ทัวร์ขับรถเที่ยวเองหน้าร้อน 6 วัน ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวลับ & หาดทรายดำ
คำอธิบาย
สรุป
คำอธิบาย
รวมในแพ็คเกจ
จุดหมายปลายทาง
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
รายละเอียดการเดินทาง
รถ
รถ
รถขนาดเล็ก
รถขนาดกลาง
รถพรีเมี่ยม
large car
SUV
ปรับแต่งแผนการเดินทางของคุณ
วันที่ 1 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันเดินทางมาถึง
- มากกว่า
เมื่อคุณมาถึงสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งลาวาอันมืดมิดบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) คุณจะไปรับรถเช่าและขับผ่านทะเลทรายสีดำเพื่อมุ่งหน้าเข้าไปในเรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงของไอซ์แลนด์
เมื่อไปถึงในเมืองคุณจะนำสัมภาระไปจัดเก็บในที่พัก ซึ่งคุณจะพักอยู่ที่นี่ไปอีกห้าคืน ซึ่งการที่คุณไม่ต้องมานั่งย้ายที่พักทุกวัน คุณจะเดินทางได้สะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องมาเสียเวลาจัดกระเป๋า ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นและไม่เหนื่อย
คุณสามารถเริ่มต้นการผจญภัยในไอซ์แลนด์ได้ด้วยการออกไปสำรวจเมืองเล็กๆ น้อยๆ ในวันนี้ เช่น ไปเดินเล่นตามถนนในเมืองเรคยาวิกเพื่อค้นหาร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ที่มีอยู่มากมาย หรือคุณจะไปผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำอุ่นจากพลังงานความร้อนใต้พิภพในสระว่ายน้ำที่มีหลายแห่งในเมืองก็ได้
เรคยาวิกเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนจากพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่มีอยู่มากมาย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไอซ์แลนด์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับทุกคนที่สนใจประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ โดยมีคอลเล็กชั่นมากมายที่ครอบคลุมเรื่องราวของประเทศตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานของชาวไวกิ้งจนถึงปัจจุบัน
ผู้ชื่นชอบศิลปะจะพบกับผลงานร่วมสมัยและแบบดั้งเดิมมากมายที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเรคยาวิก ซึ่งกระจายอยู่ในสถานที่สามแห่ง โดยแต่ละแห่งมีนิทรรศการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และพิพิธภัณฑ์ไอนาร์ จอนส์สัน ซึ่งอุทิศให้กับผลงานของประติมากรที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจของเขา
โบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยาซึ่งเป็นโบสถ์นิกายลูเธอรันอันยิ่งใหญ่ที่ตั้งตระหง่านเหนือทิวทัศน์ของเมืองและเป็นหนึ่งในอาคารที่โดดเด่นที่สุดของเมือง มีหอชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์อันตระการตา ส่วนฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ที่อยู่ริมน้ำทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจด้วยส่วนหน้ากระจกทรงเรขาคณิต ซึ่งสะท้อนเงาเมืองและภูมิทัศน์โดยรอบ
