยังหมู่บ้านวิก

เมื่อคุณเข้าใกล้วิกมากขึ้น คุณจะพบกับหินบะซอลต์เรย์นิสแดรงการ์ในทะเล การก่อตัวของหินที่มีเอกลักษณ์เหล่านี้ยื่นออกมาจากมหาสมุทรใต้หน้าผาเรย์นิสฟยาลล์ซึ่งเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับพื้นที่นี้

หลังจากเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามอีกหนึ่งวันแล้ว คืนนี้คุณจะได้เข้าพักในไอซ์แลนด์ตอนใต้

วันสุดท้ายแบบเต็มวันในไอซ์แลนด์จะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณขับรถจากวิกไปยังเรคยาวิก

ประมาณ 19 กิโลเมตรจากวิกคือคาบสมุทรดิร์โฮลาเอย์และชายหาดเรย์นิสฟยารา สถานที่ทั้งสองแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่น่าประทับใจของหาดทรายสีดำทอดยาวเลียบชายฝั่งไปยังธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลที่อยู่ใกล้เคียง คุณสามารถเข้าร่วมทัวร์ถ้ำน้ำแข็งไปยังธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลซึ่งออกเดินทางจากเมืองวิกได้

ในขณะที่อยู่ที่ชายหาดเรย์นิสฟยารา คุณจะได้สัมผัสกับลักษณะทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมนกพัฟฟินอีกด้วย โปรดระวังคลื่นที่นี่เนื่องจากมีคลื่นที่คาดเดาไม่ได้และอันตราย

หลังจากเพลิดเพลินกับชายหาดแล้ว ให้มุ่งหน้าไปทางตะวันตกตามชายฝั่งทางใต้ ชื่นชมความงามของน้ำตกสโคกาฟอสส์และน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ก่อนขับรถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของไอซ์แลนด์

น้ำตกสโคกาฟอสส์มีความกว้างที่น่าประทับใจ 82 ฟุต (25 เมตร) และความสูง 197 ฟุต (60 เมตร) นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ราบด้านล่างที่ให้คุณเดินไปยังม่านน้ำได้

ในขณะเดียวกัน น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์มีความสูง 60 เมตร และมีทิวทัศน์ตระการตาจากด้านหลังผืนน้ำ อย่าลืมเดินไปรอบๆ น้ำตกเพื่อชื่นชมมันอย่างเต็มที่

จากนั้นคุณจะได้เยี่ยมชมน้ำตกกุลล์ฟอสส์ พื้นที่ความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ และอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ซึ่งเรียกรวมกันว่าวงกลมทองคำ สถานที่เหล่านี้แต่ละแห่งมีชื่อเสียงระดับโลกด้วยเหตุผลบางประการ และคุณไม่ควรพลาดแห่งไหนเลย

น้ำตกกุลล์ฟอสส์เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในไอซ์แลนด์ น้ำตกมีสองชั้น สูง 11 เมตร และสูงประมาณ 69 ฟุต (21 เมตร) ตามลำดับ

จากนั้นคุณจะขับรถไปยังบริเวณน้ำพุร้อนไกเซอร์ ที่นี่คุณจะได้เห็นบ่อน้ำพุร้อนและพุก๊าซหลายแห่ง รวมถึงไกเซอร์สโทรคูร์ที่ปะทุพ่นน้ำ

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งถัดไปของคุณคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ซึ่งอยู่ห่างจากไกเซอร์ประมาณ 55 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์เป็นที่ตั้งรัฐสภาแห่งแรก ซึ่งก่อตั้งเมื่อราวปีคริสตศักราช 930 ทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก

คุณจะเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาที่อยู่ห่างไกล หน้าผา และหินลาวาที่มีมอสส์ไอซ์แลนด์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของรอยแยกซิลฟรา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่อยู่ตรงกลางระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่น สิ่งที่น่าสนใจคือแผ่นเปลือกโลกเหล่านี้แบ่งแยกทวีปยูเรเชียนและอเมริกาเหนือออกจากกัน

สถานที่อีกแห่งที่ควรเดินทางไปคือซีเคร็ตลากูนในฟลูดิร์ ซึ่งอยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ประมาณ 64 กิโลเมตร คุณสามารถแช่ตัวในสระน้ำอุ่นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เหนื่อยล้าได้ที่นี่ หรือคุณจะไปแช่ตัวในน้ำอุ่นที่สปาฟอนทานาที่เลยการ์วาทน์ก็ได้

วันนี้มีตัวเลือกกิจกรรมที่แตกต่างกันสามแบบ คือไปปีนธารน้ำแข็งอีกครั้งหนึ่ง ไปขี่สโนว์โมบิลบนโซลเฮมาร์โจกุล และไปเล่นร่มร่อน

หลังจากผ่านวันอันแสนวุ่นวาย คุณจะกลับไปที่เรคยาวิกเพื่อใช้เวลาคืนสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์

สำหรับวันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์นี้ คุณสามารถผ่อนคลายอยู่ในเรคยาวิกหลังจากโร้ดทริปที่แสนยาวนาน แต่เพลิดเพลินอย่างไม่น่าเชื่อ

ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ

หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก

คุณอาจจะออกไปดูวาฬกับทัวร์ดูวาฬก็ได้หากต้องการดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมอันน่าทึ่งของไอซ์แลนด์เป็นครั้งสุดท้าย

แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข

คุณจะนำรถเช่าของคุณไปส่งคืนที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกและเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพพร้อมกับความทรงจำที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์