เดินเล่นแถวซันโวยาจเจอร์ ซึ่งเป็นประติมากรรมเหล็กโดย Jon Gunnar Arnason ซึ่งเป็นตัวแทนของความฝันแห่งความหวัง ความก้าวหน้า และอิสรภาพ ส่วน Hofdi House อันเก่าแก่ในบริเวณใกล้เคียงเป็นที่รู้จักในฐานะเป็นสถานที่จัดการประชุม Reykjavik Summit ของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนและมิคาอิล กอร์บาชอฟในปี 1986 ก็เป็นจุดสนใจเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีอาคารเพอร์ลานอันทันสมัยโดดเด่นตั้งอยู่บนถังเก็บน้ำร้อน มีพิพิธภัณฑ์และหอสังเกตการณ์แบบหมุนได้ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองแบบ 360 องศา ค้นพบนิทรรศการแบบอินเทอร์แอกทีฟที่น่าสนใจของเพอร์ลาน เช่น นิทรรศการถ้ำน้ำแข็งและธารน้ำแข็ง การแสดงแสงเหนือออโรรา และการแสดงลาวาที่ปะทุจากภูเขาไฟเกลดิงกาดาลีร์
ทั้งนี้คุณต้องระวังอย่าเที่ยวจนดึกดื่นเกินไป! เพราะแสงสว่างของพระอาทิตย์เที่ยงคืนอาจจะทำให้คุณเที่ยวเพลินจนลืมเวลาและลืมว่ายังมีพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไปรออยู่อีก เมื่อคุณพร้อมที่จะพักผ่อนในคืนนี้ ให้มุ่งหน้าไปยังที่พักใจกลางเมืองอันสะดวกสบายของคุณ
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 2 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- มากกว่า
- เคลฟาร์วาทน์
- ครีซูวิก
- กุนนูฮแวร์
- มากกว่า
วันนี้คุณจะกลับไปยังทะเลทรายที่มืดมิดของคาบสมุทรเรคยาเนสอีกครั้งเพื่อไปตามหาความลับที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางหินลาวาที่มีมอสส์ขึ้นปกคลุม
คาบสมุทรเรคยาเนสเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกและสปาบลูลากูนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่ในบรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหลายพันที่เดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ในแต่ละปีนั้น มีเพียงหยิบมือเท่านั้นที่จะแบ่งเวลามาเที่ยวชมสถานที่อื่นๆ ที่อยู่บนคาบสมุทร ทำให้เรคยาเนสกลายเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบมากหากคุณกำลังมองหาสถานที่สงบนอกเส้นทางท่องเที่ยวของคนส่วนใหญ่
เริ่มต้นวันนี้ด้วยการมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบเคลฟาร์วาทน์ (Kleifarvatn) ที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างโขดหินสูงชันและหาดทรายสีดำ และคุณจะได้เห็นว่าทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟรอบๆ บริเวณนี้มีความขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับทะเลสาบสีฟ้าครามที่สงบนิ่ง ทำให้เกิดเป็นสถานที่สวยงามแปลกตาเหมาะกับการถ่ายภาพเพราะมองดูเหมือนกับเป็นทิวทัศน์บนดาวดวงอื่น
จากที่นี่คุณยังสามารถไปเที่ยวชมพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพคริสุวิก (Krysuvik) ได้อีก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการเดินป่ามาก เนื่องจากมีเส้นทางเดินป่ามากมายที่จะพาคุณไปชมรอบๆ แหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งนี้ โดยในคริสุวิก คุณจะได้เห็นสระโคลนเดือดปุดๆ ช่องระบายไอน้ำร้อน และปากปล่องภูเขาไฟ แต่คุณต้องระวังไม่เดินออกนอกเส้นทางและรักษาระยะห่างไม่เข้าไปใกล้สิ่งที่ดูมีความร้อน
ขับรถอีกไม่ไกลก็จะเจอกับหน้าผาคริสุวิกูร์แบร์ (Krysuvikurberg) ริมทะเลที่มีระยะทางยาว 15 กม. สูง 40 ม. และมีนกมากมายมาทำรังในทุกหน้าร้อน คุณน่าจะได้เห็นนกคิตติเวกขาดำ นกเหยี่ยว และนกเรเซอร์บิล เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุด แต่ก็อาจจะมีโอกาสได้เห็นนกนอร์ทเทิร์นฟูลมาร์ นกนางนวลแฮร์ริ่งสายพันธุ์ยุโรป และนกพัฟฟินแอตแลนติกด้วย
บนคาบสมุทรเรคยาเนสยังมีสถานที่เที่ยวลับๆ อีกมากมาย เช่น หินลาวารูปร่างประหลาดที่บริมเคตติลล์ (Brimketill) พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพเซลทูน (Seltun) และกุนนูฮแวร์ (Gunnuhver) และสะพานที่เป็นเขตแบ่งแยกแผ่นเปลือกโลกทวีปอเมริกาเหนือและยูเรเชียน นอกจากนี้คุณอาจจะไปที่หมู่บ้านและเมืองที่มีเสน่ห์น่าสนใจซึ่งมีอยู่มากมายทีเดียวบนคาบสมุทรแห่งนี้ เพื่อไปรับประทานซีฟู้ดมื้อค่ำ หรือจะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แปลกๆ ก็ได้
ก่อนที่คุณจะกลับที่พักในเรคยาวิก คุณสามารถแวะไปที่สปาบลูลากูนอันโด่งดังเพื่อปิดทริปของวันนี้ด้วยการแช่น้ำอุ่นจากแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเชื่อกันว่าแร่ธาตุต่างๆ ในทะเลสาบแห่งนี้มีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างมาก
หากในวันก่อนหน้านี้คุณเดินทางมาถึงประเทศไอซ์แลนด์เร็วหน่อย คุณอาจจะเลือกไปใช้บริการที่บลูลากูนและเที่ยวชมคาบสมุทรเรคยาเนสในวันแรกที่เดินทางมาถึงได้เลย แล้วใช้เวลาในวันนี้ไปเข้าร่วมกับทัวร์และทำกิจกรรมที่ตื่นเต้นไม่เหมือนใครอย่างการเข้าไปชมข้างในภูเขาไฟที่สงบแล้วแทนได้! ซึ่งในทัวร์นี้คุณจะได้ลงไปชมโถงแมกมาที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสีสันและการก่อตัวที่น่าสนใจ
หลังจากท่องเที่ยวมาทั้งวัน คืนนี้คุณจะได้พักผ่อนในที่พักในเรคยาวิก
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 3 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- มากกว่า
- อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
- พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์
- น้ำตกกุลล์ฟอสส์
- ปากปล่องภูเขาไฟเคริด
- มากกว่า
หลังจากตื่นขึ้นมาตอนเช้าในเรคยาวิก คุณจะเริ่มวันด้วยการเดินทางออกจากเมืองเพื่อไปเที่ยวบนเส้นทางท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่าวงกลมทองคำ นอกจากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ซึ่งเป็นสามสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อบนเส้นทางนี้แล้ว คุณยังสามารถไปเที่ยวสถานที่ลับๆ ได้อีกหลายแห่งบนเส้นทางวงกลมทองคำ
ระหว่างที่ทำการจองแพ็คเกจขับรถนี้ คุณสามารถเพิ่มทัวร์เสริมที่ทั้งสนุกและตื่นเต้นเข้าไปเพิ่มสีสันให้กับทริปวันนี้ได้ โดยคุณอาจจะเริ่มต้นการเดินทางในวันนี้ด้วยการไปฟาร์มม้านอกเมืองเรคยาวิกก่อนก็ได้หากคุณต้องการ แล้วคุณจะได้พบกับม้าไอซ์แลนด์ที่เชื่องและเป็นมิตรและพวกมันจะพาคุณเดินเที่ยวชมรอบๆ พื้นที่ชนบท ม้าไอซ์แลนด์นั้นได้ชื่อว่ามีความอ่อนโยนมาก ดังนั้นกิจกรรมนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
วันนี้คุณจะไปอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ในอดีตมีการจัดตั้งรัฐสภาของไอซ์แลนด์ขึ้นเป็นครั้งแรกที่นี่ และอุทยานฯ นี้ยังตั้งอยู่ในหุบเขาที่อยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นที่แยกตัวออกจากกันด้วย ซึ่งการที่เปลือกโลกขยับตัวนั้นทำให้เกิดเป็นหุบเขาและรอยแยกที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนในพื้นที่
รอยแยกบางแห่งก็มีน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็งในบริเวณใกล้เคียงไหลซึมผ่านทางใต้ดินเข้าไปเติมเต็ม ทำให้ทุกวันนี้คุณสามารถลงไปดำน้ำชมวิวด้วยการสวมหน้ากากสน็อกเกิลได้ เช่นที่รอยแยกซิลฟรา ที่คุณจะได้รับชุดดรายสูทป้องกันความหนาวเย็นและลงไปแหวกว่ายในน้ำที่ใสราวกับคริสตัล เพื่อชมโลกใต้น้ำที่มีสีฟ้าสดสวย ผู้เข้าร่วมดำน้ำตื้นจะต้องไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำและสามารถว่ายน้ำได้
ต่อจากนั้นคุณจะเปลี่ยนบรรยากาศไปชมสระโคลนเดือด น้ำพุร้อน และไกเซอร์ที่กำลังปะทุอยู่ในพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์กัน ซึ่งคุณจะได้เห็นน้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) พ่นน้ำในทุกๆ 5-10 นาที ดังนั้นคุณจึงมีเวลาอย่างเหลือเฟือในการถ่ายภาพคู่กับน้ำร้อนที่ฉีดขึ้นฟ้าเป็นสายสูงถึง 20 เมตร
ถัดมาคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือ "น้ำตกทองคำ" ที่มีจุดชมน้ำตกหลายแห่งให้คุณได้ขึ้นไปมองแม่น้ำฮวิทเอา (Hvita) ไหลตกจากความสูง 32 เมตร ลงสู่หุบเขาโบราณส่งเสียงคำรามไปทั่วบริเวณและยังคงก้องกังวานอื้ออึงติดอยู่ในหูของคุณ
ในระหว่างที่ทำการจองแพ็คเกจนี้ คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ที่ออกเดินทางจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์เพื่อพาคุณไปเที่ยวธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ซึ่งเป็นผืนน้ำแข็งที่เป็นต้นน้ำของแม่น้ำฮวิทเอาเข้าไปในทริปวันนี้ได้ ซึ่งบนธารน้ำแข็งคุณจะขี่สโนว์โมบิลโลดโผนโจนทะยานไปบนผืนน้ำแข็งสีขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา คุณจะสนุกสุดเหวี่ยงและสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่อะดรีนาลีนสูบฉีดไปทั่วร่างกายและรู้สึกสดชื่นอย่างเต็มที่เมื่อหายใจเอาอากาศอันบริสุทธิ์ที่เย็นเฉียบของธารน้ำแข็งเข้าไปจนเต็มปอด
ก่อนที่คุณจะกลับเข้าเมืองเรคยาวิกในวันนี้มีสถานที่เที่ยวลับๆ อยู่สองสามแห่งที่คุณสามารถไปชมได้ หนึ่งในนั้นคือซีเครตลากูน (Secret Lagoon) ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านฟลูดิร์ (Fludir) สระน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพที่สวยงามแห่งนี้แวดล้อมไปด้วยบ่อน้ำร้อน ฟูมาโรล และไกเซอร์เล็กๆ ทำให้คุณได้แช่น้ำท่ามกลางบรรยากาศลึกลับน่าพิศวง
ฟาร์มฟริดไฮมาร์ (Fridheimar) เป็นสถานที่อีกหนึ่งแห่งที่คุณสามารถแวะไปเรียนรู้วิธีที่ชาวไอซ์แลนด์นำพลังงานความร้อนใต้พิภพมาใช้ในการเพาะปลูกมะเขือเทศและพืชผักต่างๆ ตลอดทั้งปี หรือคุณจะไปดูสีสันที่สดสวยหลากเฉดสีที่ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid) ด้วยก็ได้ เพราะผนังปล่องที่เป็นหินภูเขาไฟสูงชันสีแดงเข้มที่ถูกปกคลุมด้วยมอสส์สีเขียวสดนั้นโอบล้อมผืนน้ำสีฟ้าครามเอาไว้ตรงกลางเป็นภาพที่งดงามแปลกตา
หลังจากหมดวันอันแสนวิเศษอีกวัน คุณจะเข้าพักผ่อนในที่พักในเรคยาวิกและนอนหลับอย่างสบายตลอดทั้งคืน
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 4 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- มากกว่า
- น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์
- น้ำตกสโกกาฟอสส์
- ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล
- ดิร์โฮลาเอย์
- หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา
- โขดทะเลเรนิสดรังการ์
- มากกว่า
เนื่องจากแพ็คเกจนี้คุณขับรถเอง คุณจึงกำหนดเวลาในการออกเดินทางได้เอง แต่ชายฝั่งทางใต้นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและกิจกรรมมากมาย ดังนั้นบางทีคุณควรจะออกเดินทางเช้าหน่อย โดยระหว่างทางในวันนี้คุณจะขับรถผ่านธารนำ้แข็งที่ปกคลุมภูเขาไฟเพื่อไปชมน้ำตกและหาดทรายดำ
คุณจะมุ่งหน้าไปทางตะวันออกและผ่านเมืองฮแวราแกร์ดิ (Hveragerdi) ซึ่งเป็นเมืองที่มีพลังงานความร้อนใต้พิภพ และผ่านหมู่บ้านฮวอลส์โวลลูร์ (Hvolsvollur) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ด้วย สถานที่แรกของวันนี้คือน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งคุณควรเตรียมเสื้อผ้ากันน้ำติดไปด้วย เพราะมีทางเดินที่คุณสามารถเข้าไปชมหลังม่านน้ำตกได้
จากเซลยาแลนส์ฟอสส์เดินต่อไปอีกหน่อยก็จะถึงน้ำตกกลูยฟราบูอิ (Gljufrabui) ซึ่งเป็นน้ำตกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในหลืบผาขนาดใหญ่
จุดหมายต่อไปนั้นขับรถไปอีกไม่ไกลก็ถึง น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่แสดงถึงพลังที่แข็งแกร่งและความงดงามของธรรมชาติ น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajokull) และธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Myrdalsjokull)
คุณสามารถไปแวะที่โซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull) ซึ่งเป็นผืนน้ำแข็งทางออกของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งหรือทัวร์ปีนน้ำแข็งที่นี่ได้ หรือคุณจะมุ่งหน้าเลยไปทางตะวันออกอีกหน่อยเพื่อไปที่หมู่บ้านวิก (Vik) และไปขึ้นรถซูเปอร์จี๊ปที่จะขับพาคุณไต่ขึ้นไปบนธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลเพื่อไปชมถ้ำน้ำแข็งเพียงแห่งเดียวที่สามารถเข้าถึงได้ตลอดทั้งปี
หมู่บ้านวิกยังเหมาะสำหรับแวะรับประทานมื้อกลางวัน หรือหาขนมรองท้องก่อนที่จะกลับเข้าเมืองเรคยาวิกด้วย เนื่องจากอยู่บนฝั่งริมหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) หมู่บ้านวิกจึงมีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถมองเห็นเกลียวคลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกซัดสาดกระทบหาดทรายและโขดหินเรนิสแดรงเกอร์ขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านอยู่ในทะเล ซึ่งดูคล้ายกับเป็นโทรลล์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน
หากคุณรู้สึกว่าอยากเที่ยวชมสถานที่ให้มากกว่านี้ คุณสามารถข้ามทัวร์ที่มีในวันนี้ไปได้ และยังไม่ต้องรีบเดินทางกลับเข้าเมือง แต่ให้มุ่งหน้าไปทางตะวันออกอีกหน่อยเพื่อไปชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) ที่สวยงามตระการตา คุณสามารถเพิ่มทัวร์ล่องเรือที่ทะเลสาบได้ในระหว่างการจอง ซึ่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการดื่มด่ำกับทิวทัศน์เหนือจริงนี้
ทะเลสาบแห่งนี้มีภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แตกตัวออกมาจากธารน้ำแข็งใกล้ๆ กันและพวกมันลอยอย่างสงบเสงี่ยมในทะเลสาบเพื่อพาตัวเองออกสู่ทะเล คุณสามารถเห็นพวกมันเกยตื้นบนชายฝั่งและส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางแสงแดดที่หาดไดมอนด์ในบริเวณใกล้เคียง
สำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวบนเส้นทางอื่นในวันนี้ เพื่อไปสถานที่ลับที่ซ่อนอยู่ คุณสามารถขับรถไปที่หาดทรายสีดำโซลเฮมาซานดูร์ (Solheimasandur) ที่มีซากเครื่องบินดีซีให้ชม จากนั้นอาจจะไปที่สระน้ำเซลลาย์วัลลาเลยก์ (Seljavallalaug) ที่ซ่อนตัวอยู่ในช่องเขา
ไม่ว่าในวันนี้คุณจะเลือกเที่ยวแบบใดก็ตาม คุณจะกลับไปยังที่พักของคุณในเมืองเรคยาวิกด้วยความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับวันที่แสนพิเศษบนชายฝั่งทางใต้
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 5 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก
- มากกว่า
- หาดอีทรี ทุงกา
- หมู่บ้านบูดิร์
- ธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์สโจกุล
- หน้าผาหินบะซอลต์ลอนดรังการ์
- หาดกรวดดำที่ดยูปาลอนส์ซานดูร์
- ภูเขาคิร์กจูเฟลล์
- มากกว่า
วันนี้คุณจะสำรวจดินแดนขนาด 90 กิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยทุ่งลาวา หาดทราย หมู่บ้านชาวประมงที่มีเสน่ห์ ชายฝั่งที่สวยงาม และภูเขาไฟธารน้ำแข็งที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเรื่องราวมากมาย ผืนดินเล็กๆ นี้บางครั้งถูกเรียกว่า "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เนื่องจากมีสถานที่น่าสนใจหลากหลายรูปแบบ แต่หลักๆ แล้วคนจะรู้จักในชื่อคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
เริ่มต้นวันนี้ด้วยการขับรถผ่านภูเขาเอสยา (Esja) ที่ยิ่งใหญ่ของเรคยาวิกและเข้าสู่ท้องทุ่งสีเขียวทางตะวันตกของประเทศไอซ์แลนด์จนไปถึงสถานที่แห่งแรกสำหรับวันนี้ นั่นก็คือหน้าผาแกร์ดูแบร์ (Gerduberg) ที่ประกอบด้วยเสาหินบะซอลต์ทรงหกเหลี่ยมที่เรียงรายเป็นแนวยาวคล้ายกับเป็นกำแพงปราสาทที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่อันที่จริงแล้วเป็นผลงานที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นตามลักษณะของสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟของไอซ์แลนด์
ชายหาดส่วนใหญ่ในไอซ์แลนด์มักจะมีทรายสีดำสนิท แต่สถานที่ที่คุณกำลังจะไปนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่หาดในประเทศที่มีทรายสีทอง อิทรี ทุงกา (Ytri-Tunga) เป็นสถานที่สวยงามที่เต็มไปด้วยเนินทรายสีขาวและเกาะแก่งเล็กๆ ที่อยู่นอกชายฝั่ง แต่ยังเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดูแมวน้ำด้วย โดยพวกมันมักจะมาว่ายน้ำในมหาสมุทรหรือนอนเล่นอยู่บนชายฝั่ง
คุณห้ามพลาดเก็บภาพบรรยากาศและสถานที่น่าตื่นตาในหมู่บ้านต่างๆ บนคาบสมุทรแห่งนี้ด้วย เช่นที่โบสถ์ดำในบูดิร์ (Budir) ซุ้มหินในอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) กลุ่มหินสวยๆ ริมทะเลที่เฮลล์นาร์ (Hellnar) และบ้านเรือนที่สวยงามในสติกกิโฮลมูร์ (Stykkisholmur)
อย่าลืมแวะเที่ยวตามริมชายฝั่งเพื่อชมกองหินลอนดรังการ์ (Londrangar) ซึ่งเป็นปลักภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปในมหาสมุทร และไปเดินเล่นบนหาดกรวดดำที่ตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djupalonssandur) ที่ยังคงมีซากเรือที่อับปางลงที่นี่เมื่อปี 1948 กระจัดกระจายอยู่ทั่วหาด
ระหว่างที่คุณเดินทางอยู่นี้ คุณจะสังเกตเห็นว่าภูเขาไฟธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์โจกุล (Snaefellsjokull) นั้นคอยจับตามองคุณอยู่ทุกฝีก้าว ซึ่งธารน้ำแข็งแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากทางเข้าสู่โลกใต้พิภพในนิยายผจญภัยของจูลส์ เวิร์น เรื่อง "Journey to the Center of the Earth" ที่แต่งขึ้นในปี 1864 ด้วย
ส่วนในยุคปัจจุบันนี้คุณสามารถลงไปผจญภัยในถ้ำลาวาวาทน์เฮลลิร์ (Vatnshellir) ซึ่งคุณจะได้เดินตามรอยของเส้นทางที่เคยเป็นทางไหลของลาวาเมื่อหลายพันปีก่อน
ก่อนกลับเข้าเมืองเรคยาวิก อย่าลืมไปแวะถ่ายรูปภูเขาเคิร์กจูแฟลล์ (Kirkjufell) ที่มีรูปทรงคล้ายพีระมิดและน้ำตกที่อยู่ข้างเคียงกันด้วย ซึ่งแฟนซีรีส์เกมออฟโธรนส์ทางช่อง HBO อาจจะรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่ทั้งสองแห่งนี้เป็นอย่างดี
หลังจากสนุกสนานมาทั้งวัน คุณจะได้เดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิกและพักผ่อนในที่พักของคุณ
ที่พัก
ประสบการณ์
วันที่ 6 - เรคยาวิก
- เรคยาวิก - วันออกเดินทาง
- มากกว่า
- เคลฟาร์วาทน์
- ครีซูวิก
- กุนนูฮแวร์
- มากกว่า
สำหรับวันสุดท้ายในประเทศไอซ์แลนด์คุณจะเดินทางบนทุ่งลาวาที่ปกคลุมด้วยมอสส์บนคาบสมุทรเรคยาเนสอีกครั้ง และต้องเผื่อเวลาในการเดินทางไปสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกเพื่อส่งคืนรถเช่าและขึ้นเครื่องด้วย
หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงสาย คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือในวันนี้ออกไปเที่ยวในเมืองได้อีกหน่อย ซึ่งถ้าคุณขับรถออกจากตัวเมืองเรคยาวิกไปอีกไม่ไกลก็จะมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนที่เรียกว่าเลยการ์ดาลูร์ (Laugardalur) ในวันที่อากาศดีนั้นที่นี่เหมาะสำหรับการมาเดินเล่นหรือปิกนิกมากๆ
คุณอาจจะไปที่เลยการ์ดาลสเลยก์ (Laugardalslaug) สระว่ายน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเรคยาวิก ซึ่งมีทั้งลู่สำหรับว่ายน้ำ อ่างน้ำร้อนพลังงานความร้อนใต้พิภพ ห้องอบไอน้ำ และสไลเดอร์ หรือไปเที่ยวที่สวนสัตว์สำหรับครอบครัวเพื่อไปดูชีวิตสัตว์ในไอซ์แลนด์และไปทำความรู้จักกับม้าไอซ์แลนด์และแกะน้อยกันก่อนที่จะขึ้นรถและเดินทางไปสนามบินก็ได้
หรือคุณสามารถไปชมสถานที่ท่องเที่ยวใจกลางเมืองบางแห่งที่คุณพลาดไปก่อนหน้านี้ สวนสาธารณะฮยอมสกาลา (Hljomskala) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของสระทยอร์นินในใจกลางเมือง พื้นที่สีเขียวที่สวยงามแห่งนี้ประดับประดาด้วยรูปปั้นของศิลปินและนักดนตรีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของไอซ์แลนด์ และเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนในท้องถิ่นและผู้มาเยือนในการปิกนิก เดินเล่น และพักผ่อน
ทยอร์นิน (Tjornin) เป็นทะเลสาบเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ใจกลางเรคยาวิก สวนที่ล้อมรอบดึงดูดชาวเมืองและผู้มาเยือนที่ชื่นชอบการให้อาหารเป็ด หงส์ และห่านจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ บรรยากาศอันเงียบสงบและความใกล้ชิดกับสถาบันสำคัญๆ ของเมือง เช่น ศาลาว่าการเรคยาวิก ทำให้ที่นี่เป็นจุดสนใจหลักในภูมิทัศน์ของเมือง
คุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งใดแห่งหนึ่งของเมืองเรคยาวิกได้หากคุณมีเวลา บางทีคุณอาจเคยเห็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเมืองมาก่อนในการเดินทางของคุณ? ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณอาจต้องการไปเยี่ยมชมสิ่งที่แปลกใหม่ในวันนี้ เช่น พิพิธภัณฑ์ลึงค์แห่งไอซ์แลนด์ หรือ พิพิธภัณฑ์พังก์แห่งไอซ์แลนด์
เมื่อถึงเวลาออกเดินทางจากเรคยาวิก คุณจะต้องคืนรถที่สนามบินก่อนเช็คอินเที่ยวบินของคุณ ขอให้เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ และเราหวังว่าคุณจะกลับมาเร็วๆ นี้
ประสบการณ์
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองนี้สามารถเริ่มออกเดินทางได้ทั้งจากในตัวเมืองเรคยาวิกและจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ทั้งนี้คนขับจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนถนนอย่างน้อย 1 ปี แพ็คเกจไม่รวมความคุ้มครองรถยนต์จากกรวดหากคุณเลือกใช้รถ Toyota Aygo หรือที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตามรายละเอียดการเดินทางที่คุณได้รับอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย และอาหารเช้านั้นอาจไม่รวมอยู่ในโฮสเทลและเกสต์เฮาส์บางแห่งที่เลือก
โปรดทราบว่าสำหรับกิจกรรมบางอย่างที่คุณเลือก คุณอาจจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ หรือคุณอาจจะต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนการเดินทางของคุณ และคุณอาจจะต้องแสดงเอกสารรับรองทางการแพทย์ในการดำน้ำตื้น ทั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นจะต้องสามารถว่ายน้ำได้และไม่กลัวที่จะลงไปในน้ำ
แม้ว่าคุณจะมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน แต่อากาศในไอซ์แลนด์นั้นก็ยากที่จะคาดเดาได้ถูก ดังนั้นกรุณาเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมติดตัวมาด้วย
สำหรับการไปเที่ยวภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Thrihnjukagigur) ห้ามสวมใส่ผ้าคอตตอนหรือผ้ายีนส์ชั้นนอก กรุณาสวมเสื้อผ้าที่กันน้ำได้และสวมรองเท้าสำหรับปีนเขาที่มีความคงทนแข็งแรง อุณหภูมิภายในปล่องภูเขาไฟมักจะอยู่ที่ 5–6°C (42–43°F) และคุณจะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (2 ไมล์) ต่อเที่ยว ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 45–50 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนในคณะทัวร์) ระหว่างที่เดินนี้จะมีไกด์ดูแลตลอดเวลา
วิดีโอ
แพ็คเกจท่องเที่ยวที่คล้ายกัน
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด